เดวิดคืออดีตทหารรับจ้างสัญชาติอเมริกัน และตอนนี้เขาก็คือบอดี้การ์ดหุ่นล่ำน่าปล้ำของคุณหนูผู้มีชื่อเสียงฉาวโฉ่ พราวพลอย เธอคือคุณหนูผู้ร่ำรวย ใครๆ มองว่าเธอร้ายกาจทั้งๆ ที่แท้จริง เธอถูกใครบางคนใส่ร้าย! หล่อนต้องการมากกว่านี้...! เดวิดรู้ดีว่าสาวสวยเจ้าของเต้าอวบอัดร้องขออะไร แต่เขายังให้หล่อนไม่ได้ เพราะเขายังต้องสำรวจตรวจตราสมบัติของตัวเองให้ทุกตารางนิ้วเสียก่อน หล่อนหวานทั้งตัวเนื้อทั้งตัว หัวนมก็ดูดมันส์ปากมาก เต้านมก็ใหญ่โตยิ่งบีบยิ่งขยำก็ยิ่งเด้งดึ๋งตามติดอุ้งมือ แต่นั่นยังไม่ใช่จุดสุดท้ายที่เขาจะสำรวจ “อ๊า... ได้โปรด... เดวิดขา... ได้โปรด... ฉัน... ฉันต้องการคุณ... อ๊า...”
พราวพลอย กิติวิริยะ ลูกสาวคนสวยของท่านพันตำรวจตรี วิชาญ กิติวิริยะ หญิงสาวอายุยี่สิบเอ็ดปีบริบูรณ์ และเพิ่งจะจบชั้นปริญญาตรีจากมหาวิทยาลัยเอกชนชื่อดังมาหมาดๆ
พราวพลอยถูกเลี้ยงอย่างตามใจ เพราะท่านวิชาญสงสารบุตรสาวที่ต้องกำพร้าแม่มาตั้งแต่เล็ก และถึงว่าท่านวิชาญจะแต่งงานใหม่อีกครั้งกับต้นห้องคนสนิทของอดีตภรรยาผู้ล่วงลับไปแล้ว แต่ความรักความเมตตาที่ท่านวิชาญมีต่อลูกสาวนั้นก็ไม่เคยลดน้อยถอยลงเลย มีแต่จะเพิ่มมากขึ้นด้วยซ้ำ เพราะไม่ว่าลูกสาวคนสวยจะต้องการอะไร เขามอบให้ทุกอย่าง ยกเว้นก็แค่ดาวกับเดือนเท่านั้น ที่เขาไม่สามารถสอยลงมาให้กับพราวพลอยได้
แม้พราวพลอยจะเป็นเด็กเอาแต่ใจ แต่เนื้อแท้แล้วหญิงสาวเป็นคนใจดี มีเมตตา หล่อนมีเพื่อนสนิทมากมาย หนึ่งคนนั้นก็คือ สรินนา ลูกติดของดารา ต้นห้องของมารดาที่ตอนนี้ได้เลื่อนขั้นเป็นเมียตบเมียแต่งของบิดาเรียบร้อยแล้วนั่นเอง
ความสัมพันธ์ของหล่อนกับสรินนาแนบแน่น หล่อนแบ่งปันทุกอย่างให้กับสรินนา เพราะเห็นว่าสรินนาน่าสงสาร แต่แล้วหล่อนก็พบว่าสรินนาไม่ได้จริงใจกับหล่อนแม้แต่นิดเดียว
ภายใต้ใบหน้าเรียบร้อยอ่อนโยนและดวงตาอันเศร้าหมองของสรินนาได้ซ่อนความอิจฉาริษยาเอาไว้มากมายจนน่าตกใจ
สรินนาใส่ร้ายหล่อน นำหล่อนไปพูดเสียๆ หายๆ ให้กับเพื่อนๆ ฟัง ในขณะที่ต่อหน้าของหล่อน สรินนาทำตัวเป็นคนดี คนน่าสงสาร
หล่อนมารู้เช่นเห็นชาติของสรินนาก็ตอนที่อยู่ปริญญาตรีปีที่หนึ่ง และหลังจากนั้น หล่อนก็ไม่ได้ข้องเกี่ยวกับสรินนาอีกเลย
สรินนาเรียกร้องความสงสารจากทุกคนได้อย่างแนบเนียน และไม่ว่าหล่อนจะพยายามอธิบายอะไรออกไปมันก็ไร้ความหมายอย่างสิ้นเชิง จนหล่อนเลิกที่จะสนใจไยดีกับการกระทำของสรินนาอีกต่อไป
ชีวิตของหล่อนเหมือนจะสงบสุขขึ้น เมื่อไม่ต้องข้องแวะกับสรินนา แต่แล้วโชคชะตาก็ทำให้หล่อนต้องเข้าไปพัวพันกับผู้หญิงหน้าซื่อใจคดอย่างสรินนาอีกครั้ง เมื่อบิดาได้ว่าจ้างบอดี้การ์ดเข้าให้มาดูแลหล่อน หลังจากที่หล่อนถูกดักทำร้าย ซึ่งบอดี้การ์ดคนนั้นคืออดีตทหารรับจ้างสัญชาติอเมริกัน ชื่อว่า เดวิด บราวน์
เดวิด เป็นผู้ชายที่ตัวโตมากๆ หุ่นล่ำสัน มีกล้ามเนื้อไปทุกสัดส่วน บอกให้รู้ว่าเขาได้รับการฝึกฝนแบบทหารมาอย่างเข้มข้นแค่ไหน
หล่อนจำได้ว่าตนเองจับจ้องมองผู้ชายคนนี้อย่างลืมตัวอยู่นาน จนกระทั่งถูกเสียงบิดากระแอมเตือนนั่นแหละ จึงได้สติ แต่ไม่ใช่แค่หล่อนคนเดียวหรอกที่เห็นเดวิดแล้ว
หัวใจเต้นสะท้าน เพราะสรินนาเองไม่ต่างกัน หล่อนเห็นอดีตเพื่อนสนิทจ้องมองเดวิดไม่วางตาเลยทีเดียว
“ลูกพลอย นี่เดวิดนะ เขาจะมาเป็นบอดี้การ์ดให้กับลูก”
“ความจริงพลอยไม่จำเป็นต้องมีบอดี้การ์ดหรอกค่ะคุณพ่อ พลอยไม่ได้มีปัญหาอะไรกับใครสักหน่อย”
พราวพลอยเอ่ยตอบบิดา และก็ไม่ปรายตามองเดวิดอีกเลย ไม่ใช่ว่ารังเกียจรังงอนอะไรเขาหรอกนะ แต่ว่าหล่อนรู้สึกประหม่ายามสบสายตากับดวงตาสีฟ้าจัดของเขาต่างหาก
หัวใจไม่เคยเต้นแรงแบบนี้กับผู้ชายคนไหนมาก่อนเลย
“ทำไมคุณพลอยถึงปฏิเสธความหวังดีของคุณลุงแบบนี้ล่ะคะ มันไม่เหมาะนะคะ”
สรินนาสอใส่เกือกเอ่ยขึ้นก่อนที่บิดาจะทันได้ตอบออกมาเสียอีก
หล่อนตวัดตามองสรินนาที่ยืนตีหน้าเรียบร้อยด้วยความหมั่นไส้ และด้วยนิสัยที่ปากตรงกับใจเสมอ ทำให้พราวพลอยโต้แย้งออกไปอย่างเจ็บแสบ
“ฉันคิดว่าเธอไม่ควรเสนอหน้าออกความคิดเห็น เพราะฉันไม่ได้ต้องการคำแนะนำจากเธอ”
“เอ่อ... นาขอโทษค่ะคุณพลอย”
สรินนาบีบน้ำตาให้ไหลออกมาได้อย่างที่ใจสั่ง มันน่าทึ่งและน่าสมเพชมากในสายตาของพราวพลอยที่รู้ทันผู้หญิงคนนี้ แต่คนอื่นคงจะกำลังสงสารสรินนากันยกใหญ่เลยทีเดียว โดยเฉพาะพ่อบอดี้การ์ดหุ่นล่ำน่าปล้ำอย่างเดวิด เพราะหล่อนเห็นเขามองสรินนาด้วยแววตาอ่อนโยน ก่อนจะตวัดมองหล่อนด้วยสายตาที่ให้ความรู้สึกตรงกันข้ามกัน
“อย่ามาตอแหล”
“ลูกพลอยพอเถอะ อย่าไปว่าหนูนาเลย หนูนาคงแค่หวังดีน่ะลูก”
“หึ... หวังดีประสงค์ร้ายสิไม่ว่า เมื่อไหร่คุณพ่อจะมองผู้หญิงคนนี้ออกคะ ว่าผู้หญิงคนนี้เลวแค่ไหน”
“หนูนาไม่ได้เป็นอย่างนั้นหรอกลูกพลอย”
“ทำไมคุณพ่อจะต้องปกป้องผู้หญิงคนนี้ด้วยคะ ลูกก็ไม่ใช่สักหน่อย”
หล่อนโมโหบิดาจนเก็บอารมณ์ไม่อยู่
“คุณลุงขา อย่าไปตำหนิคุณพลอยเลยค่ะ นาผิดเองที่พูดขึ้นโดยไม่ทันคิด”
สรินนาแทรกขึ้นด้วยน้ำเสียงเจือสะอื้น ก่อนจะเดินเข้ามาหยุดตรงหน้าพราวพลอย และคุกเข่าลงกับพื้น ท่ามกลางความตกใจกับทุกคน รวมถึงพราวพลอยด้วย เพราะไม่คิดว่าสรินนาจะเล่นใหญ่เบอร์นี้
“คุณพลอยคะ... นาขอโทษค่ะ”
พราวพลอยเมินหน้าหนีอย่างสมเพชดาราเจ้าบทบาทตรงหน้า ในขณะที่เดวิดก้าวมารั้งให้สรินนาลุกขึ้นยืน
“คุณลุกขึ้นเถอะครับ”
“ไม่เป็นไรค่ะ นา... นาทำให้คุณพลอยไม่สบายใจ นาสมควรทำแบบนี้แล้วล่ะค่ะ”
“ลูกพลอย พ่อว่า...”
“อยากคุกเข่าก็ทำไป แล้วอย่าลุกล่ะ เพราะฉันไม่มีทางให้อภัยคนปากว่าตาขยิบแบบเธอหรอก”
พราวพลอยยิ้มดูแคลน หล่อนก็อยากจะรู้นักว่าสรินนาจะคุกเข่าต่อไปอีกนานแค่ไหน
“นายินดีค่ะ ถ้าเป็นความต้องการของคุณพลอย...”
พราวพลอยมองสรินนาอย่างรู้เช่นเห็นชาติ “ตอแหลได้โล่เลยนะหล่อนน่ะ”
“ลูกพลอย...” บิดาปรามหล่อน
“คุณพ่อคะ ผู้หญิงคนนี้หน้าไหว้หลังหลอก เมื่อไหร่คุณพ่อจะรู้สักทีคะ”
สรินนาแกล้งทำเป็นสะอื้นดังๆ เรียกร้องความเห็นใจจากทุกคน และมันก็ได้ผล
วิชาญถอนใจออกมาอย่างอ่อนอกอ่อนใจ เพราะจะขัดใจลูกสาวมากก็ไม่ได้ ทั้งๆ ที่สงสารสรินนาไม่น้อยเลยทีเดียว
เมื่อ คิมหันต์ ชายหนุ่มหล่อ รวย ทายาทคนเดียวของตระกูล ถูกใจ พอฤทัย นักกายภาพบำบัดที่คุณย่าจ้างมา เขาคิดว่าหล่อนง่าย แต่หล่อนกลับไม่ได้เป็นอย่างที่เขาคิดเลย หล่อนสวย แต่ยาก และนั้นก็ยิ่งทำให้เขากระหาย ยิ่งอยากได้หล่อนจนใจจะขาด ++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++ ประตูห้องยังไม่ทันจะปิดสนิท คิมหันต์ก็ดึงคนตัวเล็กเข้ามาประกบปากจูบดูดดื่ม ราวกับว่าถ้ารออีกนิดเดียวเขาจะขาดใจตาย "คุณคิมหันต์ อย่าค่ะ...คุณปวดเอวอยู่ไม่ใช่เหรอ?" หล่อนจับมือที่บีบขยำนมออก แต่เขาก็เอาขึ้นมาบีบใหม่ ก้มหน้าลงกระซิบข้างหู "ปวดก็ต้องซ้ำครับ จะได้หายปวด" พูดจบก็อุ้มร่างบางขึ้นแนบอกทันที พอฤทัยรู้ว่าโดนหลอก ก็โมโหเอาฟันกัดที่หัวไหล่เขาไปทีหนึ่ง แล้วก็รู้ว่าตัวเองทำผิดพลาดครั้งใหญ่ เมื่อได้ยินประโยคที่เขาพูดออกมา "ที่แท้คุณก็ชอบความรุนแรงนี่เอง ได้เลยครับเมียจ๋า...เดี๋ยวผัวจัดให้" เขาเดินก้าวยาว ๆ จนมาถึงเตียง วางร่างบางบนที่นอน จากนั้นก็ถอดเหมือนกระชากชุดของหล่อนออกจากร่าง ตามด้วยเสื้อผ้าของตัวเอง แล้วทาบทับลงไป "เห็นคุณชอบความรุนแรงแบบนี้ แสดงว่าต้องชอบแบบจูบแรกของเราด้วยใช่ไหม?" เขาเคลื่อนหน้าลงมาถาม หล่อนถลึงตาใส่เขา เมื่อนึกถึงจูบรุนแรง ที่มีแต่ความเจ็บตรงหน้าห้องน้ำ "ก็ลองทำอีกสิ คราวนี้ฉันจะกัดลิ้นคุณให้ขาดเลย" เขาได้ยินก็หัวเราะเสียงร่วนออกมา ก่อนจะก้มหน้าลงไปจูบกลีบปากอิ่มอ่อนโยน และเปลี่ยนเป็นร้อนแรงขึ้นในเวลาต่อมา
นนท์ปวิธคือคุณหมอหนุ่มรูปงามและใจดี และมีเพียงแค่เธอคนเดียวเท่านั้นที่ได้เห็นมุมมืดของผู้ชายคนนี้ มุมมืด... ที่เขาสร้างเอาไว้เพื่อทำร้ายเธอเพียงคนเดียว +++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++ "นอนกับฉัน แล้วฉันจะยอมช่วยลูกสาวของเธอ" นี่คือข้อเสนอของนายแพทย์นนท์ปวิธ อริณวัฒน์ ศัลยแพทย์หัวใจชื่อดังของเมืองไทย เขาคือเทพเจ้าแห่งการผ่าตัดหัวใจ เพราะคนไข้ทุกคนที่ผ่านมีดผ่าตัดของเขาจะประสบความสำเร็จทุกราย ทุกคนต่างชื่นชมในฝีมือและความมีน้ำใจของคุณหมอหนุ่มหล่อคนนี้มาก เขาคือเทพบุตร คือเทวดาสำหรับคนไข้และญาติๆ แต่ในมุมมืดของเขามีเพียงแค่หล่อนคนเดียวที่ได้เห็น แน่ล่ะ... เขาสร้างมุมมืดเอาไว้เพื่อทำร้ายหล่อนแค่เพียงคนเดียวเท่านั้น "ตกลงค่ะ" รอยยิ้มหยันเกลื่อนใบหน้าหล่อเหลาของนายแพทย์นนท์ปวิธ ขณะที่เคลื่อนเรือนร่างสูงโปร่งหกฟุตสามนิ้วเข้ามาหยุดใกล้ๆ "งั้นก็คืนนี้เลย" "ตาว... ขอเวลา..." "ลูกสาวของเธอ มีเวลาเหลือเยอะสินะ" "เอ่อ..." "ฉันต้องการเอาเธอคืนนี้..." แล้วเท้าใหญ่ก็ขยับเข้ามาใกล้ขึ้นอีก จนตอนนี้ร่างกายอยู่ห่างกันแค่เพียงฟุตเดียวเท่านั้น กลิ่นหอมเฉพาะตัวของเขาโชยฟุ้งเข้ามาในจมูก ทำให้รจิตราตัวสั่นเทา หล่อนช้อนตาขึ้นมองคนตัวสูง ซึ่งเขาก็ลดสายตามองลงมามองพอดี ดวงตาสองดวงสบประสานกัน โลกทั้งใบหยุดหมุน ความทรงจำเมื่อห้าปีก่อนย้อนกลับเข้ามาราวกับสายน้ำไหลหลาก ความทรงจำที่หล่อนไม่เคยลืม... และใช้มันหล่อเลี้ยงหัวใจมากว่าห้าปี
ในสายตาของทุกคน คชาวุฒิเก่งฉลาด สุภาพเรียบร้อย และสุดเนิร์ด คงมีเพียงแค่เธอคนเดียวเท่านั้น ที่รู้ว่าใต้แว่นตาหนาของเขาซ่อนความร้อนแรงเอาไว้มากแค่ไหน ไม่รู้จะอวยยศให้อาจารย์ฟิสิกส์คนนี้ยังไงดี แต่รับประกันว่าอาจารย์แซ่บมาก แซ่บฉ่ำแฉะ^^ +++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++ "ตรงไหนดี..." หล่อนควรต่อต้านสิ ควรผลักไส เพราะมันไม่ใช่เรื่องที่ควรเกิดขึ้นเลย แต่... แต่ร่างกายของหล่อนมันอ่อนระทวยไม่มีแรงเลย "ตรงไหนดีเด็กน้อย..." เขากระซิบถามเสียงกระเส่า "ถ้าคุณไม่ตอบ ผมจะเลือกเองนะ..." "อาจารย์... หนู... หนู..." ใบหน้านวลแดงระเรื่อ ตอนนี้สมองของหล่อนขาวโพลนไร้ความคิดชั่วคราว รอยยิ้มจากปากหยักสวยของอาจารย์ฟิสิกส์สุดหล่อช่างบาดใจเหลือเกิน เขาค่อยๆ ย่อตัวลง และคุกเข่าลงกับพื้น ขณะที่สายตาช้อนขึ้นมาสบประสานกับหล่อนตลอดเวลา ไฟร้อนๆ ในดวงตาของเขากำลังแผดเผาให้หล่อนมอดไหม้ "อา... จารย์..." นี่เขากำลังจะทำอะไรน่ะ เขาคุกเข่าทำไม
พระเอกเรื่องนี้แรกๆ จะออกแนวปากหมา ใจร้าย ชอบทำนางเอกช้ำใจ แต่หลังจากเห่าหอนเป็นแล้ว ก็จะกลายเป็นหมาโบ้คลั่งรักสุดๆ เลยค่ะ ไรต์นอนยันเลย 555+++ คำเตือน... พระเอกเรื่องนี้โบ้ซ้ำโบ้ซ้อนโบ้ไม่ปรานีใคร 55 ++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++ "คุณ... ภาม... เป็นอะไรคะ..." คำถามของหล่อนตะกุกตะกักจนแทบฟังไม่เป็นคำ "หึ... ยังจะมีหน้ามาถามอีกหรือคาลิสา!" เขายื่นมาบีบคอของหล่อน และนั่นก็ทำให้หล่อนตกใจแทบช็อก "คุณภาม... ครีม... กลัว..." ทำไมเขาทำแบบนี้ ทำไมภาวินทร์ถึงบีบคอหล่อนล่ะ แม้จะไม่ได้บีบแรงนัก แต่ก็ทำให้หล่อนกลัวจนแทบหยุดหายใจ "เธอนี่มันเลี้ยงไม่เชื่อง" "คุณภาม... พูดอะไรคะ ครีมไม่เข้าใจ... อ๊ะ..." นิ้วยาวของเขาบีบเค้นลงกับลำคอขาวผ่องของหล่อนแรงขึ้น จนหล่อนเกือบจะหายใจไม่ออก "ยังจะมีหน้ามาถามอีกเหรอ เธอไปทำอะไรเอาไว้ล่ะ" "ครีม... ครีมเปล่า..." "เลิกตอแหลเถอะ ฉันรู้เรื่องจากน้องอัญหมดแล้ว" "..." "เธอจงใจละเมิดข้อตกลงของเรา" "ครีมเปล่านะคะ คุณอัญเธอรู้อยู่แล้ว... เธอรู้จากคุณภามไม่ใช่เหรอคะ..." หล่อนพยายามจะอธิบายในมุมของตัวเอง แต่ชายหนุ่มไม่ยอมรับฟัง "เธอเดือดร้อน ฉันก็ช่วย ให้ข้าวให้น้ำ ให้เงิน เซ็กซ์ดีๆ ฉันก็ให้ งานก็มีให้ทำ แล้วเธอยังต้องการอะไรจากฉันอีก อยู่เงียบๆ อยู่ในที่ตัวเองไม่ได้หรือไง หื้อ!" "ครีม... ฮืออออ..." "แล้วเธอยังมีหน้าไปโกหกน้องอัญว่าท้องกับฉันอีกเหรอ เธอกล้าดียังไงพูดแบบนั้นออกไป คาลิสา!" หากหล่อนบอกออกไปว่าตัวเองกำลังตั้งท้องลูกของเขาจริงๆ ภาวินทร์ก็คงจะไม่เชื่อ ใช่... เขาไม่มีทางเชื่อหรอก ตอนนี้เขาเชื่อคำพูดของคู่หมั้นคนสวยของเขาคนเดียวเท่านั้น "ตอบมาสิ... เธอท้องลูกของฉันจริงหรือเปล่า" ใบหน้าที่เปียกชุ่มไปด้วยหยาดน้ำตาส่ายไปมา ก่อนจะตอบเสียงสะอื้น "ไม่... ไม่ได้ท้องค่ะ..." "หึ... นึกอยู่แล้วเชียว เธอมันก็แค่ผู้หญิงมารยา ที่ต้องการทำให้ฉันเดือดร้อนเท่านั้นเอง" เขาหยุดบีบคอของหล่อน และผลักร่างของหล่อนออกห่าง แสดงท่าทางรังเกียจออกมา "เราเลิกกันเถอะ"
เรื่องนี้พระเอกเป็นพวกชอบวิ่ง ตอนแรกวิ่งหนี ตอนหลังวิ่งชนจนมดลูกน้องแทบอักเสบ ฝากติดตามเป็นกำลังใจให้ไรต์ด้วยค่ะ เลิฟ เลิฟ ++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++ "พี่วิศ... ทำไมพี่เปลี่ยนไปแบบนี้คะ... อื้อ... อย่าทำแบบนี้สิคะ... " แม้จะพยายามขัดขืน แต่เสียงก็แผ่วเบา และอ่อนแรงเหลือเกิน "แล้วชอบพี่แบบนี้ไหมล่ะครับ... อืมม หอมจัง" ปลายจมูกของเขาซุกไซ้อยู่ที่ลำคอ ในขณะที่ฝ่ามืออบอุ่นลูบไล้ซุกซน "พี่ชอบก้นของเธอจัง นุ่มนิ่มมาก" "พี่วิศ..." "และพี่ก็ชอบเสียงครางของเธอด้วย ฟังแล้วยิ่งมีอารมณ์..." เขาเงยหน้าขึ้นจากลำคอของหล่อนที่ดูดเม้มจนแดงช้ำ ดวงตาสบประสานกัน ก่อนที่ปากหยักสวยจะแนบชิดลงมาหา เขาจูบเบาๆ หนึ่งครั้ง ก่อนจะกระซิบเสียงแปร่งพร่า "ให้พี่เอานะ... พี่หิว..."
เพราะแอบรักจึงยอมทุกอย่าง ยอมแม้กระทั่งเป็นคนในความลับ อยู่เงียบๆ ในเงามืดชั่วนิรันดร์ กฎของเขาก็คือ มีอะไรกัน นอนด้วยกัน สนุกกัน แต่ห้ามบอกใคร ห้ามให้ใครรู้ว่ามีความสัมพันธ์กันแบบไหน ในที่ทำงานเขาคือท่านประธาน และเธอก็คือพนักงานคนหนึ่งในบริษัทเท่านั้น เมื่อเจอกันก็ทักทายกันบ้างแบบเจ้านายกับลูกน้อง ห้ามแสดงท่าทางหรือแสดงความเป็นเจ้าของ ห้ามโพสต์สถานะในโซเชียล แม้จะไปเที่ยวด้วยกัน ไปถึงไหนต่อไหนด้วยกันก็แล้วแต่ห้ามเปิดเผยทั้งนั้น ซึ่งด้วยความรักที่มีต่อเขา ทำให้เธอตกลงยอมเป็น คนในความลับของเขาอย่างเต็มใจ +++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++ "มามี๊ขา..." วชิรวัฒน์มองเด็กหญิงตัวน้อยที่อายุน่าจะไม่ถึงสามขวบวิ่งเข้ามาสวมกอดฟาริดาด้วยความประหลาดใจและตกใจในเวลาเดียวกัน เขามองใบหน้ากลมๆ ของเด็กหญิงคนนั้น สลับกับใบหน้าของฟาริดา ซึ่งก็พบว่าหญิงสาวกำลังหน้าซีดเผือดไร้สีเลือด "นี่มันอะไรกัน น้องฟาง... เด็กคนนี้... เป็น..." เขายังพูดไม่ทันจบ ฟาริดาก็ดันร่างของเด็กหญิงไปไว้ด้านหลัง ก่อนจะตอบเขาด้วยสุ่มเสียงดังฟังชัด "ลูกสาวของฟางเองค่ะ" วชิรวัฒน์ถึงกับอึ้ง เขาหันไปมองสบตากับอภิวัฒน์ ก็พบว่าเลขาฯ หนุ่มก็อึ้งไม่ต่างกัน หลังจากตั้งสติอยู่ชั่ววินาที เขาก็หันกลับมาจ้องหน้าฟาริดาเขม็ง "เด็กคนนี้เป็นลูกของใครครับ" เขาพยายามที่จะถามเสียงสุภาพ ทั้งๆ ที่ภายในในเต็มไปด้วยเพลิงไฟกัลป์ เพราะอย่างนี้เองเหรอ ฟาริดาถึงได้หนีจากเขาไป เพราะหล่อนท้อง... แล้วหล่อนท้องกับใครล่ะ นอกจากเขาแล้ว หล่อนยังแอบมีความสัมพันธ์กับผู้ชายคนอื่นอีกอย่างนั้นเหรอ บ้าชิบ! นี่หล่อนกำลังจะทำให้เขาโมโหจนเป็นบ้าอยู่แล้วนะ! "ลูกของใครก็ช่างเถอะค่ะ แต่ไม่มีอะไรเกี่ยวข้องกับพี่โรมแน่นอน"
รูรักอันบริสุทธิ์เมื่อถูกปลายลิ้นร้อนของชายหนุ่มเป็นครั้งแรกดูเหมือนว่าจะตอบสนองได้เป็นอย่างดี ร่องของนางขมิบรัว สะโพกของนางยกขึ้นยังเด้งเข้าไปหาปากร้อน ฝ่าบาทเก่งกาจยังสามารถแยงลิ้นเข้าไปในรู อันซูเซี่ยถูกทาขี้ผึ้งหอมรอบปากทาง ขี้ผึ้งนี้นอกจากจะมีรสชาติดีส่งเสริมรสน้ำรักของนางแล้วยังมีคุณสมบัติอันวิเศษ แม้จะเป็นหญิงพรหมจรรย์ก็จะไม่รู้สึกเจ็บปวด และเผลอทำร้ายฝ่าบาทจนบาดเจ็บ อี้หลงดูดแบะขาของนางให้กว้างขึ้นแล้วรวบขึ้นไปให้ขาชี้ฟ้า จากนั้นมุดใบหน้าลงมาอย่างหลงใหล “หอมอร่อยเหลือเกิน รู้สึกเหมือนดื่มสุราไม่เมามาย อ้า ข้าชอบยิ่ง หอยของฮองเฮาช่างใหญ่โต ดูโคกเนื้อโยนีแทบจะล้นริมฝีปากของข้า สีแดงเช่นนี้คงไม่เคยผ่านสิ่งใดมาก่อน บริสุทธิ์ยิ่งนัก ซี้ด” นางดิ้นเร่าอยู่ในปาก ไม่รู้ว่าต้องทำอย่างไรนอกจากเชื่อฟังในคำของฝ่าบาท “อืม อร่อยยิ่งนัก อ้า ข้าไม่ไหวแล้วขอดูหน้าฮองเฮาของข้าหน่อยเถิด” ดูเหมือนว่าร่องรักของนางยังขมิบ นางไม่อยากให้เขาเงยหน้าขึ้นจากตรงนั้นด้วยซ้ำ อยากถูกปลายลิ้นเลียเช่นนั้นจนกว่านางจะได้รับการปลดปล่อย “อ้า ฝ่าบาทเพคะ อย่าหยุดเพคะ อื้อ” นิยายเรื่องนี้เป็นนิยายรักสำหรับผู้ใหญ่ มี 2 เล่มจบ เป็นนิยายแบบพล็อตอ่อน เน้นฉากรักบนเตียงของตัวละครเป็นหลัก เหมาะสำหรับผู้มีอายุ 25 ปีขึ้นไป ไม่เหมาะสำหรับสายคลีนใส ๆ นะคะ หากใครไม่ชอบอ่าน NC เยอะ ๆ กรุณาเลื่อนผ่าน เพราะเรื่องนี้เน้น NC เป็นหลักค่ะ ซีไซต์ นักเขียน
ตลอดระยะเวลาสามปีของการแต่งงาน เธอรู้สึกสิ้นหวัง ที่ถูกบังคับให้เซ็นใบหย่า ทั้งๆที่เธอกำลังท้อง เธอใจสลายกับความไร้มนุษยธรรมของเขา กระทั่งเธอออกไปจากชีวิตของเขา เขาเพิ่งรู้ตัวว่าเธอคือรักแท้ของเขา ไม่มีวิธีใดที่จะเยียวยาหัวใจที่บอบช้ำของเธอให้หายขาดได้ เขาจึงมอบความรักทั้งหมดของเขาให้แก่เธอเพื่อชดเชย
ในการแต่งงานที่ทำข้อตกลงไว้ เจียงหว่านเป็นฝ่ายที่มีใจให้อีกฝ่ายก่อน แต่ตอนที่เธอต้องการเผยเสี้ยนมากที่สุด เขากลับอยู่เคียงข้างคนรักในใจของเขา ในท้ายที่สุด เจียงหว่านก็ตัดสินใจหย่า และเริ่มต้นชีวิตใหม่ เมื่อเผยเสี้ยนรู้สึกตัวขึ้นมา เธอก็จากไปแล้ว เมื่อเผชิญหน้ากับคู่แข่งที่เข้าคิวเพื่อรับป้ายหมายเลข เผยเสี้ยนหยิบเงินร้อยล้านออกมาและพูดว่า "หว่านหว่าน คู่รักก็ต้องเป็นคู่เดิมเราแต่งงานใหม่อีกครั้งได้ไหม"
อดีตนักฆ่าสาวอันดับหนึ่ง ผู้มีใจคอโหดเหี้ยมได้ทะลุมิติอยู่ในร่างสาวน้อยรูปโฉมอัปลักษณ์ ที่ทุกคนต่างสาปส่งและรังแกสารพัด!
หยางจื้อซี เด็กกำพร้าจากศตวรรษที่21 ถูกองค์กรมืดเลี้ยงดูจนเติบโตและทำให้เธอกลายเป็นมนุษย์กลายพันธ์ ในระหว่างที่ถูกส่งตัวไปทำภารกิจลับ เธอกลับถูกคนในองค์กรมืดหักหลังและถูกฆ่าโดยเพื่อนสนิทที่เธอไว้ใจมากที่สุด ก่อนสิ้นใจเธอถามเพื่อนสนิทว่าทำไม แต่ไม่ได้รับคำตอบจากปากของอีกฝ่าย สิ่งที่เธอได้รับคือรอยยิ้มที่ดูถูกเหยียดหยามและ คำว่า “โง่” จากปากของอีกฝ่ายเท่านั้น หลังจากที่ตายไปแล้วสิ่งที่เธอคิดไว้ คงจะเป็นนรกหรือที่ไหนสักแห่งที่เป็นโลกหลังความตาย แต่ทว่ามันกลับไม่เป็นเช่นนัน เธอตื่นขึ้นมาในร่างของ หยางจื้อซี เด็กหญิงอายุ เพียง 13 ขวบปีในหมู่บ้านป่าหมอก ในดินแดนโบราณล้าหลังที่ไม่มีในประวัติศาสตร์ คล้ายกับว่าเป็นโลกคู่ขนานที่อยู่อีกมิติหนึ่ง เธอตื่นขึ้นมาในบ้านที่ผุพัง ครอบครัวยากจน มีแม่ที่อ่อนแอและเจ็บป่วย มีพี่น้องที่อายุน้อย มีปู่ย่าตายายที่เห็นแก่ตัวและใจร้าย มีลุงที่เห็นแก่ได้ป้าสะใภ้ที่เต็มไปด้วยความละโมบโมบโลภมาก หยางจื้อซี คิดว่านับจากนี้ไปชีวิตจะต้องอยู่ได้ด้วยตัวเอง หากใครมารังแกก็แค่ทุบตี เธอไม่เชื่อว่าด้วยพลังที่ติดตัวเธอมาจากชาติที่แล้วจะไม่สามารถอยู่รอดได้ในโลกล้าหลังแห่งนี้
คิณ อัคนี สุริยวานิชกุล ทายาทคนโตของสุริยวานิชกุลกรุ๊ป อายุ 26 ปี นักธุรกิจหนุ่มที่หน้าตาหล่อเหลาราวกับเทพบุตร เย็นชากับผู้หญิงทั้งโลกยกเว้นเธอเพียงคนเดียวเท่านั้น เอย อรนลิน "เมื่อเขาดึงเธอเข้ามาในวังวนของไฟรักที่แผดเผาหัวใจดวงน้อยๆของเธอให้ไหม้ไปทั้งดวง" "เธอแน่ใจนะว่าจะให้ฉันช่วยค่าตอบแทนมันสูงเธอจ่ายไหวเหรอ?" เอย อรนลิน พิศาลวรางกูล ดาวเด่นของวงการบันเทิงที่ผันตัวไปรับบทนางร้าย เธอสวย เซ็กซี่ ขี้ยั่วกับเขาเพียงคนเดียวเท่านั้น "เขาคือดวงไฟที่จุดประกายขึ้นในหัวใจดวงน้อยๆของเธอให้หลงเริงร่าอยู่ในวังวนแห่งไฟรัก" "อะ อึก จะ เจ็บ เอยเจ็บค่ะคุณคิณ"