“ปล่อย...ปล่อยค่ะคุณกล้า” เธอร้องออกมาในที่สุด หลังจากที่ดึงสติกลับมาและเริ่มดิ้นรนออกจากวงแขนที่รัดรึงเธออยู่ “ไม่ปล่อยมีอะไรไหม” เขาไม่พูดเปล่าหลุบสายตาโลมเลียไปทั่วดวงหน้าหวาน ต่ำลงถึงลำคอระหง เนินอกคู่สวยที่โผล่ล้นออกมากจากคอเสื้อชุดนอน มันเคลื่อนไปมาตามแรงจังหวะการหายใจของหญิงสาวที่เร็วและแรง ความร้อนรุ่มแผ่กระจายพร้อมกับความตื่นตระหนกตกใจ เมื่อปลายจมูกโด่งคลอเคลียแก้มนวลแผ่วเบา ไล้ไปมาโดยไม่ทิ้งน้ำหนัก อัลลิยาหลบปลายจมูกโด่งเป็นพัลวัน มือนุ่มนิ่มเริ่มมีเรี่ยวแรงดันแผงอกแกร่ง หวังจะให้ร่างสูงออกห่างกายตน แต่ดูเหมือนว่าร่างสูงจะไม่ขยับออกห่าง ยิ่งรัดแน่นมากยิ่งขึ้น “คุณกล้า ปล่อยยาเถอะคะ คุณกล้าเมาแล้วนะคะ” เธอพยายามเตือนสติของเขา กลิ่นวิสกี้ที่เธอสูดดมเข้าไป แปลความหมายได้ไม่ยากว่า ตอนนี้เขากำลังเมาไม่ได้สติ หญิงสาวจึงเรียกสติของเขาให้กลับคืนมา “ฉันดื่มวิสกี้ไปแค่สองสามแก้ว ไม่ทำให้ฉันเมาหรอก และที่ทำอยู่นี่สติของฉันครบถ้วนทุกอย่าง” กล้าตะวันพูดถูก สติของเขายังครบถ้วนสมบูรณ์ ไม่มีอาการเมาอย่างที่เธอพูดเลยแม้แต่น้อย “ถ้าคุณกล้ารู้ตัว ปล่อยยานะคะ ยาจะขึ้นไปนอนแล้ว” เธอพูดเสียงสั่น ตอนนี้เธอเริ่มหวาดกลัวเขาเป็นเท่าตัว เมื่อได้ยินคำพูดของเขา คนขาดสติมักทำอะไรที่ไม่รู้ตัว คนเราไม่อาจถือโทษโกรธได้ แต่นี่เขาทำเพราะความตั้งใจ ความน่ากลัวจึงโอบล้อมอยู่รอบกายเธอ สัญชาตญาณของอัลลิยาบอกว่า ตนเองกำลังได้รับอันตราย “ปล่อยเหรอ ปล่อยแน่แต่หลังจากนี้” มนต์สะกดที่มีอานุภาพมากล้น สะกดให้อัลลิยายืนนิ่ง ดวงตาทั้งสองข้างเบิกกว้างด้วยความตกใจ มือและขาทั้งสองข้างของเธอสั่น หัวใจดวงน้อยนั่นเล่า เต้นแรงและดังโครมครามมากที่สุดที่เธอเคยรู้สึกได้ เมื่อริมฝีปากหยักสวยได้รูปของกล้าตะวันประกบทับเรียวปากบางอย่างจาบจ้วง เอาแต่ใจ
1
มือแข็งแรงของบุรุษรูปงามขยำกระดาษในมือเป็นกลมก้อน ก่อนจะปามันทิ้งไปลงบนพื้นอย่างไม่สบอารมณ์ หลังจากที่อ่านประวัติของนารถวลัยว่าที่ภรรยาใหม่ของกำธรผู้เป็นบิดา และเป็นว่าที่แม่เลี้ยงของตนเอง ความเกลียดชังที่มีต่อนารถวลัยไม่ได้ลดหย่อนลงเลยแม้แต่นิดเดียว แม้ว่าเวลาจะผ่านไปหนึ่งปีหลังจากที่มารดาของเขาเสียชีวิต มันกลับทวีคูณมากขึ้นทุกวัน
วันนั้นเขายังจำได้ดี บิดาของเขามีความสุขอยู่กับนารถวลัยในต่างประเทศ ปล่อยให้มารดาต้องจบชีวิตลงตามลำพังอย่างเดียวดาย ไร้บิดาอยู่เคียงข้างอย่างที่สมควรจะเป็น และยิ่งความจริงที่เขารับรู้มาจากมารตรีผู้เป็นป้าว่า พ่อบังเกิดเกล้าได้คบหากับนารถวลัยอย่างเปิดเผยในขณะที่มารศรีมารดาของเขาเจ็บหนัก และอาการป่วยทรุดลงเรื่อยๆ อีกทั้งยังมีอาการตรอมใจที่สามีมีหญิงอื่นไม่มาดูดำดูดีคู่ชีวิตอย่างที่ควรจะเป็น ส่งผลให้ความเกลียดชังที่มีต่อนารถวลัยเพิ่มพูน อัดแน่นอยู่ในจิตใจของเขาจนอยากจะลบเลือน แล้วความรู้สึกนั้นก็เผื่อแผ่มายังอัลลิยา ลูกสาวของนางอีกด้วย
“เธอกับลูกจะต้องเจ็บปวดกว่าแม่ของฉัน...เจ็บอย่างที่ไม่เคยเจ็บมาก่อน”
กล้าตะวัน วรพิมุข ชายหนุ่มวัยสามสิบสี่ปี เจ้าของดวงตาสีนิลเต็มเปี่ยมไปด้วยเสน่ห์อย่างร้ายเหลือ เคราที่ขึ้นบางเบาช่วยทำให้ใบหน้าของเขาโดดเด่นมากยิ่งขึ้น จมูกโด่งเป็นสัน ริมฝีปากได้รูปหยักสวย เส้นผมสีน้ำตาลอ่อนประกายทอง ส่วนสูงที่เกินมาตรฐานชายไทย ทำให้เขาเป็นที่หมายปองของสาวๆ ได้อย่างไม่ยาก
น้ำเสียงของชายสง่างามเต็มเปี่ยมไปด้วยความแค้นที่ฝังรากลึกในจิตใจ มีทางเดียวที่จะทำให้รากแห่งความแค้นหลุดออกไปคือเห็นต้นเหตุของความรู้สึกที่ได้รับเจ็บปวดอย่างทรมานทั้งกายและใจ แล้ววิธีการชำระแค้นของเขาก็ไม่เหมือนใคร รับรองได้ว่า สองแม่ลูกจะต้องเจ็บและจำไปจนวันตาย
หนึ่งสัปดาห์ต่อมา
รถตู้คันใหญ่โก้หรูแล่นมาหน้าประตูบ้านวรพิมุข กำธรเจ้าของรถและเจ้าของบ้านก้าวลงมาจากรถเป็นคนแรก ตามด้วยนารถวลัยภรรยาใหม่ คนสุดท้ายที่ลงมาคือหญิงสาววัยสะพรั่งนามว่าอัลลิยาที่เดินลงมาเป็นคนสุดท้าย
หญิงสาววัยยี่สิบสองปีมองบ้านหลังใหญ่ที่อยู่ตรงหน้า ด้วยความตื่นตาตื่นใจ บ้านหลังนี้ใหญ่มากมีเนื้อที่กว่าห้าไร่ ตัวบ้านปลูกกินเนื้อที่กว่าครึ่ง ส่วนอีกครึ่งล้อมรอบด้วยต้นไม้น้อยใหญ่ มีสนามหญ้าขนาดใหญ่ที่ถูกจัดแต่งอย่างสวยงามเป็นระเบียบ
อัลลิยากวาดสายตาไปทั่ว จนกระทั่งมองเห็นบุรุษที่เดินออกมาจากตัวบ้าน หัวใจดวงน้อยเต้นไม่เป็นจังหวะ ระส่ำจนเธออยากจะเอามือล้วงเข้าไปในร่างกาย เพื่อไปจับหัวใจไม่ให้มันเต้นแรง ความหล่อของเขาโดดเด่นมาก อาจจะพูดได้ว่าหล่อกว่าพระเอกบางคนที่กำลังโด่งดังในขณะนี้เสียอีก เขามีรูปร่างสูงใหญ่ ร่างกายบึกบึน เสื้อผ้าที่เขาสวมใส่แม้จะเป็นเพียงเสื้อเชิ้ตกับกางเกงยีนส์ธรรมดา แต่มันไม่ธรรมดาเลยเมื่ออยู่บนร่างกายของชายตรงหน้า
กล้าตะวันเองก็เช่นกัน สาวน้อยที่อยู่ในสายตาของเขา เธอสวยใสกว่าในรูปมาก ผิวพรรณของเธอขาวนวลเปล่งปลั่งมีน้ำมีนวล น่าลูบไล้ ใบหน้าสวยหวานมันทำให้เขาเคลิ้มเมื่อได้เห็น ดวงตาใสซื่ออ่อนโยนทำให้หัวใจของเขาเต้นแรงไม่แพ้กัน จะดีไม่น้อยหากผู้หญิงคนนี้ไม่ใช่ลูกสาวของคนที่ทำให้มารดาของเขาต้องจบชีวิตลง ฉะนั้นเธอจะเป็นเพียงอากาศธาตุในสายตาของเขาเท่านั้น แม้ว่าจะสวยจับจิตมากแค่ไหนก็ตาม
“กล้า...พ่อจะแนะนำให้รู้จักกับน้าวลัยกับหนูยา ทั้งสองคนจะมาเป็นสมาชิกใหม่ของบ้านหลังนี้”
กำธรแนะนำให้ลูกชายรู้จักกับนารถวลัยและอัลลิยาอย่างเป็นทางการ หลังจากที่เมื่อคืนเขาเปิดใจกับลูกชายเรื่องนี้ บอกจุดประสงค์ที่เขาต้องการให้กล้าตะวันฟังทุกอย่าง รวมทั้งเรื่องที่เขากับนารถวลัยจะจดทะเบียนสมรสกันในวันมะรืนนี้ด้วย
ครั้นบอกเล่าเรื่องให้กล้าตะวันฟังจบ แทนที่เขาจะได้รับคำตอบหรือวาจาใดๆ จากปากของลูกชาย กำธรกลับได้เพียงความเงียบเท่านั้น กำธรจึงถือว่าความเงียบที่กล้าตะวันมีให้คือคำตอบตกลงที่จะให้ทั้งสองเข้ามาอยู่ในบ้านหลังนี้
แต่ในความเงียบของกล้าตะวัน คือชนวนระเบิดที่เริ่มจุด
“สวัสดีค่ะ พี่กล้า”
อัลลิยาพนมมือไหว้ชายหนุ่มตรงหน้าอย่างนอบน้อม รู้สึกประหม่าและหวาดกลัวในเวลาเดียวกันกับสายตาของกล้าตะวัน แล้วเธอยังสามารถสัมผัสกับรังสีบางอย่างที่อยู่รายล้อมร่างหนานี้ มันเป็นรังสีที่ร้อนวูบวาบ น่ากลัว
กล้าตะวันไม่มีปฏิกิริยาใดๆ โต้ตอบ ไม่ทัก ไม่รับไหว้ เขาเดินผ่านไปราวกับว่าไม่เห็นบุคคลทั้งสอง ทำให้สองแม่ลูกอึ้งเล็กน้อยกับท่าทีเฉยชาของกล้าตะวัน
“กล้า น้องทักไม่ทักน้องตอบสักหน่อยหรือลูก”
กำธรเอ่ยขึ้นก่อนที่ร่างของลูกชายจะเดินเลยผ่านตนไป กล้าตะวันหันมามองหน้าบิดาก่อนจะตอบคำถามที่ทำให้คนฟังถึงกับสะอึก พูดไม่ออก
“ในสายตาของผมตอนนี้ไม่เห็นมีใครยืนอยู่ตรงนี้นอกจากคุณพ่อ และผมก็ไม่มีน้องด้วยแค่นี้ใช่ไหมครับที่คุณพ่อจะพูดกับผม ถ้ามีแค่นี้ผมขอตัวนะครับ” เขาโต้บิดาด้วยน้ำเสียงเย็นชา ก่อนจะหันไปหาหญิงสาวที่เรียกเขาว่า พี่กล้า “อ้อ...แล้วเธอก็อย่ามาเรียกฉันว่าพี่ เพราะฉันไม่ใช่พี่ของเธอและไม่มีวันใช่ด้วย”
กล้าตะวันพูดจบก็เดินตรงไปยังโรงรถทันที ไม่สนใจว่าคำพูดของตนจะทำร้ายจิตใจใครบ้าง เขาถือว่าเวลานี้กำธรทำร้ายจิตใจตนอย่างหนัก ฉะนั้นชายหนุ่มจึงไม่จำเป็นต้องใส่ใจใครเช่นกัน
เพียงแค่ได้เห็นใบหน้าสวย สรีระหน้าฟัดของ พลอยพัตรา ทำให้ เฟอเดอริค มอโร อยากจะคว้าตัวเธอมาเป็นดอกไม้บนเตียงของเขาทันที คนเจ้าเล่ห์และเจ้าบุญทุ่มอย่างเขาจึงทำทุกอย่างที่จะได้ดอกไม้ดอกนี้มาเชยชม
"ฮือๆ .. ทำไมทำอย่างนี้กับรุ้ง ทำไมต้องเป็นเดียร์ ทำไม?" ความรู้สึกเสียงใจของหทัยชนกจะน้อยกว่านี้ หากคนที่เป็นภรรยาน้อยของสามีไม่ใช่เกวลิน...เพื่อนรักของเธอ
"คนอย่างเธอความเจ็บปวดแค่นี้มันยังน้อยเกินไป เธอต้องเจ็บเหมือนกับที่มินามิเจ็บ และต้องเจ็บยิ่งกว่าหลายร้อยเท่า ฉันจะทำให้เธอตายอย่างช้าๆ แต่ทุกข์ทรมานแสนสาหัส เธอจะไม่ได้ยินหรือสัมผัสกับความอ่อนโยนเมตตาจากฉัน สิ่งที่ฉันจะมอบให้เธอมีเพียงความเกลียดชังเท่านั้น จำใส่กะโหลกไว้" เรียวเหวี่ยงร่างงามไปที่เตียงนอนอย่างแรง มือหนาจับที่ข้อเท้าของเธอไว้แน่นเมื่อรู้ว่าเธอกำลังกระเถิบตัวหนี "หนีสิ หนีเลย ถ้าเธอหนี คนที่ตายเป็นคนแรกคือแม่ของเธอ ฉันจะให้แม่เธอตายเหมือนหมูเหมือนหมาข้างถนน เหมือนกับที่เธอฆ่าแม่ของฉัน" ดวงตาเขาเปล่งแสงแรงกล้าของความอาฆาต เมื่อนึกถึงข้อนี้อยากจะฆ่าหญิงสาวตรงหน้าให้ตายตามมารดาและคนที่เขารัก แต่ความตายอาจจะไม่ทำให้เขาสะใจ นอกจากกระกระทำต่อไปนี้ที่สะใจเขามากที่สุด ทรรศิกาหยุดดิ้นรนขัดขืน เขาจึงปล่อยข้อเท้าของเธอให้เป็นอิสระ จัดการปลดเปลื้องเสื้อผ้าต่อหน้าเธอ ความกลัวเริ่มเกาะกินจิตใจของเธอมากขึ้นเรื่อยๆ อยากจะวิ่งหนีออกไปจากที่นี่ แต่เมื่อนึกถึงมารดา ทำให้เธอก้มหน้ารับชะตากรรมที่กำลังจะเกิดขึ้น เรื่องที่คุณน่าจะสน
ความอิจฉาน้องสาวต่างมารดาคือจุดเริ่มต้นของแผนการ “ชิงไอศูรย์” มาเป็นของตน เธอจึงใช้เล่ห์เหลี่ยมง่ายๆ คือวางยานอนหลับเขา พอตื่นขึ้นมาก็จะติ๋งต่างว่า เขากับเธอมีอะไรกัน ทว่าแผนเกิดผิดพลาด ยาที่ผสมในไวน์กลับเป็นยาปลุกเซ็กซ์ ผลที่ออกมาคือ ไอศูรย์มีความสัมพันธ์ทางกายกับเธอจริงๆ ในที่สุด ชเนตตีได้แต่งงานกับเขาตามตั้งใจ ทว่าผลที่ออกมา ไม่ได้เป็นไปตามที่คิดไว้ “เนยใส่อะไรในแก้วไวน์ของพี่ใช่ไหม ไม่อย่างนั้นพี่จะไม่มีวันอยู่ในสภาพแบบนี้” เขาถามอีกครั้งเมื่อเห็นอีกฝ่ายเงียบ เสียงที่ถามเข้มห้วน ใบหน้ายังคงเรียบตึง สายตาถมึงทึงใส่ร่างอวบที่ย่นคอหนีน้ำเสียงแผดกร้าว “ตอบพี่มา” “ใส่อะไร เนยไม่รู้เรื่อง…ฮือ…พี่เจย์ทำผิดแล้วอย่ามาโทษว่าเนยวางยาพี่นะ…ฮือ” เธอยังคงปากแข็งต่อไป หลบสายตาแข็งกร้าวพัลวัน
“ว้าย!!..” เธอร้องได้เพียงเท่านั้น ก่อนที่ปากของหยาดน้ำค้างจะถูกมือใหญ่ของใครบางคนปิดเอาไว้ ลำแขนอีกข้างรัดร่างน้อยไว้แน่น ก่อนจะลากไปที่พุ่มไม้รกข้างทาง “อย่าดิ้น อย่าร้อง ไม่งั้นจะจับปล้ำมันตรงนี้แหละ” เสียงที่พูดชิดเรียวหูสะอาด ทำให้เธอรู้ว่าเจ้าของเสียงนั้นคือใคร..เหมันต์ วิเศษเดโช เขาดันร่างเล็กให้แผ่นหลังแนบชิดกับต้นไม้ใหญ่ขนาดสี่คนโอบ ใช้ลำแขนกักร่างบางเอาไว้ “ปล่อยนะ” หญิงสาวพูดเสียงเบาทว่าหนักแน่น เธอไม่กล้าพูดเสียงดังมาก เพราะกลัวว่าคนที่เดินผ่านไปผ่านมาจะได้ยิน “ไปกล่อมพ่อหรือกล่อมลูกมาล่ะ ถึงได้อ้อยอิ่งเป็นชั่วโมงแบบนี้” น้ำเสียงของเหมันต์เขียวเหมือนกับใบหน้าที่เขียวคล้ำด้วยความโกรธ “มันเรื่องของฉัน..คุณไม่เกี่ยว..เราไม่มีอะไรต่อกันแล้ว คุณก็ได้ในสิ่งที่คุณต้องการแล้วนี่ จะมาเอาอะไรกับฉันอีก ปล่อยนะ ฉันจะกลับที่พัก” หยาดน้ำค้างพยายามดิ้นรนหนีพันธนาการที่รัดร่างอยู่ แต่ทว่าลำแขนของเขานั้นหาได้คลายออกไม่ ยิ่งรัดแน่นมากกว่าเก่า เมื่อได้ยินวลีของเธอ “ทำไมผมจะไม่เกี่ยว ในเมื่อน้ำค้างเป็นเมียของผม..เป็นเมีย หรือว่าจำไม่ได้ว่าเราสองคนมีความสุขกันมากแค่ไหน” เขาเท้าความหนหลังให้เธอได้ฟัง ฝ่ายหญิงนิ่งเงียบกับคำพูดของเขา เธอไม่เถียงว่ามีความสุขมากแค่ไหนเวลาได้อยู่ใกล้ชิดกับเรือนกายที่แสนแข็งแรงและอบอุ่น หากแต่ความทุกข์และความเสียใจที่เธอได้รับนั้นมันก็มากมายเช่นกัน ไม่ว่าจะเป็นความสุขหรือว่าความทุกข์ เธอก็ไม่มีวันลืมเช่นกัน และไม่มีทางจะกลับไปจมกับความทุกข์อีกแล้ว “ฉันไม่ใช่เมียคุณ..ถ้าคุณคิดว่าการที่เรามีอะไรกันแล้วฉันจะเป็นเมียคุณ พี่ว่านก็ต้องเป็นสามีของฉันเหมือนกัน” หยาดน้ำค้างคิดว่าวิธีนี้เป็นวิธีที่ดีที่สุด วิธีที่เขาไม่มีทางมายุ่งเกี่ยวกับเธออีก อ้อมแขนที่รัดร่างนิ่มคลายออกโดยอัตโนมัติ หัวใจของคนที่ฟังเต้นเร็ว ดวงตาคมเข้มสีดำเรืองแสงในความมืดที่โรยตัวไปทั่วบริเวณ บ่งบอกอะไรหลายอย่างในแววตา เสียใจ ไม่คาดฝัน ไม่แน่ใจ
จะกี่หมัดก็ไม่หวั่น กี่ยกก็ไม่กลัว เธอจะ Knock Out ด้วยหัวใจติดปลายนวม ภัทรียายินดีสานต่อค่ายมวยและรับผิดชอบหนี้สินรุงรังต่อจากพ่อซึ่งเสียชีวิต แต่ ณ วันนี้หนี้สินสามปีที่ผัดผ่อนมาตลอดทำให้เธอมืดแปดด้าน ไม่ว่าความหวังแสนริบหรี่แค่ไหน เธอก็คว้าไว้อย่างไม่รอช้า ไม่เว้นแม้แต่การเป็นภรรยาหลอกๆ ต่อให้ต้องโดนแม่สามีดูถูกทุกขณะ น้องสาวสามีจ้องเหยียดชาติกำเนิดทุกครั้งที่เจอหน้า ภัทรียาก็ไม่หวั่นเกรงแม้แต่น้อย เพราะเธอคือ... ‘มะปราง ลูกจ่าดาบ ศิษย์จอมทอง’ นักมวยสาวหุ่นกระชากใจหนุ่มๆ หากไม่เพราะกำลังจะถูกแม่จับคลุมถุงชน ธัชธรรมจึงต้องเลือกใช้วิธีสิ้นคิด จ้างนักมวยสาวหมัดหนักที่กำลังร้อนเงินมาเป็นภรรยากำมะลอ จดทะเบียนจริง อยู่ด้วยกันจริง...และทำท่าว่าจะต้องอยู่ด้วยกันอีกนาน รออีกอย่างเดียวเท่านั้น... รอให้สะใภ้กำมะลอยอมเป็นภรรยาตัวจริงของเศรษฐีหนุ่มหล่อ
อารียา ถูกโชคชะตาชักนำไปสู่บทพิศวาสที่แสนเร่าร้อนบนความเข้าใจผิด ก่อเกิดเป็น ‘รักต้องห้าม’ ที่ไม่อาจต้านทานได้ แล้ว ชีควาคิล จะทำเช่นไร ที่จะทำให้ยอดหญิงที่เป็นดั่งดวงหฤทัย กลายเป็น ‘รักเดียว ตลอดกาล’ มันคงไม่ยากนัก หาก ‘เขา’ ซึ่งเป็นถึงองค์รัชทายาทจะทรงต้องการ ‘นางสนมในฮาเร็ม’ เพิ่มอีกสักคน ถ้าผู้หญิงคนนั้นไม่ใช่ ‘เธอ’ ครูสอนภาษาที่เป็นดังกุหลาบงามที่ซ่อนหนามแหลมเอาไว้ภายใน แม้จะทรงมีอำนาจเหนือใคร ก็อย่าหมายมารังแกเธอได้ง่ายๆ แต่ทว่าเขากำลังถือ ‘ไพ่’ เหนือเธอ จึงทรงบังคับขืนใจด้วยไฟแค้น พันธนาการเธอเอาไว้ด้วยเพลิงพิศวาสที่แสนหวาน แล้วครูสาวไร้เดียงสาอย่างอารียา จะสามารถต้านทานบทสวาทขั้นเทพของชีคหนุ่มผู้กระหายในรสรักได้อย่างไร “อ๊ะ...ท่านชีค” เสียงหวานๆ ครางแผ่วออกมาอย่างลืมอายเมื่อท่านชีคผู้แสนจัดเจนในสนามรัก งัดกลยุทธพิชิตกายสาวออกมาใช้กับหญิงสาวอย่างไม่หมกเม็ด เจ้าของเรือนร่างงดงามดุจรูปปั้นเปลือยเปล่าของนักรบเทพเจ้ากรีก ได้จุดประกายไฟพิศวาสให้ลามเลียไปทั่วร่างร้อนผ่าวที่พร้อมจะติดไฟรักได้ทุกเมื่อ แล้วเมื่อใบหน้าหล่อเหลาดุจเทพบุตรแห่งสวรรค์ ฝังจมูกลงมาบนช่อดอกรักอวบอูมกลางกายสาว คนใต้ร่างก็ไม่อาจกลั้นใจ “ท่านชีค อย่าค่ะ ไม่...โอว” ร่างบอบบางบิดเร่าๆสะท้านไหว กลีบดอกไม้ลู่ไปตามทิศทางลมที่พัดโหมจนกลายเป็นพายุสวาทลูกใหญ่ซัดกระหน่ำแทรกลึกซอกซอนเข้าไปยังกลีบดอกรักแสนสวยจนเกสรสีหวานสั่นระรัวและบวมเป่งเพราะอารมณ์เสน่หา
ทะลุมิติมาในนิยายยุค 80 ว่ายากลำบากแล้วเธอยังต้องมาเลี้ยงลูกแฝดและวางแผนหนีชะตาชีวิตที่นักเขียนระบุให้ตายอย่างทรมานภายใต้เงื้อมมือของพ่อตัวร้ายอีก สวรรค์!ยังจะมีตัวละครทะลุมิติใดบัดซบเท่าเธออีกหรือไม่
คุณท่านเสียว คุณชายยอดเยี่ยมที่โด่งดังในเมือง B ได้แต่งงาน แต่มีข่าวลือว่าเจ้าสาวมีรูปร่างหน้าตาที่น่าเกลียดและมีฐานะต่ำต้อย สามปีมานี้ เขาปฏิบัติกับเธออย่างเย็นชาและทำเหมือนเป็นคนแปลกหน้า เจียงซิงซิงอดทนกับความเย็นชาอย่างเงียบ ๆ เธอยังคงรักเขาอย่างสุดหัวใจ เสียสละความนับถือตนเองและยอมละทิ้งตัวตนของเธอเอง จนกระทั่งวันหนึ่ง สุดที่รักของเขากลับประเทศ เขได้สารภาพว่าเขาแต่งงานกับเธอเพียงเพื่อช่วยชีวิตคนรักในใจของเขาเท่านั้น เจียงซิงซิงเสียใจและผิดหวังมาก เธอจึงเซ็นเอกสารหย่าและจากไปด้วยความเศร้าใจ สามปีต่อมา เจียงซิงซิงผู้สวยงามจนน่าทึ่งกลับมาอีกครั้ง ได้กลายมาเป็นศัลยแพทย์ที่ดีที่สุดและเป็นยอดฝีมือด้านเปียโน อดีตสามีรู้สึกเสียใจ และกอดเธอแน่นท่ามกลางสายฝน เสียงของเขาสั่นเครือ "ที่รัก คุณเป็นของผม..."
หลังจากแต่งงานกันสามปี เจียงหยุนถังพยายามสุดความสามารถเพื่อช่วยชีวิตสามีที่ได้รับบาดเจ็บสาหัสจากอุบัติเหตุทางรถยนต์ โดยไม่คาดคิด ว่าเขาได้ละทิ้งเธอเหมือนกับขยะ รับรักแรกของเขากลับประเทศและตามใจเธอทุกอย่าง เจียงหยุนถังที่ท้อใจตัดสินใจหย่า และทุกคนต่างก็หัวเราะเยาะเธอที่กลายเป็นภรรยาที่ถูกทอดทิ้งจากตระกูลเศรษฐี อย่างไรก็ตาม เธอกลับเปลี่ยนแปลงตัวเองอย่างกะทันหันเป็นหมอเทวดาที่พบเจอยาก "Lillian"แชมป์แข่งรถที่มีฐานแฟนคลับจำนวนมาก และยังเป็นนักออกแบบสถาปัตยกรรมระดับโลกอีกด้วย ชายร้ายหญิงชั่วคู่นั้นเยาะเย้ยเธอว่า เธอจะไม่มีวันหาคู่รักได้ใ แต่ไม่คาดคิดว่าลุงของอดีตสามีของเธอ ซึ่งเป็นผู้บัญชาการทหารสูงสุดทำกแงทัพกลับมาเพียงเพื่อขอแต่งงานกับเธอ
เพิ่งหย่ากับอดีตสามีไปไม่นานแต่ปรากฏว่าตัวเองท้อง จะทำอย่างไรดี? หรือจะให้อดีตสามีรับผิดชอบ แต่ก็ไม่คิดว่าอดีตสามีมีคนรักใหม่ไปแล้ว ชีวิตของถังชีชีนั้นช่างสับสน ช่างน่าวิตกกังวลและไม่รู้จะอธิบายยังไงดี เธอต้องคอยระวังไม่ให้คุณเฟิงรู้เรื่องการตั้งครรภ์จนกระทั่งคลอดลูกออกมาอย่างปลอดภัย แต่ไม่คิดว่าจะถูกเขาบังคับถึงเพียงนี้ "เราหย่ากันแค่สี่เดือน แต่เธอกลับตั้งครรภ์ได้เจ็ดเดือนแล้ว บอกมาดี ๆ ว่า ลูกเป็นของใคร!"
ในคืนวันเกิดอายุยี่สิบสองปี ลี่เฉี่ยนโลว่ถูกแฟนหนุ่มวางยา และไปมีอะไรกันกับซือจิ้นเหิง ผู้ชายลึกลับคนหนึ่งตลอดทั้งคืน วันรุ่งขึ้นเธอพบว่าครอบครัวเธอถูกทำลายจนไม่มีอะไรเหลือ เธอแต่งงานกับจิ้นเหิง ได้รับการคุ้มครองจากเขา และใช้เขาเพื่อแก้แค้น "ฉันเป็นภรรยาที่ถูกกฎหมายของเขา" แม้ว่าแม่สามีของเธอจะไม่ยอมรับ แม้ว่าแฟนสาวที่เป็นซุปเปอร์สตาร์ของเขาจะตามมาอยู่ด้วยกัน เธอก็ยังคงยืนยันอยู่อย่างนั้น เธอแท้งโดยบังเอิญ แต่เขากลับเข้าใจผิดว่าเธอไม่อยากมีลูกกับเขา และด้วยความเข้าใจผิดต่าง ๆ อีกหลายหย่าง เธอเลือกที่จะกระโดดลงทะเลเพื่อฆ่าตัวตาย หลายปีต่อมา เมื่อเธอกลับเข้ามาในชีวิตของเขาอีกครั้ง เขาถึงกับตกตะลึง ชายคนนี้ได้สิ่งที่ต้องการจากเธอแล้ว แต่เธอไม่เข้าใจว่าทำไมเขาถึงยังรังควานและทรมานเธอต่อไป