ช้องนางได้ยินเพื่อนเจ้าบ่าวเอ่ยแซวว่าพระแสงคงดีใจได้เมียเป็นตัวเป็นตนแถมได้เล่นของสูง เพราะต้องสอยเจ้าสาวลงจากคาน หากไม่ติดว่าเป็นเจ้าสาวเองหล่อนจะตบปากพวกนี้เรียงตัว โทษฐานปากเสียชอบเอาความจริงมาพูด แถมแม่ยังเคยบ่นบ่อยๆ ว่า “เลือกมากก็กอดคานเน่าๆ ไปจนตายเถอะนังช้องเอ๊ย” แล้วไงละ พอหล่อนไปบอกว่าจะแต่งงานกับหลานยายมาลัย แม่ถึงกับหัวเราะกลิ้ง แล้วลูบหัวเบาๆ ก่อนดึงมากอดแล้วพูดเหมือนปลอบใจ “เมายาสีฟันมาหรือนังช้อง นายพระแสงเขาเคยชายตาแลแกหรือเปล่า เห็นผู้หญิงสาวๆ สวยๆ ตามตูดต้อยๆ มีหรือจะมองสาวแก่อย่างแก” “คำก็สาวแก่ สองคำก็สาวแก่ ก็นี่ไงสาวแก่ของแม่จะเป็นฝั่งเป็นฝาแล้ว จริงๆ” แม้จะแต่งหลอกๆ แต่ยายมาลัยเล่นใหญ่ทำให้สมจริงสมจัง มีพิธีมงคลสมรส มีงานเลี้ยงและมีทะเบียนสมรสให้ ยกเว้นแต่สินสอดทองหมั้นที่ไม่มีและไม่เคยได้ยินแกเอ่ยถึง สำหรับช้องนางแล้วการได้แต่งงานอยู่กินกับพระแสงคือสุดยอดแห่งความปรารถนา แม้ต้องใช้เล่ห์กลหลอกล่อเข้าหาญาติผู้ใหญ่ของเขาจนเกิดการ “คลุมถุง(พุ่ง)ชน(หัวใจ” ขึ้นหล่อนก็ภูมิใจ
บทนำ
“ผัวฉัน มีผัวแล้ว มีผัวแล้วโว้ย!”
ช้องนางยิ้มน้อยยิ้มใหญ่ ยิ้มจนเสียจริตเสียกิริยากุลสตรีไทยที่ควรเก็บงำความรู้สึก โดยเฉพาะอย่างยิ่งยามรับบทเจ้าสาวในวันนี้ เพราะหากใครมาเห็นเข้าจะถูกค่อนแคะได้ว่าดีใจที่มีผัวจนตัวสั่น แต่หล่อนยอมรับว่าตัวสั่นเนื้อเต้นจริง
คนมันสมหวังก็ต้องดีใจเป็นธรรมดาใช่ไหมละ
ใครไม่เป็นหล่อนนางสาวช้องนาง ลำจวนคงไม่รู้หรอกว่า การเฝ้ามองนายพระแสง ภควันต์เติบโตมาแต่ละวัยนั้นมันทรมานแค่ไหน
ใช่ หล่อนทรมานทุกครั้งที่เห็นเขาเริ่มคบค้าสมาคมกับหญิงสาวด้วยการพามาค้างที่บ้านตั้งแต่เป็นหนุ่มน้อย แต่บางทีอาจเพราะหล่อนอายุมากกว่าจึงมองเขาเป็นหนุ่มน้อยตลอดเวลา จนพลอยหนักใจไปกับยายมาลัยที่ต้องคอยไล่สาวๆ พวกนั้นออกจากบ้านครั้งแล้วครั้งเล่า
ยายมาลัยแอบมาบ่นกับหล่อนลับหลังหลานชายเสมอเรื่องความเจ้าชู้ แต่ยายมาลัยโทษพันธุกรรมทางพ่อพร้อมด่าว่าสาดเสียเทเสียจนบางครั้งหล่อนก็สงสัยเหมือนกันว่าถ้าคิดว่าพ่อของพระแสงเลวขนาดนั้นแล้วยายยอมให้แต่งงานกับลูกสาวตัวเองทำไม รวมถึงก่นด่าความง่ายของผู้หญิงที่หลานชายพามานอนด้วย โดยไม่เคยแตะต้องหลานชายตนเองให้ได้ยินแม้แต่น้อย
จนปัจจุบันพระแสงยังมีผู้หญิงข้องแวะคนแล้วคนเล่าและลงอีหรอบเดิมทุกครั้ง
พระแสงเป็นเด็กกำพร้าพ่อแม่เสียชีวิตตั้งแต่เขาอายุห้าขวบ อยู่ในความดูแลของยายมาลัย ภควันต์ซึ่งนับเป็นญาติสนิทเพียงคนเดียว และเป็นเจ้าของทรัพย์สินมากมายที่จะตกทอดถึงพระแสงในอนาคต เหตุนี้เองยายมาลัยจึงเหมือนถือไพ่เหนือกว่าสามารถบงการชีวิตของหลานชายได้ แม้ไม่ใช่ทุกเรื่อง
ทว่าอย่างน้อยยายมาลัยก็สั่งให้เขาแต่งงานกับหล่อนได้ก็แล้วกัน
ช้องนางจำได้ดีว่าวันนั้นตนสวมวิญญาณนักล่าผู้ชาย บอกกับยายมาลัยไปตรงๆ ว่า มีทางกันพระแสงออกจากชะนีหิวโหยที่หอบท้องมาบอกว่าพระแสงเป็นพ่อของเด็ก ด้วยการให้แต่งงานหลอกๆ กับตน จริงอยู่แม้สัญญากันว่าแค่แต่งหลอกๆ แต่ถ้าได้จริงก็เอา
อุ๊บ! หล่อนคงไม่ได้คิดดังไป ยายมาลัยจึงรีบตกลงทันที
และเพื่อให้สมจริงมากขึ้น การแต่งงานต้องสมบูรณ์แบบ นอกจากมีพิธีมงคลสมรสแล้วยังต้องมีกระบวนการทางกฎหมายด้วย เพื่อจะได้ใช้เป็นยันต์กันเมียน้อยให้เลิกมายุ่งเกี่ยว มิเช่นนั้นหล่อนจะฟ้องเรียกค่าเสียหายให้หัวโตกว่าท้องที่หอบมาเสียอีก
เจ้าสาวแสนสวยแม้อายุล่วงมาสามสิบสองปีแล้วก็ตื่นเต้นตื้นตันอย่างยิ่งที่มีสามีถูกต้องตามกฎหมายกับเขาเสียที แม้การได้มาในตำแหน่งภรรยานั้นจะใช้เล่ห์ลวงและถุงของยายมาลัยคลุมตัวเจ้าบ่าวมาก็ตาม แต่เมื่อมีลายมือชื่อเขาในทะเบียนสมรสหล่อนก็อดปลื้มใจไม่ได้ น้ำตาจึงปริ่มยามมองหลักฐานสำคัญในมือ
“ผัวฉัน ในที่สุดก็มีผัวกับเขาแล้ว ลงจากคานเสียทีนะช้องนาง” หล่อนพึมพำ แล้วสะดุ้งกับเสียงเคาะประตูพร้อมเสียงเรียกของเพื่อนสนิท
“ช้องๆ เสร็จหรือยัง แขกมาเยอะแยะแล้ว”
“จ้าๆ เสร็จแล้ว” หล่อนรีบเก็บทะเบียนสมรสไว้ในลิ้นชักโต๊ะใกล้เตียง ซับน้ำที่หัวตาแล้วเดินไปเปิดประตูรับกานดาเพื่อนสนิทที่คบหากันมาตั้งแต่ชั้นประถม
“ทำอะไรอยู่” กานดาถามทันทีประตูห้องเปิด มองสำรวจชุดราตรีสั้นเกาะอกสีงาช้าง ที่ช่วยขับผิวสาวให้ขาวผ่อง
ช้องนางเป็นสาวผมสั้นตรงเลยติ่งหูมาเล็กน้อย มีความเท่และดูทะมัดทะแมงในยามปกติ แต่เมื่อสวมชุดราตรีเช่นนี้กานดาชอบผมยาวแล้วเกล้าเป็นมวยหลวมๆ มากกว่า
“เสียดายผมแกสั้นไปหน่อย แต่ทำแบบนี้ก็สวยดีนะ” สุดท้ายก็เอ่ยชมอยู่ดี
“ก็ได้ผัวแบบฟลุคๆ นี่ เลยเลี้ยงผมให้ยาวไม่ทัน” หล่อนใช้มือป้องปากยามหัวเราะ ไม่ได้ขัดเขินเพื่อนสนิทที่รู้เบื้องลึกเบื้องหลังดี แค่กลัวเสียงหัวเราะระริกระรื่นจะเข้าหูให้คนอื่นหมั่นไส้ และนินทาเอาได้ว่าเจ้าสาวดีใจออกนอกหน้าจนเกินงาม
แต่ก็ดีใจจริงๆ เพราะหล่อนเฝ้ามองพระแสงมาตั้งแต่แรกเกิด เหมือนถูกมนต์สะกดตั้งแต่ได้อุ้มเขาครั้งแรก แล้วเขาฉี่รดจนน้าพิมพาแม่เขาต้องรีบถอดกางเกงเปลี่ยนให้
‘โห ช้างน้อยใหญ่จัง’ เด็กหญิงช้องนางในวันนั้นแค่อุทานในใจ แต่ใช้นิ้วมือสะกิดเล่นจริงจังจนถูกตีมือปราม
“อุ๊ย! อะไร! ตกใจหมด” ถามกานดา
“ก็มัวยิ้มอะไรอยู่ละ รีบลงไปเถอะ แขกอยากถ่ายรูปกับบ่าวสาวแล้ว”
“อ๋อ ไปๆ แต่” พอเพื่อนขยับหล่อนก็รั้งไว้ แล้วหมุนรอบตัวเองช้าๆ “เรียบร้อย ดูดีหรือยัง”
“สวยมากจ้ะ แกเป็นสาวแก่ที่แต่งชุดเจ้าสาวได้สวยมาก ออร่าพุ่ง”
“บ้า สาวแก่ที่ไหน แค่สามสองเอง”
หรือจะแก่จริง แต่อย่างน้อยก็หนีคานได้แล้ว ด่านต่อไปก็แค่จับพระแสงทำผัวให้ได้
งานนี้พี่ไม่ได้มาเล่นๆ พี่เอาจริงค่ะ