เมื่อเพื่อนสาวที่เคยอยู่ในกลุ่มตั้งท้อง และทิ้งลูกสาวไว้ให้เขาเลี้ยง แต่โชคชะตากลับกลั่นแกล้งแยกเขากับลูกเลี้ยงให้แยกจากกัน จนวันที่ฟ้าลิขิตให้เขา และเธอกลับมาพบกันอีกครั้งในฐานะใหม่ ฐานะที่ไม่ใช่พ่อเลี้ยงกับลูกเลี้ยง ไม่คิดเลยว่าเด็กสาวที่เคยเลี้ยงมาจะซ่าจะแซ่บได้ขนาดนี้ "ตราบใดที่ลินยังไม่เบื่อ ใครหน้าไหนก็ไม่มีสิทธิ์ได้ปะป๊าไปทั้งนั้น"
"อุแว๊! อุแว๊! อุแว๊! "
เสียงเด็กทารกร้องอยู่ที่หน้าบ้านเศรษฐีในหมู่บ้านหรูแห่งหนึ่งกลางเมืองกรุงเทพมหานครฯ ทำให้ชายหนุ่มที่เล่น ROV อยู่ที่ห้องรับแขกของบ้านต้องเงยหน้าขึ้นเมื่อมีคนสวนรีบวิ่งเข้ามาเพื่อบอกกล่าว
"คุณนนท์ครับคุณนนท์"
"ครับลุง"
บุญมา ทำหน้าที่เป็นคนสวนของบ้านที่ใหญ่โตหลังนี้ก่อนหน้านี้เขากำลังตัดแต่งต้นไม้พุ่มไม้อยู่หน้าบ้าน ทว่าเมื่อตอนที่จะเดินไปเอาน้ำจากกระติกมาดื่มเพื่อดับกระหายหูเขาก็ได้ยินเสียงเด็กน้อยร้องอยู่หน้าบ้านจึงรีบวิ่งไปดู
"ไอ้หนู มาร้องอะไรตรงนี้เนี่ย"
เขามองซ้ายมองขวาหาแม่ของเด็กน้อยที่ร้องไห้จนคอแหบคอแห้งแต่ก็ไม่พบใครจึงถือวิสาสะอุ้มขึ้นแนบอกเพราะสงสารเด็กตัวเล็กที่เพิ่งจะลืมตาดูโลกได้ไม่นาน เพราะตัวยังแดงๆ อยู่เลย
เขาตัดสินใจอุ้มเด็กน้อยเข้ามาในเขตบ้านแล้ววิ่งเข้าไปหมายจะเข้าไปหาเจ้านายหนุ่มที่ในอนาคตจะได้รับช่วงต่อดูแลธุรกิจจากคุณตุลย์ผู้เป็นพ่อ ก่อนเดินเข้าไปหาชายหนุ่มเขาวางเด็กน้อยเอาไว้ทางเข้าประตูหน้าบ้าน เธอดูเป็นเด็กเลี้ยงง่ายเพราะตั้งแต่ที่เขาอุ้มแนบอกเธอก็หยุดร้องไห้ในทันที
"มีอะไรรึเปล่าครับลุง"
ชานนท์ละความสนใจจากเกมในมือถือแล้วเงยหน้ามองลุงบุญที่เพิ่งเดินเข้ามาใหม่ ลุงบุญนั่งลงคุกเข่าอยู่ต่อหน้าเจ้านายหนุ่มก่อนจะเอ่ยคำพูดออกมาที่ทำให้ชานนท์ถึงกับ งง
"มีเด็กแดงๆ มาร้องอยู่หน้าบ้านครับ"
"หะ! เด็กแดงๆ อะไรลุง"
"ผมหมายถึงเด็กน้อยมาร้องอยู่หน้าบ้านครับ"
"เอ้า! ลุงก็ไปตามแม่เด็กสิ อย่าปล่อยให้ร้องนานเดี๋ยวไม่สบาย ไม่มีไรแล้วใช่ไหมลุงผมจะเล่นเกม"
ลุงบุญมาไม่รู้จะทำยังไงจึงเดินคอตกออกไปแต่ทว่าเหมือนโชคเข้าข้างเมื่อเด็กน้อยที่เขาแอบวางเอาไว้หน้าบ้านเปล่งเสียงร้องออกมาอีกครั้งทำให้ชายหนุ่มที่กำลังจะก้มหน้าเล่นเกมอยู่ต้องเงยหน้าขึ้นมาอีกครั้ง
เด็กแดงๆ ร้องไห้อยู่หน้าบ้าน คงไม่ได้หมายถึงเด็กทารกหรอกนะ
"อุแว๊ อุแว๊ อุแว๊"
ชานนท์รีบหยัดกายลุกขึ้นยืนจนเต็มความสูงเขาเก็บโทรศัพท์มือถือเอาไว้ในกระเป๋ากางเกงขาสั้นข้างขวาแล้วรีบเดินแซงหน้าลุงบุญมาออกไปหน้าบ้านทันที
"เด็กแดงๆ หมายถึงตัวนี้หรือเปล่าครับลุง"
"ครับ"
ชานนท์ยกมือกุมขมับทันทีทำไมหนอทำไม เขาต้องมาเจอกับเรื่องอะไรแบบนี้ด้วยชานนท์รีบอุ้มเด็กน้อยขึ้นแนบอกแล้วเดินเข้าไปในบ้าน เด็กน้อยในอ้อมอกของเขานิ่ง และเงียบกริบหลับปุ๋ยราวกับรับรู้ว่าได้อยู่ในที่ที่ปลอดภัยแล้วอย่างไรอย่างนั้น ใบหน้าของเธอจิ้มลิ้มน่ารัก แล้วยิ่งเธอหลับเขายิ่งไม่อยากวาง
ราวกับดวงชะตาต้องกันชานนท์มองหน้าเด็กน้อยราวกับตกอยู่ในภวังค์ ความน่ารัก ความไร้เดียงสาของเธอมันทำให้เขาอดที่จะสงสารเธอไม่ได้ทั้งๆ ที่เธอก็น่ารักตั้งขนาดนี้ แต่ทำไม ทำไมเธอถึงไม่มีใครเอา
"ลุงบุญครับผมรบกวนช่วยไปตามป้าบุษมาที"
บุษบาเป็นแม่บ้านของเขาที่มีลูกติดชื่อสาลี่มาอาศัยอยู่ด้วยชานนท์เห็นว่าบุษบาเคยมีลูกมาก่อนจึงใช้ให้ลุงบุญไปตามเธอมาระหว่างที่กำลังรอ ดวงตาคมของเขาก็เหลือบเห็นแผ่นกระดาษหนึ่งแผ่นแนบมากับอกของหนูน้อยด้วย
'ถึงนนท์
เราเองนะละอองดาวเราขอโทษที่เคยร้ายกับเธอ และเพื่อนๆ ตอนนี้เรากำลังเดือดร้อนเราท้องไม่มีพ่อ และหนีหนี้อย่างหัวซุกหัวซุน เราไม่มีทางเลือกอื่นแล้วจริงๆ เราขอฝากลูกสาวของเราไว้ที่นนท์ก่อนได้ไหม เมื่อไหร่ที่เราใช้หนี้หมดแล้วเราสัญญาเราจะรีบกลับมารับลูกทันทีไม่ต้องห่วงเรื่องกฎหมายเราจัดการทุกอย่าง อย่างถูกต้องเรียบร้อยแล้ว ขอโทษด้วยนะที่รบกวนแต่เราไม่มีที่พึ่งแล้วจริงๆ แม่เราก็แก่มากแล้วคงดูเด็กไม่ไหว จะให้น้ำพั้นช์ช่วยเราก็ไม่กล้า หน้าเรามันไม่ได้ด้านขนาดนั้นแล้ว นนท์ช่วยเราหน่อยนะถือว่าสงสารลูกหมาลูกแมวก็ได้ แล้วเราจะพยายามหาทางติดต่อมานะ
ละอองดาว'
ทันทีที่ได้อ่านจดหมายจากอดีตเพื่อนชานนท์แทบทรุดลงไปนั่งหากไม่ติดว่าอุ้มเด็กน้อยในอ้อมกอดเอาไว้เขาคงลงไปนอนแดดิ้นอยู่ที่พื้นเรียบร้อยแล้ว
หลังจากที่เขาตั้งสติมาพักหนึ่งโดยที่ท่อนแขนแกร่งก็ยังคงอุ้มเด็กน้อยเอาไว้ตลอดเวลา เขาได้ส่งข้อความบอกเพื่อนๆ ถึงเรื่องที่เกิดขึ้นจนน้ำพั้นช์ มาร์ติน พาทิศ และวิปครีม มาหาเพราะเป็นห่วง พวกเขาอยู่กันไม่นานก็กลับ ทิ้งไว้เพียงแค่ชายหนุ่มที่ไม่รู้อีโหน่อีเหน่ก็กลายเป็นพ่อคนไปด้วยวัยเพียงยี่สิบห้าปีไปโดยปริยาย
"คุณนนท์จะให้บุษเตรียมห้องนอนให้น้องไหมคะ"
"เตรียมไว้ที่ห้องของผมก็ได้ครับ"
"แล้วเราควรจะเรียกน้องว่าอะไรดีคะ"
"อืมมมม" ชายหนุ่มก้มมองใบหน้าไร้เดียงสาของเด็กน้อยในอ้อมกอด เขาระบายยิ้มออกมาแล้วกดจมูกโด่งลงไปที่พวงแก้มป่องของเด็กน้อย
"น้องลินครับ น้องพลอยไพลิน"
ชานนท์ตัดสินใจช่วยเหลือละอองดาวแต่ไม่ใช่เพราะมีความรู้สึกดีๆ ให้เธอเขาแค่รู้สึกสงสารเด็กน้อยก็เท่านั้นสงสารที่มีแม่แบบนั้นเธอไม่น่าเกิดมาผิดที่เลย ขณะที่กำลังเดินเข้าห้องนอนของตัวเองพร้อมกับเด็กน้อยพลอยไพลินเขาก็นึกถึงคำพูดที่เคยคุยกับเพื่อนเอาไว้
"สวัสดีค่ะ คุณวิปครีม ป้าชื่อแอนนะคะ เป็นแม่นมของคุณหนูพลอยไพลิน"
"สวัสดีค่ะป้าแอน"
"นนท์แกตั้งชื่อให้น้องเหรอ ชื่อโคตรเพราะเลย"
"ใช่"
"แต่ฉันว่ามันแปลกๆ นะ"
"ยังไง"
"มันเป็นชื่อที่แกเคยพูดว่าจะเอาผู้หญิงชื่อพลอยไพลินทำเมียไม่ใช่เหรอวะ เพราะแกชอบชื่อนี้มันเพราะดี"
- 12:05 AM –
"อุแว๊ อุแว๊ อุแว๊"
น้องพลอยไพลินร้องไห้เมื่อเธอลืมตาตื่นขึ้นมาแล้วเจอกับความมืดเด็กน้อยที่เพิ่งลืมตาดูโลกได้ไม่กี่วันต้องพบกับความมืดท้องน้อยๆ ของเธอกำลังร้องเรียกขออาหารโดยที่คุณพ่อยังหนุ่มยังไม่รู้ว่าที่เธอร้องแบบนี้มันหมายความว่ายังไงเขาลืมตาตื่นขึ้นมาเพราะเสียงร้องของลูกเพื่อน
"อือออออ"
ชานนท์ผงกศีรษะขึ้นเพื่อดูว่าน้องพลอยไพลินต้องการอะไรเขาจับร่างเล็กพลิกไปพลิกมาเพื่อดูความเรียบร้อยแต่น้องพลอยไพลินก็ยังไม่หยุดร้องไห้
"ก็ไม่ได้อึนี่ครับ น้องลินร้องทำไมครับ"
"อุแว๊ อุแว๊ อุแว๊"
เขาตัดสินใจวอหาป้าบุษบาทันทีเพราะเขาเองก็จนใจไม่รู้จริงๆ ว่าน้องพลอยไพลินต้องการอะไรจนป้าบุษบาเดินเข้ามาอุ้มคุณหนูน้อยขึ้นเช็กไปเช็กมาถึงได้รู้ว่าเธอหิวนม ป้าบุษบาสอนชานนท์ป้อนนมคุณหนูน้อยจนเขาเข้าใจแล้วให้ป้าบุษบาไปพัก
- บริษัทหมู่บ้านจัดสรรของชานนท์ –
ประธานบริษัทเดินเข้ามาพร้อมกับเด็กน้อยวัยทารกในอ้อมอกต่างเป็นจุดสนใจของพนักงานที่มองเข้ามาแม้จะมีการทำความเคารพเขาตามปกติแต่ก็ไม่วายมีเสียงซุบซิบนินทากันอย่างหนาหู
"เอ้าๆๆๆ ยังอยากมีงานทำกันอยู่ไหม เจ้านายจะพาใครมาก็เรื่องของเขาไปนอนใต้เตียงเขามารึ"
หลังจากวันนั้นหลายเดือนน้องพลอยไพลินต่างก็เป็นที่รักของคนที่บริษัทเพราะชานนท์พาเธอมาทำงานด้วยทุกวัน แม้กระทั่งเข้าประชุมเขาก็พาเธอเข้าไปด้วย และเรื่องราวของเขาก็ถูกแพร่กระจายไปตามโซเชียลที่อยู่ๆ ก็มีลูกจนเขาได้ฉายา
'พ่อม่ายทรงเสน่ห์'
เขาเป็นทนายหนุ่มหล่อมากความสามารถที่เพรียบพร้อมไปเสียทุกอย่าง ไม่ว่าจะเป็นรูปร่างหน้าตา การศึกษา ฐานะทางบ้าน สังคม เรียกได้ว่าเนื้อหอมในหมู่สาวๆ ไม่ว่าจะโสด ซิง หรือมีคู่ครองแล้วหากเสนอให้เขาก็พร้อมจะสนองทุกเมื่อ สาวๆ ต่างอยากควบคุม และครอบครองเขา แม้จะรู้อยู่เต็มอกว่าคนอย่างเขาน่ะ 'รักสนุก แต่ไม่ผูกพัน' ก็ตาม คนอย่างเขาไม่เคยคิดหยุดอยู่ที่ใคร ความซิงไม่สามารถผูกมัดเขาได้ จนกระทั่ง... เธอเดินเข้ามาในชีวิตเขา
❤ โปรเจกต์สุดฮอตต้อนรับวาเลนไทน์ Match Love Valentines ❤ เรื่องราวของสาวขี้เหงาทั้งสี่คนที่เกิดอาการ เปลี่ยวใจอยากมีใครสักคน เลยต้องเข้าแอปหาคู่อย่าง MATCH LOVE เพื่อตามหาคู่เดตที่มาทำให้วาเลนไทน์ของพวกเธอ ไม่ต้องเหงาใจอีกต่อไป และแอปนี้ก็เป็นจุดเริ่มต้นของการแมตช์รักของพวกเธอ...แต่ก็ใช่ว่าทุกคนจะสมหวังจากแอปหาคู่สักหน่อย? ไปลุ้นกันว่าแอปนี้จะช่วยให้พวกเธอสละโสดได้ไหม...!!!!
เธอทำให้เขารัก เธอทำให้เขาแค้น และก็เป็นเธอที่กลับมาวนเวียนอยู่ข้างกายเขา เขาที่พยายามลืมความรักของเธอกดความเจ็บแค้นเอาไว้ในส่วนลึกสุดของหัวใจ เธอทำให้เขารู้จักคำว่า "ทั้งรัก ทั้งแค้น" เป็นอย่างดี ในเมื่อเธอเลือกจะกลับมาเขาก็จะสาดความเจ็บแค้นคืนกลับไปให้เธอได้รู้สึก ให้เธอได้รู้สึกถึงความเจ็บช้ำที่ไม่มีวันลืมได้ลง
"ไม่ใช่ นี่มันเกียร์ฉัน!" "Oh! ขะ ... ขอโทษค่ะ ขอโทษ ก็คุณลุงไม่ให้มองมิลก์ก็กำผิดกำถูกสิคะ แล้วข้ามมาทำไมตอนรถไม่นิ่งละคะ" "ใครมันจะไปคิด ว่าเธอจะคิดทำมิดีมิร้ายกับฉันเล่า" "มิลก์เหรอคะ ที่คิดทำมิดีมิร้ายกับคุณลุงน่ะ ไม่ใช่ใช่คุณลุงเหรอคะ มาสอนมิลก์ขับรถแท้ๆ ตรงนั้นยังจะตั้งอยู่อีก"
ผอ. หนุ่มสุดหื่น พ่อปลาไหลตัวพ่อ รักและหวงความโสดยิ่งกว่าชีวิต ใช้เงินแก้ปัญหาทุกอย่างจนมาเจอเธอ หญิงสาวที่เขาจ่ายเท่าไหร่ก็ไม่เคยได้ใจเธอสักที ความอยากเอาชนะของเขามันเป็นบ่อเกิดความรักที่ก่อขึ้นมาโดยไม่รู้ตัว
จางหยู่เสวียน เดิมทีเป็นสตรีปากร้ายและถูกผีพนันเข้าสิงจนไม่ใส่ใจลูกและสามีที่เกิดอุบัติเหตุจนพิการไป สตรีนางนั้นก็เริ่มทอดทิ้งสามีแล้วเลือกที่จะทอดสะพานให้บัณฑิตหนุ่มหน้าตาดีคนหนึ่ง จนทำให้ภรรยาของเขาเกิดความหึงหวงผลักนางตกน้ำจนพบจุดจบที่น่าอดสู ทว่าเมื่อจางหยู่เสวียน นักฆ่าสาว เจ้าของรหัสหมายเลข 13 ในองค์กรนักฆ่าระดับโลกมีเหตุให้ถูกฆ่าตาย เนื่องจากไม่ยอมสังหารคนดี เธอจึงได้รับโอกาสใหม่จากสวรรค์เพื่อตอบแทนความดีครั้งนี้ในการมาเกิดใหม่ในร่างคนอื่นในยุคจีนโบราณ ทว่าเจ้าของร่างเดิมนั้นทำตัวเหลวแหลก ไม่เคยใส่ใจความรู้สึกของครอบครัว จนถึงขนาดคิดขายลูกกิน นักฆ่าสาวที่ข้ามเวลามาจากอนาคตจึงต้องทำทุกทางเพื่อแก้ไขเรื่องราวที่ยุ่งเหยิงนี้ ก่อนที่จะมีจุดจบเลวร้ายไม่ต่างไปจากเจ้าของร่างเดิม ชีวิตใหม่ครั้งนี้ นางจะใช้มันอย่างดีเพื่อดูแลครอบครัวนี้ให้มีความสุข และลบแผลใจแย่ๆ ให้หมดไปจากทุกคนในครอบครัว "ท่านแม่จะทิ้งเราเหรอ!" ไม่รู้เด็ก ๆ ที่วิ่งเล่นกันอยู่ด้านนอกเข้ามาได้ยินที่ประโยคไหน เข้าใจว่าผู้เป็นแม่จะออกไปและไม่กลับมาอีก สองพี่น้องกอดหมับที่ขามารดาคนละข้าง ทิ้งน้ำหนักลงพื้นเต็มที่ หากจะไปพวกเขาจะเกาะหนึบนางไปเช่นนี้ "ท่านแม่อย่าทิ้งข้าเลยนะเจ้า" ซ่งอวี้หลานร้องไห้โฮ น้ำตาทะลักออกจนชายชุดนางชุ่มในเวลาไม่กี่พริบตา ทางด้านซ่งหยวนหมิงก็รู้สึกว่าจะแพ้ไม่ได้ เลยกลั้นใจบีบน้ำตาจนหน้าแดง เห็นลูกทุ่มเทช่วยเขาขนาดนี้ ซ่งอี้หนานก็คุกเข่าลง ประคองมือนางไว้ไม่ปล่อย ใบหน้าคมคายจากมุมมองที่สูงกว่า ทำให้เขาดูคล้ายสุนัขตัวโต "ข้า เอ่อ" จางหยู่เสวียนพูดไม่ออก
ในเมื่อความปรารถนาสูงสุดของอีกฝ่ายไม่ใช่ครอบครัว เธอจึงกลายเป็นคนที่เขาอยากเขี่ยทิ้งไปให้พ้นตัว เหตุผลที่เขาก้าวเข้ามาในชีวิตของเธอ ใช้ถ้อยคำหวานหลอกล่อจนหญิงสาวตายใจ ในที่สุดเธอก็ได้ตัดสินใจแต่งานกับเขาอย่างไม่มีข้อแม้ใด ๆ ท้ายที่สุดแล้วความจริงก็ปรากฏขึ้น เพราะปรเมศเข้าใจผิด คิดว่าเขมิกาคือสาเหตุที่ทำให้ผู้เป็นมารดาของเขาต้องจากโลกนี้ไปโดยไม่ได้เอ่ยคำบอกลา “เขมท้อง!” หญิงสาวตัดสินใจพูดเรื่องทารกน้อยในครรภ์ เพราะลึก ๆ แล้วยังแอบหวังที่จะได้อยู่กับครอบครัวพร้อมหน้าพร้อมตา อารมณ์ของเขมมิกาแปรปรวน เธอเองไม่อาจควบคุมได้ บางทีก็คิดอยากอยู่ประเดี๋ยวก็อยากไป “กี่เดือน” “หกสัปดาห์แล้วค่ะ” “เด็กคนนี้เป็นลูกของใคร” “คุณปรเมศ!” เขมมิการู้สึกผิดหวังในตัวชายหนุ่ม เขาไม่ควรตั้งคำถามนี้กับเธอ “เอาเด็กนั่นออกซะ! นี่คือเงินที่ผมจะจ่ายให้กับคุณ นับจากนี้ไปเราสองคนเป็นเพียงแค่คนแปลกหน้าสำหรับกัน” “คุณคิดดีแล้วใช่ไหมคะ” “ผมไม่เคยลังเลที่อยากเก็บเด็กคนนี้เอาไว้เลยสักนิด” คำตอบที่ได้ทำเอาหญิงสาวพูดไม่ออก มันจุกในอกเสียจนเธอแทบเสียสติ แต่ก็กลับมาได้เพราะทารกน้อย เธอต้องปกป้องเด็กคนนี้ให้ถึงที่สุด ปรเมศจะต้องเสียใจกับถ้อยคำที่เขาพูดกับเธอในวันนี้
คุณท่านเสียว คุณชายยอดเยี่ยมที่โด่งดังในเมือง B ได้แต่งงาน แต่มีข่าวลือว่าเจ้าสาวมีรูปร่างหน้าตาที่น่าเกลียดและมีฐานะต่ำต้อย สามปีมานี้ เขาปฏิบัติกับเธออย่างเย็นชาและทำเหมือนเป็นคนแปลกหน้า เจียงซิงซิงอดทนกับความเย็นชาอย่างเงียบ ๆ เธอยังคงรักเขาอย่างสุดหัวใจ เสียสละความนับถือตนเองและยอมละทิ้งตัวตนของเธอเอง จนกระทั่งวันหนึ่ง สุดที่รักของเขากลับประเทศ เขได้สารภาพว่าเขาแต่งงานกับเธอเพียงเพื่อช่วยชีวิตคนรักในใจของเขาเท่านั้น เจียงซิงซิงเสียใจและผิดหวังมาก เธอจึงเซ็นเอกสารหย่าและจากไปด้วยความเศร้าใจ สามปีต่อมา เจียงซิงซิงผู้สวยงามจนน่าทึ่งกลับมาอีกครั้ง ได้กลายมาเป็นศัลยแพทย์ที่ดีที่สุดและเป็นยอดฝีมือด้านเปียโน อดีตสามีรู้สึกเสียใจ และกอดเธอแน่นท่ามกลางสายฝน เสียงของเขาสั่นเครือ "ที่รัก คุณเป็นของผม..."
สำหรับเขาผู้หญิงก็เป็นได้แค่ที่ระบายความใคร่ เขาไม่เคยมีความรักไม่เคยรักใคร แต่พอได้มาเจอเธอ เพื่อนของน้องสาวเขา ใจที่ด้านชากลับเต้นแรงขึ้นมาอีกครั้ง…
หวังฉีหลิน อายุ 25 ปีสาวเจ้าหน้าที่การเกษตรและพ่วงมาด้วยเจ้าของสวนสมุนไพรรายใหญ่ เสียชีวิตกระทันหันหลังจากกลับมาจากท่องเที่ยวพักผ่อนและเธอได้เก็บเอาก้อนหินสีรุ้งมาจากพระราชวังโปตาลามาได้เพียงสามเดือน ด้วยอุบัติเหตุทางรถยนต์ หากตายไปแล้วก็ไม่เป็นไรเพราะเธอเองเติบโตมาอย่างโดดเดี่ยวในสถานเลี้ยงเด็กกำพร้าจนกระทั่งมีอายุได้ 18ปี ถึงได้ออกไปใช้ชีวิตด้วยตัวเองตอนนี้เธอ ไม่มีอะไรให้ต้องห่วงแล้ว เพียงแต่เสียดายที่เธอยังไม่ได้ทำตามความฝันของตัวเองเลย เฮ้อ ชีวิตคนเรานั้นมันแสนสั้น อายุ25 แฟนไม่เคยมี สามียังอยากได้ ไหนจะลูกๆที่ฝันอยากจะมีอีก คงต้องหยุดความหวังและความฝันเอาไว้เท่านี้ เหนือสิ่งอื่นใด ตายแล้วตายเลยจะไม่ว่า แต่ดันตื่นขึ้นมาในร่างหญิงชาวนายากจน ชื่อหวังฉีหลินเช่นเดียวกับเธอพ่วงมาด้วยภาระชิ้นใหญ่ อย่างสามีที่ป่วยติดเตียงและลูกชายฝาแฝดทั้งสอง แถมยังมีภาระชิ้นใหญ่ม๊ากกกมาก กอไกล่ล้านตัวอย่างพ่อแม่สามีและน้องๆของสามี ที่โดนบ้านสายหลักกดขี่ข่มเหงรังแก เอารัดเอาเปรียบและบังคับแยกบ้านหลังจากที่สามีของนางได้รับบาดเจ็บสาหัส สาเหตุที่หวังฉีหลินต้องมาตายไปนั้นเพราะโดนลูกสะใภ้บ้านสายหลักผลักตกเขาระหว่างที่กำลังยื้อแย่งโสมคนที่หวังฉีหลินขุดมาได้
เสิ่นชิงกลายเป็นลูกสาวของชาวนาจากคุณหนูที่ร่ำรวยของตระกูลเสิ่นในชั่วข้ามคืน ลูกสาวตัวจริงใส่ร้ายเธอ คู่หมั้นของเธอทำให้เธออับอาย และพ่อแม่บุญธรรมของเธอก็ไล่เธอออกจากบ้าน... ทุกคนต่างรอที่จะหัวเราะเยาะเธอ ทว่าเธอกลับกลายเป็นทายาทของตระกูลเศรษฐีในเมืองอย่างกะทันหัน นอกจาดนี้ เธอยังมีตัวตนหลากหลาย เช่น หัวหน้าแฮ็กเกอร์ระดับนานาชาติ นักออกแบบเครื่องประดับชั้นนำ นักเขียนผู้ยิ่งใหญ่ที่ลึกลับ และอัจฉริยะด้านการแพทย์! พ่อแม่บุญธรรมเสียใจกับการตัดสินใจของตนและบังคับให้เธอแบ่งทรัพย์สินครึ่งหนึ่งให้เพราะพวกเขาเลี้ยงดูเธอมา เมื่อเสิ่นชิงหยิบกล้องออกมาแล้วบันทึกท่าทางอันน่าเกลียดของพวกเขา อดีตคู่หมั้นรู้สึกเสียใจและพยายามจะคืนดีกับเธอ เสิ่นชิงหัวเราะเยาะ "เขาคู่ควรงั้นเหรอ" จากนั้นก็ไล่เขาออกจากเมือง ในที่สุด ผู้มีอำนาจแห่งเมืองก็พูดอ้อนวอนเบาๆ "ไม่จำเป็นต้องแต่งเข้าตระกูลผม เดี๋ยวผมไปหาเอง"