เมื่อผัวให้ความสุขได้ไม่ถึงอกถึงใจและเอาแต่เมามายจนเมียไฟแรงสูงของนายพลอานัตถ์ต้องไปให้ลูกน้องผัวและหลานชายผัวกระหน่ำจนหน่ำใจ
เมื่อผัวให้ความสุขได้ไม่ถึงอกถึงใจและเอาแต่เมามายจนเมียไฟแรงสูงของนายพลอานัตถ์ต้องไปให้ลูกน้องผัวและหลานชายผัวกระหน่ำจนหน่ำใจ
ณ ค่ายทหารที่ค่อนข้างเงียบเหงาในยามค่ำคืนแห่งหนึ่งอยูแถบชายแดนทางภาคตะวันออกเฉียงเหนือของประเทศ “..นายทหารหนุ่มวัยฉกรรจ์ที่เป็นลูกน้องของผู้บังคับบัญชาระดับนายผู้พล..”
คำมูล นายทหารหนุ่มวัย 22 ปี เขาถูกย้ายให้มาประการอยู่กับเจ้านายจากบ้านเกิดทางภาคเหนือนายทหารหนุ่มจึงต้องย้ายตามท่านนายพลที่ได้อพยพลูกและเมียที่แก่กว่าตัวเองถึง 3 ปี
โดยที่เมียสาวของท่านนายพลก็คือ “..คุณนายอรดี..”
ที่เป็นแม่หม้ายลูกติดวัยแตกเนื้อสาวชื่อ “.เพียงเดือน..” ซึ่งเธอกำลังเรียนหนังสืออยู่ชั้น ม.6
ซึ่งท่านผู้พลก็พักอาศัยอยู่ที่บ้านพักของทางราชการจัดให้ซึ่งเป็นบ้านเดี่ยวมีเนื้อที่ประมาณกว้างพอสมควรและมีบริเวณหน้าบ้านไว้จัดสวนปลูกต้นไม้และสวนหญ้าให้มีความเขียวชะอุ่ม
อยู่ในบริเวณบ้านแลดูสดชื่นสบายใจมีห้องนอนห้องครัวและห้องนั่งเล่นที่สามารถอยู่กันได้อย่างสบายๆกับคนในครอบครัว
รวมทั้งนายทหารคำมูลและนายทหารคินต์ ก็ 3 -4 คน ซึ่งนายพลอานัต จะอยู่กับคุณนายอรดีอยู่ชั้นบนโดยใช้เป็นห้องนอนหนึ่งห้องและห้องทำงานของท่านอีกหนึ่งห้องส่วนลูกสาวของคุณนายอรดีเพียงเดือนเธอก็จะอยู่ชั้นล่างที่มีอยู่ห้องนอนเดียว
ส่วนห้องที่เหลือเป็นห้องโถงไว้พักผ่อนและรับแขกถัดไปก็จะเป็นห้องน้ำและอีกด้านหนึ่งที่แยกออกไปอยู่ที่หลังบ้านด้านข้างๆห้องครัวตรงนั้นก็จะเป็นบริเวณบ้านพักมีพลทหารรับใช้อยู่หนึ่งคนชื่อ “พลทหารคำมูล ”
ซึ่งเป็นคนภาคเหนือซึ่งคอยรับใช้ในบ้านเช่น ซักผ้า รีดผ้าล้างจานและนายทหารหนุ่มคำมูลเขาจะงานทุกอยากที่เจ้านายมอบหมายและสั่งการณ์ใช้ทุกอย่าง
นายทหารคำมูลมันจะพักอยู่ห้องนอกบ้านติดกับครัว ข้างๆห้องที่มี “..คินต์..”
ซึ่งญาติห่างๆของนายพลมาพักอาศัยอยู่เด็กหนุ่มอายุ 20 ปี เขามาอยู่กับนายพลที่พ่อแม่เขาฝากให้มาพักอาศัยอยู่ด้วยเพื่อให้เล่าเรียนหนังสือในวิทยาลัยของจังหวัดที่เขาสอบได้แถวๆชายแดนทางภาคตะวันออกเฉียงเหนือที่นายพลย้ามมาพอดีเลยเขาอยู่ด้วย
โดยจะอาศัยนอนที่ห้องรับแขกและอาศัยดูทีวีของบ้านซึ่งเขาจะใช้ที่นอนยางพาราปูนอนหน้าโซฟาเพราะว่ามันเก็บง่ายและสะดวกสบายตามประสาเด็กวัยรุ่น
ท่านนายพลอานัตเขาเป็นคนที่มีนิสัยรักความสนุกสนามและชอบเที่ยวออกไปเต่ดื่มเหล้าเมายากับเพื่อนๆอีกทั้งจะกลับดึกบ้านพักดึกๆดื่นๆแทบทุกวัน
เมื่อกลับมาถึงบ้านทีไรก็จะมาะทะเลาะกับเมียสาวรุ่นใหญ่อย่างคุณนายอรดีอยู่บ่อยๆ
เพราะว่าเธอเป็นคนขี้หึ้งชอบหาเรื่องมาบ่นว่าและทะเลาะกันรุนแรงจนบางครั้งถึงขั้นต้องลงไม้ลงมือกับเมียหม้ายสาวรุ่นใหญ่ที่มีอายุแก่กว่าเขาเกือบจะ 3 ปี อย่างน่าเบื่อหน่าย
และท่านนายเองก็รู้สึกรำคาญกับเมียสาวรุ่นใหญีมากที่เธอออกจะเป็นคนที่ขี้หึงพอสมควร
แต่เขาก็พยายามเข้าใจเพราะว่าอยู่บ้านทำงานบ้านไม่ได้ออกไปทางไหนและเธอเป็นแม่บ้านที่ดีคอยดูแลเรื่องภายในบ้านทั้งหมดไม่เคยขาดตกบกพร่องเลย
แต่ข้อเสีของเธอก็ยตรงที่ทุกครั้งที่ท่านนายพลอานัตไปดื่มเหล้าเมามายกลับมาคุณนายอรดีเธอก็จะต้องหาเรื่องทะเลาะและส่วนมากก็จะตั้งประเด็นเอาเรื่องผู้หญิงมาทะเลาะเป็นเรื่องหลักแทบทุกครั้งก็ว่าได้
เพราะว่าท่านนายพลเป็นคนเจ้าชู้จึงมีแต่เรื่องทะเลาะกันอยู่เป็นประจำจะเรียกว่าครอบครัวนี้อยู่กันอย่างไม่ค่อยความสุขเท่าไหร่
เวลามีปัญหาหรือทะเลาะกันก็จะเมินเฉยต่างตนต่างอยู่กันเป็นอาทิตย์ๆเลยเพราะว่าคุณนายอรดีเธอก็จะไม่ได้พูดไม่จากับสามีรุ่นน้องอย่างนายพลอานัต
และด้วยเพราะความน้อยเนื้อต่ำใจไม่ว่าจะเป็นเรื่องผู้หญิงที่มีกลิ่นแปลกๆเข่นน้ำหอมของผู้หญิงที่ติดเสื้อผ้าของท่านนายพลกลับมาหลังจากที่ท่านนายพลอานันถ์ไปราชการหรือสังสรรค์กับพรรคพวกกลับมาดึกดื่นทุกครั้งเลย
“..ท่านนายพลอานัตเดินเข้ามาแล้วพูดออดอ้อนออเซาะเมียสาวรุ่นใหญ่ด้วยน้ำเสียงแหบพร่ากระเส่าอย่างมีอารมณ์ทางเพศสูงว่า.??
“..หื้ออๆๆ..อ่าาร์ๆๆ…คุณครับคุณจะโกรธผมอีกนานไหมครับเนี่ย..”
“..นายพลอานัตเอ่ยถามอย่างยิ้มๆ แต่ว่าคุณนายอรดีเธอก็ยังไม่ยอมพูดด้วยแล้วเธอก็รีบเบี่ยงตัวออกมาจากอ้อมกอดของสามีหนุ่มแล้วหันหลังให้พร้อมๆกับเอื้อมมือไปปิดไฟบนหัวเตียงนอนทันที..”
“..อื่มมๆๆ!?..ก็บอกแล้วไม่มีอะไร.??
“..เฮ้ออๆๆ..เมื่อไหร่ คุณจะเชื่อนะ..”
นายพลอานัตพูดพร้อมกับถอนใจยื่นแขนออกไปโอบคุณนายลูบไล้ไปที่เรือนร่างจับเต้านมอวบอั๋นขนาดใหญ่บีบขยำเบาๆแล้วใช้ปากซุกไซร้พร้อมกับแลบลิ้นตวัดแล้วก็เริ่มไซร้ที่แผ่นหลัง ขาวเนียนของเมียสาวรุ่นใหญ่อย่างหื่นกระหายกาม
จล๊วบบๆๆ…มล๊วบบๆๆ…แผล่บๆๆ…จล๊วบบๆๆ
ในขณะเดียวกันมือของเขาก็เอื้อมไปคว้าที่เต้านมขนาดใหญ่แล้วกางมือจับเต้านมขนาดมหึมาแล้วก็เลื่อนลงมาที่บริเวณเนินร่องสวาทแหกกลีบกุหลาบที่ใช้เป็นสนามรบอันอวบอั๋นปลิ้นนูนเป็นหลังเต่าอย่างย่ามใจ
เมื่อเห็นว่าเมีนสาว รุ่นใหญ่ทำท่าทางเฉยๆนายพลก็รีบถลกชายชุดนอนของคุณนายอรดีขึ้นมาแล้วล้วงเข้าไปลูบไล้จากท่อนขาเนียวยาวขาวอวบจนมาถึงง่ามขาพร้อมกับหยุดที่เนินโหนกนูนกลางร่องสวาทอีกครั้ง
แต่ก็ต้องรู้สึกอารมณ์เสียทันทีเมื่อเมียสาวรุ่นใหญ่ใช้อารมณ์เกรียวกราดตะหวาดเสียวเขียวด้วยน้ำเสียงแสบแก้วหูอย่างน่ารำคาญ
“..ว้ายยๆๆ..เอ๊าะว้ายยๆๆ..อย่ามายุ่งย่ามกับฉันนะคุณอานัตฉันจะนอนแล้ว..”
คุณนายอรดีเธอทำเสียงดุบ่งบอกถึงความรำคาญที่โดนนายพลเล้าโลม
ไอ้เพื่อนหื่นมันล่อทั้งเมียและแม่ยายเพื่อนสนิทอย่างรุนแรงดุเดือดเลือดพล่าน
เมื่อความสัมพันธ์ลับๆ จบลง เพราะเขาต้องไปแต่งงานมีครอบครัว หล่อนจึงต้องหอบใจช้ำๆ และอีกชีวิตหนึ่งในครรภ์เดินจากไปอย่างไม่มีทางเลือก “ทำไมโลกมันกลมแบบนี้คะคุณภูมิ... ทำไมเราต้องเจอกันอีกด้วยคะ... ฮือออ” มือเล็กยกขึ้นปิดหน้าร่ำไห้ปิ่มจะขาดใจ ร่างกายสั่นเทิ้มน่าเวทนา การได้พบเจอกับภูมิระพีอีกครั้ง มันยิ่งทำให้แผลใจหัวใจขยายใหญ่มากยิ่งขึ้น นี่หล่อนจะทำยังไงดี... จะรับมือกับสถานการณ์เช่นนี้ยังไง แล้วไหนจะยังลูกชายอีก หากภูมิระพีรู้ว่าหล่อนมีลูกของเขาติดท้องมา เขาอาจจะทำยังไง จะแย่งลูกไปจากหล่อนไหม
พวกเขาไม่รู้ว่าฉันเป็นผู้หญิง พวกเขามองฉันและเห็นฉันเป็นเด็กผู้ชาย เป็นเจ้าชาย คนนหึ่ง พวกเขาซื้อมนุษย์อย่างฉันเพื่อตอบสนองความต้องการทางเพศ และเมื่อพวกเขาบุกเข้ามาในอาณาจักรของเราเพื่อซื้อพี่สาวของฉัน เพื่อปกป้องเธอ ฉันหมดหนทาง จึงต้องเข้าไปขอร้องให้พวกเขาพาฉันไปด้วย แผนของฉันคือหาโอกาส จะพาพี่สาวหนีไป แต่ฉันไม่คาดคิดว่าคุกของเราจะเป็นสถานที่ที่มีการป้องกันมากที่สุดในอาณาจักรของพวกเขา แต่เดิมฉันเป็นคนที่ไม่เกี่ยวข้องกับเรื่องนี้ เป็นคนที่พวกเขาไม่ต้องการ พวกเขาไม่เคยคิดจะซื้อ เลย แต่แล้ว ราชาผู้ยิ่งใหญ่ที่ไร้ความปรานี บุคคลที่มีอำนาจที่สุดในดินแดนป่าเถื่อนของพวกเขากลับสนใจใน "เจ้าชายน้อยผู้น่ารัก" เราจะเอาชีวิตรอดในอาณาจักรที่อันตรายนี้ได้อย่างไร และเผชิญหน้ากับผู้คนที่ไม่เป็นมิตรกับเรายังไง และคนที่มีความลับอย่างฉันจะกลายเป็นทาสแห่งความต้องการทางเพศได้อย่างไร . หมายเหตุของผู้เขียน นี่คือนิยายรักแนวดาร์ก เนื้อหาสำหรับผู้ใหญ่ เรตติ้งสูง 18+ เตรียมพบกับเนื้อหาที่กระตุ้นอารมณ์และเข้มข้นได้เลย หากคุณเป็นนักอ่านตัวยงของแนวนี้ที่กำลังมองหาอะไรที่แตกต่าง พร้อมที่จะอ่านแบบไม่รู้เนื้อรู้ตัวโดยไม่รู้ว่าจะเจออะไรใหม่ๆ บ้าง แต่ก็อยากรู้เพิ่มเติมอยู่ดีล่ะก็ รีบอ่านเลย! . จากผู้เขียนหนังสือขายดีระดับนานาชาติเรื่อง "ทาสผู้เกลียดชังของราชาอัลฟ่า"
หยางจื้อซี เด็กกำพร้าจากศตวรรษที่21 ถูกองค์กรมืดเลี้ยงดูจนเติบโตและทำให้เธอกลายเป็นมนุษย์กลายพันธ์ ในระหว่างที่ถูกส่งตัวไปทำภารกิจลับ เธอกลับถูกคนในองค์กรมืดหักหลังและถูกฆ่าโดยเพื่อนสนิทที่เธอไว้ใจมากที่สุด ก่อนสิ้นใจเธอถามเพื่อนสนิทว่าทำไม แต่ไม่ได้รับคำตอบจากปากของอีกฝ่าย สิ่งที่เธอได้รับคือรอยยิ้มที่ดูถูกเหยียดหยามและ คำว่า “โง่” จากปากของอีกฝ่ายเท่านั้น หลังจากที่ตายไปแล้วสิ่งที่เธอคิดไว้ คงจะเป็นนรกหรือที่ไหนสักแห่งที่เป็นโลกหลังความตาย แต่ทว่ามันกลับไม่เป็นเช่นนัน เธอตื่นขึ้นมาในร่างของ หยางจื้อซี เด็กหญิงอายุ เพียง 13 ขวบปีในหมู่บ้านป่าหมอก ในดินแดนโบราณล้าหลังที่ไม่มีในประวัติศาสตร์ คล้ายกับว่าเป็นโลกคู่ขนานที่อยู่อีกมิติหนึ่ง เธอตื่นขึ้นมาในบ้านที่ผุพัง ครอบครัวยากจน มีแม่ที่อ่อนแอและเจ็บป่วย มีพี่น้องที่อายุน้อย มีปู่ย่าตายายที่เห็นแก่ตัวและใจร้าย มีลุงที่เห็นแก่ได้ป้าสะใภ้ที่เต็มไปด้วยความละโมบโมบโลภมาก หยางจื้อซี คิดว่านับจากนี้ไปชีวิตจะต้องอยู่ได้ด้วยตัวเอง หากใครมารังแกก็แค่ทุบตี เธอไม่เชื่อว่าด้วยพลังที่ติดตัวเธอมาจากชาติที่แล้วจะไม่สามารถอยู่รอดได้ในโลกล้าหลังแห่งนี้
หนูน้อย"อ้ายหลาน"เกิดมาพร้อมกับพลังพิเศษไม่เหมือนใคร แม้นางจะเป็นเพียงเด็กหญิงตัวเล็กๆ แต่นางก็มีพลังมหาศาลสามารถยกกระสอบข้าวด้วยมือเดียว ก้อนหินสิบคนโอบนางก็สามารถยกทุ่มได้อย่างง่ายดาย และจมูกนางไวต่อกลิ่นยิ่งนักแม้สิ่งนั้นจะอยู่ไกลเพียงใดโดยเฉพาะอาหาร นางมีจมูกที่พิเศษสามารถแยกแยะสิ่งมีพิษและไม่มีพิษได้
เจ้าของร่างเดิมถูกท่านย่าตัวเอง ขายให้ชายพิการด้วยเงินเพียงห้าตำลึง จึงคิดสั้นไปกระโดดน้ำฆ่าตัวตาย ทำให้วิญญาณของเซี่ยซือซือทะลุมิติมาเข้าร่างแทน ชีวิตในโลกนี้บิดามารดาล้วนตายไปแล้ว เหลือเพียงน้องสาวกับน้องชายร่างกายผอมแห้งหิวโซสองคน เธอต้องช่วยพวกเขาให้รอด ก่อนจะถูกคนชั่วพวกนี้ขายทิ้งไปแบบเธอ 1 : ทะลุมิติ แคว้นจ้าว หมู่บ้านตระกูลแซ่อวี่ ภายในบ้านสกุลเซี่ย “ท่านพี่รีบกินเร็วเข้า” เสียงเด็กเล็กดังก้องอยู่ข้างหูอย่างน่ารำคาญ ว่าแต่ฉันมีน้องชายตั้งแต่เมื่อไหร่กัน รู้สึกได้ถึงอะไรแข็ง ๆ มาแตะที่ริมฝีปาก ทว่ายังลืมตาไม่ขึ้น “ท่านพี่กินสิ ๆ” เซี่ยซือซือรู้สึกหนักอึ้งไปทั้งศีรษะ พยายามที่จะเปิดดวงตาขึ้นมอง เจ้าของเสียงเล็ก ๆ ด้านข้าง “ท่านพี่ ๆ ท่านพี่อย่าตายนะ ลืมตาสิท่านพี่” “นังตัวดีออกมาเดี๋ยวนี้นะ !” เสียงเอะอะโวยวายดังหนวกหูเซี่ยซือซือเป็นอย่างมาก ปัง ๆ เสียงเคาะประตูดังขึ้นเรื่อย ๆ เซี่ยซือซือลืมตาขึ้นจนได้ พลันสมองกลับมีเรื่องราวพรั่งพรูเข้ามาไม่ขาดสาย จนต้องกรีดร้องออกมาอย่างเจ็บปวด อ๊าก ! “พี่รอง !” เด็กน้อยเซี่ยซือหยางในวัยสามหนาวเรียกพี่สาวพร้อมเบะปากอยากร้องไห้ “ท่านพี่ !” เซี่ยซานซานทิ้งบานประตูที่ตัวเองดันไว้ หันกลับมาดูพี่สาวด้วยความตกใจ “ท่านพี่ ๆ ท่านเป็นอะไร อย่าทำให้พวกข้าตกใจสิท่านพี่ !” ผลัวะ ! มีคนถีบประตูบานเก่าผุพังเข้ามาภายในห้อง เด็กทั้งสองรีบเข้าไปขวางผู้บุกรุกไม่ให้ทำร้ายพี่สาว แม่เฒ่าเซี่ย เซี่ยจิ่วเม่ย หน้าตาแลดูดุร้าย ไม่ใช่หญิงชราใจดีแต่อย่างใด ด้านหลังของแม่เฒ่าเซี่ยยังมีลูกสะใภ้บ้านใหญ่ กับบ้านรองเดินตามมา ท่าทางดุดันเอาเรื่อง “ไอ้พวกบ้านสามตัวดี กล้าลักขโมยอาหารเอาไว้กินเอง ยังเห็นแม่เฒ่าอย่างข้าอยู่ในสายตาหรือไม่ ไอ้พวกหมาป่าตาขาว ดูซิวันนี้ข้าจะจัดการพวกเจ้าอย่างไร” “ท่านย่าพวกข้าไม่ได้ขโมยนะ นี่เป็นหมั่นโถวของท่านพี่ ท่านพี่ไม่สบายข้าแค่เก็บไว้ให้ท่านพี่เท่านั้นเอง” เซี่ยซานซานยังเป็นเด็กหญิงวัยสิบหนาว แต่นางข่มความกลัวตอบโต้ผู้ใหญ่ในบ้านออกไป “หึ กฎบ้านก็มีบอกอยู่แล้วถ้าพลาดมื้ออาหารไปก็คืออด แต่พวกเจ้ากลับแหกกฎ แอบยักยอกอาหารเก็บไว้กินเอง ยังมีหน้ามาเถียงท่านแม่อีก ท่านแม่ท่านต้องลงโทษคนบ้านสามนะเจ้าคะ ไม่เช่นนั้นข้าไม่ยอมจริง ๆ ด้วย ตอนนั้นยวี่เฟยของข้านางได้พลาดมื้อเย็นไป ท่านก็ไม่ให้นางกินนะเจ้าคะ” สะใภ้บ้านรองนามว่าจงอี้ซิน ย้อนรำลึกถึงเรื่องลูกสาววัยแปดปีของตัวเองขึ้นมา “ดูเจ้าเด็กพวกนี้สิท่านแม่ กางแขนปกป้องพี่สาวตัวเอง ช่างน่าสมเพชไม่รู้จักสำเหนียกกำลังตัวเอง ถุย !” หลินพ่านเอ๋อสะใภ้บ้านใหญ่มองดูเด็กทั้งสองพร้อมถ่มน้ำลายใส่ตรงหน้า แม่เฒ่าเซี่ยมองลูกสะใภ้ทั้งสองสลับกันไปมา เดินตรงไปกระชากหมั่นโถวเย็นชืดแถมแข็งปานหิน ออกจากมือของเซี่ยซือหยาง “แง ๆ ๆ” เด็กน้อยถูกแย่งของกินของพี่สาวไป ถึงกับแผดเสียงร้องลั่น “เจ้าคนชั่ว ! เอามานะ ของท่านพี่ข้า” กำปั้นน้อย ๆ ทุบไปยังต้นขาของแม่เฒ่เซี่ย “เจ้าเด็กเนรคุณกล้าตีข้ารึ นี่นะ !” แม่เฒ่าเซี่ยเตะทีเดียวเซี่ยซือหยางก็กระเด็นไปติดกับผนังห้อง “น้องเล็ก !” เซี่ยซานซานรีบวิ่งไปอุ้มน้องชายขึ้นมากอดไว้ด้วยความตกใจ “ท่านย่า น้องเล็กยังเด็กไม่รู้ความ เหตุใดท่านถึงได้ใจร้ายเช่นนี้” “แง ๆ ๆ” เสียงร้องไห้ของเด็กน้อยฟังแล้วน่าสงสารจับใจ ดวงตาที่ปิดไว้ก่อนหน้าของเซี่ยซือซือ ลืมขึ้นหลังจากค้นพบว่า ตัวเองได้ทะลุมิติมายังอดีตอันไกลโพ้นแล้วจริง ๆ หลังจากหลับตาลืมตาอยู่หลายหน เรียบเรียงความคิดที่ไหลเข้ามาไม่ยอมหยุด เมื่อค่อย ๆ จัดการกับมันได้ ความเจ็บปวดที่ศีรษะก่อนหน้าจึงบางเบาลง และมองเหตุการณ์ตรงหน้าอย่างเฉยชา ครบสูตรของการทะลุมิติจริง ๆ มีท่านย่าผู้ชั่วร้าย ขนาบข้างด้วยป้าสะใภ้เลวทั้งสอง ครั้นหันไปมองน้องสาวในวัยสิบขวบของตัวเองกับน้องชายตัวน้อย ทั้งตัวดำเมี่ยมเหมือนไม่ได้อาบน้ำมาเป็นเดือน ร่างกายผอมแห้งเหลือแต่กระดูก เสื้อผ้าเก่าขาดมีรอยปะชุนเต็มไปหมด เส้นผมแห้งกรังเหมือนไม่ผ่านน้ำมานาน ยกมือของตัวเองขึ้นมาดู ไม่ได้มีสภาพต่างกันแม้แต่น้อย ครั้นเงยหน้ามองป้าสะใภ้ใหญ่ร่างกายอวบอ้วนเต็มไปด้วยก้อนไขมัน ป้าสะใภ้รองแม้ไม่ได้อ้วนแต่ก็ไม่ได้ผอม ยิ่งแม่เฒ่าเซี่ยด้วยแล้ว ร่างกายบึกบึนเหมือนคนกินดูอยู่ดีมาตลอด “ท่านแม่ดูอาซือมองท่านสิเจ้าคะ” สะใภ้ใหญ่เห็นสายตาเย็นเยียบของคนที่นอนอยู่บนเตียงก็อดแปลกใจไม่ได้ ดูเยือกเย็นจนไม่น่าไว้ใจ “เจ้าอย่าคิดว่ากระโดดน้ำตายแล้วทุกอย่างจะจบนะอาซือ ข้ารับเงินคนบ้านถานมาแล้ว ถ้าเจ้าตายข้าจะให้อาซานไปแทนเจ้า” คำพูดของแม่เฒ่าเซี่ยทำให้ดวงตาของเซี่ยซือซือเบิกกว้าง ท่านย่าของนางขายนางให้คนบ้านถานในราคาแค่ห้าตำลึง เจ้าของร่างเดิมไม่อยากไปเป็นเมียคนพิการ เลยไปกระโดดน้ำฆ่าตัวตาย ทว่าเธอที่มาจากยุคปัจจุบันกลับเข้ามาแทนที่เจ้าของร่างนี้ เจ้าของร่างเดิมว่ายน้ำไม่เป็น จึงได้ขาดอากาศตายใต้น้ำ แต่เธอที่เข้ามาสวมร่างกลับพาร่างนี้ขึ้นมาจากน้ำได้ โชคชะตาคงเล่นตลกให้เธอกับเจ้าของร่างเดิมมีชื่อเดียวกัน “ท่านย่าอาซานยังเด็กนัก ท่านอย่าได้ทำเช่นนั้นเลย” นานมากกว่าที่นางจะเอ่ยออกมา “มันอยู่ที่เจ้าอาซือ ข้าขอเตือนเอาไว้ อีกสองวันคนบ้านถานจะมารับตัวเจ้าแล้ว อย่าให้เกิดเรื่องขึ้น ไม่อย่างนั้นข้าจะส่งอาซานไปแทนเจ้า แล้วขายซือหยางทิ้งเสีย” แม่เฒ่าเซี่ยจ้องหน้าเซี่ยซือซือแบบอาฆาต เด็กนี่ก่อนหน้าดูอ่อนแอไร้ทางสู้ ทำไมวันนี้ถึงได้ดูแปลกตาไปนัก “ท่านแม่เจ้าคะ ท่านจะลงโทษคนบ้านสามเรื่องหมั่นโถวนี่อย่างไรเจ้าคะ” สะใภ้ใหญ่ยังไม่ยอมปล่อยสามพี่น้องไปง่าย ๆ “พรุ่งนี้งดอาหารบ้านสาม” แม่เฒ่าเซี่ยเอ่ยแล้วหันหลังเดินออกจากห้องของเด็กน้อยทั้งสามไป โดยมีสะใภ้ใหญ่เดินตามไปด้วย “พวกเจ้าได้ยินแล้วใช่ไหม จำใส่หัวเอาไว้ดี ๆ ด้วยล่ะ” สะใภ้รองหมุนตัวตามหลังไปติด ๆ “ท่านพี่ต่อไปท่านอย่าทำเช่นนี้อีกนะเจ้าคะ ข้ากับน้องเล็กจะทำอย่างไร ถ้าท่านไม่อยู่” เซี่ยซานซานปล่อยเสียงร้องไห้ในทันที
หลังจากแต่งงานมาสามปี ฮั่วเป่ยอวี๋ไม่เพียงแต่เย็นชากับเสิ่นเจียงหนานเท่านั้น แต่ยังคบชู้ ทำให้เสิ่นเจียงหนานผิดหวังมาก เขาก็แค่ชายเจ้าชู้นี่เอง หลังจากหย่ากันอย่างเด็ดขาด เธอก็มุ่งหน้าไปทำงาน ในฐานะนักออกแบบชั้นนำ แพทย์ผู้อัศจรรย์ และแฮ็กเกอร์เก่งๆ เธอเชี่ยวชาญหลายๆ ด้านและกลายเป็นเจ้าหญิงที่ทุกคนชื่นชมและเป็นที่ต้องการ ในที่สุด ฮั่วเป่ยอวี๋ก็ตระหนักถึงสิ่งที่เขาสูญเสียไปและพยายามอย่างเต็มที่เพื่อเอาชนะใจเธอ แต่เขากลับเห็นเธอจัดงานแต่งงานแห่งศตวรรษร่วมกับชายอีกคน เมื่องานแต่งงานของคนสองคนถูกถ่ายทอดสดบนป้ายโฆษณาที่ใหญ่ที่สุดในโลก-- เผ๋ยเหยียนหลี่สวมแหวนให้เธอ และประกาศให้โลกได้รับรู้อย่างท่วมท้น "เสิ่นเจียงหนานเป็นภรรยาของผมและเธอเป็นสมบัติล้ำค่าสำหรับผม ใครกล้ามาแตะต้อง ต้องเจดีแน่!"
© 2018-now MeghaBook
บนสุด