‘เซ็กซ์…บางคนอาจใช้แค่สนองต่อตัณหา ราคะ แต่สำหรับเขา เซ็กซ์…มันช่างหอมหวาน และเหมือนยาเสพติด ที่ร้ายกาจแต่ก็ไม่อาจลด ละ เลิก ได้’-----“เปิดปากหน่อยที่รัก” เสียงกระเส่าของภามเอ่ยกระซิบบอกคนในอ้อมกอดที่หลับตา ขบเม้มริมฝีปากไว้แน่นเพราะกลัวถูกรุกล้ำจากลิ้นร้อนๆ ของชายหนุ่ม แต่ถึงแม้รุ้งไพลินจะไม่ยอมเปิดปาก ภามก็มีวิธีของเขา มืออุ่นๆ ของชายหนุ่มเริ่มลูบไล้ส่วนเว้าส่วนโค้งของหญิงสาวมากขึ้น “ปล่อย” เสียงห้วนๆ ที่แฝงสั่นเครือของรุ้งไพลินเอ่ยสั่ง แต่คำสั่งนี้กลับเป็นช่องโหว่ ให้ภามจู่โจมเธอได้มากขึ้น ชายหนุ่มปะกบริมฝีปากลงมาปิดกั้นคำพูดใดๆ พร้อมกับส่งลิ้นเข้าไปสำรวจสลับดูดดื่มความหอมหวานจากโพรงปากอิ่มชวนให้หลงใหลมากกว่าอื่นใด“หยุดผม ไม่งั้นเธอไม่รอดแน่” รุ้งไพลินใช้กำปั้นน้อยๆ ทั้งผลัก ทั้งทุบแผงอกชายหนุ่ม แต่คนชอบแกล้งก็ยังนั่งยิ้มไม่ไหวติง “แรงแค่นี้มันไม่พอรู้ไหม” รุ้งไพลินจะเอาตัวรอดจากภามได้ไหม เธอจะพยศหัวใจจากหนุ่มลูกครึ่งไทย-อิตาลี นัยน์ตาสีฟ้าคนนี้ได้อีกนานแค่ไหน และใครกันคือผู้ที่อยู่เบื้องหลังคดีฆาตกรรมที่สะเทือนขวัญ
เสียงฝีเท้าดังขึ้นอย่างสม่ำเสมอ ขณะเดินตามพนักงานขึ้นไปชมห้อง ดวงตาคู่สวยที่แต่งแต้มเปลือกตาด้วยอายแชโดว์สีหวานกรีดอายไลเนอร์ สีดำเพิ่มความโฉบเฉี่ยวเสียหน่อยตาคู่สวยก็โดดเด่นขึ้นมาเป็นกอง เจ้าของดวงตาคู่สวยสอดส่องมองรายละเอียดรอบๆ ตัว สลับก้มมองโบรชัวร์บอกรายละเอียดของคอนโดมิเนียมสุดหรูใจกลางเมืองในมือ และดูท่าสาวเจ้าจะชอบที่นี่ไม่น้อย เดินทางง่ายด้วยรถไฟฟ้ามหานครที่อยู่เยื้องมาไม่ไกล โดดเด่นด้วยวิวมุมสูงและที่จอดรถสุดไฮเทค เพียงแค่นำรถจอดให้ตรงล็อกระบบก็เลื่อนรถขึ้นเก็บยูนิตใครยูนิตมัน ไม่ต้องวนหาที่จอดให้ยุ่งยาก สมกับชีวิตคนเมือง
เหตุที่ทำให้หญิงสาวต้องออกมาหาคอนโดมิเนียมอยู่เช่นนี้ ทั้งๆ ที่ก็มีบ้านหลังใหญ่ให้อาศัย ไม่ค่อยเป็นเรื่องที่น่ายินดีสักเท่าไหร่นัก อาจเพราะไม่อยากมีปัญหากับคนที่ได้ชื่อว่าพี่ชายที่กำลังสร้างครอบครัว สาวโสดจึงอยากปลีกตัวมาอยู่ตามลำพัง แต่จะมองอีกมุมคือหนีปัญหาก็คงไม่ผิด เพราะใช้คำว่าประนีประนอมก็แล้ว ความรู้สึกอึดอัดใจกลับยังคงมีอยู่
“ห้องนี้ถือว่าเป็นห้องระดับพรีเมี่ยมของทางโครงการเลยนะคะคุณผู้หญิง เหลือห้องมุมห้องนี้เพียงห้องเดียว ทิศทางลมก็โกรก เปิดประตูระเบียงรับลมเช้า เย็นได้ แสงแดดก็ส่องเพียงตอนเช้าเท่านั้น แต่ก็แค่ไม่กี่เปอร์เซ็นต์”
“ฉันชอบห้องนี้” เสียงหวานๆ เอ่ยบอก ก่อนจะกอดอกยืนมองออกไปนอกกระจกที่ป้องกันแสงแดดได้ดีของห้องที่ชอบ แถมนี่ยังเป็นกระจกนิรภัยอีกต่างหาก รับรองไม่เกิดอันตรายใดๆ ตั้งแต่ที่ตระเวนขับรถดูๆ คอนโดมิเนียมมาที่นี่น่าอยู่ที่สุด ถูกใจตั้งแต่ทางเข้าที่เป็นสวนดูร่มรื่นทั้งๆ ที่อยู่ใจกลางเมือง แม้ราคาจะแพงจนกระเป๋าจะฉีก แต่เพื่อความสงบสุขของชีวิตทำให้รุ้งไพลินยอมจ่าย
“ตกลงแกชอบห้องนี้” เสียงที่ดังขึ้นจากทางด้านหลังทำให้รุ้งไพลินหันไปมองก็เห็นภัสสร เพื่อนสนิทที่ยืนส่งยิ้มหวานมาให้ ผู้หญิงที่เกิดมาด้วยความสูง 180 ซม. หุ่นดีระดับนางแบบบางคนยังอาย นั่นทำให้ภัสสรรับจ๊อบพิเศษเป็นงานเดินแบบบ้างเป็นครั้งคราวตามความเหมาะสม
“อ้าว! มาแล้วเหรอจ๊ะเพื่อน”
“อื้อ...ตัดสินใจซะแบบนี้แล้วจะชวนฉันมาดูคอนโดด้วยทำไมยะ” ภัสสรเท้าสะเอวถามเพื่อนสนิทที่คบหากันมาหลายปี
“ขี้เกียจดูคนเดียว”
“แล้วที่ดูมานี่ไม่ได้เรียกว่าดูคนเดียวหรือไง จะชวนก็ชวนแต่เนิ่นๆ หน่อย ไม่ใช่ปุ๊บปั๊บโทร.หานัดออกมาเจอ พอมาก็ตลาดวาย แกปิดจ๊อบแล้ว”
“บ่นๆ นี่ฉันใจดีเดินรอแกนะ ในห้องนอนยังไม่ได้เข้าไปดูเลย”
“ขอบคุณ” ภัสสรเอ่ยคำประชดที่เธอติดปากไปแล้ว ก่อนที่ทั้งหมดจะเดินเข้าไปดูส่วนห้องนอน ที่ประกอบด้วยเตียงนอนขนาดใหญ่ ทั้งๆ ที่คนซื้อตอนนี้ยังนอนคนเดียว ถัดไปคือโซนแต่งตัวที่ติดกับห้องน้ำ ซึ่งมีอ่างจากุซซี่วางเด่นเป็นสง่า แถมมีห้องน้ำแบบโอเพ่นแอร์อีกต่างหาก ทุกอย่างออกแบบได้อย่างลงตัวสมราคา“แล้วนี่ห้องเท่าไหร่”
“เฉียดๆ สิบล้าน”
“สิบล้าน! แกเอาเงินไปซื้อบ้านหลังมหาใหญ่แถบชานเมืองได้เลยนะนั่น” เสียงอุทานราคาค่าห้องของภัสสรดังสนั่นก็ว่าได้ ทำเอาพนักงานขายหน้าถอดสี เนื่องจากกลัวเสียลูกค้าไปอีก
“ก็ฉันไม่ชอบอยู่บ้าน เพราะถ้าชอบคงไม่ออกมาหาซื้อคนโดแบบนี้หรอก”
“เออ...เข้าใจ”
“แกว่าไง ที่นี่โอไหม” รุ้งไพลินยักคิ้วโก่งได้รูปถามเพื่อน แค่เห็นแววตาภัสสรมีหรือจะค้านได้
“ก็ดีนะ ห้องสวย วิวสวย ไปไหนมาไหนก็สะดวก แถมมีห้องให้ฉันด้วย” ประโยคหลังนี่แหละที่ภัสสรดูจะชอบ เนื่องจากจะได้หาข้ออ้างออกมาค้างคอนโดรุ้งไพลินได้บ่อยๆ แต่ถึงจะไม่มีห้องให้เธอ หญิงสาวก็ตั้งใจจะมาสิงสถิตที่นี่อยู่แล้ว
“ย่ะ” เจ้าของห้องมูลค่าเฉียดสิบล้านแลบลิ้นเล็กๆ สีชมพูให้เพื่อน ก่อนจะหันไปคุยกับพนักงานของคอนโดมิเนียมซึ่งยืนยิ้มหวานรอคำตอบรับหรือปฏิเสธอยู่ห่างๆ แต่เรื่องตอบรับนั้นดูจะมีแววมากกว่าจึงไม่ละความหวังที่จะปิดงานขายชิ้นนี้ได้สักที “เดี๋ยวฉันตามลงไปทำเอกสารซื้อนะคะ”
“ได้ค่ะ ตกลงว่าคุณผู้หญิง...”
“ซื้อห้องนี้ค่ะ” คำตอบรับของรุ้งไพลินทำเอาพนักงานขายสาวสวยยิ้มกว้างให้ทันที ตัวล่องลอยเมื่อคิดถึงค่าคอมมิชชั่น
“ค่ะๆ เดี๋ยวดิฉันจะลงไปเตรียมเอกสารให้” พูดจบก็ปลีกตัวไปทำหน้าที่ต่อ ส่วนรุ้งไพลินนั้นหันซ้ายหันขวามองภาพในห้องซึ่งก็สวยตามแบบที่โครงการกำหนดมา แต่เธออยากได้ในแบบฉบับที่บ่งบอกความเป็นรุ้งไพลิน
“ห้องยังโล่งๆ อยู่เลย เดี๋ยวเซ็นเอกสารเสร็จเราไปซื้อเฟอร์นิเจอร์กับของตกแต่งกันนะเพื่อน”
“ชวนเพื่อนโดดงาน” ภัสสรเอ่ยยิ้มๆ จะตั้งใจหรือไม่ตั้งใจ วันนี้เธอก็โดดงานเป็นที่เรียบร้อย นานทีปีหนหวังว่าป๊าจะเข้าใจหัวอกลูกสาวคนนี้
“เออ...วันเดียวเอง ทำเป็นบ่นเป็นยายแก่ไปได้”
“เฟอร์นิเจอร์กับของตกแต่งที่ว่านี่แนววินเทจอีกล่ะสิ”
“รู้ใจสุดๆ สมแล้วที่เป็นเพื่อนสนิทกัน” รุ้งไพลินยิ้มแป้น ส่วนคนถูกชมได้แต่ส่ายหน้าให้
“ก็แน่ล่ะ ตั้งแต่ชุดชั้นในยันสารพัดสิ่งของแกนี่วินเทจมาเลย ไม่ให้รู้ใจได้ยังไง” พูดเล่นได้ไม่นาน น้ำเสียงของภัสสรก็ดูจริงจังขึ้น เพราะรู้ถึงสาเหตุว่าทำไมรุ้งไพลินต้องหาซื้อคอนโด อยู่ ทั้งๆ ที่บ้านก็มี “ตกลงตัดสินใจแน่แล้วใช่ไหมว่าจะย้ายออกมาอยู่คอนโดแบบนี้”
“แน่...”
“พี่สะใภ้แกนี่ก็แปลก ตอนแต่งงานกับหลังแต่งงานนี่คนละคนไปเลย ก่อนแต่งน้องรุ้งอย่างนั้น น้องรุ้งอย่างนี้ พอแต่งปุ๊บ หน้ายังไม่อยากจะมอง สวมวิญญาณเป็นนางแม่มดซะอย่างนั้น”
“นั่นสิ เราเองก็ไม่รู้ว่าเขาเป็นอะไรเหมือนกัน แต่ที่เป็นหนักๆ ก็ตอนท้องนี่แหละ” รุ้งไพลินแอบส่ายหน้าให้พี่สะใภ้ ที่ตอนนี้เปิดสงครามเย็นระดับชาติกันอยู่
“สงสัยจะหวงของ”
“ของอะไรของแกยายน้ำ” คนถามงงกับสิ่งที่ได้ยิน
“ก็หวงทั้งพี่ชายแก ทั้งบ้าน ทั้งสมบัติไง”
“บ้า...ฐานะทางบ้านของพี่สะใภ้ฉันก็รวยอยู่ จะมาหวงเพื่อ” ทั้งสองสาวมองหน้ากันไปมา ขบคิดหาคำตอบมาประกอบพฤติกรรมที่เปลี่ยนแปลงชนิดหน้ามือเป็นหลังมือของพี่สะใภ้รุ้งไพลิน
“เออ...ก็จริง”
“แต่ไอ้หวงพี่รุตนี่น่าคิด” คนที่ตกอยู่ในฐานะน้องสามีคิ้วขมวด
ภูตะวัน นายหัวแห่งอาณาจักรยางพาราทางปักษ์ใต้ที่จู่ๆ ก็ถูกมารดาเข้าใจผิดคิดว่าเป็นเกย์ ถึงขนาดไหว้วานลูกน้องของชายหนุ่มให้ตามสืบข่าวแต่ก็ถูกจับได้เสมอๆ เมื่อคนใกล้ตัวถูกจับได้จึงต้องส่งคนไกลตัวเข้าไปทำหน้าที่แทน นั่นจึงทำให้ภูตะวันได้พบกับสาวน้อยที่ชื่อว่านับพันดาว หญิงสาวตัวเล็กผมประบ่าแววตาซุกซนและอยากรู้อยากเห็น ที่จู่ๆ ก็ทำให้หัวใจของนายหัวหนุ่มเต้นด้วยจังหวะแปลกๆ เธอมาเพื่อจับผิดเขา แต่ไปๆ มาๆ กลับเป็นมีใจให้กันอย่างไม่รู้ตัว เพราะมีใจจึงปกป้องได้แม้กระทั่งชีวิต "จูบของนับพอจะทำให้พี่ลืมจูบคุณไมค์ได้ไหมคะ" น้ำเสียงกระเส่าเอ่ยถาม "เหมือนจะยังไม่ได้" คนเจ้าเล่ห์ยิ้มตอบแล้วจูบปากอิ่มอย่างดุดันอีกครั้ง เรียวลิ้นของทั้งคู่ตะหวัดหยอกเย้าสลับดูดเม้มอย่างเป็นจังหวะ ทุกอย่างเกิดขึ้นเนิ่นนานก่อนที่ภูตะวันจะถอนจูบออกอย่างอ้อยอิ่ง ทั้งคู่สบตากันและกันและนั่นก็คือคำตอบโดยไม่จำเป็นต้องเอ่ยอะไร "นับดีใจจังที่ได้รักพี่" นับพันดาวเอ่ยรับพร้อมกับซุกตัวเข้าหาภูตะวันมากขึ้น ชายหนุ่มปัดปอยผมที่ชื้นด้วยเหงื่อออกจากหน้าผากเธอแล้วจุมพิตหนักๆ อย่างเอาใจ แต่ดูเหมือนเขาจะไม่หยุดแค่นั้น "อย่ารุ่มร่ามนะคะ พอแล้ว" นับพันดาวตีมือที่เริ่มซุกซนของภูตะวันเบาๆ นอกจากบ้ากามแล้วเขายังบ้าพลังอีกด้วย เธอยังไม่ทันหายเหนื่อยเขาก็จะเริ่มใหม่อีกแล้ว "ยังไม่พอ" เขาว่าอย่างติดตลกพลอยทำให้คนฟังค้อน เขาสูบพลังไปจากเธอจนหมดยังจะบอกว่าไม่พออีกหรือไง สำหรับภูตะวันแล้วเซ็กซ์แต่ล่ะวันแต่ล่ะคืนไม่เคยมีคำว่าครั้งเดียว "คนบ้ากาม" คำพูดของนับพันดาวทำให้คนฟังหัวเราะออกมาอย่างชอบใจ "มีเมียน่ารักแบบนี้ใครที่ไหนจะอดใจไหว" เพราะเขินอายทำให้นับพันดาวทุบแผงอกของภูตะวันไปแรงๆ ก่อนที่เขาจะทำให้เธอครางกระเส่าออกมาอีกครั้ง ซึ่งนับพันดาวก็ไม่ได้คัดค้านแต่อย่างใด จูบที่อ่อนหวานกลายเป็นเร่าร้อนดุดันชนิดที่ไม่มีใครยอมใคร
ภูตะวัน นายหัวแห่งอาณาจักรยางพาราทางปักษ์ใต้ที่จู่ๆ ก็ถูกมารดาเข้าใจผิดคิดว่าเป็นเกย์ ถึงขนาดไหว้วานลูกน้องของชายหนุ่มให้ตามสืบข่าวแต่ก็ถูกจับได้เสมอๆ เมื่อคนใกล้ตัวถูกจับได้จึงต้องส่งคนไกลตัวเข้าไปทำหน้าที่แทน นั่นจึงทำให้ภูตะวันได้พบกับสาวน้อยที่ชื่อว่านับพันดาว หญิงสาวตัวเล็กผมประบ่าแววตาซุกซนและอยากรู้อยากเห็น ที่จู่ๆ ก็ทำให้หัวใจของนายหัวหนุ่มเต้นด้วยจังหวะแปลกๆ เธอมาเพื่อจับผิดเขา แต่ไปๆ มาๆ กลับเป็นมีใจให้กันอย่างไม่รู้ตัว เพราะมีใจจึงปกป้องได้แม้กระทั่งชีวิต "จูบของนับพอจะทำให้พี่ลืมจูบคุณไมค์ได้ไหมคะ" น้ำเสียงกระเส่าเอ่ยถาม "เหมือนจะยังไม่ได้" คนเจ้าเล่ห์ยิ้มตอบแล้วจูบปากอิ่มอย่างดุดันอีกครั้ง เรียวลิ้นของทั้งคู่ตะหวัดหยอกเย้าสลับดูดเม้มอย่างเป็นจังหวะ ทุกอย่างเกิดขึ้นเนิ่นนานก่อนที่ภูตะวันจะถอนจูบออกอย่างอ้อยอิ่ง ทั้งคู่สบตากันและกันและนั่นก็คือคำตอบโดยไม่จำเป็นต้องเอ่ยอะไร "นับดีใจจังที่ได้รักพี่" นับพันดาวเอ่ยรับพร้อมกับซุกตัวเข้าหาภูตะวันมากขึ้น ชายหนุ่มปัดปอยผมที่ชื้นด้วยเหงื่อออกจากหน้าผากเธอแล้วจุมพิตหนักๆ อย่างเอาใจ แต่ดูเหมือนเขาจะไม่หยุดแค่นั้น "อย่ารุ่มร่ามนะคะ พอแล้ว" นับพันดาวตีมือที่เริ่มซุกซนของภูตะวันเบาๆ นอกจากบ้ากามแล้วเขายังบ้าพลังอีกด้วย เธอยังไม่ทันหายเหนื่อยเขาก็จะเริ่มใหม่อีกแล้ว "ยังไม่พอ" เขาว่าอย่างติดตลกพลอยทำให้คนฟังค้อน เขาสูบพลังไปจากเธอจนหมดยังจะบอกว่าไม่พออีกหรือไง สำหรับภูตะวันแล้วเซ็กซ์แต่ล่ะวันแต่ล่ะคืนไม่เคยมีคำว่าครั้งเดียว "คนบ้ากาม" คำพูดของนับพันดาวทำให้คนฟังหัวเราะออกมาอย่างชอบใจ "มีเมียน่ารักแบบนี้ใครที่ไหนจะอดใจไหว" เพราะเขินอายทำให้นับพันดาวทุบแผงอกของภูตะวันไปแรงๆ ก่อนที่เขาจะทำให้เธอครางกระเส่าออกมาอีกครั้ง ซึ่งนับพันดาวก็ไม่ได้คัดค้านแต่อย่างใด จูบที่อ่อนหวานกลายเป็นเร่าร้อนดุดันชนิดที่ไม่มีใครยอมใคร
สวาทรักพ่อเลี้ยงภูเมฆ “นี่คุณจะใจดีจ่ายหนี้แทนณดลอย่างนั้นเหรอ” เพราะไม่พอใจกับการตัดสินใจของเภตราทำให้เสียงของภูเมฆนั้นห้วนไม่น่าฟัง “ฉันจ่ายเพื่อซื้ออิสรภาพของตัวเองต่างหากแล้วค่อยไปเอาคืนผู้ชายห่วยๆ นั่น คุณอยากได้เท่าไหร่ก็ว่ามา” มีหรือที่เภตราจะจ่ายหนี้ให้ณดลกลับกันเธอจะเอาคืนอีกฝ่ายให้สาสมต่างหาก “ผมไม่รับเงินสดไม่รับเช็คหรืออะไรทั้งนั้น สิ่งเดียวที่ผมอยากได้คือแรงและเวลา ถ้าคุณทำตัวดีๆ สามสี่ปีก็น่าจะใช้หนี้ผมได้หมด” “แล้วสิ่งที่คุณทำกับฉันเมื่อคืนมันมีค่าเท่าไหร่ ไม่พอใช้หนี้เลยหรือไง” เภตราเอ่ยถามเสียงสั่นพร้อมกับน้ำตาที่จู่ๆ ก็เอ่อออกมาจากดวงตาทั้งสองข้าง ภูเมฆสบตาที่แดงก่ำของเธอแล้วเอ่ยขึ้น “ไม่พอ” คำตอบของเขาช่างแสนเลือดเย็นจนทำให้เภตราจุกไปทั้งอกก่อนจะกล้ำกลืนน้ำตาลงคอ เพราะไม่อยากให้มันไหลออกมาประจานตัวเอง ในเมื่อเขาไม่เห็นค่าของมันเธอไปเก็บมาใส่ใจแล้วจะได้อะไร
งานทำบุญครบร้อยวันยังมาไม่ถึงด้วยซ้ำ แต่จู่ๆ อดีตคนรักของน้องสาวก็ประกาศจะแต่งงานกับผู้หญิงคนใหม่ แถมเธอคนนั้นยังเคยเป็นอดีตคนรักของเขาอีกด้วย นั่นทำให้คริสบินตรงกลับมาที่เมืองไทยเพื่อสะสางความแค้นให้เขาและน้องผู้จากไป +++++++++++++++++ “คุณ” ลลิตาอุทานออกมาอย่างตกใจ เพราะไม่คิดว่าคนที่ยืนกดออดอยู่หน้าบ้านเป็นคริส ชายหนุ่มรู้ได้ยังไงว่าเธออยู่ที่นี่ “ขอเข้าไปหน่อย” แขกที่ไม่ได้รับเชิญเอ่ยบอกแต่เจ้าบ้านสาวกลับไม่ยอมทำตามเช่นกัน “ฉันไม่สะดวก คุณมีอะไรก็พูดมาได้เลย” “แน่ใจหรอกว่าจะให้ผมพูดตรงนี้” “แน่ใจ” ลลิตาเชิดหน้าขึ้นสูง เธอต้องเอาชนะผู้ชายคนนี้ให้ได้ จะไม่ยอมให้เขาเห็นความอ่อนแอแน่นอน “โอเค แน่ใจก็แน่ใจ บังเอิญว่าผมยังเก็บคลิปเซ็กซ์ของเราไว้ดูต่างหน้า” “ว่าอะไรนะ!” คำพูดของคริสทำให้ลลิตารู้สึกเย็นวาบไปถึงตัว เพราะอารมณ์ในตอนนั้นมันพาไปเธอจึงยอมให้เขาถ่ายทุกอย่างเก็บไว้ ไม่คิดว่าวันนึงคลิปบ้าๆ นั่นจะตามมาหลอกหลอนเธอ “ได้ยินชัดแล้วนี่” “แต่ฉันลบมันไปแล้วกับมือ” ลลิตามั่นใจว่าเธอลบคลิปที่ว่ากับมือแล้วทำไมคริสถึงยังมีอีกหรือว่าเขาหลอกให้เธอตายใจ “ลบเสียเมื่อไหร่เพราะก่อนหน้านั้นผมสำรองไฟล์ไว้ดูหลายไฟล์ คิดถูกจริงๆ ที่ทำแบบนั้น” “สารเลว” “นอกจากมีคลิปแล้วผมยังเปิดดูมันบ่อยๆ ด้วยนะ คุณไม่อยากดูบทรักของเราหน่อยเราเหรอ” คริสเอ่ยอย่างไม่ไยดีราวกับเรื่องที่เขาทำนั้นเป็นสิ่งปกติ “คุณมาหาฉันเพื่อเอาคลิปอุบาทว์ๆ นั่นมาขู่อย่างนี้นะเหรอ” “ผมไม่ได้ขู่” “แล้วต้องการอะไร” “วันหยุดสุดสัปดาห์นี้ช่วยหาเวลาให้ผมหน่อย ขอแค่สามวันเท่านั้น” นั่นคือหนึ่งในแผนที่จะทำลายผู้หญิงตรงหน้าของคริส “ถ้าฉันปฏิเสธล่ะคะ” ลลิตาจ้องตาเขากลับมาอย่างไม่กลัวเช่นกัน “คุณก็น่าจะเดาได้ว่าจะเกิดเหตุการณ์อะไรขึ้นบ้าง คลิปในมือผมมันคงทำให้คุณดังกระฉ่อนทีเดียวล่ะ” ชายหนุ่มยิ้มมุมปากพร้อมหัวเราะออกมาเล็กน้อย คำขู่ของเขายังคงได้ผลกับลลิตาเรื่องแบบนี้คนที่เสียหายที่สุดคงเป็นผู้หญิงแบบเธอ “ถ้าคลิปนั่นหลุดขึ้นมา คุณเองก็จะดังกระฉ่อนไปด้วยไม่ใช่หรอ หน้าที่การงานที่คุณโหยหาและสร้างมันของคุณจะพังทลายไปเหมือนกัน” “มันคือเรื่องส่วนตัวฝรั่งเขาไม่แคร์เรื่องนี้หรอกอีกอย่างในคลิปนั้นก็ไม่เห็นหน้าผมด้วยสิ”
คุณแม่เลี้ยงเดี่ยวที่ยังเวอร์จิ้น! มาแก้ไขปริศนาประโยคนี้กันค๊า โดยแกนนำคือรอยส์ซีอีโอหนุ่มที่ตกหลุมรักลูกน้องคนเก่งที่มีสถานะเป็นคุณแม่เลี้ยงเดี่ยวอย่างขวัญชีวาเข้าอย่างจัง กระทั่งเธอก็มีเหตุให้ยื่นใบลาออก รอยส์จึงใช้ความเจ้าเล่ห์เข้าล่อหลอกเพื่อให้เธอตกหลุมพราง แต่ดูเหมือนเขาต่างหากที่จะตกหลุมพรางที่ตัวเองขุดไว้เสียเอง ในเมื่อต้องการเรื่องอะไรจะปล่อยเธอไป ไม่ได้ด้วยเล่ห์ก็ต้องได้ด้วยกลไม่ได้ด้วยมนต์ก็ต้องได้ด้วยคาถา โอมมมม เพี้ยงงงงง
เธอถูกคนใกล้ตัวคิดร้ายและเขาคือเจ้าชายขี่ม้าขาว รวีคือหญิงสาวที่รอดตายจากการถูกลอบฆ่า เธอดิ้นรนเอาชีวิตรอดจากก้นเหมืองและคนที่ช่วยชีวิตเธอไว้คือภีม บางคนกล่าวไว้ว่าความรักครั้งนี้ของภีมเกิดขึ้นจากความสงสาร แต่ชายหนุ่มก็พิสูจน์ให้เห็นว่าความรักที่เกิดจากความสงสารนั้นไม่ผิด เขารักเธอ รักผู้หญิงแปลกหน้าที่ใสซื่อและไร้พิษภัย เพราะรักจึงทุ่มเทและเลือกที่จะปกป้อง ใครหน้าไหนก็แตะเธอไม่ได้
"นางเป็นบุตรีผู้สูงศักดิ์ของฮูหยินเอกของจวนเสนาบดี นางมีหน้าตาโดดเด่น ทั้งอ่อนโอนและมีน้ำใจไมตรีต่อผู้อื่น แต่... นางทำดีต่อป้าของนาง นางกลับฆ่าแม่ของนางตาย นางรักเอ็นดูน้องสาวของนาง แต่น้องสาวกลับแย่งสามีของนางไป นางคอยสนับสนุนและดูแลสามีของนางอย่างสุดหัวใจ แต่สามีกลับทำให้นางตายทั้งกลม...ตระกูลฝ่ายมารดาของนางก็ถูกประหารชีวิตทั้งตระกูลด้วย นางตายตาไม่หลับและสาบานว่าหากมีชาติหน้า นางจะไม่เมตาตาต่อใครอีก ใครก็ตาม กล้ามาทำร้ายข้า ข้าจะล้างแค้นด้วยชีวิตทั้งตระกูลของพวกเจ้า เมื่อเกิดใหม่อีกครั้ง นางอายุได้สิบสี่ปี นางสาบานว่าจะต้องเปลี่ยนชะตากรรมและแก้แค้นชาติก่อน ป้านางใจ้ร้าย นางจะใจร้ายกลับยิ่งกว่านาง นางคิดจะได้ครองตำแหน่งฮูหยินงั้นเหรอ บอกเลยไม่มีทาง! ส่วนน้องสาวชอบผู้ชายชั่ว ๆ นักไม่ใช่หรือ ได้!ข้าจะยกให้เลย ส่วนชายชั่วนั่น ข้าจะทำให้เจ้าไม่สามารถมีทายาทได้อีกตลอดทั้งชาติ!แต่ข้าจะแก้แค้น เหตุใดเจ้าต้องมาช่วยข้าด้วย?"
เสิ่นชิงชิว หลานสาวของเศรษฐีที่รวยที่สุดในเมืองไห้ คบหาอยู่กับลู่จั๋วมาเป็นเวลาสามปีแล้ว แต่ความจริงใจของเธอกลับสูญเปล่า ลู่จั๋วปฏิบัติกับเธอเพียงในฐานะหญิงบ้านนอกคนหนึ่ง และทอดทิ้งเธอในวันแต่งงาน โดยไปหารักแรกของเขา หลังจากเลิกรากันอย่างเด็ดขาด เสิ่นชิงชิวก็กลับมามีสถานะเป็นสาวรวยอีกครั้ง ได้รับมรดกมูลค่าหลายร้อยพันล้าน และเริ่มต้นชีวิตที่รุ่งโรจน์ที่สุด แต่แล้วมักจะมีคนโผล่มาทไให้กับเธอหงุดหงิดอยู่เสมอ! ขณะที่เธอกำลังจัดการกับผู้ร้าย คุณชายฟู่ผู้มีอำนาจนั้นก็ปรบมือและโห่ร้องว่า "ที่รักของฉันสุดยอดมากจริงๆ"
หลังจากแต่งงานได้ 2 ปี ในที่สุดเจียงเนี่ยนอันก็ตั้งครรภ์สักที ความดีอกดีใจของเธอแต่กลับแลกกับคำขอหย่าของสามี หลังจากการสมคบคิด เธอนอนในกองเลือด และต้องการขอร้องเขาให้ช่วยเด็กเอาไว้ แต่กลับไม่สามารถติดต่อกับอีกฝ่ายได้ ด้วยความสิ้นหวังเธอจึงออกจากประเทศไป ต่อมาในงานแต่งงานของเจียงเหนียนอัน คุณกู้เสียการควบคุมและคุกเข่าลง ดวงตาของเขาแดงก่ำ "มีลูกของฉัน แล้วเธออยากจะแต่งงานกับใครกัน?"
หลังจากแต่งงานกันมาสองปี สามีของเธอไม่เคยเหยียบเข้าไปในบ้านและมองดู 'ภรรยาขี้เหร่' ของเขาเลย แถมเขาก็มีเรื่องอื้อฉาวกับดาราหน้าใหม่หลายคนทุกวัน ซูเหว่ยทนไม่ไหวอีกต่อไป เธอตัดสินใจปล่อยเขาไป ต่อไปก็ต่างคนต่างไปเลย แต่เมื่อเธอเสนอเรื่องหย่า... ฟู่เหยียนอันพบว่านักออกแบบในบริษัทนั้นสะดุดตาเป็นพิเศษ เขาค่อยๆ ทำความรู้จักกับเธอเรื่อยๆ จนกระทั่งวันหนึ่งเขาค้นพบตัวตนที่แท้จริงของเธอเข้า เขาเสียใจแล้ว
ในสายตาของเขา เธอเป็นคนขี้โกหก ในสายตาของเธอ เขาเป็นคนไร้หัวใจ เดิมทีถังหว่านคิดว่าเธอคือคนพิเศษหลังจากอยู่กับเสิ่นติงหลานมาสองปี แต่สุดท้ายก็พบว่าตัวเองเป็นแค่ของเล่นที่สามารถทิ้งได้อย่างตามใจเมื่อไม่มีค่าอีกต่อไป จนกระทั่งถังหว่านเห็นว่าเสิ่นติงหลานพาคนรักของเขาไปตรวจครรภ์ เธอจึงยอมแพ้แล้ว เธอหยุดติดตามเขาอีก แต่จู่ๆ เขากลับไม่ยอมปล่อยเธอไป "ถ้าคุณไม่เชื่อฉัน ทำไมคุณไม่ปล่อยฉันไปล่ะ?" ชายผู้เคยหยิ่งยะโสขนาดนั้น ตอนนี้ก้มหัวลงและขอร้องว่า "หวานหว่าน ฉันผิดไปแล้ว โปรดอย่าทิ้งฉันไป"
ผมต้องทำงานนอกเวลาทุกวันเพื่อหารายได้ประคองชีวิตและจ่ายค่าเรียนมหาวิทยาลัยด้วยตัวเอง เนื่องจากฐานะครอบครัวยากจนและไม่สามารถส่งเสียผมเข้ามหาวิทยาลัยได้ และตอนเรียนที่มหาวิทยาลัย ผมก็ได้พบกับเธอ-สาวแสนสวยที่หนุ่มๆ ทุกคนในชั้นเรียนต่างก็ใฝ่ฝันถึง ไม่เว้นแม้แต่ผมเอง แต่ผมก็รู้ตัวดีว่าตัวเองไม่คู่ควรกับเธอ ถึงอย่างนั้นก็ตาม ผมก็รวบรวมความกล้าสารภาพกับเธอจนได้ สุดท้ายผมนึกไม่ถึงว่าเธอจะยอมตกลงเป็นแฟนกับผม เธอบอกกับผมว่าอยากได้ของขวัญเป็นไอโฟนรุ่นล่าสุด ผมก็ไปรับงานซักเสื้อผ้าให้เพื่อนร่วมชั้นเรียนเพื่อพยายามเก็บเงินซื้อให้เธอจนได้ และในที่สุดหนึ่งเดือนต่อมา ผมก็ซื้อมาได้จริง ๆ แต่ขณะที่ผมกำลังห่อของขวัญเพื่อนำไปมอบให้เธอ ก็พบว่าเธอกำลังมีอะไรกับหัวหน้าทีมฟุตบอลในห้องล็อกเกอร์ เธอเหมือนเปลี่ยนเป็นอีกคนหนึ่งซึ่งผมไม่เคยรู้จักเลย เธอหัวเราะเยาะความโง่เขลาของผม เหยียดหยามศักดิ์ศรีของผม ปล่อยให้เขาซึ่งตอนนี้ได้กลายเป็นแฟนใหม่ของเธอไปแล้ว ทุบตีผม ผมนอนเจ็บอยู่บนพื้นอย่างสิ้นหวัง ต่อมา จู่ ๆ ผมก็ได้รับโทรศัพท์จากพ่อ ตั้งแต่วันนั้น ชีวิตของผมก็ได้เปลี่ยนแปลงไปอย่างกับหนัามือเป็นหลังมือ ใครจะไปรู้ว่า ผมเป็นลูกชายของมหาเศรษฐี