© 2018-now MeghaBook
ชูจี้ถูกเก็บไปอุปการะตั้งแต่ยังเด็ก ซึ่งถือเป็นความฝันของเด็กกำพร้าทั่วไปอย่างชูจี้ แต่ชีวิตหลังจากนั้นมันไม่ได้มีความสุขดั่งที่ชูจี้คิดฝันไว้เลย เธอต้องอดทนถูกเย้ยหยันและการทำทารุณจากแม่บุญธรรมของเธอ แต่ก็ยังโชคดีที่เธอได้รับความเมตตาจากคนใช้สูงวัยคนหนึ่งในบ้านหลังนั้น ชึ่งเป็นคนคอยดูแลและเอาใส่เธอเหมือนแม่แท้ ๆ ของเธอ จนกระทั่งคนใช้จากไปด้วยอาการป่วย ชูจี้ก็ถูกบังคับให้แต่งกับผู้ชายที่ไม่เอาการเอางานแทนลูกสาวแท้ ๆ ของพ่อแม่บุญธรรมของเธอเพื่อชดใช้ค่ารักษาพยาบาลของคนใช้ เรื่องราวจะเป็นเช่นเดียวกับซินเดอเรลล่าหรือไม่? อย่างไรก็ตาม ชายที่เธอจะแต่งงานด้วยนั้นไม่เหมือนเจ้าชายเลยสักนิดนอกจากรูปร่างหน้าตาของเขาที่สามารถเทียบเท่ากับเจ้าชายได้เท่านั้นเอง ลู่เหยี่ยนเป็นลูกชายนอกสมรสของครอบเศรษฐีครอบครัวหนึ่ง เขาใช้ชีวิตไปวันๆ (พอลอดไปด้วยค่ะ)มาโดยตลอด ที่เขาตกลงแต่งกับชูจี้ก็เพราะอยากจะทำให้ความปรารถนาสุดท้ายของแม่ของเขาสมหวังเท่านั้น แต่ในคืนวันแต่งงาน เขากลับพบว่าเจ้าสาวคนนี้มีพฤติกรรมที่ผิดกับที่เคยได้ยินได้ฟังมา โชคชะตาจะบันดาลให้พวกเขาเป็นอย่างไร และลู่เหยี่ยนจะเป็นดั่งที่เราคิดหรือไม่ สิ่งที่น่าประหลาดใจคือลู่เหยี่ยนมีหลายอย่างที่คล้ายๆ กับมหาเศรษฐีที่ใหญ่ที่สุดในเมืองนี้อย่างพิลึก สุดท้ายแล้ว ลู่เหยี่ยนจะสามารถรู้ได้หรือไม่ว่าชูจี้ คือเจ้าสาวจำเป็นที่ต้องได้แต่งงานแทนพี่สาวของเธอ การแต่งงานของพวกเขาจะเป็นจุดเริ่มต้นเรื่องราวสุดโรแมนติกหรือวิบากกรรมของชีวิต โปรด ติดตามและค้นหาชีวิตและเรื่องราวของทั้งสองคนด้วยกันเถอะ
จะดีแค่ไหน หากหล่อนได้ตื่นขึ้นมาในอ้อมแขนของเขาทุกเช้า... ตั้งแต่จำความได้ ชมพูนุชก็หายใจเป็นชื่อของเขาเรื่อยมา องค์รัชทายาทรูปงามแห่งซาเรีย เขาคือความสุขเดียวในชีวิตของหล่อน แต่ความสุขนั้นกลับไม่จีรังดั่งใจหวัง เมื่อหญิงเดียวในดวงใจของเขาหนีหน้าหายไปพร้อมกับพี่ชายของหล่อน ความผิดบาปทุกอย่างจึงถูกขว้างใส่หน้า เขาเรียกร้องให้ครอบครัวของหล่อนรับผิดชอบกับสิ่งที่เกิดขึ้น พร้อมกับตราหน้าผู้หญิงที่เฝ้าภักดีกับเขาอย่างหล่อนว่า ‘นังแพศยา’ “หน้าที่หนึ่งเดียวสำหรับเธอ บนเตียงของฉันก็คือ... นางบำเรอ” องค์รัชทายาทรูปงามหยิบกางเกงขึ้นมาสวมใส่ นัยน์ตาสีทองตวัดจ้องมองมายังร่างเปลือยเปล่าบอบช้ำของหล่อนอย่างดูแคลน “จำเอาไว้ ถ้าฉันเรียก เธอก็ต้องมา ถ้ามาช้า ฉันจะสั่งโบยพ่อ หรือไม่ก็ แม่ของเธอ” “อย่านะเพคะ...” ริมฝีปากหยักสวยคลี่ยิ้มหยัน “ถ้าไม่อยากให้เป็นเช่นนั้น เธอควรจะรู้หน้าที่ของตนเอง...” มือใหญ่ตบลงบนเตียงนอนนุ่ม ราวกับต้องการย้ำเตือนหน้าที่อันทรงเกียรติของหญิงสาว
‘มาร์คัส นิคาซิโอ้’ นักธุรกิจเลือดเย็น ไร้หัวใจ และเป็นเสือผู้หญิง เขาไม่ชอบการผูกมัดแต่สนุกกับการเปลี่ยนรสชาติคู่นอนไปเรื่อยๆ ‘เหมือนฟ้า’ หญิงสาวพรหมจรรย์ที่ถูกขายให้มาเป็นคู่นอนชั่วคราวของมาร์คัส เมื่อเธอต้องมาอยู่ร่วมชายคาเดียวกับเขาร่วมกับผู้หญิงอีกคนหนึ่งในฐานะนางบำเรอ เธอเป็นผู้หญิงคนแรกที่เขามีอะไรด้วยโดยลืมที่จะป้องกัน ทั้งที่ปกติแล้วไม่เคยพลาดเรื่องนี้สักครั้ง เธอทำให้เขาฉีกทุกกฎเกณฑ์ที่เคยตั้งไว้ เรื่องราวเริ่มต้นขึ้นเมื่อเธอเกิดตั้งครรภ์ขึ้นมา เพื่อปกป้องลูกในท้องจึงต้องหนีไปโดยไม่บอกเขาสักคำว่าในท้องของเธอมีสายเลือดของเขาอยู่ เขาจึงพลิกแผ่นดินอย่างบ้าคลั่งเพื่อตามหาเธอ... โทษฐานที่กล้าหนีไปจากเขา คือเธอต้องมาเป็นภรรยาเพียงคนเดียวที่เขารักตลอดไป
“หยุดทำบ้าๆ นะพี่สิงห์...อ๊อย...” น้ำผึ้งขนลุกซู่ เขาจูบไซ้ซอกคอของหล่อน ขณะหญิงสาวกำลังยืนส่องกระจกอยู่หน้าอ่างล้างหน้า “พี่ขออีกนิด แค่ภายนอกเท่านั้นนะจ๊ะ ไม่เสียหายอะไรนี่นา...นะครับ” พี่เขยปะเหลาะปะแหละอย่างคนเอาแต่ได้ เสียงออดอ้อนอ่อนหวานเริ่มทำให้น้องเมียใจอ่อนหวามไหว ปล่อยให้มือของเขาเคล้นคลึงสะโพกของหล่อนอย่างนึกมันเขี้ยว สอดท่อนแขนเข้ามาระหว่างง่ามก้น หงายฝ่ามือลูบไล้เข้ามาถึงหนอกเนื้ออุ่นจัดอีกครั้ง ตะล่อมล้วงเข้ามาโอบเนินนูนเหมือนหลังเต่า บีบขยำเบาๆ เหมือนจะประมาณความอวบใหญ่ล้นอุ้งมือ “ของผึ้งใหญ่จัง” มือสัมผัสกลีบเนื้อเป็นพูแน่น โหนกนูนและใหญ่กว่าของเจนนี่มากมาย “อ๊าย...” น้ำผึ้งเสียว กระดกก้นขึ้นโดยอัตโนมัติ สิงหาบีบขยำความเป็นผู้หญิงของหล่อนเป็นจังหวะ หัวใจเต้นแรงกับความอวบใหญ่ที่อัดแน่นอยู่ในอุ้งมือของตน “อย่า...พี่สิงห์...หยุดเดี๋ยวนี้นะ เดี๋ยวพี่เจนนี่มาเห็นผึ้งซวยแน่ๆ” น้องเมียร้องห้ามอย่างสับสนใจ ส่ายก้นทำท่าว่าจะดิ้นหนี แต่ช้ากว่ามือใหญ่ของสิงหาอีกข้างที่กดลงบนแผ่นหลังของหล่อนเหมือนจะล็อกกายไม่ให้ขยับหนี
ซือมู่อัน หรือคุณชายซือ ทายาทเพียงคนเดียวของตระกูลซือ นักธุรกิจพันล้านผู้ได้ฉายาว่าเย็นชาไร้หัวใจ ผู้หญิงสำหรับเขามีไว้เพื่อระบายเท่านั้น จนวันนึงเขาตกหลุมรักหลิวถิงถิง เด็กสาววัยมหาวิทยาลัยที่ตนรับอุปการะ ทั้งๆที่มั่นใจว่าชีวิตนี้เขาจะไม่รักผู้หญิงคนไหน แล้วเธอมีอะไรดีเขาถึงตกหลุมรักเธอเข้าอย่างจัง แต่กว่าจะรู้ตัวว่ารักเธอ เด็กในอุปการะก็เรียนจบจนหนีเขาไปอยู่ต่างเมืองแล้ว แต่มีหรือที่เขาจะปล่อยให้เธอไป ไม่ว่าอย่างไรเธอก็ต้องกลับมารับผิดชอบกับหัวใจที่เขามอบให้เธอ
เกาเหมียวหรงบุตรสาวนายอำเภอโจว ไม่เป็นที่รักของขอบิดา เกาเซิง นางเป็นบุตรภรรยาเอกที่ตายไปแล้ว กระนั้นบิดาจึงให้นางออกเรือนกับพ่อค้าคารวานแห่งทุ่งหญ้า มีอายุคราวบิดา นางจึงตัดสินใจเป็นอนุของแม่ทัพหนานอ๋อง
กลางวันอ่อนหวาน กลางคืนร้อนแรง นี่คือคำที่ลู่เยียนจือใช้เพื่อบรรยายถึงเธอ แต่หานเวยบอกว่าตัวเองมีชีวิตอยู่ไม่ถึงครึ่งปี ลู่เยียนจือกลับไม่ลังเลที่จะขอหย่ากับสือเนี่ยน “แค่ปลอบใจเธอไปก่อน ครึ่งปีข้างหน้าเราค่อยแต่งงานใหม่” เขาคิดว่าสือเนี่ยนจะรออยู่ที่เดิมตลอด แต่เธอได้ตาสว่างแล้ว น้ำตาแห้งสนิท หัวใจสือเนี่ยนก็แตกสลายไปแล้วด้วย การหย่าปลอมๆ สุดท้ายกลายเป็นจริง ทำแท้งลูก เริ่มต้นชีวิตใหม่ สือเนี่ยนจากไปโดยไม่หันกลับมาอีก แต่ลู่เยียนจือกลับเสียสติ ต่อมา ได้ยินว่าคุณชายลู่ผู้มีอิทธิพลนั้นก็อยู่นิ่งๆ ต่อไปไม่ได้ ขับรถเมอร์เซเดส-เบนซ์ไล่ตามเธออย่างบ้าคลั่ง เพียงเพื่อขอให้เธอเหลือบมองเขาอีกครั้ง...
หลังจากที่แฟนหนุ่มประสบอุบัติเหตุรถชนและหมดสติไปหนึ่งสัปดาห์ เขาก็ฟื้นคืนความทรงจำขึ้นมาอย่างกะทันหัน เขาจำได้ว่ามีคนที่เขารักมายาวนาน ดังนั้น สิ่งแรกที่เซิ่งหลินชวนทำเมื่อฟื้นจากอาการโคม่า คือการขอเลิกกับฉินเวย “เรื่องที่เกิดขึ้นในช่วงที่ฉันความจำเสื่อม ไม่ได้เป็นสิ่งที่ฉันตั้งใจทำจริงๆ ตั้งแต่วันนี้เป็นต้นไป เราตัดขาดความสัมพันธ์ ความรักของเราก็ทำเหมือนไม่เคยเกิดขึ้นเลย ” ฉินเวยไม่ได้ว่าอะไร บัญเอิญว่าการวิจัยยาใหม่ในห้องทดลองสำเร็จ ฉินเวยจึงขอเข้าร่วมการทดลองยา “เมื่อคุณรับประทานยาเม็ดนี้ ความทรงจำส่วนนี้จะถูกลบไปอย่างถาวร คุณฉินเวย คุณตัดสินใจดีแล้วหรือ?”
หลังจากที่แต่งงานเข้ามาในตระกูลมู่ หลินซีได้ทำหน้าที่เป็นคุณนายมู่ที่ยอมอดทนกับทุกอย่างโดยไม่ปริปากเป็นเวลาสามปี เธอรักมู่จิ่วเซียว จึงยอมอดทนดูแลเขาอย่างเต็มใจ แม้ว่าเขาจะมีคนอื่นอยู่ข้างนอกก็ตามแต่เขากลับไม่เคยเห็นค่าของเธอ เหยียบย่ำความรักของเธอให้แหลกสลาย และถึงขั้นปล่อยให้น้องสาวของเขามอมเหล้าเธอแล้วส่งไปยังเตียงของลูกค้า หลินซีนั้นถึงเพิ่งจะตาสว่างเมื่อรู้ว่าความรักที่มีมานานนั้นช่างน่าขันและน่าเศร้าในใจของเขา เธอไม่ต่างอะไรกับผู้หญิงคนอื่นๆ ที่เข้ามาเกาะเขา เธอจึงทิ้งข้อตกลงการหย่าไว้แล้วจากไปโดยไม่ลังเล มู่จิ่วเซียวมองดูเธอประสบความสำเร็จ กลายเป็นดวงดาวที่ส่องแสงในสายตาของผู้คนเมื่อได้เจอกันอีกครั้ง เธอเต็มไปด้วยความมั่นใจและสงบเสงี่ยม โดยมีผู้ชายที่มีฐานะสูงส่งอยู่เคียงข้าง มู่จิ่วเซียวมองดูใบหน้าของคู่แข่งหัวใจที่ดูคล้ายกับของเขามาก จากนั้นเขาก็ตระหนักได้ว่าในสายตาเธอ เขาเป็นเพียงตัวแทนของคนอื่นในมุมแห่งหนึ่ง เขาขวางทางเธอไว้ “หลินซี คุณเล่นตลกกับผมใช่ไหม”
“แหวนไปไหน” “คะ” หญิงสาวรีบหดมือหนีในทันที “พี่ถามว่าแหวนไปไหน” คริษฐ์ยังย้ำคำถามเดิมแล้วจ้องหน้าคู่หมั้นสาวแบบไม่พอใจ “คืออยู่ที่ออฟฟิศมันต้องล้างแก้วกาแฟบ่อย ๆ รุ้งก็เลยถอดเก็บเอาไว้ค่ะกลัวมันจะสึกเสียก่อน” คำตอบของหญิงสาวค่อยทำให้คริษฐ์รู้สึกผ่อนคลายลงเล็กน้อย “ถ้าถอดออกพี่จะถือว่ารุ้งขอถอนหมั้นพี่นะ” “ก็ไม่ได้ถอนสักหน่อย แค่ถอดเก็บเอาไว้เฉย ๆ” “งั้นก็ใส่เสียสิ เดี๋ยวนี้เลย” คริษฐ์ถลึงตาใส่แกมบังคับ “ใส่ก็ใส่ค่ะ” คนพูดตัดพ้อเล็กน้อย แล้วหันไปหยิบกระเป๋าด้านข้างมาเปิดเพื่อหยิบแหวนหมั้นของตนออกมาสวมใส่ จากนั้นก็หันหลังมือให้เขาดู “พอใจหรือยังคะ” “ดี” “ว่าแต่พี่คริษฐ์มานั่งรอรุ้งทำไมคะ มีธุระสำคัญหรือเปล่า” หญิงสาววกมาหาคำถามแรกที่เธออยากรู้ แต่เขาดันจุดประเด็นเรื่องแหวนขึ้นมาแทรกเสียก่อน “แม่ให้พี่มาหาคู่หมั้นตัวเองบ้าง” ฟังเขาพูดแล้วรุ้งพรายชักเครียดขึ้นมาหน่อย ๆ “ถ้าคุณป้าพิมพ์ไม่บอกพี่คริษฐ์ก็คงไม่มาหารุ้งใช่ไหมคะ” “แล้วทำไมรุ้งถึงไม่ไปหาพี่เองบ้างล่ะ” “ก็รุ้งกลัวพี่คริษฐ์รำคาญ” บทสนทนาสิ้นสุดลงด้วยความเงียบด้วยกันทั้งสองฝ่าย คริษฐ์ถอนหายใจเบา ๆ ส่วนรุ้งพรายก็ก้มหน้าต่ำลง ทำไมถึงได้รู้สึกอึดอัดอย่างบอกไม่ถูก “พี่ไลน์หาอ่านแล้วทำไมไม่ตอบ” คริษฐ์เป็นฝ่ายเอ่ยขึ้นก่อนหลังจากเงียบมาเกือบหนึ่งนาที “พอดีรุ้งมาอ่านตอนดึกแล้วไม่อยากรบกวนพี่คริษฐ์ค่ะ” “ตอบมาสักคำก็ยังดี อย่าทำเหมือนพี่ไม่มีตัวตนนะรุ้ง จำเอาไว้ด้วยว่าพี่เป็นคู่หมั้นของรุ้ง” “มันไม่น่าจะเป็นแบบนี้นะคะพี่คริษฐ์” “อะไรกันที่ว่าไม่น่าจะเป็นแบบนี้” “รุ้งว่าเราถอนหมั้นกันดีกว่าไหมคะ ดูพี่คริษฐ์อึดอัดกับการหมั้นของเราเหลือเกิน ขนาดจะมาหารุ้งก็ต้องให้คุณป้าพิมพ์บังคับมาเลย” “แม่ไม่ได้บังคับพี่” “ไม่บังคับก็เหมือนบังคับนั่นแหละค่ะ ตั้งแต่ตอนเด็กแล้วพี่ คริษฐ์แทบไม่เคยขัดใจคุณป้าพิมพ์ได้เลย ถ้ามันเหนื่อยและยุ่งยากมากรุ้งขอถอนหมั้นไปเลยก็ได้ค่ะ” รุ้งพรายดึงแหวนออกจากนิ้วนางข้างซ้าย แล้ววางแหมะอยู่ตรงหน้าของเขา คริษฐ์มองแหวนมองคนแล้วอารมณ์ของเขาก็เดือดดาลขึ้น บทจะอยากได้ก็วิ่งตามติดเป็นเงา บทจะสลัดทิ้งก็ง่าย ๆ แบบนี้เหรอรุ้งพราย “ใส่กลับไปเดี๋ยวนี้” ชายหนุ่มแทบจะกัดฟันพูดออกมา “ไม่ค่ะ อ๊ะ! พี่คริษฐ์จะทำอะไรรุ้งไม่ใส่” รุ้งพรายถูกคริษฐ์กระชากมือมาแล้วจัดการสวมแหวนกลับที่เดิม “ใส่แล้วห้ามถอด ห้ามทำให้แม่พี่เสียใจรู้ไหม” “พี่คริษฐ์!” (รักร้ายจอมทระนง)
ในชีวิตชาติที่แล้ว เพื่อช่วยรักแรกของตัวเอง คนชั่วสามคนได้ทำลายพลังการต่อสู้ของนาง ตัดแขนขาของนางออก ตัดเส้นเลือดของนางและปล่อยเลือดของนางไหลออกมาทั้งอย่างนั้น และทรมานนางจนตาย เมื่อเกิดใหม่ครั้งนี้ นางวางแผนอย่างรอบคอบ โดยสาบานว่าจะให้พวกเขาได้สัมผัสกับความทุกข์ทรมานที่นางเคยประสบมา! รักแรกที่ไร้เดียงสาอะไรกัน ที่จริงก็เป็นเพียงผู้หญิงที่ตีสองหน้าเก่ง อยากจะไต่ขึ้นไปสูงเหรอ งั้นก็จะให้เจ้าปีนขึ้นไป ยิ่งปีนขึ้นสูงมากเท่าไร ตอนตกลงมาก็จะยิ่งเจ็บมากเท่านั้น! พวกสวะสมควรได้รับบาปกรรมของพวกสวะ พวกมันทำชั่วกับนางไปชั่วชีวิตหนึ่ง นางจะทำให้พวกมันไม่ตายดี พวกคนที่เจ้าเล่ห์ ตีสองหน้าเก่ง นางจะจัดการกับทุกคน! แต่นางไม่เคยคิดเลยว่าในการแก้แค้นของนาง นางจะไปมีเรื่องกับเสด็จอาที่เป็นเจ้าแผนการเข้า ที่วัน ๆ ต้องการให้นางจูบและกอดเขาตลอดทั้งวัน ในขณะที่นางแก้แค้นคนชั่วนั้นยังสามารถสนิทสนมกับเสด็จอาด้วย ในความจริงแล้ว การที่เป็นผู้หญิงชั่วๆ ก็มีความสุขมาทีเดียวกว่าที่คิดเลย!
สร้างคุณค่าด้วยนิยายคุณ
กลางวันอ่อนหวาน กลางคืนร้อนแรง นี่คือคำที่ลู่เยียนจือใช้เพื่อบรรยายถึงเธอ แต่หานเวยบอกว่าตัวเองมีชีวิตอยู่ไม่ถึงครึ่งปี ลู่เยียนจือกลับไม่ลังเลที่จะขอหย่ากับสือเนี่ยน “แค่ปลอบใจเธอไปก่อน ครึ่งปีข้างหน้าเราค่อยแต่งงานใหม่” เขาคิดว่าสือเนี่ยนจะรออยู่ที่เดิมตลอด แต่เธอได้ตาสว่างแล้ว น้ำตาแห้งสนิท หัวใจสือเนี่ยนก็แตกสลายไปแล้วด้วย การหย่าปลอมๆ สุดท้ายกลายเป็นจริง ทำแท้งลูก เริ่มต้นชีวิตใหม่ สือเนี่ยนจากไปโดยไม่หันกลับมาอีก แต่ลู่เยียนจือกลับเสียสติ ต่อมา ได้ยินว่าคุณชายลู่ผู้มีอิทธิพลนั้นก็อยู่นิ่งๆ ต่อไปไม่ได้ ขับรถเมอร์เซเดส-เบนซ์ไล่ตามเธออย่างบ้าคลั่ง เพียงเพื่อขอให้เธอเหลือบมองเขาอีกครั้ง...
ไม่ว่าเธอจะปฏิเสธอย่างไรเขาก็ไม่มีทางเชื่อว่าเธอไม่ได้จงใจฆ่าแม่ของเขาโทษทัณฑ์สวาทหลังจากนี้ที่เธอจะได้รับจากเขามันจะทำให้เธอเหมือนตกนรกไปตลอดชีวิต
สิบปีเต็มที่ฉันแอบรักภาคิน วงศ์วรานนท์ ผู้ปกครองของฉัน หลังจากครอบครัวของฉันล้มละลาย เขาก็รับฉันไปดูแลและเลี้ยงดูฉันจนโต เขาคือโลกทั้งใบของฉัน ในวันเกิดอายุสิบแปดปี ฉันรวบรวมความกล้าทั้งหมดเพื่อสารภาพรักกับเขา แต่ปฏิกิริยาของเขากลับเป็นความเกรี้ยวกราดอย่างที่ฉันไม่เคยเห็นมาก่อน เขาปัดเค้กวันเกิดของฉันตกพื้นแล้วคำรามลั่น “สติแตกไปแล้วเหรอ? ฉันเป็นผู้ปกครองเธอนะ!” จากนั้นเขาก็ฉีกภาพวาดที่ฉันใช้เวลาวาดเป็นปีเพื่อเป็นคำสารภาพรักของฉันจนไม่เหลือชิ้นดี เพียงไม่กี่วันต่อมา เขาก็พาโคลอี้ คู่หมั้นของเขากลับมาบ้าน ผู้ชายที่เคยสัญญาว่าจะรอฉันโต ที่เคยเรียกฉันว่าดวงดาวที่สว่างไสวที่สุดของเขา ได้หายไปแล้ว ความรักที่ร้อนแรงและสิ้นหวังตลอดสิบปีของฉันทำได้เพียงแผดเผาตัวเอง คนที่ควรจะปกป้องฉันกลับกลายเป็นคนที่ทำร้ายฉันเจ็บปวดที่สุด ฉันก้มมองจดหมายตอบรับจากจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัยในมือ ฉันต้องไปจากที่นี่ ฉันต้องถอนรากถอนโคนเขาออกจากหัวใจ ไม่ว่าจะเจ็บปวดแค่ไหนก็ตาม ฉันยกโทรศัพท์ขึ้นมากดเบอร์ของพ่อ “พ่อคะ” ฉันพูดด้วยน้ำเสียงแหบพร่า “เอวาตัดสินใจแล้ว เอวาอยากไปอยู่กับพ่อที่กรุงเทพฯ ค่ะ”
หลังจากที่แต่งงานเข้ามาในตระกูลมู่ หลินซีได้ทำหน้าที่เป็นคุณนายมู่ที่ยอมอดทนกับทุกอย่างโดยไม่ปริปากเป็นเวลาสามปี เธอรักมู่จิ่วเซียว จึงยอมอดทนดูแลเขาอย่างเต็มใจ แม้ว่าเขาจะมีคนอื่นอยู่ข้างนอกก็ตามแต่เขากลับไม่เคยเห็นค่าของเธอ เหยียบย่ำความรักของเธอให้แหลกสลาย และถึงขั้นปล่อยให้น้องสาวของเขามอมเหล้าเธอแล้วส่งไปยังเตียงของลูกค้า หลินซีนั้นถึงเพิ่งจะตาสว่างเมื่อรู้ว่าความรักที่มีมานานนั้นช่างน่าขันและน่าเศร้าในใจของเขา เธอไม่ต่างอะไรกับผู้หญิงคนอื่นๆ ที่เข้ามาเกาะเขา เธอจึงทิ้งข้อตกลงการหย่าไว้แล้วจากไปโดยไม่ลังเล มู่จิ่วเซียวมองดูเธอประสบความสำเร็จ กลายเป็นดวงดาวที่ส่องแสงในสายตาของผู้คนเมื่อได้เจอกันอีกครั้ง เธอเต็มไปด้วยความมั่นใจและสงบเสงี่ยม โดยมีผู้ชายที่มีฐานะสูงส่งอยู่เคียงข้าง มู่จิ่วเซียวมองดูใบหน้าของคู่แข่งหัวใจที่ดูคล้ายกับของเขามาก จากนั้นเขาก็ตระหนักได้ว่าในสายตาเธอ เขาเป็นเพียงตัวแทนของคนอื่นในมุมแห่งหนึ่ง เขาขวางทางเธอไว้ “หลินซี คุณเล่นตลกกับผมใช่ไหม”
คู่แท้ของฉัน อัลฟ่าธาม กำลังจัดพิธีตั้งชื่ออันศักดิ์สิทธิ์ให้ทายาทของเขา ปัญหามีอยู่เรื่องเดียว... เขากำลังฉลองให้กับลูกที่เกิดกับลิตา หมาป่าไร้ฝูงที่เขาพาเข้ามาในฝูงของเรา ส่วนฉัน คู่แท้ตัวจริงของเขาที่กำลังตั้งท้องทายาทของเขาได้สี่เดือน กลับเป็นคนเดียวที่ไม่ได้รับเชิญ เมื่อฉันไปเผชิญหน้ากับเธอ เธอกลับใช้เล็บข่วนแขนตัวเองจนเลือดออก แล้วกรีดร้องว่าฉันทำร้ายเธอ ธามเห็นการแสดงของเธอก็ไม่แม้แต่จะมองฉัน เขาคำรามลั่น ใช้คำสั่งอัลฟ่าบีบบังคับให้ฉันจากไป พลังแห่งสายใยผูกพันของเราถูกบิดเบือนให้กลายเป็นอาวุธที่หันกลับมาทำร้ายฉันเอง ต่อมา เธอทำร้ายฉันจริงๆ จนฉันล้มลง ขณะที่เลือดเริ่มซึมออกมาจากชุดของฉัน คุกคามชีวิตลูกของเรา เธอกลับเหวี่ยงลูกของตัวเองลงบนพรมแล้วกรีดร้องว่าฉันพยายามจะฆ่าลูกของเธอ ธามพุ่งเข้ามา เขาเห็นฉันจมกองเลือดอยู่บนพื้น แต่เขากลับไม่ลังเลเลยสักนิด เขาช้อนลูกของลิตาที่กำลังร้องลั่นขึ้นมาในอ้อมแขน แล้ววิ่งออกไปตามหมอทันที ทิ้งให้ฉันกับทายาทที่แท้จริงของเขานอนรอความตาย แต่ขณะที่ฉันนอนอยู่ตรงนั้น เสียงของแม่ก็ดังขึ้นในหัวผ่านกระแสจิตของเรา คนของครอบครัวกำลังรอฉันอยู่นอกเขตแดนแล้ว เขากำลังจะได้รู้ว่าโอเมก้าที่เขาเขี่ยทิ้ง แท้จริงแล้วคือเจ้าหญิงของฝูงที่ทรงพลังที่สุดในโลก
ตายด้วยเงื้อมมือของเพื่อนร่วมสาขา เนเน่ เนตรนภา จึงทะลุมิติมาอยู่ในร่างเด็กน้อยวัยสิบหนาวที่ป่วยตาย นามเซี่ยซูเหยา มีบิดา พี่สาว พี่ชายที่เป็นห่วงนางมากกว่าสิ่งใด
ตลอดระยะเวลาสามปีที่หยุยเอินแต่งงานกับฝู้ถิงหย่วน เธอพยายามทำหน้าที่ภรรยาให้ดีที่สุด เธอคิดว่าความอ่อนโยนของตนจะสามารถละลายใจที่เย็นชาของฝู้ถิงหย่วนได้ แต่ต่อมาเธอก็รู้ตัวว่าไม่ว่าเธอจะพยายามแค่ไหน ผู้ชายคนนี้ก็ไม่มีวันจะตกหลุมรักเธอได้ ด้วยความสิ้นหวังของเธอ สุดท้ายเธอตัดสินใจที่จะยุติการแต่งงานครั้งนี้ ในสายตาของฝู้ถิงหย่วน หยุยเอิน ภรรยาของเขาเป็นผู้หญิงที่โง่ ไม่มีอะไรดีเลยสักอย่าง แต่เขาก็คิดไม่ถึงว่าภรรยาของเขาจะกล้าโยนใบหย่าใส่เขาต่อหน้าคนมากมายในงานเลี้ยงวันครบรอบฝู้ซื่อ กรุ๊ป หลังจากหย่าร้าง ทุกคนต่างคิดว่าพวกเขาจะไม่มีอะไรเกี่ยวข้องกันอีกต่อไป แต่เรื่องราวระหว่างทั้งสองคงไม่ได้จบลงอย่างง่าย ๆ แบบนี้ หยุยเอินได้รับรางวัลบทภาพยนตร์ยอดเยี่ยม และคนที่เป็นผู้มอบถ้วยรางวัลให้กับเธอก็คือฝู้ถิงหย่วน หยุยเอินคิดไม่ถึงว่าผู้ชายที่สูงส่งและแสนเย็นชาคนนี้จะลดตัวลงอ้อนวอนเธอต่อหน้าผู้ชมทั้งหมด"หยุยเอิน ก่อนหน้านี้คือผมผิดเอง ขอโอกาสให้ผมอีกครั้งได้ไหม"หยุยเอินยิ้มด้วยความมั่นใจ"ขอโทษนะคุณฝู้ ตอนนี้ฉันสนใจแต่เรื่องงาน"ชายหนุ่มคว้ามือเธอไว้ ดวยตานั้นเต็มไปด้วยความผิดหวัง หยุยเอินสบัดมือเขาและเดินจากไปโดยปราศจากความลังเลใด ๆ
เรือนนี้ผีไม่หลอก : นามปากกา บ.บี อู่หลิงเยว่หญิงสาววัย 17 ปี ตายเพราะแผ่นดินไหวในศตวรรษที่ 21 แต่ยังไม่ทันได้ผุดได้เกิด กลับตื่นขึ้นในร่างหญิงโบราณที่ชื่อแซ่เดียวกันท่ามกลางภาวะสงคราม โลกใหม่ที่นางมาเยือนคือแคว้นเหยียน ดินแดนที่เพิ่งถูกตีแตกและกำลังจะล่มสลาย นางไม่มีบ้าน ไม่มีเงิน ไม่มีครอบครัวหลงเหลือ มีเพียง “ห้างสรรพสินค้าส่วนตัว” พร้อมระบบแลกแต้มที่ยังไม่เสถียร และกฎเหล็กข้อเดียว: จะใช้ของในห้างสรรพสินค้าได้ ต้องทำความดีเพื่อสะสมแต้ม! แต่ในยุคที่ผู้คนกำลังอดอยากและถูกไล่ล่าจากศัตรู หากนางเผลอหยิบเอาอาหารออกมาจากอากาศแล้วมีคนพบเห็นเข้า นางคงถูกตีตราว่าเป็นแม่มดนอกรีตเป็นแน่ เพื่อเอาตัวรอด อู่หลิงเยว่หนีเข้าเรือนร้างเก่าแก่ของตระกูลเกา เรือนที่คนทั้งหมู่บ้านร่ำลือว่ามีผีเฮี้ยน เพราะเจ้าของเรือนกับบ่าวไพร่สิบสองชีวิต เคยถูกฆ่าตายยกหลังในคืนเดียว นางจึง "แกล้งเป็นผี" แจกจ่ายข้าวของกลับไปเป็นข้าว ยา และของใช้ ชาวบ้านได้ของกินนางได้แต้ม ระบบได้ทำงาน วิน วิน!!! แต่เรื่องกลับไม่ง่ายอย่างที่คิด... แม่ทัพเซี่ยโม่เหวิน นำทหารสามร้อยนายเข้ามาตั้งค่ายในหมู่บ้านหานเฉิง เพื่อดูแลชาวบ้านและทหารหนีตายจากทั่วสารทิศ เมื่อเขาค้นพบว่าองค์ชายแห่งแคว้นยังมีชีวิตอยู่พร้อมกองกำลังขนาดใหญ่ที่อาจเป็นกุญแจสำคัญในการกอบกู้บ้านเมือง เขาจึงวางแผนพาชาวบ้านและทหารที่เหลือทั้งหมดไปรวมกำลังกับองค์ชาย ทว่า..ชาวบ้านกลับปฏิเสธ พวกเขาไม่เชื่อในกองทัพ แต่กลับเชื่อมั่นใน "ผีเรือนร้าง" ผีที่ไม่เคยหลอกใคร แต่แจกข้าว แจกยา และความหวัง เมื่อทางเลือกหมดลง..เซี่ยโม่เหวินจึงตัดสินใจทำในสิ่งที่ไม่มีแม่ทัพคนใดเคยคิดจะทำมาก่อน เขาจะไปเชิญ “ผี” ร่วมเดินทางไปด้วย และสิ่งที่เขาได้พบในเรือนร้าง จะเปลี่ยนทุกอย่างที่เขาเคยเชื่อไปตลอดกาล
หลังจากที่แต่งงานเข้ามาในตระกูลมู่ หลินซีได้ทำหน้าที่เป็นคุณนายมู่ที่ยอมอดทนกับทุกอย่างโดยไม่ปริปากเป็นเวลาสามปี เธอรักมู่จิ่วเซียว จึงยอมอดทนดูแลเขาอย่างเต็มใจ แม้ว่าเขาจะมีคนอื่นอยู่ข้างนอกก็ตามแต่เขากลับไม่เคยเห็นค่าของเธอ เหยียบย่ำความรักของเธอให้แหลกสลาย และถึงขั้นปล่อยให้น้องสาวของเขามอมเหล้าเธอแล้วส่งไปยังเตียงของลูกค้า หลินซีนั้นถึงเพิ่งจะตาสว่างเมื่อรู้ว่าความรักที่มีมานานนั้นช่างน่าขันและน่าเศร้าในใจของเขา เธอไม่ต่างอะไรกับผู้หญิงคนอื่นๆ ที่เข้ามาเกาะเขา เธอจึงทิ้งข้อตกลงการหย่าไว้แล้วจากไปโดยไม่ลังเล มู่จิ่วเซียวมองดูเธอประสบความสำเร็จ กลายเป็นดวงดาวที่ส่องแสงในสายตาของผู้คนเมื่อได้เจอกันอีกครั้ง เธอเต็มไปด้วยความมั่นใจและสงบเสงี่ยม โดยมีผู้ชายที่มีฐานะสูงส่งอยู่เคียงข้าง มู่จิ่วเซียวมองดูใบหน้าของคู่แข่งหัวใจที่ดูคล้ายกับของเขามาก จากนั้นเขาก็ตระหนักได้ว่าในสายตาเธอ เขาเป็นเพียงตัวแทนของคนอื่นในมุมแห่งหนึ่ง เขาขวางทางเธอไว้ “หลินซี คุณเล่นตลกกับผมใช่ไหม”
เมื่อหลุดเข้าไปในนิยาย ได้เป็นถึงนางเอกของเรื่องเรื่อง การจะกลับออกไปคือต้องให้จบแบบ happy ending แต่ทำไม๊ พระเอกกลับบอกว่าฉันจืดชืด ไร้รสนิยม แต่เขาดันไปต้องใจยัยตัวร้ายซะงั้น
เขาเหลือบสายตามองแก้มบางที่อยู่ไม่ห่างจากปาก จมูกน้อย ๆ ของนางคลอเคลียอยู่ที่ลำคอของเขาเมื่อก้าวเดิน เขาไม่คิดให้เสียเวลา ลดฝีเท้าในการเดินให้ช้าที่สุดเท่าที่จะทำได้ แล้วคิดกำไรด้วยการจูบมุมปากและหอมแก้มของเธออย่างเอาเป็นเอาตาย แต่ก็แผ่วเบานุ่มนวล เพราะไม่อยากทำให้นางตื่นจนเสียโอกาส มือไม้ก็ลูบไล้ความนุ่มเนียนจนลื่นมือของผิวแท้ ที่มีเพียงผ้าผืนน้อยปิดกั้นไว้ “สตรีขี้เมามันไม่งาม แต่ข้าก็ชอบถ้าเป็นเจ้า” เขาพึมพำชิดริมฝีปากอวบอิ่ม ประทับจูบลงไปแนบแน่นเมื่อวางร่างของนางลงบนเตียงเรียบร้อยแล้ว...
วิโมกข์คือชายหนุ่มวัยยี่สิบเจ็ดที่ผิดหวังจากความรักอย่างรุนแรง เขากลายเป็นคนอ่อนแอไร้หลัก หมกมุ่นอยู่กับสุรานานนับเดือน แต่หลังจากนั้นก็ได้สติเพราะคำพูดแทงใจของเด็กสาววัยสิบเจ็ดปีคนหนึ่ง เจ็ดปีต่อมาเขาได้กลายเป็นนายหัวผู้ทรงอิทธิพลในธุรกิจค้าหอยเป๋าฮื้อ และต้องเผชิญหน้ากับอดีตคนรักที่เข้ามาอยู่ในบ้านของเขาอีกครั้ง... ชาร์มมิ่งในวัยยี่สิบสี่ปีเดินทางจากนิวยอร์กสู่สงขลาอีกครั้งหลังจากเจ็ดปีผ่านไป เพราะถูกเพื่อนรักขอร้องให้มาแสดงละครขัดขวางอดีตคนรักของพี่ชาย เธอไม่อยากทำแบบนี้เลยเพราะพอใจที่จะแอบรักเขาไปแบบนี้มากกว่า แต่จะทำไงได้ล่ะ.. ในเมื่อเธอก็ถูกผู้เป็นย่าคอยจับคู่อยู่เรื่อยไป จึงตัดสินใจเลือกในสิ่งที่หัวใจปรารถนา... การแสดงที่มาจากส่วนลึกของจิตใจจริงๆ จึงเริ่มต้นขึ้นนับตั้งแต่วินาทีที่เธอเจอหน้าเขา
เธอสุขจนไม่รู้จะสุขยังไง เสียวจนไม่รู้จะเสียวยังไง สุขแล้วสุขเล่า เสียวแล้วเสียวเล่า สุขเสียวจนแทบจะไร้แรงยืนหยัด ต้องโอบแขนกับรอบลำคอแกร่งเพื่อเป็นหลักยึด “คืนนี้จะตามใจฉันทั้งคืนใช่ไหมยอดรัก” “ค่ะ” คำตอบของเธอทำให้เขาพึงพอใจที่สุด จึงจูบปากที่บวมเจ่อนิดๆ นั้นซ้ำอีกหนักๆ ลวนลามร่างนุ่มนิ่มนั้นอย่างย่ามใจ... กว่าจะได้ถูหลังขัดขี้ไคลให้เขา เธอก็ถูกเขาจับขัดดอกไปก่อนจนแทบจะหมดแรง นับเป็นการอาบน้ำที่นานและเสียวสะท้านที่สุดเท่าที่เคยอาบมา…
GOOGLE PLAY