จะเกิดอะไรขึ้นเมื่ออัศวินอยากจะมีลูกน้อยเพื่อเป็นโซ่คล้องใจ แต่พลอยไพลินยังคงรักสนุก เธอยังคงยึดติดกับชีวิตการทำงานและวัยสาวของเธอ ทำให้เธอไม่พร้อมที่จะมีลูกในช่วงเวลานี้ อัศวินจึงต้องวางแผนทุกแผนการเพื่อที่จะมีลูกกับเธอ
จะเกิดอะไรขึ้นเมื่ออัศวินอยากจะมีลูกน้อยเพื่อเป็นโซ่คล้องใจ แต่พลอยไพลินยังคงรักสนุก เธอยังคงยึดติดกับชีวิตการทำงานและวัยสาวของเธอ ทำให้เธอไม่พร้อมที่จะมีลูกในช่วงเวลานี้ อัศวินจึงต้องวางแผนทุกแผนการเพื่อที่จะมีลูกกับเธอ
หกปีกว่าแล้วที่อัศวินกับพลอยไพลินได้แต่งงานกันและใช้ชีวิตร่วมกันมา ตอนนี้พลอยไพลินเรียนจบแพทย์อย่างที่เธอฝันไว้และกำลังทำอาชีพหมออย่างที่เธอตั้งใจอย่างเต็มที่ ตอนแรกเธอตื่นเต้นกับการจบใหม่มากจนแทบจะทำอะไรไม่ถูกเลย ดีที่มีอัศวินคอยให้คำแนะนำเธออยู่ไม่ห่าง จนเวลาผ่านไปสามเดือนเธอก็ค่อยๆ เรียนรู้งานมากขึ้น เก่งขึ้นจนเขาแทบจะไม่จำเป็นสำคัญเธอไปแล้ว
ส่วนเขาน่ะเหรอก็อย่างที่เขาบอกไว้เขาเป็นอาจารย์ที่มหาลัยเคเพียงแค่ชั่วคราวเท่านั้น หลังจากเลิกสอนที่มหาลัยเคเขาก็มาช่วยพ่อแม่ทำธุรกิจของครอบครัวอย่างเต็มตัว เป็นนักธุรกิจหนุ่มไฟแรงบริหารทั้งโรงแรมเดอะเอ็ม และห้างเดอะเอ็ม จนมีผลกำไรทะลุเป้ามีคนอยากเข้ามาทำธุรกิจร่วมด้วยมากมาย
ส่วนชีวิตรักก็ราบรื่นไม่มีปัญหาอะไร จะมีก็แต่พลอยไพลินไม่ยอมมีลูกน้อยกับเขาสักที เขาก็อายุมากขึ้นทุกวันจะย่าง 40 ปีอยู่แล้ว ส่วนเธอน่ะเหรอก็ยังสาวยังสวยอยู่ทุกวัน มีหนุ่มน้อยหนุ่มใหญ่มารุมจีบเป็นว่าเล่น จนเขาตามหึงจนแทบไม่หวาดไม่ไหว ไหนจะยังมีคนไข้ของเธออีกล่ะ แค่คิดอัศวินก็ปวดหัวแล้ว เห็นที่ต้องใช้มาตรการเด็ดการเสียแล้ว
เสียงโทรศัพท์ดังขึ้น ทำให้อัศวินตื่นจากภวังค์ความคิด อัศวินก้มลงมองหมายเลขที่โทรเข้ามา แล้วรู้สึกไม่อยากจะรับสายแต่จำใจต้องรับอย่างเลี่ยงไม่ได้
“นี่มาคัส! แกจะโทรมาหาสวรรค์วิมานอะไรดึกๆ แบบนี้ แกไม่หลับไม่นอนบ้างบ้างรึไง”
อัศวินบ่นกระปอดกระแปดอย่างหัวเสีย นึกถึงตอนที่มันช่วยเขาคิดแผนเซอร์ไพรส์วันเกิดของพลอยไพลินตอนไปปารีสทีไร เขาอยากจะกระทืบมันยิ่งนัก เขาไม่น่าหลงเชื่อแล้วทำตามมันเลย เกือบทำให้พลอยไพลินตกอยู่ในอันตรายก็เพราะแผนปัญญาอ่อนของมัน
“ไอคิดถึงยูนะวิน ตอนนี้ไออยู่ที่เมืองไทย ยูออกมาหาไอที่ผับหน่อยสิ”
“ไม่ไป! อยากไปก็ชวนไอ้ชัยไปสิ”
“นี่ยูยังโกรธไอเรื่องนั้นอยู่อีกเหรอ มันผ่านมาทั้งหกปีกว่าแล้วนะ ยูเลิกโกรธไอสักทีเถอะ ไอขอร้องล่ะ พลีสส!”
“ใช่ ฉันยังโกรธอยู่ และก็โกรธมากด้วย!”
“ได้โปรด พลีสส!! ออกมาหาไอหน่อย ไอชวนชัยแล้วมันไม่ว่าง ไอมีแค่ยูคนเดียวเท่านั้นตอนนี้”
“ไม่เอาฉันไม่ออกไปไหนทั้งนั้น เดี๋ยวพลอยก็จะกลับมาจากโรงพยาบาลแล้ว”
“ยูแน่ใจเหรอ ว่าพลอยจะกลับไป”
“นายหมายความว่าไง?”
“เปล๊าาา!! ไอก็แค่จะบอกยูว่า พลอยอาจจะติดเข้าเวรต่ออะไรแบบนี้ เลยไม่ได้กลับบ้านก็ได้นี่น่า ออกมาหาไอเถอะนะ”
“อย่ามาทำเป็นรู้ดีไปหน่อยเลยน่า แล้วก็เลิกพูดยูกับไอสักทีเถอะ พูดแบบปกติที่เคยพูดกันไม่ได้รึไง”
“เศร้าจัง ฉันอุตส่าห์พูดสุภาพๆ กับแกแล้วนะ”
“แบบนี้สิค่อยน่าฟังหน่อย”
“ฮ่าๆ มาหาฉันเถอะ ถ้าไม่มาถือมึงพลาดของเด็ด”
มาคัสมองไปยังสาวสวยที่ใส่ชุดลายเสือบวกกับหน้ากากเสื้อแล้วขยิบตาให้เธอ
“ฉันขอคิดดูก่อน ถ้าพลอยไม่กลับบ้านจริง ฉันถึงไปหาแก”
“โอเค แล้วจะรอ” อัศวินวางสายจากมาคัส ก็มีข้อความจากพลอยไพลินส่งมาพอดี เข้ารีบเปิดมันอ่านทันที เธอบอกว่ามีเข้าเวรต้องอยู่กะดึกจนถึงตอนเช้าให้นอนก่อนได้เลยไม่ต้องรอเธอ
“นายเป็นหมอดูรึไงวะมาคัส สรุปฉันต้องออกไปหาแกสินะ”
อัศวินบ่นก่อนจะเข้าไปเปลี่ยนเสื้อผ้าเพื่อออกไปหามาคัส เขาขับรถมายังผับที่มาคัสว่า จะว่าไปตั้งแต่เขาแต่งงานเขาก็ไม่เคยเข้าผับหรือเที่ยวเล่น ดื่มเหล้าอะไรเลย ชีวิตเขามีแค่พลอยไพลิน และก็งานเท่านั้น เขาจอดรถไว้หน้าผับก่อนจะเข้าไปยังข้างใน เขาเดินฝ่าผู้คนมากมายเข้าไป ใช้สายตาสอดส่องเพื่อหามาคัส เมื่อมาคัสเห็นอัศวินจึงโบกมือเรียกเขาทันที
“Hey! ทางนี้”
“นายมีอะไรก็ว่ามาฉันจะรีบกลับ”
“อะไรกันวะ เพิ่งจะมาถึงเองนะ ดื่มก่อนสิ”
“ไม่อยากดื่ม เดี๋ยวเมา”
“เอาน่า...ไหนๆ ก็ไหนๆ แล้วช่วยดื่มเป็นเพื่อนกันหน่อย”
อัศวินบ่นพึมพำคนเดียว ก่อนจะยกแก้วเหล้าที่มาคัสยื่นให้จนหมดแก้ว ภายในผับนั้นแสง สี เสียง และกลิ่นของมึนเมาทำให้เขาอยากจะหลีกหนี อัศวินเหลือบไปเห็นร่างของหญิงสาวคนหนึ่งซึ่งคุ้นตา เดินอย่างยั่วยวนเข้ามาทางเขา เธอใช่ชุดลายเสื้อ เนื้อผ้ามันรัดรูปเห็นสัดส่วนจนชัดเจน จนเขาหลงนึกไปถึงร่างของพลอยไพลิน แต่จะเป็นเธอไปได้อย่างไรกัน ในเมื่อเธอเข้าเวรกะดึกอยู่ที่โรงพยาบาล ถ้าเป็นเธอจริงล่ะก็ เขาจะจับมาฟาดก้นให้นั่งไม่ได้เลยค่อยดู โทษฐานที่แต่งตัวออกมายั่วให้ผู้ชายคนอื่นมอง และแทะโลมเล่นด้วยสายตา
“สวยใช่มั้ยล่ะ”
“สวยกะผีอะไร ใส่หน้ากากเสืออย่างนั้นหลงมาจากงานหน้ากากแฟนตาซีสิไม่ว่า”
“ออกจะเซ็กซี่ ไม่ชอบแบบเหรอวะ”
“ฉันมีเมียแล้ว แกจะให้ฉันสนใจผู้หญิงคนอื่นได้ไงกัน”
คนรักเมียอย่างอัศวินพูดตอบกลับมาคัสผู้เป็นเพื่อนไป เขาทำท่าจะเดินหนี แต่ไม่ทันเสียแล้ว เมื่อแม่เสือสาวเดินมาหาเขา ดึงแขนเขาไปกลางฟลอร์แบบไม่ทันได้ตั้งตัว ก่อนจะเริ่มเต้นยั่วยวนเขา
เธอถูแผ่นหลังของตัวเองที่หน้าอกของเขา แล้วเต้นส่ายสะโพกมาราวกับซ้อมมาอย่างดี แค่นั้นยังไม่พอ เมื่อหันหน้ามาหาเขาก็ใช้มือแตะที่ไหล่แล้วเต้นรูดตัวลง ทำอย่างกับเขาเป็นเสาหรือต้นไม้ที่ไร้ความรู้สึกที่คิดจะทำอะไรกับเขาก็ได้ แม้เขาจะรักพลอยไพลินมาก แต่พอเจอเข้าแบบนี้ของมันก็ขึ้นสิ แต่น่าแปลกปกติเขาไม่ใช่ของขึ้นง่ายๆ ถ้าไม่ใช่พลอยไพลินล่ะก็ ผู้หญิงคนอื่นมาแก้ผ้าต่อหน้าก็ไม่อาจทำให้เขารู้สึกอะไรด้วยได้เลย ยัยเสือสาวคนนี้เป็นใครกันแน่ถึงได้มีอิทธิต่อร่างกายของเขาได้
เธอถูกพ่อแท้ๆ ที่เพิ่งพบหน้าฆ่าตายอย่างเหี้ยมโหด ในตอนแรกเธอคิดว่าคงไม่ชีวิตรอดเป็นแน่ ที่จะเจอผู้ชายที่เป็นหนี้ชีวิตเธออีกครั้ง แต่อยู่ๆ เธอกลับฟื้นขึ้นมาอยู่ในร่างของน้องสาวของเธอเอง และโชคชะตาของเธอทำให้เธอต้องแต่งงานกับคนที่เธอรักจนหมดใจ
ชาลีมาเฟียหนุ่มแห่งอิตาลีเจ้าของกาสิโน เขาเกลียดผู้หญิงไทยเพราะแม่ที่เคยทอดทิ้งเขาในวัยเด็ก เขามีน้องสาวต่างมารดาหนึ่งคนที่เป็นคนไทยชื่อว่าจันทร์เจ้า สามีของจันทร์เจ้าเคยเป็นคู่หมั้นของเอมอรหญิงไทยคนหนึ่งที่กำลังครรภ์ แม้เอมอรจะปฏิเสธว่านั้นไม่ใช่ลูกของภูชิตสามีของน้องสาวตน แต่ชาลีก็ไม่เชื่อคำพูดของเธอ เขาจึงจับตัวเอมอรมาและบังคับให้เธอจดทะเบียนสมรสกับเขา
จะเป็นอย่างไรเมื่อสาวน้อยวัย 18 ปี อย่างพลอยไพลิน ต้องแต่งงานกับหนุ่มใหญ่วัย 32 ปี อย่างอัศวิน เพราะสถานะทางครอบครัว และเขาดันเข้ามาสอนในมหาลัยที่เธอสอบติด ทำให้เธอและเขามีสถานะเพิ่มอีกหนึ่ง คือ “ลูกศิษย์กับอาจารย์”
ความสัมพันธ์ของเธอและเขาเริ่มจากเจ้านายกับลูกน้อง เพราะเขาต้องการใช้เธอเป็นสะพานเข้าไปหาเพื่อนรักของเธอ แต่เพราะความใกล้ชิดทำให้เรา....จนต้องเกิดการรับผิดชอบเกิดขึ้นในสองเดือนคือการทดลองคบกัน
จะเป็นอย่างไงเมื่อสาวน้อยอย่าง "รถเมล์" ต้องกลายเป็นคุณแม่วัยยังสาว และหนุ่มหล่ออย่าง "บิ๊กเอ็ม" ต้องกลายเป็นคุณพ่อซุปตาร์ เพราะเพียงความสัมพันธ์ชั่วข้ามคืนของทั้งคู่ทำให้เธอท้อง เธอกลับมาเจอเขาอีกครั้งในวันที่ถ่ายแบบด้วยกัน ซึ่งหลังจากเหตุการณ์คืนนั้นมันก็ผ่านมาแล้วเป็นเวลา 2 เดือน เธอที่เพิ่งเข้าวงการกับเขาที่อยู่ในวงการถ่ายแบบมานานแล้วและเขากำลังจะเป็นดาราดัง แล้วอย่างนี้ทั้งสองจะทำอย่างไรกับเด็กน้อยที่กำลังจะเกิด
สามีที่เธอมองว่าเขาดีต่อเธอมาตลอด กลับใช้มีดหมอกรีดลงกลางอกของเธอ เขาทำมันก็เพื่อนำหัวใจของเธอไปให้น้องสาวต่างมารดาของเธอ ก่อนที่จากโลกใบนี้ไปก็ปรากฏชายคนหนึ่งเข้ามาช่วยเธอจากการผ่าตัด ชายผู้ที่เธอเคยเกลียดชังเขาและหนีออกมาจากเขา แต่มันก็สายเกินไปแล้วที่เธอจะนึกเสียใจ ถ้าสามารถกลับไปยังช่วงเวลานั้นได้เธอจะดีต่อเขาและเชื่อฟังเขา
ลู่หมิงเยว่ถูกแฟนนอกใจ และยังโดนดูถูกว่าเธอแค่ดีแต่หน้าตา ด้วยความโกรธ ลู่หมิงเยว่ใช้เสน่ห์ของเธอไปมีความสัมพันธ์กับเยี่ยนเฉิงจือประธานบริษัท แต่เธอกล้าทำแต่ไม่กล้ายอมรับ หลังจากเสร็จธุระนั้นเธอก็หนีไปเงียบๆ และยังเข้าใจผิดว่าคนในคืนนั้นคือเพลย์บอย เสิ่นเว่ยตง ทำให้เยี่ยนเฉิงจือเข้าใจผิดว่าเธอชอบคนอื่น เขาเลยแอบอิจฉาและหึงหวงอยู่เงียบๆ มานาน
เฉียวลู่ นักแสดงแถวหน้าของจีนมีข่าวฉาวออกมาทำให้ทางต้นสังกัดของเธอสั่งให้เธองดออกสื่อชั่วคราว จึงเป็นโอกาสที่หาได้ยากสำหรับคนงานยุ่งตลอดทั้งปีของเธอที่จะได้พักผ่อน เฉียวลู่เดินทางกลับบ้านเกิดของเธอและการกลับไปครั้งนี้ทำให้ชีวิตของเฉียวลู่เปลี่ยนไปตลอดการ ฉีหมิงเยี่ยน อนุชาองค์เล็กของฮ่องเต้แห่งแคว้นฉี ถูกลอบปลงพระชนม์ระหว่างที่เดินทางมาทำหน้าที่เจรจาสงบศึกกับเเเคว้นเซียว เพราะได้รับบาดเจ็บสาหัสทำให้ชินอ๋องความจำเสื่อมและได้รับการช่วยเหลือจากพ่อลูกตระกูลเฉียว เซียวยิ่น ฮ่องเต้แคว้นเซียวมีพระสนมมากมายเเต่กลับไม่สามารถให้กำเนิดพระโอรสได้โหรหลวงได้ทำนายเอาไว้ว่า ในอนาคตองค์รัชทายาทที่แท้จริงจะกลับมาเซียวยิ่นจึงมีรับสั่งให้ทหารออกตามหาพระโอรสและอดีตฮองเฮาของตนอย่างลับๆ ฉินอี้เหยา ได้รับบาดเจ็บสาหัสร่างลอยตามแม่น้ำมาพร้อมกับเด็กทารกในอ้อมแขนเมื่อฟื้นขึ้นมานางจึงแสร้งจำเรื่องราวในอดีตไม่ได้ เพื่อให้นางและบุตรชายมีชีวิตรอดต่อไป
ห้าปีก่อน เพื่อช่วยเผยจี๋ ท้องของซางหว่านถูกแทงจนบาดเจ็บ ชาตินี้ไม่สามารถมีลูกได้อีก เผยจี๋ที่เคยบอกว่าทั้งชาตินี้ไม่อยากมีลูก สุดท้ายก็ยังมีความคิด “อาศัยท้องคนอื่นอุ้มบุญ” และคนที่เขาเลือกคือ ซูเซวี่ย นักศึกษามหาวิทยาลัยที่หน้าตาคล้ายกับซางหว่าน เผยจี๋ไม่รู้เลยว่า ในวันที่เขาเสนอความต้องการนี้ออกมา ซางหว่านก็ได้ตัดสินใจจะจากเขาไปแล้ว
หนุ่มใหญ่วัย 42 เจ้าของโรงแรมและรีสอร์ตระดับ 5 ดาว ผู้ทรงอิทธิพลแห่งขุนเขา ดุดัน โหดและดินเถื่อน ต้องมาพ่ายแพ้ให้กับสายตาและรอยยิ้้มแสนหวาน ของสาวน้อยวัย 19 เธอคือ made mind day เธอคือคนที่ทำให้วันเครียดๆ ของเขากลายเป็นสีชมพู รอยยิ้มของเธอทำให้เขาไม่มีวันลืม นอนไม่หลับ และเฝ้ารอที่จะได้เห็นรอยยิ้มนั้นอีกครั้ง “ปวดท้องอีกแล้วค่ะ อื้อ! พอปวดมันก็ไหลออกมาอีก” “บอกอาเลย ให้อาทำยังไง” “ไปร้านสะดวกซื้อ ซื้อผ้าอนามัยให้วีได้ไหมคะ” “ไอ้เขตไปร้านสะดวกซื้อ เร็ว” พ่อเลี้ยงหนุ่มสั่งอย่างรีบร้อน ก่อนจะประคองมนัสวีเขามากอดปลอบไปก่อนเพราะไม่รู้จะทำอย่างไร “ครับๆ” ว่าแล้วเขตแดนก็ขับรถไปพาร้านสะดวกซื้อทันทีซึ่งหาไม่ยาก “ถึงแล้ว ให้อาซื้ออะไรบ้างบอกมาซิ” ครั้นจะให้หนุ่มๆ ไปซื้อก็มีความรู้เท่ากันนั่นแหละ สู้เขาไปจัดการเองดีกว่า “ได้เหรอคะ วีกลัวคุณอาจะ...” “ไม่เป็นไรวีเดินไม่ไหว ไหนกางเกงน่าจะเปื้อนแล้ว” “เอาแบบกลางวัน ยาว 30 cm. 1 ห่อนะคะ แล้วกลางคืนยาว 35 cm. ค่ะ ถ้าหาไม่เจอบอกพนักงานก็ได้ค่ะ” “โอเคจ้ะ” ได้หรือไม่ได้เขาก็รับปากไปก่อนก็แล้วกัน ว่าแล้วจึงรีบลงจากรถพุ่งตัวเข้าไปในร้านในทันที เพียงไม่กี่ล็อกก็เจอผ้าอนามัยแต่ “คุณพระคุณเจ้ามีเป็นร้อย เอ่อ ไงดีวะ” ด้วยความไม่แน่ใจ กลัวหยิบไปผิด ต้องรวบรวมความกล้าและทิ้งความอายไปถามพนักงาน ไม่งั้นเมียเขาม่ได้ใส่ผ้าอนามัยแน่ๆ เชียว “ขอโทษทีครับ คือ ผม... มาซื้อผ้าอนามัยให้... ภรรยา แต่ไม่รู้ว่าต้องเลือกยี่ห้อไหนขนาดอะไรหรือแบบไหนถึงจะดี”
โปรย: มาอยู่ในร่างหญิงปัญญาอ่อน ถูกตราหน้าว่าเป็นลูกโจรที่เคยเข่นฆ่าผู้คนไปทั่ว ซ้ำร้ายเขายังต้องการล้างแค้นแทนพ่อโดยใช้หัวใจเป็นเดิมพัน ........................ ไรต์มีนิยายพื้นบ้านมาฝากอีกแล้วค่า เน้นการใช้ชีวิตประจำวัน เนื้อเรื่องไม่หวือหวาส่วนใหญ่เกิดจากจินตนาการของไรต์มากกว่าเหตุการณ์ในยุคนั้น ใครชอบแนวนี้ไรต์ฝากกดหัวใจกดติดตามกันด้วยนะคะ หญิงสาวที่ตื่นมาตอนเช้าเพื่อเตรียมตัวไปรับพระราชทานปริญญาบัตร แต่กลับต้องย้อนไปอยู่ในยุค 60 ในร่างหญิงปัญญาอ่อนที่มีความทรงจำอันน้อยนิด มีพ่อเป็นอดีตโจรที่ขาพิการ ครอบครัวยากจน กับค่าแรงวันละเจ็ดบาท แล้วเช่นนี้เธอจะทำให้ครอบครัวกินอยู่อิ่มท้องได้อย่างไร พระเอกนางเอกเรื่องนี้มีการแก้แค้นเอาคืนไม่ได้เป็นคนดีบริสุทธิ์นะคะ ทุกคนโปรดใช้วิจารณญาณในการอ่าน เนื้อหาบางส่วน.... คำแก้วเดินออกมาถึงทางห้าแยกที่จะเลี้ยวเข้าหมู่บ้านสี่แจและหมู่บ้านอื่น ๆ ก็เจอกับชายฉกรรจ์สามคนยืนขวางอยู่ตรงหน้า คำแก้วเดินต่ออย่างไม่รู้สึกเกรงกลัว “เฮ้ย! มีคนเดินมาทางนี้ว่ะ” “ลูกพี่มันแบกหมูป่าตัวเบ้อเร่อมาด้วย” “เอาของมีค่าทั้งหมดมาจากมันให้ได้” “แต่มันเป็นผู้หญิงตัวเล็ก ๆ เองนะลูกพี่” “พ่อมึงสอนให้โจรอย่างพวกมึงใจดีกับพวกผู้หญิงเหรอวะ” คนที่เป็นหัวหน้าแก๊งตวาดเสียงดังจนคำแก้วต้องเงยหน้ามอง ดวงตากลมไหวสั่นเล็กน้อย เข้ามาสิจะใช้เครื่องช็อตไฟฟ้าช็อตให้ ปืนก็มี มีดก็มี กลัวอะไรล่ะ หักแขนหักขาคนก็ได้ด้วย “มะ ไม่ได้บอกครับ” คนที่เป็นลูกน้องตอบเสียงสั่น แล้วพวกมันก็ก้าวเท้าไปขวางหน้าคำแก้วไว้ “เอาของมีค่าจากตัวมึงมาให้หมด รวมถึงหมูป่าด้วย” ลูกน้องหนึ่งในสองคนพูดขึ้น แปลกใจที่ในกระบุงมีผลไม้หลายอย่างที่พวกเขาไม่เคยกิน “ไม่มี” คำแก้วตอบเสียงห้วน มองชายทั้งสามด้วยแววตาไม่สะทกสะท้าน เธออยากเห็นโจรตัวเป็น ๆ วันนี้เธอก็ได้เห็นแล้ว พวกมันใช้ผ้าขาวม้าคลุมหน้าไว้ ยุคสมัยนี้ตำรวจคงทำอะไรคนพวกนี้ไม่ได้จริง ๆ “ปากดีซะด้วย กูชอบว่ะ จะมีผู้หญิงสักกี่คนวะที่ไม่กลัวโจรอย่างพวกกู ฮ่า ๆ ๆ” เรืองว่าพลางหัวเราะเสียงลั่น ในมือถือปืนเคาะฝ่ามืออีกข้างเล่นไปพลาง ๆ แล้วสั่งลูกน้องเสียงเหี้ยม “จับตัวมันไว้” ลูกน้องทั้งสองกรูเข้าไปจับตัวคำแก้วไว้ คำแก้วปล่อยหมูและกระบุงลงบนพื้นดิน เรืองก้าวเท้ายาวเข้ามาใกล้ ดึงผ้าขาวม้าออกจากหน้าเธอ สายตาคมกริบมองใบหน้าเรียวเล็กของอีกฝ่ายด้วยความประหลาดใจเป็นที่สุด “นี่มันลูกสาวคนโตของไอ้เสือเข้มนี่หว่า มึงกล้าออกมาป่าคนเดียวได้ยังไงวะ” เขาใช้ปลายกระบอกปืนเชยคางของคำแก้วขึ้น แล้วพิศมองใบหน้าเธอนิ่ง คำแก้วจ้องตามันกลับอย่างไม่ลดละ โจรพวกนี้อาจจะเป็นพวกเดียวกันกับที่ทำร้ายพ่อของเธอก็เป็นได้ ถึงได้รู้จักเสือเข้ม ชายรูปร่างสูงใหญ่ที่ยืนหลบอยู่ในพุ่มไม้ที่อยู่ไม่ไกลมากนักถึงกับเบิกตาโพลงเมื่อได้ยินว่าสาวน้อยคนที่เขาเดินตามออกมาจากป่าเป็นลูกของไอ้เสือเข้ม แต่เขาได้ยินมาว่าลูกสาวคนโตของเสือเข้มเป็นเด็กที่มีความบกพร่องทางปัญญาไม่ใช่เหรอ ทำไมถึงเข้าป่าไปล่าสัตว์คนเดียวได้อย่างไม่รู้สึกเกรงกลัวสัตว์ป่า หรือแม้แต่โจรพวกนี้ได้ ยิ่งคิดก็ยิ่งสงสัย ตัดสินใจไม่ผิดจริง ๆ ที่เดินตามเธอมา คราแรกเขาแค่อยากรู้ว่าเธอเป็นคนของหมู่บ้านไหนกันแน่ เพราะเขาไม่เคยเห็นหน้า และกลัวว่าเธอจะเป็นอันตรายจึงเดินตามมาอย่างเงียบ ๆ ไม่คิดว่าจะเป็นลูกสาวคนที่เขาตามหามานาน
จือหลินเธอเป็นเด็กกำพร้า ที่ถูกมารดาทอดทิ้งไว้ที่โรงพยาบาลตั้งแต่วันแรกที่ลืมตามาดูโลก ต่อมาทางโรงพยาบาลจึงส่งตัวเธอให้กับสถานสงเคราะห์ พออายุได้สามปี ก็มีองค์กรหนึ่งมารับเลี้ยงตัวเธอ แต่พวกเขาเลี้ยงเธอและเด็กคนอื่นๆ ไว้เพื่อเป็นหนูทดลองเท่านั้น ครั้งแรกที่ถูกนำตัวมา ต่างก็โดนจับฉีดยาเข้าสู่ร่างกาย เพื่อหาเด็กที่เลือดต้านเชื้อที่ฉีดเข้าไปได้เท่านั้น หากร่างกายทนรับไม่ไว้สิ่งที่ทางองค์กรมอบให้คือความตาย จือหลินอาจเป็นเพราะเลือดของเธอพิเศษกว่าเด็กคนอื่น ไม่ว่าฉีดยาตัวไหนเข้าสู่ร่างกายเธอก็ทนรับได้ทั้งนั้น นับจากนั้นมาเธอจึงถูกเลี้ยงดูจากองค์กรมาอย่างดี เรื่องการศึกษาเธอก็สามารถเรียนรู้ทุกสิ่งได้อย่างเต็มที่ แต่เพราะความฉลาดของเธอจึงถูกส่งให้เรียนวิทยาศาสตร์การแพทย์และเรียนแพทย์ควบคู่ไปด้วย เมื่อเรียนจบมาแล้ว จือหลินยังคงทำการให้องค์กรเช่นเดิม แม้จะไม่ได้เป็นนักฆ่าเช่นเพื่อนคนอื่นที่มาพร้อมกัน แต่เธอก็ต้องฝึกไม่ต่างจากพวกเขา ยิ่งเมื่อต้องนำเด็กเข้ามาเป็นหนูทดลองเช่นเดียวกับเธอในตอนเล็ก ต่อให้ไม่อยากทำก็ต้องทำ หากฝ่าฝืนไม่ทำการชิปที่ถูกฝังอยู่ในตัวจะถูกกระตุ้นให้ได้รับความทรมานทันที นานวันเข้า ความดำมืดก็ก่อเกิดในใจ ไม่ว่าจะฉีดยาให้เด็กร้ายแรงเพียงใดจือหลินก็เลิกรู้สึกผิดไปเสียแล้ว เพราะการทำงานของเธอตลอดหลายปีที่ผ่านมาทำให้ทางองค์กรยกย่องและมักจะให้สิ่งดีๆ กับเธอเสมอ เมื่อมีชิปตัวหนึ่งที่ถูกสร้างขึ้นมาเพื่อฝังมิติอีกห้วงหนึ่งไว้ภายในร่างกาย จือหลินนางก็ได้รับเลือกให้ทดลองใช้สิ่งนี้ด้วยเช่นกัน จือหลินถูกฝังชิปมิติเข้าที่แกนสมองของเธอ ความเจ็บปวดที่ได้รับทำให้เธอแทบสิ้นสติ เมื่อชิปถูกฝังลงไปแล้ว เพียงไม่นานก็มีเสียงจากระบบให้เธอยืนยันตัวตน ก่อนที่จะปรากฏภาพต่างๆ ภายในหัวของเธอ ของจากภายนอกล้วนแต่ถูกส่งเข้าไปเก็บไว้ด้านในได้ทั้งสิ้น หากเป็นเนื้อสด ผักผลไม้ ยังคงความสดอยู่เช่นเดิมแม้จะเก็บไว้นานมากเพียงใด ห้วงมิติของจือหลินเหมือนเป็นห้องสูทในคอนโดของเธอเองที่มีทุกอย่างพร้อมใช้อยู่ภายใน แม้แต่ห้องทดลอง ห้องทำงานของเธอก็ปรากฏอยู่ในนั้นเช่นกัน นับจากนั้นจือหลินจึงซื้อของเขาเก็บภายในมิติของเธอเป็นจำนวนมาก ตัวเธอเพียงผู้เดียวที่สามารถเข้าออกในห้วงมิติได้ วันเวลาผ่านไปจนจือหลินล่วงเข้าวัยสามสิบปี เธอสามารถผลิตยาที่ทำให้ทั่วโลกจับตามองออกมาได้ ยายื้อชีวิตจากความตาย แต่การทดลองของเธอที่ผ่านมาต้องใช้คนจำนวนมากในการเข้าทดลอง จือหลินสามารถยื้อชีวิตของชายชราที่กำลังจะหมดลมหายใจให้กลับมามีชีวิตปกติได้ เมื่อเธอกักตัวเขาไว้ได้หกเดือนเห็นว่าไม่มีสิ่งใดที่ผิดปกติจึงคิดจะปล่อยเขาออกไปใช้ชีวิตเช่นเดิม แต่แล้วสิ่งที่ไม่คาดคิดก็เกิดขึ้น เมื่อชายชราที่กำลังจะเดินออกจากห้องทดลองล้มลงต่อหน้าทุกคนที่เข้าร่วมชื่นชมผลงานของเธอ จือหลินรีบเข้าไปตรวจดูความผิดปกติทันที ก็พบว่าเขาหยุดหายใจเสียแล้ว เจ้าหน้าที่ทั้งหมดจึงต้องพาชายชราคนนั้นกลับเข้าไปในห้องทดลองเพื่อหาสาเหตุ ผ่านไปเพียงสองครึ่งชั่วโมงเขากลับลืมตาขึ้นมาอย่างไม่น่าเชื่อ แต่แววตาที่มองมาทางทุกคนได้เปลี่ยนไป ในดวงตาของชายชราผู้นั้นมีเพียงตาขาวไม่มีตาดำเช่นคนมีชีวิต “เกิดเรื่องอะไรขึ้น” ผู้อำนวยการองค์กรเดินเข้ามาหาจือหลินแล้วเอ่ยถามอย่างตื่นตระหนก เพราะนักข่าวที่ข่าวเชิญมายังอยู่ที่ด้านนอกเพื่อรอฟังคำตอบ “ขอดิฉันตรวจสอบก่อนค่ะ” จือหลินกุมหน้าผากอย่างมึนงง เธอก็ไม่เข้าใจเช่นกันว่าเป็นแบบนี้ไปได้อย่างไร คนทั้งหมดยืนมองชายชราที่เดินท่าทางประหลาดอยู่ในห้องทดลอง ในตอนนี้เขาเริ่มหยิบสิ่งของทำร้ายตัวเองอย่างบ้าคลั่ง เจ้าหน้าที่คนหนึ่งรีบวิ่งเข้าไปในห้องทดลองเพื่อห้ามไม่ให้เขาทำร้ายตัวเอง ชายชราเมื่อได้ยินเสียงคนเดินเข้ามาก็พุ่งเข้ามาหาอย่างรวดเร็ว และเริ่มกัดกินเนื้อตัวของเขาอย่างโหดร้าย คนที่เห็นเหตุการณ์ทั้งหมดต่างยกมือขึ้นปิดปากอย่างตกใจ เพราะกลัวข่าวเรื่องนี้จะรั่วไหล ผู้อำนวยการสั่งให้คนไปแจ้งนักข่าวให้กลับไปก่อน ทางองค์กรจะแถลงการณ์เรื่องนี้ในภายหลัง เจ้าหน้าที่ที่ถูกทำร้ายล้มลงเสียชีวิตไม่นานก็มีสภาพไม่ต่างจากชายชราคนนั้น เสียงวุ่นวายไม่ได้จบลงที่ห้องทดลองของจือหลินเพียงแห่งเดียว เพราะห้องทดลองอื่นก็ล้วนพบเหตุการณ์เช่นนี้ไม่ต่างกัน ผู้อำนวยการจำต้องส่งสัญญาณเคลื่อนย้ายเจ้าหน้าที่ออกจากตึกทดลองให้เร็วที่สุด จือหลินไม่รู้ว่ายาของนางจะสร้างผลเสียมากถึงเพียงนี้ เพราะเจ้าหน้าที่หลายคนล้วนจบชีวิตจนกลายเป็นซอมบี้ไปเสียแล้ว ตึกทดลองถูกปิดตาย เพื่อไม่ให้ซอมบี้ที่อยู่ด้านในออกมาสร้างความเสียหายภายนอกได้ “เรื่องนี้ดิฉันขอจัดการด้วยตนเองค่ะ” จือหลินเดินเข้าไปหาผู้อำนวยการที่ห้องทำงานของเขา เพื่อบอกสิ่งที่เธอคิดว่าอย่างดีแล้วในหลายวันที่ผ่านมา เมื่อเห็นว่าผู้อำนวยการไม่ห้ามในสิ่งที่เธอจะทำจือหลินจึงเดินไปที่หน้าตึกทดลองพร้อมระเบิดเวลาในมือ เธอคิดจะทำลายสิ่งของทุกอย่างที่เธอสร้างขึ้นมาลงด้วยมือของเธอเอง จือหลินเปิดประตูตึกทดลองแล้วรีบปิดลงทันที เธอเดินเข้าไปที่กลางตึกให้มากที่สุดเท่าที่จะทำได้ เพราะระหว่างทางเธอต้องคอยต่อสู้กับซอมบี้ที่จะเข้ามาทำร้ายเธอไปด้วย เสียงสัญญาณระเบิดดังขึ้น จือหลินหลับตาลง พร้อมทั้งถอนหายใจให้กับเรื่องราวในชีวิตที่ผ่านมา เสียงระเบิดดังไปทั่วบริเวณพร้อมทั้งตึกทดลองที่ถล่มลงมาจนแทบไม่เหลือซาก “เจ็บชะมัด” จือหลินร้องครางออกมาเบาๆ แต่เมื่อรู้สึกตัวได้เธอก็รีบพยุงตัวขึ้นนั่งอย่างรวดเร็วพร้อมมองไปรอบๆ อย่างไม่อยากเชื่อ เธอคิดว่าตายไปแล้วเสียอีก แต่ทำไมถึงได้มีความรู้สึกเจ็บได้ “นี้มันเรื่องบ้าอะไรอีกว่ะเนี่ย” จือหลินเบิกตากว้างอย่างไม่อยากเชื่อ รอบๆ ตัวเธอในตอนนี้เป็นป่าทึบ มือของเธอก็ไม่ใช่ของเธออย่างแน่นอนเพราะมีขนาดเล็กราวกับเป็นเด็กน้อยคนหนึ่งเท่านั้น ตอนที่เธอมึนงงสับสน เรื่องราวความทรงจำของเจ้าของร่างก็ไหลเข้าสู่หัวของเธอจนต้องลงไปนอนดิ้นกับพื้น
© 2018-now MeghaBook
บนสุด
GOOGLE PLAY