รินรดาคิดว่าหนุ่มหล่อลากดินที่ตัวเองพบเจอเป็นแค่ยามจนๆ คนหนึ่งเท่านั้น แต่มันกลับไม่ใช่อย่างที่คิดเอาไว้ เมื่อแท้จริงแล้วเมธวินคือ ผู้บริหารหนุ่มสุดหล่อ และเขาก็ร่ำรวยมากๆ และที่สำคัญเขาไ่ม่ได้คิดจะจริงจังกับหล่อนเลยแม้แต่นิดเดียว เสียงเตียงขยับโยกถี่ระรัวตามการเคลื่อนไหวของคนบนนั้น เสียงครวญคราง เสียงหอบกระเส่าของสองหนุ่มสาวดังกังวานสอดประสานกับเสียงเนื้อที่กระทบกันเป็นจังหวะ ถี่ขึ้น... ระรัวแรงขึ้น... ก่อนที่เสียงกรีดร้องด้วยความสุขสมจะดังกังวานกึกก้อง สายพันธุ์สวาทพุ่งทะยานฉีดกระซ่านเข้าสู่โพรงสาวจนเต็มล้นปรี่ บางส่วนของธาราเสน่หาจึงเล็ดทะลักออกมาจากเปื้อนซอกขาให้ได้เห็น
หลังจากส่งเพื่อนรักเป็นฝั่งเป็นฝาไปกับเจ้านายสุดหล่อของตัวเองเรียบร้อยแล้ว คราวนี้ก็ถึงเวลาที่หล่อนจะต้องออกตามหาหัวใจของตัวเองเสียที
ทุกวันหลังจากเลิกงาน หล่อนจะขับรถมาดักรอพบพ่อยามหนุ่มสุดหล่อที่ตัวเองฝันถึงคะนึงหามาตลอดตั้งแต่ครั้งแรกที่สบตา
แต่หล่อนมาดักรอเจอเขาจะครบหนึ่งเดือนในวันพรุ่งนี้อยู่แล้ว ก็ยังไม่มีวี่แววของเขาให้เห็นเลย หลายครั้งหล่อนเดินเข้าไปถามที่ป้อมรปภ. และทุกครั้งเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยก็จะตอบกลับมาเหมือนเดิมว่า ไม่รู้จัก
นี่หล่อนตาฝาดไปเหรอ หรือว่าหล่อนเจอผี...
แต่ไม่มีทางเป็นไปได้หรอก ในเมื่อหล่อนเจอเขาจริงๆ แถมยังเจอที่ร้านกาแฟดังในห้างอีกครั้งหนึ่งด้วย
เสียดายที่ครั้งนั้นหล่อนไม่ได้ตามเขาไปจนรู้ว่าเขาพักอาศัยอยู่แถวไหน
หญิงสาวมองนาฬิกาที่หน้าจอโทรศัพท์ ซึ่งก็พบว่าตอนนี้เกือบจะสองทุ่มอยู่แล้ว
“ทำไมเวลาผ่านไปเร็วนักนะ”
ใช่ เวลามันผ่านไปเร็วมาก และตอนนี้ก็ถึงเวลาที่หล่อนควรจะกลับห้องพักได้แล้ว
หญิงสาวนั่งลังเลอยู่อึดใจก็ก้าวลงมาจากรถ และเดินเข้าไปที่ป้อมรปภ. ทำเหมือนกับที่เคยทำในทุกๆ วันที่มารอเจอผู้ชายในฝัน
เจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยจำหล่อนกันได้ทุกคนแล้ว
“พวกผมไม่รู้จักหรอกครับ”
รปภ. สองคนต่างประสานเสียงตอบออกมาด้วยคำเดิมๆ
“แน่ใจเหรอคะ ดูรูปอีกรอบไหมคะพี่”
หล่อนเคยให้เจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยดูรูปของชายในฝันแล้ว และพวกเขาก็ทำหน้าท่าทางแปลกๆ แต่หล่อนก็ไม่รู้ว่ามันคืออะไร
“ไม่ต้องดูหรอกครับ พวกผมไม่รู้จักจริงๆ คุณกลับไปเถอะครับ นี่ก็ดึกมากแล้ว”
“ใช่ครับ กลับไปเถอะ แล้วถ้าเป็นไปได้ก็ไม่ต้องมารอแบบนี้อีกแล้วนะครับ เพราะที่นี่ไม่มีรปภ. คนที่คุณตามหาหรอกครับ”
เจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยทั้งสองคนต่างพากันพูดทำลายความหวังของหล่อนจนยับเยิน
หญิงสาวหน้าเศร้าหมองลง และก็อดที่จะบ่นตัดพ้อไม่ได้
“ให้กำลังใจกันหน่อยก็ไม่ได้นะคะพี่ๆ น่ะ”
“ก็เรื่องมันไม่มีทางเป็นไปได้ พวกผมจะให้กำลังใจไปทำไมล่ะครับ คุณกลับไปเถอะครับ นี่ฝนก็กำลังจะตกแล้ว”
หล่อนเงยหน้ามองท้องฟ้ายามค่ำคืน และก็พบว่าเมฆสีดำจากเมฆฝนกำลังเคลื่อนตัวเข้ามาปกคลุม
“ใช่ครับ วันนี้น่าจะพายุเข้า คุณรีบกลับบ้านเถอะครับ”
“ก็ได้ค่ะ แล้วพรุ่งนี้จะมาใหม่นะคะ แต่ถ้าพวกพี่ๆ เจอเขาก่อนก็อย่าลืมโทรแจ้งรินด้วยล่ะ”
หล่อนเห็นเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยทั้งสองคนพากันถอนใจออกมาคล้ายกับอ่อนใจ และก็พยักหน้าส่งๆ
“กลับไปก่อนเถอะครับ”
“งั้นขอตัวลาค่ะ”
หล่อนฝืนยิ้มให้กับสองเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัย ก่อนจะเดินกลับไปยังรถญี่ปุ่นคันเล็กสีขาวของตัวเอง
แต่ในจังหวะที่กำลังจะก้าวขึ้นรถนั้น แสงไฟจากรถจากภายในบริษัทยักษ์ใหญ่ด้านหลังก็สาดส่องออกมาที่ถนนด้านหน้าเสียก่อน
หล่อนอดไม่ได้ที่จะชะงักและหันกลับไปมองรถยนต์สีดำคันงามที่กำลังแล่นออกมาหยุดที่หน้าป้อมรปภ.
หล่อนเห็นเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยยกมือขึ้นทำความเคารพ แสดงท่าทางนอบน้อม ก่อนที่รถคันนั้นจะขับผ่านร่างของหล่อนไป
“รถหรูจัง...”
หล่อนมองอย่างชื่นชม แต่ก็ไม่ได้คิดอะไรมากกว่านั้น จากนั้นก็ก้าวขึ้นรถ และขับออกไปเช่นกัน
ระหว่างที่ขับรถอยู่ ในหัวของหล่อนก็มีภาพของผู้ชายที่หล่อนไม่รู้จักแม้แต่ชื่ออย่างเขาคนนั้นเต็มไปหมด
หล่อนฝันถึงเขาทุกคืน ทุกลมหายใจของหล่อนก็มีแต่เขา
มันไม่น่าเชื่อจริงๆ ว่าหล่อนจะตกหลุมรักผู้ชายคนหนึ่งได้ลึกซึ้งขนาดนี้ แม้ว่าเขาคนนั้นจะเป็นแค่เจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยก็ตาม
“ถ้าครั้งนี้เราเจอกันอีก ฉันจะไม่ยอมปล่อยคุณให้หลุดมือไปแน่”
ขณะที่หล่อนพึมพำเบาๆ อยู่ในรถนั้น จู่ๆ รถมอเตอร์ไซค์ที่ขับนำหน้าอยู่นั้นก็เปลี่ยนเลนส์กะทันหัน ทำให้หล่อนที่ขับตามมาด้านหลังต้องหักหลบเข้าข้างทางในทันที ไม่อย่างนั้นคงชนท้ายรถมอเตอร์ไซค์อย่างจังแน่นอน
“ว๊ายยยย”
โครมมมม
รถญี่ปุ่นของหล่อนพุ่งลงไปข้างทาง โชคดีที่หล่อนขับมาไม่เร็ว ทำให้ไม่ได้รับบาดเจ็บอะไรมากนัก นอกจากศีรษะที่แตกกระแทกกับกระจกรถ
หญิงสาวพยายามรวบรวมสติให้มากที่สุด ก่อนจะค่อยๆ ขยับตัว ซึ่งก็พบว่าขาไม่ได้หัก และไม่มีอะไรกดทับ
หล่อนถอนใจออกมาอย่างโล่งอก รีบคว้ากระเป๋าสะพายติดมือออกมานอกรถอย่างทุลักทุเล จนกระทั่งสามารถขึ้นมายืนบนไหล่ถนนได้สำเร็จ
ซู่...
หญิงสาวเงยหน้าขึ้นมองท้องฟ้า และก็พบว่าหยาดน้ำที่เทลงมาบนเนื้อตัวของตัวเองก็คือสายฝนนั่นเอง
“ทำไมโชคร้ายแบบนี้นะริน...”
ฝนไม่มีทีท่าว่าจะหยุดตก ในขณะที่หล่อนยืนเคว้งอยู่ริมถนน รถที่ผ่านไปมาก็ไม่มีคันไหนจอดเลย คงเพราะตรงนี้มืดมาก
“จะทำยังไงดี”
ในขณะที่ยืนสติแตกอยู่นั้น หญิงสาวก็รีบเปิดกระเป๋าสะพาย และควานหาโทรศัพท์มือถือในนั้น แต่ไม่เจอ
“มือถือหายไปไหน...???”
หญิงสาวมองไปที่รถยนต์ของตัวเองที่คา
แหง็กอยู่คาร่องถนนด้วยสายตาอ่อนใจ
“แล้วจะลงไปเอาลงไงเนี่ย”
เมื่อ คิมหันต์ ชายหนุ่มหล่อ รวย ทายาทคนเดียวของตระกูล ถูกใจ พอฤทัย นักกายภาพบำบัดที่คุณย่าจ้างมา เขาคิดว่าหล่อนง่าย แต่หล่อนกลับไม่ได้เป็นอย่างที่เขาคิดเลย หล่อนสวย แต่ยาก และนั้นก็ยิ่งทำให้เขากระหาย ยิ่งอยากได้หล่อนจนใจจะขาด ++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++ ประตูห้องยังไม่ทันจะปิดสนิท คิมหันต์ก็ดึงคนตัวเล็กเข้ามาประกบปากจูบดูดดื่ม ราวกับว่าถ้ารออีกนิดเดียวเขาจะขาดใจตาย "คุณคิมหันต์ อย่าค่ะ...คุณปวดเอวอยู่ไม่ใช่เหรอ?" หล่อนจับมือที่บีบขยำนมออก แต่เขาก็เอาขึ้นมาบีบใหม่ ก้มหน้าลงกระซิบข้างหู "ปวดก็ต้องซ้ำครับ จะได้หายปวด" พูดจบก็อุ้มร่างบางขึ้นแนบอกทันที พอฤทัยรู้ว่าโดนหลอก ก็โมโหเอาฟันกัดที่หัวไหล่เขาไปทีหนึ่ง แล้วก็รู้ว่าตัวเองทำผิดพลาดครั้งใหญ่ เมื่อได้ยินประโยคที่เขาพูดออกมา "ที่แท้คุณก็ชอบความรุนแรงนี่เอง ได้เลยครับเมียจ๋า...เดี๋ยวผัวจัดให้" เขาเดินก้าวยาว ๆ จนมาถึงเตียง วางร่างบางบนที่นอน จากนั้นก็ถอดเหมือนกระชากชุดของหล่อนออกจากร่าง ตามด้วยเสื้อผ้าของตัวเอง แล้วทาบทับลงไป "เห็นคุณชอบความรุนแรงแบบนี้ แสดงว่าต้องชอบแบบจูบแรกของเราด้วยใช่ไหม?" เขาเคลื่อนหน้าลงมาถาม หล่อนถลึงตาใส่เขา เมื่อนึกถึงจูบรุนแรง ที่มีแต่ความเจ็บตรงหน้าห้องน้ำ "ก็ลองทำอีกสิ คราวนี้ฉันจะกัดลิ้นคุณให้ขาดเลย" เขาได้ยินก็หัวเราะเสียงร่วนออกมา ก่อนจะก้มหน้าลงไปจูบกลีบปากอิ่มอ่อนโยน และเปลี่ยนเป็นร้อนแรงขึ้นในเวลาต่อมา
นนท์ปวิธคือคุณหมอหนุ่มรูปงามและใจดี และมีเพียงแค่เธอคนเดียวเท่านั้นที่ได้เห็นมุมมืดของผู้ชายคนนี้ มุมมืด... ที่เขาสร้างเอาไว้เพื่อทำร้ายเธอเพียงคนเดียว +++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++ "นอนกับฉัน แล้วฉันจะยอมช่วยลูกสาวของเธอ" นี่คือข้อเสนอของนายแพทย์นนท์ปวิธ อริณวัฒน์ ศัลยแพทย์หัวใจชื่อดังของเมืองไทย เขาคือเทพเจ้าแห่งการผ่าตัดหัวใจ เพราะคนไข้ทุกคนที่ผ่านมีดผ่าตัดของเขาจะประสบความสำเร็จทุกราย ทุกคนต่างชื่นชมในฝีมือและความมีน้ำใจของคุณหมอหนุ่มหล่อคนนี้มาก เขาคือเทพบุตร คือเทวดาสำหรับคนไข้และญาติๆ แต่ในมุมมืดของเขามีเพียงแค่หล่อนคนเดียวที่ได้เห็น แน่ล่ะ... เขาสร้างมุมมืดเอาไว้เพื่อทำร้ายหล่อนแค่เพียงคนเดียวเท่านั้น "ตกลงค่ะ" รอยยิ้มหยันเกลื่อนใบหน้าหล่อเหลาของนายแพทย์นนท์ปวิธ ขณะที่เคลื่อนเรือนร่างสูงโปร่งหกฟุตสามนิ้วเข้ามาหยุดใกล้ๆ "งั้นก็คืนนี้เลย" "ตาว... ขอเวลา..." "ลูกสาวของเธอ มีเวลาเหลือเยอะสินะ" "เอ่อ..." "ฉันต้องการเอาเธอคืนนี้..." แล้วเท้าใหญ่ก็ขยับเข้ามาใกล้ขึ้นอีก จนตอนนี้ร่างกายอยู่ห่างกันแค่เพียงฟุตเดียวเท่านั้น กลิ่นหอมเฉพาะตัวของเขาโชยฟุ้งเข้ามาในจมูก ทำให้รจิตราตัวสั่นเทา หล่อนช้อนตาขึ้นมองคนตัวสูง ซึ่งเขาก็ลดสายตามองลงมามองพอดี ดวงตาสองดวงสบประสานกัน โลกทั้งใบหยุดหมุน ความทรงจำเมื่อห้าปีก่อนย้อนกลับเข้ามาราวกับสายน้ำไหลหลาก ความทรงจำที่หล่อนไม่เคยลืม... และใช้มันหล่อเลี้ยงหัวใจมากว่าห้าปี
ในสายตาของทุกคน คชาวุฒิเก่งฉลาด สุภาพเรียบร้อย และสุดเนิร์ด คงมีเพียงแค่เธอคนเดียวเท่านั้น ที่รู้ว่าใต้แว่นตาหนาของเขาซ่อนความร้อนแรงเอาไว้มากแค่ไหน ไม่รู้จะอวยยศให้อาจารย์ฟิสิกส์คนนี้ยังไงดี แต่รับประกันว่าอาจารย์แซ่บมาก แซ่บฉ่ำแฉะ^^ +++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++ "ตรงไหนดี..." หล่อนควรต่อต้านสิ ควรผลักไส เพราะมันไม่ใช่เรื่องที่ควรเกิดขึ้นเลย แต่... แต่ร่างกายของหล่อนมันอ่อนระทวยไม่มีแรงเลย "ตรงไหนดีเด็กน้อย..." เขากระซิบถามเสียงกระเส่า "ถ้าคุณไม่ตอบ ผมจะเลือกเองนะ..." "อาจารย์... หนู... หนู..." ใบหน้านวลแดงระเรื่อ ตอนนี้สมองของหล่อนขาวโพลนไร้ความคิดชั่วคราว รอยยิ้มจากปากหยักสวยของอาจารย์ฟิสิกส์สุดหล่อช่างบาดใจเหลือเกิน เขาค่อยๆ ย่อตัวลง และคุกเข่าลงกับพื้น ขณะที่สายตาช้อนขึ้นมาสบประสานกับหล่อนตลอดเวลา ไฟร้อนๆ ในดวงตาของเขากำลังแผดเผาให้หล่อนมอดไหม้ "อา... จารย์..." นี่เขากำลังจะทำอะไรน่ะ เขาคุกเข่าทำไม
พระเอกเรื่องนี้แรกๆ จะออกแนวปากหมา ใจร้าย ชอบทำนางเอกช้ำใจ แต่หลังจากเห่าหอนเป็นแล้ว ก็จะกลายเป็นหมาโบ้คลั่งรักสุดๆ เลยค่ะ ไรต์นอนยันเลย 555+++ คำเตือน... พระเอกเรื่องนี้โบ้ซ้ำโบ้ซ้อนโบ้ไม่ปรานีใคร 55 ++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++ "คุณ... ภาม... เป็นอะไรคะ..." คำถามของหล่อนตะกุกตะกักจนแทบฟังไม่เป็นคำ "หึ... ยังจะมีหน้ามาถามอีกหรือคาลิสา!" เขายื่นมาบีบคอของหล่อน และนั่นก็ทำให้หล่อนตกใจแทบช็อก "คุณภาม... ครีม... กลัว..." ทำไมเขาทำแบบนี้ ทำไมภาวินทร์ถึงบีบคอหล่อนล่ะ แม้จะไม่ได้บีบแรงนัก แต่ก็ทำให้หล่อนกลัวจนแทบหยุดหายใจ "เธอนี่มันเลี้ยงไม่เชื่อง" "คุณภาม... พูดอะไรคะ ครีมไม่เข้าใจ... อ๊ะ..." นิ้วยาวของเขาบีบเค้นลงกับลำคอขาวผ่องของหล่อนแรงขึ้น จนหล่อนเกือบจะหายใจไม่ออก "ยังจะมีหน้ามาถามอีกเหรอ เธอไปทำอะไรเอาไว้ล่ะ" "ครีม... ครีมเปล่า..." "เลิกตอแหลเถอะ ฉันรู้เรื่องจากน้องอัญหมดแล้ว" "..." "เธอจงใจละเมิดข้อตกลงของเรา" "ครีมเปล่านะคะ คุณอัญเธอรู้อยู่แล้ว... เธอรู้จากคุณภามไม่ใช่เหรอคะ..." หล่อนพยายามจะอธิบายในมุมของตัวเอง แต่ชายหนุ่มไม่ยอมรับฟัง "เธอเดือดร้อน ฉันก็ช่วย ให้ข้าวให้น้ำ ให้เงิน เซ็กซ์ดีๆ ฉันก็ให้ งานก็มีให้ทำ แล้วเธอยังต้องการอะไรจากฉันอีก อยู่เงียบๆ อยู่ในที่ตัวเองไม่ได้หรือไง หื้อ!" "ครีม... ฮืออออ..." "แล้วเธอยังมีหน้าไปโกหกน้องอัญว่าท้องกับฉันอีกเหรอ เธอกล้าดียังไงพูดแบบนั้นออกไป คาลิสา!" หากหล่อนบอกออกไปว่าตัวเองกำลังตั้งท้องลูกของเขาจริงๆ ภาวินทร์ก็คงจะไม่เชื่อ ใช่... เขาไม่มีทางเชื่อหรอก ตอนนี้เขาเชื่อคำพูดของคู่หมั้นคนสวยของเขาคนเดียวเท่านั้น "ตอบมาสิ... เธอท้องลูกของฉันจริงหรือเปล่า" ใบหน้าที่เปียกชุ่มไปด้วยหยาดน้ำตาส่ายไปมา ก่อนจะตอบเสียงสะอื้น "ไม่... ไม่ได้ท้องค่ะ..." "หึ... นึกอยู่แล้วเชียว เธอมันก็แค่ผู้หญิงมารยา ที่ต้องการทำให้ฉันเดือดร้อนเท่านั้นเอง" เขาหยุดบีบคอของหล่อน และผลักร่างของหล่อนออกห่าง แสดงท่าทางรังเกียจออกมา "เราเลิกกันเถอะ"
เรื่องนี้พระเอกเป็นพวกชอบวิ่ง ตอนแรกวิ่งหนี ตอนหลังวิ่งชนจนมดลูกน้องแทบอักเสบ ฝากติดตามเป็นกำลังใจให้ไรต์ด้วยค่ะ เลิฟ เลิฟ ++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++ "พี่วิศ... ทำไมพี่เปลี่ยนไปแบบนี้คะ... อื้อ... อย่าทำแบบนี้สิคะ... " แม้จะพยายามขัดขืน แต่เสียงก็แผ่วเบา และอ่อนแรงเหลือเกิน "แล้วชอบพี่แบบนี้ไหมล่ะครับ... อืมม หอมจัง" ปลายจมูกของเขาซุกไซ้อยู่ที่ลำคอ ในขณะที่ฝ่ามืออบอุ่นลูบไล้ซุกซน "พี่ชอบก้นของเธอจัง นุ่มนิ่มมาก" "พี่วิศ..." "และพี่ก็ชอบเสียงครางของเธอด้วย ฟังแล้วยิ่งมีอารมณ์..." เขาเงยหน้าขึ้นจากลำคอของหล่อนที่ดูดเม้มจนแดงช้ำ ดวงตาสบประสานกัน ก่อนที่ปากหยักสวยจะแนบชิดลงมาหา เขาจูบเบาๆ หนึ่งครั้ง ก่อนจะกระซิบเสียงแปร่งพร่า "ให้พี่เอานะ... พี่หิว..."
เพราะแอบรักจึงยอมทุกอย่าง ยอมแม้กระทั่งเป็นคนในความลับ อยู่เงียบๆ ในเงามืดชั่วนิรันดร์ กฎของเขาก็คือ มีอะไรกัน นอนด้วยกัน สนุกกัน แต่ห้ามบอกใคร ห้ามให้ใครรู้ว่ามีความสัมพันธ์กันแบบไหน ในที่ทำงานเขาคือท่านประธาน และเธอก็คือพนักงานคนหนึ่งในบริษัทเท่านั้น เมื่อเจอกันก็ทักทายกันบ้างแบบเจ้านายกับลูกน้อง ห้ามแสดงท่าทางหรือแสดงความเป็นเจ้าของ ห้ามโพสต์สถานะในโซเชียล แม้จะไปเที่ยวด้วยกัน ไปถึงไหนต่อไหนด้วยกันก็แล้วแต่ห้ามเปิดเผยทั้งนั้น ซึ่งด้วยความรักที่มีต่อเขา ทำให้เธอตกลงยอมเป็น คนในความลับของเขาอย่างเต็มใจ +++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++ "มามี๊ขา..." วชิรวัฒน์มองเด็กหญิงตัวน้อยที่อายุน่าจะไม่ถึงสามขวบวิ่งเข้ามาสวมกอดฟาริดาด้วยความประหลาดใจและตกใจในเวลาเดียวกัน เขามองใบหน้ากลมๆ ของเด็กหญิงคนนั้น สลับกับใบหน้าของฟาริดา ซึ่งก็พบว่าหญิงสาวกำลังหน้าซีดเผือดไร้สีเลือด "นี่มันอะไรกัน น้องฟาง... เด็กคนนี้... เป็น..." เขายังพูดไม่ทันจบ ฟาริดาก็ดันร่างของเด็กหญิงไปไว้ด้านหลัง ก่อนจะตอบเขาด้วยสุ่มเสียงดังฟังชัด "ลูกสาวของฟางเองค่ะ" วชิรวัฒน์ถึงกับอึ้ง เขาหันไปมองสบตากับอภิวัฒน์ ก็พบว่าเลขาฯ หนุ่มก็อึ้งไม่ต่างกัน หลังจากตั้งสติอยู่ชั่ววินาที เขาก็หันกลับมาจ้องหน้าฟาริดาเขม็ง "เด็กคนนี้เป็นลูกของใครครับ" เขาพยายามที่จะถามเสียงสุภาพ ทั้งๆ ที่ภายในในเต็มไปด้วยเพลิงไฟกัลป์ เพราะอย่างนี้เองเหรอ ฟาริดาถึงได้หนีจากเขาไป เพราะหล่อนท้อง... แล้วหล่อนท้องกับใครล่ะ นอกจากเขาแล้ว หล่อนยังแอบมีความสัมพันธ์กับผู้ชายคนอื่นอีกอย่างนั้นเหรอ บ้าชิบ! นี่หล่อนกำลังจะทำให้เขาโมโหจนเป็นบ้าอยู่แล้วนะ! "ลูกของใครก็ช่างเถอะค่ะ แต่ไม่มีอะไรเกี่ยวข้องกับพี่โรมแน่นอน"
หลังจากแต่งงานกันมาสามปี เวินเหลี่ยงก็ยังไม่เคยได้ความรักจากฟู่เจิ้งแต่อย่างใดเลย เมื่อรักแรกของเขากลับมา สิ่งที่รอเธออยู่คือหนังสือการหย่า "ถ้าฉันมีลูก คุณยังเลือกหย่าไหม?" เธออยากจับโอกาสสุดท้ายนี้ไว้ แต่แล้วมีแต่คำตอบที่เย็นชาว่า "ใช่" เวินเหลี่ยงหลับตาและเลือกที่จะปล่อยมือ ...ต่อมาเธอนอนอยู่บนเตียงคนไข้ด้วยความสิ้นหวังและลงนามในข้อตกลงการหย่า "ฟู่เจิ้ง เราไม่ได้เป็นหนี้กันอีกต่อไปแล้ว..." ชายที่มีความเด็ดขาดและเย็นชามาโดยตลอดนอนอยู่ข้างเตียงขอร้องให้อีกฝ่ายกลับมาด้วยเสียงแผ่วเบา "เหลียง ได้โปรดอย่าหย่าได้ไหม?"
[แนวลูกเด็กน่ารัก+สาวเก่ง+แก้แค้น]ฉวี่ชิงเกอแต่งงานกับฟู่หนานจิ่นมาเป็นเวลา 5 ปี เธอใช้ชีวิตเหมือนแม่บ้าน เธอคิดว่าตัวเองท้องแล้วจะทำให้ความสัมพันธ์ระหว่างเธอกับเขาดีขึ้น แต่สุดท้ายสิ่งที่ได้มาคือ ข้อตกลงการหย่า เมื่อคลอดลูก ฉวี่ชิงเกอแทบจะไม่รอดเพราะมีคนทำร้าย เธอถึงรู้สํานึก ห้าปีต่อมา เธอกลายเป็น"ท่านประธานฉวี่"แล้วกลับมาแก้แค้น คนที่เคยรังแกเธอต่างก็ได้รับการสั่งสอนอย่างสะหัส และความจริงที่ถูกปิดบังไว้ก็ค่อย ๆ ถูกเปิดเผยออกมาก อดีตสามีคิดจะขอคืนดีกับเธอเหรอ คิดง่ายไปหน่อยไหม? ฟู่หนานจิ่นอ้อนวอน"ที่รัก ลูกต้องการหม่ามี๊ ขอแต่งงานใหม่ได้ไหม?"
หลังจากแต่งงานได้ 2 ปี ในที่สุดเจียงเนี่ยนอันก็ตั้งครรภ์สักที ความดีอกดีใจของเธอแต่กลับแลกกับคำขอหย่าของสามี หลังจากการสมคบคิด เธอนอนในกองเลือด และต้องการขอร้องเขาให้ช่วยเด็กเอาไว้ แต่กลับไม่สามารถติดต่อกับอีกฝ่ายได้ ด้วยความสิ้นหวังเธอจึงออกจากประเทศไป ต่อมาในงานแต่งงานของเจียงเหนียนอัน คุณกู้เสียการควบคุมและคุกเข่าลง ดวงตาของเขาแดงก่ำ "มีลูกของฉัน แล้วเธออยากจะแต่งงานกับใครกัน?"
"คุณเข้ามาในห้องของฉันทำไม" "นี่อะไร" ศิวัฒน์ชูเอกสารในมือขึ้น "คุณก็เห็นว่ามันคืออะไร" เธอตอบโดยไม่ใส่ใจมากนัก เพราะเกี่ยวกับเขาถึงยังไงเขาก็ต้องรู้ "หึ" เขาเดินเข้าไปใกล้เธอ "เธอคิดว่าเล่นขายของอยู่หรือไง ที่จะเลิกเล่นตอนไหนก็ได้" "คุณเองไม่ใช่เหรอที่อยากหย่าตั้งแต่แรก ตอนนี้ฉันก็ยอมเซ็นใบหย่าให้คุณแล้วเราไปอำเภอกันพรุ่งนี้เลยฉันเตรียมเอกสารครบแล้ว" "มันสายไปแล้ว" เขาบีบต้นแขนเธอแน่น "อยากเป็นเมียก็จะให้เป็น" "ฉันเจ็บนะคุณไตร" เธอพยายามแกะมือของเขาออก "อยากหย่ากับฉันมากละสิ เสียใจด้วยตอนนี้ฉันไม่อยากหย่าแล้ว" น้ำเสียงของเขาเหมือนคนที่กำลังโกรธ ซึ่งฉัตรนลินทร์ก็ไม่เขาใจว่าทำไมเขาถึงได้โกรธขนาดนี้ ทั้ง ๆ ที่เธอพยายามทำในสิ่งที่เขาต้องการตั้งแต่แรกแล้วแท้ ๆ "คุณจะทำอะไร" ฉัตรนลินทร์ร้องถามพลางเอามือดันอกเขาไว้ เมื่ออยู่ ๆ เขาก็พยายามกอดเธอ ความกลัวเริ่มเข้าครอบงำจิตใจของเธอ "ทำหน้าที่สามีไง จะทำทุกคืนให้คุ้มค่ากับเงินที่แม่ของฉันจ่ายให้เธอ" แม้จะเห็นใบหน้านวลตรงหน้านั้นกำลังซีดเผือดแต่เขาก็ไม่ได้สนใจ "ไม่นะ...ปล่อยฉันลงสิคุณไตร" เธอร้องสุดเสียงเมื่อโดนศิวัฒน์อุ้มขึ้นพาดบ่าแล้วพาไปที่เตียงนอน อึก!! ................................ "เธออยากหย่าขนาดนั้นเลย" "ใช่ค่ะ ไม่หย่าวันนี้วันหน้าก็ต้องหย่าอยู่ดี" ................................. "ถอยไปดิ อย่ามาขวาง" เธอไม่สนใจลูกชาย "อ้อ เอกสารของบริษัททั้งหมดอยู่ในห้องทำงานนะ ฉันยกให้แกหมดเลย" "แม่!!" "ไม่ต้องเรียก ฉันไม่มีลูกโง่อย่างแก" ................................. "เราไม่ใช่เด็ก ๆ กันแล้วนะ เรามาแก้ไขสิ่งที่ผิดพลาดกันเถอะ" เธอหันไปเผชิญหน้ากับศิวัฒน์ "ฉันขอโทษที่ไม่ยอมปฏิเสธแม่ของคุณในวันนั้น ขอโทษที่ไม่ยอมรับข้อเสนอของคุณ ถ้าย้อนเวลากลับไปได้ฉันไม่อยากให้เรารู้จักกันด้วยซ้ำ แต่เมื่อมันย้อนไม่ได้เราก็เดินไปข้างหน้าเพื่อลืมเรื่องราวของกันและกันเถอะ" ....................................
วิญญาณฮองเฮาชั่วร้ายต้องเข้ามาอยู่ในร่างคุณหนูหลินจื่อเว่ยที่ตายโดยไม่ได้รับความเป็นธรรม เพราะต้องต่อกรกับแม่เลี้ยงใจยักษ์และโหดเหี้ยม งานนี้นางจึงต้องงัดฝีไม้ลายมือเก่า ๆ เอามาใช้ เพียงแต่ว่าเรื่องนี้ช่างยากเย็นนัก เมื่อนางมิได้ต่อสู้กับแม่เลี้ยงใจโฉดเพียงคนเดียว เมื่อบัดนี้กลับต้องเผชิญหน้ากับท่านอ๋องคู่หมั้น ที่วิปริตเย็นชาและยังเป็นโรคประสาทบ้าตัณหาผู้หนึ่ง!
นางเจ็บปวดปางตายเมื่อเขาโยนร่างบอบช้ำทิ้งไว้หลังจวนโดยไม่แยแส เมิ่งลี่เฟยน้ำตาไหลพรากทว่ากลับไม่ทำให้คนที่เพิ่งเหยียบย่ำร่างกายเล็กเห็นใจแต่ประการใด"เฝ้านางเอาไว้ให้ดีอย่าให้ออกมาทำเรื่องชั่วอีก"