*แนวเป็นชู้ แอบแซ่บ ยั่วพ่อเพื่อน แม่เพื่อน 3P 4P 5P 6P หนูนา เด็กสาววัย18ที่มักจะโดนเพื่อนๆในห้องรังแก ด้วยความที่เธอเด่นเกินเพื่อนทั้งความสวยและความฉลาดจึงมักโดนเพื่อนๆกลั่นแกล้งสารพัด ทั้งบูลลี่และรุมตบ วันนึงเธอพลาดพลั้งเผลอใจให้กับพ่อของคู่อริ จากนั้นมาจึงรู้วิธีแก้แค้นเพื่อนๆด้วยการแย่งเอาพ่อของพวกหล่อนมาเป็นคู่นอน ช่างเป็นการเอาคืนที่ร้ายกาจเพราะเธอได้ทั้งความรัก เงินทอง และความสาสมใจ.
โปรดเรียกฉันว่าแม่
ตอน เอ็นดู
กริ๊งงงงงงง! เสียงออดเลิกเรียนดังขึ้นในยามเย็น
ตุ๊บ! ๆ ๆ เสียงฝีเท้าระรัวบนพื้นห้อง สาวๆในชุดนักเรียนหญิงต่างวิ่งลงจากตึก
ณ.โรงเรียนหญิงล้วนมีสายฝนประปราย รอยยิ้มแย้มของเด็กวัยสาวทำใหับรรยากาศดูสดใส
หลายคนต่างเกาะกลุ่มกันเดินกางร่มออกนอกโรงเรียน บ้างก็จับมือกันวิ่งฝ่าสายฝน เสียงหัวเราะเกรียวกราว
ทว่ากลับมีสาวชั้นม.6คนนึงกำลังร้องไห้กระซิกๆ มือนึงปาดน้ำตา ขาก้าวเดิน ก้มมองหารองเท้านักเรียนที่หายจากชั้นวาง
"ใครเอาไป เอามาคืนนะ ฮือ ๆ" สาวน้อยเอ่ยลอยๆขณะหันมองเพื่อนสาวร่วมห้องที่นั่งไขว่ห้างอยู่ตรงราวม้านั่งหน้าชั้นเรียน สี่ห้าคน
"ใครจะเอาไป อีบ้า" หัวโจกสบถด่า เธอชื่อว่าน้ำผึ้ง เป็นลูกสาวตำรวจนายร้อย
ฮ่า! ๆ ๆ เพื่อนๆอีกสี่คนหัวเราะร่วน
"ฉลาดนักไม่ใช่เหรอ หาเอาเองซิ" เพื่อนอีกคนเอ่ย
"ใช่ เธอคนเดียวในห้องที่สอบวิชาอังกฤษแล้วได้เต็มนี่ ฮ่า ๆ ๆ" เพื่อนสาวพากันหัวเราะเยาะ
"ขอร้องหละ เอามาคืนเราเถอะนะ" พูดจบหนูนาคุกเข่าลง เงยมองเพื่อนๆที่กำลังหัวเราะเยาะ
"อยากได้ก็ลงไปเอาซิ" น้ำผึ้ง สาวหัวโจกยืนขึ้นแล้วหยิบรองเท้านักเรียนที่เธอนั่งทับขึ้นมา
ฟ้าวววว! หล่อนปารองเท้าของหนูนาลงไปบนสนามหญ้า จากตึกชั้นสี่
"ลงไปเอาซิ อีโง่" เพื่อนอีกคนยืนค้ำหัวแล้วตะคอกด่า
ฮือ! ๆ ๆ หนูนาร้องไห้หนัก เจ็บปวดในใจ สับสนไปหมดว่าตัวเองผิดอะไรถึงเพียงนี้
ฮ่า! ๆ ๆ เพื่อนๆกลับนั่งหัวเราะสนุกสนานกับความเจ็บปวดที่แน่นในอก
ตุ๊บ! ๆ ๆ สาวน้อยวิ่งหนีเสียงเย้ยหยันทั้งน้ำตา พาร่างลงจากชั้นบน วิ่งตากฝนไปยังสนามหญ้าเพื่อเก็บรองเท้าสองข้าง
ทว่าพอหยิบมันขึ้นมากลับพบว่าไม่เหลือชิ้นดีเสียแล้ว หนังสีดำถูกมีดคัตเตอร์กรีดจนเป็นแผลยาวหลายแผล
ฮือ! ๆ ๆ สาวน้อยยืนตากสายฝนจนเปียกปอน คำถามในใจเกิดขึ้นมากมาย ประดังประดา
ฉันผิดอะไร?
ฉันทำอะไรให้พวกหล่อนไม่พอใจรึเปล่านะ?
ไม่จริง!
ฉันไม่ได้ทำอะไรด้วยซ้ำไป!
ซ่าาาา! สายฝนปรอยลงมาอาบชุดนักเรียนจนชุ่มโชก สองขาเรียวยาวก้าวเท้าเปล่าย่ำหญ้า เดินขึ้นถนนออกมาหน้าโรงเรียน
ฮ่า! ๆ ๆ เสียงหัวเราะของเพื่อนๆยังตามหลังมาไกลๆ
อีโง่! เสียงนี้ยังแว่วดังอยู่ในหัว
หนูนาก้มหน้าเดิน เก็บอาการไม่ให้เพื่อนและน้องๆชั้นอื่นเห็น ปล่อยให้น้ำตาไหลนองชุดนักเรียน แนบเนียนไปกับสายฝน
เธอทำเหมือนทุกครั้งที่โดนแกล้ง คือการหนีออกมาจากจุดนั้นให้เร็วที่สุด ทว่าวันนี้ใจลอยจนมัวแต่ก้มมองพื้นถนน
เอี๊ยด! ๆ ๆ รถเก๋งสีแดงเบรคจนล้อลาก ควันโขมง
โครมมม! หน้ารถชนเข้ากับกระโปรงนักเรียน ร่างน้อยที่ซ่อนรูปอวบขาวล้มลงไปนอนแผ่หรา
เคราะห์ยังดีที่เจ้าของรถเบรคจนเกือบจะหยุดก่อนชน จึงเพียงแค่ชนแปะแล้วล้มลงไปโดยที่ไม่มีเลือดตกยางออก
"หนู หนู เป็นอะไรไหม" ชายหนุ่มรุ่นใหญ่วิ่งลงมานั่งคุกเข่า ดึงร่างสาวน้อยหนุนนอนบนหน้าขาและตบแก้มเบาๆ
เค้าอยู่ในชุดตำรวจสีกากี ประดับดาวบนบ่า หุ่นล่ำเหมือนนักกีฬายกเวท
"คุณพ่อ" สาวสวยเดินออกมาร้องตะโกน เธอคือน้ำผึ้งหัวโจกที่ชอบกลั่นแกล้งหนูนานั่นเอง
"มาเร็ว มาช่วยเปิดประตูรถหน่อย" ตำรวจหนุ่มรุ่นใหญ่เรียกลูกสาว หล่อนรีบวิ่งหน้าซีดมาเปิดประตูรถ
"อือ หนูไม่เป็นอะไรค่ะ" หนูนาลืมตา พยายามลุกขึ้น ทว่านายตำรวจกลับดึงเธอเข้ามานั่งพิงอก
"นั่น ยัยหนูนานี่" น้ำผึ้งชี้นิ้วลงมายังร่างที่นั่งพิงอกพ่อตัวเอง
"อย่าพึ่งลุกนะลูก ไม่รู้อะไรแตกหักบ้าง เดี๋ยวพ่อพาไปหาหมอ" น้ำเสียงอบอุ่นปรายโปรยลงบนกระหม่อมน้อย เป็นครั้งแรกที่หนูนาสัมผัสได้ถึงความรัก
ด้วยพ่อแม่เธอต้องไปทำงานใช้แรงงานที่ต่างประเทศทั้งคู่ การอยู่บ้านคนเดียวทำให้สาวน้อยคนนี้ไม่เคยถูกใครดูแลมานานแสนนาน ฉะนั้นน้ำเสียงและอ้อมกอดของหนุ่มใหญ่จึงทำให้หัวใจดวงน้อยเต้นแรง
"อยู่นิ่งๆนะหนูนะ" เสียงตำรวจหนุ่มดังบนหัว สองแขนยกร่างน้อยอุ้มลอยขึ้นมานอนราบบนอ้อมแขน
วางลงนอนเบาะหลังแล้ววิ่งกลับมาขับรถ ลูกสาวของเค้าขึ้นนั่งเบาะหน้าแล้วหันมามองหนูนาแบบงงๆ
"ปล่อยเธอลงเถอะพ่อ หนูนาไม่เป็นอะไรหรอก" น้ำผึงเอ่ย
"จะบ้าเหรอ พ่อขับรถชนเค้านะ ไม่พาไปหาหมอได้ไง"
"แล้วนี่เป็นเพื่อนเราด้วยใช่ไหม หนูนาน่ะ ทำไมไม่ห่วงเพื่อนบ้าง ห๊ะ!"
เสียงผู้เป็นพ่อตะคอกดุลูกสาว ทำให้หนูนาที่นอนข้างหลังรู้สึกสะใจชอบกล
"หนูไม่เป็นอะไรจริงๆนะคะ" สาวน้อยพยุงตัวลุกนั่ง มองผ่านกระจกหน้าเห็นใบหน้าหล่อเข้มกับชุดตำรวจ
"ไปตรวจก่อนลูก เดี๋ยวเสร็จแล้วพ่อกับน้ำผึ้งจะพาหนูไปส่งบ้านเอง"
น้ำเสียงอบอุ่นดังตอบมา ฟังดูแล้วทั้งดุดันและเป็นห่วงจนไม่กล้าจะโต้แย้ง
"งั้นหนูขอโทษนะคะที่ไม่ดูทางให้ดีก่อนข้าม" หนูนาก้มคำนับหนุ่มใหญ่ สายตาประสานกันผ่านกระจกมองหลัง
"คราวหน้าก็ดูทางบ้าง ยัย เอ้อหนูนา" น้ำผึ้งเกือบหลุดปากด่า
"ไปเช็ดหัวเช็ดตัวให้เพื่อนไป" พ่อหล่อนกลับออกคำสั่งแล้วหันหน้าทำท่าทางให้ปีนข้ามมาเบาะหลัง
"โธ่ พ่อ" น้ำผึ้งบ่นแต่ก็ยอมคลานจากเบาะหน้ามาเบาะหลัง เธอใช้ผ้าเช็ดหน้าลูบหัวเปียกๆให้หนูนาแบบไม่เต็มใจ
ฟุ่บ! ๆ ๆ มือเพื่อนที่เคยกลั่นแกล้งทุบตี ตอนนี้กำลังเช็ดแขนเช็ดขาให้จนแห้ง
"ขอบใจนะ" หนูนายิ้มแบบใสซื่อ
"อย่าคิดว่าชั้นจะญาติดีกับเธอ อีโง่" เพื่อนสาวก้มกระซิบหู มันยิ่งทำให้หนูนารุ่มร้อนในอก
พอถึงโรงพยาบาลหมอก็ให้เปลี่ยนชุดนักเรียนออกแล้วใส่ชุดคนไข้สีเขียวๆ หนูนาโดนพาเข้าเครื่องเอ็กซ์เรย์ ตรวจอะไรหลายอย่างไปหมด
ปรากฏว่าคุณหมอให้นอนดูอาการหนึ่งคืน นายตำรวจใหญ่เลยลางานเพื่อนอนเฝ้าหนูนาในห้องพิเศษ
น้ำผึ้งโดนพ่อไล่กลับบ้านด้วยการโบกแท็กซี่ หล่อนดูอารมณ์เสียเอามากๆ แถมยังถลึงตาใส่หนูนาก่อนกลับ แววตาหล่อนคล้ายๆจะบอกว่าถ้ากลับไปเรียนมึงโดนแน่
หลังจากกินยาแล้วหนูนาก็กลับไปโดยที่มีหนุ่มใหญ่ในชุดตำรวจนั่งเฝ้าอยู่ข้างๆเตียง
กว่าจะรู้ตัวตื่นอีกทีก็ตอนที่มีมือใหญ่มาจับแขน ตอนนี้ มันทั้งดึก มืด และหนาว
นางเอกถูกสามีนอกใจแต่กลับแกล้งทำเป็นไม่รู้ไม่เห็น เธอยอมเป็นเมียโง่เพื่อที่ได้แอบกินตับกับพ่อผัว ลูกเลี้ยง หลานชาย และคนสวนในบ้าน สรุปแล้วเธอเสียสามีไปแค่คนเดียว แต่กลับได้ชู้ในบ้านเพิ่มเป็นสิบๆคน
หลังจากโดนผัวทิ้งตอนน้ำหนัก80กิโลแจมก็ผันตัวมาออกกำลังกายดูแลสุขภาพอย่างหนักหน่วง เพียงไม่กี่ปีเธอก็กลายเป็นสาวหุ่นดี แถมยังมีสถาบันฟิตเนสทาบทามให้ไปเป็นเทรนเนอร์สุดสวยประจำยิมเสียด้วย แต่ด้วยการที่ต้องหาลูกเทรนและทำยอดขายช่างยากเย็นไม่ต่างอะไรกับการขายประกัน ล่าสุดแจมเกิดปิ๊งไอเดียใหม่เพื่อหาคนมาเทรนด้วย เธอชอบยั่วยวนลูกชายเพื่อนๆให้มาออกกำลังกายที่ยิมแล้วหลอกกินตับ ไปๆมาๆได้ทั้งคู่นอนได้ทั้งค่าคอมจนกระเป๋าตุง เรียกได้ว่านับแต่นั้นมาแทบไม่มีวันไหนที่เธอได้นอนคนเดียวเลยซักคืน
นางเอกเปิดสำนักไถ่บาป สร้างลัทธิหลอกลวงผู้คนให้บริจาคเงิน แถมยังใช้ร่างกายที่สวยและสาวยั่วยวนเหล่าคนรวยบ้าตัญหาจนยอมเปย์ให้ทุกอย่าง นอกเหนือจากนั้นยังยั่วสวาทเหล่าหนุ่มวัยรุ่นชายฉกรรจ์ให้มาเป็นสมุนรับใช้งานต่างๆ เพื่อแลกกับการได้สัมผัสกับร่างกายอันไร้ที่ติของศาสดาสาว
กระต่ายถูกเก็บมาเลี้ยงในตระกูลผู้ดีที่มีชื่อเสียงทางสังคม ทว่าเธอกลับพลาดพลั้งไปมีอะไรกับพี่ชาย พอน้องเห็นเข้าก็แบล็คเมล์เธออีก ไปๆมาๆก็โดนคุณปู่ด้วยอีกคน ในไม่ช้าก็คงไม่พ้นพ่อเลี้ยง สรุปแล้วผู้ชายทั้งบ้านโดนเด็กสาวคนเดียวที่เก็บมาเลี้ยงกินตับจนหมด เธออยากได้อะไรก็ต้องให้ เธออยากไปไหนก็ต้องตามใจ เพราะทุกคนต่างก็คลั่งรักเด็กสาวที่ทั้งสวยและสดใส
นาจำต้องเลี้ยงดูลูกติดของน้องเขยเพราะว่าเขากับน้องสาวของเธอนั้นประสบอุบัติเหตุเสียชีวิต นับแต่นั้นมาฝาแฝดก็มีคุณป้าคนสวยเพียงคนเดียวดูแลตลอดมา พอโตเป็นหนุ่มแล้วพวกเขาก็ชอบเล่นกล้ามและไปแข่งประกวดเพาะกายจนได้รางวัลและเงินมามากมาย คุณป้ายังสาวจึงต้องคอยดูแลอาหารการกินและเสื้อผ้าหน้าผมสองหนุ่มอยู่ตลอดเวลา วันดีคืนดีก็ต้องดูแลเรื่องบนเตียงของพวกเขาด้วย ในเมื่อหนุ่มๆพวกนี้ทั้งคึกคักและแรงดี เรียกได้ว่าเผลอทีไรเป็นต้องถึงเนื้อถึงตัวกับนาทุกครั้งไป แนะนำตัวละคร นา นางเอก อายุ29ปี ด้วยความที่เธอมีเชื้อจีนและหน้าเด็กตัวเล็กขาวจึงดูเหมือนสาววัยรุ่น (สายตาสั้น,เฉิ่ม) อภิวัฒน์ น้องเขยของนา (ปัจจุบันเสียชีวิตแล้ว) เขาเป็นเสี่ยอายุ38 (มีลูกติดมาจากเมียเก่าสองคนเป็นฝาแฝด) นิน น้องสาวของนา อายุ 28 (เสียชีวิต) ปกป้อง หลานแฝดผู้พี่ อายุ18ปี เล่นกล้าม เพาะกาย เรียนปีหนึ่ง ปราบปราม หลานแฝดผู้น้อง อายุ18ปี เล่นกล้าม เพาะกาย เรียนปีหนึ่ง *หมายเหตุ แฝดทั้งสองเป็นแฝดคนละฝา หน้าตาและนิสัยไม่เหมือนกัน
เมื่อเซิ่งหนิงเตรียมจะบอกฮั่วหลิ่นเกี่ยวกับการตั้งครรภ์ของเธอ ทว่ากลับพบเขาช่วยพยุงผู้หญิงอีกคนลงจากรถอย่างเอาใจใส่... เคยคิดว่าตนเองอยู่เคียงข้างฮั่วหลิ่นคอยดูแลเขามาสามปี สักวันหนึ่งเขาจะมาสามารถสร้างความประทับใจให้กับเขา แต่สุดท้ายเป็นตนเองที่คิดเองเออเองไปฝ่ายเดียว เซิ่งหนิงตายใจแล้วจากไป สามปีต่อมา ข้างกายของเธมีผู้ชายอีกคนหนึ่ง และฮั่วหลิ่นเสียใจมาก เจาพูดด้วยความโศกเศร้า "เซิ่งหนิง เรามาแต่งงานกันเถอะ" เซิ่งหนิงยิ้มอย่างเฉยเมย "ขออภัยนะคุณฮั่ว ฉันมีคู่หมั้นแล้ว"
รูรักอันบริสุทธิ์เมื่อถูกปลายลิ้นร้อนของชายหนุ่มเป็นครั้งแรกดูเหมือนว่าจะตอบสนองได้เป็นอย่างดี ร่องของนางขมิบรัว สะโพกของนางยกขึ้นยังเด้งเข้าไปหาปากร้อน ฝ่าบาทเก่งกาจยังสามารถแยงลิ้นเข้าไปในรู อันซูเซี่ยถูกทาขี้ผึ้งหอมรอบปากทาง ขี้ผึ้งนี้นอกจากจะมีรสชาติดีส่งเสริมรสน้ำรักของนางแล้วยังมีคุณสมบัติอันวิเศษ แม้จะเป็นหญิงพรหมจรรย์ก็จะไม่รู้สึกเจ็บปวด และเผลอทำร้ายฝ่าบาทจนบาดเจ็บ อี้หลงดูดแบะขาของนางให้กว้างขึ้นแล้วรวบขึ้นไปให้ขาชี้ฟ้า จากนั้นมุดใบหน้าลงมาอย่างหลงใหล “หอมอร่อยเหลือเกิน รู้สึกเหมือนดื่มสุราไม่เมามาย อ้า ข้าชอบยิ่ง หอยของฮองเฮาช่างใหญ่โต ดูโคกเนื้อโยนีแทบจะล้นริมฝีปากของข้า สีแดงเช่นนี้คงไม่เคยผ่านสิ่งใดมาก่อน บริสุทธิ์ยิ่งนัก ซี้ด” นางดิ้นเร่าอยู่ในปาก ไม่รู้ว่าต้องทำอย่างไรนอกจากเชื่อฟังในคำของฝ่าบาท “อืม อร่อยยิ่งนัก อ้า ข้าไม่ไหวแล้วขอดูหน้าฮองเฮาของข้าหน่อยเถิด” ดูเหมือนว่าร่องรักของนางยังขมิบ นางไม่อยากให้เขาเงยหน้าขึ้นจากตรงนั้นด้วยซ้ำ อยากถูกปลายลิ้นเลียเช่นนั้นจนกว่านางจะได้รับการปลดปล่อย “อ้า ฝ่าบาทเพคะ อย่าหยุดเพคะ อื้อ” นิยายเรื่องนี้เป็นนิยายรักสำหรับผู้ใหญ่ มี 2 เล่มจบ เป็นนิยายแบบพล็อตอ่อน เน้นฉากรักบนเตียงของตัวละครเป็นหลัก เหมาะสำหรับผู้มีอายุ 25 ปีขึ้นไป ไม่เหมาะสำหรับสายคลีนใส ๆ นะคะ หากใครไม่ชอบอ่าน NC เยอะ ๆ กรุณาเลื่อนผ่าน เพราะเรื่องนี้เน้น NC เป็นหลักค่ะ ซีไซต์ นักเขียน
หลังจากอุบัติเหตุทางรถยนต์ เจียงหว่านฉือตื่นขึ้นมาด้วยความเจ็บปวด ทีแรกเธอยังคิดว่าสามีของเธอที่แต่งงานกันมาเป็นเวลาสามปีนั้นมาที่นี่เพื่อดูอาการของเธอ แต่ไม่คิดเลยว่า ชายคนนั้นกลับเดินไปที่ห้องผู้ป่วยข้างๆ เพื่อดูแลผู้หญิงอีกคนหนึ่ง และเพื่อผู้หญิงคนนั้นแล้ว เขายังต้องการส่งเธอเข้าคุกด้วย "2500 ล้าน เพื่อแลกกับการตบผู้หญิงของคุณหนึ่งฉาด"เจียงหว่านฉือมองไปที่เขาอย่างเย็นชา "เราหย่ากันเถอะ"" เธอรับใช้เขาอย่างอดทนมาเป็นเวลาตั้งสามปี ตอนนี้ เธอขอไม่ทำเรื่องโง่ ๆ แบบนั้นอีกต่อไปแล้ว เธอจะกลับไปสืบทอดมรดกมหาศาลของตระกูล
ซูมู่หยูคือลูกสาวแท้ๆ ของตระกูลที่พลัดพรากจากกันไปนาน หลังจากกลับมาสู่ครอบครัว เธอพยายามอย่างเต็มที่เพื่อเอาใจญาติๆ ไม่ว่าจะเป็นตัวตน เกียรติศักดิ์ หรือผลงานการออกแบบ เธอก็ถูกบังคับให้มอบสิ่งเหล่านี้ให้กับลูกสาวบุญธรรม อย่างไรก็ตาม เธอไม่ได้รับความรักและการดูแลจากครอบครัวแต่อย่างใด แต่กลับโดนเอาเปรียบตลอด นับแต่นั้นเป็นต้นมา มู่หยูไม่ยอมให้ใครอีกเลย และตัดความรู้สึกและความรักทั้งหมดออกไป ปัจจุบันเธอเป็นสายดำระดับเก้า เชี่ยวชาญภาษาถึงแปดภาษา เป็นผู้เชี่ยวชาญทางการแพทย์ และนักออกแบบระดับโลก ซูมู่หยูกล่าวว่า "จากนี้ไป ฉันเป็นหนึ่งของตระกูลซู"
กู้ชิงเฉิงเชื่อมั่นมาตลอดว่าตราบใดที่เธอประพฤติตัวดี สักวันหนึ่ง เธอก็จะสามารถชนะใจมู่ถิงเซียวให้ได้ อย่างไรก็ตาม เมื่อเสิ่นถัง รักแรกที่เขาคิดถึงมาตลอดกลับมา ทุกอย่างก็เปลี่ยนไป กู้ชิงเฉิงเป็นคนว่าง่ายสอนง่ายจริงๆ เธอจัดงานแต่งงานด้วยคนเดียว และนอนคนเดียวในห้องผ่าตัดเพื่อรับการรักษาฉุกเฉิน มีข่าวลือว่าเธอบ้าไปแล้ว อันที่จริงเธอบ้าไปแล้วจริงๆ ที่รักใครสักคนอย่างไม่ละอายขนาดนี้ ต่อมา ทุกคนลือกันว่า กู้ชิงเฉิงป่วยหนักและกำลังจะเสียชีวิต มู่ถิงเซียวถึงสูญเสียการควบคุมอย่างสิ้นเชิง "ฉันไม่ปล่อยให้เธอตาย" แต่เธอกลับยิ้มอย่างนิ่งๆ ว่า "ดีจังเลย ฉันเป็นอิสระแล้ว" ใช่แล้ว ไม่ต้องการกู้ชิงเฉิงอีกแล้ว"
เมื่อเธออายุยี่สิบ ชิงฉือได้รู้ว่าตนเองไม่ใช่ลูกโดยกำเนิดของตระกูลต้วน เธอถูกลูกสาวที่แท้จริงของตระกูลต้วนล้อมกรอบ จนถูกพ่อแม่บุญธรรมไล่ออกจากบ้านและกลายเป็นตัวตลกในเมือง เมื่อเธอกลับไปหาพ่อแม่ชาวนา จากนั้นก็พบว่าบิดาผู้ให้กำเนิดของเธอเป็นคนที่รวยที่สุดในเมืองเจียงเฉิงส่วนพี่ชายของตนเองเป็นอัจฉริยะในแวดวงต่างๆ ทุกคนมองดูเด็กสาวตัวเล็กคนนี้ด้วยความเห็นใจและถือว่าเธอเป็นสมบัติล้ำค่า แต่ค่อยๆ พบว่า... ที่แท้ว่าน้องสาวเป็นคนมากความสามารถ? อดีตแฟนหนุ่มผู้น่ารังเกียจหัวเราะเยาะ "อย่ามาตามเซ้าซี้ไม่เลิก ฉันมีแต่เมียนเมียนอยู่ในใจ!" คนใหญ่แห่งเมืองหลวงปรากฏตัว "เมียฉันจะเห็นหัวนายเหรอ?"