เพื่อทำตามข้อตกลง ทำให้เธอต้องตั้งท้องลูกของชายแปลกหน้าคนหนึ่ง แต่แล้วเธอก็ต้องมาแต่งงานกับผู้ชายที่ได้หมั้นหมายกับเธอไว้ตั้งแต่เด็ก พวกเขาคิดว่ามันเป็นเพียงแค่การตกลงเพื่อผลประโยชน์ร่วมกันเท่านั้น แต่ทั้งสองกลับต้องตกหลุมรักอีกฝ่ายโดยไม่รู้ตัว ก่อนจะถึงเวลาคลอด วันหนึ่ง เขายื่นข้อตกลงการหย่าให้เธอ ทำให้เธอตื่นจากความฝันทันที แต่แล้ว เขาก็มาบอกกับเธอว่า ที่รักจ๋า คนที่ผมรักคือเธอตลอด
อุณภูมิห้อมล้อมมาจากด้านหลังอย่างช้าๆ ลมหายใจเป่าอยู่ที่ข้างหู “กลัวหรือเปล่า?”
ลมหายใจของคนแปลกหน้าพ่นอยู่ที่ข้างหู ทำให้คนตัวสั่นแต่ไม่กล้าส่งเสียงออกมา
หลินซิงเยี่ยนเหมือนรู้สึกได้ว่าผู้ชายหยุดไปครู่นึง ต่อมาเสียงของเขาได้ดังขึ้นอีกครั้ง “เสียใจตอนนี้ยังทันนะ”
เธอกุมมือทั้งสองไว้แน่นด้วยความตื่นเต้น พร้อมส่ายหัว “ฉันไม่เสียใจค่ะ——”
เธอเพิ่งโตเป็นสาว แต่กลับ……
ค่ำคืนนี้เจ็บปวดและแสนยาวนาน……
กลางดึก ในที่สุดผู้ชายก็ลุกไปห้องน้ำ ทีนี้หลินซิงเยี่ยนถึงแบกร่างกายที่เหนื่อยล้าขึ้นมา และคลุมเสื้อผ้าเดินออกจากห้องนอน
ด้านล่างของโรงแรม หญิงวัยกลางคนที่แนะนำการค้าขายนี้ให้เธอยืนอยู่ เห็นหลินซิงเยี่ยนเดินออกมา ได้ยื่นถุงดำให้เธอใบหนึ่ง “นี่คือค่าตอบแทนของเธอ”
หลินซิงเยี่ยนรับถุงดำมาอย่างแทบจะไม่มีการลังเลเลย เธอถือเงินไว้แล้ววิ่งออกไปอย่างรวดเร็ว ถึงขั้นได้ละเลยความเจ็บปวดของช่วงล่าง แค่อยากไปถึงโรงพยาบาลเร็วๆ
ท้องฟ้าที่ยังไม่สว่าง ทำให้ริมทางเดินเงียบมาก บนพื้นของหน้าห้องผ่าตัดมีรถเข็นผู้ป่วยวางอยู่สองตัว เพราะไม่ได้จ่ายเงิน เลยไม่ได้ส่งพวกเขาเข้าไปในห้องผ่าตัด
หลินซิงเยี่ยนเห็นแล้วสงสารจับใจ พร้อมพูดด้วยเสียงสะอื้น “ฉันมีเงิน ฉันมีเงิน รีบช่วยแม่แล้วก็น้องชายฉันเร็วๆ……” เธอสะอึกสะอื้นพร้อมยื่นเงินในมือให้กับคุณหมอ หมอมองแว็บนึงแล้วให้พยาบาลตรวจเช็ค จากนั้นถึงได้เรียกบุคลากรทางการแพทย์ส่งผู้บาดเจ็บเข้าห้องผ่าตัด
เห็นพวกเขาไม่เข็นน้องชายตัวเองเข้าไป หลินซิงเยี่ยนกระโจนมาจับหมอไว้แล้วพูดอ้อนวอน “ยังมีน้องชายฉันด้วยค่ะ คุณหมอช่วยเขาด้วย……”
คุณหมอถอนหายใจทีนึง “ขอโทษด้วยครับ น้องชายคุณหมดหนทางรักษาแล้วครับ……”
หมดหนทางรักษา? !
จู่ๆเหมือนเสียงฟ้าผ่าดังเปรี้ยง ผ่ามาที่บนหัวของหลินซิงเยี่ยนอย่างแรง ทำให้เธอหน้ามืดตามัว……
เจ็บ เหมือนถูกคนเอามีดเขี่ยไปมาที่ทรวงอก เจ็บจนชักกระตุกล้มนั่งอยู่บนพื้น เมื่อแปดปีก่อน ตอนเธออายุสิบขวบ พ่อของเธอได้นอกใจและละทิ้งแม่ของเธอ ส่งเธอกับแม่ที่กำลังตั้งครรภ์อยู่มาเมืองนอกที่ไม่คุ้นเคยนี้
ต่อมาน้องชายได้เกิดมาลืมตาดูโลก ตอนอายุสามขวบพบว่าเป็นโรคออทิสติก เดิมทีชีวิตก็ยากจนข้นแค้นอยู่แล้ว พอน้องชายป่วยก็ยิ่งเคราะห์ซ้ำกรรมซัดเข้าไปอีก เธอกับแม่ทำงานพาร์ทไทม์ให้คนอื่นไปทั่วยังถือว่าพอประทังชีวิตได้ แต่อุบัติเหตุครั้งนี้ อยู่เมืองนอกที่ไม่มีญาติพี่น้อง ไม่มีเงิน ไม่มีน้ำใจไมตรี ทำให้เธอรับรู้ได้ว่าอะไรคือจนตรอกไร้หนทาง
ถูกบีบจนหมดหนทาง ถึงเธอขายตัว ก็ไม่ได้ช่วยชีวิตน้องชายกลับมาได้
มีความเจ็บปวดอย่างหนึ่ง ไม่มีประสาทฮิสทีเรีย แค่ทำให้คนรู้สึกว่าทรมาน หายใจลำบาก ท้องฟ้าคือสีเทา แต่เธอจะต้องยอมรับ แถมยังต้องยอมรับมันด้วยรอยยิ้ม เพราะเธอยังมีแม่อยู่
แม่ต้องการเธอ
หลังจากผ่านการรักษา ร่างกายของแม่เธอดีขึ้น แต่ตอนที่รู้ว่าน้องชายตาย คนทั้งคนได้พังทลายลงมาอย่างสิ้นเชิง
หลินซิงเยี่ยนกอดท่านไว้ แล้วพูดด้วยน้ำตา “แม่คะ แม่ยังมีหนูอยู่ ใช้ชีวิตดีๆเพื่อหนูนะคะ”
หนึ่งเดือนที่อยู่โรงพยาบาลนี้ จวงจื่อจิ้นมักจะชอบนั่งเหม่อลอยอยู่ขอบเตียง หลินซิงเยี่ยนรู้ว่าเธอคิดถึงน้องชาย ถ้าไม่ใช่เพราะตัวเอง เกรงว่าแม่ก็จากไปตามน้องชายแล้ว เพราะจะต้องดูแลแม่ เธอถูกทางโรงเรียนไล่ออก แต่ว่าอาการบาดเจ็บของแม่ดีขึ้นแล้ว
เธอหิ้วของกินเข้าโรงพยาบาล เดินมาถึงหน้าห้องผู้ป่วย พอเธอยกมืออยากจะเปิดประตู กลับได้ยินเสียงของด้านใน——
เธอคุ้นกับเสียงนี้ดี ถึงจะผ่านไปแปดปีแล้ว เธอยังคงจำหน้าตาที่เขาบีบบังคับให้แม่หย่ากับเขาได้เป็นอย่างดี
หลังจากส่งพวกเธอมาที่นี่ ไม่เคยมาเหลียวมองพวกเธออีกเลย จู่ๆวันนี้มาโผล่ที่นี่หมายความว่ายังไง?
“จื่อจิ้น ตอนนั้นคุณกับคุณผู้หญิงของตระกูลจงสนิทกันอย่างกับพี่น้อง ได้ตกลงการหมั้นหมายไว้ ถ้าพูดตามหลักแล้วการหมั้นหมายที่คุณตกลงกันไว้จะต้องให้ลูกสาวของคุณแต่ง……”
“หลินกั๋วอันคุณหมายความว่ายังไง? !”จวงจื่อจิ้นที่รูปร่างซูบผอมไม่มีเวลามาคำนึงว่าร่างกายยังบาดเจ็บอยู่ ดิ้นรนขึ้นมาอยากจะทุบตีเขา และว่าเขายังมีความเป็นคนอยู่หรือเปล่า?
จัดเตรียมให้เธอกับลูกสาวมาอยู่ที่ที่ไม่คุ้นเคยนี้ ไม่เคยสนใจว่าพวกเธอจะเป็นตายร้ายดียังไง วันนี้พอมาปุ๊บก็จะให้ลูกสาวเธอแต่งงาน?
“คุณชายใหญ่ของตระกูลจง ก็เป็นลูกชายของเพื่อนสนิทคุณ หน้าตาดี ฐานะของตระกูลจงคุณก็รู้อยู่ แต่งงานไปมีแต่ได้เสพสุข……” พูดถึงท้ายเสียงของเขาเบาลงไปเยอะ
ใช่ คุณชายใหญ่ของตระกูลจงสูงศักดิ์ หน้าตาหล่อและเป็นคนมีความสามารถ แต่หนึ่งเดือนก่อน เขาไปทำธุระที่ต่างประเทศถูกงูพิษกัด ทำให้เส้นประสาทด้านชา เคลื่อนไหวร่างกายไม่ได้ แถมยังมีเรื่องอย่างว่าไม่ได้
แต่งงานไปก็เหมือนไปเป็นแม่หม้าย
“หนูแต่งค่ะ”
ทันใดนั้นหลินซิงเยี่ยนได้ผลักประตูออก ยืนอยู่หน้าประตู มือของเธอกุมข้าวกล่องไว้แน่น “แต่งงานอ่ะได้ แต่ฉันมีเงื่อนไขหนึ่งข้อ”
หลินกั๋วอันมองไปที่ประตู เห็นลูกสาวที่ไม่ได้เจอหน้ามาแปดปี ทันใดนั้นได้ตกตะลึงไปหลายวิ ตอนส่งเธอมา เธอยังเป็นเด็กอายุสิบขวบอยู่เลย ตอนนี้ได้โตเป็นผู้ใหญ่แล้ว ผิวของเธอขาวผ่อง แต่ดันซูบผอมเกินไป ใบหน้าเรียวเล็กยังใหญ่สู้ฝ่ามือไม่ได้ ผอมแห้งดูไม่มีน้ำมีนวลเลย เหมือนร่างกายพัฒนาการไม่ดียังไงอย่างงั้น
น่ารักน่าเอ็นดูสู้ลูกสาวคนเล็กในบ้านก็ไม่ได้
ความสงสารที่มีอยู่ในใจได้ลดลงหลายส่วน เพราะเธอหน้าตาไม่ค่อยสวยสักเท่าไหร่ ถึงแต่งงานกับสามีที่ไม่สามารถมีเรื่องอย่างว่าได้ก็ไม่ได้กล้ำกลืนเท่าไหร่หรอก
พอคิดแบบนี้ หลินกั๋วอันก็ไม่รู้สึกว่ามีอะไรไม่ดีแล้ว “เงื่อนไขอะไร แกพูดมาเลย”
“ฉันจะกลับประเทศกับแม่ คุณเอาของที่ควรจะเป็นของแม่คืนให้พวกเราหมด ฉันก็จะตกลงแต่งงาน” หลินซิงเยี่ยนกุมมือแน่นอย่างซ้ำไปซ้ำมา จากนั้นถึงค่อยๆสงบลงมา
ถึงไม่ได้อยู่ในประเทศมานาน แต่สมัยเด็กๆเธอก็เคยได้ยินตระกูลจงของเมืองB ตระกูลใหญ่โต มีทรัพย์สินเป็นแสนล้าน คุณชายของตระกูลจงย่อมสูงศักดิ์อยู่แล้ว หลินซิงเยี่ยนไม่รู้สึกว่าเรื่องดีขนาดนี้จะตกมาถึงตัวเอง ไม่แน่คุณชายใหญ่ของตระกูลจงคนนั้นอาจจะหน้าตาน่าเกลียด หรือไม่ก็ร่างกายไม่สมประกอบแน่นอน
แต่ถึงจะแบบนี้ก็เถอะ สำหรับเธอแล้วกลับเป็นโอกาสดีที่จะได้กลับประเทศ ใช้โอกาสให้ดี ยังสามารถเอาสินสอดตอนแม่แต่งงานกลับมาด้วย
“เยี่ยนเยี่ยน……” จวงจื่อจิ้นอยากเกลี้ยกล่อมเธอว่าเรื่องแต่งงานเป็นเรื่องใหญ่ ล้อเล่นไม่ได้
เธออยู่กับตัวเองก็ได้รับความลำบากมามากพอแล้ว จะเอาเรื่องแต่งงานของเธอก็ทุ่มเข้าไปด้วยไม่ได้
หลินกั๋วอันฟังปุ๊บ ในใจกังวลว่าหลินซิงเยี่ยนจะถูกจวงจื่อจิ้นโน้มน้าวแล้วไม่ยอมแต่ง เขาจึงรีบพูดว่า “ได้ ขอแค่แกยอมแต่งงานเข้าตระกูลนั้น ฉันก็จะให้แกกลับประเทศ”
“แล้วสินสอดทองหมั้นของแม่ล่ะ?” หลินซิงเยี่ยนมองพ่อในนามของเธอ พร้อมพูดด้วยน้ำเสียงเย็นชาสุดๆ
ตอนที่จวงจื่อจิ้นแต่งงานกับเธอ มีสินสอดทองหมั้นไม่น้อยจริงๆ มันเป็นเงินจำนวนที่ไม่น้อยเลย ตอนนี้ให้หลินกั๋วอันเอาออกมามันช่างเจ็บใจจริงๆ
“พ่อ น้องสาวคนนั้นของฉันคงจะหน้าตาสวยมาก เธอควรจะได้ครอบครองสิ่งที่ดีกว่า ถ้าแต่งกับผู้ชายที่ไม่สมประกอบ ทั้งชีวิตก็จบเห่แล้ว ยิ่งไปกว่านั้น พ่อกับแม่ของฉันก็หย่ากันแล้ว พ่อน่าจะคืนทรัพย์สินที่แม่เอาไปที่ตระกูลหลินกลับมานะ”
สายตาของหลินกั๋วอันลุกลี้ลุกลน ร้อนตัวจนไม่กล้ามองเธอ
เธออยู่ต่างประเทศมานาน รู้ได้ยังไงว่าคุณชายใหญ่ของตระกูลจงเป็นคนที่ร่างกายไม่สมประกอบ?
หลินกั๋วอันจะรู้ได้ยังไงว่าหลินซิงเยี่ยนแค่เดาเฉยๆ
พอนึกถึงคนที่เธอจะต้องแต่งงานด้วยคือผู้ชายที่ไม่ปกติ หลินกั๋วอันกัดฟัน “รอให้แกแต่งงานไปแล้ว ฉันก็จะคืนให้แกเอง”
ลูกสาวคนเล็กของเขาสวยงามดั่งดอกไม้ดั่งหยกงาม จะแต่งงานกับผู้ชายที่มีเรื่องอย่างว่าไม่ได้ๆอย่างไง?
ถึงจะสูงศักดิ์แค่ไหน ไม่สามารถทำกิจกรรมของสามีภรรยาได้ ต่างอะไรกับคนพิการ?
พอนึกถึงตรงนี้ หลินกั๋วอันก็ไม่ได้รู้สึกไม่สบายใจขนาดนั้นแล้ว
แต่ในใจก็รู้สึกเกลียดหลินซิงเยี่ยนเพิ่มขึ้นอีกหลายส่วน ในใจคอยคิดแต่อยากจะฉกเงินไปจากเขาอยู่ได้
หลินกั๋วอันมองเธออย่างเย็นชาทีนึง “แม่แกไม่สั่งสอนแกดีๆรึไง ไม่มีมารยาทเลย!”
หลินซิงเยี่ยนอยากพูดจังเลยว่าแล้วคุณที่เป็นพ่อไม่มีหน้าที่สั่งสอนหรือไง? ทิ้งเธอไว้ที่นี่แล้ว ก็ไม่เคยสนใจ ไม่เคยเหลียวแลอีกเลย
แต่เวลานี้เธอพูดไม่ได้ ข้อต่อรองของเธออ่อนเกินไป ยั่วโมโหหลินกั๋วอันไม่มีผลดีกับเธอเลย
“เตรียมตัวหน่อย กลับไปพรุ่งนี้”หลินกั๋วอันสลัดแขนเสื้อเสร็จก็ได้ออกจากห้องผู้ป่วยเลย
"ความรักทำให้คนตาบอด" เซิงเกอละทิ้งชีวิตที่สงบสุขเพื่อแต่งงานกับชายคนนั้น ยินยอมทำตัวเหมือนคนรับใช้ที่ไร้ตัวตนมาสามปีเต็ม แต่ในที่สุดเธอก็ตระหนักว่าความพยายามของเธอ มันไร้ประโยชน์สิ้นดี เพราะในใจของสามีตัวเองมีแต่รักแรกของเขา เซิงเกอรู้สึกผิดหวังอย่างมาก และขอหย่าอย่างเด็ดขาด "ถึงเวลาแล้ว ฉันไม่ปกปิดอีกแล้ว จะบอกความจริงให้" ทันใดนั้น โลกออนไลน์ก็ระเบิดขึ้นทันที มีข่าวลือว่าสาวรวยพันล้านคนหนึ่งหย่าร้างแล้ว ดังนั้น ซีอีโอนับไม่ถ้วนและชายหนุ่มรูปงามต่างรีบเข้าหาเธอเพื่อเอาชนะใจเธอ เฝิงอวี้เหนียนเห็นดังนั้นจึงทนไม่ไหวอีกต่อไปเลยจัดงานแถลงข่าวในวันถัดไป โดยขอร้องอย่างจริงจังว่า: ผมรักเซิงเกอ ขอร้องคุณภรรยากลับบ้านนะ
เพราะแอบรักกล้าตะวันมากนาน หวันยิหวาจึงทำทุกวิถีทางเพื่อให้ได้ครองรักกับเขา โดยมีมารดาของเขาเป็นผู้ให้การสนับสนุน แต่สำหรับกล้าตะวันแล้ว หวันยิหวาคือนางมารร้ายที่ทำให้เขากับคนรักต้องเลิกรากัน ดังนั้นทุกวินาทีหลังจากงานวิวาห์นี้จบลง หวันยิหวาจะต้องได้รู้จักกับนรกอเวจีปอยเปตอย่างถ่องแท้เลยทีเดียว “อา... อ๊า...อา...” ลำคอระหงถูกซุกไซ้และดูดเม้ม เสื้อผ้าถูกดึงทึ้งออกไปจากร่างกาย จนในที่สุดก็เปลือยเปล่า กล้าตะวันเลียลงมาที่ไหปลาร้า และมาซบหน้าคลุกเคล้ากับร่องอกอวบ เขาดอมดมกลิ่นสาปสาวอย่างหิวกระหาย ขณะที่ฝ่ามือหนาวางทาบลงกับเต้านมอวบอัดข้างซ้ายของหล่อน “อา... อ๊า... ซี๊ดดดด” หล่อนเผยอปากครางลั่น เมื่อปทุมถันถูกฟอนเฟ้นบีบเคล้าหนักหน่วง ปลายนิ้วแข็งแรงถูไถเม็ดเต่งอย่างเมามัน หล่อนดิ้นเร่าๆ หยัดหน้าอกขึ้นหาสัมผัสจากฝ่ามืออบอุ่นด้วยความกระตือรือร้น
ถึงจะโกรธ เกลียด เคียดแค้นแค่ไหน แต่หัวใจไม่อาจต้านรักได้ ----------------------------------------- ไรยาค่อยๆ คลานไป ทันทีที่เจ้าบ่าวหันหน้ามา เพื่อจะยื่นมือให้เธอจับ จะได้ไม่ล้มนั้น ยิ่งจะทำให้เธอเกือบล้มไปเพราะเขาแล้ว ในหัวสมองก็ประมวลผลออกมาได้คำตอบทันที ว่าคนที่เธอเฝ้าครุ่นคิดว่าเป็นใครมาตลอดสองอาทิตย์นั้น แท้จริงก็คือใครกันแน่ในที่สุด ‘Mr. H. Hhemmhawattana ก็คือหรัญญ์ เหมวัฒน์’ ‘หรือพี่ฮั้นท์ของสาวๆ ที่เธอมักจะได้ยินเรียกขานกันนี่เอง’ ‘เขากลายมาเป็นเจ้าบ่าวเธอได้ยังไง’ ‘เขาจะมาแต่งงานกับเธอทำไม’ เท่าที่รู้มา เขาไม่ได้ร่ำรวยระดับร้อยล้านพันล้านแน่ๆ แล้วเขาไปทำอะไรมา ถึงได้มีเงินมากมายขนาดเอามาทุ่มซื้อหุ้นบริษัทของพ่อเธอได้ ไหนจะไถ่บ้านคืนให้ และอีกหลายต่อหลายอย่างที่เขาจ่ายไป รวมทั้งแหวนเพชรน้ำงามและไม่น่าจะต่ำกว่าห้ากระรัตบนพานดอกไม้ตรงหน้าเธออีก ---------------------------------------------------------------------------------------- ฮั้นท์ (หรัญญ์ เหมวัฒน์) นักธุรกิจหนุ่ม ผู้มีชีวิตที่พลิกผันจากเลวร้ายกลับกลายเป็นดี ซึ่งเขาเองก็ตั้งตัวไม่ทัน แต่ทั้งหมดนั้น มาจากความดี ความขยันหมั่นเพียรของเขา บวกกับโชคช่วย ถึงเวลาที่เขากลับมายืนอยู่จุดเดิม ในฐานะใหม่ ที่ใครต่อใครต่างงุนงง โดยเฉพาะเพื่อนๆ หรือแม้แต่กับผู้หญิงที่เคยเมนเขามาแล้ว และเขาก็จะทำให้ผู้หญิงพวกนั้นได้รู้ ว่าไม่ควรเมินเขาจริงๆ ---------------------- ย้า (ไรยา เจริญรัตชตะ) ทายาทนักธุรกิจหลายร้อยล้าน ที่ชีวิตพลิกผัน จากดีกลายเป็นเลวร้ายในไม่กี่ปี จนเธอกับครอบครัวก็ตั้งตัวไม่ติด รับภาวะย่ำแย่แทบไม่ทัน และถึงเวลาที่เธอจะต้องเลือก ระหว่างช่วยกู้ทุกอย่างของครอบครัวคืน กับทิ้งทุกอย่างไปแบบไม่เหลียวหลัง เพื่อไปเลียแผลหัวใจจากชายที่เธอรักแทบตาย สุดท้ายเธอจะเลือกทางเดินยังไง จะไปต่อหรือพอแค่นี้ ---------------------------------------------------------------------------------------- เมียแต่งท่านประธาน Chairman's Wife ตอนแรกคิดว่าจะให้นิยายที่เรื่องนี้มีแค่ชื่อภาษาอังกฤษเท่านั้นค่ะ ที่เหลือให้รี้ดไปตีความเอาเอง ว่าควรจะใช้ภาษาไทยว่าอะไรดี ระหว่าง แรงรัก - รั้งรัก - รังรัก และใช้นามปากกาพิมรภัค แต่สุดท้ายก็คิดชื่อใหม่ได้แล้วค่ะ และตัดสินใจใช้นามปากกาหลัก นั่นคือ กันเกราค่ะ เพราะแว้ปไปเขียนอวตารหลายเรื่องแล้ว และไม่ได้ออกนามปากกานี้นานแล้ว ส่วนแนวก็จะเพิ่มดราม่าเข้าไปอีก ซึ่งจะเป็น Signature ของกันเกราอยู่แล้ว รี้ดอยากได้มาม่าเจ้มจ้นแค่ไหน บอกกันได้เด้อ ----------------------------------------------------------------------------------------
กู้ชิงเฉิงเชื่อมั่นมาตลอดว่าตราบใดที่เธอประพฤติตัวดี สักวันหนึ่ง เธอก็จะสามารถชนะใจมู่ถิงเซียวให้ได้ อย่างไรก็ตาม เมื่อเสิ่นถัง รักแรกที่เขาคิดถึงมาตลอดกลับมา ทุกอย่างก็เปลี่ยนไป กู้ชิงเฉิงเป็นคนว่าง่ายสอนง่ายจริงๆ เธอจัดงานแต่งงานด้วยคนเดียว และนอนคนเดียวในห้องผ่าตัดเพื่อรับการรักษาฉุกเฉิน มีข่าวลือว่าเธอบ้าไปแล้ว อันที่จริงเธอบ้าไปแล้วจริงๆ ที่รักใครสักคนอย่างไม่ละอายขนาดนี้ ต่อมา ทุกคนลือกันว่า กู้ชิงเฉิงป่วยหนักและกำลังจะเสียชีวิต มู่ถิงเซียวถึงสูญเสียการควบคุมอย่างสิ้นเชิง "ฉันไม่ปล่อยให้เธอตาย" แต่เธอกลับยิ้มอย่างนิ่งๆ ว่า "ดีจังเลย ฉันเป็นอิสระแล้ว" ใช่แล้ว ไม่ต้องการกู้ชิงเฉิงอีกแล้ว"
อวิ๋นเจินอาศัยอยู่ในตระกูลอวิ๋นมาเป็นเวลา 20 ปี กลับพบว่าเธอเป็นลูกสาวปลอม พ่อแม่บุญธรรมของเธอวางยาเธอเพื่ออยากจะได้เงินมาลงทุน หลังจากที่อวิ๋นเจินรู้เรื่องนี้ เธอก็ถูกไล่กลับไปที่ชนบท จากนั้นเธอก็ค้นพบว่าตัวเองคือลูกสาวแท้ๆ ของตระกูลเฉียวและมีชีวิตที่หรูหราสุด ๆ หลังจากกลับมา เธอได้รับความรักจากครอบครัวและมีชื่อเสียงโด่งดัง น้องสาวจอมปลอมใส่ร้ายอวิ๋นเจิน แต่เธอไม่คาดคิดว่าอวิ๋นเจินจะมีความสามารถต่างๆ เมื่อต้องเผชิญกับการยั่วยุ เธอได้แสดงความสามารถและทักษะต่างๆ มากมายเพื่อจัดการผู้รังแก มีข่าวลือกันว่าอวิ๋นเจินยังคงโสด และชายหนุ่มชื่อดังแห่งเมืองงก็ผลักเธอไปเข้ากำแพง "คุณนายกู้ ถึงตามราเปิดเผยตัวตนได้แล้วนะ"
นางเจ็บปวดปางตายเมื่อเขาโยนร่างบอบช้ำทิ้งไว้หลังจวนโดยไม่แยแส เมิ่งลี่เฟยน้ำตาไหลพรากทว่ากลับไม่ทำให้คนที่เพิ่งเหยียบย่ำร่างกายเล็กเห็นใจแต่ประการใด"เฝ้านางเอาไว้ให้ดีอย่าให้ออกมาทำเรื่องชั่วอีก"