แรงแค้นที่เกิดขึ้น เพราะผู้ชายที่ชื่อ ‘มิเกล บาร์น’ เขาเข้ามาในชีวิตเธอ พร้อมกับหายนะ! บิดาฆ่าตัวตาย...เธอไม่มีอะไรเหลือ สิ้นเนื้อประดาตัว พร้อมกับแบกหนี้ก้อนมหาศาล แล้วจะให้เชื่อเหรอ? ว่าเขาคือ เทวดามาโปรด! คณานางค์เชื่อไม่ลง เธอต้องค้นหาความจริง เงื่อนงำที่บิดาอาจจะทิ้งไว้ ให้เธอตามต่อ...แต่...ไม่มีอะไรเลย มีแต่ความว่างเปล่า คนที่เธอปักใจเกลียด กลับยื่นมือเข้าช่วยเสียนี่ แถมตัวเองดัน...คิดอะไรแปลกๆ กับเขา ตาแก่เจ้าเล่ห์! เจ้าหนี้ ที่อยากจะเป็นเจ้าชีวิตเธอด้วย
บทที่1...
“ฉันไม่มีเงิน ฉันมีแต่หนี้ แต่...ฉันจะกลับไปทวงของของฉันคืน...ทุกอย่าง!! พร้อมกับดอกเบี้ย! ไอ้คนชั่ว!” เสียงแผดก้องของสาวสวยสีหน้าขึ้งโกรธ มือของเธอกำกระดาษหนังสือพิมพ์แน่นๆ หลังจากอ่านข่าวจากหน้าสังคมซุบซิบไฮโซ เจอคู่แค้นที่ทำให้เธอต้องกลายสภาพเป็นคนไร้บ้าน หนีตายหัวซุกหัวซุน
คณานางค์ อภิรักษ์ภูเบศ หล่อนเคยเป็นคุณหนูไฮโซ...ที่ใช้ชีวิตฟุ้งเฟ้อ ไร้แก่นสารไปวันๆ ก็คนมันรวยนี่ เรื่องเรียนไม่ใช่เรื่องใหญ่ บิดามีกิจการพันล้าน ต่อให้กินใช้สุรุ่ยสุร่าย ชั่วชีวิตก็ไม่มีทางหมด...แต่นั่นคืออดีต...
อะไรก็เกิดขึ้นได้ในโลกที่มีแต่ความวุ่นวาย...ฉะนั้นมันจึงไม่แปลก...
หากเศรษฐีจะกลายเป็นยาจก พร้อมกับจำนวนหนี้มหาศาล ซึ่งไม่รู้ว่าจะชดใช้หมดได้เมื่อไร
เหมือนดั่งเช่นคณานางค์ หลังบิดาร่วมมือทำงานกับคู่ค้าคนใหม่! ตระกูลดังจากฝั่งอเมริกา...มหาเศรษฐีวัย40ปี ที่หล่อเหลายิ่งกว่าดาราฮอลลีวูดบางคน นายมิเกล บาร์น ไอ้วายร้ายที่ทำให้บ้านเธออับปางลง จนครอบครัวพังไม่มีชิ้นดี พร้อมกับหนี้ท่วมหัว เพราะกิจการของบิดาถูกฟ้องล้มละลาย ข้อหาที่เขายัดเหยียดให้บิดา จนท่านต้องปลิดชีพล้างอายคือ...ฉ้อโกง!!
2เดือนก่อนหน้านี้...
คณานางค์ไม่เชื่อเด็ดขาดว่าบิดาจะเป็นคนเช่นนั้น เธอแทบล้มทั้งยืน หลังทราบข่าวการเสียชีวิตของคชาบิดา!! มันปุบปับจนตั้งตัวไม่ทัน พร้อมกับข่าวร้ายระลอกหนักยิ่งกว่า....เมื่อเธอไม่มีเงินสักบาทในบัญชีธนาคาร บัญชีที่เคยมีจำนวนเงินเกินเจ็ดหลัก แล้วเธอจะหาเงินที่ไหนล่ะ? เพื่อที่จะเหินฟ้ากลับบ้าน ไปทำพิธีส่งบิดาสู่ปรโลกครั้งสุดท้าย...ในฐานะลูก...
เงินในบัญชีของเธอเป็นศูนย์! เกิดอะไรขึ้นอีกล่ะนี่ หญิงสาวแทบคลั่ง เธอต้องบากหน้าไปร้องขอความช่วยเหลือจากบรรดาเพื่อนๆ ที่เคยเลี้ยงดูปูเสื่อกันมาตลอด พวกเขาเหน็บแนมเธอให้เจ็บใจแทบกระอักเลือด แต่...ที่ทำได้คือการก้มหน้าทน
เมื่อตัวเองจนหนทางจริงๆ
“ขอร้องนะแพร เราต้องใช้เงินด่วน”
เพื่อนสาวที่ตัวเองคิดว่าสนิทที่สุด หล่อนเบ้ปาก พร้อมกับปรายตามองเธอแบบหยันๆ คำพูดถากถางที่ไม่เคยคิดหลุดออกมาจากริมฝีปากสีสดนั่น ฟังยังไงก็หยอกแสยงในใจ
“ให้ยืม!! ...แล้วเมื่อไรเธอจะคืนฉันล่ะนาง...เธอแน่ใจได้ยังไงว่ามีคืน” ข่าวคราวของเธอกำลังดังกระฉ่อน ไม่มีใครในกลุ่มไม่รู้ จึงมีแต่สายตาเหยียดหยามและดูแคลน แต่คณานางค์ไม่คิดว่าเพื่อนที่เธอไว้ใจ จะเป็นไปเหมือนกับคนอื่นๆ ด้วย
“ไม่แน่ใจหรอกนะแพร!! แต่ฉันจะพยายาม” หญิงสาวตอบตามจริง เธอไม่รู้ว่าจะหาเงินมาคืนได้เมื่อไร แต่จะไม่มีทางเบี้ยวแน่ๆ
“ฉันไม่มีหรอกจ้า บ้านฉันไม่ได้ร่ำรวยเหมือนเธอนะนาง...ฉันต้องประหยัดเหมือนกัน” หล่อนบอกปัดพร้อมทั้งสะบัดหน้าพรืด!! ใส่จนคณานางค์เดือดปุดๆ บ่อยครั้งที่เธอยื่นมือช่วยเหลือแพรวา โดยไม่คิดเอาคืน เพราะคิดว่าหล่อนคือเพื่อน...แต่เมื่อเธอตกอับ เพื่อนที่สนิทที่สุด ทำกับเธอแบบนี้เหรอ?
“ไม่เป็นไรแพร...นางไปล่ะ คงต้องไปหาเพื่อนคนอื่น” เธอหมุนตัวกลับ ป่วยการอ้อนวอนคนที่ไม่คิดจะช่วย แถมจ้องจะทับถม
“ชิ! ให้ไปก็สูญนะสิ...”
เธอทันได้ยินคำพูดนั่นเข้าพอดี ใจเธอเจ็บแทบกระอัก แต่จะทำอะไรได้...นอกจากทน...
“นาง...เรามีแค่นี้ เก็บไว้นะไม่ต้องคืนหรอก” เพื่อนที่ไม่สนิทเลย แค่เห็นหน้ากันในวิทยาลัย’ แต่กลับยืนมือเข้าช่วย แบบไม่ลำเลิกบุญคุณด้วย หญิงสาวก้มหน้าลง เธอซาบซึ้งกับน้ำใจเพื่อน...ในวันที่เธอล้ม วันนั้นเองเธอถึงรู้ เพื่อนกินหาง่าย แต่เพื่อนตายนั่นหายากยิ่ง!!
“ขอบใจนะปูน...ขอบใจจริงๆ” ปูน ปริศา เพื่อนที่หน้าตาธรรมดา เอาแต่ก้มหน้าอ่านหนังสือเป็นส่วนใหญ่ เธอเรียนเก่งและไม่สนใจเที่ยวเตร่ เป็นคนเดียวที่คอยเตือนเธอ แต่ช่วงเวลานั้นคณานางค์กำลังเหลิง...
“ไม่เป็นไร รีบกลับเถอะ! ท่านกำลังรอนางอยู่” ปริศาได้แต่เตือนสติ หล่อนสงสารเพื่อแต่ช่วยได้เท่าที่ทำได้
“ฉันจะไม่มีวันลืมวันนี้! ความอัปยศทุกอย่างฉันจะทวงคืน” หญิงสาวเอ่ยอาฆาต หลังกำเงินไว้ในมือ หลังจากเพื่อนที่ไม่สนิทหยิบยื่นสตางค์ให้ แต่ใครก็ตามที่ทับถมเธอ จะขอจำไปจนวันตาย...
ยี่หวาไม่เคยคิดว่าปลายทางชีวิตของเธอจะจบลงแบบนี้ ก่อนที่เธอจะทิ้งอนาคตที่เหลือไปอย่างไร้ค่า เนื่องจากสุดที่จะทนกับความชอกช้ำที่ได้รับมาจากสามีคนเดียว เธอตัดสินใจฝากดวงใจของตัวเองไว้กับน้องสาวฝาแฝด น้องสาวที่ไม่มีคนรอบตัวรู้จัก มันคือความลับที่เธอปิดบังพวกเขาไว้ สมัยเด็กๆ พ่อกับแม่แยกทางกัน ทั้งสองท่านเลยแบ่งลูกไปเลี้ยงดูคนละคน ยี่หวาอยู่กับแม่ ส่วนญาดาไปอยู่กับบิดา สองสาวที่เหมือนกันทุกกระบิ แตกต่างที่นิสัย คนหนึ่งเรียบร้อย พูดน้อย น่ารัก ส่วนอีกคนตรงข้ามทุกอย่าง แกร่ง และกล้าท้าชน… และเพราะแค้นใจแทนพี่สาว ญาดาเลยรับปากก่อนยี่หวาสิ้นลม เธอจะเอาคืนทั้งสองคนนั้นให้สาสม ไม่ว่าจะเป็นปกป้องสามีสุดที่รักของยี่หวา หรือแม้แต่...ฉันทา ว่าที่ภรรยาคนใหม่แสนผยองคนนั้น สองคนนี้ต้องหาความสุขไม่ได้ เธอจะรังควานพวกเขา ให้เหมือนตกนรกทั้งเป็น...การจองเวรคืองานที่เธอควรทำ…ถ้าเป็นดั่งที่ตั้งใจไว้ ญาดาคงไม่กลุ้มใจหนัก ‘ความรัก’ บทจะมาก็มาประชิด เธออยากแก้แค้น แต่ดันไปหลงรัก ผู้ชายเลวคนนั้นเสียอีก หลังจากเฉดหัวฉันทา คงต้องหาทางมัดใจปกป้อง อย่างน้อยก็ทำเพื่อหลาน ถ้าเธอตกนรก เธอจะลากปกป้องตามไปด้วย...
คงไม่มีความซวยไหนเลวร้ายเท่ากับการถูกตราหน้าว่าเป็น ‘เด็กดริ้ง’ ความตั้งใจของณิรินคือไปจับผิดว่าที่พี่เขย แต่กลับกลายเป็นว่าเธอถูกเข้าใจผิดเสียเอง แถมผู้ชายคนนั้นดันเป็นคนสำคัญที่เธอต้องคอยดูแลระหว่างที่เขามาเจรจา เพื่อเป็นคู่ค้ากับบริษัทของลุงกับป้า หน้าที่นั้นเลยถูกโยนมาให้ณิรินรับผิดชอบ ผู้ชายปากร้ายเอาแต่ใจตัวเอง ค่อนข้างงี่เง่าคนนั้น เขาคิดว่าเธอมีอาชีพเสริม และพยายามเกาะแกะจนณิรินโมโห บางครั้งณิรินก็อดคิดไม่ได้ มันเป็นเพราะช่วงเบญจเพศของเธอหรือเปล่า เรื่องซวยๆ เลยเกิดขึ้นกับเธอไม่หยุดหย่อน
เสียงของเขาดังก้องอยู่ในหู ฉันไม่สามารถสลัดเสียงแหบๆ ของเขาออกไปจากความทรงจำได้เลย นี่เกิดอะไรขึ้นกับฉันนะ สิ่งที่ฉันคิดอยู่นี่คือ...ความผิด แม้จะเป็นแค่ความคิด แต่มันเป็นก้าวแรกที่ฉันตั้งใจทำผิดศีลธรรม กับผู้ชายที่มีภรรยาแล้ว!! ฉันกำลังเป็นคนเลว และอีกไม่ช้า ฉันคงโดนคนทั้งโลกประณามหากฉันไม่หยุดความคิดทุเรศๆ นั่นเสียตั้งแต่ตอนนี้ จะทำยังไงดีล่ะ? ฉันคิดอะไรไม่ออกเลย มีเพียงเสียงแหบๆ ของคน คนนั้นดังก้องอยู่ในหูเท่านั้น “สามีของเธอเดินทางไปทำธุรกิจ” “เธอบอกว่าสามีของเธอจะไม่อยู่ประมาณหนึ่งอาทิตย์!!” “มันจะดีแค่ไหนนะ หากฉันเปลี่ยนสิ่งที่ได้ยินได้ เขาน่าจะไปซัก7ปี” ผมพยายามข่มใจให้รู้สึกเศร้าตาม แต่หัวใจของผมกลับเต้นระรัวเกินกว่าจะควบคุมได้ “คุณอยู่ที่ไหน?
รัชศกปีที่สิบ มันเป็นช่วงเวลาแสนสุขที่ลืมไม่ลง แม้เวลาจะผ่านมาเนิ่นนาน ครั้งหนึ่ง ข้าเคยเป็น ‘สาวงาม’ ที่ผู้คนทั้งเมืองหลงใหล เมืองหลวงกว้างใหญ่ใต้แผ่นฟ้าเดียว ข้าผู้มาก่อนกาล เดิมทีข้าคิดว่าเป็นแค่ความฝันหนึ่งตื่น แต่ที่ไหนได้ ทุกเหตุการณ์ที่ข้าพบเจอ คือเรื่องราวที่เกิดขึ้นจริง ความสุขที่ท่วมท้นอยู่ในใจ เป็นความทรงจำเดียวที่ทำให้ข้าอยากมีชีวิตอยู่ต่อ เพื่อ...รอ...ใครบางคน
เมื่อสามีตะโกนใส่หน้า “ผมต้องการหย่ากับเธอ!! คนที่ผมรักเขากลับมาหาผมแล้ว” เมษาเซ็นจำใจชื่อบนใบหย่าพร้อมทั้งน้ำตาที่ไหลพรู เธอตัดสินใจเก็บงำความลับไว้กับตัว พร้อมกับจากไปโดยไม่ปริปากบอกคีรินเลยสักคำ ผ่านไป 5 ปี เด็กชายคนหนึ่งมาตามหาพ่อ... “ผมจะไปหาพ่อผม ปล่อยผมนะ!!” เสียงแผดก้องบริเวณหน้า ล็อบบี้ แม้แต่คีรินเองยังอดสนใจไม่ได้ เด็กชายคนหนึ่งถูก รปภ. รั้งตัวไว้ เขาดิ้นกระแด๋วๆ ตะโกนลั่น ผิวทั้งหน้าแดงก่ำ มีเม็ดเหงื่อผุดเต็มไปหน้า และเมื่อเด็กชายวิ่งตรงมาหาเขา “พ่อคร๊าฟฟฟฟฟ” คิรินเข่าอ่อน สัญชาตญาณบางอย่างเตือน เด็กชายตรงหน้าเขานี่ เป็นเลือดเนื้อส่วนหนึ่งของเขาร้อยเปอร์เซ็นต์
เป็นข้อเสนอที่น่าสนใจไม่หยอก หากสามารถปราบพยศผู้ชายเจ้าอารมณ์ได้ ดานันจะเป็นอิสระจากข้อผูกมัดของบิดา ทว่า...ในความโชคร้าย มีความโชคดีแอบแฝงอยู่ ว่าที่สามีของเธอ เป็นบุตรชายผู้มั่งคั่งของตระกูลใหญ่ แต่เขาเพิ่งสูญเสียดวงตาไปจากอุบัติเหตุ ดานันต้องรองรับความเกรี้ยวกราดเช่นนี้ จนกว่าจะเปลี่ยนความคิดของเขาได้ ครามไม่ได้พิกลพิการมาตั้งแต่กำเนิด เขามีหนทางรักษาได้ ขึ้นอยู่กับว่า...ดานันจะโน้มน้าวว่าที่สามีของเธอได้หรือเปล่า
ฉู่ว่านยู ผู้สืบเชื้อสายมาจากตระกูลแพทย์แผนโบราณ มีทักษะทางการแพทย์ที่ยอดเยี่ยม ยาที่เธอทำนั้นทุกคนต่างอยากได้ สามารถรักษาได้ทุกโรค แต่กลับไม่คาดคิดว่าจะย้อนยุค กลายเป็นผู้หญิงที่ขี้เหร่ที่สุดในใต้หล้า และยังเอาชนะใจท่านอ๋องด้วย การเริ่มต้นไม่ค่อยดีก็ไม่เป็นไร มาดูกันว่าเธอจะพลิกผันยังไง การแย่งการแต่งงานงั้นเหรอ? เธอทำให้น้องต้องรับบทเรียน แย่งสินเิมดลับมา ให้ชายั่วหญิงร้ายคู่นี้อยู่ด้วยกันตลอดไป ขี้ขลาดเหรอ? เธอจัดการพ่อร้าย สั่งสอนผู้หญิงเสแสร้ง! ขี้เหร่เหรอ? เธอรักษาพิษในตัว และกลายเป็นคนงามอันน่าทึ่ง! ลูกสาวขี้เหร่ของจวนอัครมหาเสนาบดี กลายเป็นผู้สูงส่ง แม้แต่ผู้โหดเหี้ยมบางคนยังหวั่นไหวกับเธอ เมื่อสุดที่รักจะจัดการผู้ใด เขามักจะช่วยเสมอ... แต่น่าเสียดายสุดที่รักคนนั้นไม่มีเขาอยู่ในใจ ฉู่ว่านยู "ออกไป หย่าเลย ผู้ชายมีแต่เป็นภาระของข้าเท่านั้น" เสี่ยวลี่จิงรู้สึกน้อยใจ "ไม่ได้ ข้าให้ครั้งแรกกับเจ้าแล้ว เจ้าต้องรับผิดชอบข้า"
ตลอดสิบปีที่ฉู่จินเหอรักเหลิ่งมู่หยวนฝ่ายเดียว เอาใจใส่กับเขาอย่างเต็มที่ แต่เธอไม่เคยคิดว่าที่แท้เธอเป็นแค่ตัวตลกคนหนึ่งเท่านั้น ที่สำนักงานเขตเพื่อทำการหย่า เหลิ่งมู่หยวนมองดูฉู่จินเหอด้วยความเย็นชาและพูดอย่างเหยียดหยามว่า "ถ้าเธอคุกเข่าลงและขอร้องฉัน ฉันอาจจะให้โอกาสเธอกอีกครั้ง ฉู่จินเหอเซ็นอย่างไม่ลังเลและออกจากตระกูลเหลิ่ง สามเดือนต่อมา ฉู่จินเหอปรากฏตัวอย่างเปิดเผย ในเวลานั้น เธอเป็นประธานเบื้องหลังของ LX นักออกแบบลับที่ล้ำค่าที่สุดในโลก และเจ้าของเหมืองที่มีมูลค่าหลายร้อยล้าน ทางตระกูลเหลิ่งคุกเข่าลงและขอร้องให้คืนดีและขอการให้อภัย ฉู่จินเหอแยู่ในโอบกอดของซีอีโอโจว ซึ่งเป็นคนใหญ่คนโตในโลกธุรกิจอย่างมีความุข เธอเลิกคิ้วพลางเยาะเย้ย "ฉันในตอนนี้ไม่ใช่คนที่พวกคุณมาเกี่ยวข้องได้"
เสิ่นชิงกลายเป็นลูกสาวของชาวนาจากคุณหนูที่ร่ำรวยของตระกูลเสิ่นในชั่วข้ามคืน ลูกสาวตัวจริงใส่ร้ายเธอ คู่หมั้นของเธอทำให้เธออับอาย และพ่อแม่บุญธรรมของเธอก็ไล่เธอออกจากบ้าน... ทุกคนต่างรอที่จะหัวเราะเยาะเธอ ทว่าเธอกลับกลายเป็นทายาทของตระกูลเศรษฐีในเมืองอย่างกะทันหัน นอกจาดนี้ เธอยังมีตัวตนหลากหลาย เช่น หัวหน้าแฮ็กเกอร์ระดับนานาชาติ นักออกแบบเครื่องประดับชั้นนำ นักเขียนผู้ยิ่งใหญ่ที่ลึกลับ และอัจฉริยะด้านการแพทย์! พ่อแม่บุญธรรมเสียใจกับการตัดสินใจของตนและบังคับให้เธอแบ่งทรัพย์สินครึ่งหนึ่งให้เพราะพวกเขาเลี้ยงดูเธอมา เมื่อเสิ่นชิงหยิบกล้องออกมาแล้วบันทึกท่าทางอันน่าเกลียดของพวกเขา อดีตคู่หมั้นรู้สึกเสียใจและพยายามจะคืนดีกับเธอ เสิ่นชิงหัวเราะเยาะ "เขาคู่ควรงั้นเหรอ" จากนั้นก็ไล่เขาออกจากเมือง ในที่สุด ผู้มีอำนาจแห่งเมืองก็พูดอ้อนวอนเบาๆ "ไม่จำเป็นต้องแต่งเข้าตระกูลผม เดี๋ยวผมไปหาเอง"
เพิ่งหย่ากับอดีตสามีไปไม่นานแต่ปรากฏว่าตัวเองท้อง จะทำอย่างไรดี? หรือจะให้อดีตสามีรับผิดชอบ แต่ก็ไม่คิดว่าอดีตสามีมีคนรักใหม่ไปแล้ว ชีวิตของถังชีชีนั้นช่างสับสน ช่างน่าวิตกกังวลและไม่รู้จะอธิบายยังไงดี เธอต้องคอยระวังไม่ให้คุณเฟิงรู้เรื่องการตั้งครรภ์จนกระทั่งคลอดลูกออกมาอย่างปลอดภัย แต่ไม่คิดว่าจะถูกเขาบังคับถึงเพียงนี้ "เราหย่ากันแค่สี่เดือน แต่เธอกลับตั้งครรภ์ได้เจ็ดเดือนแล้ว บอกมาดี ๆ ว่า ลูกเป็นของใคร!"
หลังจากแต่งงานได้ 2 ปี ในที่สุดเจียงเนี่ยนอันก็ตั้งครรภ์สักที ความดีอกดีใจของเธอแต่กลับแลกกับคำขอหย่าของสามี หลังจากการสมคบคิด เธอนอนในกองเลือด และต้องการขอร้องเขาให้ช่วยเด็กเอาไว้ แต่กลับไม่สามารถติดต่อกับอีกฝ่ายได้ ด้วยความสิ้นหวังเธอจึงออกจากประเทศไป ต่อมาในงานแต่งงานของเจียงเหนียนอัน คุณกู้เสียการควบคุมและคุกเข่าลง ดวงตาของเขาแดงก่ำ "มีลูกของฉัน แล้วเธออยากจะแต่งงานกับใครกัน?"
เว่ยจื้อโหยวลืมตาตื่นขึ้นมาอีกครั้งพบว่าตนอยู่ในยุคสมัยที่ไม่คุ้นเคยสิ่งรอบกายดูโบราณล้าหลัง โลกโบราณที่ไม่มีในประวัติศาสตร์โลก ยังไม่ทันได้เตรียมใจก็ถูกส่งให้ไปแต่งงานกับชายยากจนที่ท้ายหมู่บ้าน สาเหตุที่เว่ยจื้อโหย่วถูกส่งมาให้แต่งงานกับชายที่ขึ้นชื่อว่ายากจนที่สุดในหมู่บ้านนั้น เพราะนางเกิดไปต้องตาต้องใจเศรษฐีผู้มักมากในกามเข้า เพื่อหาทางหลีกเลี่ยงไม่ให้ถูกบ้านใหญ่ขายไปเป็นอนุภรรยาของเศรษฐีเฒ่า พ่อแม่ของนางจึงยอมแตกหักจากบ้านใหญ่และท่านย่าที่เห็นแก่ตัวและลำเอียงเป็นที่สุด ด้วยเหตุนี้พ่อแม่ของนางจึงตัดสินใจยกนางให้กับอวิ๋นเซียว ชายหนุ่มที่แสนยากจนข้นแค้น ที่เพิ่งเสียบิดามารดาไป อีกทั้งยังทิ้งน้องชายน้องสาวเอาไว้ให้เขาเลี้ยงดู นอกจากนี้ยังมีป้าสะใภ้มหาภัยที่คอยแต่จะมารังแกเอารัดเอาเปรียบสามพี่น้อง สิ่งที่ย่ำแย่ที่สุดไม่ใช่ป้าสะใภ้มหาภัย แต่ มันคืออะไรแต่งงานนางไม่ว่ายังไม่ทันได้เข้าหอสามีหมาดๆ ก็ถูกเกณฑ์ไปเป็นทหารในสงครามระหว่างแคว้น มันไม่มีอะไรเลวร้ายไปมากว่านี้อีกแล้วสำหรับ เว่ยจื้อโหยว หากสามีทางนิตินัยของนางตายในสนามรบ ก็ไม่เท่ากับว่านางเป็นหม้ายสามีตายทั้งที่ยังบริสุทธิ์หรอกหรือ แถมยังต้องเลี้ยงดูน้องชายน้องสาวของอดีตสามีอีก สวรรค์เหตุใดถึงได้ส่งนางมาเกิดใหม่ในที่แบบนี้