เมื่อฮัวฟู่หรงถูกวางแผนฆาตกรรมให้จบชีวิตลงบนสะพานข้ามแม่น้ำเฉียนถัง สาเหตุเพราะได้รับบทฮูหยินฮัวของแม่ทัพอินลี่ซานผู้เลื่องลือแห่งต้าฉิน ที่นำมาทำละครฟอร์มยักษ์แห่งปี ซึ่งบทดังกล่าวตกมาเป็นของฮัวฟู่หรง ดาราสาวน้องใหม่ที่กำลังมาแรงในวงการบันเทิงจีน และมีชื่อแซ่ที่ดันไปตรงกับตัวละคร ครั้นหญิงสาวลืมตาตื่นขึ้นมาอีกครั้งพบว่าตัวเองมาอยู่ในอดีตยุคของขุนพลเทพแห่งต้าฉิน ซึ่งหนึ่งในนั้นก็คือแม่ทัพทมิฬอินลี่ซานที่กำลังพลิกแผ่นดินตามล่าค้นหาฮูหยินที่หายสาบสูญไป และเธอก็คือฮูหยินฮัวที่หายสาบสูญไปของแม่ทัพทมิฬ ที่สตรีทั่วหล้าต่างพากันริษยา หากแต่การกลับมาครั้งนี้ของฮัวฟู่หรง ดารา่สาวชื่อดังเธอไม่ได้ไร้เดียงสาดั่งเช่นในอดีตอีกต่อไป แต่เธอร้ายและก็ถือสากับทุกๆ คนที่ทำให้คนรอบข้างที่เธอรักต้องเจ็บและตายจากอย่างไม่หวนคืน ร้ายรักให้ถึงที่สุด ร้ายลึกทะลุไปจนสุดขั้วหัวใจ แต่ถึงร้ายอย่างไรก็เป็นหนึ่งในหัวใจของแม่ทัพทมิฬ เพราะแม่ทัพผู้กล้ารักมั่นต่อสตรีร้ายกาจนางนี้ยิ่งนัก
"หรงเอ๋อร์!”เสียงทุ้มใหญ่เรียกชื่อของสตรีนางหนึ่งดังกึกก้อง
อืมมม!!! เสียงขานรับต่ำๆ ดังขึ้นอยู่ในลำคอของหญิงสาวเมื่อได้ยินเสียงเรียกปริศนากำลังเพรียกหาเธอ ดังมาจากที่ไกลแสนไกลจนไม่สามารถพานพบกันได้
"อย่าทิ้งข้าไปหรงเอ๋อร์! กลับมาหาข้า! กลับมา! อย่าทิ้งข้า!”เสียงเพรียกหานั้นร้องเรียกอย่างเจ็บปวดจนคนที่กำลังถูกเรียกสามารถรับรู้ความรู้สึกของเขาได้
แปะ! หยาดน้ำตาไหลร่วงรินออกมาจากขอบตาโดยไม่รู้ตัวพร้อมภาพเลือนรางบางอย่างปรากฏขึ้นและค่อยๆ แจ่มชัดจนสามารถเห็นได้อย่างชัดเจน ทว่าไม่รู้ว่าภาพนั้นคือความจริงหรือความฝันกันแน่
ครืดดดด!!!! ร่างของสตรีสาวในชุดขาวนางหนึ่ง กำลังคืบคลานอยู่บนพื้นไม้ท่ามกลางกระแสลมแรงจนอาภรณ์ขาวปลิวสะบัดและแนบลู่ไปตามลำตัวจนเผยให้เห็นเลือนรางงามของนาง ผมสีดำเป็นนิลจนขึ้นเป็นมันวาวปลิวสยายไปตามสายลมกรรโชกแรง ไร้สิ้นเครื่องประดับผมใดๆ
เบื้องหน้าคือเมืองหลวงเสียนหยางแห่งแคว้นฉิน และสถานที่กำลังยืนอยู่ในเวลานี้คือหอคอยสูงที่ถูกสร้างขึ้นภายในจวนใหญ่ของขุนนางระดับสูงผู้หนึ่ง ใบหน้าขาวซีดราวกับว่านางกำลังป่วยอยู่ในเวลานั้น ทว่าดวงตากลับเต็มไปด้วยความตื่นกลัวราวกับว่ากำลังมีบางอย่างคุกคามชีวิตอยู่ในเวลานี้
อ๊อกกกก!!!! เสียงคล้ายมีบางอย่างกำลังจะออกมาจากลำคอพร้อมร่างของนางหยุดนิ่งลง
พรืดดดด!!!! โลหิตแดงฉานพุ่งออกมาจากปากจนกระจัดกระจายเต็มพื้นไปหมด พร้อมกับหยาดน้ำตาไหลร่วงรินออกมาอย่างไม่ขาดสาย
“ชะ...ช่วย...ช่วยด้วย...ทะ...ท่าน...ท่านพี่...”เสียงของนางกำลังเรียกหาใครบางคนอยู่ในเวลานั้น
ร่างงามแสนสวยกำลังคืบคลานคล้ายกำลังหนีอะไรบางอย่างจนสุดชีวิตเพื่อหวังให้มีลมหายใจอยู่รอดต่อไป ทว่าสถานที่ดังกล่าวช่างลับตาผู้คนเสียเหลือเกิน เมื่อนางกำลังอยู่ชั้นบนสุดของหอคอยซึ่งเทียบความสูงได้ประมาณตึกแปดชั้นเลยทีเดียว ดวงตาเฝ้ามองไปที่พระจันทร์กลมโตตรงหน้าซึ่งอยู่ไกลออกไปด้านนอก
“ชะ..ช่วย..ช่วย...ข้า..ด้วย!”เสียงเรียกหาความช่วยเหลือด้วยความหวัง และเต็มไปด้วยความกลัวเหลือประมาณ
ร่างของนางกำลังคืบคลานอยู่ตรงบริเวณด้านนอก ซึ่งเป็นลานกว้างสำหรับยืนชมทิวทัศน์เมืองหลวงเสียนหยางที่กำลังเจริญรุ่งเรืองอยู่ในเวลานี้ ชั้นบนสุดของหอคอยมีเพียงลานกว้างและโต๊ะตัวยาวพร้อมตั่งจำนวนสองที่นั่งวางไว้เคียงคู่กัน ราวกับว่าใช้เป็นสถานที่พักผ่อนส่วนตัวก็ว่าได้
ทว่าในเวลานี้บนโต๊ะที่ตั้งกู่เจิ้งเอาไว้และชุดชงชา ไม่อยู่ในสภาพเดิมอีกต่อไปเมื่อสิ่งเหล่านั้นร่วงหล่นตกแตกกระจัดกระจายไปคนละทิศละทาง ไม่ไกลจากตั่งที่นั่งปรากฏบุรุษปริศนายืนสูงทะมึนกำลังมองร่างแม่นางในชุดขาวพยายามคืบคลานอยู่บนพื้นเพื่อหาทางเอาชีวิตรอด
“คิดหรือว่าจะมีผู้ใดขึ้นมาช่วยเจ้าให้รอดตายไปจากเงื้อมมือของข้าบนหอคอยนี้!”บุรุษร่างใหญ่ผู้นั้นพูดพึมพำพลางแสยะยิ้มเหยียดพร้อมเอ่ยขึ้น
“เห็นทีจะต้องเร่งเวลาให้ตายเร็วขึ้นเสียแล้ว ช่างตายยากตายเย็นเสียเหลือเกิน”พูดพร้อมเดินตรงปรี่เข้าไปหาร่างของสตรีชุดขาวที่กำลังคืบคลานพยายามหนีเอาชีวิตรอดอยู่ในเวลานั้น
พรืดดดด!!! ร่างของหญิงสาวคนดังกล่าวถูกหิ้วปีกยกขึ้นจากพื้นก่อนจะลากนางไปจนถึงริมระเบียงซึ่งสร้างด้วยท่อนไม้ขนาดใหญ่ล้อมรอบไปทั่วบริเวณเพื่อป้องกันไม่ให้มีผู้ใดร่วงหล่นลงมาจากหอคอยนั้นได้
ฟุบ! ร่างของนางถูกยกขึ้นพาดไปกับราวระเบียงอย่างรวดเร็ว พร้อมชายแขนเสื้อสีดำขลิบสีหลืองทองที่นางมองเพียงครู่ก็ล่วงรู้โดยทันทีว่าเป็นอาภรณ์ของผู้ใด
“ทะ..ท่าน..ทะ”นางพูดออกมาได้เพียงแค่นั้น
ฟิ้ววววว!!!! ร่างงามของหญิงสาวในชุดขาวถูกจับเหวี่ยงลงมาจากชั้นบนสุดของหอคอยสูงลงไปเบื้องล่างอย่างรวดเร็ว ในขณะที่ร่างของนางกำลังร่วงหล่นตกลงพื้นเบื้องล่างอยู่ในเวลานั้น
สายลมที่พัดกรรโชกอย่างแรงกล้าราวกับว่ากำลังมีพายุได้พัดร่างจนพลิกกลับในท่าคว่ำมาอยู่ในท่านอนหงายพร้อมกับดวงตาของนางพลันเบิกกว้างด้วยไม่อยากจะเชื่อในสิ่งที่กำลังเห็น
เมื่อดวงตาเห็นร่างสูงทะมึนของบุรุษสวมอาภรณ์ที่นางตัดเย็บกับมือด้วยตัวเอง และอาภรณ์ดังกล่าวนั้นผู้ที่เป็นสามีของนางเป็นผู้สวมใส่ ซึ่งก็คือแม่ทัพใหญ่แห่งต้าฉิน แม้ว่าในเวลานี้จะเป็นยามวิกาลแต่เพราะเป็นคืนเดือนหงายและพระจันทร์เต็มดวงทำให้สามารถมองเห็นทุกอย่างได้อย่างชัดเจน
จึงสามารถเห็นใบหน้าของคนที่โยนนางลงมาจากหอคอยได้อย่างชัดเจน ว่าผู้ชายที่สวมใส่เสื้อผ้าของสามีและจับนางโยนลงมาจากหอคอยนั่นแท้จริงแล้วเป็นผู้ใด
“ท่านสังหารข้าทำไม! สังหารข้าทำไม! ทำไม!”คำพูดสุดท้ายพรั่งพรูออกมา พร้อมร่างงามร่วงหล่นจากหอคอยลงไปเบื้องล่างอย่างรวดเร็ว
ตุบ! ร่างงามตกกระแทกลงกับพื้นอย่างรุนแรง พร้อมเลือดแดงฉานไหลออกจากกายจนนองไปทั่วพื้นหินเบื้องล่าง ท่ามกลางสายตาของบุรุษร่างสูงทะมึนที่ยืนแสยะยิ้มเหยียดกับผลงานการฆ่าคนของตัวเอง
ในขณะเดียวกันบริเวณพื้นเบื้องล่างของหอคอยดังกล่าว ร่างของหญิงสาวที่เพิ่งถูกจับโยนลงมาจากชั้นบนสุดนั้นก็คือฮูหยินฮัวหรือฮัวฟู่หรงของอินลี่ซานแม่ทัพทมิฬแห่งต้าฉิน นอนหายใจรวยรินพร้อมหยาดน้ำตาที่ไหลรินออกมาจากขอบตา
ฮูหยินสาวที่เพิ่งเข้าพิธีกราบไหว้ฟ้าดินยังไม่ทันได้ร่วมหอกับสามีของนางเสียด้วยซ้ำ ก็ต้องนำกองทัพตามพระราชโองการออกไปทำศึกกับชนเผ่าซงหนูที่ยกทัพมาตีเมืองตามขอบชายแดนเอาไปเป็นของตัวเองอย่างไม่กลัวเกรงต้าฉินแม้แต่น้อย
ทำให้ฮูหยินผู้เป็นยอดดวงใจของแม่ทัพใหญ่แห่งต้าฉิน ที่เพิ่งเข้าพิธีแต่งงานต้องอยู่ภายในจวนใหญ่ของสกุลอิน แวดล้อมไปด้วยบ่าวไพร่บริวารคอยดูแล และเฝ้ารอคอยการกลับมาของสามีอย่างใจจดใจจ่อมาโดยตลอด จวบจนกระทั่งห้าเดือนผ่านไปสงครามระหว่างต้าฉินและเผ่าซงหนูก็สิ้นสุดลง ชัยชนะตกเป็นของต้าฉินพร้อมข่าวการกลับมาของอินลี่ซาน ขุนศึกคู่แผ่นดินของแคว้น
ทันทีที่อินลี่ซานได้รับชัยชนะจากการทำสงครามดังกล่าวและมุ่งหน้าเดินทางกลับเมืองหลวงด้วยความคิดถึงฮูหยินของเขาอยู่ทุกลมหายใจเข้าออก พร้อมข่าวล่าสุดที่ส่งมาจากจวนแม่ทัพรายงานว่าฮูหยินผู้เป็นที่รักกำลังล้มป่วยด้วยไข้ลมหนาว มีอาการไม่ค่อยสู้ดีนักแม่ทัพหนุ่มควบม้าเร็วมุ่งหน้ากลับเมืองหลวงตรงเข้าจวนเพื่อไปหาฮูหยินของตัวเองก่อนจะเข้าเฝ้าอ๋องฉินเสียอีก
และในเวลานี้บนพื้นหินเบื้องล่างตรงบริเวณหน้าหอคอยร่างของฮูหยินคนสวยกำลังนอนแน่นิ่งไม่ไหวติงอยู่ในเวลานั้น ลมหายใจสุดท้ายกำลังจะหลุดลอยออกจากร่าง
แปะ!!! ดวงตาเต็มไปด้วยหยาดน้ำตาไหลหลั่งรินออกมาไม่ขาดสาย มองตรงไปที่ประตูใหญ่ทางเข้าออกของหอคอยที่ปิดอยู่ตลอดเวลาในขณะนั้น
“ทะ...ท่าน...ท่าน...พะ....พี่!!!!”เสียงสุดท้ายดังลอดออกมาอย่างแผ่วเบาพร้อมลมหายใจเริ่มขาดห้วงก่อนจะสิ้นสุดลงและทันทีที่ลมหายใจสุดท้ายหลุดลอยออกจากร่างของนาง
แวบ! แวบ! แวบ! บริเวณข้อมือของฮูหยินผู้อาภัพภายใต้ชายแขนเสื้อที่ปกคลุมเกิดประกายวูบวาบทอแสงเรืองรองออกมาเหลื่อมระยิบระยับขึ้นมาทันที พร้อมเสียงคล้ายกำลังมีคนเปิดประตูบานใหญ่ตรงทางเข้าออก เพื่อเข้ามาภายในบริเวณหอคอยซึ่งร่างของฮูหยินคนงามนอนแน่นิ่งอยู่ในเวลานี้
แอดดดด!!!! บานประตูทางเข้าออกของหอคอยถูกเปิดออกในเวลาเดียวกันพร้อมเสียงตะโกนกึกก้องดังออกมาจนสุดเสียง
หรงเอ๋อร์!!!!!
ตำหนักไร้รัก สถานที่พำนักของอุปราชหนุ่มแห่งเทียนจิน เจ้าของตำหนักนี้ หัวใจเต็มไปด้วยความด้านชามาแทบทุกพระองค์ แต่แล้ววันหนึ่ง คุณหมอสาวแสนสวย นามว่าจ้าวย่าเจินได้รับของขวัญ ย้ายเข้าบ้านใหม่เป็นภาพวาดตำหนักโบราณ มีชื่อว่าตำหนักเย่วเชียง ในภาพนั้นมีผู้ชายยืนเอามือไพล่หลังไม่เห็นหน้า เฝ้ามองตำหนักฝั่งตรงกันข้าม และที่น่าประหลาดผู้ชายในภาพวาดจะโตขึ้นทุกวัน จวบจนกระทั่ง คุณหมอคนสวยถูกดึงเข้าไปในภาพวาดตำหนักโบราณดังกล่าวและได้พบกับ เจ้าของตำหนักไร้รัก ซึ่งเขาก็คืออุปราชแห่งเทียนจินและเป็นผู้ชายคนเดียวกัน ที่อยู่ในภาพวาดที่หญิงสาวเห็นเขาอยู่ทุกค่ำคืน ตำหนักไร้รักเมื่อไร้หัวใจ ตำหนักไร้กังวลเมื่อหัวใจกลับมามีรักอีกครั้ง
คำโปรย การกลับมาแก้ไขเหตุการณ์ในอดีตครั้งนี้ ทำให้นางมารใจโฉดกลับกลายเป็นคนดี แต่กลับมีเหตุการณ์ที่ทำให้ ถานหยี่เหยียนซึ่งผสานจิตใจกับร่างในปัจจุุบัน จนสงบกลับปะทุขึ้นมาอีกครั้ง และกลับมาทำลายล้างทุกอย่างจนวอดวาย เอลิซาเบธ ลีหรือหยางลี่จู บินกลับประเทศจีนเป็นครั้งแรกในชีวิตและถูกดวงตาสวรรค์ที่มีวาสนาผูกพันกันนำนางหวนคืนกลับตระกูลถาน ซึ่งเป็นชาติอดีตของตัวเองเพื่อกลับมาแก้ไขเหตุการณ์ในอดีตตามที่เคยอ้อนวอนต่อสวรรค์เบื้องบน ดวงตาสวรรค์นำนางกลับมาในชาติที่เกิดเป็นสตรีที่แสนจะร้ายกาจที่สุดในตระกูลถาน และนางก็คือนางมารชื่อกระฉ่อน ถานหยี่เหยียน คุณหนูใจโฉดที่เต็มไปด้วยความอำมหิต สนใจแต่ตัวเองไม่เคยใส่ใจผู้ใดและต้องได้ทุกอย่างที่นางต้องการ จนเป็นต้นเหตุทำให้ตระกูลถานถูกประหารล้างตระกูล และการคัดเลือกพระชายาของอดีตฉู่อ๋องเพื่อเลือกเฟ้นให้กับพระอนุชา เป็นที่มาของการประหารล้างตระกูลถานในอดีต แต่การกลับมาอีกครั้งของถานหยี่เหยียน ซึ่งเป็นร่างในยุคปัจจุบันทำให้ร่างในอดีตและปัจจุบันหลอมรวมเป็นร่างเดียวกันและนางก็คือนางในฝันของบุรุษหน้าหยกผู้เลื่องลือ สตรีใจโฉดผู้เคยเป็นอนุชายาของชินอ๋องรูปงามก่อนที่จะกลับมาแก้ไขเปลี่ยนแปลง
อุปราชปีศาจ สมญานามนี้เลื่องลือไปทั่วหล้า อุปราชเฟิงหลง ผู้ก่อตั้งแผ่นดินเป่ยถังจนเป็นปึกแผ่นเป็นหนึ่งเดียว วิชาอมตะทำให้มีชีวิตเป็นนิรันดร์ และมีญาณหยั่งรู้ล่วงรู้เหตุการณ์ล่วงหน้าและหูทิพย์ หากแม้นผู้ใดเข้ามาใกล้พระวรกายน้อยกว่ารัศมีสิบฉื่อ ร่างจะต้องสลายกลายเป็นเถ้าธุลีขาวไปทันที อุปราชในตำนานประทับอยู่ในพระตำหนักลืมเลือนมานานกว่า 329 ปีนับตั้งแต่สถาปนาแคว้น จวบจนกระทั่งองค์หญิงเย่วเพ่ยเพ่ย จากแคว้นเย่วปรากฎกาย นางเป็นสตรีเพียงหนึ่งเดียวที่สามารถเข้าใกล้และสัมผัสพระองค์ได้ และนางคือสตรีที่ผูกพันกับพระองค์นับตั้งแต่พานพบกันตั้งแต่ครั้งแรก แรงรักแรงพิศวาสเริ่มก่อตัวขึ้นภายในตำหนักลืมเลือน ก่อนจะถึกปิดตายหายไปอย่างไร้ร่องรอยเพื่อรอคอยนางหวนคืนกลับมาอีกครั้ง กลับมาเพื่อครองรักกับอุปราชปีศาจอีกครั้งตามสัญญาที่มีไว้ให้ต่อกัน ไม่ว่ากาลเวลาจะผ่านไปนานนับพันปีก็ตาม
เพราะการพบกันครั้งแรกระหว่าง จอมอำมหิตแห่งกู้กงและหวางเย่หลิง ทำให้รองผู้บัญชาการองครักษ์เสื้อแพร ต้องการนางเก็บไว่้ใกล้ตัวเพื่อ เหตุผลบางอย่าง และเพื่อสืบเสาะหามารดาผู้ให้กำเนิดจากนาง ครั้นเกิดเหตุการณ์เงินห้าหมื่นตำลึงทองสูญหายไปอย่างไร้ร่องรอย ภายในสำนักคุ่้มกันหวางซื่อของตระกูลหวาง จึงทำให้จอมอำมหิตสบโอกาส หวางเย่หลิง บุตรีเพียงคนเดียวของหวางเจี้ยนเฉิง จะต้องถูกนำส่งเข้าจวน ในฐานะสตรีของอิ๋งชวนโหว เพื่อช่วยทุกชีวิตของตระกูลหวางให้รอดพ้นจาก การถูกประหารชีวิตจากเหตุการณ์ดังกล่าว
ตงฟางลี่หยาง แม่ทัพหนุ่มแห่งแคว้นเทียนหยวน หัวใจของเขาเต็มไปด้วยความด้านชาและเต็มไปด้วยความแค้น ที่ฝังแน่นอยู่ภายในใจที่รอวันชำระแค้นกับอดีตสหายเก่า หากแต่หัวใจที่เต็มไปด้วยความด้านชา กลับปรากฏหมอหญิงจากสกุลหลิง ผู้มาจากยุคปัจจุบัน ผุดขึ้นอยู่ภายในหัวใจ หยกบุบผานำเธอให้มาพบกับแม่ทัพจอมโหด และหลิงลี่ย่านางคือสตรีที่แม่ทัพหนุ่มต้องตามจับเธอ !!!
หวังฉิงชวน สาวสวยจากศตวรรษที่ 21 นักศึกษาคณะศิลปะการแสดงและการละคร ซึ่งจะต้องเขียนบทละครแนวพีเรียดย้อนยุคเพื่อผลิตซีรีย์เรื่องยาว 40 ตอนจบ และยังเป็นผลงานภาคบังคับที่นักศึกษาทุกคนจะต้องทำบทละครเพื่อขออนุมัติจบการศึกษา หญิงสาวจึงนำเกร็ดประวัติของท่านหญิงธิดาลูกเจ้าเมือง จากยุคจ้านกว๋อ มาเขียนบทละคร ทว่าประวัติของท่านหญิงผู้นั้นเป็นของปลอมที่ถูกทำขึ้นในยุคนั้น เป็นเหตุให้หวังฉิงชวนเกิดเหตุการณ์ไม่คาดฝันขึ้นกับชีวิต เมื่อเธอเกิดหัวใจวายกะทันหัน ครั้นฟื้นขึ้นมาอีกครั้งดวงวิญญาณของเธอกลับอยู่ในร่างของท่านหญิงหยางเฉียนเฉียน ธิดาเจ้าเมืองอูเจี๋ยนผู้วายชนม์ เธอถูกกลับมาในเหตุการณ์ของท่านหญิงที่นำประวัติของนางมาทำเป็นบทละคร เพื่อล่วงรู้เหตุการณ์จริงในอดีตที่เกิดขึ้น และเธอกลับมาเพื่อผูกวาสนากับจอมโจรเยี่ยคัง ซึ่งมีอดีตเป็นถึงองค์ชายเฉินคัง องค์ชายห้าแคว้นหมิ่นเย่ว วาสนาผูกพันลึกซึ้งเกิดขึ้นกับคนทั้งสอง และสัญญารักมั่นจากหัวใจที่พี่คังมีต่อเฉียนเฉียน นำหวังฉิงชวนให้หวนกลับคืนสู่อ้อมกอด องค์ชายเฉินคังแห่งแคว้นหมิ่นเย่วอีกครั้งเพื่อครองคู่ไปชั่วนิจนิรันดร์
"นางเป็นบุตรีผู้สูงศักดิ์ของฮูหยินเอกของจวนเสนาบดี นางมีหน้าตาโดดเด่น ทั้งอ่อนโอนและมีน้ำใจไมตรีต่อผู้อื่น แต่... นางทำดีต่อป้าของนาง นางกลับฆ่าแม่ของนางตาย นางรักเอ็นดูน้องสาวของนาง แต่น้องสาวกลับแย่งสามีของนางไป นางคอยสนับสนุนและดูแลสามีของนางอย่างสุดหัวใจ แต่สามีกลับทำให้นางตายทั้งกลม...ตระกูลฝ่ายมารดาของนางก็ถูกประหารชีวิตทั้งตระกูลด้วย นางตายตาไม่หลับและสาบานว่าหากมีชาติหน้า นางจะไม่เมตาตาต่อใครอีก ใครก็ตาม กล้ามาทำร้ายข้า ข้าจะล้างแค้นด้วยชีวิตทั้งตระกูลของพวกเจ้า เมื่อเกิดใหม่อีกครั้ง นางอายุได้สิบสี่ปี นางสาบานว่าจะต้องเปลี่ยนชะตากรรมและแก้แค้นชาติก่อน ป้านางใจ้ร้าย นางจะใจร้ายกลับยิ่งกว่านาง นางคิดจะได้ครองตำแหน่งฮูหยินงั้นเหรอ บอกเลยไม่มีทาง! ส่วนน้องสาวชอบผู้ชายชั่ว ๆ นักไม่ใช่หรือ ได้!ข้าจะยกให้เลย ส่วนชายชั่วนั่น ข้าจะทำให้เจ้าไม่สามารถมีทายาทได้อีกตลอดทั้งชาติ!แต่ข้าจะแก้แค้น เหตุใดเจ้าต้องมาช่วยข้าด้วย?"
หนานอันพริตตี้สาวสู้ชีวิตอายุยี่สิบปีแอบชอบผู้ชายคนหนึ่งอย่างหนักและอยากได้เขามาเป็นแฟนใจจะขาด แต่ดูเหมือนว่าเขาจะไม่สนใจเธอ หญิงสาวได้ไปดูดวงแม่หมอคนนั้นจึงบอกให้เธอมาขอพรที่ศาลเจ้าเล็ก ๆ ในอำเภอแห่งหนึ่งที่ห่างไกลเพื่อให้เธอสมหวังและต้องไปในวันที่ฟ้ามืดที่สุดของเดือนในอีกสองวันข้างหน้าถึงจะเห็นผล หนานอันเชื่อแม่หมอเพราะอยากได้ผัว เธอจึงไม่รอช้ารีบคว้ากระเป๋าเป้เดินทางมายังศาลเจ้าทันที เมื่อหนานอันเข้าไปภายในศาลเจ้าก็พบว่า มีสตรีสูงวัยคนหนึ่งอายุราวหกสิบกว่าปีกำลังกวาดศาลเจ้าอยู่ ...... "ได้ของสิ่งนี้ไปต้องสมหวังอย่างแน่นอน" คุณยายพูดพร้อมกับรอยยิ้ม น้ำเสียงนี้ฟังดูเยือกเย็นเป็นอย่างยิ่ง หนานอันยิ้มให้คุณยายจู่ ๆ ขนแขนของเธอก็ตั้งชันขึ้นมา เธอกำลังจะลุกขึ้นในตอนนั้นก็เกิดฟ้าผ่าเปรี้ยงลงมา หนานอันหวีดร้องด้วยความตกใจทว่าเมื่อหันไปมองคุณยายเธอไม่เห็นแม้แต่เงาแล้ว หนานอันประหลาดใจมากร้องเรียกคุณยายอยู่หลายคำ แต่ว่าในตอนนี้เธอก็ไม่มีเวลาให้คิดสิ่งใดแล้วเพราะเกิดสิ่งที่ไม่คาดคิดขึ้นเมื่อฟ้าผ่าลงมาที่ศาลเจ้าเข้าอย่างจังหนานอันที่อยู่ด้านในจึงถูกฟ้าผ่าไปด้วยและสติดับวูบลงไปทันใด ไม่รู้ว่านานเท่าใดที่หนานอันตกอยู่ในความมืดมิด และเมื่อเธอตื่นขึ้นมาทุกอย่างรอบกายของเธอก็ไม่เหมือนเดิมอีกต่อไป...
ฉู่ว่านยู ผู้สืบเชื้อสายมาจากตระกูลแพทย์แผนโบราณ มีทักษะทางการแพทย์ที่ยอดเยี่ยม ยาที่เธอทำนั้นทุกคนต่างอยากได้ สามารถรักษาได้ทุกโรค แต่กลับไม่คาดคิดว่าจะย้อนยุค กลายเป็นผู้หญิงที่ขี้เหร่ที่สุดในใต้หล้า และยังเอาชนะใจท่านอ๋องด้วย การเริ่มต้นไม่ค่อยดีก็ไม่เป็นไร มาดูกันว่าเธอจะพลิกผันยังไง การแย่งการแต่งงานงั้นเหรอ? เธอทำให้น้องต้องรับบทเรียน แย่งสินเิมดลับมา ให้ชายั่วหญิงร้ายคู่นี้อยู่ด้วยกันตลอดไป ขี้ขลาดเหรอ? เธอจัดการพ่อร้าย สั่งสอนผู้หญิงเสแสร้ง! ขี้เหร่เหรอ? เธอรักษาพิษในตัว และกลายเป็นคนงามอันน่าทึ่ง! ลูกสาวขี้เหร่ของจวนอัครมหาเสนาบดี กลายเป็นผู้สูงส่ง แม้แต่ผู้โหดเหี้ยมบางคนยังหวั่นไหวกับเธอ เมื่อสุดที่รักจะจัดการผู้ใด เขามักจะช่วยเสมอ... แต่น่าเสียดายสุดที่รักคนนั้นไม่มีเขาอยู่ในใจ ฉู่ว่านยู "ออกไป หย่าเลย ผู้ชายมีแต่เป็นภาระของข้าเท่านั้น" เสี่ยวลี่จิงรู้สึกน้อยใจ "ไม่ได้ ข้าให้ครั้งแรกกับเจ้าแล้ว เจ้าต้องรับผิดชอบข้า"
ในชีวิตชาติที่แล้ว เพื่อช่วยรักแรกของตัวเอง คนชั่วสามคนได้ทำลายพลังการต่อสู้ของนาง ตัดแขนขาของนางออก ตัดเส้นเลือดของนางและปล่อยเลือดของนางไหลออกมาทั้งอย่างนั้น และทรมานนางจนตาย เมื่อเกิดใหม่ครั้งนี้ นางวางแผนอย่างรอบคอบ โดยสาบานว่าจะให้พวกเขาได้สัมผัสกับความทุกข์ทรมานที่นางเคยประสบมา! รักแรกที่ไร้เดียงสาอะไรกัน ที่จริงก็เป็นเพียงผู้หญิงที่ตีสองหน้าเก่ง อยากจะไต่ขึ้นไปสูงเหรอ งั้นก็จะให้เจ้าปีนขึ้นไป ยิ่งปีนขึ้นสูงมากเท่าไร ตอนตกลงมาก็จะยิ่งเจ็บมากเท่านั้น! พวกสวะสมควรได้รับบาปกรรมของพวกสวะ พวกมันทำชั่วกับนางไปชั่วชีวิตหนึ่ง นางจะทำให้พวกมันไม่ตายดี พวกคนที่เจ้าเล่ห์ ตีสองหน้าเก่ง นางจะจัดการกับทุกคน! แต่นางไม่เคยคิดเลยว่าในการแก้แค้นของนาง นางจะไปมีเรื่องกับเสด็จอาที่เป็นเจ้าแผนการเข้า ที่วัน ๆ ต้องการให้นางจูบและกอดเขาตลอดทั้งวัน ในขณะที่นางแก้แค้นคนชั่วนั้นยังสามารถสนิทสนมกับเสด็จอาด้วย ในความจริงแล้ว การที่เป็นผู้หญิงชั่วๆ ก็มีความสุขมาทีเดียวกว่าที่คิดเลย!
เสิ่นชิงกลายเป็นลูกสาวของชาวนาจากคุณหนูที่ร่ำรวยของตระกูลเสิ่นในชั่วข้ามคืน ลูกสาวตัวจริงใส่ร้ายเธอ คู่หมั้นของเธอทำให้เธออับอาย และพ่อแม่บุญธรรมของเธอก็ไล่เธอออกจากบ้าน... ทุกคนต่างรอที่จะหัวเราะเยาะเธอ ทว่าเธอกลับกลายเป็นทายาทของตระกูลเศรษฐีในเมืองอย่างกะทันหัน นอกจาดนี้ เธอยังมีตัวตนหลากหลาย เช่น หัวหน้าแฮ็กเกอร์ระดับนานาชาติ นักออกแบบเครื่องประดับชั้นนำ นักเขียนผู้ยิ่งใหญ่ที่ลึกลับ และอัจฉริยะด้านการแพทย์! พ่อแม่บุญธรรมเสียใจกับการตัดสินใจของตนและบังคับให้เธอแบ่งทรัพย์สินครึ่งหนึ่งให้เพราะพวกเขาเลี้ยงดูเธอมา เมื่อเสิ่นชิงหยิบกล้องออกมาแล้วบันทึกท่าทางอันน่าเกลียดของพวกเขา อดีตคู่หมั้นรู้สึกเสียใจและพยายามจะคืนดีกับเธอ เสิ่นชิงหัวเราะเยาะ "เขาคู่ควรงั้นเหรอ" จากนั้นก็ไล่เขาออกจากเมือง ในที่สุด ผู้มีอำนาจแห่งเมืองก็พูดอ้อนวอนเบาๆ "ไม่จำเป็นต้องแต่งเข้าตระกูลผม เดี๋ยวผมไปหาเอง"
ตลอดสิบปีที่ฉู่จินเหอรักเหลิ่งมู่หยวนฝ่ายเดียว เอาใจใส่กับเขาอย่างเต็มที่ แต่เธอไม่เคยคิดว่าที่แท้เธอเป็นแค่ตัวตลกคนหนึ่งเท่านั้น ที่สำนักงานเขตเพื่อทำการหย่า เหลิ่งมู่หยวนมองดูฉู่จินเหอด้วยความเย็นชาและพูดอย่างเหยียดหยามว่า "ถ้าเธอคุกเข่าลงและขอร้องฉัน ฉันอาจจะให้โอกาสเธอกอีกครั้ง ฉู่จินเหอเซ็นอย่างไม่ลังเลและออกจากตระกูลเหลิ่ง สามเดือนต่อมา ฉู่จินเหอปรากฏตัวอย่างเปิดเผย ในเวลานั้น เธอเป็นประธานเบื้องหลังของ LX นักออกแบบลับที่ล้ำค่าที่สุดในโลก และเจ้าของเหมืองที่มีมูลค่าหลายร้อยล้าน ทางตระกูลเหลิ่งคุกเข่าลงและขอร้องให้คืนดีและขอการให้อภัย ฉู่จินเหอแยู่ในโอบกอดของซีอีโอโจว ซึ่งเป็นคนใหญ่คนโตในโลกธุรกิจอย่างมีความุข เธอเลิกคิ้วพลางเยาะเย้ย "ฉันในตอนนี้ไม่ใช่คนที่พวกคุณมาเกี่ยวข้องได้"