เพิ่งหย่ากับอดีตสามีไปไม่นานแต่ปรากฏว่าตัวเองท้อง จะทำอย่างไรดี? หรือจะให้อดีตสามีรับผิดชอบ แต่ก็ไม่คิดว่าอดีตสามีมีคนรักใหม่ไปแล้ว ชีวิตของถังชีชีนั้นช่างสับสน ช่างน่าวิตกกังวลและไม่รู้จะอธิบายยังไงดี เธอต้องคอยระวังไม่ให้คุณเฟิงรู้เรื่องการตั้งครรภ์จนกระทั่งคลอดลูกออกมาอย่างปลอดภัย แต่ไม่คิดว่าจะถูกเขาบังคับถึงเพียงนี้ “เราหย่ากันแค่สี่เดือน แต่เธอกลับตั้งครรภ์ได้เจ็ดเดือนแล้ว บอกมาดี ๆ ว่า ลูกเป็นของใคร!”
“วันนี้ต้องถ่ายรูปหลักฐานการนอกใจของเฟิงเยี่ยนให้ได้!”
ถังชีชีกำมือเล็ก ๆ ของเธอด้วยความฮึกเฮิม เธอปรับหมวกแก๊ปให้แน่นขึ้น ก้มหน้าลงเพื่อหลีกเลี่ยงกล้องวงจรปิด แล้วก็เดินเข้าไปในคลับระดับไฮเอนด์
วันนี้ เธอมาที่นี่เพื่อจับชู้!
เธอกับเฟิงเยี่ยนแต่งงานกันมาหนึ่งปีแล้ว แต่หลังจากที่จดทะเบียนสมรสไปแล้ว เธอก็ไม่ได้เจอเขาอีกเลย
การแต่งงานแบบนี้มันไม่มีความหมายอะไรเลยสักนิด พวกเขาไม่ได้รักกัน ขืนอยู่ด้วยกันไปก็เสียเวลาชีวิตเปล่า ๆ !
ล่าสุด เพื่อนรักของเธอที่ต่างประเทศเล่าให้ฟังว่า มักจะเห็นสามีของเธอไปไหนมาไหนกับผู้หญิงคนอื่นบ่อย ๆ แถมทั้งคู่ยังดูสนิทสนมกันมากอีกด้วย
เธอจึงจำเป็นต้องกลับไปเพื่อหาหลักฐานบางอย่าง เพื่อที่เธอจะได้เป็นฝ่ายขอหย่ากับเฟิงเยี่ยนก่อนอย่างมีเหตุผล!
มองจากระยะไกล เธอเห็นผู้หญิงคนหนึ่งพาเฟิงเยี่ยนไปที่ห้องเพรสซิเด้นท์ สวีท ประตูเปิดแง้มอยู่ เธอซ่อนตัวอยู่ด้านข้าง แล้วก็ได้ยินเสียงผู้หญิงคนนั้นคุยโทรศัพท์
“ฉันรู้แล้วน่า ครั้งนี้ฉันจะไม่พลาดแน่นอน ฉันจะติดตั้งเครื่องส่งสัญญาณไว้ แล้วก็จะบันทึกวิดีโอที่แสนจะโรแมนติกเอาไว้ขู่เขา.....”
พอเธอได้ยินแบบนั้น ถังชีชีถึงกับขมวดคิ้วแน่นทันที
เกิดอะไรขึ้นเนี่ย ผู้หญิงคนนั้นกำลังวางแผนจะใส่ร้ายเฟิงเยี่ยนอย่างนั้นเหรอ?
แม้ว่าเธอกับเฟิงเยี่ยนจะไม่ได้มีความรู้สึกอะไรต่อกัน แต่เธอก็ไม่สามารถทนเห็นเขาถูกทำร้ายได้
เธอทั้งกัดฟัน ทั้งกระทืบเท้า แล้วก็รีบเข้าไปข้างใน จากนั้นก็ล็อคประตูทันที
“ใครน่ะ” ผู้หญิงคนนั้นถามเธอขึ้นมาอย่างรวดเร็ว เเต่ถังชีชีก็ไม่ได้เสียเวลาพูดจาไร้สาระอะไรกับเธอ เธอรีบก้าวไปข้างหน้าเเละลงมืออย่างรวดเร็ว เธอฟาดไปที่ผู้หญิงคนนั้นจนหมดสติ จากนั้นก็มัดผู้หญิงคนนั้นไว้ แล้วลากเข้าไปในห้องน้ำ
โชคดีที่แรงเธอดี เธอฟาดไปแค่ครั้งเดียว ผู้หญิงคนนั้นก็สลบไปเลย
เธอชำเลืองมองผู้ชายที่อยู่บนเตียง วันนี้คงไม่สามารถถ่ายรูปหลักฐานการนอกใจของเขาได้แล้ว
เธอใช้ผ้านวมคลุมตัวชายคนนั้นเอาไว้อย่างใส่ใจ ปิดไฟที่หัวเตียงลง เตรียมจะอาศัยแสงจันทร์เปิดประตูออกไปจากที่นี่ แต่กลับไม่คิดว่า... ในความมืด มือใหญ่ ๆ ข้างหนึ่งของใครบางคนกลับจับข้อมือของเธอล็อคเอาไว้ราวกับเป็นกุญแจมือ
“เจ็บ……”
ในวินาทีต่อมา โลกก็หมุนวน เธอถูกโยนลงบนเตียง แล้วผู้ชายคนนั้นก็กดทับลงมาบนตัวเธอ ราวกับว่าตัวเขาเป็นภูเขาลูกใหญ่อย่างไรอย่างนั้น
ในความมืดมิด เขาสัมผัสได้แค่เพียงว่าเธอเป็นคนที่ตัวเล็กมากคนหนึ่ง เขารู้สึกคุ้นเคยอย่างอธิบายไม่ถูก มันเหมือนกับว่าเขาเคยเจอเธอที่ไหนมาก่อน
แต่ทว่า สมองกลับไม่ให้เวลาเขาได้คิดไตร่ตรองอะไรเลย และเขาไม่สามารถอดทนได้อีกต่อไป
ความปรารถนาในกายเหมือนเปลวไฟที่ลุกโชน และตอนนี้มันกำลังจะไหม้ตัวเขาทั้งหมดแล้ว
ส่วนสติสัมปชัญญะที่บอกให้เธอดิ้นใกล้จะถึงจุดที่ไม่ทำงานแล้ว
เธอตัวเล็กมาก แน่นอนว่าเธอไม่สามารถต้านทานการทำลายล้างของเขาได้
ถึงกระนั้น เธอก็ยังพยายามขัดขืนอย่างสุดชีวิต มือเล็ก ๆ ของเธอดันหน้าอกของเขาเอาไว้ เธอสัมผัสได้ถึงผิวหนังที่ร้อนระอุของเขา
ตัวเขาร้อนมาก!
ตอนที่เธอกำลังจะถามว่า เขาเป็นอะไรหรือเปล่า แต่แล้วริมฝีปากบาง ๆ ของเธอกลับโดนกดลงมาพร้อมกับกลิ่นหอมอ่อน ๆ ปิดกลั้นคำพูดในลำคอของเธอเอาไว้ในทันที
แกร๊ก เสียงเสื้อผ้าที่ถูกฉีกออกเป็นชิ้น ๆ ดังขึ้น
......
สามเดือนต่อมา ณ เมืองหลวงของประเทศ
“มีข่าวคราวอะไรบ้างไหม”
“ยังไม่มีเลยครับ แต่พวกเราได้ส่งคนไปเพิ่มเเล้ว และจะทำการค้นหาหญิงสาวเชื้อสายจีนคนนั้นต่อไป”
“ต้องหาเธอให้พบ!”
“ครับ!” เลขาตอบกลับไป เขาลังเลอยู่ครู่หนึ่งก่อนจะพูดขึ้นว่า “คุณ..... ถ้ากลับไปแล้วคุณจะหย่าจริง ๆ เหรอครับ”
“มีคนที่เหมาะสมกับตำแหน่งคุณผู้หญิงเฟิงมากกว่าเธอ” น้ำเสียงของเขาอ่อนโยนและมีพลังมาก ดูหนักแน่นแต่ก็มีความผ่อนคลายในเวลาเดียวกัน มีความเย็นชาและความมีอำนาจอยู่ในนั้น ซึ่งทำให้คนที่ฟังไม่สามารถปฏิเสธได้
เขาไม่รู้ว่า ทำไมเธอถึงมาโผล่ที่ห้องวีไอพีนั้นได้ ยังไงเธอก็ได้ช่วยเขาด้วยความหวังดี แต่..... เธอกลับยอมสละร่างกายของตัวเองเพื่อเขา
เขาจำได้แค่ว่า เธอร้องไห้และร้องขอความเมตตาในคืนนั้น เสียงของเธอฟังดูเจ็บปวดหัวใจมาก
นอกจากนี้ เขาเองก็ไม่เคยมีความรู้สึกใด ๆ กับภรรยาที่บ้านคนนั้นเลย เขาเพียงถูกบังคับให้ทำตามคำสั่งของย่าเขาเท่านั้น และก็เพื่อช่วยให้แม่ของเขาซึ่งต้องรู้สึกลำบากใจ เพราะต้องขั้นกลางระหว่างเขากับย่า เธอจะได้สบายใจขึ้นมาหน่อย
เรื่องการหย่าร้าง นับว่าเป็นการบรรเทาทุกข์ให้กับทั้งสองฝ่าย
ขณะนี้ ณ วิลล่าของเฟิงเยี่ยน
ถังชีชีรู้ข่าวแล้วว่า วันนี้เฟิงเยี่ยนจะเดินทางกลับประเทศ และจะกลับมาถึงบ้านในตอนเย็น จึงทำให้คนรับใช้ทั้งในและนอกบ้านต่างก็พากันยุ่งอยู่กับการทำความสะอาดให้เขา
ส่วนเธอ เธอกลับไม่ได้รู้สึกมีความสุขเลยสักนิด
แล้วในไม่ช้า เธอก็ได้ยินเสียงแตรรถดังขึ้น ทำเอาหัวใจของเธอก็บีบรัดอย่างไม่มีสาเหตุ
เฟิงเยี่ยนกลับมาแล้ว
คำโปรย หลังจากบิดามารดาเสียชีวิต จูเมยได้ถูกท่านอาบุญธรรมรับเลี้ยง ท่านอาผู้เปี่ยมด้วยความอ่อนโยนและเมตตา ได้กลายเป็นเสาหลักเพียงหนึ่งในชีวิตนาง หัวใจที่อ่อนโยนของจูเมยเริ่มเต้นแรงเมื่ออยู่ใกล้ท่านอา แต่ท่านอาคิดอย่างไรกับนางกันแน่? หรือว่าความรักนี้เป็นเพียงความรู้สึกที่นางมีอยู่เพียงฝ่ายเดียว? เมื่อหัวใจต้องเผชิญกับความไม่แน่นอน จูเมยกลับรู้สึกเจ็บปวดกับความรู้สึกนี้ "ท่านอา...อย่าดีต่อข้ามากนักได้หรือไม่" นิยายเรื่องนี้เป็นนิยายรักจีนโบราณ มีดราม่าเล็กน้อยช่วงเริ่มต้น จบสุขนิยม ไม่มีนอกกายนอกใจ เป็นความรักฟิน ๆ ระหว่างท่านอาและหลานสาว(บุญธรรม)ตัวน้อยของตนเอง
ทีปต์อุทานเบาๆ กับภาพที่เห็น… มาลิลล์กำลังนอนหงายอยู่บนเตียง ในสภาพเปลือยเปล่าล่อนจ้อน โดยมีหมอนสีขาวสองใบรองไว้ที่แผ่นหลัง ทำให้สองเต้าคัพเอฟอวบใหญ่มหึมา นูนเด่นอวดสายตาของทีปต์ และสิ่งที่ทำเอาเลือดกำเดาของทีปต์แทบสาดทะลักออกมา ก็คือของดีที่กำลังเปิดเปลือยอยู่ระหว่างเข่าสองข้างตั้งชัน มือข้างหนึ่งจับกล้วยหอมดุนดันเข้าออกเป็นจังหวะ “อ่า… ลุงทีปต์จ๋า กระแทกหนูเถอะค่ะ… อูย… ของลุงใหญ่เหลือเกิน… ซี้ดดดด… เห็นแล้วอยากสุดๆ” มาลิลล์หลับตาพริ้ม…
ผมต้องทำงานนอกเวลาทุกวันเพื่อหารายได้ประคองชีวิตและจ่ายค่าเรียนมหาวิทยาลัยด้วยตัวเอง เนื่องจากฐานะครอบครัวยากจนและไม่สามารถส่งเสียผมเข้ามหาวิทยาลัยได้ และตอนเรียนที่มหาวิทยาลัย ผมก็ได้พบกับเธอ-สาวแสนสวยที่หนุ่มๆ ทุกคนในชั้นเรียนต่างก็ใฝ่ฝันถึง ไม่เว้นแม้แต่ผมเอง แต่ผมก็รู้ตัวดีว่าตัวเองไม่คู่ควรกับเธอ ถึงอย่างนั้นก็ตาม ผมก็รวบรวมความกล้าสารภาพกับเธอจนได้ สุดท้ายผมนึกไม่ถึงว่าเธอจะยอมตกลงเป็นแฟนกับผม เธอบอกกับผมว่าอยากได้ของขวัญเป็นไอโฟนรุ่นล่าสุด ผมก็ไปรับงานซักเสื้อผ้าให้เพื่อนร่วมชั้นเรียนเพื่อพยายามเก็บเงินซื้อให้เธอจนได้ และในที่สุดหนึ่งเดือนต่อมา ผมก็ซื้อมาได้จริง ๆ แต่ขณะที่ผมกำลังห่อของขวัญเพื่อนำไปมอบให้เธอ ก็พบว่าเธอกำลังมีอะไรกับหัวหน้าทีมฟุตบอลในห้องล็อกเกอร์ เธอเหมือนเปลี่ยนเป็นอีกคนหนึ่งซึ่งผมไม่เคยรู้จักเลย เธอหัวเราะเยาะความโง่เขลาของผม เหยียดหยามศักดิ์ศรีของผม ปล่อยให้เขาซึ่งตอนนี้ได้กลายเป็นแฟนใหม่ของเธอไปแล้ว ทุบตีผม ผมนอนเจ็บอยู่บนพื้นอย่างสิ้นหวัง ต่อมา จู่ ๆ ผมก็ได้รับโทรศัพท์จากพ่อ ตั้งแต่วันนั้น ชีวิตของผมก็ได้เปลี่ยนแปลงไปอย่างกับหนัามือเป็นหลังมือ ใครจะไปรู้ว่า ผมเป็นลูกชายของมหาเศรษฐี
เธอทำให้คนที่เขารักเจ็บปวด เขาจึงเอาคืนให้เธอเจ็บกว่าร้อยเท่า ในวันที่เขาแก้แค้นเธอสำเร็จจนเธอเจ็บปวดเจียนตาย เขากลับค้นพบว่าเขารักเธอ การเดินเข้ามาในชีวิตเธออีกครั้งหนึ่งเพ่ื่อตามหาหัวใจตัวเองจึงเกิดขึ้น แต่มันไม่ง่ายอย่างที่คิดเมื่อเธอเจ็บแล้วจำเธอเลยไม่ให้โอกาสซ้ำยังเอาแต่จะหนีไปจากชีวิตเขา เพื่อให้ได้เธอกลับคืนมา เขาจึงต้องทำทุกทางและทุกอย่างเพื่อได้หัวใจเธอมาเป็นของเขาเหมือนเดิม hope and nink "อย่าลืมไปเล่าให้พี่ชายคุณฟังด้วยล่ะ ว่าความรู้สึกที่ถูกหลอกให้รักมันรู้สึกอย่างไง แล้วเรื่องที่กล่าวหาว่าอีฟทำ รับรู้เอาไว้ด้วยว่ามันไม่มีทางเป็นไปได้" "ทำไมถึงปกป้องผู้หญิงคนนั้นขนาดนั้น" แล้วคำที่บอกว่าอยู่ข้างเธอ ที่ผ่านมาหมายความว่าอะไร... "ที่ผมปกป้องขนาดนั้นเพราะว่ารักอีฟ และไม่ยอมให้ใครมาทำลายอีฟได้ยังไงล่ะ" "รัก?" แล้วไม่ได้รักเธอหรอกหรือ เธอตั้งคำถามอย่างโง่งั่ง ไม่พยายามเข้าใจสิ่งที่เขาบอก แม้ส่วนลึกเริ่มจะเห็นเค้าลางว่าเหตุการณ์ต่างๆ ที่เกิดขึ้นมาไม่ใช่เรื่องบังเอิญ ทุกอย่างที่วิษุวัติทำมีเหตุผลของเขาอยู่แล้ว "ใช่" "..." เขาลุกขึ้นยืน แขนเล็กๆ ที่เกาะเเขนเขาไว้ร่วงผล็อย นลินวิภาเงยหน้าขึ้นมองเขา "แล้วความรู้สึกดีๆ ที่คุณแสดงออกกับฉันที่ผ่านมา" "มันแค่การเอาคืน..." เขาพึมพำ ก่อนจะก้มหน้ามองเธอ "ผมมาก็เพื่อแก้แค้นให้อีฟตอนนี้หน้าที่ของผมจบแล้วถือว่าเราจบกัน คุณไปเก็บของซะผมจะให้คนไปส่ง" เขาทำท่าจะเดินจากไป แต่นลินวิภาดึงชายเสื้อเขาไว้ ดวงหน้ายังสับสนและในใจพร่ำบอกว่ามันไม่ใช่ และเธอฉุดรั้งเขาไว้ โดยที่ไม่รู้ตัวเลย จนมีแรงตึงที่มือและเขาหยุดชะงักนั่นล่ะ เธอถึงปริปากออกมา... "คุณเคยบอกฉันว่าไม่ต้องสนเรื่องอื่นว่าเราพบกันอย่างไง เพราะระหว่างเราเข้าใจกันก็พอ ฉันเข้าใจว่าคุณพูดออกมาจากใจจริงๆ เสียอีก" "มันคือคำโกหกคุณคงไม่คิดว่าผมจะรักคุณหรอกนะเพราะคนที่ผมรักมาตลอดคืออีฟ คนแบบที่ผมชอบคืออีฟเท่านั้น" ไม่ต้องมีมีดนับร้อยนับพันมาจ้วงแทง เพียงแค่สายตาคู่เดียวของเขาที่จ้องมองมาก็ทำให้เธอเหมือนถูกกระหน่ำแทงจากความจริงที่เขากำลังบอก เธอกับเอวิตาแตกต่างกันราวฟ้ากับเหว และเธอไม่ใช่คนแบบที่เขาชอบ ทั้งหมดที่ผ่านมาคือการหลอกลวงเพื่อแก้แค้นให้เอวิตา คนที่เขารัก... "โฮป" "เรียกผมว่าวิษุวัติ... อย่าเรียกชื่อเล่น เราไม่ได้สนิทกันขนาดนั้น "..." นลินวิภากะพริบตาปริบๆ มือร่วงผล็อยจากชายเสื้อเขาไปในทันที สิ่งที่เขาบอก เหมือนดึงเธอมาสู่โลกแห่งความจริงที่เธอไม่อาจหนี เขาบอกชัดเจนขนาดนี้เธอคงไม่สามารถหลอกตัวเองต่อไปได้อีกแล้ว... #ทินอีฟ "ยินดีด้วยนะครับคนไข้ ผลตรวจทางห้องปฏิบัติการออกมาแล้วครับ คนไข้ตั้งครรภ์ เดี๋ยวหมอจะส่งคนไข้ไปพบสูตินรีแพทย์เพื่อฝากครรภ์นะครับ" คำพูดของนายแพทย์ประจำคลินิกทำให้เธอยิ้มออกหลังจากทนกับอาการเวียนหัวในช่วงเช้ามาหลายวันไม่ไหวเธอจึงไปตรวจให้รู้แน่ชัด ผลที่แพทย์บอกตอนที่อยู่คลินิกทำให้เธอมีความสุขมาตลอดบ่าย เพราะเธอกำลังตั้งครรภ์กับทิน...ผู้ชายที่เธอรัก วันนี้เป็นวันเกิดของเธอ การได้รับข่าวดีเรื่องลูกจึงเปรียบประหนึ่งเป็นของขวัญ หญิงสาวรีบกลับมาที่เพนธ์เฮาส์และจัดเตรียมสถานที่รอพ่อของลูกกลับมาอย่างคาดหวังและตื่นเต้น เรื่องที่ตั้งครรภ์เธอยังไม่ปริปากบอกใครแม้แต่พี่เลี้ยงคนสนิทที่อยู่กับเธอตลอดเวลา นั่นเป็นเพราะอยากให้ทินรู้เป็นคนแรก ทันทีที่เขาให้ของขวัญวันเกิดแก่เธอ เธอจะยื่นกระดาษอัลตราซาวน์ให้เขาแล้วบอกว่าเป็นของขวัญที่เธอมอบกลับคืนในฐานะที่เขารักและดูแลเธอมาตลอด แต่เมื่อประตูห้องเปิดก็เกิดเรื่องผิดแผนครั้งใหญ่เพราะทินเดินเข้ามาพร้อมกับผู้หญิงสาวที่มีดวงหน้าสวยโฉบเฉี่ยวดูมั่นใจในตัวเอง ริมฝีปากสีแดงสดของผู้หญิงคนนั้นยิ้มและมองเอวิตาด้วยสายตาไม่เป็นมิตรอย่างบอกไม่ถูก คนทั้งคู่ที่เข้ามาใหม่ไม่ได้สนใจบรรยากาศปาร์ตี้ ทินมีสีหน้าเคร่งขรึม แววตาของเขาไม่อ่อนโยนเหมือนทุกวัน มีเพียงเสียงทุ้มน่าฟังที่เหมือนเดิม "อีฟ ผมมีเรื่องจะบอก" "เรื่องอะไรคะ" เสียงของเธอแทบไม่หลุดจากปาก ความหวาดกลัวในสถานการณ์เกาะกุมหัวใจเธอ รู้สึกสังหรณ์ใจขึ้นมาครามครัน "ผมจะไม่อ้อมค้อมนะ ธุระที่ผมไปทำวันนี้คือไปจดทะเบียนกับนิ้ง" "..." ดวงตาของเอวิตาเบิกกว้าง "นิ้งท้องกับผม ท้องตั้งแต่ก่อนที่ผมจะมาคบกับคุณ มันอาจจะผิดต่อคุณแต่คุณคงเข้าใจว่าผมต้องรับผิดชอบลูกในท้องของนิ้งเป็นอันดับแรก..." "ทิน" เธอเรียกชื่อเขา น้ำตาเอ่อล้นปริ่มขอบตาที่ร้อนผะผ่าวในใจมีร้อยพันหมื่นถ้อยคำแต่กลับพูดอะไรไม่ออกสักคำ กระดาษอัลตราซาวน์ในมือถูกกำแน่น อย่าว่าแต่ยื่นมันให้เขาได้เห็น แค่ยืนอยู่ตรงหน้าเขาและหายใจ เอวิตายังทำได้อย่างยากลำบากเหลือเกิน "ผมเสียใจนะอีฟ... แต่ผมหวังว่าคุณจะเข้าใจว่าทำไมผมเลือกนิ้ง" "ที่จริงฉันต้องรีบพาทินไปพบครอบครัว แต่ว่าเขาอยากแวะมาบอกเธอก่อนไม่อยากหายไปเลย" ผู้หญิงคนนั้นพูดขึ้นมาเป็นครั้งแรก เอวิตาจับใจความไม่ได้เลยว่าคนตรงข้ามพูดอะไรกับเธอบ้างเพราะในหูมีแต่เสียงอื้ออึ้งน้ำตาก็ไหลจากตาจนไม่เห็นหน้าคนสองคนตรงหน้าเสียแล้ว... สติของเธอหลุดลอยไปตั้งแต่ที่ทินบอกว่าเขาแต่งงานกับผู้หญิงอื่น เรื่องที่เตรียมจะบอกในทีแรกจึงไม่หลุดจากปากและไม่ว่าเขาจะพูดอะไรอีกเธอก็ไม่ได้ยินอีกต่อไปแล้ว จนเมื่อคำว่าลาก่อนแว่วเข้าหู และมีเสียงประตูปิด เธอถึงได้ทรุดลงไปนั่งกับพื้น เพราะหมดแรงที่จะยืน... หลังจากที่ร้องไห้จนไม่เหลืออะไรจะร้อง ในหัวไม่มีสติพอที่จะคิดอะไรอีก ภาพเลือนรางที่เห็นเขาเดินจูงมือออกไปกับผู้หญิงอื่นฉายวนซ้ำ เธอไม่ได้เป็นคนที่ถูกเลือก เขาเดินจากไปง่ายดายราวกับไม่เคยรักกันเลย ความทุกข์ที่หนักหนาที่สุดที่เคยพานพบเกาะกินหัวใจจนเธอคิดว่าไม่อยากจะมีชีวิตอยู่เพื่อรับรู้เรื่องราวเหล่านี้อีกแล้ว... เธออยากหนีไปให้พ้นจากความเจ็บปวดทั้งหมดทั้งมวลที่กำลังถาโถมเธออยู่ในตอนนี้ "อีฟ" เสียงเรียกคุ้นหู เป็นเสียงเรียกที่เหมือนอยู่ไกลออกไป ภาพของเขาปรากฏอยู่ตรงหน้านั้นไม่แจ่มชัด สาเหตุไม่ใช่เพราะหยาดน้ำตา หากแต่เป็นเพราะสติรับรู้ของเธอนั้นสุ
อดีตนักฆ่าสาวอันดับหนึ่ง ผู้มีใจคอโหดเหี้ยมได้ทะลุมิติอยู่ในร่างสาวน้อยรูปโฉมอัปลักษณ์ ที่ทุกคนต่างสาปส่งและรังแกสารพัด!
เมื่อสองปีที่แล้ว เพื่อช่วยคนรักในใจ พระเอกถูกบังคับให้แต่งงานกับนางเอก ในใจของเขา เธอเป็นคนน่ารังเกียจและแย่งคนรักของคนอื่น เขาเลยเย็นชาต่อเธอมาตลอด แต่กลับอ่อนโยนและเอาใจใส่กับคนรักในใจถึงเป็นเช่นนี้ เธอยังคงรักเขาอย่างเงียบ ๆ เป็นเวลาสิบปี ต่อมาตอนที่เธอรู้สึกเหนื่อยและอยากจะท้อแท้นั้น เขากลับตื่นตระหนก... เมื่อเธอกำลังจะตายขณะตั้งท้องลูกของเขา ในที่สุดเขาก็ตระหนักว่าผู้หญิงที่เขายอมเอาชีวิตตัวเองไปแลกนั้นก็คือเธอโดยตลอด