คนที่กล้ามายุ่งกับเธอ....ถามสามีของเธอดูแล้วหรือยัง
คนที่กล้ามายุ่งกับเธอ....ถามสามีของเธอดูแล้วหรือยัง
จู่ ๆ ก็มีสามีที่ถูกต้องตามกฎหมายแบบไม่ทันตั้งตัว เพราะเป็นความต้องการของผู้เป็นบิดาที่เพิ่งจะสิ้นลมหายใจไปได้เพียงเจ็ดวัน ทำให้อลินา หรือ ฮาน่า อารอน ลูกครึ่งไทยอเมริกันวัยยี่สิบปีปฏิเสธไม่ได้ เธอจำใจต้องจดทะเบียนสมรสกับผู้ชายที่เธอไม่รู้จัก แม้กระทั่งหน้าตาของสามีในทะเบียนเป็นอย่างไรเธอเองก็ไม่เคยเห็น วันที่จดทะเบียนสมรสก็มีเพียงทนายของเขาเท่านั้นที่นำเอกสารการจดทะเบียนสมรสมาให้เธอเซ็น ทำให้เธอตัดสินใจหนีไปเริ่มต้นชีวิตใหม่ที่ประเทศไทย ประเทศที่เป็นบ้านเกิดของเธอเองในทันทีที่ทุกอย่างเรียบร้อย
การจดทะเบียนสมรสในครั้งนี้เธอขอใช้สิทธิ์ในการคงสภาพการเป็นนางสาวเอาไว้ แม้ว่านามสกุลจะเปลี่ยนไปก็ตามที ที่เธอเลือกกลับไปใช้ชีวิตอยู่ที่ประเทศไทย เพราะเธอจากมาตั้งแต่ยังเป็นเด็กและที่นั่นไม่หลงเหลือคนที่รู้จักเธออีกแล้ว ผู้เป็นสามีแค่เพียงในนามไม่ได้ห้ามปราม แต่ทว่าเขากลับมอบบัตรเครดิตที่ไม่จำกัดวงเงินให้แทนการโผล่หน้ามาให้เธอเห็น จนหญิงสาวอดที่จะสงสัยไม่ได้ว่าเขาเป็นผู้ชายแบบไหน เธอนั้นรู้เพียงแค่ชื่อของเขาเท่านั้น มิสเตอร์เอเดน วินเทอร์ เพราะแบบนี้เธอถึงได้นามสกุลวินเทอร์ติดสอยห้อยท้ายชื่อของเธอมาด้วย แต่ที่เธอพอจะโล่งใจคือเขาไม่ใช่ผู้ชายแก่หงำเหงือก แต่เป็นชายหนุ่มที่มีอายุแก่กว่าเธอสิบปี
มือบางจ้องมองพาสปอตในมือก่อนที่จะตัดสินใจเดินทางออกจากเมืองชิคาโก เมืองที่เติบโตและใช้ชีวิตมานานนับยี่สิบปี ดีที่ว่าเธอนั้นถือพาสปอตสองสัญชาติทำให้เธอไม่ต้องใช้ชีวิตอย่างยุ่งยากในประเทศไทย ร่างระหงผิวขาวเนียนที่มีส่วนสูงร้อยเจ็ดสิบเซนติเมตรเดินผ่านจุดตรวจตั๋วไปโดยที่ไม่รู้ตัวเลยว่ามีสายตาของใครบางคนที่คอยจับจ้องอยู่
“จะปล่อยนายหญิงไปแบบนั้นจริงๆ หรือครับท่านเอเดน”
บุ๊ชเอ่ยถามนายหนุ่มออกมา เขารู้ดีว่านายของเขานั้นสนใจในตัวนายหญิงมากขนาดไหน และเขาก็รู้ดีว่านายของเขานั้นไม่เคยสนใจผู้หญิงคนไหนเหมือนกับภรรยาที่กำลังจะเดินทางออกจากเมืองชิคาโกไปในไม่ช้า
“อือ...ให้เธอได้ใช้ชีวิตอิสระไปอีกสักหน่อย นายก็รู้นี่ว่าเรายังมีงานที่ยังต้องจัดการอยู่อีกเยอะ ให้เธอสนุกกับชีวิตอิสระไปอีกสักพัก ก่อนที่ฉันจะได้ไปใช้สิทธิ์ของฉัน ตอนนี้ก็ส่งพวกที่อยู่ที่นั่นไปคอยสอดส่องดูแลเธอแทนฉันไปก่อนก็แล้วกัน ย้ำว่า...อย่าให้มีแมลงไม่ว่าจะตัวเล็กหรือตัวใหญ่มาไต่ตอมเธอเด็ดขาด เข้าใจไหม!!!”
เสียงทุ้มเย็นชาดังออกมาจากริมฝีปากหนาสีกุหลาบ แว่นตาสีดำที่ปกปิดดวงตาคมกล้าและค้ำอยู่บนสันจมูกโด่งของเขานั้นชวนให้สาวๆ เหลียวมอง แต่ก็ไม่มีผู้หญิงคนไหนเลยที่ได้รับไมตรีกลับไป
“เข้าใจครับเจ้านาย ผมจะสั่งให้ลูกน้องที่นั่นคอยดูแลนายหญิงอย่างดีเลย” บุ๊ซรับคำสั่งก่อนที่จะรีบสาวเท้าเดินตามนายเล็กไป
เอเดน วินเทอร์ ทายาทมาเฟียลำดับที่สามรุ่นที่ห้าของตระกูลวินเทอร์ ตระกูลของเขาทำธุรกิจสีเทามากมายในทวีปอเมริกาเหนือ ทวีปอเมริกาใต้และทวีปแอนตาร์กติกา เขามีพี่ชายสองคนที่ดูแลธุรกิจของตระกูลซึ่งอยู่ทวีปอเมริกาใต้และทวีปแอนตาร์กติกา ส่วนตัวเขานั้นเพิ่งจะขึ้นมารับหน้าที่ดูแลธุรกิจของครอบครัวแทนบิดาที่อายุมากขึ้นในทวีปอเมริกาเหนืออย่างประเทศสหรัฐอเมริกา ก่อนหน้านี้เขาทำธุรกิจส่งออกกับทวีปเอเชียอยู่และหนึ่งในนั้นก็มีประเทศไทยรวมอยู่ด้วย
ดวงตาคู่สวยจ้องมองวิวทางด้านนอกหน้าต่างของเครื่องบินลำใหญ่ ที่กำลังจะพาเธอเดินทางไปยังประเทศเป็นบ้านเกิด ดีที่ตัวเธอนั้นไม่เคยหยุดที่จะเรียนรู้ภาษาไทยเลย หรือแม้แต่ภาษาจีน ฝรั่งเศส และเยอรมัน เธอนั้นก็ถือว่าพูดได้อย่างเชี่ยวชาญ ผลการเรียนของเธอก็ได้รับเกียรตินิยมอันดับหนึ่งจากมหาวิทยาลัยชื่อดังของเมืองชิคาโก แต่เธอนั้นไม่คิดฝันมาก่อนเลยว่าสุดท้ายแล้วอนาคตของเธอจะต้องมาจบลงด้วยการเป็นภรรยาของผู้ชายที่ไม่เคยเห็นหน้า แม้จะเป็นภรรยาของเขาเพียงแค่ในนามก็ตามที
หญิงสาวยิ้มจางๆ ออกมาเมื่อนึกถึงความเป็นมิตรของผู้คนในประเทศไทย ไม่ว่าจะผ่านไปกี่ปีเธอก็ไม่เคยลืม แต่รอยยิ้มที่เธอได้รับในวันนั้น ก่อนที่เธอจะย้ายมาอยู่อเมริกาแต่ทว่ากลับไม่ใช่รอยยิ้มของคนไทย ดูจากใบหน้าที่ส่อแววหล่อเหลาก็พอจะเดาออกว่าเขาเป็นฝรั่ง คงจะเป็นนักท่องเที่ยวที่บังเอิญช่วยเหลือเธอโดยบังเอิญ หากวันนั้นไม่ได้พบกับเขา...เธอก็คงจะไม่ได้มีโอกาสเติบโตขึ้นมาอย่างงดงามในวันนี้
“อลินา...หนูรอแม่อยู่ตรงนี้ก่อนนะลูก เดี๋ยวแม่ไปโหลดกระเป๋ากับเช็กอินก่อน เข้าใจไหมคะ”
อารีญามารดาของอลินาในวัยห้าขวบเอ่ยขึ้น เด็กหญิงลูกครึ่งที่มีหน้าตาน่ารักราวกับตุ๊กตาพยักหน้าขึ้นลงอย่างรู้ความ ผู้เป็นมารดาจึงเข็นรถเข็นที่มีกระเป๋าอยู่ถึงสามใบเดินไปยังเคาน์เตอร์
เด็กหญิงเหลียวซ้ายทีขวาทีก่อนที่จะมองเห็นตุ๊กตาตัวเล็กของใครบางคนตกอยู่ ด้วยความเป็นเด็กเห็นอะไรน่ารักก็มักจะวิ่งเข้าหา เด็กหญิงที่สวมเสื้อโค้ตและรองเท้าผ้าใบสีขาวจึงวิ่งไปหาเจ้าตุ๊กตามอมแมมที่ตกอยู่ทันทีโดยที่ไม่ทันได้ระวัง รถเข็นที่เข็นกระเป๋ากำลังจะถูกเข็นผ่านโดยที่พนักงานมองไม่เห็นเด็กหญิงตัวเล็กคนนั้น แต่แล้วร่างเล็กก็ถูกร่างที่โตกว่าคว้าเข้าไปในอ้อมกอด ทั้งคู่ล้มลงไปบนพื้นแต่ดีที่เด็กหญิงไม่ได้รับบาดเจ็บ และคนที่เข้ามาให้ความช่วยเหลือก็ไม่ได้รับบาดเจ็บอะไรเช่นกัน
“ไม่เป็นไรใช่ไหม”
สำเนียงภาษาอังกฤษชัดเจนดังขึ้นจากเด็กชายที่โตกว่าคนตัวเล็กที่ในมือยังมีตุ๊กตาต้นเรื่อง เด็กหญิงส่ายใบหน้าไปมา เด็กชายจึงยิ้มให้เธอด้วยรอยยิ้มที่อ่อนโยน
“นายน้อย... ไม่เป็นไรใช่ไหมครับ” ฝรั่งที่สวมสูทหลายคนวิ่งเข้ามาดูแลเด็กชาย
“ฉันไม่เป็นอะไร อืม... ระวังหน่อยนะตัวเล็ก ที่ไหนที่มีคนเยอะๆ มันไม่ค่อยปลอดภัยหรอก” เขาประคองเด็กหญิงให้ลุกขึ้นก่อนที่จะส่งยิ้มให้อีกครั้งแล้วเดินจากไปพร้อมกับฝรั่งที่สวมสูทสองคน
อารีญาไม่ทันได้เห็นเหตุการณ์แต่ได้ยินคนคุยกันว่ามีเด็กหญิงลูกครึ่งเกือบถูกรถเข็นกระเป๋าชน เธอที่โหลดกระเป๋าและเช็กอินเสร็จพอดี เธอจึงรีบเดินตามหาบุตรสาวของตนจนได้พบเด็กหญิงยืนโบกมือหย็อยๆ ให้กับใครบางคนที่น่าจะเดินจากไปได้ไม่นาน มือเล็กข้างหนึ่งกอดตุ๊กตาเอาไว้ อารีญาตกใจรีบวิ่งเข้าไปรวบร่างเล็กเข้ามาในอ้อมกอด
“ฮาน่า หนูไม่เป็นไรใช่ไหมคะลูก” เธอผละอ้อมแขนออกก่อนที่จะสำรวจร่างเล็กของบุตรสาวแล้วผ่อนลมหายใจออกมาด้วยความโล่งใจ
“พี่ชายเขาช่วยหนูไว้ค่ะแม่ เขายิ้มสวย ผมสีน้ำตาลเข้มของเขาสวยมากเลยค่ะ” เด็กหญิงชมเด็กหนุ่มที่ช่วยเหลือเธอออกมาด้วยรอยยิ้ม
“สักวันหนูจะได้พบเขาอีกไหมคะแม่ญา” เธอเอ่ยถามมารดาออกมาด้วยความไร้เดียงสา
“ถ้ามีวาสนาต่อกันสักวันหนูกับพี่เขาก็คงมีโอกาสได้เจอกันอีกแน่จ๊ะ ไปกันเถอะนะลูก ไปหาอะไรกินกันก่อนที่เราจะไปหาแด๊ดนะ” เด็กหญิงยิ้มร่า
อลินายังจดจำเหตุการณ์ในวันนั้นได้ดี แม้เรื่องราวจะผ่านมานานเกือบสิบห้าปีแล้วก็ตาม เธอยังแอบคาดหวังว่าสักวันหนึ่ง เธอจะได้เอ่ยคำขอบคุณเขา ที่เขาเคยช่วยชีวิตน้อยๆ ของเธอเอาไว้ แม้สถานะของเธอในตอนนี้จะไม่เหมาะที่จะคิดถึงผู้ชายคนอื่นแล้วก็ตามที
เปลือกตาบางปิดลงเมื่อเครื่องทะยานสูงขึ้นเหนือท้องฟ้าเมืองชิคาโก หญิงสาวเลือกนั่งชั้นธุรกิจเพราะสามีที่ดูท่าจะร่ำรวยของเธอให้บัตรเครดิตติดตัวมา แม้เธอจะเกรงใจที่ต้องใช้เงินของเขาในเรื่องส่วนตัว แต่เธอก็ไม่อาจทนที่จะต้องนั่งชั้นประหยัดให้ปวดเนื้อปวดตัว เพราะการเดินทางไปยังประเทศไทยนั้นใช้เวลาค่อนข้างนาน ชีวิตใหม่ที่สงบสุขของเธอหลังจากนี้คือชีวิตที่เธอต้องการ
เพราะความเมตตาจากสวรรค์ ทำให้นางผู้ซึ่งสิ้นอายุขัยในวันที่คลอดลูก ได้กลับมาเกิดใหม่ ในร่างของคุณหนูสามผู้โง่เขลา บุตรีของท่านเจ้าสำนักศึกษาตระกูลหลี่
นางแบบสาวไทยที่ใช้ชีวิตอย่างสงบสุขมาโดยตลอด...จนวันหนึ่งได้พบกับเขา เขาที่เป็นพี่ชายสามีของน้องนางแบบที่เคยทำงานด้วยกัน ชีวิตของเธอก็ได้เปลี่ยนไป เพราะนอกจากถูกเขากวนใจแล้ว..เธอยังถูกเขากวนตัวอีกด้วย
เพราะความเข้าใจผิด ทำให้ต่างคนต่างก็แสดงท่าทีเย็นชาใส่กัน ทำให้ต่างคนต่างก็พลาดช่วงเวลาแห่งความสุขไป กว่าจะรู้ตัวว่าอีกฝ่ายมีความสำคัญในชีวิตของตนมากแค่ไหน อีกฝ่ายก็ได้จากไปตลอดกาลเสียแล้ว...
คงเป็นเพราะสวรรค์เมตตา ให้นางที่ตายไปแล้วด้วยน้ำมือคนที่รัก ได้ย้อนอดีตกลับมาเมื่อห้าปีก่อน ก่อนที่นางจะกลายเป็นสตรีที่โง่งมให้เขาหลอกลวงจนมีจุดจบที่น่าเวทนา มีหรือครานี้นางจะยอมเจ็บปวดเพราะเขาอีก...
คำว่ารัก...ไม่ควรจำกัดไว้แค่คำว่าเพศ เพราะโลกใบนี้ไม่มีใครเลือกเกิดได้ แต่ทุกคนเลือกที่จะเป็นได้ เหมือนกับเขาสองคน ที่คิดว่า ความรักคือสิ่งที่สวยงามยิ่งกว่าสิ่งใด
ในชาติภพก่อนนางคือวีรสตรีของแผ่นดินสยาม ปกป้องบ้านเมืองจากข้าศึกศัตรูจนตัวตาย เกิดชาติภพใหม่ในยุคจีนโบราณ นางนั้นเติบโตขึ้นเป็นสตรีที่งดงามแต่ทว่าภายใต้ใบหน้าที่งดงามนั้นกลับมีความลับบางอย่างซ่อนอยู่
วิญญาณแพทย์นิติเวชที่มีชื่อเสียงในศตวรรษที่ 21 ได้เข้ามาอยู่ในร่างคุณหนูของจวนเสนาบดีอย่างบังเอิญ ผู้คนกล่าวหาว่านางไม่เชี่ยวชาญด้านการแพทย์และทำให้บุตรชายของแม่ทัพตาย ด้วยเหตุนี้ฮ่องเต้ต้องการฆ่านางเพื่อให้คำอธิบายกับแม่ทัพ! ผู้คนกล่าวหาว่านางเป็นคนหยิ่งยโสและเจ้ากี้เจ้าการ ทุกคนเกลียดนาง และครอบครัวของนางต้องการไล่นางออก! ผู้คนกล่าวหาว่านางเป็นคนเลวทรามและไร้ความปรานี วางยาน้องสาว และพ่อของนางต้องการโบยนางจนตาย! ในความเป็นจริงหากอยากจะกล่าวหาผู้ใดสักคน มันก็หาข้ออ้างได้ทั่ว แต่นางเป็นคนไม่ยอมใคร นางผอมบางนางหนึ่งปลุกปั่นโลกด้วยความสามารถอันทรงพลังตนเอง ท่านอ๋องกล่าวว่า หากได้เจ้ามาครอบครอง ข้ายอมทรยศทุกคนในโลก นางกล่าวว่า เพื่อท่าน ต่อให้ทุกคนในโลกเกลียดข้า ข้าก็ยอม
(คลื่นรักอสูร) ...เพราะเธอขึ้นเรือผิดลำ คลื่นร้ายจึงซัดแทบกระเจิง... “เธอมันก็แค่ผู้หญิงขายตัว จะมาทำเล่นตัวเรื่องมากไม่ได้รู้ไหม ต่อให้เป็นสินค้าด้อยคุณภาพยังไงก็เถอะ ก็ต้องหัดรู้จักตามใจแขกบ้าง แต่นี่อะไรหาเรื่องใส่ตัวแท้ ๆ คนสอนไม่บอกหรือยังไงว่าไอ้ละครเล่นตัวนี่มันน่ารำคาญไม่ได้ดึงดูดลูกค้าเลย” บารเมษฐ์ต่อว่าพร้อมกวาดสายตามองเหยียดหยามตั้งแต่ศีรษะจรดปลายเท้า ก่อนคลายมือออกจากปลายคางอย่างช้า ๆ “ฉันไม่ได้มาขายตัวสักหน่อย” คนได้รับอิสรภาพรีบบอกเขา “หืม” เขาทำหน้าไม่เชื่อ “ฉันแค่ขึ้นเรือผิดลำ ฉันไม่ได้มาขายตัวจริง ๆ คุณอย่าทำอะไรฉันเลยนะคะคุณบารเมษฐ์” วินาทีนี้เธอกลัวเขามากกว่าใครบนเรือลำนี้เสียอีก เลยเลือกที่จะบอกความจริงกับเขาไป “ขึ้นเรือผิดลำ?” คนพูดหรี่ตาลงอย่างสงสัย “ใช่ค่ะ ฉันขึ้นเรือผิดลำจริง ๆ” “แบบนี้นี่เอง มิน่าล่ะสองคนในห้องเครื่องนั่นถึงได้ลุกลี้ลุกลนนัก” บารเมษฐ์นึกไปถึงท่าทางของอนุชิตกับธาวิน ซึ่งดูเหมือนมีเรื่องเป็นกังวลอยู่ตลอดเวลา “คุณรู้แบบนี้แล้วก็ปล่อยฉันไปเถอะคุณบารเมษฐ์ อย่าทำอะไรฉันเลยนะคะ” นีนนาราขอความเห็นใจจากเขา แต่สายตาที่เขามองกลับมานั้นมันว่างเปล่าชอบกล “รู้อะไรไหมนีนเรื่องนี้ไม่ใช่ความผิดของฉันเลย เธอเป็นคนอยู่ผิดที่ผิดทางเอง เพราะงั้นเธอก็ต้องรับสภาพที่จะเกิดขึ้นต่อจากนี้เองเหมือนกัน” “ห้ะ คุณ นี่คุณ คุณทำไมเป็นคนไม่มีเหตุผลแบบนี้” หญิงสาวต่อว่าเขา ก่อนจะหน้าซีดหน้าเซียวลง เพราะเสียงหัวเราะเบา ๆ ในลำคอของเขาบ่งชัดว่าคืนนี้เธอไม่รอดแน่ “ปล่อยฉันนะ! ปล่อย!” นีนนาราดิ้นหนีเขาก็จับกดลงที่เดิม “งานก็คืองานนะคนสวย มาขายตัวก็คือมาขายตัว อย่าทำเสียเรื่องสินีน” บารเมษฐ์ย่อมเชื่อครึ่งไม่เชื่อครึ่งอยู่แล้ว เขาอยากรู้ว่าผู้หญิงคนนี้จะมาไม้ไหนอีกแน่ “ก็บอกว่าไม่ใช่ยังไงล่ะ ว้าย!”
เวินอี่ถงได้เห็นความรักอันลึกซึ้งของเจียงยวี่เหิง แต่ก็ได้สัมผัสกับการทรยศของเขาเช่นกัน เธอเผารูปแต่งงานของพวกเขาต่อหน้าเขา แต่เขากลับมัวแต่ง้อชู้ของเขา ทั้งๆ ที่เขาแค่มองดูแวบหนึ่งก็จะเห็น แต่เขากลับไม่สนใจเวินอี่ถงสุดจะทน ตบหน้าเขาอย่างแรง พร้อมอวยพรให้เขากับชู้ของรักกันยืนยาว แล้วเธอก็หันหลังสมัครเข้ากลุ่มวิจัยลับเฉพาะ ลบข้อมูลประจำตัวทั้งหมด รวมถึงความสัมพันธ์การแต่งงานกับเขาด้วย! ก่อนจากไป เธอยังมอบของขวัญชิ้นใหญ่ให้เขาอีกด้วยเมื่อถึงเวลาที่จะเข้ากลุ่ม เวินอี่ถงก็หายตัวไป บริษัทของเจียงยวี่เหิงประสบปัญหาล้มละลาย เขาจึงออกตามหาเธอด้วยทุกวิถีทาง แต่สิ่งที่ได้รับกลับเป็นใบมรณบัตรที่ต้องสงสัยเขาสติแตก “ฉันไม่เชื่อ ฉันไม่ยอมรับ!”เมื่อพบกันอีกครั้ง เจียงยวี่เหิงต้องตกใจที่พบว่าเวินอี่ถงเปลี่ยนตัวตนใหม่แล้ว โดยข้างกายมีผู้มีอำนาจที่เขาต้องยอมก้มหัวให้เขาอ้อนวอนอย่างสิ้นหวัง “ถงถง ผมผิดไปแล้ว คุณกลับมาเถอะ!”เวินอี่ถงเพียงยิ้มยักคิ้ว จับแขนของผู้มีอำนาจข้างๆ “น่าเสียดาย ตอนนี้ฉันอยู่ในระดับที่นายไม่อาจเอื้อมถึงแล้ว”
กฤษฎิ์ พิสิฐกุลวัตรดิลก "อาหมอกฤษฎิ์" หนุ่มใหญ่วัย 34 ปี มาเฟียในคราบคุณหมอสูตินรีเวชแห่งโรงพยาบาลเอกชนชั้นนำของประเทศ โหด เหี้ยม รักใครไม่เป็น เปลี่ยนคู่นอนเป็นว่าเล่น สำหรับเขารักแท้ไม่เคยมีรักดีๆ ก็มีให้ใครไม่ได้ แต่สุดท้ายดันมาตกหลุมรักแม่ของลูกอย่างถอนตัวไม่ขึ้น❤️ "เฟียร์สตีนอยู่ดีๆรู้ตัวอีกทีก็มีลูกสาววัย4ขวบแล้วอ่ะครับ แถมแม่ของลูกทำเอาใจเต้นแรงไม่หยุดเลยนี่เรียกว่าตกหลุมรักใช่ไหมครับ" นลินนิภา อารีย์รักษ์ "ที่รัก" สาวน้อยวัยแรกแย้มบริสุทธิ์ผุดผ่อง ฐานะยากจนสู้ชีวิต เพราะความจำเป็นทำให้เธอต้องตกเป็นของเขา คนนั้นด้วยความเต็มใจ จนทำให้เธอต้องกลายมาเป็นคุณแม่ยังสาวด้วยวัยเพียง 18 ปี แต่แล้ววันหนึ่งโชคชะตาก็เล่นตลกเหวี่ยงให้เธอกลับมาพบกับเขาคนนั้นอีกครั้ง พ่อของลูกคนที่เธอถวิลหาไม่เคยลืม ❤️ "ตกหลุมรักตั้งแต่ครั้งแรก ห่างกันไกลแค่ไหนใจยังคงคิดถึงเธอเสมอ ❤️พ่อของลูก" หนูน้อยแก้มใส กมลชนก อารีย์รักษ์ สาวน้อยวัย 4 ขวบ สดใสร่าเริง ฉลาดมาก ซนมาก แสบมาก เซี้ยวมาก เฟียสมาก ใครเห็นเป็นต้องหลงรักในความช่างพูดและขี้อ้อนของน้อง "ลุงหมอเป็นพ่อขาของแก้มใสเหรอคะ" หนูเป็นลูกของคุณพ่อกฤษฎิ์กับคุณแม่ที่รักค่ะ หนูจะเป็นกามเทพตัวจิ๋วที่จะมาแผลงศรให้คุณพ่อกับคุณแม่รักกัน❤️มาเอาใจช่วยหนูกันด้วยนะคะ
“ท้อง! อย่าบอกนะว่าลูกผม!” ราวกับถูกลากไปตบกลางสี่แยก จารุพัชรรู้สึกหน้าชาเห่อไปทั้งแถบแม้จะยังไม่โดนตบก็เถอะ เธอมีอะไรกับเขาตั้งหลายยกขนาดนั้นแล้วจะให้เป็นลูกใครล่ะ “ลูกแมวมั้งคะ” พอเห็นสายตาเขียวปั๊ดที่พร้อมจะขย้ำหัวเธอได้ทุกเมื่อ “อยู่ในท้องฉันก็ต้องเป็นลูกฉันสิคะ! ลูกฉันคนเดียว” “คุณเป็นปลากัดหรือไง ถึงได้จ้องตากันแล้วท้องเองได้” ก็ถ้ากัดได้ เธอก็อยากกัดหัวเขาเนี่ยแหละคนแรก กวนประสาทดีนัก “ก็คุณบอกฉันเองเมื่อกี้ว่า...อย่าบอกนะว่าท้องลูกผม ฉันก็ไม่บอกแล้วนี่ไงจะเอาอะไรอีกคะ” พูดมาขนาดนี้ เธอก็พอรู้แล้วล่ะว่าเขาไม่ได้ต้องการเธอกับลูก ยังดีที่เขาไม่ใจร้ายบอกให้เธอไปเอาเด็กออก แค่นี้ก็บุญแล้ว “เฮ้อ...ถ้าคุณห่วงว่าฉันกับลูกจะมาทำให้ชื่อเสียงพระเอกซุปเปอร์สตาร์ของคุณต้องพังพินาศล่ะก็ ขอให้คุณสบายใจได้ เพราะฉันไม่ทำอะไรสิ้นคิดแบบนั้นแน่ ต่อไปฉันจะไม่มาให้คุณเห็นหน้าอีก คราวนี้ฉันรับรองได้ ส่วนลูกในท้อง ฉันจะเลี้ยงเขาเอง ไม่ไปรบกวนคุณหรือทำให้แฟนสาวไฮโซของคุณเข้าใจผิดแน่ๆ ไม่ต้องห่วงนะคะ” “พูดจบหรือยัง” ธิเบศเอ่ยด้วยเสียงเย็นเฉียบ ตาเหยี่ยวคมจัดของเขาจ้องหน้าเธอราวกับจ้องเหยื่อพร้อมขย้ำได้ทุกเมื่อ “จบก็ได้ค่ะ เป็นอันว่าคุณเข้าใจแล้วเนอะ งั้นฉันขอตัวก่อนนะคะ” จ้องอะไรเบอร์นั้นนะ ตาดุชะมัด รีบชิ่งหนีก่อนจะโดนกินหัวดีกว่า “เดี๋ยว!” มือที่เตรียมเปิดประตูรถชะงักกึก “คะ...คุณมีอะไรอีกคะ” “ผมบอกคุณซักคำหรือยังว่าจะไม่รับผิดชอบลูก” “หา!” เธอหูฝาดไปใช่ไหม เขาจะรับผิดชอบลูกในท้องเธองั้นเหรอ เป็นไปได้หรือเนี่ย “ถ้าเขาเป็นลูกผมจริงๆ ผมจะรับผิดชอบเขาแน่” “หืม...” หมายความว่าไงวะเนี่ย ยิ่งฟังก็ยิ่งงง “เดี๋ยวนะคะ คุณบอกว่าถ้าเขาเป็นลูกคุณจริงๆ แปลว่าคุณไม่เชื่อว่าเด็กในท้องฉันเป็นลูกคุณงั้นสิ ฉันเข้าใจถูกไหม” “อืม...ก็ทำนองนั้น” คราวนี้ยิ่งกว่าโดนลากไปตบกลางสี่แยก แต่เหมือนโดนเขาสาดหน้าด้วยน้ำกรดซ้ำเข้าไปอีกถังใหญ่ จนหัวใจปวดแสบปวดร้อนไปหมด ตาบ้านี่คิดว่านอกจากเขา เธอยังไปนอนกับคนอื่นจนท้องแล้วมาโมเมว่าเป็นลูกเขาอย่างนั้นเหรอ… ++++++++++++++++++++++++++++
ในสายตาของเขา เธอเป็นคนขี้โกหก ในสายตาของเธอ เขาเป็นคนไร้หัวใจ เดิมทีถังหว่านคิดว่าเธอคือคนพิเศษหลังจากอยู่กับเสิ่นติงหลานมาสองปี แต่สุดท้ายก็พบว่าตัวเองเป็นแค่ของเล่นที่สามารถทิ้งได้อย่างตามใจเมื่อไม่มีค่าอีกต่อไป จนกระทั่งถังหว่านเห็นว่าเสิ่นติงหลานพาคนรักของเขาไปตรวจครรภ์ เธอจึงยอมแพ้แล้ว เธอหยุดติดตามเขาอีก แต่จู่ๆ เขากลับไม่ยอมปล่อยเธอไป "ถ้าคุณไม่เชื่อฉัน ทำไมคุณไม่ปล่อยฉันไปล่ะ?" ชายผู้เคยหยิ่งยะโสขนาดนั้น ตอนนี้ก้มหัวลงและขอร้องว่า "หวานหว่าน ฉันผิดไปแล้ว โปรดอย่าทิ้งฉันไป"
© 2018-now MeghaBook
บนสุด
GOOGLE PLAY