เมื่อนักฆ่าแนวหน้าของวงการสังหาร ต้องเกิดใหม่ในร่างของเด็กหนุ่มแสนซื่อที่กำลังตั้งครรภ์ทายาทของเจ้าพ่อมาเฟีย
Prologue
ดีแลนเป็นนักฆ่าแนวหน้าของวงการสังหาร ฉายายมทูตรัตติกาลยังคงเป็นตำนานที่หากใครได้ฟังคงเสียวสันหลังพิลึก ตำนานถูกเล่าขานกันปากต่อปากไม่มีใครที่ไม่รู้จักเขาและไม่มีใครที่อยากผันตัวไปเป็นศัตรูกับอีกฝ่ายที่มีฉายายมทูตรัตติกาลเช่นกัน
เพียงแค่ได้ยินชื่อก็ขนพองสยองเกล้า บ้างก็ว่าดีแลนเป็นชายหนุ่มรูปร่างสูงใหญ่ฆ่าคนในเงามืดอย่างเลือดเย็น แล้วจากไปก่อนอาทิตย์ฉายแสงเสมอ บ้างก็ว่าเขาเป็นชายหนุ่มรูปร่างเพรียวบางสมส่วนแสนอ้อนแอ้นที่มีใบหน้างดงามเป็นอาวุธ บ้างก็ว่าเขาเป็นเพียงเด็กหนุ่มอายุสิบแปด ที่บ้าระห่ำฆ่าคนไม่เลือกเสียมากกว่า
ข้อสุดท้ายคงเชื่อได้ยากไม่มีใครเชื่อข้อสันนิษฐานข้อนี้ แต่มันคือเรื่องจริงแค่ส่วนเดียวเท่านั้น
ดีแลนอยู่ในวงการนักฆ่ามาตั้งแต่สี่ขวบ เขาถูกสอนให้เป็นผู้ล่ามาตั้งแต่เด็กเรียนรู้สิ่งรอบข้าง แต่ละวันจะมีคนพาดีแลนมานั่งดูการทรมานผู้คนการฆ่าฟันตัดหัวเหยื่ออย่างเหี้ยมโหด
การทารุณกรรมเหยื่อให้ตายอย่างช้า ๆ ความรุนแรงนั้นเกินกว่าที่เด็กสี่ขวบคนหนึ่งจะรับไหว ในไม่ช้าดีแลนก็ค่อย ๆ ซึมซับมัน เมื่อเขาเดินได้คล่องพูดได้ชัดเจนเขาก็เริ่มจับมีด งานแรกของดีแลนคือการลงมือสังหารเจ้าสัตว์ตัวเล็กดวงตากลมโตใสซื่อคู่นั้นจดจ้องมาที่เขา
หูหางของมันลู่ลงต่ำจิตใจของเด็กน้อยดีแลนสั่นไหวเขาไม่อยากฆ่ามัน เขาทำไม่ได้...
หลังจากนั้นเขากลับถูกขังอยู่ในห้องมืด กลิ่นคาวเลือดแห้งกรังชวนอาเจียนลอยคละคลุ้งอยู่ในอากาศ เสียงโหยหวนดังแว่วอยู่ในหูแทบจะตลอดเวลา ดีแลนกรีดร้องจนตัวโยนลำคอของเด็กน้อยแห้งผากจากการกรีดร้องและขาดน้ำมาเป็นเวลานาน มือเล็ก ๆ คู่นั้นทุบประตูเหล็กกระดูกมือของเด็กน้อยแตกร้าวจนแทบจะกระดิกไม่ได้ เสียงแหลมเล็กยังคงกรีดร้องโหยหวนแม้จะมีเพียงเสียงเบาหวิวออกมาจากลำคอเล็กราวกับว่าจะขาดใจได้ทุกเมื่อ
เสียงนั้นดังขึ้นเป็นระยะภายในห้องเหล็กสี่เหลี่ยมคับแคบ เวลาผันผ่านไปหลังจากนั้นหนึ่งเดือนร่างเล็กจ้อยของดีแลนกลับไปยืนอยู่จุดเดิม นัยน์ตาสีน้ำตาลอ่อนของเด็กน้อยจับจ้องไปยังดวงตาแสนใสซื่อของสัตว์ตัวน้อยที่อยู่เบื้องหน้าอีกครั้งมือที่ถูกปกคลุมไปด้วยผ้าพันแผลกำมีดปอกเปลือกผลไม้ไว้แน่น
ความเป็นมนุษย์ของเด็กน้อยถูกฝังลึกลงไปในจิตใจนัยน์ตาเปล่งประกายแสนใสซื่อคู่นั้นแปรเปลี่ยนเป็นเฉยชาตามกาลเวลาจากการถูกทรมานซ้ำแล้วซ้ำเล่า
สิ่งมีชีวิตตัวน้อยแสนบริสุทธิ์ไม่มีอีกแล้ว..
เขากลายเป็นสัตว์ประหลาดราวกับเครื่องมือสังหารมนุษย์ที่ทำทุกอย่างที่พวกมันบงการไม่มีขัด พวกมันจึงเชื่อใจเด็กหนุ่มที่ราวกับสุนัขรับใช้แสนซื่อสัตย์เสมอ
หารู้ไม่ว่าสุนัขที่พวกมันเลี้ยงไว้ไม่เคยมองพวกมันเป็นเจ้าของเลยสักครั้ง
เขาซ่อนปืนไว้มิดชิดรอวันปลิดชีพพวกสัตว์นรกให้สิ้นซาก ไว้ใจเขาให้มากเผยข้อมูลมาให้หมดยิ่งดีเวลาสิบกว่าปีทำให้เขารู้จักพวกมันดียิ่งกว่าใคร เพื่อนพ้องที่ใช้งานไม่ได้ก็คือขยะที่รอวันถูกกำจัดโดยพวกเดรัจฉานที่ตั้งตัวเป็นใหญ่เหนือใคร นัยน์ตาของดีแลนว่างเปล่าใบหน้าเรียบนิ่งไร้ความรู้สึกราวกับว่าในโลกนี้ไม่มีสิ่งใดที่สามารถทำให้ใบหน้าแสนเย็นชานี้กลับมามีอารมณ์อื่นได้อีก เด็กหนุ่มไม่สามารถทนมองสหายที่มีอยู่เพียงน้อยนิดในชีวิตแสนมืดมิดไร้แสงอย่างเขาต้องถูกทารุณกรรมต่อหน้าซ้ำแล้วซ้ำเล่าอีกแล้ว
ภายนอกที่เรียบนิ่งไร้ความรู้สึกออกมาให้เห็นใครเล่าจะล่วงรู้ว่าภายในความนิ่งสงบนั้นกรีดร้องร่ำไห้ไปแล้วไม่รู้กี่ครั้ง เด็กหนุ่มเคียดแค้นชิงชังนัยน์คมคู่นั้นกวาดตามอง
จดจำใบหน้าของพวกมันทุกตัว
ขายาวคู่หนึ่งก้าวเข้าไปในห้องสี่เหลี่ยมแคบ ๆ หยาดน้ำสีใสไหลรินแต่กลับไม่มีเสียงสะอื้นหลุดออกมาให้ได้ยินแม้แต่น้อย มือหยาบกร้านล้วงลงไปในหีบใต้เตียงภายในบรรจุระเบิดเวลาหลายสิบอันวางเรียงรายไร้พื้นที่ว่าง วันเวลาถูกคำนวณไว้ล่วงหน้าทันทีที่เพื่อนร่วมชะตาถูกส่งไปทำภารกิจให้พวกเดรัจฉานที่นั่งเสวยสุขอยู่บนกองเงินกองทองในขณะที่พวกพ้องของเขาต้องออกไปเสี่ยงตายครั้งแล้วครั้งเล่า
สองมือคู่นี้อาบไปด้วยกลิ่นคาวเลือดที่ต่อให้ชำระล้างสักกี่ครั้งกลิ่นคาวนั้นก็ไม่มีวันจางหาย ชีวิตที่ต้องหลบซ่อนหนีหัวซุกหัวซุนราวหนูท่อที่ถูกล่าเพื่อให้พวกสัตว์นรกเสพสุขอยู่บนกองเงินกองทองที่สุนัขรับใช้อย่างพวกเขาหามาให้
เสื้อคลุมตัวใหญ่ยาวสีทึบบรรจุของจนเต็ม มันหนักมากกว่าสิบกิโลและยิ่งหนักมากอึ้งมากกว่าเดิมหลายเท่าเมื่อจุดหมายปลายทางของมันคือการคร่าชีวิตผู้คนนับร้อยชีวิต ดีแลนเดินไปตามทางเขาเปิดจุดเชื่อมไฟพร้อมยัดแท่งเหล็กลงไปตัวเลขบนสีแดงบนแท่งเหล็กนั้นบ่งบอกเวลาที่กำลังนับถอยหลัง
เวลาที่มัจจุราชจะพรากดวงวิญญาณหลายร้อยชีวิตจากเดรัจฉานในคราบมนุษย์
ไม่เว้นแม้แต่ตัวของเด็กหนุ่มเองก็ตาม
เส้นทางที่คุ้นเคยจุดลับที่เฝ้าเสาะหาต่างเต็มไปด้วยเครื่องมือสังหารหมู่ที่จัดเตรียมไว้หลายปี ดีแลนยิ้มเยาะร่างกำยำทิ้งตัวพิงกำแพงริมฝีปากบางเฉียบนับถอยหลังให้กับเวลาชีวิตของตนเองอย่างไร้เสียง
เวลาที่ลมหายใจจะถูกพรากจากไปใกล้เข้ามาทุกทีกระนั้นบนใบหน้าเย็นชากลับเผยรอยยิ้มขึ้นมาอย่างยากจะได้เห็น
ตื่นเต้นเหลือเกินมีความสุขเหลือเกินที่จะหลุดพ้นจากนรกขุมนี้เสียที
พวกมันรอบคอบเสมอผลัดเปลี่ยนเวรตรวจตราเมื่อครบสิบนาทีทุกจุดในฐานลับจะถูกตรวจสอบ หากเวลาและสถานที่คลาดเคลื่อนเพียงนิดคนที่ตายไปคงมีแค่เขาเพียงผู้เดียว
เปลือกตาถูกปิดลงเวลาชีวิตนับถอยหลังทุกขณะในที่สุดมือเปื้อนเลือดคู่นี้จะได้พักเสียที ณ เวลานั้นเด็กหนุ่มกลับนึกย้อนไปในอดีต ริมฝีปากสีซีดเปล่งเสียงทุ้มต่ำเป็นจังหวะบทเพลงที่ครั้งหนึ่งพวกเขาเคยนั่งล้อมวงนั่งร้องเพลงนี้ด้วยกันอย่างมีความสุข จากสิบก็เหลือเจ็ดจนกระทั่งตอนนี้ผู้ร่วมบรรเลงเหลือเพียงเขา
‘มึงต้องมีชีวิตอยู่เพื่อกูเพื่อพวกพ้องของเรา’
เขาทรมานมามากเกินพอ ขอโทษที่ไม่ทำตามสัญญาอย่างน้อยขอบรรเลงบทเพลงร่วมกันอีกสักครั้งแม้จะไม่ใช่ตอนมีชีวิตเขาก็ยินดี ถ้าโลกหลังความตายมีอยู่จริงขอให้ได้เจอกันอีกสักครั้งแค่ครั้งเดียวก็ยังดี
ติ๊ด ....ติ๊ด ...ติ๊ด…
“มีคนทรยศ!!!”
รู้ตัวแล้วสินะ ดีแลนยิ้มมุมปากมันช้าไปแล้วละไอ้พวกเดนนรก ทันใดนั้นคอของเด็กหนุ่มถูกกระชากจากด้านหลังด้วยท่อนแขนที่รัดแน่นจนยากจะหายใจ
วัตถุเย็นเยียบจ่อที่ขมับด้านซ้ายถึงกระนั้นริมฝีปากสีซีดกลับแย้มยิ้มอย่างงดงามเป็นครั้งสุดท้าย
ตู้มมมม!!!
เสียงอุดอู้ดังก้องอยู่ในหู ขณะนั้นเศษเนื้อขาดวิ่นเละเทะกระจัดกระจายจนยากจะแยกว่าของใครเป็นของใคร ของเหลวเหนียวหนืดสีแดงข้นกระจัดกระจายครอบคลุมทั่วทุกตารางเมตรพรากเอาลมหายใจสุดท้ายของสิ่งมีชีวิตหลายร้อยชีวิตจากไปพร้อมกัน
โดยไม่รู้ตัว...
-------------------------------------------
ขณะนี้ไรท์กำลังรีไรท์เนื้อหาทั้งหมดค่ะ ดังนั้นเนื้อหาอาจมีเปลี่ยนแปลงและมีความยาวมากขึ้น
หยางจื้อซี เด็กกำพร้าจากศตวรรษที่21 ถูกองค์กรมืดเลี้ยงดูจนเติบโตและทำให้เธอกลายเป็นมนุษย์กลายพันธ์ ในระหว่างที่ถูกส่งตัวไปทำภารกิจลับ เธอกลับถูกคนในองค์กรมืดหักหลังและถูกฆ่าโดยเพื่อนสนิทที่เธอไว้ใจมากที่สุด ก่อนสิ้นใจเธอถามเพื่อนสนิทว่าทำไม แต่ไม่ได้รับคำตอบจากปากของอีกฝ่าย สิ่งที่เธอได้รับคือรอยยิ้มที่ดูถูกเหยียดหยามและ คำว่า “โง่” จากปากของอีกฝ่ายเท่านั้น หลังจากที่ตายไปแล้วสิ่งที่เธอคิดไว้ คงจะเป็นนรกหรือที่ไหนสักแห่งที่เป็นโลกหลังความตาย แต่ทว่ามันกลับไม่เป็นเช่นนัน เธอตื่นขึ้นมาในร่างของ หยางจื้อซี เด็กหญิงอายุ เพียง 13 ขวบปีในหมู่บ้านป่าหมอก ในดินแดนโบราณล้าหลังที่ไม่มีในประวัติศาสตร์ คล้ายกับว่าเป็นโลกคู่ขนานที่อยู่อีกมิติหนึ่ง เธอตื่นขึ้นมาในบ้านที่ผุพัง ครอบครัวยากจน มีแม่ที่อ่อนแอและเจ็บป่วย มีพี่น้องที่อายุน้อย มีปู่ย่าตายายที่เห็นแก่ตัวและใจร้าย มีลุงที่เห็นแก่ได้ป้าสะใภ้ที่เต็มไปด้วยความละโมบโมบโลภมาก หยางจื้อซี คิดว่านับจากนี้ไปชีวิตจะต้องอยู่ได้ด้วยตัวเอง หากใครมารังแกก็แค่ทุบตี เธอไม่เชื่อว่าด้วยพลังที่ติดตัวเธอมาจากชาติที่แล้วจะไม่สามารถอยู่รอดได้ในโลกล้าหลังแห่งนี้
อารียา ถูกโชคชะตาชักนำไปสู่บทพิศวาสที่แสนเร่าร้อนบนความเข้าใจผิด ก่อเกิดเป็น ‘รักต้องห้าม’ ที่ไม่อาจต้านทานได้ แล้ว ชีควาคิล จะทำเช่นไร ที่จะทำให้ยอดหญิงที่เป็นดั่งดวงหฤทัย กลายเป็น ‘รักเดียว ตลอดกาล’ มันคงไม่ยากนัก หาก ‘เขา’ ซึ่งเป็นถึงองค์รัชทายาทจะทรงต้องการ ‘นางสนมในฮาเร็ม’ เพิ่มอีกสักคน ถ้าผู้หญิงคนนั้นไม่ใช่ ‘เธอ’ ครูสอนภาษาที่เป็นดังกุหลาบงามที่ซ่อนหนามแหลมเอาไว้ภายใน แม้จะทรงมีอำนาจเหนือใคร ก็อย่าหมายมารังแกเธอได้ง่ายๆ แต่ทว่าเขากำลังถือ ‘ไพ่’ เหนือเธอ จึงทรงบังคับขืนใจด้วยไฟแค้น พันธนาการเธอเอาไว้ด้วยเพลิงพิศวาสที่แสนหวาน แล้วครูสาวไร้เดียงสาอย่างอารียา จะสามารถต้านทานบทสวาทขั้นเทพของชีคหนุ่มผู้กระหายในรสรักได้อย่างไร “อ๊ะ...ท่านชีค” เสียงหวานๆ ครางแผ่วออกมาอย่างลืมอายเมื่อท่านชีคผู้แสนจัดเจนในสนามรัก งัดกลยุทธพิชิตกายสาวออกมาใช้กับหญิงสาวอย่างไม่หมกเม็ด เจ้าของเรือนร่างงดงามดุจรูปปั้นเปลือยเปล่าของนักรบเทพเจ้ากรีก ได้จุดประกายไฟพิศวาสให้ลามเลียไปทั่วร่างร้อนผ่าวที่พร้อมจะติดไฟรักได้ทุกเมื่อ แล้วเมื่อใบหน้าหล่อเหลาดุจเทพบุตรแห่งสวรรค์ ฝังจมูกลงมาบนช่อดอกรักอวบอูมกลางกายสาว คนใต้ร่างก็ไม่อาจกลั้นใจ “ท่านชีค อย่าค่ะ ไม่...โอว” ร่างบอบบางบิดเร่าๆสะท้านไหว กลีบดอกไม้ลู่ไปตามทิศทางลมที่พัดโหมจนกลายเป็นพายุสวาทลูกใหญ่ซัดกระหน่ำแทรกลึกซอกซอนเข้าไปยังกลีบดอกรักแสนสวยจนเกสรสีหวานสั่นระรัวและบวมเป่งเพราะอารมณ์เสน่หา
สำหรับเขาผู้หญิงก็เป็นได้แค่ที่ระบายความใคร่ เขาไม่เคยมีความรักไม่เคยรักใคร แต่พอได้มาเจอเธอ เพื่อนของน้องสาวเขา ใจที่ด้านชากลับเต้นแรงขึ้นมาอีกครั้ง…
เคนคู่หมั้นของริกะจังนอกใจเธอไปแอบคบกับผู้หญิงอีกคน ริกะจังจับได้แต่ก็อดทนไว้เพราะรักเขา วันหนึ่งเธอไปงานเลี้ยงรุ่นได้พบแฟนเก่าที่เลิกกันไปแล้ว แต่ใจของริกะอยากจะเอาคืนเคนเธอจึงเผลอใจให้กับแฟนเก่า ตัวอย่างบางตอน "ผมใส่แล้วนะ" "อื๊อ เร็ว ๆ หน่อยสิคะเสียวจะแย่แล้ว อ๊า อ๊า" ชายหนุ่มหล่อเหลาคนหนึ่งคล่อมร่างของหญิงสาวสวยผิวขาวหุ่นดี หน้าอกตูมอย่างช้า ๆ ในขณะที่มือเรียวบีบหน้าอกของตนเองคลายความอยากพร้อมทั้งเลียปากอย่างกระหาย
"นางเป็นบุตรีผู้สูงศักดิ์ของฮูหยินเอกของจวนเสนาบดี นางมีหน้าตาโดดเด่น ทั้งอ่อนโอนและมีน้ำใจไมตรีต่อผู้อื่น แต่... นางทำดีต่อป้าของนาง นางกลับฆ่าแม่ของนางตาย นางรักเอ็นดูน้องสาวของนาง แต่น้องสาวกลับแย่งสามีของนางไป นางคอยสนับสนุนและดูแลสามีของนางอย่างสุดหัวใจ แต่สามีกลับทำให้นางตายทั้งกลม...ตระกูลฝ่ายมารดาของนางก็ถูกประหารชีวิตทั้งตระกูลด้วย นางตายตาไม่หลับและสาบานว่าหากมีชาติหน้า นางจะไม่เมตาตาต่อใครอีก ใครก็ตาม กล้ามาทำร้ายข้า ข้าจะล้างแค้นด้วยชีวิตทั้งตระกูลของพวกเจ้า เมื่อเกิดใหม่อีกครั้ง นางอายุได้สิบสี่ปี นางสาบานว่าจะต้องเปลี่ยนชะตากรรมและแก้แค้นชาติก่อน ป้านางใจ้ร้าย นางจะใจร้ายกลับยิ่งกว่านาง นางคิดจะได้ครองตำแหน่งฮูหยินงั้นเหรอ บอกเลยไม่มีทาง! ส่วนน้องสาวชอบผู้ชายชั่ว ๆ นักไม่ใช่หรือ ได้!ข้าจะยกให้เลย ส่วนชายชั่วนั่น ข้าจะทำให้เจ้าไม่สามารถมีทายาทได้อีกตลอดทั้งชาติ!แต่ข้าจะแก้แค้น เหตุใดเจ้าต้องมาช่วยข้าด้วย?"
หลัวเจิง ผู้ตกจากที่สูงกลายเป็นทาสที่ต่ำต้อย มีอยู่ครั้งหนึ่ง เขาพบวิธีฝึกในตัวเองให้กลายเป็นอาวุธโดยบังเอิญ สงครามการต่อสู้เริ่มขึ้นทันที และพึ่งพาความเชื่ออันแรงกล้าในการไม่ยอมจำนน เขาพยายามแก้แค้นและไล่ตามความฝันอันยิ่งใหญ่ นักรบจากชาติพันธุ์ต่าง ๆ ต่อสู้เพื่อความเป็นเจ้าโลกและโลกก็ปั่นป่วน อาศัยร่างกายที่เปรียบได้กับอาวุธวิเศษ หลัวเจิงเอาชนะศัตรูจำนวนมากบนเส้นทางสู่ความเป็นอมตะ ในที่สุดเขาจะทำสำเร็จหรือไม่?