" เพื่อนรัก " คือจุดชนวนที่ทำให้คนไร้ความรู้สึกอย่างเขานึก " แค้น " ความเจ็บปวดของเขามันมีมากขึ้นเรื่อย ๆ เมื่อต้องมองเห็นคนสำคัญทนทรมาน... และเขา...คือคนที่จะทำให้เด็กคนนั้น " จำฝังใจ " กับบาปที่มันตั้งใจก่อขึ้น โดยมีเพียงเขาเท่านั้นที่จะเป็นคนชำระล้าง!!!
KEEP IN MIND
PROLOGUE
ร้านอาหารกึ่งภัตตาคารแห่งหนึ่งใจกลางเมืองหลวง
ในเวลาเกือบหนึ่งทุ่ม...ในห้องพักส่วนตัวชั้นบนของโรงแรมสุดหรูราคาแพงหู่ฉี่ที่มีเพียงคนมีฐานะสูงส่งเท่านั้นที่จะสามารถใช้บริการ เช่นเดียวกัน การที่จะมีใครสักคนต้องเข้าไปด้านในได้นั้น มันไม่ใช่เรื่องง่าย เพราะที่นี่ขึ้นชื่อเรื่องของความปลอดภัยของผู้ใช้บริการมากที่สุด
“น้องทัพ”
“...”
“อะไรกัน...จะกลับแล้วเหรอคะ...” หญิงสาววัยสามสิบปี กระชับผ้าห่มมาพันไว้รอบเนินอก ขยับร่างกายเปลือยเปล่าที่ยังดูเพรียวไม่เหมือนกับสาววัยทำงานสักนิดมาหาเด็กหนุ่มที่นั่งหันหลังให้อยู่ปลายเตียง
‘กองทัพ’ เด็กผู้ชายวัย 20 ปี เจ้าของใบหน้าหล่อเหลาสมกับวัย ผิวพรรณขาวใสจนแทบจะกลายเป็นเกร็ดหิมะแต่ก็ยังดูมีเสน่ห์เหลือล้น จมูกโด่งเป็นสันรับกับใบหน้าเรียวคมได้ดีเกินคาด นัยน์ตาสีครามเข้มคือเอกลักษณ์ประจำตัวของเด็กหนุ่มคนนี้เชียวล่ะ ทุกอย่างที่อยู่บนร่างกายเด็กคนนี้ช่างสวยงามราวกับพระเจ้าตั้งใจสรรค์สร้างเขาให้กำเนิดขึ้น ทำให้กองทัพเป็นมนุษย์ที่คล้ายเทพบุตรเดินบนผืนดิน...
“...” เด็กคนนั้นไม่สนใจร่างกายอันแสนเหย้ายวนที่แนบชิดกับแผ่นหลังตัวเองสักนิด กลับกันยังลุกขึ้นยืนแล้วทิ้งให้เจ้าหล่อนล้มพับไปกับเตียงทั้งอย่างนั้น
“พี่แค่อยากรู้ว่าเราจะได้เจอกันอีกไหมคะ…”
เพียงไม่กี่นาทีที่ ‘เมมิน’ คู่ค้าทางธุรกิจขมวดคิ้วงุนงงกับรอยยิ้มมุมปากที่เคลือบแผงไว้ซึ่งความเจ้าเล่ห์เจ้ากลและความอันตราย กองทัพก็คว้าเสื้อมาสวมใส่ ติดกระดุมกางเกงยีนส์ตัวเองเสร็จสรรพก็เดินวนกลับมาที่เตียงอีกครั้ง แววตาหญิงสาวเต็มไปด้วยความออดอ้อน จริตจะก้านแบบที่กองทัพใช้แค่หางตาก็เดาออก แต่เรื่องอะไรเขาจะปล่อยให้คู่ค้ารายสำคัญคนนี้วิ่งแจ้นไปหาอริตัวเองอย่าง ‘ไอ้คิงส์’ แทนล่ะ...
“ก็...ถ้าคุณยอมเป็นเด็กดีของผม...” กองทัพย่อตัวลงนิดหน่อยแล้วสบตากับเธอในระยะใกล้ชิด ใบหน้าพวกเขาสองคนห่างกันไม่ถึงห้าเซนติเมตรด้วยซ้ำ ด้วยเหตุนั้นเมมินจึงอดทำเป็นเคอะเขินเด็กหนุ่มคนนี้ไม่ได้ เธอชอบกองทัพมานานแม้จะรู้ว่ากองทัพมีแฟนหนุ่มตัวน้อย ๆ เป็นตัวเป็นตนก็ตาม
“พี่จะยอมน้องทัพทุกอย่าง น้องทัพอยากได้อะไร พี่จะหามาให้...”
“ทุกอย่าง?”
“ค่ะ ทุกอย่างเลย ขอเพียงแค่น้องทัพไม่ทิ้งพี่” เธอรู้ตัวว่ากำลังร้องขอ...ดังนั้นประโยคหลัง ๆ จึงกลายเป็นเสียงแผ่วเบาแต่กลับกันความหวังของผู้หญิงที่เธอยังมีก็เต็มเปี่ยมจนล้นออกมาผ่านแววตาคู่นั้น ร่างโปร่งยกยิ้มอีกครั้ง เขาเลื่อนริมฝีปากไปจูบเธอด้วยใบหน้าเรียบนิ่ง ไร้ความรู้สึก แต่ถึงอย่างนั้นเมมินก็ขยับมากอดเขาเอาไว้ทั้งร่าง
“งั้นคุณช่วยผมอย่างหนึ่งได้ไหม” กองทัพถอนริมฝีปากออก แล้วบีบปลายคางเรียวงามให้มองมาหาเขา เธอเลิกคิ้วขึ้นงุนงงด้วยท่าทางน่ารักใสซื่อ...
“คะ?”
“ยกลิกการค้าขายอะไหล่รถกับสนามแข่งบีคีย์ซะ แต่ถ้าแบบนั้นมันยากไป...ก็ให้คนของคุณส่งอะไหล่ปลอมให้ศูนย์มันแทน”
“อะ อะไรนะคะ” เธอเผลอส่ายศีรษะปาราวกับที่ได้ฟังเมื่อครู่ เธอไม่กล้าทำเด็ดขาด...ใคร ๆ ก็รู้จักสนามแข่งรถอันดับต้น ๆ ของประเทศนี้กันทั้งนั้น รู้ด้วยว่าเจ้าของสนามน่ะโคตรโหดมหาประลัย แถมตอนนี้คนที่ดูแลศูนย์รถยนต์กับโกดังคัดกรองอะไหล่ก็คือกลุ่มคิรินทร์ด้วย... เมมินจะกล้าทำแบบนั้นกับผู้ชายสันดานดิบพวกนั้นได้อย่างไร
“เมื่อกี้...”
“อ๊ะ! นะ น้องทัพ!!” กองทัพผลักใบหน้าสะสวยลงไปนอนราบกับผืนเตียงอย่างรุนแรง เมมินสะดุ้งโหยงตอนที่ผู้ชายคนนั้นก้าวขึ้นมาคร่อมทับแล้วบีบรัดลำคอระหงส์เต็มฝ่ามือ!
“เมื่อกี้มึงส่ายหน้าเหรอ เมมิน?”
“ฮ อึก...! ปะ ปล่อย ฮึกก หะ หายใจ...หายใจไม่ออก!” ดวงตากลมโตเริ่มคลอยาดน้ำตา เธอยกฝ่ามือมาตบตีกองทัพไปมาแต่เขาไม่รู้สึกรู้สาใด ๆ กองทัพจ้องมองด้วยสายตาหงุดหงิด เขาไม่ชอบอยู่เป็นรองของใคร ไม่ชอบเป็นฝ่ายแพ้ ทุกสิ่งทุกอย่างบนโลกใบนี้ ไม่ว่าจะด้วยวิธีใด ถ้าเขาต้องการ กองทัพจะทำทุกหนทางเพื่อให้ได้มันมาครอบครอง!
“มึงรู้ไหมพ่อกูเป็นใคร”
“ฮึ๊กก ทะ ทัพ... มิน! มินยอมแล้ว ๆ ปล่อย! แค่ก ๆ ๆ” เธอปล่อยโฮออกมาเมื่อฝ่ามือกองทัพปล่อยลำคอให้ตนเองเป็นอิสระ กองทัพนิ่งไปสักพัก ก่อนจะลุกออกไปดึงเรียวแขนเล็กให้ลุกขึ้นมานั่งส่วนเขาก็แค่กอดปลอบ แล้วใช้ฝ่ามือข้างที่เคยจะฆ่าเธอมาลูบเส้นผมเธอแทน
“ถ้ามินรักผมจริง ๆ เรื่องแค่นี้ก็ต้องทำได้สิครับ คนดี...หืม”
“ฮืออ พี่รักน้องทัพ อึก... อย่าทิ้งพี่นะคะ พี่ยอมทุกอย่างแล้ว พี่จะทำให้น้องทัพ ฮึก!” อีกครั้งที่เธอหลงเชื่อคำพูดล้านแปด การกระทำจอมปลอมหรือแม้แต่รอยยิ้มเสแสร้งจากผู้ชายจิตใจตกต่ำคนนี้ กองทัพแค่นหัวเราะครั้งสุดท้ายออกมาก่อนจะหยิบเอกสารที่ทำให้เธอเซ็นต์ได้เมื่อหนึ่งหรืออาจจะสองชั่วโมงที่แล้วก่อนมีเซ็กส์กัน...
สำหรับกองทัพแล้ว...ไม่ว่าเขาจะต้องเหยียบหัวคนอื่นจมดินแค่ไหน ถ้ามันทำให้เขาสูงขึ้นมาได้ เขาก็จะทำ!
กองทัพขับรถออกมาจากโรงแรมได้สักพักใหญ่ ๆ
เขาแวะไปที่คอนโดส่วนตัวของตัวเอง แล้วตอนนี้เขาก็ออกมาดื่มที่กึ่งผับกึ่งบาร์แถว ๆ กลางเมืองกับคนสนิทในกลุ่ม มีทั้งรุ่นพี่ เพื่อนกันแล้วก็รุ่นน้องของเขานั่นแหละ กองทัพยังเป็นเด้กวัยรุ่น แล้วยังหน้าตาดีมากถึงมีเพื่อนเยอะ บางคนอาจคิดว่าหน้าตาของเขามันพวกเด็กดื่มนมก่อนนอน ใสใส ไม่ก็พวกไม่มีพิษมีภัยอะไรมากนัก แต่เขานี่แหละมันตัวร้ายกาจเลย เพื่อนในกลุ่มต่างก็รู้ฤทธิ์กองทัพดี สถานที่ยามค่ำคืนที่เต็มไปผีเสื้อราตรีนั่นแหละคือสถานที่ที่เหมาะกับคนอย่างเขามากที่สุด คนรู้จักเบื้องหลังจริง ๆ จะรู้ว่าภายนอกกองทัพมันก็แค่ภาพลักษณ์ลวงโลกที่เขาสร้างมันขึ้นมาเพื่อบดบังความสงสัยของ ‘ปั้นจั่น’ เด็กในปกครองที่ได้ชื่อว่าเป็นแฟนของเขา แต่เขากลับไม่เคยได้ทำอะไรสักอย่างที่คนเป็นแฟนกันได้ทำ!
“อ้าว! ไอ้ทัพ...ไหนบอกว่าช่วงนี้ต้องอยู่บ้านง้อเมียมึงไงวะ”
‘นิโคลัส’ เด็กหนุ่มลูกครึ่งไทยเยอรมันเดินเข้ามาที่โต๊ะประจำแก๊งของพวกเขา เอ่ยทักเพื่อนก่อนนั่งลงที่เดิมแล้วสักพักก็มีเด็กเสิร์ฟมาบริการชงหล้าให้ถึงโต๊ะ กองทัพเลิกคิ้วขึ้นสูงหนึ่งข้าง เป็นเชิงไม่เข้าใจที่นิโคลัสเพิ่งพูดออกมาเมื่อครู่นี้
“เอ้า! ไอ้นี่ อะไรของมึงวะ! ก็เมื่อวันก่อนที่พี่หัสด์โทรไปชวนมึงแล้วมึงบอกว่าต้องอยู่ง้อปั้นจั่นไง…วันนี้กูยังเห็นไปส่งกันที่ห้างฯอยู่เลยไม่ใช่เหรอวะ...มีหอมกงหอมแก้มกันในรถด้วยเว้ย!”
“ฉิบหาย!!!” กองทัพตกใจหนัก เขาเบิกตาโพล่งเมื่อนึกขึ้นมาได้ ลืมไปสนิทว่าเมื่อเช้าเขานัดปั้นจั่นเอาไว้ แถมยังบอกว่าจะไปรับหลังเลิกงานที่ร้านอาหารในห้างสรรพสินค้าแห่งหนึ่ง
ร่างโปร่งลุกขึ้นยืนพร้อมก้มมองนาฬิกาที่ข้อมือ เวลาเกือบสี่ทุ่มครึ่งเล่นเอาหัวใจกองทัพเต้นตุบตับ เมื่อวานเพิ่งจะเคลียร์คดีเก่า นี่เขาเผลอสร้างเรื่องใหม่มาอีกแล้ว!
“เฮ้ย! จะไปไหนวะ!?” กองทัพได้ยินเสียงเพื่อนตะโกนข้ามมาถาม แต่เขาไม่มีเวลามากพอจะอยู่ตอบคำถามใคร ในหัวสมองแค่คิดว่าต้องหาวิธีง้อปั้นจั่นก่อนเริ่มจากการโทรไปหาแต่ปั้นจั่นกลับปิดเครื่องสนิท... เจ้าตัวเดินมาถึงรถแล้วสตาร์ทขับออกมาโดยทันที จุดมุ่งหมายใหม่คือบ้านของเด็กคนนั้น
ไม่เป็นอะไรหรอก... ถ้าปั้นจั่นงอนเขาอย่างมากที่สุดก็คงไม่คุยด้วย
เขาก็แค่ต้องพยายามพูดว่าขอโทษให้เยอะขึ้น เท่านี้ปั้นจั่นก็หายงอนแล้ว... เห็นไหมล่ะ...ง่ายจะตาย
จงแสดงวิธีที่ทำให้คนคนหนึ่งอยู่กับเราไปตลอดกาล... สำหรับ คิรินทร์ มันก็เรื่องง่าย ๆ อยากให้อยู่ด้วยตลอดไปก็แค่จับล่าม! จับขัง! แค่นั้นก็พอแล้ว
หลินตงหยาง อายุ 27 ปี เติบโตมากับแม่เพียงสองคน ในวัยเด็กหลินตงหยางเคยมีพ่อผู้ให้กำเนิดแต่หลังจากที่พ่อได้งานใหม่ในเมืองหลวงพ่อที่เคยมีก็ไม่มีอีกแล้ว พ่อกลับมาหย่าขาดกับแม่ทันทีที่ไปทำงานในเมืองหลวงได้เพียง 2 เดือน ด้วยให้เหตุผลในการหย่าว่า แม่กับและเขาคือตัวถ่วงความเจริญในชีวิตพ่อ สาเหตุก็ไม่มีอะไรมากแค่พ่อหน้าตาหล่อเหลาและเป็นที่ถูกใจของลูกสาวหัวหน้างาน เพื่อตำแหน่งงานและความเป็นอยู่ที่สบายขึ้น พ่อเลือกที่จะทิ้งภรรยาคู่ทุกข์คู่ยากที่ผ่านเรื่องยากลำบากมาด้วยกัน หย่าขาดกับภรรยาเพื่อไปแต่งงานใหม่ มีชีวิตใหม่ในเมืองหลวง โดยทิ้งคนข้างหลัง ทิ้งภรรยาที่เคยสาบานว่าจะอยู่ครองคู่กันตลอดไป ในปีที่เขาเรียนจบมหาวิทยาลัย แม่ก็ล้มป่วยและจากเขาไปในที่สุด สาเหตุที่หลินตงหยางเสียชีวิต เพราะทำงานหนัก อาชีพโปรแกรมเมอร์ตัวเล็กๆ อย่างเขา ต้องพยายามทำงานให้ได้ตามที่หัวหน้าสั่งมา ในที่สุดเขาก็พัฒนาเกมกำลังภายในของบริษัทได้สำเร็จ หลินตงหยางนอนหลับไปด้วยความสบายใจ แต่ทว่าพอเขาลืมตาตื่นขึ้นมาอีกที นี่ไม่ใช่คอนโดหรูย่านใจกลางเมืองปักกิ่ง หลังคามุงหญ้านี่คืออะไร มันควรจะเป็นเพดานสีขาวสิ เมื่อมองไปรอบๆ ห้องนี่คืออะไร นี่มันไม่ใช่ผนังที่ทำมาจากคอนกรีต มันคือดินเหนียว หลินตงหยางคิดว่าตัวเองฝันไป เขาหลับตาลงอีกครั้งแล้วลืมตาขึ้น ทุกอย่างยังเหมือนเดิม มารดามันเถอะ เขามาอยู่ที่นี่ได้ยังไง หลังจากแน่ใจแล้วว่าไมไ่ด้ฝัน ตอนนั้นเองเขารู้สึกปวดหัวขึ้นมาอย่างรุนแรง และในหัวของเขามีภาพเหตุการณ์ของเด็กชายที่ชื่อเดียวกับเขา หลินตงหยาง อายุ 10 ขวบ เรื่องราวชีวิตตั้งแต่เกิดจนตายไปของเด็กชาย ทำเอาหลินตงหยางกำมือแน่น ก่อนจะสบถออกมา “พ่อสารเลว เฉินซื่อเหม่ยชัดๆ” และตามมาด้วยเสียงร้องไห้ของน้องสาว สาเหตุที่เด็กชายหลินตงหยางเสียชีวิต เพราะถูกผู้ที่ได้ขึ้นชื่อว่าเป็นย่าแย่งผักป่าและทุบตี ทั้งๆ ที่คนพวกนั้นได้ตัดขาดพับพวกเขาสามแม่ลูกแล้ว แต่ยังมิวายข่มเหงรังแก
ในวันแต่งงาน เสิ่นเยวียนถูกคู่หมั้นและน้องสาวของเธอทำร้าย และถูกจำคุกเป็นเวลาสามปีด้วยความทุกข์ทรมาน หลังจากได้รับการปล่อยตัวจากคุก น้องสาวผู้ชั่วร้ายได้คุกคามด้วยชีวิตแม่และพยายามให้เธอมอบตัวกับชายชรา อย่างไรก็ตาม เธอได้พบกับเซียวเป่ยหาน ซึ่งเป็นผู้ทรงอิธิพลที่หล่อเหลาและเย็นชาแห่งแห่งสังคมด้านมืด อย่างไม่คาดคิด และชะตากรรมของเธอก็เปลี่ยนไปตั้งแต่นั้นเป็นต้นมา แม้ว่าเซียวเป่ยหานจะเย็นชา แต่เขากลับปฏิบัติต่อเสิ่นเยวียนดั่งเป็นสมบัติล้ำค่า นับแต่นั้นมา เธอจัดการคนเสแสร้ง เอาคืนแม่เลี้ยงและไม่ถูกกลั่นแกล้งอีกต่อไป
ถึงจะโกรธ เกลียด เคียดแค้นแค่ไหน แต่หัวใจไม่อาจต้านรักได้ ----------------------------------------- ไรยาค่อยๆ คลานไป ทันทีที่เจ้าบ่าวหันหน้ามา เพื่อจะยื่นมือให้เธอจับ จะได้ไม่ล้มนั้น ยิ่งจะทำให้เธอเกือบล้มไปเพราะเขาแล้ว ในหัวสมองก็ประมวลผลออกมาได้คำตอบทันที ว่าคนที่เธอเฝ้าครุ่นคิดว่าเป็นใครมาตลอดสองอาทิตย์นั้น แท้จริงก็คือใครกันแน่ในที่สุด ‘Mr. H. Hhemmhawattana ก็คือหรัญญ์ เหมวัฒน์’ ‘หรือพี่ฮั้นท์ของสาวๆ ที่เธอมักจะได้ยินเรียกขานกันนี่เอง’ ‘เขากลายมาเป็นเจ้าบ่าวเธอได้ยังไง’ ‘เขาจะมาแต่งงานกับเธอทำไม’ เท่าที่รู้มา เขาไม่ได้ร่ำรวยระดับร้อยล้านพันล้านแน่ๆ แล้วเขาไปทำอะไรมา ถึงได้มีเงินมากมายขนาดเอามาทุ่มซื้อหุ้นบริษัทของพ่อเธอได้ ไหนจะไถ่บ้านคืนให้ และอีกหลายต่อหลายอย่างที่เขาจ่ายไป รวมทั้งแหวนเพชรน้ำงามและไม่น่าจะต่ำกว่าห้ากระรัตบนพานดอกไม้ตรงหน้าเธออีก ---------------------------------------------------------------------------------------- ฮั้นท์ (หรัญญ์ เหมวัฒน์) นักธุรกิจหนุ่ม ผู้มีชีวิตที่พลิกผันจากเลวร้ายกลับกลายเป็นดี ซึ่งเขาเองก็ตั้งตัวไม่ทัน แต่ทั้งหมดนั้น มาจากความดี ความขยันหมั่นเพียรของเขา บวกกับโชคช่วย ถึงเวลาที่เขากลับมายืนอยู่จุดเดิม ในฐานะใหม่ ที่ใครต่อใครต่างงุนงง โดยเฉพาะเพื่อนๆ หรือแม้แต่กับผู้หญิงที่เคยเมนเขามาแล้ว และเขาก็จะทำให้ผู้หญิงพวกนั้นได้รู้ ว่าไม่ควรเมินเขาจริงๆ ---------------------- ย้า (ไรยา เจริญรัตชตะ) ทายาทนักธุรกิจหลายร้อยล้าน ที่ชีวิตพลิกผัน จากดีกลายเป็นเลวร้ายในไม่กี่ปี จนเธอกับครอบครัวก็ตั้งตัวไม่ติด รับภาวะย่ำแย่แทบไม่ทัน และถึงเวลาที่เธอจะต้องเลือก ระหว่างช่วยกู้ทุกอย่างของครอบครัวคืน กับทิ้งทุกอย่างไปแบบไม่เหลียวหลัง เพื่อไปเลียแผลหัวใจจากชายที่เธอรักแทบตาย สุดท้ายเธอจะเลือกทางเดินยังไง จะไปต่อหรือพอแค่นี้ ---------------------------------------------------------------------------------------- เมียแต่งท่านประธาน Chairman's Wife ตอนแรกคิดว่าจะให้นิยายที่เรื่องนี้มีแค่ชื่อภาษาอังกฤษเท่านั้นค่ะ ที่เหลือให้รี้ดไปตีความเอาเอง ว่าควรจะใช้ภาษาไทยว่าอะไรดี ระหว่าง แรงรัก - รั้งรัก - รังรัก และใช้นามปากกาพิมรภัค แต่สุดท้ายก็คิดชื่อใหม่ได้แล้วค่ะ และตัดสินใจใช้นามปากกาหลัก นั่นคือ กันเกราค่ะ เพราะแว้ปไปเขียนอวตารหลายเรื่องแล้ว และไม่ได้ออกนามปากกานี้นานแล้ว ส่วนแนวก็จะเพิ่มดราม่าเข้าไปอีก ซึ่งจะเป็น Signature ของกันเกราอยู่แล้ว รี้ดอยากได้มาม่าเจ้มจ้นแค่ไหน บอกกันได้เด้อ ----------------------------------------------------------------------------------------
เซิ่งหนานหยินเกิดใหม่แล้ว ชาติที่แล้ว เธอถูกชายชั่วหักหลัง ถูกชายเสแสร้งใส่ร้าย โดนครอบครัวสามีเล่นงาน จนทำให้เธอล้มละลายและเป็นบ้าไป ในท้ายที่สุด เธอเสียชีวิตอย่างน่าสลดใจด้วยอุบัติเหตุทางรถยนต์เมื่อเธอตั้งครรภ์ได้ 9 เดือน แต่คนร้ายกลับทำเงินได้มากมาย และใช้ชีวิตทั้งครอบครัวอย่างมีความสุข เกิดใหม่ครั้งนี้ เซิ่งหนานหยินคิดตกอล้ว อะไรที่ว่าพระคุณช่วยชีวิต คนรักในใจอะไรกัน ล้วนไม่ต้องไปสน เธอจะจัดการชายชั่วหญิงร้าย สร้างชื่อเสียงให้กับตระกูลเก่าของตนเองขึ้นมาใหม่อีกครั้งและนำตระกูลเซิ่งไปสู่จุดสูงสุดของชีวิต สิ่งที่แตกต่างออกไปก็คือ คนที่หยิ่งมาตลอดในชาติที่แล้ว กลับเป็นฝ่ายริเริ่มมาหาเธอ "เซิ่งหนานหยิน การแต่งงานครั้งแรกผมไม่ทัน การแต่งงานครั้งที่สองก็ต้องถึงคิวผมแล้วสินะ"
เรื่องราวของใบหม่อนที่ทะลุมิติไปยังโลกสุดแปลกและสุดแสนจะแฟนตาซี ที่สำคัญดันไปเกิดใหม่ในตอนที่กำลังจะคลอดลูก ในชีวิตที่แล้วแม้แต่แฟนยังไม่มีแต่ทำไมพอได้เกิดใหม่ทั้งที ถึงให้เกิดมาในตอนที่กำลังจะคลอดลูกพอดี แล้วสาวโสดอย่างเธอจะทำยังไงดี คลอดลูกออกมาเป๋นแฝดสามว่าลำบากแล้ว แต่ครอบครัวนี้กลับยากจนข้นแค้น นี่ไม่ใช่ว่าพระเจ้ากลั่นแกล้งเธอเหรอ เธอไปทำอะไรให้พระเจ้าโกรธเคืองกัน
เฉียวลู่ นักแสดงแถวหน้าของจีนมีข่าวฉาวออกมาทำให้ทางต้นสังกัดของเธอสั่งให้เธองดออกสื่อชั่วคราว จึงเป็นโอกาสที่หาได้ยากสำหรับคนงานยุ่งตลอดทั้งปีของเธอที่จะได้พักผ่อน เฉียวลู่เดินทางกลับบ้านเกิดของเธอและการกลับไปครั้งนี้ทำให้ชีวิตของเฉียวลู่เปลี่ยนไปตลอดการ ฉีหมิงเยี่ยน อนุชาองค์เล็กของฮ่องเต้แห่งแคว้นฉี ถูกลอบปลงพระชนม์ระหว่างที่เดินทางมาทำหน้าที่เจรจาสงบศึกกับเเเคว้นเซียว เพราะได้รับบาดเจ็บสาหัสทำให้ชินอ๋องความจำเสื่อมและได้รับการช่วยเหลือจากพ่อลูกตระกูลเฉียว เซียวยิ่น ฮ่องเต้แคว้นเซียวมีพระสนมมากมายเเต่กลับไม่สามารถให้กำเนิดพระโอรสได้โหรหลวงได้ทำนายเอาไว้ว่า ในอนาคตองค์รัชทายาทที่แท้จริงจะกลับมาเซียวยิ่นจึงมีรับสั่งให้ทหารออกตามหาพระโอรสและอดีตฮองเฮาของตนอย่างลับๆ ฉินอี้เหยา ได้รับบาดเจ็บสาหัสร่างลอยตามแม่น้ำมาพร้อมกับเด็กทารกในอ้อมแขนเมื่อฟื้นขึ้นมานางจึงแสร้งจำเรื่องราวในอดีตไม่ได้ เพื่อให้นางและบุตรชายมีชีวิตรอดต่อไป