CEO,เมียเก็บ,การเบรรยายแบบมัลติเธรด,สัญญารัก,โรแมนติก,นิยายอีโรติก,ความสัมพันธ์ในครอบครัวที่ซับซ้อน,การมีเพศสัมพันธ์ครั้งแรก
CEO,เมียเก็บ,การเบรรยายแบบมัลติเธรด,สัญญารัก,โรแมนติก,นิยายอีโรติก,ความสัมพันธ์ในครอบครัวที่ซับซ้อน,การมีเพศสัมพันธ์ครั้งแรก
เจคอป บาร์ตัน หรือ อีกนามสกุลของเขาก็คือ สิริพัฒน์พนา ขมวดคิ้วยุ่งเมื่อคุยธุระสำคัญจบลง ใบหน้าหล่อเหลายุ่งเหยิงมีแววกังวลอย่างเห็นได้ชัด ปัญหาที่เขาจะต้องเผชิญในคราวนี้มันหนักหนาสาหัสเอาการอยู่ และการจะต้องกลับไปอยู่ในดงอสรพิษนั้นมันไม่ง่ายและไม่อาจจะไว้ใจใครได้เลย แต่นั่นไม่ใช่ปัญหาใหญ่ เพราะเขาคิดว่าสามารถรับมือกับพวกญาติๆ ผู้หิวโหยเหมือนเปรตเดินดินได้อยู่แล้ว
แต่สิ่งที่เจคอปเป็นห่วงก็คือ ยายจำปูน ผู้เป็นยายแท้ๆ ของเขาซึ่งตอนนี้กำลังอยู่ในสภาวะที่เรียกว่าเป็นตายเท่ากัน
“คุณ.. คุณตำรวจ.. คุ้นนนน”
“อะไรของเธอนี่ยายบ๊องเรียกเสียงดังเชียว เสียงแหลมอย่างกะนกหวีดขี้หูฉันเต้นระบำแล้วมั้ง”
เจคอปหันไปทำเสียงขุ่นๆ ใส่หญิงสาวหน้าแฉล้มที่มีอันต้องมาเกี่ยวข้องกันโดยไม่ตั้งใจ
“ก็ฉันเรียกคุณตั้งนานแล้วคุณไม่หือไม่อือ เหมือนกำลังตกอยู่ในภวังค์รักอันแสนหวาน ฝันหวานอยู่รึไง” ยอดนรียิ้มเผล่ล้อเลียน
“ไม่รู้อะไรก็อย่าเดามั่วๆ ฉันไม่ได้คิดถึงใครทั้งนั้นล่ะ กำลังเครียดๆ ว่าแต่เธอเถอะทำงานที่ฉันสั่งเสร็จแล้วเหรอ”
“เรียบร้อยแล้วค้าบบบบ เจ้านายยยย มีไรจะใช้ไอ้ยอดอีกไหมครับทั่นนน..”
ยอดนรีทำท่าทะเล้นจนเจคอปอดหัวเราะกับท่าทางของเธอและพลอยหายเครียดไปได้บ้าง
“ไม่มีแล้วเธอไปพักเถอะฉันจะทำงานต่อสักหน่อย”
“คุณลาออกแล้วยังมีงานต้องทำอีกหรือ”
“มีสิ เยอะแยะเลย..”
เจคอปหันหน้าไปมองสวนหย่อมเล็กๆ ที่มันแทบจะแห้งเฉาตายเพราะขาดการดูแลเอาใจใส่ แต่บัดนี้สวนที่แห้งแล้งกำลังเขียวขจีชุ่มฉ่ำและมีสีสันของดอกไม้ต่างๆ ที่ยอดนรีหามาปลูก ทำให้บ้านหลังเล็กที่เหมือนบ้านร้าง บ้านผีสิงค่อยเป็นบ้านขึ้นมาหน่อย
“งั้นยอดไปพักแล้วนะ ทีมีเวลาให้ใช้แล้วไม่ใช้ เวลาพักผ่อนอย่าเรียกใช้เชียวนะ”
“นี่แม่คุณ ตกลงใครเป็นเจ้านายใครเป็นลูกน้องกัน”
“แหะๆ ยอดล้อเล่นน่า ทำซีเรียสเป็นตาแก่ไปได้ มีไรก็เรียกยอดนะคะ ไปล่ะ”
ว่าแล้วร่างระหงก็เดินตัวปลิวฮัมเพลงจากไป และคงไปขลุกอยู่ตรงไหนสักที่ในบ้านพร้อมกับหนังสือเล่มโปรดสักเล่มนั่นล่ะ เขาก็เพิ่งเคยเห็นผู้หญิงที่ชอบอ่านหนังสือและขลุกอยู่ในห้องสมุดและกองหนังสือมากมายได้ทั้งวันก็ตอนนี้ล่ะ
เจคอปละความสนใจจากยอดนรีชั่วครู่เมื่อมีสายเรียกเข้าจากเพื่อนรัก ชายหนุ่มรับสายทันที
“เป็นไงบ้างไอ้เจค” พยัคฆ์ถามอย่างห่วงใย
“งานหนักอยู่ว่ะ”
“แล้วอยากให้ช่วยอะไรมั้ย”
“ช่วยเป็นหน้าม้าให้หน่อย อยากได้ข่าวฉาว”
“เอาจริงดิ..” พยัคฆ์ทำเสียงกลั้วหัวเราะในลำคอ
“เออ.. จัดมา”
“ได้ตามคำขอเพื่อน ว่าแต่นายตัดสินใจดีแล้วใช่ไหม”
“ลาออกแล้วพร้อมทั้งชกหน้าผู้บังคับบัญชาไปสองที”
“เฮ้ย.. เจ๋งว่ะ แสดงเก่งพอกัน”
“จัดข่าวใหญ่ให้ด้วย ฉันจะไปสะสางปัญหาคาราคาซังซะที”
“โอเคเลยเพื่อน.. งั้นแค่นี้นะ เตรียมรับข่าวร้ายข่าวฉาวได้เลย”
เจคอปถอนหายใจหนักๆ มองทั้งฟ้ากว้างไกลด้วยความหนักอึ้งในอก ตอนนี้ขอเวลาตั้งหลักสักนิด แล้วรับรองว่าคนที่มันบังอาจทำร้ายหัวใจของเขาจะต้องได้รับบทเรียนอย่างสาสม..
“รอผมก่อนนะครับคุณยาย อย่าเพิ่งเป็นอะไร อยู่รอผม อยู่กับผมไปอีหลายๆ ปีนะครับ”
เหมือนเขารำพึงฝากสายลมไปหาผู้เป็นยายซึ่งเป็นบุคคลที่เขารักมากที่สุด มากเท่าชีวิตเพราะหลังจากที่แม่ของเขาเสียชีวิต ก็มีเพียงยายเท่านั้นที่ดูแลเขามาตลอด ทั้งยังข้ามน้ำข้ามทะเลไปอยู่ดูแลเขาที่อิตาลีด้วย ทุกคนในครอบครัวบาร์ตันรักคุณยาย พ่อของเขานั้นยิ่งเทิดทูนคุณยายมาก หากท่านยังมีชีวิตอยู่ก็คงจะทำเหมือนที่เขากำลังจะทำ เจคอปคิดถึงพ่อแม่ของตนที่เสียชีวิตไปก่อนหน้านี้เมื่อสามปีที่แล้ว
“ใครที่มันทำร้ายคุณยายผมจะไม่ไว้ชีวิตมันแน่..”
แววตาชายหนุ่มกร้าวขึ้น ใบหน้าหล่อเหลาตึงจัดเมื่อนึกถึงภาพของคุณยายจำปูนที่นอนอยู่ในห้องไอซียูและยังไม่ได้สติ หากเขาไม่ติดงานสำคัญจนต้องกลับมาจัดการที่กรุงเทพฯ เขาก็คงจะได้อยู่เฝ้ารอท่านฟื้นขึ้นมา แต่อีกไม่เกิน 48 ชั่วโมงเขาจะต้องกลับไปที่นั่นอีกแน่นอน
เกาะจำปูน เกาะแสนสวยที่ญาติๆ ทางแม่เขาอยากได้นักหนา และเขาเชื่อว่า หนึ่งในบรรดาญาติๆ ของแม่คือคนที่ทำร้ายคุณยายแน่นอน...
เจ้าสาวคาวโลกีย์สำหรับเขา เพราะหวงชีวิตหนุ่มโสดที่ยังใช้ไม่คุ้ม เพราะไม่ต้องการแต่งงานตามคำสั่งของมารดาที่ทั้งเจ้ายศเจ้าอย่างและจุ้นจ้านวุ่นวาย ทำให้เขาต้องหาไม้กันหมาที่ต้องแสบแซบเร้าใจเพื่อคานอำนาจของมารดา...สำหรับเธอ มีเงินท่วมหัว ไม่ต้องมีผัวก็ได้ จึงต้องมารับอาชีพไม้กันหมาให้ชายหนุ่ม แต่เมื่อหลวมตัวรับงานนี้ ณดา ก็แทบมอดไหม้ด้วยไฟเสน่หาอันร้อนแรง
เขาหล่อเขาร้ายและร้อนแรงดังเปลวเพลิงที่พร้อมจะละลายน้ำแข็งอย่างเธอ ให้เดือดพล่านด้วยไฟเสน่หา.. ++++++++++ “คนบ้าปล่อยนะ พี่แสน อ๊ายย” หญิงสาวหวีดร้องเสียงหลงเมื่อภาสกรก้มลงหอมแก้มใสหนักๆ อย่างมันเขี้ยวและอยากแกล้ง “แก้มน้ำแข็งหอมจัง” “พี่แสนคนบ้า รังแกน้ำแข็ง คอยดูนะน้ำแข็งจะฟ้องพี่ธาร” หญิงสาวหน้าแดงก่ำทั้งโกรธทั้งอาย “ฟ้องไอ้ธารคนเดียวเหรอ ฟ้องคุณอาด้วยสิ และฟ้องให้หมดด้วยนะว่าพี่ทำอะไรบ้าง” “พี่แสนจะทำอะไร ว้าย.. ปล่อยนะ คนบ้า พี่แสน กรี๊ดดด..” ทิพย์ธาราหวีดร้องเสียงหลงเมื่อตกอยู่ในวงแขนที่รัดแน่นของเขาแล้วทิพย์ธาราก็รู้ได้ทันทีว่าตนตกเป็นรองเขาหญิงสาวดิ้นเร่าอย่างโมโหฉุนเฉียวเกรี้ยวกราด ความเยือกเย็นที่มีก่อนหน้าหายไปสิ้น เพราะเมื่อปะทะกับเขาทีไรเธอก็มักจะเป็นเช่นนี้และไม่สามารถควบคุมตัวเองให้สงบเยือกเย็นได้นานเลยสักครั้ง
“นอน.. นอนบนเตียงเดียวกันนี่นะ” ธีธัชไม่ตอบแต่พยักหน้ารับช้าๆ “แล้ว.. แล้วทำไมคุณไม่ใส่เสื้อล่ะ” ใบหน้านวลแดงก่ำมองเขาอย่างระแวง ธีธัชซ่อนยิ้มในหน้า “ก็เพราะว่า... เธอเป็นคนถอดน่ะสิ” “เหลวใหล..” วีรนุชตาเหลือกไม่อยากเชื่อในสิ่งที่ได้ยิน “นอกจากเธอจะเป็นคนที่ถอดเสื้อผ้าฉันแล้ว เธอก็ยังกอดฉันไว้ทั้งคืนอีกด้วย ยังไม่พอ เธอยัง..” “พอๆๆ ไม่ต้องพูด ไม่อยากฟัง ถอยออกไปเลย” หญิงสาวหลับตาลงพร้อมทั้งปิดหูทั้งสองข้าง ใบหน้าแดงก่ำ ธีธัชหัวเราะชอบใจ แต่ไม่อยากแกล้งให้เธออายมากไปกว่านี้จึงลุกขึ้นแต่โดยดี และเมื่อร่างสูงใหญ่ลุกไปยืนข้างเตียง วีรนุชก็ต้องรีบปิดหน้าหวีดร้องออกมาอีกรอบเมื่อเขารั้งเอาผ้าห่มไปด้วย และเธอก็พบว่า ตัวเองก็เปลือยเปล่าไม่แพ้กัน “กรี๊ดดดด คนบ้า คุณทำอะไรฉันเนี่ย..” และเธอก็ได้ยินเสียงหัวเราะชอบอกชอบใจของเขาดังเข้าหูมาให้ได้อับอาย “อยากฟังไหมล่ะว่าเมื่อคืนเราทำอะไรกันบ้าง” “ไม่ ไม่ฟัง.. คนบ้า อ๊ายยยย... เอาผ้าห่มคืนมานะ ว้ายยยยย...” วีรนุชกรีดร้องออกมาเมื่อธีธัชกระชากผ้าห่มที่เธอใช้คลุมร่างกายอยู่ออกไปเหมือนแกล้ง... ส่วนคนที่แกล้งจนเธอได้อายนั้นก็หัวเราะชอบอกชอบใจ
เพื่อจัดการกับคนไข้ที่แสนเอาแต่ใจและดื้อรั้น เธอจึงต้องงัดกลยุทธ์ต่างๆ ออกมาใช้ เพื่อปราบคนดื้อรั้น แต่ ไปๆ มาๆ กลายเป็นว่าเธอกับเขากลายเป็นสามีภรรยากันได้อย่างไร
“บูมถามจริงๆ เถอะค่ะ บูมทำอะไรให้พี่เกลียดนักหนาหรือคะถึงได้ทำกับบูมเหมือนบูมไม่มีหัวใจไร้ค่าขนาดนี้ ทำไมพี่วีไม่ปล่อยบูมไปล่ะคะถ้าเกลียดบูมนัก...” เมื่อตัดสินใจว่าจะเข้มแข็ง จะเด็ดเดี่ยวแล้วบุษกรจึงถามออกไปแม้ในใจจะอ่อนแอเหลือเกิน และกลัวว่าคำตอบจากเขาจะทำให้หัวใจเธอสลายก็ตาม “ตอนนี้ฉันยังไม่เบื่อ ยังอยากได้เธออยู่อยากได้มีคนมาสนองความใคร่อยู่เธอก็ต้องอยู่ในฐานะนางบำเรอของฉันต่อไปจนกว่าฉันจะแต่งงานกับคนที่ฉันรัก...” คำตอบจากเขาเหมือนมีดกรีดลงบนหัวใจบางๆ ของเธอ แม้จะทำใจไว้แล้วว่าจะต้องเจอกับคำตอบที่ไม่รื่นหูและอาจจะทำร้ายจิตใจอย่างแน่นอนแต่บุษกรก็อดที่จะยอกแสลงในอกไม่ได้ นาวีช่างเป็นดั่งพญามารที่ใจร้ายใจดำเสียเหลือเกิน
ความเกลียดชิงชังทำให้เขาทิ้งให้เธออยู่ในสถานะ เมียในนาม แต่เมื่อเธอต้องการหย่าขาดจากเขา ชายหนุ่มผู้หยิ่งผยองเช่นเขากลับต้องการกักขังเธอไว้ตลอดไปและหลอกล่อเธอด้วยเพลิงสวาทร้ายที่เร่าร้อนเกินห้ามใจ...
เจ้าของร่างเดิมถูกท่านย่าตัวเอง ขายให้ชายพิการด้วยเงินเพียงห้าตำลึง จึงคิดสั้นไปกระโดดน้ำฆ่าตัวตาย ทำให้วิญญาณของเซี่ยซือซือทะลุมิติมาเข้าร่างแทน ชีวิตในโลกนี้บิดามารดาล้วนตายไปแล้ว เหลือเพียงน้องสาวกับน้องชายร่างกายผอมแห้งหิวโซสองคน เธอต้องช่วยพวกเขาให้รอด ก่อนจะถูกคนชั่วพวกนี้ขายทิ้งไปแบบเธอ 1 : ทะลุมิติ แคว้นจ้าว หมู่บ้านตระกูลแซ่อวี่ ภายในบ้านสกุลเซี่ย “ท่านพี่รีบกินเร็วเข้า” เสียงเด็กเล็กดังก้องอยู่ข้างหูอย่างน่ารำคาญ ว่าแต่ฉันมีน้องชายตั้งแต่เมื่อไหร่กัน รู้สึกได้ถึงอะไรแข็ง ๆ มาแตะที่ริมฝีปาก ทว่ายังลืมตาไม่ขึ้น “ท่านพี่กินสิ ๆ” เซี่ยซือซือรู้สึกหนักอึ้งไปทั้งศีรษะ พยายามที่จะเปิดดวงตาขึ้นมอง เจ้าของเสียงเล็ก ๆ ด้านข้าง “ท่านพี่ ๆ ท่านพี่อย่าตายนะ ลืมตาสิท่านพี่” “นังตัวดีออกมาเดี๋ยวนี้นะ !” เสียงเอะอะโวยวายดังหนวกหูเซี่ยซือซือเป็นอย่างมาก ปัง ๆ เสียงเคาะประตูดังขึ้นเรื่อย ๆ เซี่ยซือซือลืมตาขึ้นจนได้ พลันสมองกลับมีเรื่องราวพรั่งพรูเข้ามาไม่ขาดสาย จนต้องกรีดร้องออกมาอย่างเจ็บปวด อ๊าก ! “พี่รอง !” เด็กน้อยเซี่ยซือหยางในวัยสามหนาวเรียกพี่สาวพร้อมเบะปากอยากร้องไห้ “ท่านพี่ !” เซี่ยซานซานทิ้งบานประตูที่ตัวเองดันไว้ หันกลับมาดูพี่สาวด้วยความตกใจ “ท่านพี่ ๆ ท่านเป็นอะไร อย่าทำให้พวกข้าตกใจสิท่านพี่ !” ผลัวะ ! มีคนถีบประตูบานเก่าผุพังเข้ามาภายในห้อง เด็กทั้งสองรีบเข้าไปขวางผู้บุกรุกไม่ให้ทำร้ายพี่สาว แม่เฒ่าเซี่ย เซี่ยจิ่วเม่ย หน้าตาแลดูดุร้าย ไม่ใช่หญิงชราใจดีแต่อย่างใด ด้านหลังของแม่เฒ่าเซี่ยยังมีลูกสะใภ้บ้านใหญ่ กับบ้านรองเดินตามมา ท่าทางดุดันเอาเรื่อง “ไอ้พวกบ้านสามตัวดี กล้าลักขโมยอาหารเอาไว้กินเอง ยังเห็นแม่เฒ่าอย่างข้าอยู่ในสายตาหรือไม่ ไอ้พวกหมาป่าตาขาว ดูซิวันนี้ข้าจะจัดการพวกเจ้าอย่างไร” “ท่านย่าพวกข้าไม่ได้ขโมยนะ นี่เป็นหมั่นโถวของท่านพี่ ท่านพี่ไม่สบายข้าแค่เก็บไว้ให้ท่านพี่เท่านั้นเอง” เซี่ยซานซานยังเป็นเด็กหญิงวัยสิบหนาว แต่นางข่มความกลัวตอบโต้ผู้ใหญ่ในบ้านออกไป “หึ กฎบ้านก็มีบอกอยู่แล้วถ้าพลาดมื้ออาหารไปก็คืออด แต่พวกเจ้ากลับแหกกฎ แอบยักยอกอาหารเก็บไว้กินเอง ยังมีหน้ามาเถียงท่านแม่อีก ท่านแม่ท่านต้องลงโทษคนบ้านสามนะเจ้าคะ ไม่เช่นนั้นข้าไม่ยอมจริง ๆ ด้วย ตอนนั้นยวี่เฟยของข้านางได้พลาดมื้อเย็นไป ท่านก็ไม่ให้นางกินนะเจ้าคะ” สะใภ้บ้านรองนามว่าจงอี้ซิน ย้อนรำลึกถึงเรื่องลูกสาววัยแปดปีของตัวเองขึ้นมา “ดูเจ้าเด็กพวกนี้สิท่านแม่ กางแขนปกป้องพี่สาวตัวเอง ช่างน่าสมเพชไม่รู้จักสำเหนียกกำลังตัวเอง ถุย !” หลินพ่านเอ๋อสะใภ้บ้านใหญ่มองดูเด็กทั้งสองพร้อมถ่มน้ำลายใส่ตรงหน้า แม่เฒ่าเซี่ยมองลูกสะใภ้ทั้งสองสลับกันไปมา เดินตรงไปกระชากหมั่นโถวเย็นชืดแถมแข็งปานหิน ออกจากมือของเซี่ยซือหยาง “แง ๆ ๆ” เด็กน้อยถูกแย่งของกินของพี่สาวไป ถึงกับแผดเสียงร้องลั่น “เจ้าคนชั่ว ! เอามานะ ของท่านพี่ข้า” กำปั้นน้อย ๆ ทุบไปยังต้นขาของแม่เฒ่เซี่ย “เจ้าเด็กเนรคุณกล้าตีข้ารึ นี่นะ !” แม่เฒ่าเซี่ยเตะทีเดียวเซี่ยซือหยางก็กระเด็นไปติดกับผนังห้อง “น้องเล็ก !” เซี่ยซานซานรีบวิ่งไปอุ้มน้องชายขึ้นมากอดไว้ด้วยความตกใจ “ท่านย่า น้องเล็กยังเด็กไม่รู้ความ เหตุใดท่านถึงได้ใจร้ายเช่นนี้” “แง ๆ ๆ” เสียงร้องไห้ของเด็กน้อยฟังแล้วน่าสงสารจับใจ ดวงตาที่ปิดไว้ก่อนหน้าของเซี่ยซือซือ ลืมขึ้นหลังจากค้นพบว่า ตัวเองได้ทะลุมิติมายังอดีตอันไกลโพ้นแล้วจริง ๆ หลังจากหลับตาลืมตาอยู่หลายหน เรียบเรียงความคิดที่ไหลเข้ามาไม่ยอมหยุด เมื่อค่อย ๆ จัดการกับมันได้ ความเจ็บปวดที่ศีรษะก่อนหน้าจึงบางเบาลง และมองเหตุการณ์ตรงหน้าอย่างเฉยชา ครบสูตรของการทะลุมิติจริง ๆ มีท่านย่าผู้ชั่วร้าย ขนาบข้างด้วยป้าสะใภ้เลวทั้งสอง ครั้นหันไปมองน้องสาวในวัยสิบขวบของตัวเองกับน้องชายตัวน้อย ทั้งตัวดำเมี่ยมเหมือนไม่ได้อาบน้ำมาเป็นเดือน ร่างกายผอมแห้งเหลือแต่กระดูก เสื้อผ้าเก่าขาดมีรอยปะชุนเต็มไปหมด เส้นผมแห้งกรังเหมือนไม่ผ่านน้ำมานาน ยกมือของตัวเองขึ้นมาดู ไม่ได้มีสภาพต่างกันแม้แต่น้อย ครั้นเงยหน้ามองป้าสะใภ้ใหญ่ร่างกายอวบอ้วนเต็มไปด้วยก้อนไขมัน ป้าสะใภ้รองแม้ไม่ได้อ้วนแต่ก็ไม่ได้ผอม ยิ่งแม่เฒ่าเซี่ยด้วยแล้ว ร่างกายบึกบึนเหมือนคนกินดูอยู่ดีมาตลอด “ท่านแม่ดูอาซือมองท่านสิเจ้าคะ” สะใภ้ใหญ่เห็นสายตาเย็นเยียบของคนที่นอนอยู่บนเตียงก็อดแปลกใจไม่ได้ ดูเยือกเย็นจนไม่น่าไว้ใจ “เจ้าอย่าคิดว่ากระโดดน้ำตายแล้วทุกอย่างจะจบนะอาซือ ข้ารับเงินคนบ้านถานมาแล้ว ถ้าเจ้าตายข้าจะให้อาซานไปแทนเจ้า” คำพูดของแม่เฒ่าเซี่ยทำให้ดวงตาของเซี่ยซือซือเบิกกว้าง ท่านย่าของนางขายนางให้คนบ้านถานในราคาแค่ห้าตำลึง เจ้าของร่างเดิมไม่อยากไปเป็นเมียคนพิการ เลยไปกระโดดน้ำฆ่าตัวตาย ทว่าเธอที่มาจากยุคปัจจุบันกลับเข้ามาแทนที่เจ้าของร่างนี้ เจ้าของร่างเดิมว่ายน้ำไม่เป็น จึงได้ขาดอากาศตายใต้น้ำ แต่เธอที่เข้ามาสวมร่างกลับพาร่างนี้ขึ้นมาจากน้ำได้ โชคชะตาคงเล่นตลกให้เธอกับเจ้าของร่างเดิมมีชื่อเดียวกัน “ท่านย่าอาซานยังเด็กนัก ท่านอย่าได้ทำเช่นนั้นเลย” นานมากกว่าที่นางจะเอ่ยออกมา “มันอยู่ที่เจ้าอาซือ ข้าขอเตือนเอาไว้ อีกสองวันคนบ้านถานจะมารับตัวเจ้าแล้ว อย่าให้เกิดเรื่องขึ้น ไม่อย่างนั้นข้าจะส่งอาซานไปแทนเจ้า แล้วขายซือหยางทิ้งเสีย” แม่เฒ่าเซี่ยจ้องหน้าเซี่ยซือซือแบบอาฆาต เด็กนี่ก่อนหน้าดูอ่อนแอไร้ทางสู้ ทำไมวันนี้ถึงได้ดูแปลกตาไปนัก “ท่านแม่เจ้าคะ ท่านจะลงโทษคนบ้านสามเรื่องหมั่นโถวนี่อย่างไรเจ้าคะ” สะใภ้ใหญ่ยังไม่ยอมปล่อยสามพี่น้องไปง่าย ๆ “พรุ่งนี้งดอาหารบ้านสาม” แม่เฒ่าเซี่ยเอ่ยแล้วหันหลังเดินออกจากห้องของเด็กน้อยทั้งสามไป โดยมีสะใภ้ใหญ่เดินตามไปด้วย “พวกเจ้าได้ยินแล้วใช่ไหม จำใส่หัวเอาไว้ดี ๆ ด้วยล่ะ” สะใภ้รองหมุนตัวตามหลังไปติด ๆ “ท่านพี่ต่อไปท่านอย่าทำเช่นนี้อีกนะเจ้าคะ ข้ากับน้องเล็กจะทำอย่างไร ถ้าท่านไม่อยู่” เซี่ยซานซานปล่อยเสียงร้องไห้ในทันที
เธอเป็นหมอเก่งๆ ระดับสากล เป็นประธานของบริษัทใหญ่แห่งหนึ่ง ผู้บังคับบัญชาหารรับจ้างที่แข็งแกร่งที่สุด และผู้คลั่งไคล้เทคโนโลยีอันดับหนึ่ง... ไม่นานมานี้ เจี่ยนอู่ ผู้มีความสามารถแข็งแกร่งกลับปกปิดตัวตนของนางและแต่งงานกับชายหนุ่มยากจนคนหนึ่ง โดยไม่คาดคิดก่อนวันแต่งงาน คู่หมั้นของเธอกลายเป็นนายน้อยที่หายไปจากครอบครัวที่ร่ำรวย เขาไม่เพียงเสียใจกับการหมั้นหมายเท่านั้น แต่ยังปราบปรามและทำให้เธออับอายด้วยทุกวิถีทางอีกด้วย เมื่อความจริงถูกเปิดเผย อดีตคู่หมั้นของเธอตกตะลึง และขอร้องให้กลับมาคืนดีกัน ผู้คนใหญ่โตที่ร่ำรวยและน่านับถือคนหนึ่งยืนอยู่ต่อหน้าเจี่ยนอู่ "นี่คือภรรยาของผม ใครกล้าหวังกับเธอ"
ซ่งชิงเหอโดนหักหลังและกลายเป็นฆาตกรในสายตาคนอื่น เธอจึงหย่ากับสีจั้นถิง สามีของเธอ และเดินทางออกจากเมืองหวยไปด้วยความเกลียดชัง หกปีต่อมา เธอหวนกลับมาราวกับนกฟีนิกซ์พร้อมกับคู่แข่งของสามีเก่าเธอ เธอเติบโตขึ้นกลายเป็นผู้หญิงที่แข็งแกร่ง เธอสาบานกับตัวเองว่าจะทำให้ทุกคนต้องชดใช้ในสิ่งที่พวกเขาทำไว้กับเธอ เธอยอมร่วมมือกับเขาเพียงเพื่อแก้แค้น โดยไม่รู้เลยว่าเธอตกเป็นเหยื่อของเขาไปแล้ว ในเกมแห่งความรักและความปรารถนา ไม่มีใครรู้ว่าสุดท้ายแล้วผู้ชนะที่แท้จริงจะเป็นใคร
เมื่อยมทูตหน้าใหม่ดึงวิญญาณมาผิดดวง เพื่อรักษาไว้ซึ่งสมดุลของโลกวิญญาณ หลินลู่ฉีผู้มีปราณมงคลในยุคปัจจุบัน จึงถูกส่งไปยังต่างโลก สวมร่างเด็กน้อยวัยสามขวบ ที่เพิ่งถูกงูกัดตายด้านหลังอารามเต๋า เจ้าอาวาสไม่อาจยอมรับวิญญาณสวมร่างได้ แต่เมื่อขับไล่วิญญาณร้ายออกจากร่างกายไม่ได้ จึงจำเป็นต้องขับไล่คน ออกจากอารามแทน ++++ "อนิจจาวาสนาเด็กน้อยได้ดับสิ้นลงแล้ว จี้คงเตรียมพิธีสวดส่งวิญญาณให้นางเถอะ" นักพรตเฒ่าสั่งการลูกศิษย์ตัวน้อย หันหลังหมายจะเดินกลับไปยังที่พักของตน "ขอรับท่านอาจารย์" จี้คงขานรับคำสั่ง หันไปเตรียมสิ่งของสำหรับทำพิธีสวดส่งวิญญาณผู้ตาย ทว่าผ่านไปเพียงอึดใจเดียว "อ๊ากกก ! มีผี !" เสียงกรีดร้องดังลั่น ร่างเล็ก ๆ ของเขาวิ่งไปหลบอยู่ด้านหลังผู้เป็นอาจารย์ "จี้คงมีอะไร" "นะนางลืมตาขอรับท่านอาจารย์" เด็กน้อยชี้นิ้วสั่น ๆ ไปที่ศพบนพื้น "ว่าอย่างไรนะ" นักพรตเฒ่ารีบตรงไปคุกเข่าอยู่ด้านข้างศพ เห็นเปลือกตาของนางขยับไปมา ก่อนจะปรือลืมขึ้นอย่างลำบากยากเย็น "นี่มัน...เป็นไปไม่ได้" รีบคว้าข้อมือของเด็กน้อยมาจับชีพจรดู ดวงตาของนักพรตเฒ่ามืดมนลงในทันที แตะนิ้วทำนายชะตา นี่มันคือการสลับร่างเปลี่ยนวิญญาณ ดึงตัวลูกศิษย์ถอยหลังไปสามก้าว "ผีร้ายตนไหนกล้ามาสวมร่างคนตาย จงออกไปเสีย !" ผีร้ายที่ว่ากำลังมึนงงกับเหตุการณ์ตรงหน้า จำได้ว่าเธอกำลังขับรถกลับบ้าน ใช่แล้ว เกิดอุบัติเหตุขึ้น มีรถบรรทุกเสียหลัก พุ่งมาชนรถของเธอ จากนั้นทุกอย่างก็ดับวูบไป ท่าทางเหม่อลอยไร้สติของนางทำนักพรตเฒ่าหวาดระแวงในทันที เตรียมหยิบยันต์ป้องกันภูตผีออกมา ขณะที่เด็กน้อยยกฝ่ามือของตัวเองขึ้นเพ่งมองอย่างประหลาดใจ ดวงตาคู่กลมน้อยกลอกกลิ้งไปมาอย่างสับสน นิ้วมือสั้น ๆ นี่มันอะไร ขยับปลายเท้าเข้าหากัน ขาก็สั้น พลิกฝ่ามือตัวเองไปมา สีหน้าคล้ายคนอยากร้องไห้ นี่มันโลกถล่มใส่หัวของเธอหรืออย่างไรกัน เปรี๊ยะ ! ยันต์ขับไล่ภูตผีถูกปาใส่นางสุดแรง ก่อนที่มันจะปลิวร่อนลงไปกองอยู่บนพื้น ยันต์ไม่เกิดการเผาไหม้ ผีร้ายยังคงอยู่ในร่างกายของเด็กน้อย "เจ้า ๆ ๆ ออกไปจากร่างของนางเดี๋ยวนี้ !" นักพรตเฒ่าชี้นิ้วพร้อมดึงยันต์สายฟ้าฟาดออกมาอีกแผ่น นี่นับเป็นยันต์ที่ทรงพลังที่สุดของเขาแล้ว รีบปาใส่เด็กน้อยสุดแรง เปรี๊ยะ ! ทว่าไร้ผลอยู่ดี... ตาเฒ่านี่เล่นตลกอะไรกัน... [นิยาย3เล่มจบ 252ตอน]
เมื่อชีคเถื่อนถูกแบล็คเมลให้แต่งงานกับเมียเก็บของน้าชายผู้ล่วงลับ... หล่อนยืนอยู่ข้างกับหน้าต่าง แสงแดดยามสายส่องกระทบเข้ามาทางด้านหลังของหญิงสาว มันทำให้เขาเห็นสัดส่วนสมบูรณ์แบบได้ชัดเจนเต็มสองตา เลือดหนุ่มในกายเดือดพล่าน ความต้องการทางเพศระเบิดขึ้นภายในช่องท้องอย่างรุนแรง เขาต้องการหล่อน... ต้องการผู้หญิงที่ยืนจีบปากจีบคอโต้เถียงเขาคอเป็นเอ็นตรงหน้าแทบขาดใจ แต่หล่อนคือเมียเก็บของน้าชาย...! ผู้หญิงต้องห้ามที่เขาต้องเก็บไม้เก็บมือให้ไกลที่สุด “ฉันต้องการทำแบบนี้ตั้งแต่เห็นเธอครั้งแรกที่เมืองไทยแล้ว จัสมิน... อืมมมม” เซรีมสาธิตความต้องการของตัวเองด้วยการชำแรกแทรกลึกเข้ามาในความคับแน่นไร้ราคีของหล่อนอย่างดุดัน ใบหน้าหล่อเหลาเต็มไปด้วยความเถื่อนถ่อย เสียงคำรามด้วยความกระสันรัญจวนแผดก้องห้องบรรทม “อื้อ... ฉัน... เจ็บ...” “มันจะดีขึ้น... อืมมมมม...” มันจะดีขึ้นได้ยังไงกัน ในเมื่อเซรีมยังไม่ยอมหยุดเคลื่อนไหวเลยแม้แต่น้อย
© 2018-now MeghaBook
บนสุด