สินีที่อกหักจากเจ้านายที่พ่วงตำแหน่งคู่ขา กับ พชรที่อกหักจากรุ่นน้องที่ดันไปรักกับเจ้านายของสินี เมื่อคนอกหักสองคนมาเจอกัน ดังนั้นความสัมพันธ์ของเราสองคนจึงเริ่มต้นจากเซ็กซ์และความผิดหวัง
เสียงดนตรีดังกระหึ่มกับความพลุกพล่านของบรรดานักท่องราตรีที่บ้างกำลังนั่งดื่มสังสรรค์กับบรรดาพวกพ้อง บ้างกำลังออกสเต็ปลีลาวาดลวดลายกันอย่างสนุกสนานอยู่กลางฟลอร์ในสถานบันเทิงชื่อดัง ไม่ได้นำพาให้หญิงสาวคนหนึ่งที่นั่งอยู่ตรงบาร์เครื่องดื่มด้านในได้ใส่ใจเลย
สินีเป็นหญิงสาวที่มีรูปร่างหน้าตาดีเข้าขั้นว่าโดดเด่น อีกทั้งเสน่ห์สาวของหล่อนยังเปี่ยมล้นจนใครต่อใครต่างต้องเหลียวมอง ซึ่งบางคนถึงกับส่งสายตาให้หล่อนเพื่อหวังที่จะสานสัมพันธ์กันต่อไป แต่ใบหน้าของหล่อนในยามนี้ติดจะเรียบเฉยมากและไม่ชายสายตาแลใครทั้งสิ้น ในมือของหล่อนถือแก้วใสที่บรรจุแอลกอฮอล์ฤทธิ์ร้อนแรงอยู่ หล่อนยกมันขึ้นจิบเป็นระยะ พอหมดก็เติมเป็นอย่างนี้ไปเรื่อย ๆ การที่หล่อนทำเพียงแค่จดจ่ออยู่กับแก้วของเหลวในมือเท่านั้น ทำให้หล่อนดูค่อนข้างที่จะถือตัวและหยิ่งยโส แต่ใครจะรู้เลยว่าภายในนั้นหล่อนซ่อนความชอกช้ำไว้มากเพียงไร
เขาพอลเจ้านายของหล่อน ทำเอาหัวใจหล่อนพังยับเยินไม่มี ชิ้นดี แต่จะไปโทษเขาฝ่ายเดียวก็ไม่ถูก เพราะเป็นหล่อนเองที่ยอมรับความสัมพันธ์แบบนั้นตั้งแต่ต้นทั้ง ๆ ที่รู้อยู่เต็มอกว่ามันเป็นเพียงความสัมพันธ์ทางกายเท่านั้น
แม้ว่าเขาจะไม่ใช่รักแรกและผู้ชายคนแรกของหล่อน แต่เขาเป็นคนที่หล่อนพูดได้เต็มปากว่ารัก
สินีรู้จักกับพอลตั้งแต่ตอนที่หล่อนเรียนจบใหม่ๆ ครานั้นหล่อนเปลี่ยนที่ทำงานมาสองสามที่ สุดท้ายมาลงตัวที่บริษัทของพอล เขาวางตัวเป็นเจ้านายที่ดีมาตลอด ทั้งเขายังใจเย็นช่วยสอนงานให้กับเด็กไม่ประสาอย่างหล่อน จนกระทั่งทุกวันนี้หล่อนสามารถเรียกได้ว่าเป็นเลขามือทองที่มีความสามารถรอบด้านก็เพราะได้เรียนรู้จากเขาทั้งสิ้น ความอ่อนโยนของเขาทำให้หล่อนตกหลุมรักเจ้านายตัวเองโดยไม่รู้ตัวแม้ว่าอายุของเขากับหล่อนจะห่างกันถึงสิบกว่าปี
พอลเจ้านายของหล่อนเป็นชาวฝรั่งเศสแท้ที่อายุล่วงเข้าวัย เลขสี่แล้วแต่ยังดูดีทุกกระเบียด ที่สำคัญเสน่ห์แบบหนุ่มใหญ่ของเขายิ่งขับให้เขาดูดีและน่าดึงดูดยิ่งขึ้นไปอีก จึงไม่แปลกอะไรที่สาวน้อยสาวใหญ่จะหลงเสน่ห์เขาได้โดยง่ายแม้ว่าเขาจะเป็นพ่อหม้ายที่มีลูกโตถึงขั้นเรียนในระดับมหาวิทยาลัยแล้วก็ตาม และเขาเองก็ไม่เคยทำให้ใครต่อใครผิดหวัง เขามักมีน้ำใจกับบรรดาสาว ๆ ที่เข้ามาติดพันเขาเสมอ แต่เขาเองก็มีกฎก่อนที่จะเริ่มผูกสัมพันธ์กับพวกหล่อนอยู่เหมือนกันคือ การคบหากับเขาจะเป็นเพียงความสัมพันธ์ทางกายที่ต่างฝ่ายต่างพอใจกันทั้งสองฝ่ายเท่านั้น และแม้ว่าเขาจะตั้งกฎเช่นนี้ขึ้นมา บรรดาผู้หญิงต่างก็ยอมเพียงเพื่อที่จะได้มีสัมพันธ์รักกับเขาสักครั้ง สินีที่เป็นเลขาของเขามานานนั้นเข้าใจดี เพราะต้องคอยจัดระเบียบผู้หญิงของเจ้านายบ่อยๆ
มีหลายครั้งหล่อนนึกถอดใจ แต่การที่ต้องทำงานร่วมกัน พบปะพูดคุยเห็นหน้ากันทุกวัน ความรู้สึกของหล่อนจึงมีแต่เพิ่มพูนมากขึ้น จนกระทั่งวันหนึ่งหล่อนตัดสินใจที่จะทำอะไรบางอย่าง ด้วยหล่อนคิดว่าตนเองไม่มีอะไรที่จะต้องมาเสียอีกแล้ว เพราะหล่อนเสียมันไปตั้งแต่รักครั้งแรกในวัยเรียนไปแล้ว ดังนั้นสถานะของหล่อนกับเขาจึงเพิ่มขึ้นมาอีกสถานะหนึ่งซึ่งเขาเรียกมันว่าคู่ขา
หล่อนอาศัยความใกล้ชิดและใช้เสน่ห์สาวที่หล่อนมั่นใจเต็มเปี่ยมเพื่อยั่วยวนเขา ซึ่งตัวพอลเองก็เข้าใจความหมายที่หล่อนต้องการสื่อได้เป็นอย่างดี ในเมื่อฝ่ายหญิงเสนอเขาจะไม่สนองได้อย่างไร แต่กระนั้นเขาก็ย้ำกับหล่อนเพื่อความมั่นใจถึงข้อตกลงต่าง ๆ ซึ่งหล่อนเองก็ยอมรับมันทุกประการ และสุดท้ายแม้ว่าเขาจะเปลี่ยนคู่ควงหรือคู่นอนบ่อยแค่ไหน แต่หล่อนก็เป็นคนที่รู้ใจและถูกใจเขาที่สุดเสมอ
สินีและพอลดำรงสถาะเจ้านายกับเลขาพ่วงด้วยคู่ขามาเกือบๆ สองปี นับได้ว่านานกว่าผู้หญิงคนอื่น ๆ ที่พอลควงอย่างมากสุดก็แค่สามเดือน สิ่งนี้ทำให้หล่อนวางใจและพอใจกับความสัมพันธ์เช่นนี้ของเขา หล่อนพยายามทำตัวเองให้เป็นผู้หญิงในลักษณะที่เขาชอบโดยเฉพาะเรื่องเซ็กส์ เพราะมันเป็นสิ่งเดียวที่หล่อนจะใช้ผูกกับเขาได้ แม้ว่าหล่อนไม่ใช่สาวบริสุทธิ์แต่ก็ไม่เจนจัดนัก แต่เพื่อเขาจึงต้องหัดที่จะใช้เสน่ห์แห่งเรือนกายให้เป็นประโยชน์ หล่อนเรียนรู้เทคนิคและวิธีการ รวมถึงการดูแลตัวเองอย่างดีที่จะรองรับอารมณ์ร้อนแรงกับเขา จนทำให้หล่อนกลายเป็นสาวร้อนแรงไปโดยปริยาย แม้กระนั้นแล้วสุดท้ายที่หล่อนทุ่มเทไปทั้งหมดกลับสูญเปล่าเพียงเพราะเขาดันไปไปหลงเด็กสาวรุ่นลูกและจริงจังถึงขั้นตัดสัมพันธ์กับผู้หญิงทุกคนรวมถึงตัวหล่อนเอง ด้วยเหตุนี้เองหล่อนจึงต้องมานั่งดื่มปลอบใจตัวเองอยู่อย่างนี้
“ขอวิสกี้หนึ่งแก้ว”
ขณะที่นั่งลำลึกถึงความหลังอยู่นั้น เก้าอี้ด้านของสินีก็ถูกเลื่อนออกพร้อมกับร่างสูงของใครบางคนที่นั่งลงมาแล้วสั่งเครื่องดื่มที่ตนต้องการ
สินีไม่ได้ใส่ใจนักเพียงแค่เหลือบตามองเล็กน้อย แต่พอเห็นใบหน้าด้านข้างที่ดูคุ้นๆ คิ้วของหล่อนก็ขมวดเป็นปมขึ้นมาทันที แม้หล่อนจะดื่มไปมากแต่ก็ยังไม่ได้เมาจนถึงขนาดจำไม่ได้ว่าเด็กหนุ่มที่เพิ่งจะนั่งลงด้านข้างนั้นเป็นคนเดียวกับที่หล่อนเคยเห็นว่าเต้นรำกับยัยเด็กสาวที่เจ้านายของหล่อนกำลังหลงรักหัวปักหัวปำ ดังนั้นเองสินีจึงจับตา มองคนด้านข้างอย่างเงียบๆ
หลังจากที่ถูกปฏิเสธจากรุ่นน้องที่เขาหมายปอง ตอนแรกพชรคิดว่าเขาจะทำใจได้ แต่มันไม่เป็นเช่นนั้นเลย ความรู้สึกแรกในตอนที่ถูกปฏิเสธด้วยการที่เธอบอกว่าคิดกับเขาแค่พี่ชาย เขาเพียงรู้สึกถึงความชาหนึบในหัวใจ และคิดว่าการอกหักครั้งนี้มันไม่สาหัสเท่าไหร่ แต่เมื่ออาการชานั้นจางหายไปความเจ็บปวดกลับเข้ามาแทนที่ เขาไม่สามารถทำใจให้ลืมขวัญข้าวรุ่นน้องที่เขาอุตส่าห์ค่อย ๆ สานสัมพันธ์สร้างความสนิทสนมได้ คราแรกเขายังคิดว่าเขาพอมีความหวัง จากสถานะพี่ชายอาจจะเลื่อนขึ้นเป็นสถานะอื่นได้ แต่ในวันนี้ที่เขาพบเจอกับหล่อนโดยบังเอิญ ความจริงที่ประจักษ์เหมือนหมัดน็อกเข้าเต็ม ๆ รุ่นน้องที่หมายตาปฏิเสธเขาแต่หันไปเลือกผู้ชายที่แก่คราวพ่อ และที่สำคัญชายคนนั้นยังเป็นบิดาของเพื่อนสนิทของหล่อน ความรู้สึกผิดหวังและพ่ายแพ้ทำให้เขาตัดสินใจใช้แอลกอฮอล์เพื่อบำบัดอาการอกหักเจียนตายของเขาในขณะนี้ อย่างน้อยฤทธิ์ของมันก็ช่วยให้เขาลืมได้ในขณะหนึ่ง
เขาผู้ไม่เชื่อในรัก แต่ความสัมพันธ์ครั้งเดียวกลับเปลี่ยนเขาไปตลอดกาล ธาริกา สาวน้อยแสนสวยที่ดันไปเข้าตา จักรินทร์ คุณหมอที่ขึ้นชื่อเรื่องความเป็นคาสซาโนว่า เธอเป็นคุณหนูที่ถูกพ่อแม่เลี้ยงดูมาราวกับไข่ในหิน ซึ่งความรักของพ่อแม่ที่คอยปกป้องดูแลอย่างไม่ให้คลาดสายตาทำให้เกิดความรู้สึกอึดอัด เธอไม่สามารถไปไหนมาไหนได้อย่างอิสระโดยไม่แจ้งให้พ่อแม่ได้รับรู้ ด้วยเหตุนี้ประสบการณ์รักเหมือนเพื่อนรุ่นราวคราวเดียวกันจึงเป็นศูนย์ แน่นอนว่าเรื่องนั้น...เธอยังคงความบริสุทธิ์ผุดผ่อง เขาเป็นคุณหมอหนุ่มที่ไม่เชื่อเรื่องความรัก เมื่อเขาเจอเธอ เขาถูกความงามของเธอดึงดูดจนไม่อาจปล่อยวางได้ เขาต้องได้เธอ เขาใช้ประสบการณ์อันโชกโชนล่อลวงสาวน้อยที่หมายปองได้สำเร็จ โดยการทำข้อแลกเปลี่ยนซึ่งกันและกัน เขาจะสอนประสบการณ์บนเตียงให้เธอ แต่ทั้งหมดนี้ ไม่มีเรื่องหัวใจมาเกี่ยวข้อง ทว่าเหตุการณ์กลับไม่เป็นเช่นนั้นเมื่อความหวั่นไหวเกิดขึ้นในใจ ด้วยอายุที่หางกันมาก อีกทั้งสถานะทางสังคม กลับเป็นอุปสรรคขัดขวางเส้นทางรักของทั้งคู่ สุดท้ายแล้วเรื่องราวจะลงเอยอย่างไร โปรดไปติดตามกันค่ะ
เขาต้องกดเก็บความต้องการของตัวเองไว้ภายใต้หน้ากากเย็นชา เพียงเพื่อถูกเธอกระชากออกด้วยความเร่าร้อนเกินต้าน ยั่วรักนายบอดี้การ์ดจอมโหด เรื่องราวของลูกสาวมาเฟียกับบอดี้การ์ดมาดเข้มที่แสนจะเร้าใจ นอกจากปกป้องชีวิตแล้ว เซียวเฟิง ยังได้รับคำสั่งกระชับเป็นพิเศษให้ปกป้องพรหมจรรย์ของหญิงสาว แต่ทว่า เมริสา กลับไม่ยอมให้ความร่วมมือเอาเสียเลย ยิ่งทั้งคู่ต้องใช้ชีวิตอยู่ด้วยกันตามลำพัง ระหว่างหน้าที่และความต้องการของตัวเอง เขาจะเลือกอะไร เพราะเธอแน่ใจอยู่แล้วว่าต้องการเขาแน่นอน
เธอสวยเลือกได้จนสามารถปรายเสือร้ายให้เป็นแมวเชื่อง ๆ ได้ “จีบฉันไม่ง่ายหรอกนะคะ ฉันไม่สนใจจะเป็นของเล่นบนเตียงให้ใคร” “แหมใครจะใจร้ายให้คุณอยู่ในฐานะของเล่นกันล่ะครับ อย่างคุณต้องพิเศษกว่านั้นอยู่แล้ว” “พิเศษแบบไหนล่ะคะ คู่ขา คู่นอนหรือว่าเด็กคุณ” “นั่นสิครับ แบบไหนดี” “คู่นอนดีไหมคะ จบแล้วก็จบกัน ไม่ต้องยืดเยื้อ” “คุณชอบทำให้ผมประหลาดใจอยู่เรื่อยกับความตรงจนน่าใจหาย” “นักธุรกิจนี่คะ อ้อมค้อมไปก็เสียเวลาเปล่า ๆ สู้ยิงประตูเลยดีกว่า” “ถ้าอย่างนั้นคืนนี้เลยไหมล่ะครับ” ++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++ ไม่น่าเชื่อว่าเธอจะเป็นคนเดียวกับผู้หญิงน่ารังเกียจคนนั้น เธอเปลี่ยนไปจนเขาแทบจำไม่ได้ ที่สำคัญเด็กชายตัวเล็ก ๆ ที่อยู่ข้างเธอนั้นลูกเขาแน่นอน เพราะฉะนั้นภาระกิจตามจีบแม่ของลูกจึงเริ่มขึ้น ‘กักหัวใจไว้ใกล้รัก’ เป็นเรื่องต่อจาก ‘กองหัวใจไว้ตรงรัก’ เขาเลขาฯ สายโหด เนื่องจากต้องช่วยเจ้านาย เขาจึงได้ทำลายผู้หญิงเลว ๆ คนหนึ่ง แต่ที่ไหนได้ เขากลับมาพบภายหลังว่าเธอยังบริสุทธิ์ ผิดกับทาทางร่านร้ายที่เธอแสดงออกภายนอก และความบริสุทธิ์ของเธอถูกทำลายด้วยน้ำมือเขาเอง เธอกลายมาเป็นคุณแม่เลี้ยงเดี่ยว เธอถูกตัดขาดจากครอบครัว ทว่าวันหนึ่งกลับต้องมาเจอคนที่คิดว่าไม่ว่าชาตินี้ชาติไหนก็ไม่อยากเจอหน้าเขาอีกแล้ว คนที่เป็นพ่อของลูกเธอ เมื่อค้นพบความจริงบางอย่าง การตกหลุมรักจึงไม่ใช่เรื่องยากเลย เขาจึงเริ่มปฏิบัติการตามจีบแม่ของลูก เธอคิดว่าเขาจะพรากลูกไปจากเธอ แต่ผิดแล้ว เขาต้องการทั้งแม่และลูก และจะกักหัวใจท้องสองไว้กับเขาตลอดไป
เพื่อพิชิตใจแม่ทัพหนุ่มที่หมายปอง นางผู้เป็นองค์หญิงถึงกับปลอมตัวเข้าไปเป็นทหารเพื่อที่จะได้ใกล้ชิดเขา แต่เหตุการณ์มันไม่ง่ายขนาดนั้นเพราะเขาเข้าใจว่านางเป็นบุรุษ แล้วนางจะเกี้ยวเขาสำเร็จได้อย่างไร
ดวงใจของมาโปรด เขาคือคุณอาข้างบ้านและคนที่ยื่นมือมาช่วยเธอยามอ่อนแรง เธอ...เด็กสาวจอมซนที่หนีหายไปเสียนาน เมื่อได้กลับมาเจอกันอีกครั้ง เขาจะต้องกักเก็บเธอไว้ข้างกายตลอดไป +++++++++++++++++++++++++++++++++++++ ดวงใจอนันต์ เหมือนกามเทพเล่นตลกให้เธอต้องมาพัวพันกับคนที่แอบชอบ ทั้งที่รู้ว่าฐานะต่างกันเหลือเกิน แต่เรื่องของหัวใจมันบังคับได้ที่ไหนล่ะ!
ความงกของนางทำเอาบุรุษทุกคนต้องถอยหนี แม้กระนั้นความงามทำให้คนมาติดพันนางมากมาย แต่นางเล่นเอาพวกเขาเหล่านั้นหมดตัวกันไปทุกครั้ง แล้วอย่างนี้จะมีบุรุษจวนไหนที่จะกล้าแต่งนางเข้าจวน ฉายาท่านหญิงตำลึงทองของนางไม่ใช่ได้มาเล่น ๆ “ข้าจะหาของมากมายมาให้เจ้า เมื่อนั้น เจ้าจะได้เข้าใจว่าในที่สุดแล้ว ของพวกนั้นก็หาได้มีราคาเทียบเท่ากับตัวเจ้า ที่ข้าทุ่มเททุกอย่างให้” ไป่ชางบอกพลางจ้องดวงตาดอกท้อสุกสกาวตรงหน้า มู่หรงเย่วชิงออกอาการเอียงอาย ก้มหน้าลงแล้วหันหนี สองมือจับอยู่ตรงสายชายอาภรณ์แล้วบิดไปมาระบายความเขิน ซึ่งดูได้ยากว่าเป็นเรื่องจริง หรือเป็นเพียงการซ่อนความดีอกดีใจที่จะได้รับพระราชทานสิ่งของราคาแพงถึงขนาดนั้นกันแน่ “มันจะเป็นของมากมายเพียงใดกันนะ” นางรำพึงรำพัน “มากจนเจ้าคาดไม่ถึงเลยทีเดียว” “หนึ่งหีบหรือเพคะ” “มากกว่านั้น” “หรืออาจจะเป็นสอง” “เจ้าพอใจเท่านั้นเองหรือ” “สตรีไม่ควรละโมบโลภมาก แม้บุรุษผู้นั้นจะนำมาเสนอให้ถึงที่ก็ตามที” นางช่างกล้าพูด! นี่เป็นความคิดของคนที่หลบซ่อนอยู่ องค์ชายชางทำหน้าไม่เห็นด้วย “ข้าไม่สนใจเรื่องเหล่านั้น” “ยิ่งมากเท่าไหร่ ก็ยิ่งแสดงให้เห็นถึงความสำคัญของเยว่ชิง ใช่หรือไม่เพคะ” นางแสร้งทำเป็นออกความเห็นแบบเด็ก ๆ อีกครั้ง ความฉลาดในการเอาตัวเองไปผูกกับบุรุษที่ร่ำรวยที่สุดในอาณาจักรทำให้หลี่อวี้ทั้งขำและเอ็นดูนางในคราวเดียวกัน และยิ่งขบขันมากขึ้น เมื่อเห็นว่าเจ้าหลานโง่ไม่รู้ตัวเลยว่ากำลังเจอกับอะไร
หลังจากแต่งงานได้ 2 ปี ในที่สุดเจียงเนี่ยนอันก็ตั้งครรภ์สักที ความดีอกดีใจของเธอแต่กลับแลกกับคำขอหย่าของสามี หลังจากการสมคบคิด เธอนอนในกองเลือด และต้องการขอร้องเขาให้ช่วยเด็กเอาไว้ แต่กลับไม่สามารถติดต่อกับอีกฝ่ายได้ ด้วยความสิ้นหวังเธอจึงออกจากประเทศไป ต่อมาในงานแต่งงานของเจียงเหนียนอัน คุณกู้เสียการควบคุมและคุกเข่าลง ดวงตาของเขาแดงก่ำ "มีลูกของฉัน แล้วเธออยากจะแต่งงานกับใครกัน?"
อวิ๋นเจินอาศัยอยู่ในตระกูลอวิ๋นมาเป็นเวลา 20 ปี กลับพบว่าเธอเป็นลูกสาวปลอม พ่อแม่บุญธรรมของเธอวางยาเธอเพื่ออยากจะได้เงินมาลงทุน หลังจากที่อวิ๋นเจินรู้เรื่องนี้ เธอก็ถูกไล่กลับไปที่ชนบท จากนั้นเธอก็ค้นพบว่าตัวเองคือลูกสาวแท้ๆ ของตระกูลเฉียวและมีชีวิตที่หรูหราสุด ๆ หลังจากกลับมา เธอได้รับความรักจากครอบครัวและมีชื่อเสียงโด่งดัง น้องสาวจอมปลอมใส่ร้ายอวิ๋นเจิน แต่เธอไม่คาดคิดว่าอวิ๋นเจินจะมีความสามารถต่างๆ เมื่อต้องเผชิญกับการยั่วยุ เธอได้แสดงความสามารถและทักษะต่างๆ มากมายเพื่อจัดการผู้รังแก มีข่าวลือกันว่าอวิ๋นเจินยังคงโสด และชายหนุ่มชื่อดังแห่งเมืองงก็ผลักเธอไปเข้ากำแพง "คุณนายกู้ ถึงตามราเปิดเผยตัวตนได้แล้วนะ"
เมื่อสองปีที่แล้ว เพื่อช่วยคนรักในใจ พระเอกถูกบังคับให้แต่งงานกับนางเอก ในใจของเขา เธอเป็นคนน่ารังเกียจและแย่งคนรักของคนอื่น เขาเลยเย็นชาต่อเธอมาตลอด แต่กลับอ่อนโยนและเอาใจใส่กับคนรักในใจถึงเป็นเช่นนี้ เธอยังคงรักเขาอย่างเงียบ ๆ เป็นเวลาสิบปี ต่อมาตอนที่เธอรู้สึกเหนื่อยและอยากจะท้อแท้นั้น เขากลับตื่นตระหนก... เมื่อเธอกำลังจะตายขณะตั้งท้องลูกของเขา ในที่สุดเขาก็ตระหนักว่าผู้หญิงที่เขายอมเอาชีวิตตัวเองไปแลกนั้นก็คือเธอโดยตลอด
นางเจ็บปวดปางตายเมื่อเขาโยนร่างบอบช้ำทิ้งไว้หลังจวนโดยไม่แยแส เมิ่งลี่เฟยน้ำตาไหลพรากทว่ากลับไม่ทำให้คนที่เพิ่งเหยียบย่ำร่างกายเล็กเห็นใจแต่ประการใด"เฝ้านางเอาไว้ให้ดีอย่าให้ออกมาทำเรื่องชั่วอีก"
ในวันแต่งงาน เสิ่นเยวียนถูกคู่หมั้นและน้องสาวของเธอทำร้าย และถูกจำคุกเป็นเวลาสามปีด้วยความทุกข์ทรมาน หลังจากได้รับการปล่อยตัวจากคุก น้องสาวผู้ชั่วร้ายได้คุกคามด้วยชีวิตแม่และพยายามให้เธอมอบตัวกับชายชรา อย่างไรก็ตาม เธอได้พบกับเซียวเป่ยหาน ซึ่งเป็นผู้ทรงอิธิพลที่หล่อเหลาและเย็นชาแห่งแห่งสังคมด้านมืด อย่างไม่คาดคิด และชะตากรรมของเธอก็เปลี่ยนไปตั้งแต่นั้นเป็นต้นมา แม้ว่าเซียวเป่ยหานจะเย็นชา แต่เขากลับปฏิบัติต่อเสิ่นเยวียนดั่งเป็นสมบัติล้ำค่า นับแต่นั้นมา เธอจัดการคนเสแสร้ง เอาคืนแม่เลี้ยงและไม่ถูกกลั่นแกล้งอีกต่อไป
หลี่เมิ่งเหยาย้อนเวลามาอยู่ในร่าง ของเด็กสาววัยสิบสองปี ในวันที่มารดาอนุผู้โง่เขลา ถูกขับไล่ออกจากจวน โชคยังดีที่ตอนตาย นางสวมกำไลหยกโลกันตร์เอาไว้ มันจึงติดตามนางมาที่นี่ด้วย +++ 1 : มารดาโง่ จนถูกไล่ออกจากตระกูล จวนตระกูลหลี่เจ้าเมืองถัง สตรีสองนางถูกสาวใช้จับคุกเข่าลง ตรงหน้าของหลี่หงซวนเจ้าเมืองถัง ทั้งยังเป็นพ่อสามีของทั้งคู่อีกด้วย ท่านกำลังสอบสวนเรื่องของสะใภ้ใหญ่ของบ้านสาม ถูกฮูหยินรองกับอนุรวมหัวกันลอบทำร้าย ด้วยการวางยาขับเลือดในถ้วยน้ำแกงบำรุงครรภ์ ทำให้นางต้องสูญเสียทารกในครรภ์ไป “ท่านพ่อข้าไม่รู้จริง ๆ ว่านั่นเป็นยาขับเลือด ฮูหยินรองบอกว่าเป็นน้ำแกงบำรุงครรภ์ ให้ข้าเป็นคนนำไปมอบให้ฮูหยินใหญ่ เป็นนางนั่นเอง นางหลอกข้า !” เฉาซูหลิ่งชี้นิ้วไปทางสตรีด้านข้าง ร้อนรนเอ่ยออกมาเหมือนคนไม่ได้รับความเป็นธรรม “อนุเฉาเจ้าอย่ามาใส่ร้ายข้านะ เจ้าทำคนเดียวทั้งนั้นไม่เกี่ยวกับข้าเลย” ฮูหยินรอง ถูซวงอี้ ชี้นิ้วใส่หน้าเฉาซูหลิ่งกลับคืน ต่างคนต่างโยนความผิดให้กัน ฮูหยินผู้เฒ่าหลิวเยี่ยนหนานโบกมือให้คนเข้ามา “ข้าให้โอกาสพวกเจ้าสองคนพูดความจริง แต่กลับไม่มีใครยอมรับความผิดแม้แต่คนเดียว มันน่าจับส่งทางการให้รู้แล้วรู้รอด” พ่อบ้านหลัวให้คนลากสาวใช้คนหนึ่งเข้ามา สภาพของนางถูกทรมานจนเนื้อตัวบวมช้ำไปหมด “เรียนนายท่านข้าให้คนไปค้นห้องสาวใช้ทุกคนในจวน พบเทียบยาซ่อนไว้ใต้หมอน จากห้องของสาวใช้คนนี้ขอรับ” ถูซวงอี้ถึงกับคุกเข่าต่อไปไม่ไหว ทิ้งตัวลงไปนั่งอยู่บนพื้น สาวใช้ที่ถูกทรมานจนสภาพน่าเวทนานั่น เป็นเสี่ยวอิงสาวใช้สินเดิมของนางเอง “ฮูหยินรอง ข้าขอโทษ ข้าทนต่อไปไม่ไหวจริง ๆ ข้าขอโทษ !” เสี่ยวอิงโขกศีรษะลงตรงหน้าของถูซวงอี้แรง ๆ น้ำตาไหลนองหน้าจน แทบไม่เป็นผู้เป็นคนอยู่แล้ว พ่อบ้านหลัวเอ่ย “ข้าให้คนไปถามที่หอโอสถแล้วขอรับนายท่าน เป็นเทียบยาขับเลือดจริง ๆ” หลี่หงซวนมองไปทางบุตรชายคนที่สามของตน พบว่าเขามีสีหน้ากลืนไม่เข้าคายไม่ออก สตรีที่คุกเข่าอยู่ตรงหน้าคือฮูหยินรอง กับอนุภรรยาที่เขารักใคร่ไม่ต่างกัน เหตุใดถึงได้คิดร้ายต่อฮูหยินใหญ่ของเขาได้ เป็นเหตุให้เขาต้องสูญเสียลูกที่อยู่ในท้องของนางไป เดิมทีฮูหยินใหญ่ของเขาก็ตั้งท้องยากอยู่แล้ว เขารอมาตั้งนานกว่าจะมีวันนี้ได้ ไม่คิดมาก่อนว่าจะต้องสูญเสียไปเช่นนี้ “หย่วนเจ๋อนี่เป็นเรื่องในเรือนของเจ้า เจ้าอยากตัดสินเรื่องนี้ด้วยตัวเองหรือไม่” ผู้เป็นบิดาเอ่ยถามบุตรชาย “ไม่ ข้าไม่อยากเห็นหน้าพวกนางอีกต่อไป แล้วแต่ท่านพ่อเถอะขอรับ ข้าขอตัวไปดูฮูหยินใหญ่ก่อน” หลี่หย่วนเจ๋อคำนับบิดา สะบัดแขนเสื้อเดินจากไปในทันที หางตายังไม่แม้แต่จะมองสตรีทั้งสองนาง เฉาซูหลิ่งลนลานตามเขาไป “ท่านพี่ช่วยข้าด้วย ข้าไม่ผิดนะเจ้าคะ ท่านพี่ !” แต่ถูกบ่าวรับใช้ขวางทางเอาไว้ หลี่หงซวน “หยุดโวยวายได้แล้วอนุเฉา เจ้าเป็นคนถือถ้วยน้ำแกงใส่ยาขับเลือด ไปมอบให้ฮูหยินใหญ่ด้วยตัวเอง ยังคิดจะหนีความผิดนี้ไปได้อีกรึ” “ท่านพ่อขะข้าข้า...ไม่ผิด” เฉาซูหลิ่งทิ้งตัวไปด้านหลังอย่างหมดเรี่ยวแรง เดิมทีนางก็ไม่เป็นที่โปรดปรานของพ่อแม่สามีอยู่แล้ว เพราะไม่สามารถให้กำเนิดบุตรชายได้ ครั้นได้บุตรสาวก็นิสัยขี้ขลาดขี้กลัว ไหนเลยจะเชิดหน้าชูตาให้ตระกูลหลี่ได้ เฉาซูหลิ่งนั่งเหม่อลอย คล้ายคนจิตใจไม่อยู่กับเนื้อกับตัว ขณะที่หลี่หงซวนกำลังประกาศโทษทัณฑ์ของพวกนาง ถูซวงอี้กับคนของนาง ถูกขายออกจากจวน ไปอยู่หอนางโลมอย่างเงียบ ๆ ชาตินี้อย่าได้ก้าวเท้า กลับมาเหยียบที่จวนตระกูลหลี่อีก ส่วนเฉาซูหลิ่งถูกขับไล่ออกจากจวน ไปพร้อมกับบุตรสาว ให้ไปอยู่เรือนร้างของตระกูลหลี่ที่เมืองฉาง ห้ามกลับมาที่ตระกูลหลี่อีกชั่วชีวิต “ท่านพ่อท่านขับไล่ข้าไป ข้ายังพอรับได้ เหตุใดต้องขับไล่เหยาเอ๋อร์ไปด้วย นางเพิ่งจะสิบสองปีเองนะเจ้าคะ” เฉาซูหลิ่งนึกถึงบุตรสาวร่างกายผ่ายผอม นอนซมเพราะพิษไข้อยู่ เกิดนึกสงสารนางขึ้นมาจับใจ ฮูหยินผู้เฒ่าหันไปมองสามีเล็กน้อย นางเห็นเด็กสาวคนนั้นมาตั้งแต่เกิด แม้ไม่ได้เอ็นดูแต่ก็นับว่าเป็นสายเลือดเดียวกัน “ฮูหยินเรื่องนี้ข้าตัดสินใจไปแล้ว ไม่อาจคืนคำได้” คำพูดของประมุขของตระกูล มีหรือใครจะกล้าขัด เฉาซูหลิ่งปล่อยเสียงร้องไห้โฮออกมาดัง ๆ นางโง่งมจนทำให้บุตรสาว ต้องมารับเคราะห์กรรมตามไปด้วย “ลากตัวอนุเฉาออกไป หารถม้าสักคันให้คนส่งนาง ไปที่เรือนร้างเมืองฉาง” คำสั่งของหลี่หงซวนเป็นคำขาด บ่าวไพร่รีบทำตามในทันที ครั้นได้อยู่ด้วยกันเพียงลำพังกับฮูหยินผู้เฒ่า หลี่หงซวนถึงได้บอกเหตุผล ที่ต้องตัดสินใจทำเช่นนี้ นั่นเพราะตระกูลจี้ได้ยื่นคำขาดมา ให้ขับไล่พวกเขาออกไปให้หมด อย่าให้เหลืออยู่แม้แต่ตนเดียว ไม่ต้องการให้คนที่ทำร้ายบุตรสาวของพวกเขา อยู่ระคายสายตาของจี้ชิวหรงอีกต่อไป ฮูหยินผู้เฒ่าแค่นออกมาหนึ่งคำ “อ้างเหตุผลข้าง ๆ คู ๆ ความจริงแล้วต้องการกำจัดอนุในเรือนบุตรสาวทิ้งให้หมด นี่กระทั่งเด็กคนหนึ่งก็ไม่เว้น แต่ก็เอาเถอะ เหยาเอ๋อร์อยู่ที่นี่ ก็ใช่จะมีประโยชน์อันใด นางไม่ได้อยู่ในสายตาของพวกเราด้วยซ้ำ ให้นางไปกับแม่ของนางนั่นแหละดีแล้ว” หลี่หงซวนนั้นเป็นเพียงเจ้าเมืองเล็ก ๆ มีตำแหน่งเป็นขุนนางขั้นที่ห้า ฝั่งตระกูลจี้บ้านเดิมของจี้ชิวหรงนั้น อยู่ในเมืองหลวงมีตำแหน่งใหญ่โตกว่าหนึ่งขั้น เรื่องนี้เขาจึงต้องขบคิด ถึงผลได้ผลเสียในอนาคตอีกด้วย การเสียสละอนุกับหลานสาวคนหนึ่ง เพื่อชดเชยให้แก่คนตระกูลจี้ นับว่าเป็นเรื่องสมควรทำแล้ว “ข้าก็คิดเช่นฮูหยินนั่นแหละ เพียงแต่สะใภ้สามแท้งคราวนี้ ไม่รู้จะยังสามารถตั้งท้องได้อีกหรือไม่ พวกเรารอดูไปก่อนดีกว่า หากนางไม่สามารถตั้งท้องได้จริง ๆ เราค่อยหาอนุมาให้หย่วนเจ๋อภายหลังก็ยังได้ ยามนั้นคนตระกูลจี้จะเอาอะไรมาง้างกับเราได้อีก” “จริงดังท่านว่าเจ้าค่ะ” ฝ่ายเฉาซูหลิ่งที่ถูกคนใช้ ลากตัวออกมาให้เก็บของในเรือน นางส่งเสียงเอะอะโวยวายตลอดทาง พร่ำบอกต้องการพบหลี่หย่วนเจ๋อให้ได้ แต่ถูกสาวใช้ขวางไว้ไม่ให้ไป นางจำใจกลับไปยังห้องนอนของตัวเอง รีบเก็บของสำคัญใส่ห่อผ้าเพื่อออกเดินทาง