อุปราชปีศาจ สมญานามนี้เลื่องลือไปทั่วหล้า อุปราชเฟิงหลง ผู้ก่อตั้งแผ่นดินเป่ยถังจนเป็นปึกแผ่นเป็นหนึ่งเดียว วิชาอมตะทำให้มีชีวิตเป็นนิรันดร์ และมีญาณหยั่งรู้ล่วงรู้เหตุการณ์ล่วงหน้าและหูทิพย์ หากแม้นผู้ใดเข้ามาใกล้พระวรกายน้อยกว่ารัศมีสิบฉื่อ ร่างจะต้องสลายกลายเป็นเถ้าธุลีขาวไปทันที อุปราชในตำนานประทับอยู่ในพระตำหนักลืมเลือนมานานกว่า 329 ปีนับตั้งแต่สถาปนาแคว้น จวบจนกระทั่งองค์หญิงเย่วเพ่ยเพ่ย จากแคว้นเย่วปรากฎกาย นางเป็นสตรีเพียงหนึ่งเดียวที่สามารถเข้าใกล้และสัมผัสพระองค์ได้ และนางคือสตรีที่ผูกพันกับพระองค์นับตั้งแต่พานพบกันตั้งแต่ครั้งแรก แรงรักแรงพิศวาสเริ่มก่อตัวขึ้นภายในตำหนักลืมเลือน ก่อนจะถึกปิดตายหายไปอย่างไร้ร่องรอยเพื่อรอคอยนางหวนคืนกลับมาอีกครั้ง กลับมาเพื่อครองรักกับอุปราชปีศาจอีกครั้งตามสัญญาที่มีไว้ให้ต่อกัน ไม่ว่ากาลเวลาจะผ่านไปนานนับพันปีก็ตาม
แคว้นเป่ยถัง
แคว้นเป่ยถังตั้งอยู่ระหว่างกลางแคว้นต้าซาง ต้าเย่วและต้าเหยี่ยน มีพรมแดนติดกับต้าเหยี่ยนเสียเป็นส่วนใหญ่ และติดกับชายแดนของคนเถื่อนหรือที่รู้จักกันเป็นอย่างดีคือชาวทุ่งหญ้า ท่ามกลางแคว้นใหญ่ที่ล้อมรอบและชาวเผ่าทุ่งหญ้าที่ต้องการครอบครองเป่ยถังมาโดยตลอด มาจากสาเหตุที่เป่ยถังมีพื้นที่ราบเหมาะทำการเกษตรและให้พืชผลเป็นอย่างดีเยี่ยม
อีกทั้งอากาศภายในแคว้นไม่แปรปรวน มีครบทั้งฤดูร้อน ฤดูใบไม้ผลิ ฤดูฝน ฤดูใบไม้ร่วงและฤดูหนาว จึงทำให้พืชผลทางการเกษตรมีออกมาครบทุกฤดูกาล มีเทือกเขาสูงและอากาศที่เย็นจัดจนเป็นเทือกเขาน้ำแข็งเฉพาะที่มีชายแดนติดต่อต้าเหยี่ยนเท่านั้นซึ่งตั้งอยู่ตอนเหนือสุด และที่สำคัญเป่ยถังมีทองคำและหยกสูงค่าเนื้องามหายากอย่างยิ่งยวดที่เกิดจากธรรมชาติซุกซ่อนอยู่ในเทือกเขาสูงทั้งลูก
และด้วยสาเหตุที่มีพื้นที่ส่วนใหญ่เป็นที่ราบ มีภูมิประเทศคล้ายหัวมังกรเกือบครึ่งตัวเลยที่เดียว ส่วนหัวคือเทือกเขาสูงเสียดฟ้า ส่วนลำตัวนั้นคือพื้นที่ราบและมีแม่น้ำฉางเจียงซึ่งไหลมาจากตอนเหนือสุดพาดผ่านมาจากดินแดนแห่งคนเถื่อน(ทิเบต) หรือในปัจจุบันเรียกแม่น้ำสายนี้ว่าแม่น้ำแยงซีเกียง
จึงทำให้เป่ยถังมีภูมิประเทศที่เป็นปราการด่านทางธรรมชาติ ยากยิ่งนักที่จะยกทัพบุกเข้าแผ่นดินแห่งนี้ได้โดยง่ายทั้งต้าซาง ต้าเย่วและต้าเหยี่ยนรวมไปถึงชนเผ่าทุ่งหญ้าจะต้องใช้กำลังความคิดและกำลังทหารอย่างมหาศาลมากมายยิ่งนักที่จะสามารถฝ่าเทือกเขาสูงเสียดฟ้า และแม่น้ำฉางเจียงซึ่งเป็นแม่น้ำสายใหญ่เข้ามาถึงเป่ยถังได้
ด้วยเหตุนี้เองเป่ยถังจึงอยู่รอดปลอดภัยมานานถึง 329 ปี มีเจ้าผู้ครองแคว้นหมุนเวียนผลัดเปลี่ยนขึ้นปกครองมาอย่างยาวนาน โดยมีราชวงศ์เฟิงปกครองแคว้นเป่ยถังมาโดยตลอด ซึ่งสถาปนาแคว้นมาพร้อมกับต้าซางซึ่งมีราชวงศ์ซางปกครอง ในขณะที่เป่ยถังนั้นมีราชวงศ์เฟิงสืบสายสกุลมาตั้งแต่โบราณเช่นเดียวกับราชวงศ์ซางเช่นกัน
และสาเหตุสำคัญที่ทำให้เป่ยถังดำรงอยู่ได้อย่างแข็งแกร่ง เป็นหนึ่งในแคว้นใหญ่อยู่ในเวลานั้นมาจากอุปราชแห่งเป่ยถัง พระนามว่าเฟิงหลง พระองค์คืออุปราชของแคว้นเป่ยถังมาตั้งแต่ประกาศสถาปนาแคว้น และพระองค์คือผู้ก่อตั้งแผ่นดินเป่ยถังทั้งหมดอันกว้างใหญ่ไพศาลและได้ภูมิประเทศที่ดีล้วนมาจากฝีมือของพระองค์ทั้งสิ้น
ตำนานของแคว้นเป่ยถังเล่าขานกันต่อๆ มาว่าอุปราชเฟิงหลงสังหารกองทัพนับหลายแสนชีวิตของฝ่ายศัตรูตรงกันข้าม ด้วยวิธีการ เพียงแค่เสด็จพาดผ่านทุกชีวิตที่อยู่ภายในระยะใกล้ ร่างพลันสลายไปเองเพียงชั่วพริบตา ทำให้ได้รับชัยชนะเหนือแคว้นใดทั้งหมดในเวลานั้น ต่อหน้ากองทหารจากสามแคว้นที่รวมตัวกันบุกยึดเป่ยถังเพื่อหวังแบ่งปันแผ่นดินออกเป็นชิ้นเล็กชิ้นน้อยซึ่งอยู่ติดกับเขตชายแดนของตัวเอง
เมื่อเหตุการณ์กลับแปรเปลี่ยน แทนที่เป่ยถังจะล่มสลายกาลกลายเป็นว่ากองทัพจากทั้งสามแคว้นสลายหายไปเพียงชั่วพริบตาเสียเอง จึงทำให้เกิดเสียงลือเสียงเล่าอ้างไปทั่วทุกสารทิศ ว่าพระองค์คือ “อุปราชปีศาจ”
ทั้งสามแคว้นไม่กล้าที่จะนำชีวิตของเหล่าแม่ทัพและกำลังทหารต้องมาสังเวยหรือก่อสงครามกับเป่ยถังอีกตราบใดที่อุปราชปีศาจยังคงอยู่ พระองค์ได้รับชัยชนะอันยิ่งใหญ่ภายในเวลาเพียงแค่หนึ่งก้านธูปเท่านั้น เป็นหนึ่งก้านธูปที่สังหารชีวิตฝ่ายตรงกันข้ามไปเพียงชั่วพริบตา
ครั้นชัยชนะได้ตกเป็นฝ่ายของเป่ยถังหากแต่อุปราชเฟิงหลงกลับไม่ขึ้นครองแผ่นดินแต่มอบให้เฟิงหู่ พระอนุชาขึ้นปกครองราชบัลลังก์แทน โดยมีพระองค์ดำรงตำแหน่งมหาอุปราช ทรงคอยให้คำปรึกษาในการบริหารแผ่นดินของเจ้าแคว้นเป่ยถังและสืบต่อเช่นนี้เรื่อยมาโดยตลอด
จวบจนกระทั่งกาลเวลาผ่านไปนานกว่า 329 ปี อุปราชเฟิงหลงก็ยังทรงมีพระชนม์ชีพอยู่มาอย่างยาวนานหาได้สิ้นพระชนม์ดั่งเช่นองค์ฮ่องเต้ซึ่งเปรียบเสมือนลูกหลานของพระองค์แต่อย่างใด
ในขณะที่เจ้าผู้ครองแคว้นของเป่ยถังนั้นต่างสวรรคตไปตามระยะกาลเวลาของอายุขัยพระองค์แล้วพระองค์เล่า แต่อุปราชเฟิงหลงกลับยังทรงมีพระชนม์ชีพอยู่เช่นนั้นดุจเดิม หากรวมพระชนมายุในขณะที่ทำการสถาปนาแคว้นเป่ยถังซึ่งในเวลานั้นพระองค์มีพระชนมายุ 23 พระชันษา นั่นก็เท่ากับว่าอุปราชเฟยหลงในเวลานี้ทรงมีพระชนมายุมากถึง 352 พระชันษาแล้ว
อุปราชปีศาจประทับอยู่ภายในพระตำหนักอี๋หว่างกุง ซึ่งเป็นพระตำหนักส่วนพระองค์อยู่ทางทิศบูรพาของพระราชวังถังเฉี่ยนมาอย่างช้านาน หรือที่ผู้คนทั่วไปรวมไปถึงข้าราชบริพารภายในพระราชวังหลวงถังเฉี่ยน ต่างพากันเรียกขานว่าตำหนักลืมเลือน ซึ่งพระตำหนักดังกล่าวถูกสร้างขึ้นประหนึ่งพระราชวังหลวงเช่นเดียวกับพระราชวังถังเฉี่ยนและยิ่งใหญ่เหนือเสียยิ่งกว่าพระราชวังหลวงเสียอีกด้วยซ้ำนับตั้งแต่สร้างแคว้นและให้มีพระบัญชาสร้างพระราชวังถังเฉี่ยนขึ้นมา
ซึ่งมีพื้นที่นับหลายร้อยหมู่ กว้างใหญ่สุดลูกหูลูกตาเป็นยิ่งนัก เฉพาะพระตำหนักอี๋หว่างกุงหรือตำหนักลืมเลือนเพียงแห่งเดียว ก็มีพื้นที่ถึงร้อยหมู่มีข้าราชบริพารส่วนพระองค์และทหารองครักษ์เปรียบเสมือนกองทัพย่อมๆ ที่ถวายความจงรักภักดีต่ออุปราชผู้สร้างแคว้นเป่ยถัง นับพันชีวิตและกองทหารอีกหนึ่งหมื่นนาย คอยดูแลและถวายอารักขาอยู่ภายในพระตำหนักดังกล่าวมาอย่างช้านาน
ทว่าเจ้าของตำหนักอี้หว่างกุงหรือพระตำหนักลืมเลือน หาได้ปรากฏพระวรกายมาให้ผู้ใดได้พานพบมานานถึง 329 ปีแล้ว นับตั้งแต่ยกพระราชบัลลังก์นี้ให้แก่พระอนุชาปกครอง
ส่วนพระองค์นั้นกลับประทับอยู่แต่ภายในพระตำหนักอี๋หว่างกุงมาโดยตลอด หากเจ้าผู้ครองแคว้นเสด็จมาเข้าเฝ้าเพื่อขอคำปรึกษาต่างๆ จากมหาอุปราช ก็จะประทับคอยอยู่ภายในห้องหนังสือซึ่งจะได้ยินแต่เพียงพระสุรเสียงเท่านั้นที่ให้คำปรึกษา
พระสิริโฉมของอุปราชเฟิงหลงหามีผู้ใดได้พานพบเพราะไม่สามารถมีผู้ใดเข้าใกล้พระองค์ได้เลย ด้วยเพราะมีเสียงเล่าลือต่อๆ กันมาว่าอุปราชเฟิงหลงทรงฝึกวิชาลึกลับที่ไม่เคยปรากฏบนผืนแผ่นดินนี้ เพื่อทำให้เป่ยถังเป็นปึกแผ่นและแข็งแกร่งยืนหนึ่งกว่าแคว้นใดทั่วหล้า
วิชาลึกลับดังกล่าวทำให้พระองค์มีวรยุทธ์ที่หาผู้ใดทัดเทียม ผู้ที่เข้าใกล้พระองค์อย่าว่าแต่สัมผัสเลยเพียงแค่ย่างกายเข้ามาใกล้ในระยะยังไม่ถึงสิบฉื่อเสียด้วยซ้ำ ร่างจะต้องสลายเหลือเพียงเถ้าธุลีขาว และนั่นจึงทำให้พระองค์ทรงได้รับสมญานามว่า”อุปราชปีศาจ”
และนี่คือเหตุผลว่าเพราะอะไรอุปราชเฟิงหลง จึงทรงประทับอยู่แต่ในพระตำหนักเพียงพระองค์เดียวมาโดยตลอด ไร้สิ้นพระชายาเคียงข้างพระวรกาย พระสนมและพระโอรสพระราชธิดาแต่อย่างใด
ตำนานแคว้นเป่ยถังต่างพากันเล่าขานต่อๆ กันมาว่า ในช่วงที่พระอนุชาทรงมีพระชนม์ชีพอยู่ มีเพียงฮ่องเต้เฟิงหู่พระองค์เดียวเท่านั้นที่เข้าเฝ้าพระเชษฐาเพื่อมาเยี่ยมเยือนอยู่สม่ำเสมอ
ด้วยฮ่องเต้เฟิงหู่สงสารในชะตากรรมของพระเชษฐาที่จะต้องพบกับความทรมานในพระชนม์ชีพหลังจากฝึกวิชาลึกลับนี้สำเร็จจนสามารถรวบรวมแผ่นดินเป่ยถังจนสำเร็จ ทว่ากลับทำให้พระองค์ต้องอยู่อย่างโดดเดี่ยวและเดียวดาย ทรงประทับอยู่อย่างอ้างว้างแต่เพียงลำพังในพระตำหนักอี๋หว่างกุงแต่เพียงผู้เดียว
แม้แต่คนสนิทและข้าราชบริพารที่คอยถวายการรับใช้ยังไม่อาจอยู่ใกล้ได้ ต้องอยู่ให้ห่างจากพระวรกายเพื่อความปลอดภัยในชีวิตของตัวเอง
ครั้นฮ่องเต้เฟิงหู่สวรรคตลงและเจ้าผู้ครองแคว้นพระองค์ใหม่ซึ่งเป็นหลานของอุปราชเฟิงหลงขึ้นปกครอง อุปราชผู้กล้าก็ไม่ให้ผู้ใดพานพบพระพักตร์อีกเลย
มีเพียงอนุญาตให้แค่มาเข้าเฝ้าถวายพระพรหรือขอคำปรึกษาหารือราชการแผ่นดินได้เท่านั้น ถึงกระนั้นก็ต้องจัดที่ประทับให้อยู่ห่างพระองค์อย่างน้อยสิบจั้งจึงจะปลอดภัยกับชีวิตของทุกคน และจะสามารถเห็นอุปราชผู้สร้างเป่ยถังผ่านทางม่านสีขาวซึ่งนำมาขวางกั้นเอาไว้ ในขณะที่องค์อุปราชประทับอยู่บนตั่งเพื่อให้คำปรึกษา
ทว่าในระยะสามร้อยปีให้หลังฮ่องเต้เป่ยถังในรัชสมัยต่อๆ มา ไม่ได้ให้ความสำคัญกับอุปราชเฟิงหลงดั่งช่วงต้นรัชกาลแต่อย่างใดไม่เข้ามาขอคำปรึกษาและหารือดั่งที่ควรจะเป็น ด้วยเพราะได้ลืมเลือนการเสียสละและสิ่งที่อุปราชเฟิงหลงได้ทรงมอบให้ไว้ไปจากความทรงจำจนหมดสิ้น
ด้วยเหตุนี้ “อุปราชปีศาจ” จึงถูกลืมเลือนไปจากความทรงจำของผู้คน เป็นสาเหตุทำให้ตำหนักอี้หว่างกุง กลายเป็นตำหนักที่ถูกลืมในเวลาต่อมา ซึ่งอุปราชผู้กล้าก็ไม่ได้ใส่พระทัยแม้แต่น้อยในความคิดของลูกหลานชนรุ่นหลัง ตรงกันข้ามพระองค์กลับทรงคิดว่าเป็นการดีกับชีวิตของทุกคนที่ไม่ต้องมาจบลงโดยไม่รู้เรื่องราวแต่อย่างใด
ทว่าถึงแม้ว่าอุปราชเฟิงหลงซึ่งประทับอยู่ภายในตำหนักอี๋หว่างกุงจะถูกลืมเลือนไปจากความทรงจำไปแล้วก็ตาม แต่ก็ยังได้รับการดูแลเอาใจใส่มิให้ตำหนักต้องตกอยู่ในสภาพรกร้างและทรุดโทรมแม้แต่น้อย ทุกชีวิตภายในตำหนักลืมเลือนยังใช้ชีวิตเป็นปกติและมีความสุขและสงบมากกว่าในเขตราชสำนักของถังเฉี่ยนเสียด้วยซ้ำ
โดยที่ฮ่องเต้ในรัชสมัยต่อมาไม่เคยคิดจะพระราชทานทรัพย์ในท้องพระคลังหลวงนั้นเผื่อแผ่มาที่ตำหนักลืมเลือนแม้แต่อย่างใด ตรงกันข้ามอุปราชเฟิงหลงกลับทรงมีพระราชทรัพย์ส่วนพระองค์อย่างมหาศาลที่หามีผู้ใดล่วงรู้
นั่นก็คือทองคำที่ซุกซ่อนอยู่ในเทือกเขาสูงเสียดฟ้าทั้งลูก มีเพียงพระองค์เท่านั้นที่ล่วงรู้ว่าเทือกเขาลับดังกล่าวเต็มไปด้วยทองคำและหินหยกหายาก ทรงนำมาแปรสภาพและนำมาเป็นค่าใช้จ่ายภายในตำหนักของพระองค์ให้กับทุกชีวิตอย่างไม่เดือดร้อนแต่อย่างใดตลอดหนึ่งร้อยปีที่ผ่านมา
ด้วยเหตุนี้พระตำหนักลืมเลือนจึงถูกตัดขาดจากเขตพระราชวังหลวงถังเฉี่ยนนับตั้งแต่นั้นมา บ้างก็คิดว่าด้วยกาลเวลายาวนานนับสามร้อยปีที่ล่วงเลยผ่านไปนั้น อุปราชเฟิงหลงผู้ก่อตั้งแผ่นดินเป่ยถังสิ้นพระชนม์ไปนานมากแล้ว บ้างก็คิดว่าหากยังทรงมีพระชนม์ชีพอยู่จริง
เพราะเป็นผลสืบเนื่องมาจากการฝึกวิชาลึกลับดังกล่าว อดีตอุปราชผู้กล้าก็จะต้องทรงชราภาพเสียจนยากยิ่งนักที่จะลุกเหินไปไหนต่อไหนได้อีกต่อไป และมองอะไรไม่เห็นอีกแล้วเปรียบซากคนตายแต่ยังมีชีวิตอยู่ ซึ่งล้วนแล้วแต่เป็นข้อสันนิษฐานกันไปเองตลอดสามร้อยกว่าปีที่ผ่านมา
แม้ว่าจะมีเสียงเล่าลือเสียงกล่าวอ้างไปต่างๆ นานา แต่ก็ไม่มีฮ่องเต้เป่ยถังพระองค์ใดหาญกล้าถอดถอนพระยศของพระองค์และบุกยึดเพื่อเข้าครอบครองตำหนักลืมเลือน
ด้วยเพราะฮ่องเต้เฟิงหู่ปฐมราชวงศ์ทรงมีพระราชโองการห้ามไม่ให้ผู้ใดทำการถอดถอนพระยศและหมิ่นพระเกียรติพระเชษฐาของพระองค์ เพราะนั้นหมายถึงหายนะร้ายจะมาเยือนแก่ทุกชีวิตหากอุปราชในตำนานเสด็จออกจากพระตำหนักลืมเลือนมาสู่ภายนอก
จวบจนกระทั่งกาลเวลาได้มาถึงรัชสมัยฮ่องเต้เฟิงอวิ๋น ซึ่งขึ้นปกครองแคว้นตั้งแต่พระชนมายุ 17 พระชันษาจวบจนในเวลานี้ทรงมีพระชนมายุ 42 พระชันษา พระองค์เป็นฮ่องเต้เป่ยถังที่เต็มไปด้วยปัญญาอันปราดเปรื่อง และทรงมีพระวรกายที่สูงใหญ่สง่างามและน่าเกรงขาม
อีกทั้งทรงมีวรยุทธ์ล้ำเลิศ จึงเป็นนักรบผู้ยิ่งใหญ่อีกทั้งยังเป็นนักรักตัวยง ทรงมีเซวียนฮองเฮาเป็นแม่ของแผ่นดินและฟูเหรินทั้งสี่ รวมไปถึงมีพระสนมมากมายอีกนับร้อยกว่าพระองค์ ซึ่งมาจากการออกล่าดินแดนและการแต่งงานเชื่อมสัมพันธ์ไมตรีระหว่างแคว้น ทำให้แผ่นดินเป่ยถังมีดินแดนขยายออกกว้างไกลกว่าที่มีอยู่
ฮ่องเต้เฟิ่งอวิ๋น ทรงมีพระโอรสสามสิบห้าพระองค์และพระราชธิดาอีกสิบเก้าพระองค์ รวมจำนวนพระโอรสและพระราชธิดาทั้งสิ้นถึงห้าสิบสี่พระองค์
ด้วยเหตุนี้รัชสมัยของฮ่องเต้เฟิงอวิ๋นจึงมีแต่การแก่งแย่งชิงดีชิงเด่น ทั้งวังหน้าและวังหลังจนภายในราชสำนักไร้ความสุขสงบอย่างยิ่งยวด ข้างฝ่ายขุนนางก็เอาแต่ดีใส่ตัวและประจบสอพลอเพื่อให้ได้มาซึ่งอำนาจของตัวเอง
ตำหนักไร้รัก สถานที่พำนักของอุปราชหนุ่มแห่งเทียนจิน เจ้าของตำหนักนี้ หัวใจเต็มไปด้วยความด้านชามาแทบทุกพระองค์ แต่แล้ววันหนึ่ง คุณหมอสาวแสนสวย นามว่าจ้าวย่าเจินได้รับของขวัญ ย้ายเข้าบ้านใหม่เป็นภาพวาดตำหนักโบราณ มีชื่อว่าตำหนักเย่วเชียง ในภาพนั้นมีผู้ชายยืนเอามือไพล่หลังไม่เห็นหน้า เฝ้ามองตำหนักฝั่งตรงกันข้าม และที่น่าประหลาดผู้ชายในภาพวาดจะโตขึ้นทุกวัน จวบจนกระทั่ง คุณหมอคนสวยถูกดึงเข้าไปในภาพวาดตำหนักโบราณดังกล่าวและได้พบกับ เจ้าของตำหนักไร้รัก ซึ่งเขาก็คืออุปราชแห่งเทียนจินและเป็นผู้ชายคนเดียวกัน ที่อยู่ในภาพวาดที่หญิงสาวเห็นเขาอยู่ทุกค่ำคืน ตำหนักไร้รักเมื่อไร้หัวใจ ตำหนักไร้กังวลเมื่อหัวใจกลับมามีรักอีกครั้ง
คำโปรย การกลับมาแก้ไขเหตุการณ์ในอดีตครั้งนี้ ทำให้นางมารใจโฉดกลับกลายเป็นคนดี แต่กลับมีเหตุการณ์ที่ทำให้ ถานหยี่เหยียนซึ่งผสานจิตใจกับร่างในปัจจุุบัน จนสงบกลับปะทุขึ้นมาอีกครั้ง และกลับมาทำลายล้างทุกอย่างจนวอดวาย เอลิซาเบธ ลีหรือหยางลี่จู บินกลับประเทศจีนเป็นครั้งแรกในชีวิตและถูกดวงตาสวรรค์ที่มีวาสนาผูกพันกันนำนางหวนคืนกลับตระกูลถาน ซึ่งเป็นชาติอดีตของตัวเองเพื่อกลับมาแก้ไขเหตุการณ์ในอดีตตามที่เคยอ้อนวอนต่อสวรรค์เบื้องบน ดวงตาสวรรค์นำนางกลับมาในชาติที่เกิดเป็นสตรีที่แสนจะร้ายกาจที่สุดในตระกูลถาน และนางก็คือนางมารชื่อกระฉ่อน ถานหยี่เหยียน คุณหนูใจโฉดที่เต็มไปด้วยความอำมหิต สนใจแต่ตัวเองไม่เคยใส่ใจผู้ใดและต้องได้ทุกอย่างที่นางต้องการ จนเป็นต้นเหตุทำให้ตระกูลถานถูกประหารล้างตระกูล และการคัดเลือกพระชายาของอดีตฉู่อ๋องเพื่อเลือกเฟ้นให้กับพระอนุชา เป็นที่มาของการประหารล้างตระกูลถานในอดีต แต่การกลับมาอีกครั้งของถานหยี่เหยียน ซึ่งเป็นร่างในยุคปัจจุบันทำให้ร่างในอดีตและปัจจุบันหลอมรวมเป็นร่างเดียวกันและนางก็คือนางในฝันของบุรุษหน้าหยกผู้เลื่องลือ สตรีใจโฉดผู้เคยเป็นอนุชายาของชินอ๋องรูปงามก่อนที่จะกลับมาแก้ไขเปลี่ยนแปลง
เพราะการพบกันครั้งแรกระหว่าง จอมอำมหิตแห่งกู้กงและหวางเย่หลิง ทำให้รองผู้บัญชาการองครักษ์เสื้อแพร ต้องการนางเก็บไว่้ใกล้ตัวเพื่อ เหตุผลบางอย่าง และเพื่อสืบเสาะหามารดาผู้ให้กำเนิดจากนาง ครั้นเกิดเหตุการณ์เงินห้าหมื่นตำลึงทองสูญหายไปอย่างไร้ร่องรอย ภายในสำนักคุ่้มกันหวางซื่อของตระกูลหวาง จึงทำให้จอมอำมหิตสบโอกาส หวางเย่หลิง บุตรีเพียงคนเดียวของหวางเจี้ยนเฉิง จะต้องถูกนำส่งเข้าจวน ในฐานะสตรีของอิ๋งชวนโหว เพื่อช่วยทุกชีวิตของตระกูลหวางให้รอดพ้นจาก การถูกประหารชีวิตจากเหตุการณ์ดังกล่าว
ตงฟางลี่หยาง แม่ทัพหนุ่มแห่งแคว้นเทียนหยวน หัวใจของเขาเต็มไปด้วยความด้านชาและเต็มไปด้วยความแค้น ที่ฝังแน่นอยู่ภายในใจที่รอวันชำระแค้นกับอดีตสหายเก่า หากแต่หัวใจที่เต็มไปด้วยความด้านชา กลับปรากฏหมอหญิงจากสกุลหลิง ผู้มาจากยุคปัจจุบัน ผุดขึ้นอยู่ภายในหัวใจ หยกบุบผานำเธอให้มาพบกับแม่ทัพจอมโหด และหลิงลี่ย่านางคือสตรีที่แม่ทัพหนุ่มต้องตามจับเธอ !!!
หวังฉิงชวน สาวสวยจากศตวรรษที่ 21 นักศึกษาคณะศิลปะการแสดงและการละคร ซึ่งจะต้องเขียนบทละครแนวพีเรียดย้อนยุคเพื่อผลิตซีรีย์เรื่องยาว 40 ตอนจบ และยังเป็นผลงานภาคบังคับที่นักศึกษาทุกคนจะต้องทำบทละครเพื่อขออนุมัติจบการศึกษา หญิงสาวจึงนำเกร็ดประวัติของท่านหญิงธิดาลูกเจ้าเมือง จากยุคจ้านกว๋อ มาเขียนบทละคร ทว่าประวัติของท่านหญิงผู้นั้นเป็นของปลอมที่ถูกทำขึ้นในยุคนั้น เป็นเหตุให้หวังฉิงชวนเกิดเหตุการณ์ไม่คาดฝันขึ้นกับชีวิต เมื่อเธอเกิดหัวใจวายกะทันหัน ครั้นฟื้นขึ้นมาอีกครั้งดวงวิญญาณของเธอกลับอยู่ในร่างของท่านหญิงหยางเฉียนเฉียน ธิดาเจ้าเมืองอูเจี๋ยนผู้วายชนม์ เธอถูกกลับมาในเหตุการณ์ของท่านหญิงที่นำประวัติของนางมาทำเป็นบทละคร เพื่อล่วงรู้เหตุการณ์จริงในอดีตที่เกิดขึ้น และเธอกลับมาเพื่อผูกวาสนากับจอมโจรเยี่ยคัง ซึ่งมีอดีตเป็นถึงองค์ชายเฉินคัง องค์ชายห้าแคว้นหมิ่นเย่ว วาสนาผูกพันลึกซึ้งเกิดขึ้นกับคนทั้งสอง และสัญญารักมั่นจากหัวใจที่พี่คังมีต่อเฉียนเฉียน นำหวังฉิงชวนให้หวนกลับคืนสู่อ้อมกอด องค์ชายเฉินคังแห่งแคว้นหมิ่นเย่วอีกครั้งเพื่อครองคู่ไปชั่วนิจนิรันดร์
ว่านฉีฉี ลูกสาวเจ้าพ่อจากเมืองเซี่ยงไฮ้ถูกส่งตัวไปเมืองปักกิ่ง เพื่อความปลอดภัยจึงต้องแยกจากพ่อของเธอ ซึ่งเป็นเจ้าพ่อผู้มีอิทธิพลครองเมือง หญิงสาวเข้าเรียนสถาบันที่มีชื่อเสียงที่สุดในเมืองปักกิ่ง และสถานที่แห่งนั้นทำให้เธอ ถูกนำกลับไปเมืองหลวงจี้ แห่งเมืองต้าเยียน ซึ่งกำลังถูกฆ่าล้างเมืองอยู่ในเวลานั้น หลี่เหวินฉาง แม่ทัพผู้โหดเหี้ยมและอำมหิตผิดมนุษย์ ได้พบกับว่านฉีฉี ในวันคือพระจันทร์สีเลือด แม่ทัพหนุ่มนำลูกสาวเจ้าพ่อในยุคอนาคตมาเป็นสตรีบำเรอ โดยไม่รู้ว่าเธอมีพลังปีศาจของนางพญามาร และเขาคือแม่ทัพปีศาจแห่งเฉียนฉิน
นาธัชชาถูกทำร้ายร่างกายและจิตใจจากผู้เป็นพ่อ เพียงเพราะเธอมีส่วนทำให้แม่ต้องตาย ใครจะคิดว่าชีวิตเด็กเจ็ดขวบ จะถูกโชคชะตาเล่นตลกครั้งแล้วครั้งเล่า และพลิกผันจนกลายเป็น 18 มงกุฏ เพื่อความอยู่รอดของชีวิต ฟาเบียน (อายุ 35 ปี) ชายหนุ่มรูปหล่อทายาทคนโตแห่งมาร์ตินกรุ๊ป เจ้าของธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ที่มีธุรกิจโรงแรมทั้งที่ไทยและฝรั่งเศส ชีวิตของเขามีพร้อมทุกอย่างแต่กลับไร้เงาของสาวข้างกาย ใครๆ ก็พูดว่าเขาตั้งมาตรฐานผู้หญิงที่จะมาเป็นคู่ชีวิตไว้สูง บางคนบอกว่าระดับเขาต้องได้ผู้หญิงระดับนางงามที่มีมงกุฏการันตีความสวย ซึ่งมันก็คงจะจริง เพราะสาวที่เข้ามาพัวพันเป็นสาวสวยที่มีมุงกุฏการันตี และไม่ได้มีแค่มงกุฏเดียว เพราะเธอเป็น 18 มงกุฏ นาธัชชา (อายุ 20 ปี) นาธัชชาหรือหนูนา เด็กหญิงผู้เผชิญกับชีวิตที่แสนรันทดตั้งแต่อายุแค่เจ็ดขวบ เธอถูกพ่อแท้ๆ ยัดเยียดให้เป็นตัวซวย เพียงเพราะมีส่วนทำให้แม่ต้องตาย ชีวิตของเธอต้องพลิกผันซ้ำแล้วซ้ำเล่า เป็นกราฟชีวิตที่มีแต่จะตกต่ำ จนถึงขั้นต้องเป็น 18 มงกุฏ เพียงเพราะความอยู่รอดของชีวิต ความแตกต่างและความห่างชั้นทางสังคม จะชักนำให้เขาและเธอมาเจอกันได้อย่างไร เรามาติดตามไปพร้อมๆ กันค่ะ - ฟาเบียน ลูกชายคนโตของ เซดริก และมาลารินทร์ จากเรื่อง Malalin of love ร้อยรักมาลารินทร์ - นาธัชชา หรือหนูนา ตัวละครใหม่ คำเตือน -นิยายเรื่องนี้แต่งขึ้นมาเพื่อความบันเทิงเท่านั้น มิได้มีเจตนาชี้นำหรือเป็นตัวอย่างให้นำไปใช้ในชีวิตจริง -นิยายอาจมีเนื้อหาบางช่วงบางตอนที่ไม่เหมาะสม ทั้งเรื่องเพศ และมีคำหยาบคาย โปรดใช้วิจารณญาณในการอ่าน - นิยายเรื่องนี้เหมาะสมกับผู้อ่านที่มีอายุ 20 ปีขึ้นไป
ฉู่ว่านยู ผู้สืบเชื้อสายมาจากตระกูลแพทย์แผนโบราณ มีทักษะทางการแพทย์ที่ยอดเยี่ยม ยาที่เธอทำนั้นทุกคนต่างอยากได้ สามารถรักษาได้ทุกโรค แต่กลับไม่คาดคิดว่าจะย้อนยุค กลายเป็นผู้หญิงที่ขี้เหร่ที่สุดในใต้หล้า และยังเอาชนะใจท่านอ๋องด้วย การเริ่มต้นไม่ค่อยดีก็ไม่เป็นไร มาดูกันว่าเธอจะพลิกผันยังไง การแย่งการแต่งงานงั้นเหรอ? เธอทำให้น้องต้องรับบทเรียน แย่งสินเิมดลับมา ให้ชายั่วหญิงร้ายคู่นี้อยู่ด้วยกันตลอดไป ขี้ขลาดเหรอ? เธอจัดการพ่อร้าย สั่งสอนผู้หญิงเสแสร้ง! ขี้เหร่เหรอ? เธอรักษาพิษในตัว และกลายเป็นคนงามอันน่าทึ่ง! ลูกสาวขี้เหร่ของจวนอัครมหาเสนาบดี กลายเป็นผู้สูงส่ง แม้แต่ผู้โหดเหี้ยมบางคนยังหวั่นไหวกับเธอ เมื่อสุดที่รักจะจัดการผู้ใด เขามักจะช่วยเสมอ... แต่น่าเสียดายสุดที่รักคนนั้นไม่มีเขาอยู่ในใจ ฉู่ว่านยู "ออกไป หย่าเลย ผู้ชายมีแต่เป็นภาระของข้าเท่านั้น" เสี่ยวลี่จิงรู้สึกน้อยใจ "ไม่ได้ ข้าให้ครั้งแรกกับเจ้าแล้ว เจ้าต้องรับผิดชอบข้า"
อวิ๋นหลาน นักฆ่าอันดับหนึ่งแห่งศตวรรษที่ 25 ได้ข้ามภพและเกิดใหม่ในร่างของหญิงสาวผู้ไร้ประโยชน์ซึ่งมีชื่อเดียวกันในจวนเทพเจ้าแห่งสงคราม รากวิญญาณถูกทำลายไป? บำเพ็ญวิชาไม่ได้? คู่หมั้นถอนหมั้น? ทุกคนหัวเราะเยาะนาง? การควบคุมอสูร ยาพิษ ยาลูกกลอนปีศาจ อาวุธลับ...นางจัดการได้อย่างสบายๆ อดีตผู้ไร้ค่า แต่บัดนี้มาแก้แค้นชาาเจ้าชู้ เอาคืนทุกคนที่รังแกตนเอง ได้ประสบความสำเร็จ และขึ้นไปสู่จุดสูงสุด ผู้แข็งแกร่งอย่าคิดจะทำอะไรตามใจ ผู้อ่อนแออย่าท้อแท้ กล้ามารุกรานข้า งั้นก็อย่าหาว่าข้าไม่เตือนก็แล้วกัน เขาเป็นจ้าวแห่งอาณาจักรปีศาจ ชอบเอาใจนาง นางฆ่าคน เขาช่วยปิดปาก นางทำลายศพ เขาช่วยกำจัดหลักฐาน เขายอมทำทุกอย่างเพื่อนาง ชีวิตนี้ยอมร่วมทุกข์ร่วมสุขไม่ทอดทิ้งกัน
"ฉันจะนอนกับคุณทุกที่ ทุกเวลา และทุกครั้งที่คุณต้องการ เพื่อแลกกับอิสรภาพของพ่อฉัน" "แล้วถ้าผมไม่ตกลงล่ะ" ในที่สุดเขาก็พูดออกมาจนได้ ยาหยีก้มหน้าซ่อนความเจ็บช้ำเอาไว้จนมิด ก่อนจะเงยหน้าขึ้นอีกครั้งและพูดออกไปเสียงแผ่วเบา "ฉันจะให้คุณดูสินค้าก่อนก็ได้...แล้วค่อยตัดสินใจ" เมื่อบิดาของตนเป็นโจรขโมยเพชรล้ำค่าของตระกูลมาเฟียที่ยิ่งใหญ่แห่งกรุงมอสโค ยาหยี จำต้องโยนศักดิ์ศรีของตัวเองทิ้งแล้วกลายเป็นหญิงไร้ยางอายเพื่อให้บิดารอดพ้นจากเงื้อมมือมัจจุราชอย่างเขา ทางเลือกเพียงทางเดียวที่มีคือยอมพลีกายให้ผู้ที่ขึ้นชื่อว่าหล่อเหลาในสามโลกได้เชยชม สาวพรหมจรรย์อย่างหล่อนแทบขาดใจตายเพราะบทพิศวาสเร่าร้อนรุนแรงที่ไม่เคยได้พานพบ ความวาบหวามครั้งแล้วครั้งเล่าที่เขามอบให้ทำให้ยาหยีคลั่งไคล้ในรสสิเน่หา กายสาวร่ำร้องโหยหาแต่เขาเพียงผู้เดียว หากภายในใจก็ต้องคอยย้ำเตือนตนเองไว้ว่า หล่อนก็เป็นได้แค่ของเล่นชั่วคราว สักวันพอเขาเบื่อ ก็จะถูกเขี่ยทิ้งอย่างไร้ความปรานี!! จากที่คิดจะตามไล่ล่าเด็ดหัวคนทรยศให้แดดิ้นไปต่อหน้า คอร์เนล ซีร์ยานอฟ เจ้าพ่อยักษ์ใหญ่แห่งวงการโทรคมนาคมในประเทศรัสเซีย ก็เปลี่ยนเป้าหมายทันทีเมื่อได้เจอสาวน้อยนัยน์ตากลมหวานซึ้ง ใบหน้าหวานๆ ส่งผลให้เขาต้องการอยากครอบครองหล่อนแทบคลั่ง คอร์เนลมั่นใจว่ามันจะมีผลกับร่างแกร่งได้ไม่นานหรอก เพราะสำหรับเขา ผู้หญิงคือวัตถุทางเพศเคลื่อนที่ได้เท่านั้น เพียงได้ลิ้มลองแค่ครั้งเดียว เขาก็ไม่เคยหันกลับไปกินของเก่าอีก แต่ทฤษฎีนี้กลับใช้ไม่ได้ผลกับหล่อน ให้ตายสิ! เขาไม่เคยรู้สึกติดใจผู้หญิงรุนแรงขนาดนี้มาก่อน คอร์เนลหลงใหลเนื้อนุ่มจนกลายเป็นเสพติด ทั้งที่ความยโสโอหังของบุรุษเลือดเย็นเยี่ยงเขาพยายามบอกกับตนเองว่า เขายังเชยชมร่างงามไม่คุ้มค่ากับสิ่งที่สูญเสียไป แต่ภายในใจลึกๆ กลับตะโกนก้องสวนทางออกมาว่า เขาขาดเธอไม่ได้แม้แต่วินาทีเดียว!!
ตลอดระยะเวลาสามปีที่หยุยเอินแต่งงานกับฝู้ถิงหย่วน เธอพยายามทำหน้าที่ภรรยาให้ดีที่สุด เธอคิดว่าความอ่อนโยนของตนจะสามารถละลายใจที่เย็นชาของฝู้ถิงหย่วนได้ แต่ต่อมาเธอก็รู้ตัวว่าไม่ว่าเธอจะพยายามแค่ไหน ผู้ชายคนนี้ก็ไม่มีวันจะตกหลุมรักเธอได้ ด้วยความสิ้นหวังของเธอ สุดท้ายเธอตัดสินใจที่จะยุติการแต่งงานครั้งนี้ ในสายตาของฝู้ถิงหย่วน หยุยเอิน ภรรยาของเขาเป็นผู้หญิงที่โง่ ไม่มีอะไรดีเลยสักอย่าง แต่เขาก็คิดไม่ถึงว่าภรรยาของเขาจะกล้าโยนใบหย่าใส่เขาต่อหน้าคนมากมายในงานเลี้ยงวันครบรอบฝู้ซื่อ กรุ๊ป หลังจากหย่าร้าง ทุกคนต่างคิดว่าพวกเขาจะไม่มีอะไรเกี่ยวข้องกันอีกต่อไป แต่เรื่องราวระหว่างทั้งสองคงไม่ได้จบลงอย่างง่าย ๆ แบบนี้ หยุยเอินได้รับรางวัลบทภาพยนตร์ยอดเยี่ยม และคนที่เป็นผู้มอบถ้วยรางวัลให้กับเธอก็คือฝู้ถิงหย่วน หยุยเอินคิดไม่ถึงว่าผู้ชายที่สูงส่งและแสนเย็นชาคนนี้จะลดตัวลงอ้อนวอนเธอต่อหน้าผู้ชมทั้งหมด"หยุยเอิน ก่อนหน้านี้คือผมผิดเอง ขอโอกาสให้ผมอีกครั้งได้ไหม"หยุยเอินยิ้มด้วยความมั่นใจ"ขอโทษนะคุณฝู้ ตอนนี้ฉันสนใจแต่เรื่องงาน"ชายหนุ่มคว้ามือเธอไว้ ดวยตานั้นเต็มไปด้วยความผิดหวัง หยุยเอินสบัดมือเขาและเดินจากไปโดยปราศจากความลังเลใด ๆ
ในการแต่งงานที่ทำข้อตกลงไว้ เจียงหว่านเป็นฝ่ายที่มีใจให้อีกฝ่ายก่อน แต่ตอนที่เธอต้องการเผยเสี้ยนมากที่สุด เขากลับอยู่เคียงข้างคนรักในใจของเขา ในท้ายที่สุด เจียงหว่านก็ตัดสินใจหย่า และเริ่มต้นชีวิตใหม่ เมื่อเผยเสี้ยนรู้สึกตัวขึ้นมา เธอก็จากไปแล้ว เมื่อเผชิญหน้ากับคู่แข่งที่เข้าคิวเพื่อรับป้ายหมายเลข เผยเสี้ยนหยิบเงินร้อยล้านออกมาและพูดว่า "หว่านหว่าน คู่รักก็ต้องเป็นคู่เดิมเราแต่งงานใหม่อีกครั้งได้ไหม"