เธอคือน้องสาวของชายหนุ่มที่ช่วงชิงคนรักของเขาไป รัฐภาคย์จึงตอบแทนการกระทำของพี่ชายของลลิลด้วยการย่ำยีทั้งกายและหัวใจ โดยไม่รู้ตัวเลยว่า เพลิงเสน่หากำลังหลอมละลายความแค้นให้กลายเป็นรัก แก้แค้นอีโรติกคนในเครื่องแบบ
เธอคือน้องสาวของชายหนุ่มที่ช่วงชิงคนรักของเขาไป รัฐภาคย์จึงตอบแทนการกระทำของพี่ชายของลลิลด้วยการย่ำยีทั้งกายและหัวใจ โดยไม่รู้ตัวเลยว่า เพลิงเสน่หากำลังหลอมละลายความแค้นให้กลายเป็นรัก แก้แค้นอีโรติกคนในเครื่องแบบ
1
บ้านอัครธนากุลวันนี้ไม่ได้เปลี่ยนไปจากเดิมเลยแม้แต่น้อย แต่ที่เปลี่ยนคงจะเป็นผู้ถือครองสิทธิ์ ซึ่งบัดนี้หาได้เป็นของสองหนุ่มพี่น้องตระกูลอัครธนากุลไม่ รัฐกฤตญ์กับณิชาภรรยาสุดที่รักมีครอบครัวที่อบอุ่น ใช้ชีวิตบั้นปลายที่เหลืออย่างมีความสุขอยู่ที่ร้านอาหารริมทะเลพัทยา รัฐศาสตร์กับกัญติญาใช้ชีวิตส่วนใหญ่อยู่ที่ญี่ปุ่น เนื่องจากรัฐศาสตร์ต้องดูแลพรรคพยัคฆ์มังกรสืบทอดต่อจากอิเซตังผู้ล่วงลับ อลันและประดับดาวใช้ชีวิตอยู่ที่อิตาลีมีลูกด้วยกันสามคนเป็นชายสองหญิงหนึ่ง กิจการทั้งหมดไม่ว่าจะเป็นของรัฐกฤตญ์กับรัฐศาสตร์ จึงอยู่ในความดูแลของรัฐภาคย์ชายหนุ่มวัยสามสิบสี่ปี ทายาทคนเดียวของรัฐศาสตร์
ร่างสูงใหญ่ที่นอนกระสับกระส่ายอยู่บนเตียง ใบหน้าเปียกชุ่มไปด้วยเม็ดเหงื่อ มือทั้งสองข้างไขว่คว้ากลางอากาศ ปากหนาพึมพำอะไรบางอย่าง...บางอย่างที่อัดแน่นอยู่ในหัวใจของเขา
“อย่าไป...อย่าไป...นีน่า”
ในความฝันเขาเห็นหญิงสาวที่เขารักและกำลังจะแต่งงานด้วย จูงมือชายคนหนึ่งแล้ววิ่งจากเขาไปอย่างสิ้นเยื่อใย เธอหันมาส่งยิ้มบางๆ ให้กับเขา มือนุ่มกระชับแน่นอยู่ในฝ่ามือใหญ่ของชายอีกคน...ผู้ชายที่เขาไว้ใจมากคนหนึ่ง เพื่อนสนิทของเขา...ศวิชญ์ ร่างของทั้งคู่วิ่งออกห่างไปอย่างเชื่องช้า ทั้งสองหันมายิ้มให้เขาอย่างไม่รู้สึกผิดกับการกระทำของตน เขาเจ็บหนึบที่หัวใจ มือหนาพยายามคว้าร่างของนิรมล ทว่าเธออยู่ไกลเกินเอื้อมมือถึง
“นีน่า...”
เขาสะดุ้งสุดตัวดีดตัวลุกขึ้นนั่ง ฝันอีกแล้ว...เมื่อไหร่ฝันร้ายนี้จะหมดสิ้นไปเสียที หรือว่าเขาจะต้องจมอยู่กับฝันร้ายนี้ไปตลอดชีวิต ความเสียใจที่อัดแน่นถูกขับออกมาเป็นความเคียดแค้น เมื่อนึกถึงต้นตอของเรื่องทั้งหมด ศวิชญ์คนที่เขาอยากฆ่ามากที่สุดในชีวิต แต่เขาไม่มีทางเจ็บฝ่ายเดียวแน่ ในเมื่อทำอะไรต้นตอไม่ได้ เขาก็ยังมีตัวตายตัวแทนอยู่ในกำมือ
ภายในรอบรั้วอาณาเขตของบ้านอัครธนากุล บ้านหลังเล็กที่มีเนื้อที่เพียงยี่สิบตารางวา เป็นที่พักอาศัยของครอบครัวรัตนากาลมากว่าสองปี จากเดิมที่เคยอยู่บ้านหลังใหญ่มีเนื้อที่กว่าสี่ไร่ แต่พอหลังจากวันนั้น...วันที่ทายาทคนโตของรัตนากาล นำพาความเจ็บช้ำและแค้นเคืองมาสู่หัวใจของรัฐภาคย์ ทุกสิ่งทุกอย่างก็เปลี่ยนไปจากหน้ามือเป็นหลังมือ ครอบครัวที่เคยมั่งคั่งมีเงินทองใช้สอยไม่ขาด ต้องพังครืนลงมาในเวลาไม่ถึงหนึ่งสัปดาห์ กลายมาอยู่บ้านเท่ารูหนู เงินทองขัดสน และความเจ็บปวดและเสียใจจึงบังเกิดขึ้นในตระกูลรัตนากาลตั้งแต่นั้นมา
เสียงโทรศัพท์ดังขึ้นในห้องนอนห้องเล็กๆ ที่เบียดเสียดกันนอนถึงสามคนดังขึ้นหลายครั้ง ลลิลหญิงสาววัยยี่สิบสามปีลุกขึ้นอย่างงัวเงีย เอื้อมมือไปรับโทรศัพท์ที่แผดเสียงดังไม่หยุด มีคนเดียวเท่านั้นที่โทรศัพท์มาในยามวิกาลเช่นนี้
“มาหาฉันเดี๋ยวนี้”
เสียงก้องตวาดลั่นกระทบกับโสตประสาทหูของหญิงสาวอย่างจัง เธอรับคำเสียงเบา ร้อนผ่าวที่ขอบตาขึ้นมาทันทีทันใด เมื่อไหร่หนอที่เขาจะรู้จักคำว่าให้อภัยเสียที ลลิลลุกขึ้นอย่างแผ่วเบา เพื่อไม่ให้อีกสองชีวิตตื่นขึ้นมากลางดึก เดินไปหยิบเสื้อคลุมสีชมพูที่มีรอยฉีกขาด ทว่าถูกเย็บซ่อนอย่างปราณีตนำขึ้นมาสวมทับชุดนอนที่มีร่องรอยของการเย็บอยู่หลายแห่งเช่นกัน มือเล็กเปิดและปิดประตูบ้านหลังเล็กที่เป็นที่พักพิงอย่างเบามือ ก่อนจะเดินไปยังตึกใหญ่ สถานที่จองจำร่างกายและหัวใจของเธอ
“ชักช้าอยู่ได้...ฉันเรียกเธอตั้งนานแล้วนะ?”
เสียงใหญ่ตวาดถามลั่นห้อง ร่างบางที่เดินเข้ามาสะดุ้งโหยงด้วยความตกใจ จะมีวันไหนบ้างที่เขาจะพูดดีกับเธอ...ไม่มีเลยสักวัน
“ลูกหว้าก็มาทันทีที่พี่รัฐเรียกนะคะ”
“บอกกี่ครั้งแล้วว่าไม่ต้องมาเรียกฉันว่าพี่ แล้วยืนหัวโด่อยู่ได้ ไม่รู้จักหน้าที่หรือไง ฉันไม่ได้เรียกเธอมาให้มายืนก้มหน้าดูพื้นนะ”
ลลิลเดินเข้าไปหาร่างใหญ่ที่กึ่งนั่งกึ่งนอนที่เตียง ปลดชุดคลุมสีชมพูดออกจากร่างกายเมื่อเดินมาหยุดที่ริมขอบเตียง ก่อนจะปลดชุดนอนในเวลาต่อมา โดยมีสายตาที่เต็มไปด้วยความแค้นสุดแค้นจ้องมองตาไม่กะพริบ ร่างงามถูกกระชากเข้ามาอยู่ในอ้อมแขนของชายหนุ่ม รัดแน่นจนกระดูกแทบหักกลาง ตามด้วยริมฝีปากหนาที่ฉกจูบอย่างไร้ความปราณี บดเคล้าและขบกัดกลีบปากอิ่มตามแรงแค้นที่ฝังแน่น
มือใหญ่จับหมับที่ทรวงอกขนาดเร้าใจอย่างหนักมือ บีบขยำจนเจ้าของเกิดความรู้สึกเจ็บ ยอดอกถูกนิ้วมือแกร่งดึง บดบี้อย่างไม่กลัวสาวเจ้าจะเจ็บช้ำ เพราะความเจ็บของเธอคือความสุขที่แสนวิเศษของเขา รัฐภาคย์ผละจากเรียวปากอิ่ม มือหนาผลักร่างเล็กให้นอนราบไปบนเตียง ส่วนตัวเขาลุกขึ้นยืนปลดชุดนอนออกจากร่างกาย เพื่อลงโทษตัวประกันสาวตามแบบฉบับของเขา
ชายหนุ่มเอนกายตะแคงนอนเคียงข้างหญิงสาว ทาบฝ่ามือร้อนๆ ไปที่ทรวงอกเคล้นสลับขยำขยี้จนแทบจะแหลกคามือ เรียวปากบางถูกบดจูบอีกครา รุนแรงแต่ทว่ามีความเร่าร้อนแฝงเข้ามาเป็นระยะ ปลายลิ้นหนาพยายามตวัดรัดเกี่ยวลิ้นนุ่มที่หลีกหนีเขาอย่างลนลานไม่กล้าสนองจุมพิตของเขา ทำให้คนจูบรู้สึกรำคาญ
“จูบตอบฉัน”
เขาสั่งเสียงเข้มชิดปากนุ่ม เธอรู้ว่าหากขัดใจเขา ผลที่ได้รับจะเป็นอย่างไร ผลตอบรับนั้นไม่เพียงแต่เธอเท่านั้น ยังส่งผลกระทบกับสมาชิกในครอบครัวของเธอทุกคนด้วย หลังจากที่ปากหนาได้รูปประกบจูบลงมาอีกครั้ง แทรกซอนปลายลิ้นเข้ามาอีกครา เธอจึงตวัดปลายลิ้นพันเกี่ยวแลกรัดกับลิ้นหนาอย่างเจนจัดทันที สองปีที่ผ่านมาหญิงสาวเรียนรู้วิชาจากอาจารย์หนุ่มผู้ร้อนในเกมพิศวาส ทุกอย่างทุกกระบวนท่า เธอทำในสิ่งที่เขาร้องขอและสั่งการ จำต้องทิ้งความเขินอายที่มีอยู่ในใจ เพื่อทุกคนที่เธอรัก
ลำคอหอมกรุ่นถูกเขาดูดซับความหอม และขบเม้มจนเกิดรอยแดงกระจายไปทั่ว ยิ่งคิดถึงเรื่องของพี่ชายของหญิงสาวมากเท่าไหร่ ร่องรอยแห่งการตีตราแค้นเกิดขึ้นมากเท่านั้น เธอเจ็บระคนเสียวซ่านไหลวนไปมาในร่างกาย
ปากหนาหุ้มงับยอดอกที่พุ่งชูชันหายเข้าไปในปาก ดูดกลืนจนปานสีอ่อนหายเข้าไปในปากร้อนชื้น ความรู้สึกของลลิลนั้น มีทั้งความเจ็บและความกระสันเสียว แยกแยะไม่ออกว่าความรู้สึกไหนที่มีมากกว่ากัน รัฐภาคย์ทำเช่นนี้กับยอดอกทั้งสองข้าง ในขณะที่มืออีกข้างเลื่อนต่ำลง
ปลายนิ้วใหญ่ชำแรกแทรกผ่านเข้าไปในกลีบสาว สัมผัสกับน้ำหวานที่ไหลซึมออกมาเพียงน้อยนิด เขาไม่สนใจว่าเธอจะพร้อมสำหรับเขามากแค่ไหน ปลายนิ้วขยับเข้าออกอย่างเป็นจังหวะ นิ้วโป้งเคล้นคลึงจุดกระสันไปด้วย เพิ่มสภาวะการตื่นตัวทางเพศให้กับลลิลมากขึ้นไปอีก ทรวงอกและกลีบสาวถูกชายหนุ่มที่ไม่เคยเห็นค่าในตัวเธอถูกรุกรานอย่างหนักหน่วง สาวเจ้าบิดเร้าร่างกายกระเถิบหนีเป็นบางจังหวะ เพราะทนรับความเจ็บของปลายนิ้วที่กระแทกเข้าหาไม่ได้ ชายหนุ่มไม่ปล่อยให้ความเจ็บปวดของหญิงสาวขาดตอน ขึ้นคร่อมร่างสาวด้วยร่างหนาของเขา ส่งความยิ่งใหญ่ที่พร้อมจะสร้างความทุกข์กายแต่ทว่าสุขใจ ล่วงล้ำเข้าไปในกลีบสาวแทนที่ปลายนิ้ว
“เธอไม่รอดแน่ คราวนี้ฉันจะจูบเธอทั้งตัว” ... ลีออน สแตนฟอร์ด หนุ่มผู้ดีจากเมืองอังกฤษ เจ้าของฉายา ‘หมาล่าเนื้อ’ เพราะไม่มีเนื้อสมันรายใดหนีรอดเงื้อมมือเขาได้ เหยื่อรายใดที่ถูกจ้อง รายไหนรายนั้นก็มา ‘ทอดกายให้ลิ้มลอง’ มันง่านราวกับปอกกล้วยเข้าปาก แต่เธอ...สมันน้อยแสนงามที่ชายหนุ่มหมายใจตั้งแต่แรกเห็น ว่าน่ากินที่สุด กลับทำให้เขาต้องใช้เวลา ‘ล่า’ นานที่สุดเช่นกัน! ‘เพียงจูบเดียว’ ที่ทำให้เดือนดารา สาวชาวไทยตกเป็นเหยื่อหมาล่าเนื้อโดยไม่รู้ตัว เธอถูก ‘หลอกล่อ’ ให้ติดกับดักที่ลีออนเป็นผู้ชักนำ กว่าจะรู้ตัวทุกอย่างก็สายเกินไป หญิงสาวตกลงไปในบ่วงเสน่หาของเขา ซาตานร้ายจนถอนตัวไม่ขึ้น
เพียงแค่ได้เห็นใบหน้าสวย สรีระหน้าฟัดของ พลอยพัตรา ทำให้ เฟอเดอริค มอโร อยากจะคว้าตัวเธอมาเป็นดอกไม้บนเตียงของเขาทันที คนเจ้าเล่ห์และเจ้าบุญทุ่มอย่างเขาจึงทำทุกอย่างที่จะได้ดอกไม้ดอกนี้มาเชยชม
"ฮือๆ .. ทำไมทำอย่างนี้กับรุ้ง ทำไมต้องเป็นเดียร์ ทำไม?" ความรู้สึกเสียงใจของหทัยชนกจะน้อยกว่านี้ หากคนที่เป็นภรรยาน้อยของสามีไม่ใช่เกวลิน...เพื่อนรักของเธอ
"คนอย่างเธอความเจ็บปวดแค่นี้มันยังน้อยเกินไป เธอต้องเจ็บเหมือนกับที่มินามิเจ็บ และต้องเจ็บยิ่งกว่าหลายร้อยเท่า ฉันจะทำให้เธอตายอย่างช้าๆ แต่ทุกข์ทรมานแสนสาหัส เธอจะไม่ได้ยินหรือสัมผัสกับความอ่อนโยนเมตตาจากฉัน สิ่งที่ฉันจะมอบให้เธอมีเพียงความเกลียดชังเท่านั้น จำใส่กะโหลกไว้" เรียวเหวี่ยงร่างงามไปที่เตียงนอนอย่างแรง มือหนาจับที่ข้อเท้าของเธอไว้แน่นเมื่อรู้ว่าเธอกำลังกระเถิบตัวหนี "หนีสิ หนีเลย ถ้าเธอหนี คนที่ตายเป็นคนแรกคือแม่ของเธอ ฉันจะให้แม่เธอตายเหมือนหมูเหมือนหมาข้างถนน เหมือนกับที่เธอฆ่าแม่ของฉัน" ดวงตาเขาเปล่งแสงแรงกล้าของความอาฆาต เมื่อนึกถึงข้อนี้อยากจะฆ่าหญิงสาวตรงหน้าให้ตายตามมารดาและคนที่เขารัก แต่ความตายอาจจะไม่ทำให้เขาสะใจ นอกจากกระกระทำต่อไปนี้ที่สะใจเขามากที่สุด ทรรศิกาหยุดดิ้นรนขัดขืน เขาจึงปล่อยข้อเท้าของเธอให้เป็นอิสระ จัดการปลดเปลื้องเสื้อผ้าต่อหน้าเธอ ความกลัวเริ่มเกาะกินจิตใจของเธอมากขึ้นเรื่อยๆ อยากจะวิ่งหนีออกไปจากที่นี่ แต่เมื่อนึกถึงมารดา ทำให้เธอก้มหน้ารับชะตากรรมที่กำลังจะเกิดขึ้น เรื่องที่คุณน่าจะสน
ความอิจฉาน้องสาวต่างมารดาคือจุดเริ่มต้นของแผนการ “ชิงไอศูรย์” มาเป็นของตน เธอจึงใช้เล่ห์เหลี่ยมง่ายๆ คือวางยานอนหลับเขา พอตื่นขึ้นมาก็จะติ๋งต่างว่า เขากับเธอมีอะไรกัน ทว่าแผนเกิดผิดพลาด ยาที่ผสมในไวน์กลับเป็นยาปลุกเซ็กซ์ ผลที่ออกมาคือ ไอศูรย์มีความสัมพันธ์ทางกายกับเธอจริงๆ ในที่สุด ชเนตตีได้แต่งงานกับเขาตามตั้งใจ ทว่าผลที่ออกมา ไม่ได้เป็นไปตามที่คิดไว้ “เนยใส่อะไรในแก้วไวน์ของพี่ใช่ไหม ไม่อย่างนั้นพี่จะไม่มีวันอยู่ในสภาพแบบนี้” เขาถามอีกครั้งเมื่อเห็นอีกฝ่ายเงียบ เสียงที่ถามเข้มห้วน ใบหน้ายังคงเรียบตึง สายตาถมึงทึงใส่ร่างอวบที่ย่นคอหนีน้ำเสียงแผดกร้าว “ตอบพี่มา” “ใส่อะไร เนยไม่รู้เรื่อง…ฮือ…พี่เจย์ทำผิดแล้วอย่ามาโทษว่าเนยวางยาพี่นะ…ฮือ” เธอยังคงปากแข็งต่อไป หลบสายตาแข็งกร้าวพัลวัน
“ว้าย!!..” เธอร้องได้เพียงเท่านั้น ก่อนที่ปากของหยาดน้ำค้างจะถูกมือใหญ่ของใครบางคนปิดเอาไว้ ลำแขนอีกข้างรัดร่างน้อยไว้แน่น ก่อนจะลากไปที่พุ่มไม้รกข้างทาง “อย่าดิ้น อย่าร้อง ไม่งั้นจะจับปล้ำมันตรงนี้แหละ” เสียงที่พูดชิดเรียวหูสะอาด ทำให้เธอรู้ว่าเจ้าของเสียงนั้นคือใคร..เหมันต์ วิเศษเดโช เขาดันร่างเล็กให้แผ่นหลังแนบชิดกับต้นไม้ใหญ่ขนาดสี่คนโอบ ใช้ลำแขนกักร่างบางเอาไว้ “ปล่อยนะ” หญิงสาวพูดเสียงเบาทว่าหนักแน่น เธอไม่กล้าพูดเสียงดังมาก เพราะกลัวว่าคนที่เดินผ่านไปผ่านมาจะได้ยิน “ไปกล่อมพ่อหรือกล่อมลูกมาล่ะ ถึงได้อ้อยอิ่งเป็นชั่วโมงแบบนี้” น้ำเสียงของเหมันต์เขียวเหมือนกับใบหน้าที่เขียวคล้ำด้วยความโกรธ “มันเรื่องของฉัน..คุณไม่เกี่ยว..เราไม่มีอะไรต่อกันแล้ว คุณก็ได้ในสิ่งที่คุณต้องการแล้วนี่ จะมาเอาอะไรกับฉันอีก ปล่อยนะ ฉันจะกลับที่พัก” หยาดน้ำค้างพยายามดิ้นรนหนีพันธนาการที่รัดร่างอยู่ แต่ทว่าลำแขนของเขานั้นหาได้คลายออกไม่ ยิ่งรัดแน่นมากกว่าเก่า เมื่อได้ยินวลีของเธอ “ทำไมผมจะไม่เกี่ยว ในเมื่อน้ำค้างเป็นเมียของผม..เป็นเมีย หรือว่าจำไม่ได้ว่าเราสองคนมีความสุขกันมากแค่ไหน” เขาเท้าความหนหลังให้เธอได้ฟัง ฝ่ายหญิงนิ่งเงียบกับคำพูดของเขา เธอไม่เถียงว่ามีความสุขมากแค่ไหนเวลาได้อยู่ใกล้ชิดกับเรือนกายที่แสนแข็งแรงและอบอุ่น หากแต่ความทุกข์และความเสียใจที่เธอได้รับนั้นมันก็มากมายเช่นกัน ไม่ว่าจะเป็นความสุขหรือว่าความทุกข์ เธอก็ไม่มีวันลืมเช่นกัน และไม่มีทางจะกลับไปจมกับความทุกข์อีกแล้ว “ฉันไม่ใช่เมียคุณ..ถ้าคุณคิดว่าการที่เรามีอะไรกันแล้วฉันจะเป็นเมียคุณ พี่ว่านก็ต้องเป็นสามีของฉันเหมือนกัน” หยาดน้ำค้างคิดว่าวิธีนี้เป็นวิธีที่ดีที่สุด วิธีที่เขาไม่มีทางมายุ่งเกี่ยวกับเธออีก อ้อมแขนที่รัดร่างนิ่มคลายออกโดยอัตโนมัติ หัวใจของคนที่ฟังเต้นเร็ว ดวงตาคมเข้มสีดำเรืองแสงในความมืดที่โรยตัวไปทั่วบริเวณ บ่งบอกอะไรหลายอย่างในแววตา เสียใจ ไม่คาดฝัน ไม่แน่ใจ
ทุกคนรู้ดีว่า บุตรีคนโตที่ไม่เป็นที่โปรดปรานในจวนโหวอันติ้งแห่งเมืองหลวง ทำให้แม่แท้ๆ ของตนต้องเสียชีวิต เป็นคนที่ถูกมองว่าเป็นตัวโชคร้าย ก่อนแต่งงานก็ทำให้แม่เลี้ยงฝันร้ายอยู่หลายวัน ออกเดินทางไปทำบุญนอกเมืองก็ถูกโจรจับตัวไป แต่ใครจะคิดว่าโชคร้ายกลับกลายเป็นโชคดี นางเปลี่ยนนิสัยไปอย่างสิ้นเชิง ไม่ยอมให้ใครมารังแกอีกต่อไปที่แท้ซูชิงซวู่ ผู้สุดยอดสายลับที่ทะลุมิติมาเผชิญกับพ่อที่เย็นชา แม่เลี้ยงที่ชั่วร้าย คู่หมั้นที่นอกใจน้องสาวต่างแม่ แต่ไม่เป็นไร คอยดูว่าเธอจะจัดการพวกชั่วช้า และเอาคืนทุกอย่าง ทว่าทำไมท่านอ๋องผู้นั้นถึงมองมาที่เธอด้วยสายตาแปลกๆ นั่นล่ะเผ่ยเสวียนจู: บุญคุณที่ช่วยชีวิต ไม่มีสิ่งใดตอบแทนได้ นอกจากเอาตัวไปแลก
นางเจ็บปวดปางตายเมื่อเขาโยนร่างบอบช้ำทิ้งไว้หลังจวนโดยไม่แยแส เมิ่งลี่เฟยน้ำตาไหลพรากทว่ากลับไม่ทำให้คนที่เพิ่งเหยียบย่ำร่างกายเล็กเห็นใจแต่ประการใด"เฝ้านางเอาไว้ให้ดีอย่าให้ออกมาทำเรื่องชั่วอีก"
เส้าหยวนหยวนแต่งงานกับแม่ทัพเทพทรงพลังที่ได้รับบาดเจ็บสาหัสจนส่งผลกระทบต่อทางจิตใจหลังจาดที่เธอย้อนเวลา เธอไม่ต้องการเข้าไปพัวพันกับการสมรู้ร่วมคิด และต้องการร่วมมือกับเขาเพื่อแสวงหาอิสรภาพ เธอก่อตั้งธุรกิจ รักษาโรคของคนไข้ และช่วยชีวิตผู้คน เป็นคนที่ยอดเยี่ยม กลายเป็นผู้ช่วยที่ดีของแม่ทัพ แต่ต่อมาแม่ทัพกลับคืนคำ ไหนตกลงไว้ว่าจะหย่าล่ะ?
เจ้าของร่างเดิมถูกท่านย่าตัวเอง ขายให้ชายพิการด้วยเงินเพียงห้าตำลึง จึงคิดสั้นไปกระโดดน้ำฆ่าตัวตาย ทำให้วิญญาณของเซี่ยซือซือทะลุมิติมาเข้าร่างแทน ชีวิตในโลกนี้บิดามารดาล้วนตายไปแล้ว เหลือเพียงน้องสาวกับน้องชายร่างกายผอมแห้งหิวโซสองคน เธอต้องช่วยพวกเขาให้รอด ก่อนจะถูกคนชั่วพวกนี้ขายทิ้งไปแบบเธอ 1 : ทะลุมิติ แคว้นจ้าว หมู่บ้านตระกูลแซ่อวี่ ภายในบ้านสกุลเซี่ย “ท่านพี่รีบกินเร็วเข้า” เสียงเด็กเล็กดังก้องอยู่ข้างหูอย่างน่ารำคาญ ว่าแต่ฉันมีน้องชายตั้งแต่เมื่อไหร่กัน รู้สึกได้ถึงอะไรแข็ง ๆ มาแตะที่ริมฝีปาก ทว่ายังลืมตาไม่ขึ้น “ท่านพี่กินสิ ๆ” เซี่ยซือซือรู้สึกหนักอึ้งไปทั้งศีรษะ พยายามที่จะเปิดดวงตาขึ้นมอง เจ้าของเสียงเล็ก ๆ ด้านข้าง “ท่านพี่ ๆ ท่านพี่อย่าตายนะ ลืมตาสิท่านพี่” “นังตัวดีออกมาเดี๋ยวนี้นะ !” เสียงเอะอะโวยวายดังหนวกหูเซี่ยซือซือเป็นอย่างมาก ปัง ๆ เสียงเคาะประตูดังขึ้นเรื่อย ๆ เซี่ยซือซือลืมตาขึ้นจนได้ พลันสมองกลับมีเรื่องราวพรั่งพรูเข้ามาไม่ขาดสาย จนต้องกรีดร้องออกมาอย่างเจ็บปวด อ๊าก ! “พี่รอง !” เด็กน้อยเซี่ยซือหยางในวัยสามหนาวเรียกพี่สาวพร้อมเบะปากอยากร้องไห้ “ท่านพี่ !” เซี่ยซานซานทิ้งบานประตูที่ตัวเองดันไว้ หันกลับมาดูพี่สาวด้วยความตกใจ “ท่านพี่ ๆ ท่านเป็นอะไร อย่าทำให้พวกข้าตกใจสิท่านพี่ !” ผลัวะ ! มีคนถีบประตูบานเก่าผุพังเข้ามาภายในห้อง เด็กทั้งสองรีบเข้าไปขวางผู้บุกรุกไม่ให้ทำร้ายพี่สาว แม่เฒ่าเซี่ย เซี่ยจิ่วเม่ย หน้าตาแลดูดุร้าย ไม่ใช่หญิงชราใจดีแต่อย่างใด ด้านหลังของแม่เฒ่าเซี่ยยังมีลูกสะใภ้บ้านใหญ่ กับบ้านรองเดินตามมา ท่าทางดุดันเอาเรื่อง “ไอ้พวกบ้านสามตัวดี กล้าลักขโมยอาหารเอาไว้กินเอง ยังเห็นแม่เฒ่าอย่างข้าอยู่ในสายตาหรือไม่ ไอ้พวกหมาป่าตาขาว ดูซิวันนี้ข้าจะจัดการพวกเจ้าอย่างไร” “ท่านย่าพวกข้าไม่ได้ขโมยนะ นี่เป็นหมั่นโถวของท่านพี่ ท่านพี่ไม่สบายข้าแค่เก็บไว้ให้ท่านพี่เท่านั้นเอง” เซี่ยซานซานยังเป็นเด็กหญิงวัยสิบหนาว แต่นางข่มความกลัวตอบโต้ผู้ใหญ่ในบ้านออกไป “หึ กฎบ้านก็มีบอกอยู่แล้วถ้าพลาดมื้ออาหารไปก็คืออด แต่พวกเจ้ากลับแหกกฎ แอบยักยอกอาหารเก็บไว้กินเอง ยังมีหน้ามาเถียงท่านแม่อีก ท่านแม่ท่านต้องลงโทษคนบ้านสามนะเจ้าคะ ไม่เช่นนั้นข้าไม่ยอมจริง ๆ ด้วย ตอนนั้นยวี่เฟยของข้านางได้พลาดมื้อเย็นไป ท่านก็ไม่ให้นางกินนะเจ้าคะ” สะใภ้บ้านรองนามว่าจงอี้ซิน ย้อนรำลึกถึงเรื่องลูกสาววัยแปดปีของตัวเองขึ้นมา “ดูเจ้าเด็กพวกนี้สิท่านแม่ กางแขนปกป้องพี่สาวตัวเอง ช่างน่าสมเพชไม่รู้จักสำเหนียกกำลังตัวเอง ถุย !” หลินพ่านเอ๋อสะใภ้บ้านใหญ่มองดูเด็กทั้งสองพร้อมถ่มน้ำลายใส่ตรงหน้า แม่เฒ่าเซี่ยมองลูกสะใภ้ทั้งสองสลับกันไปมา เดินตรงไปกระชากหมั่นโถวเย็นชืดแถมแข็งปานหิน ออกจากมือของเซี่ยซือหยาง “แง ๆ ๆ” เด็กน้อยถูกแย่งของกินของพี่สาวไป ถึงกับแผดเสียงร้องลั่น “เจ้าคนชั่ว ! เอามานะ ของท่านพี่ข้า” กำปั้นน้อย ๆ ทุบไปยังต้นขาของแม่เฒ่เซี่ย “เจ้าเด็กเนรคุณกล้าตีข้ารึ นี่นะ !” แม่เฒ่าเซี่ยเตะทีเดียวเซี่ยซือหยางก็กระเด็นไปติดกับผนังห้อง “น้องเล็ก !” เซี่ยซานซานรีบวิ่งไปอุ้มน้องชายขึ้นมากอดไว้ด้วยความตกใจ “ท่านย่า น้องเล็กยังเด็กไม่รู้ความ เหตุใดท่านถึงได้ใจร้ายเช่นนี้” “แง ๆ ๆ” เสียงร้องไห้ของเด็กน้อยฟังแล้วน่าสงสารจับใจ ดวงตาที่ปิดไว้ก่อนหน้าของเซี่ยซือซือ ลืมขึ้นหลังจากค้นพบว่า ตัวเองได้ทะลุมิติมายังอดีตอันไกลโพ้นแล้วจริง ๆ หลังจากหลับตาลืมตาอยู่หลายหน เรียบเรียงความคิดที่ไหลเข้ามาไม่ยอมหยุด เมื่อค่อย ๆ จัดการกับมันได้ ความเจ็บปวดที่ศีรษะก่อนหน้าจึงบางเบาลง และมองเหตุการณ์ตรงหน้าอย่างเฉยชา ครบสูตรของการทะลุมิติจริง ๆ มีท่านย่าผู้ชั่วร้าย ขนาบข้างด้วยป้าสะใภ้เลวทั้งสอง ครั้นหันไปมองน้องสาวในวัยสิบขวบของตัวเองกับน้องชายตัวน้อย ทั้งตัวดำเมี่ยมเหมือนไม่ได้อาบน้ำมาเป็นเดือน ร่างกายผอมแห้งเหลือแต่กระดูก เสื้อผ้าเก่าขาดมีรอยปะชุนเต็มไปหมด เส้นผมแห้งกรังเหมือนไม่ผ่านน้ำมานาน ยกมือของตัวเองขึ้นมาดู ไม่ได้มีสภาพต่างกันแม้แต่น้อย ครั้นเงยหน้ามองป้าสะใภ้ใหญ่ร่างกายอวบอ้วนเต็มไปด้วยก้อนไขมัน ป้าสะใภ้รองแม้ไม่ได้อ้วนแต่ก็ไม่ได้ผอม ยิ่งแม่เฒ่าเซี่ยด้วยแล้ว ร่างกายบึกบึนเหมือนคนกินดูอยู่ดีมาตลอด “ท่านแม่ดูอาซือมองท่านสิเจ้าคะ” สะใภ้ใหญ่เห็นสายตาเย็นเยียบของคนที่นอนอยู่บนเตียงก็อดแปลกใจไม่ได้ ดูเยือกเย็นจนไม่น่าไว้ใจ “เจ้าอย่าคิดว่ากระโดดน้ำตายแล้วทุกอย่างจะจบนะอาซือ ข้ารับเงินคนบ้านถานมาแล้ว ถ้าเจ้าตายข้าจะให้อาซานไปแทนเจ้า” คำพูดของแม่เฒ่าเซี่ยทำให้ดวงตาของเซี่ยซือซือเบิกกว้าง ท่านย่าของนางขายนางให้คนบ้านถานในราคาแค่ห้าตำลึง เจ้าของร่างเดิมไม่อยากไปเป็นเมียคนพิการ เลยไปกระโดดน้ำฆ่าตัวตาย ทว่าเธอที่มาจากยุคปัจจุบันกลับเข้ามาแทนที่เจ้าของร่างนี้ เจ้าของร่างเดิมว่ายน้ำไม่เป็น จึงได้ขาดอากาศตายใต้น้ำ แต่เธอที่เข้ามาสวมร่างกลับพาร่างนี้ขึ้นมาจากน้ำได้ โชคชะตาคงเล่นตลกให้เธอกับเจ้าของร่างเดิมมีชื่อเดียวกัน “ท่านย่าอาซานยังเด็กนัก ท่านอย่าได้ทำเช่นนั้นเลย” นานมากกว่าที่นางจะเอ่ยออกมา “มันอยู่ที่เจ้าอาซือ ข้าขอเตือนเอาไว้ อีกสองวันคนบ้านถานจะมารับตัวเจ้าแล้ว อย่าให้เกิดเรื่องขึ้น ไม่อย่างนั้นข้าจะส่งอาซานไปแทนเจ้า แล้วขายซือหยางทิ้งเสีย” แม่เฒ่าเซี่ยจ้องหน้าเซี่ยซือซือแบบอาฆาต เด็กนี่ก่อนหน้าดูอ่อนแอไร้ทางสู้ ทำไมวันนี้ถึงได้ดูแปลกตาไปนัก “ท่านแม่เจ้าคะ ท่านจะลงโทษคนบ้านสามเรื่องหมั่นโถวนี่อย่างไรเจ้าคะ” สะใภ้ใหญ่ยังไม่ยอมปล่อยสามพี่น้องไปง่าย ๆ “พรุ่งนี้งดอาหารบ้านสาม” แม่เฒ่าเซี่ยเอ่ยแล้วหันหลังเดินออกจากห้องของเด็กน้อยทั้งสามไป โดยมีสะใภ้ใหญ่เดินตามไปด้วย “พวกเจ้าได้ยินแล้วใช่ไหม จำใส่หัวเอาไว้ดี ๆ ด้วยล่ะ” สะใภ้รองหมุนตัวตามหลังไปติด ๆ “ท่านพี่ต่อไปท่านอย่าทำเช่นนี้อีกนะเจ้าคะ ข้ากับน้องเล็กจะทำอย่างไร ถ้าท่านไม่อยู่” เซี่ยซานซานปล่อยเสียงร้องไห้ในทันที
เว่ยจื้อโหยวลืมตาตื่นขึ้นมาอีกครั้งพบว่าตนอยู่ในยุคสมัยที่ไม่คุ้นเคยสิ่งรอบกายดูโบราณล้าหลัง โลกโบราณที่ไม่มีในประวัติศาสตร์โลก ยังไม่ทันได้เตรียมใจก็ถูกส่งให้ไปแต่งงานกับชายยากจนที่ท้ายหมู่บ้าน สาเหตุที่เว่ยจื้อโหย่วถูกส่งมาให้แต่งงานกับชายที่ขึ้นชื่อว่ายากจนที่สุดในหมู่บ้านนั้น เพราะนางเกิดไปต้องตาต้องใจเศรษฐีผู้มักมากในกามเข้า เพื่อหาทางหลีกเลี่ยงไม่ให้ถูกบ้านใหญ่ขายไปเป็นอนุภรรยาของเศรษฐีเฒ่า พ่อแม่ของนางจึงยอมแตกหักจากบ้านใหญ่และท่านย่าที่เห็นแก่ตัวและลำเอียงเป็นที่สุด ด้วยเหตุนี้พ่อแม่ของนางจึงตัดสินใจยกนางให้กับอวิ๋นเซียว ชายหนุ่มที่แสนยากจนข้นแค้น ที่เพิ่งเสียบิดามารดาไป อีกทั้งยังทิ้งน้องชายน้องสาวเอาไว้ให้เขาเลี้ยงดู นอกจากนี้ยังมีป้าสะใภ้มหาภัยที่คอยแต่จะมารังแกเอารัดเอาเปรียบสามพี่น้อง สิ่งที่ย่ำแย่ที่สุดไม่ใช่ป้าสะใภ้มหาภัย แต่ มันคืออะไรแต่งงานนางไม่ว่ายังไม่ทันได้เข้าหอสามีหมาดๆ ก็ถูกเกณฑ์ไปเป็นทหารในสงครามระหว่างแคว้น มันไม่มีอะไรเลวร้ายไปมากว่านี้อีกแล้วสำหรับ เว่ยจื้อโหยว หากสามีทางนิตินัยของนางตายในสนามรบ ก็ไม่เท่ากับว่านางเป็นหม้ายสามีตายทั้งที่ยังบริสุทธิ์หรอกหรือ แถมยังต้องเลี้ยงดูน้องชายน้องสาวของอดีตสามีอีก สวรรค์เหตุใดถึงได้ส่งนางมาเกิดใหม่ในที่แบบนี้
ในการแต่งงานที่ทำข้อตกลงไว้ เจียงหว่านเป็นฝ่ายที่มีใจให้อีกฝ่ายก่อน แต่ตอนที่เธอต้องการเผยเสี้ยนมากที่สุด เขากลับอยู่เคียงข้างคนรักในใจของเขา ในท้ายที่สุด เจียงหว่านก็ตัดสินใจหย่า และเริ่มต้นชีวิตใหม่ เมื่อเผยเสี้ยนรู้สึกตัวขึ้นมา เธอก็จากไปแล้ว เมื่อเผชิญหน้ากับคู่แข่งที่เข้าคิวเพื่อรับป้ายหมายเลข เผยเสี้ยนหยิบเงินร้อยล้านออกมาและพูดว่า "หว่านหว่าน คู่รักก็ต้องเป็นคู่เดิมเราแต่งงานใหม่อีกครั้งได้ไหม"
© 2018-now MeghaBook
บนสุด
GOOGLE PLAY