กฏของการเป็นผู้หญิงของเขาคือ หนึ่งห้ามมีลูก สองห้ามนอกกายนอกใจจนกว่าเขาจะปล่อยเธอไป ตัวอย่างบางช่วงบางตอน “คุณปราบเปลี่ยนใจ คิดอยากจะมีลูกบ้างไหมคะ” สาวน้อยกลั้นใจถามออกไป ปราบหันขวับมามอง เขาดูเหมือนจะโกรธเกรี้ยวขึ้นมาในทันที นั่นทำให้เตยหอมสะดุ้งสุดตัว ใจหายวาบ หล่นลงไปอยู่ที่ตาตุ่ม “หมายความว่ายังไง เธอจะบอกว่าเธอกำลังท้องอย่างนั้นเหรอ” เหตุการณ์ในอดีตตอนที่แฟนสาวสวมเขาให้เขา บอกว่าตัวเองตั้งท้องหวนเข้ามาในความรู้สึกอีกครั้ง ในตอนนั้น เธอท้องเขาก็ดีใจมาก แต่มารู้ความจริงภายหลังว่าหล่อนท้องกับชายอื่น แถมยังเป็นลูกน้องของเขาอีก มันทำให้เขาเจ็บใจและแค้นใจยิ่งนัก “เอ่อคือ... ไม่ใช่ค่ะ” เตยหอมรีบตอบปฏิเสธออกไป หัวใจของเธอสั่นระรัวอย่างรุนแรง หากเขารู้ว่าเธอท้อง เขาคงไม่ปล่อยเธอกับลูกไปแน่ ๆ “ไม่ใช่ก็ดีแล้ว อย่าลืมกฎที่ฉันบอกเธอเอาไว้ ถ้าจะให้ดีห้ามรักฉันเด็ดขาด เธอจะได้ไม่เผลอทำอะไรโง่ ๆ ลงไป” เขาพูดจบก็เดินหนี คนฟังหัวใจช้ำรัก โซมเลือดโซมหนอง เสียใจจนแทบสิ้นสติ หากเขารู้ว่าเธอท้องจะทำเช่นไรดี เตยหอมรู้สึกกลัวจนฟันกระทบกัน ทำไมเธอถึงได้รู้สึกไม่มั่นคงเช่นนี้นะ หล่อนเฝ้าถามตัวเองในใจ ก่อนจะได้คำตอบว่าเธอควรเจียมเนื้อเจียมตัว ไม่ควรเอาใจไปผูกติดกับปราบ เขาไม่รักไม่แคร์ แล้วเธอคิดจะรักเขาอยู่อีกหรือ คำตอบคือรัก เตยหอมบอกตัวเองในใจ แต่เธอรักลูกของเธอมากกว่า ลูกที่กำลังจะเกิดออกมาลืมตาดูโลก “หยดน้ำในดวงตาของเธอไหลรินอาบแก้มนวล จู่ ๆ ก็รู้สึกได้ถึงความอ่อนแอในหัวใจ” “เธอร้องไห้ทำไม” เสียงกระชากของปราบดังขึ้นเหนือศีรษะ เธอรีบเช็ดน้ำตาไปมา เขารั้งแขนของเธอขึ้นมา มองสบตาอย่างดุดัน “เปล่าค่ะ” “โกหก ฉันสงสัยตั้งแต่ที่เธอถามเรื่องมีลูกแล้ว นี่คืออะไร” เขาชูวัตถุบางอย่างขึ้นมาตรงหน้าของเธอ ที่ตรวจครรภ์ในถังขยะ เธอทิ้งมันไปแล้ว และคิดว่าเขาคงไม่เห็น แต่เขากลับไปรื้อค้นมันมาอย่างนั้นเหรอ “ท้องกับใคร” ประโยคแสนเจ็บปวดนั้นทำให้เตยหอมน้ำตาพรั่งพรูออกมา ยิ่งเธอร้องไห้ก็ยิ่งตอกย้ำว่าเธอกำลังสำนึกผิดต่อเขา แสดงว่าเธอต้องมีความสัมพันธ์กับชายหนุ่มคนใดสักคนเป็นแน่ เธอไม่ได้สนิทกับลูกน้องของเขาเหมือนดังเช่นคนรักเก่า แต่เธอก็มีเพื่อนชายที่เรียนมหาวิทยาลัยเดียวกัน เขาไม่เชื่อเด็ดขาดว่าเด็กในท้องจะเป็นลูกของเขา ก็ในเมื่อเคยพูดกันเอาไว้แล้วว่าจะไม่ปล่อยให้มีลูก “ลูกของเตยไงคะ ลูกของเตยคนเดียว” เตยหอมร้องไห้ออกมาอย่างหนัก เหมือนจะขาดใจตาย ปราบโกรธจัดกัดกรามจนขึ้นสัน เขาเขย่าร่างของเธอจนหัวสั่นหัวคลอน “ฉันถามว่าเธอท้องกับใคร กับไอ้หน้าอ่อนที่มหาวิทยาลัยนั่นใช่ไหม” เขาเขย่าร่างของเธอหนักขึ้น จนเธอเริ่มสติลอยคว้าง สุดท้ายก็เป็นลมล้มพับไป
ริมฝีปากรุ่มร้อนของใครบางคนที่จุมพิตเธออย่างดูดดื่มทำให้เตยหอมต้องพาใบหน้าหนี
“อื้อ... ไม่นะคะ” เตยหอมครางประท้วงเมื่ออุ้งมือใหญ่หยาบหนาฟอนเฟ้นเต้าทรวงอวบอิ่มของเธอ รสจูบของเขาทำให้เธอมึนงงเป็นอันมาก
สมองของเธอกำลังมึนเบลอ และร่างกายของเธอก็อ่อนเปลี้ยเพลียแรงเหลือกำลัง
ร่างกายสาวอันเปลือยเปล่าที่ไม่เคยมีชายใดเคยสัมผัสแตะต้องมาก่อนสั่นสะท้านทุกครั้งที่ถูกลูบไล้เล้าโลม
ริมฝีปากร้อนเข้าจู่โจมปากหวานฉ่ำที่กำลังสั่นระริก เขาดูดปากบนล่างของเธออย่างรุนแรง คล้ายจะดูดกลืนความหวานล้ำนั้นให้หมดสิ้น แต่ยิ่งจูบเขาก็ยิ่งมัวเมาตามเธอไปด้วย เพราะมันทั้งวาบหวามและเร้าอารมณ์ ทำให้เขาอยากจูบเธอแบบนี้ไม่ยอมปล่อย
“ปากเธอหวานมากนะ ไม่เสียแรงที่ฉันทุ่มสุดตัว” น้ำเสียงของเขาแหบพร่า เธอส่ายหน้าไปมา อยากจะปฏิเสธเขา แต่หนีจากเงื้อมือของเขาไปไม่ได้
“พอก่อน ไม่เอาแล้ว”
“จะพอได้ยังไงกันหึ! แม่สาวน้อย รู้ไหมว่าเราจูบกันนานแค่ไหนแล้ว” อุ้งมือใหญ่จับปลายคางสาวของหล่อนเอาไว้ เพื่อยึดไม่ให้สาวน้อยของเขาส่ายหน้าหนี
“ไม่ค่ะ หนูไม่เต็มใจ” น้ำเสียงสั่นระริกของเตยหอมทำให้ปราบเหยียดยิ้มตรงมุมปาก จะเต็มใจหรือไม่เต็มใจเขาก็เสียเงินซื้อเธอมาจากลุงและป้าสะใภ้ของเธอแล้ว
รสชาติหวานหอม กลิ่นกรุ่นกำจายของเรือนร่างสาว ทำให้เขาไม่เคยคิดที่จะละห่างและปล่อยเธอไป
“เธอจะเต็มใจหรือไม่นั้น ไม่ใช่ปัญหาของฉัน” เขาพูดอย่างเย็นชาไม่แยแส มันทำให้เตยหอมต้องลอบกลืนน้ำลายลงคอ ร่างกายหนาหนักของเขากำลังกดทับร่างของเธอเอาไว้ เขากักกอดล็อกร่างของเธอไม่ให้หนีหายไปไหนได้
“ไม่เอาค่ะ” เธอยังปฏิเสธอย่างกระท่อนกระแท่น ในขณะที่ปราบมิคิดจะใส่ใจ เขาจับคางสาวของเธอเอาไว้ บดจูบเคล้นคลึงอย่างรัญจวน พลางลูบไล้เรียวแขนผุดผ่องของเธอ
เธออยู่ในชุดเดรสสีขาวสดใส บ่งบอกได้ถึงความบริสุทธิ์ผุดผ่อง ป้าสะใภ้ของเธอบอกกับกานดาว่าเธอไม่เคยผ่านมือชายมาก่อน เขาเป็นคนแรก ที่จะได้พรหมจรรย์อันหอมหวานของเธอ
ทั้งรูปร่างหน้าตา กลิ่นกายหอมกรุ่น ผิวเรียบตึงขาวนวลเนียนไร้ใฝฝ้า และความเย้ายวนของเธอ ทำให้เขาตอบตกลงซื้อเธอในทันที
แต่หากว่าคนใต้ร่างของเขาไม่ได้เป็นจริงตามที่ตกลงกันเอาไว้ เรียกง่าย ๆ ว่าย้อมแมวขาย เขาก็พร้อมที่จะจัดการคนโกหกหลอกลวงให้สาสมเช่นกัน
ปราบใช้มือใหญ่ร้อนผ่าวของเขาสัมผัสลูบไล้ความอวบอิ่มของปทุมถัน เขารับรู้ได้ทุกการสัมผัสว่าเธอสั่นระริกเพียงไหนใต้ร่างของเขา
ชุดเดรสสีขาวสะอาดตาถูกเขากระชากเพียงไม่กี่ครั้งก็หลุดออกไปจากเรือนกาย ปรากฏร่างเปลือยเปล่าขาวผ่องที่เขาอดใจไม่ไหวต้องก้มลงไปสัมผัสริมฝีปากร้อนกับเนื้อตัวของเธออย่างแนบชิดสนิทเนื้อ
กลิ่นหอมของหล่อนทำให้เขาต้องสูดดมลึก ๆ แรง ๆ ผิวเนียนหอมจนเขาต้องใช้ลิ้นตวัดลามเลียเพื่อเชยชิมรสชาติ
กลิ่นรสของผิวเนื้อบอบบางทำให้เขาต้องกดปากดูดเม้มจนขึ้นจุดสีแดงเรื่อไปตามผิวกาย
เสียงครางของเด็กสาวยิ่งกระตุ้นอารมณ์ดิบเถื่อนของปราบ เขาบดเบียดร่างกายเข้าหา ปลดบราสีเนื้อของหล่อนหลุดออกจากการรัดรึงปทุมถันอวบอิ่ม ศีรษะที่เต็มไปด้วยผมดกหนายาวประบ่าของปราบก้มงุดลงไปดูดเม้มยอดอกสีสวยตรงหน้า
ภายใต้แสงสลัวของโคมไฟบนหัวเตียง ปราบเห็นได้ชัดเจนว่าร่างกายของเธองดงามผุดผ่องเพียงใด
แสงสีส้มสาดไล้ไปทั่วเรือนร่างหอมละมุน ปากร้อนดูดรัดรวบเม้ม มือเคล้นคลึงเล้าโลมเร่าร้อน
ร่างกายสาวของเธอบิดเร่า ๆ ด้วยความเสียวซ่านและสุดแสนทรมาน เขาซุกใบหน้าเข้าหอซอกคออันหอมกรุ่น ดูดเม้มจนเกิดรอยแดง เธอเบี่ยงหลบด้วยความเสียวซ่าน พาใบหน้าหนีด้วยความสะท้าน แต่เขาล็อกใบหน้าของเธอเอาไว้
กอบกุมและจุมพิตอย่างดูดดื่ม สอดแทรกลิ้นหนาเข้าไปพัวพันในโพรงปากนุ่ม
เธอถอยลิ้นหนี แต่เขาก็ตามมาดูดรัดรุกต้อนจนจนมุม เธอเบี่ยงหลบไม่พ้นเมื่อเขากัดสันกรามของเธอเพื่องับดูดเล่นด้วยท่าทีหยอกเย้า และเลื่อนริมฝีปากขึ้นไปเม้มเบา ๆ ตรงติ่งหู
เตยหอมครางออกมา ใจสาวสะท้านหวั่นไหว ยิ่งลมหายใจของเขาเป่ารดอยู่ตรงหน้าท้องเนียน ยามที่เขาเลื่อนใบหน้าลงด้านล่าง เธอก็ยิ่งตัวสั่นระริก แขม่วหน้าท้องด้วยความสยิว
ความซ่านตีวนเหมือนคลื่นพายุเป็นหย่อมน้อย ๆ อยู่ตรงท้องน้อยที่ตอนนั้นทั้งปั่นป่วนและสยิวซ่านจนเธอบรรยายเป็นคำพูดไม่ถูก เธอกำลังจะหายใจไม่ทันเพราะมันหอบกระเส่าอย่างหักห้ามไม่อยู่
ยิ่งตอนที่เขาก้มลงไปยังเนินสวาทอันหอมกรุ่นของเธอ ลามเลียกลีบสวาทอันหยาดเยิ้ม นั่นยิ่งทำให้เธอสั่นระริก
ลิ้นสากร้อนตรงเข้ากวาดต้อนเอาความหอมกรุ่นเข้าปาก ก่อนที่เขาจะแหวกเป้ากางเกงในเนื้อนุ่มออกไปให้พ้นทางและจ้วงลิ้นเข้าไปอย่างดุดัน
เตยหอมหยัดกายขึ้นไปหาปากร้อนของเขาอย่างร่านร้อน สะโพกของเธอกำลังเสนอให้เขาด้วยความเสียดเสียว รสชาติของเธอทำให้ปราบแทบคลั่ง
เขาชื่นชอบและต้องการเธอเหลือเกินในเวลานี้ มือหนาจัดการกระชากแพนตี้ตัวน้อยของเธอออกไปจากกายสาว เพียงไม่นานมันก็พ้นไปจากปลายเท้าและถูกโยนไปอยู่ข้างเตียงอย่างไม่แยแส
เตยหอมตัวสั่นระริก เธอนึกสงสัยว่าเหตุใดแขนขาของเธอถึงได้สิ้นไร้เรี่ยวแรงเพียงนี้ แต่ความสงสัยของเธอก็ต้องจางหายไปอีกคราเมื่อส่วนปลายของความแข็งแกร่งเสียดสีกับปากถ้ำสวาท ก่อนจะกดเข้าหาอย่างไม่รีบร้อน
ร่างน้อยดิ้นส่ายด้วยความเจ็บ เธอดันหน้าท้องแกร่งของเขาเอาไว้ จนปราบนึกรำคาญ ต้องรวบข้อมือของเธอไปกดเอาไว้บนหัวเตียง
สาวน้อยหอบหายใจสะท้าน หลังจากรวบรวมกำลังที่พอจะมีอยู่ เธอก็ใช้กำลังเฮือกสุดท้ายหมดลงอย่างรวดเร็ว
ร่างน้อยนอนสั่นระริกไร้การต่อต้านอีกต่อไป ดวงตาของเธอปรือปรอยคล้ายจะปิดลงในเวลาใดเวลาหนึ่ง แต่เพราะปากร้อนที่เอาแต่บดจูบปลุกเร้าเธออยู่ตลอด ทั้งเรือนร่างของเธอถูกขยี้ขยำอย่างไม่คิดออมแรง ทำให้สติอันรางเลือนของเธอรับรู้ว่าผู้ชายบนร่างทำอันใดกับร่างกายของเธอบ้าง
เตยหอมหวีดร้องเสียงหลงยามที่เขากดกายเข้ามาเกือบครึ่ง เจ็บปวดรวดร้าวและแทบฉีกขาด
เธอคิดว่าได้หวีดร้องออกไปเต็มเสียง แต่แท้ที่จริงแล้ว มันเป็นเพียงแค่เสียงอู้อี้ในลำคอเท่านั้น เตยหอมพาสะโพกหนี แต่อุ้งมือใหญ่ก็ช้อนกลับมาได้ เขายัดเยียดความเป็นชายเข้าไปซ้ำ ๆ ก่อนที่จะเริ่มขยับ ดวงตาของเธอเหม่อลอย ภาวนาว่าให้เขาทำทุกอย่างให้สำเร็จโดยเร็ว เธอจะได้หายจากความทรมานนี้เสียที
เธอแอบชอบเขาเพราะเขาคือพระเอกขี่ม้าขาวมาช่วยเธอเอาไว้ เธอจึงสารภาพรักกับเขาเมื่อเรียนจบและได้เข้าทำงานในบริษัทของเขา แต่เขากลับให้เธอเขียนใบลาออก เธอจึงหนีหายไปจากชีวิตของเขา ได้เจอกันอีกครั้งความจริงก็ถูกเปิดเผย!
เขาเป็นคุณอาของเพื่อน เย็นชา หน้านิ่ง แถมยังดุอีกด้วย ในค่ำคืนหนึ่งที่โดนเพื่อนชายวางยา เขากลับช่วยเธอเอาไว้ แล้วกลายเป็นคุณอาหนุ่มคลั่งรักที่ทำเอาเธอกลายเป็นนางฟ้าตัวน้อย ๆ ในอ้อมแขนแข็งแกร่งอบอุ่นอ่อนโยนของเขา
เธอพลาดท่าเสียทีเขาในค่ำคืนหนึ่ง เขาออกตามหาเธอจนแทบพลิกแผ่นดิน จู่ ๆ ก็มีหญิงสาวคนหนึ่งอุ้มลูกน้อยมาบอกเขาว่า เขาคือพ่อของลูก แล้วจากไป เขาได้เจอผู้หญิงอีกคน กลับตกหลุมรักเธอในทันที และความลับมากมายที่ถูกเก็บซ่อนก็เปิดเผยออกมาให้เขาได้รับรู้
เธอต้องหมั้นหมายกับหลานชายของเขา แต่เพราะประสบอุบัติเหตุทำให้เกิดผลข้างเคียงกลายเป็นผู้หญิงอ้วนสุดแสนอัปลักษณ์ หลานชายของเขาจึงขอถอนหมั้น แต่เธอไม่คิดว่าเขาผู้มีศักดิ์เป็นอาจะเป็นคนหมั้นหมายกับเธอแทน คุณอาหนุ่ม เพื่อนรุ่นน้องของบิดามารดาที่เธอแอบชอบมานานหลายปีแล้ว ในที่สุดจะได้เป็นสามีของเธอจริงๆ
พิมพ์ลภัสโดนมารดาเลี้ยงกับน้องสาวใจร้ายโยนออกจากบ้านท่ามกลางสายฝน และโพทะนาไปว่าเธอหนีตามผู้ชายไป เพื่อทำลายชื่อเสียงของเธอ กลับมาอีกครั้ง พิมพ์ลภัสจึงเปลี่ยนจากบทนางเอกกลายเป็นนางร้ายเอาคืนคนที่ทำเอาไว้กับเธออย่างสาสม!
หวังจื่อหลินอ่านนิยายจบด้วยความโมโหที่นางเอกในนิยายโดนทำร้ายจนตาย เธอเดินข้ามถนนไม่ทันระวังจึงโดนรถชน หลิวเหวินจงเพื่อนชายคนสนิทที่แอบรักเธอจึงเข้ามาช่วยเอาไว้ แต่ทั้งสองก็โดนรถชนอยู่ดี สองหนุ่มสาวกลายเป็นเจ้าชายและเจ้าหญิงนิทรานอนหลับไม่ฟื้น แต่ขณะเดียวกันก็ทะลุมิติเข้าไปอยู่ในนิยายเล่มที่ตัวเองอ่าน และเข้าไปแก้ไขสถานการณ์เลวร้ายที่เกิดขึ้นให้แปรเปลี่ยนไปในทิศทางที่ดีขึ้น
จางหยู่เสวียน เดิมทีเป็นสตรีปากร้ายและถูกผีพนันเข้าสิงจนไม่ใส่ใจลูกและสามีที่เกิดอุบัติเหตุจนพิการไป สตรีนางนั้นก็เริ่มทอดทิ้งสามีแล้วเลือกที่จะทอดสะพานให้บัณฑิตหนุ่มหน้าตาดีคนหนึ่ง จนทำให้ภรรยาของเขาเกิดความหึงหวงผลักนางตกน้ำจนพบจุดจบที่น่าอดสู ทว่าเมื่อจางหยู่เสวียน นักฆ่าสาว เจ้าของรหัสหมายเลข 13 ในองค์กรนักฆ่าระดับโลกมีเหตุให้ถูกฆ่าตาย เนื่องจากไม่ยอมสังหารคนดี เธอจึงได้รับโอกาสใหม่จากสวรรค์เพื่อตอบแทนความดีครั้งนี้ในการมาเกิดใหม่ในร่างคนอื่นในยุคจีนโบราณ ทว่าเจ้าของร่างเดิมนั้นทำตัวเหลวแหลก ไม่เคยใส่ใจความรู้สึกของครอบครัว จนถึงขนาดคิดขายลูกกิน นักฆ่าสาวที่ข้ามเวลามาจากอนาคตจึงต้องทำทุกทางเพื่อแก้ไขเรื่องราวที่ยุ่งเหยิงนี้ ก่อนที่จะมีจุดจบเลวร้ายไม่ต่างไปจากเจ้าของร่างเดิม ชีวิตใหม่ครั้งนี้ นางจะใช้มันอย่างดีเพื่อดูแลครอบครัวนี้ให้มีความสุข และลบแผลใจแย่ๆ ให้หมดไปจากทุกคนในครอบครัว "ท่านแม่จะทิ้งเราเหรอ!" ไม่รู้เด็ก ๆ ที่วิ่งเล่นกันอยู่ด้านนอกเข้ามาได้ยินที่ประโยคไหน เข้าใจว่าผู้เป็นแม่จะออกไปและไม่กลับมาอีก สองพี่น้องกอดหมับที่ขามารดาคนละข้าง ทิ้งน้ำหนักลงพื้นเต็มที่ หากจะไปพวกเขาจะเกาะหนึบนางไปเช่นนี้ "ท่านแม่อย่าทิ้งข้าเลยนะเจ้า" ซ่งอวี้หลานร้องไห้โฮ น้ำตาทะลักออกจนชายชุดนางชุ่มในเวลาไม่กี่พริบตา ทางด้านซ่งหยวนหมิงก็รู้สึกว่าจะแพ้ไม่ได้ เลยกลั้นใจบีบน้ำตาจนหน้าแดง เห็นลูกทุ่มเทช่วยเขาขนาดนี้ ซ่งอี้หนานก็คุกเข่าลง ประคองมือนางไว้ไม่ปล่อย ใบหน้าคมคายจากมุมมองที่สูงกว่า ทำให้เขาดูคล้ายสุนัขตัวโต "ข้า เอ่อ" จางหยู่เสวียนพูดไม่ออก
เจ้าของร่างเดิมถูกท่านย่าตัวเอง ขายให้ชายพิการด้วยเงินเพียงห้าตำลึง จึงคิดสั้นไปกระโดดน้ำฆ่าตัวตาย ทำให้วิญญาณของเซี่ยซือซือทะลุมิติมาเข้าร่างแทน ชีวิตในโลกนี้บิดามารดาล้วนตายไปแล้ว เหลือเพียงน้องสาวกับน้องชายร่างกายผอมแห้งหิวโซสองคน เธอต้องช่วยพวกเขาให้รอด ก่อนจะถูกคนชั่วพวกนี้ขายทิ้งไปแบบเธอ 1 : ทะลุมิติ แคว้นจ้าว หมู่บ้านตระกูลแซ่อวี่ ภายในบ้านสกุลเซี่ย “ท่านพี่รีบกินเร็วเข้า” เสียงเด็กเล็กดังก้องอยู่ข้างหูอย่างน่ารำคาญ ว่าแต่ฉันมีน้องชายตั้งแต่เมื่อไหร่กัน รู้สึกได้ถึงอะไรแข็ง ๆ มาแตะที่ริมฝีปาก ทว่ายังลืมตาไม่ขึ้น “ท่านพี่กินสิ ๆ” เซี่ยซือซือรู้สึกหนักอึ้งไปทั้งศีรษะ พยายามที่จะเปิดดวงตาขึ้นมอง เจ้าของเสียงเล็ก ๆ ด้านข้าง “ท่านพี่ ๆ ท่านพี่อย่าตายนะ ลืมตาสิท่านพี่” “นังตัวดีออกมาเดี๋ยวนี้นะ !” เสียงเอะอะโวยวายดังหนวกหูเซี่ยซือซือเป็นอย่างมาก ปัง ๆ เสียงเคาะประตูดังขึ้นเรื่อย ๆ เซี่ยซือซือลืมตาขึ้นจนได้ พลันสมองกลับมีเรื่องราวพรั่งพรูเข้ามาไม่ขาดสาย จนต้องกรีดร้องออกมาอย่างเจ็บปวด อ๊าก ! “พี่รอง !” เด็กน้อยเซี่ยซือหยางในวัยสามหนาวเรียกพี่สาวพร้อมเบะปากอยากร้องไห้ “ท่านพี่ !” เซี่ยซานซานทิ้งบานประตูที่ตัวเองดันไว้ หันกลับมาดูพี่สาวด้วยความตกใจ “ท่านพี่ ๆ ท่านเป็นอะไร อย่าทำให้พวกข้าตกใจสิท่านพี่ !” ผลัวะ ! มีคนถีบประตูบานเก่าผุพังเข้ามาภายในห้อง เด็กทั้งสองรีบเข้าไปขวางผู้บุกรุกไม่ให้ทำร้ายพี่สาว แม่เฒ่าเซี่ย เซี่ยจิ่วเม่ย หน้าตาแลดูดุร้าย ไม่ใช่หญิงชราใจดีแต่อย่างใด ด้านหลังของแม่เฒ่าเซี่ยยังมีลูกสะใภ้บ้านใหญ่ กับบ้านรองเดินตามมา ท่าทางดุดันเอาเรื่อง “ไอ้พวกบ้านสามตัวดี กล้าลักขโมยอาหารเอาไว้กินเอง ยังเห็นแม่เฒ่าอย่างข้าอยู่ในสายตาหรือไม่ ไอ้พวกหมาป่าตาขาว ดูซิวันนี้ข้าจะจัดการพวกเจ้าอย่างไร” “ท่านย่าพวกข้าไม่ได้ขโมยนะ นี่เป็นหมั่นโถวของท่านพี่ ท่านพี่ไม่สบายข้าแค่เก็บไว้ให้ท่านพี่เท่านั้นเอง” เซี่ยซานซานยังเป็นเด็กหญิงวัยสิบหนาว แต่นางข่มความกลัวตอบโต้ผู้ใหญ่ในบ้านออกไป “หึ กฎบ้านก็มีบอกอยู่แล้วถ้าพลาดมื้ออาหารไปก็คืออด แต่พวกเจ้ากลับแหกกฎ แอบยักยอกอาหารเก็บไว้กินเอง ยังมีหน้ามาเถียงท่านแม่อีก ท่านแม่ท่านต้องลงโทษคนบ้านสามนะเจ้าคะ ไม่เช่นนั้นข้าไม่ยอมจริง ๆ ด้วย ตอนนั้นยวี่เฟยของข้านางได้พลาดมื้อเย็นไป ท่านก็ไม่ให้นางกินนะเจ้าคะ” สะใภ้บ้านรองนามว่าจงอี้ซิน ย้อนรำลึกถึงเรื่องลูกสาววัยแปดปีของตัวเองขึ้นมา “ดูเจ้าเด็กพวกนี้สิท่านแม่ กางแขนปกป้องพี่สาวตัวเอง ช่างน่าสมเพชไม่รู้จักสำเหนียกกำลังตัวเอง ถุย !” หลินพ่านเอ๋อสะใภ้บ้านใหญ่มองดูเด็กทั้งสองพร้อมถ่มน้ำลายใส่ตรงหน้า แม่เฒ่าเซี่ยมองลูกสะใภ้ทั้งสองสลับกันไปมา เดินตรงไปกระชากหมั่นโถวเย็นชืดแถมแข็งปานหิน ออกจากมือของเซี่ยซือหยาง “แง ๆ ๆ” เด็กน้อยถูกแย่งของกินของพี่สาวไป ถึงกับแผดเสียงร้องลั่น “เจ้าคนชั่ว ! เอามานะ ของท่านพี่ข้า” กำปั้นน้อย ๆ ทุบไปยังต้นขาของแม่เฒ่เซี่ย “เจ้าเด็กเนรคุณกล้าตีข้ารึ นี่นะ !” แม่เฒ่าเซี่ยเตะทีเดียวเซี่ยซือหยางก็กระเด็นไปติดกับผนังห้อง “น้องเล็ก !” เซี่ยซานซานรีบวิ่งไปอุ้มน้องชายขึ้นมากอดไว้ด้วยความตกใจ “ท่านย่า น้องเล็กยังเด็กไม่รู้ความ เหตุใดท่านถึงได้ใจร้ายเช่นนี้” “แง ๆ ๆ” เสียงร้องไห้ของเด็กน้อยฟังแล้วน่าสงสารจับใจ ดวงตาที่ปิดไว้ก่อนหน้าของเซี่ยซือซือ ลืมขึ้นหลังจากค้นพบว่า ตัวเองได้ทะลุมิติมายังอดีตอันไกลโพ้นแล้วจริง ๆ หลังจากหลับตาลืมตาอยู่หลายหน เรียบเรียงความคิดที่ไหลเข้ามาไม่ยอมหยุด เมื่อค่อย ๆ จัดการกับมันได้ ความเจ็บปวดที่ศีรษะก่อนหน้าจึงบางเบาลง และมองเหตุการณ์ตรงหน้าอย่างเฉยชา ครบสูตรของการทะลุมิติจริง ๆ มีท่านย่าผู้ชั่วร้าย ขนาบข้างด้วยป้าสะใภ้เลวทั้งสอง ครั้นหันไปมองน้องสาวในวัยสิบขวบของตัวเองกับน้องชายตัวน้อย ทั้งตัวดำเมี่ยมเหมือนไม่ได้อาบน้ำมาเป็นเดือน ร่างกายผอมแห้งเหลือแต่กระดูก เสื้อผ้าเก่าขาดมีรอยปะชุนเต็มไปหมด เส้นผมแห้งกรังเหมือนไม่ผ่านน้ำมานาน ยกมือของตัวเองขึ้นมาดู ไม่ได้มีสภาพต่างกันแม้แต่น้อย ครั้นเงยหน้ามองป้าสะใภ้ใหญ่ร่างกายอวบอ้วนเต็มไปด้วยก้อนไขมัน ป้าสะใภ้รองแม้ไม่ได้อ้วนแต่ก็ไม่ได้ผอม ยิ่งแม่เฒ่าเซี่ยด้วยแล้ว ร่างกายบึกบึนเหมือนคนกินดูอยู่ดีมาตลอด “ท่านแม่ดูอาซือมองท่านสิเจ้าคะ” สะใภ้ใหญ่เห็นสายตาเย็นเยียบของคนที่นอนอยู่บนเตียงก็อดแปลกใจไม่ได้ ดูเยือกเย็นจนไม่น่าไว้ใจ “เจ้าอย่าคิดว่ากระโดดน้ำตายแล้วทุกอย่างจะจบนะอาซือ ข้ารับเงินคนบ้านถานมาแล้ว ถ้าเจ้าตายข้าจะให้อาซานไปแทนเจ้า” คำพูดของแม่เฒ่าเซี่ยทำให้ดวงตาของเซี่ยซือซือเบิกกว้าง ท่านย่าของนางขายนางให้คนบ้านถานในราคาแค่ห้าตำลึง เจ้าของร่างเดิมไม่อยากไปเป็นเมียคนพิการ เลยไปกระโดดน้ำฆ่าตัวตาย ทว่าเธอที่มาจากยุคปัจจุบันกลับเข้ามาแทนที่เจ้าของร่างนี้ เจ้าของร่างเดิมว่ายน้ำไม่เป็น จึงได้ขาดอากาศตายใต้น้ำ แต่เธอที่เข้ามาสวมร่างกลับพาร่างนี้ขึ้นมาจากน้ำได้ โชคชะตาคงเล่นตลกให้เธอกับเจ้าของร่างเดิมมีชื่อเดียวกัน “ท่านย่าอาซานยังเด็กนัก ท่านอย่าได้ทำเช่นนั้นเลย” นานมากกว่าที่นางจะเอ่ยออกมา “มันอยู่ที่เจ้าอาซือ ข้าขอเตือนเอาไว้ อีกสองวันคนบ้านถานจะมารับตัวเจ้าแล้ว อย่าให้เกิดเรื่องขึ้น ไม่อย่างนั้นข้าจะส่งอาซานไปแทนเจ้า แล้วขายซือหยางทิ้งเสีย” แม่เฒ่าเซี่ยจ้องหน้าเซี่ยซือซือแบบอาฆาต เด็กนี่ก่อนหน้าดูอ่อนแอไร้ทางสู้ ทำไมวันนี้ถึงได้ดูแปลกตาไปนัก “ท่านแม่เจ้าคะ ท่านจะลงโทษคนบ้านสามเรื่องหมั่นโถวนี่อย่างไรเจ้าคะ” สะใภ้ใหญ่ยังไม่ยอมปล่อยสามพี่น้องไปง่าย ๆ “พรุ่งนี้งดอาหารบ้านสาม” แม่เฒ่าเซี่ยเอ่ยแล้วหันหลังเดินออกจากห้องของเด็กน้อยทั้งสามไป โดยมีสะใภ้ใหญ่เดินตามไปด้วย “พวกเจ้าได้ยินแล้วใช่ไหม จำใส่หัวเอาไว้ดี ๆ ด้วยล่ะ” สะใภ้รองหมุนตัวตามหลังไปติด ๆ “ท่านพี่ต่อไปท่านอย่าทำเช่นนี้อีกนะเจ้าคะ ข้ากับน้องเล็กจะทำอย่างไร ถ้าท่านไม่อยู่” เซี่ยซานซานปล่อยเสียงร้องไห้ในทันที
เสิ่นชิงชิว หลานสาวของเศรษฐีที่รวยที่สุดในเมืองไห้ คบหาอยู่กับลู่จั๋วมาเป็นเวลาสามปีแล้ว แต่ความจริงใจของเธอกลับสูญเปล่า ลู่จั๋วปฏิบัติกับเธอเพียงในฐานะหญิงบ้านนอกคนหนึ่ง และทอดทิ้งเธอในวันแต่งงาน โดยไปหารักแรกของเขา หลังจากเลิกรากันอย่างเด็ดขาด เสิ่นชิงชิวก็กลับมามีสถานะเป็นสาวรวยอีกครั้ง ได้รับมรดกมูลค่าหลายร้อยพันล้าน และเริ่มต้นชีวิตที่รุ่งโรจน์ที่สุด แต่แล้วมักจะมีคนโผล่มาทไให้กับเธอหงุดหงิดอยู่เสมอ! ขณะที่เธอกำลังจัดการกับผู้ร้าย คุณชายฟู่ผู้มีอำนาจนั้นก็ปรบมือและโห่ร้องว่า "ที่รักของฉันสุดยอดมากจริงๆ"
อารียา ถูกโชคชะตาชักนำไปสู่บทพิศวาสที่แสนเร่าร้อนบนความเข้าใจผิด ก่อเกิดเป็น ‘รักต้องห้าม’ ที่ไม่อาจต้านทานได้ แล้ว ชีควาคิล จะทำเช่นไร ที่จะทำให้ยอดหญิงที่เป็นดั่งดวงหฤทัย กลายเป็น ‘รักเดียว ตลอดกาล’ มันคงไม่ยากนัก หาก ‘เขา’ ซึ่งเป็นถึงองค์รัชทายาทจะทรงต้องการ ‘นางสนมในฮาเร็ม’ เพิ่มอีกสักคน ถ้าผู้หญิงคนนั้นไม่ใช่ ‘เธอ’ ครูสอนภาษาที่เป็นดังกุหลาบงามที่ซ่อนหนามแหลมเอาไว้ภายใน แม้จะทรงมีอำนาจเหนือใคร ก็อย่าหมายมารังแกเธอได้ง่ายๆ แต่ทว่าเขากำลังถือ ‘ไพ่’ เหนือเธอ จึงทรงบังคับขืนใจด้วยไฟแค้น พันธนาการเธอเอาไว้ด้วยเพลิงพิศวาสที่แสนหวาน แล้วครูสาวไร้เดียงสาอย่างอารียา จะสามารถต้านทานบทสวาทขั้นเทพของชีคหนุ่มผู้กระหายในรสรักได้อย่างไร “อ๊ะ...ท่านชีค” เสียงหวานๆ ครางแผ่วออกมาอย่างลืมอายเมื่อท่านชีคผู้แสนจัดเจนในสนามรัก งัดกลยุทธพิชิตกายสาวออกมาใช้กับหญิงสาวอย่างไม่หมกเม็ด เจ้าของเรือนร่างงดงามดุจรูปปั้นเปลือยเปล่าของนักรบเทพเจ้ากรีก ได้จุดประกายไฟพิศวาสให้ลามเลียไปทั่วร่างร้อนผ่าวที่พร้อมจะติดไฟรักได้ทุกเมื่อ แล้วเมื่อใบหน้าหล่อเหลาดุจเทพบุตรแห่งสวรรค์ ฝังจมูกลงมาบนช่อดอกรักอวบอูมกลางกายสาว คนใต้ร่างก็ไม่อาจกลั้นใจ “ท่านชีค อย่าค่ะ ไม่...โอว” ร่างบอบบางบิดเร่าๆสะท้านไหว กลีบดอกไม้ลู่ไปตามทิศทางลมที่พัดโหมจนกลายเป็นพายุสวาทลูกใหญ่ซัดกระหน่ำแทรกลึกซอกซอนเข้าไปยังกลีบดอกรักแสนสวยจนเกสรสีหวานสั่นระรัวและบวมเป่งเพราะอารมณ์เสน่หา
เว่ยจื้อโหยวลืมตาตื่นขึ้นมาอีกครั้งพบว่าตนอยู่ในยุคสมัยที่ไม่คุ้นเคยสิ่งรอบกายดูโบราณล้าหลัง โลกโบราณที่ไม่มีในประวัติศาสตร์โลก ยังไม่ทันได้เตรียมใจก็ถูกส่งให้ไปแต่งงานกับชายยากจนที่ท้ายหมู่บ้าน สาเหตุที่เว่ยจื้อโหย่วถูกส่งมาให้แต่งงานกับชายที่ขึ้นชื่อว่ายากจนที่สุดในหมู่บ้านนั้น เพราะนางเกิดไปต้องตาต้องใจเศรษฐีผู้มักมากในกามเข้า เพื่อหาทางหลีกเลี่ยงไม่ให้ถูกบ้านใหญ่ขายไปเป็นอนุภรรยาของเศรษฐีเฒ่า พ่อแม่ของนางจึงยอมแตกหักจากบ้านใหญ่และท่านย่าที่เห็นแก่ตัวและลำเอียงเป็นที่สุด ด้วยเหตุนี้พ่อแม่ของนางจึงตัดสินใจยกนางให้กับอวิ๋นเซียว ชายหนุ่มที่แสนยากจนข้นแค้น ที่เพิ่งเสียบิดามารดาไป อีกทั้งยังทิ้งน้องชายน้องสาวเอาไว้ให้เขาเลี้ยงดู นอกจากนี้ยังมีป้าสะใภ้มหาภัยที่คอยแต่จะมารังแกเอารัดเอาเปรียบสามพี่น้อง สิ่งที่ย่ำแย่ที่สุดไม่ใช่ป้าสะใภ้มหาภัย แต่ มันคืออะไรแต่งงานนางไม่ว่ายังไม่ทันได้เข้าหอสามีหมาดๆ ก็ถูกเกณฑ์ไปเป็นทหารในสงครามระหว่างแคว้น มันไม่มีอะไรเลวร้ายไปมากว่านี้อีกแล้วสำหรับ เว่ยจื้อโหยว หากสามีทางนิตินัยของนางตายในสนามรบ ก็ไม่เท่ากับว่านางเป็นหม้ายสามีตายทั้งที่ยังบริสุทธิ์หรอกหรือ แถมยังต้องเลี้ยงดูน้องชายน้องสาวของอดีตสามีอีก สวรรค์เหตุใดถึงได้ส่งนางมาเกิดใหม่ในที่แบบนี้