ร่างของครุฑีสาวที่หมดสติกำลังร่วงดิ่งสู่ผืนดินด้วยความเร็ว ควั่บ!! เพียงเสี้ยววินาทีสุดท้ายกษัตริย์อสุราร่ายคาถาในใจก่อนร่างใหญ่จะเคลื่อนกายอย่างรวดเร็ว คว้าเอาร่างครุฑีสาวเข้ามาไว้ในอ้อมแขนได้ทันท่วงที อินสูรย์แทบจะมองไม่ทัน เมื่อเห็นอีกครั้งครุฑีสาวก็อยู่ในอ้อมแขนของพระสุวรรณเมฆาผู้เป็นกษัตริย์ของตนแล้ว “ ยังมีชีวิตอยู่หรือไม่พะยะค่ะองค์เหนือหัว?..” อินสูรย์เอ่ยถามขณะที่กำลังวิ่งเข้าไปหากษัตริย์อสุราที่อุ้มครุฑีสาวอยู่ “.....” พระสุวรรณเมฆา พยักหน้าตอบอินสูรย์ ดวงตาสีนิลเอาแต่จับจ้องใบหน้าครุฑีสาวก่อนจะค่อยๆวางร่างครุฑีสาวลง โดยศีรษะนางยังคงอยู่ในอ้อมแขนของตน “ ดูจากเครื่องแต่งกาย ครุฑีตนนี้ คงมิใช่ครุฑีธรรมดา ธรรมดาทั่วไปเป็นแน่พะยะค่ะ..” อินสูรย์กวาดสายตามองไปทั่วเรือนร่างครุฑีสาวก่อนจะพูดออกมา “ นางช่างงดงามนัก..” พระสุวรรณเมฆาพูดออกมาด้วยน้ำเสียงแผ่วเบา ดวงตาสีนิลจ้องมองใบหน้าพริ้งเพราของครุฑีสาวที่ยังหมดสติอยู่ ก่อนที่ฝ่ามือใหญ่จะเอื้อมสัมผัสเข้าที่พวงแก้มเนียนของนางอย่างอ่อนโยน พลันรอยยิ้มก็ปรากฏบนใบหน้ากษัตริย์อสุราหนุ่ม “ เจ้าช่างงามตาเหลือเกิน แม่ครุฑีตัวน้อยเอ๋ย..” พระสุวรรณเมฆาพูดขึ้นมาอีกครั้งพร้อมกับฉีกยิ้มพรายออกมา ฟุ่บ! ฟุ่บ! ฟุ่บ! ฟุ่บ! ฟุ่บ! เสียงบางสิ่งกระทบกับผืนดิน ไม่ไกลจากเหล่าอสุรานัก เหล่าอสุราหันไปต้นทางของเสียงอย่างพร้อมเพียงกัน เห็นเหล่าทหารครุฑาหลายตนที่บินลงมาถึงพื้นดินด้วยความเร็ว “ ท่านเป็นยักษ์ มิควรจักก้าวก่ายเรื่องของเหล่าครุฑ จงมอบครุฑีตนนั้นมาให้ข้า บัดเดี๋ยวนี้...” ทหารครุฑาพูดออกมาทันใด เมื่อเห็นนิศามณีอยู่ในอ้อมแขนของพระสุวรรณเมฆา แม้ใจจะหวั่นเกรงเหล่ายักษาไม่น้อย หากเกิดการต่อสู้กันเหล่าครุฑาไม่มีทางที่จะสู้เหล่ายักษาได้เลย หากแต่เกรงกลัวพระบัญชาของพระสุบินมากกว่า เหล่าทหารอสุรายืนประจันหน้าพร้อมเพียงกันทันทีเมื่อเห็นว่าทหารครุฑาพูดกับกษัตริย์ของตน “ เหตุใดเราจักต้องมอบนางให้พวกเจ้า?..” “.....” “ แลหากเรามิยอมมอบครุฑีตนนี้ให้เล่า พวกเจ้าจักทำเยี่ยงไร?..” “.....” “ หากพวกเจ้าจักเข่นฆ่า ครุฑีที่ไร้ทางสู้ เราคงมิอาจทนเห็นได้ดอกหนา..” พระสุวรรณเมฆาตอบกลับทหารครุฑาไปอย่างไม่มีความเกรงกลัว แขนแกร่งโอบอุ้มร่างบางของนิศามณีขึ้นมาไว้ในอ้อมแขนอีกครั้ง ก่อนดวงตาเฉียบคมจะจ้องมองเหล่าทหารครุฑานิ่ง เหล่าทหารครุฑาหันมองหน้ากันนิ่งก่อนจะสยายปีกแล้วแยกกันพุ่งตรงเข้าไปหาพระสุวรรณเมฆา และพุ่งตรงใส่ทหารอสุราอย่างพร้อมพร้อมเพียงกัน พระสุวรรณเมฆาร่ายคาถาในใจก่อนที่ทหารครุฑาจะมาถึงตน ร่างอสุราหนุ่มก็สูงใหญ่ขึ้นเพียงพริบตาเดียว หมับ! ฝ่ามือใหญ่ของกษัตริย์อสุราหนุ่มคว้าร่างของทหารครุฑาตนนั้นเอาไว้แน่น ก่อนจะบีบร่างนั้นให้แหลกเหลวคามือ ฝ่ามือใหญ่อีกข้างหนึ่งกอบกุมร่างของนิศามณีเอาไว้หลวมๆ เหล่าทหารครุฑาที่เห็นร่างตนสนิทของพระสุบินแหลกเหลวเช่นนั้นก็เกิดความหวาดกลัว จึงสยายปีกหมายจะเร่งบินหนี “ อย่าให้รอดไปได้ แม้แต่ตนเดียว..” พระสุวรรณเมฆารับสั่งอย่างรวดเร็วเมื่อเห็นเหล่าทหารครุฑากำลังบินหนี ดวงตาสีนิลจับจ้องนิ่ง เพ่งมองตามหลังทหารครุฑาที่บินหนีไป “ พะยะค่ะ..” เหล่าทหารอสุราขานรับพระบัญชาก่อนจะร่ายคาถาให้ร่างสูงใหญ่แล้วตามเหล่าทหารครุฑาไป ๐๐๐๐๐๐๐๐ คำเตือน นิยายเรื่องนี้เขียนขึ้นจากความคิดและจินตนาการของไรท์ล้วน ๆ เป็นเรื่องราวของความรักข้ามสายพันธุ์ในยุคของวรรณคดี ลักษณะความพิเศษของตัวละครมีเรื่องราวเหนือธรรมชาติและสถานที่ต่างๆจะเป็นสิ่งสมมุติขึ้นมาเพียงเท่านั้น อาจผิดแผกแปลกไปจากตำนานที่เล่าขานกันมาเป็นอย่างมาก เพราะฉะนั้นภาษาที่เราใช้ จะเป็นภาษาที่มาจากหลายยุคหลายสมัยรวมกัน มีเนื้อหาบางช่วงบางตอนที่มีบรรยายฉากร่วมรักระหว่างหญิงชาย จะมีเนื้อหาไม่เหมาะสมของตัวละครทั้งด้านคำพูดและการกระทำทางเพศ ที่ไม่สมควรเลียนแบบ
ณ ดินแดนภูเขาลอยฟ้า อาณาจักรอันกว้างใหญ่ที่สูงชันและงดงาม เต็มไปด้วยสวนรุกขชาติที่ส่งกลิ่นหอมไปทั่วอาณาจักร เมืองที่ซ่อนอยู่ในม่านหมอกบังตา คือเมืองเวหาศ เป็นถิ่นฐานของเหล่าบรรดาครุฑน้อยใหญ่ที่มีทั้งครุฑาและครุฑีมากมาย
อาณาจักรแห่งนี้อยู่ใต้การปกครองโดยพญาครุฑพระอนันตะเวหาที่เป็นเชื้อสายกษัตริย์แต่เดิมมา เหล่าบรรดาครุฑาและครุฑีน้อยใหญ่อยู่ร่วมกันอย่างสงบสุขตลอดมา
แต่ทว่าพระอนันตะเวหาทรงทราบดีว่าพระสุบินผู้เป็นพระอนุชา(น้องชาย)ของตนกำลังหาทางแย่งชิงอาณาจักรครุฑแห่งนี้ เพราะใคร่จักเป็นใหญ่เหนือครุฑทั้งปวง
“ นิศามณีลูกพ่อ..” น้ำเสียงอ่อนโยนของพระอนันตะเวหะผู้เป็นบิดาเรียกหาธิดาสาวที่ตนรักด้วยแววตาวิตกกังวลอย่างเห็นได้ชัด
“ เจ้าคะท่านพ่อ มีเหตุอันใดกันท่านพ่อถึงได้มาตำหนักของลูก? ”
นิศามณีเอ่ยถามผู้เป็นบิดาด้วยความข้องใจเนื่องจากตั้งแต่นางเติบโตเต็มไว ผู้เป็นบิดาไม่เคยย่างกรายเข้ามาในตำหนักของตนสักครั้ง
“ พ่อใคร่จักให้เจ้าบินไปเมืองครุฑแดนทักษิณ เมืองของพระมหิงส์เวหะพระคู่หมั้นของเจ้าบัดเดี๋ยวนี้ ” พระอนันตะเวหาพูดด้วยน้ำเสียงสั่นคลอกริยาร้อนรุ่ม
“ บัดเดี๋ยวนี้! หรือเจ้าคะท่านพ่อ มีเรื่องอันใดกัน? ” ครุฑีสาวถามออกมาด้วยความแปลกใจ
“ พระสุบิน อาของเจ้ากำลังจักก่อกบฏ ”
“ อะไรนะเจ้าคะ!! เหตุใด....”
“ เจ้าอย่าได้ถามสิ่งใดในเพลานี้ลูกพ่อ เจ้าจักต้องเร่งรุดไป”
“.....”
“ ทหาร!! เจ้าจงอารักขานิศามณีไปบัดเดี๋ยวนี้!.. ” ไม่ทันที่นิศามณีจะได้ถามต่อ พระอนันตะเวหาได้พูดสวนขึ้นก่อน และรับสั่งกับทหารองครักษ์ต่อทันที
“ พะยะค่ะ / เพคะ ”
เหล่าทหารครุฑาและครุฑีขานรับทันที พร้อมกับที่ทหารครุฑีตนหนึ่งเกี่ยวดึงร่างบางของนิศามณีออกไปด้วย
“ แล้วท่านพ่อท่านแม่ล่ะเจ้าคะ? ” ครุฑีสาวหันมาถามพระบิดาของตนด้วยความห่วงใยในขณะที่ร่างบางนั้นถูกฉุดรั้งให้เดินออกไป
“ เจ้ามิต้องห่วงพ่อแลแม่ดอกหนา ลูกพ่อ...”
พระอนันตะเวหาจ้องมองดวงหน้าครุฑีสาว ทรงยิ้มให้ธิดาของตนด้วยแววตาปวดร้าวแล้วพูดออกมาเพียงเท่านั้น ก่อนจะส่งสายตาให้ทหารนำพาครุฑีสาวหลบหนีไปโดยเร็ว
“ แต่! ท่านพ่อ.. ท่านพ่อเจ้าคะ... ”
นิศามณีพยายามเรียกผู้เป็นพระบิดาทั้งที่ร่างบางถูกฉุกรั้งให้ออกไปจากตำหนักของตน แต่ไม่มีคำพูดใดตอบกลับมาจากพระบิดา
พระอนันตะเวหาเพียงจ้องมองธิดาของตนที่ถูกเหล่าทหารครุฑีดึงรั้งร่างบางไปจนลับสายตา
เหล่าครุฑทั้งหลายรู้ดีว่าพระสุบินเป็นครุฑาที่มีจิตอำมหิตเลือดเย็นต่างจากพระอนันตะเวหาที่เป็นครุฑดีและรักสงบเพียงใด และพระองค์ไม่อาจสู้กับพระอนุชาของตนได้อย่างแน่นอน เพลานี้พระองค์และมเหสีขอแค่ธิดาสาวของตนพ้นภัยเพียงเท่านั้น
“ พระธิดา พะยะค่ะ มีทหารของพระอนุชาตามมาพะยะค่ะ” ทหารครุฑาตนหนึ่งได้พูดขึ้น หลังจากที่ทุกตนบินออกมาจากตำหนักของครุฑีสาวได้เพียงครู่เดียวเท่านั้น
“ จักทำเยี่ยงไรดี...”
ฉึบ!! กรี๊ดดด!
นิศามณีเอ่ยถามยังไม่ทันจบ ดวงตาคู่สวยพลันเบิกกว้างทันใด เมื่อพระแสงหอกพุ่งเข้าทะลุร่างทหารองครักษ์ตนหนึ่งต่อหน้านิศามณี ก่อนร่างนั้นจะร่วงดิ่งลงสู่เบื้องล่าง
“ เร่งหนีเร็วเพคะพระธิดา ” ทหารครุฑีตนหนึ่งรีบพูดขึ้นมาก่อนจะดึงร่างบางให้บินตาม
ฉึบ! ฉึบ! ฉึบ! กรี๊ดดด
ไม่ทันที่จะได้เร่งกระพือปีกบินทหารองครักษ์ก็ถูกพระแสงหอกซัด ก่อนร่างจะร่วงลงสู่เบื้องล่างไปทีละตน
บัดนี้เหลือเพียงทหารครุฑีและนิศามณีธิดากษัตริย์เท่านั้น เหล่าทหารครุฑาได้เร่งกระพือปีกอย่างรวดเร็ว บินอ้อมมาขวางด้านหน้าและปิดล้อมเอาไว้
นิศามณีจ้องมองดวงตาทหารครุฑารับใช้ของพระสุบินพระปิตุลา(อา)ของตน ที่ไม่มีความเมตตาแม้แต่น้อย
“ นี่พวกเจ้า หมายจักเอาชีวิตข้ากระนั้นหรือ? ”
นิศามณีเอ่ยถามทหารครุฑาตนสนิทของพระปิตุลาตนหนึ่ง
“ เป็นพระบัญชาของพระสุบิน โปรดทรงอภัยกระหม่อมด้วยพะยะค่ะ”
ทหารรับใช้ของพระสุบินตอบนิศามณี พลันพระบัญชาของพระสุบินก็ปรากฏขึ้นมาในหัวอย่างชัดเจน
‘ จำเอาไว้ การนี้จักต้องถอนรากถอนโคนจนสิ้น มิให้เหลือ แลหากมิมีนิศามณี เหล่าบรรดาเมืองครุฑแดนทักษิณก็จักมิจำเป็นต้องช่วยเหลือเฉกเช่นก่อนนั้น’
นิศามณีถึงกับนิ่งไป เมื่อได้ยินสิ่งที่ทหารครุฑาพูด และไม่คิดว่าพระปิตุลาจะสั่งฆ่าตน ที่เป็นหลานแท้ๆได้ลงคอ และตอนนั้นเองที่ทหารครุฑากำลังจะซัดพระแสงหอกตรงไปยังนิศามณี
“ รีบหนีเพคะ! เร็ว!... ”
ปึก!
ทหารครุฑีตนหนึ่งพูดขึ้นก่อนจะบินพุ่งเข้าชนกับร่างทหารครุฑาตนนั้นอย่างสุดแรงเพื่อเปิดทางให้ นิศามณีรีบกระพือปีกสีมณีราคก่อนจะเร่งบินหนีด้วยความเร็ว ทหารครุฑาบินตามไปอย่างไม่ลดละ
“ พระธิดา!!..”
ทหารครุฑีที่กำลังต่อสู้กับทหารครุฑาได้ตะโกนเรียกธิดาของตน
เมื่อเห็นทหารครุฑาตนหนึ่งกำลังซัดอาวุธไปทางธิดาสาว นิศามณีที่ได้ยินจึงได้หันมาตามเสียงตะโกน
ฉึก!! อึ๊!!
ครุฑีสาวรู้สึกถึงความเจ็บที่พุ่งเข้าตรงกลางปีกสีมณีราค
ก่อนสติที่เหลือจะดับวูบ และร่างบางกำลังร่วงดิ่งสู่เบื้องล่างด้วยความเร็ว
“ พระธิ!!..”
ฉึบ!! อึ! ฉึบ! อ้ะ!
ก่อนที่ทหารครุฑีทั้ง 2 ตนจะได้บินเข้าไปช่วยนิศามณี
นางได้ถูกพระแสงหอกแทงเข้าที่กลางอก ก่อน 2 ร่างจะร่วงดิ่งตามพระธิดาของตนไป
ณ เบื้องล่างอาณาจักแห่งยักษ์
ชายป่าด้านนอกของเมืองยักษ์ กษัตริย์อสุราพร้อมเหล่าทหารอสุรากำลังเดินทางจะกลับเมือง หลังจากการออกล่าสัตว์
“ วันนี้ได้กวางมามากมายหลายตัวเลยพะยะค่ะองค์เหนือหัว คงจักเป็นลาภปาก เหล่าสนมของพระองค์เป็นแน่..”ทหารอสุราตนหนึ่งพูดขึ้นกับกษัตริย์ของตน
“ เจ้านี่ช่างห่วงใยเหล่าสนมของเราเสียจริงนะ อินสูรย์..” พระสุวรรณเมฆากษัตริย์อสุราพูดออกมาพร้อมกับยกยิ้มที่มุมปากเล็กน้อย เมื่อเห็นว่าทหารอสุราคู่กายตนช่างใส่ใจเหล่านางสนมของตน
“.....”
“ เจ้ามีใจแก่สนมของเราอย่างนั้นรึ อินสูรย์...”
“ โธ่ พระองค์ กระหม่อมมิกล้าดอกพะยะค่ะ กระหม่อมก็เอ่ยไปตามความคิดเพียงเท่านั้นพะยะค่ะ ”
“....”
พระสุวรรณเมฆายิ้มออกมาก่อนจะส่ายพระเศียรเล็กน้อยเมื่อเห็นทหารอสุรารีบพูดแก้ต่างทันใดเนื่องจากเกรงกลัวจะถูกลงทัณฑ์
“ แต่กระหม่อมก็มิเคยเห็นพระองค์ทรงสนพระทัยพระสนมองค์ไหนมากเป็นพิเศษเลยนะพะยะค่ะ..” ทหารอสุราพูดต่อเพราะมีความข้องใจ
ในเมื่อพระสนมแต่ละองค์ของพระสุวรรณเมฆา นั้น งดงามทุกนาง แต่ทว่าพระสุวรรณเมฆาไม่เคยใส่ใจสนมนางไหนมากไปกว่ากัน
“.....” พระสุวรรณเมฆานิ่งไป เมื่อได้ยินทหารยักษาเอ่ยขึ้น
เหล่าสนมทั้ง 4 นาง แม้จะเป็นถึงพระราชธิดากษัตริย์ แต่ก็เป็นเครื่องบรรณาการจากเมืองต่างๆที่ส่งให้ พระสุวรรณเมฆาเรียกให้มารับใช้ เพียงเพราะความต้องการของร่างกายชายเท่านั้น ไม่ได้มีใจให้แต่อย่างใด
ตุบ!!
ทันใดนั้นเองไม่ไกลนักมีบางสิ่งบางอย่างร่วงหล่นลงมาจากฟ้าก่อนกระทบกับผืนดินจนเกิดเสียงดัง
๐๐๐๐๐๐๐๐๐
คำโปรย : .....ใครจะไปคิด! ว่าไก่ย่างเพียงไม้เดียว มันจะทำให้ชีวิตของเธอถึงจุดจบ! และนำพาเธอย้อนเวลาไปเกิดใหม่ในร่างของคนที่อยู่ในยุคประวัติศาสตร์ และที่สำคัญ เธอได้สามีเป็นของแถม! **** อารัมภบท : .....เรื่องราวของนักศึกษาสาวที่ชีวิตพลิกผันอย่างไม่คาดฝัน เมื่อเธอหมดลมหายใจเพราะไก่ย่างเพียงไม้เดียว! แต่เธอกลับได้ย้อนเวลาเกิดใหม่ในร่างของลูกสาวเจ้าพระยาที่อยู่ในยุคก่อน แถมร่างนั้นก็ยังมีสามีแล้ว แต่เป็นสามีแสนจะเย็นชา ที่ไม่เคยสนใจหรือใส่ใจให้ความรักกับภรรยาที่เป็นเจ้าของร่างเดิมเลย แล้วใครสน? สำหรับเธอ คิดเพียงว่าได้มาเกิดใหม่อีกครั้ง ก็ดีแค่ไหนแล้ว ใครจะไม่รักก็ช่างเขาสิ ..โนสน ..โนแคร์จ้า แต่ทว่า! ยิ่งเธอไม่สนใจเขามากเท่าไหร่ เขาก็ยิ่งหันกลับมาสนใจเธอมากขึ้นเรื่อยๆ เพราะความแปลกใหม่ของเธอทำให้เขารู้สึกตื่นเต้นและประหลาดใจในเวลาเดียวกัน จนกระทั่งคนที่เคยเย็นชามาตลอด จู่ๆ ก็กลายเป็นคนคลั่งรักในที่สุด.. #ตัวละครหลัก : *พระยาพิพัฒน์พงศ์ หรือ เจ้าคุณพิพัฒน์ อายุ 36 ปี มีบรรดาศักดิ์เป็นขุนนางระดับสูง รูปหน้าหล่อขั้นเทพ ฉลาด สุขุมรอบคอบ เงียบขรึม มีเสน่ห์ ผิวขาว รูปร่างกำยำ * จันทร์วรา อุษาวิบูลย์ หรือ เจ้าจันทร์ อายุ 21 ปี นักศึกษาปี 4 คณะสถาปัตยกรรมศาสตร์ สาขาออกแบบ ภายใน สวยหวาน ร่าเริง กล้าพูดกล้าทำ ตากลมโต ปากจิ้มลิ้ม ผิวขาว รูปร่างผอมเพียว อกอวบอิ่ม _____________________ นิยายเรื่องนี้ สงวนลิขสิทธิ์ตามพระราชบัญญัติลิขสิทธิ์ พ.ศ. 2537 ฉบับแก้ไขเพิ่มเติม ห้ามทำการคัดลอด เลียนแบบ หรือดัดแปลงเนื้อหาส่วน ใดส่วนหนึ่งของงานเขียนนี้ รวมทั้งการจัดเก็บ ถ่ายทอด บันทึก ถ่ายภาพ ไม่ว่ารูปแบบหรือวิธีการใดๆ ในกระบวนการอิเล็กทรอนิกส์ เว้นแต่จะได้รับอนุญาตจากเจ้าของลิขสิทธิ์เท่านั้น ผู้เขียน : รดามณีนัฐฐ์ ภาพปก : Onlyboy ปรับแต่งภาพปก : Dayny_white ปกอิมเมจ : เยเรมีย์ ________💫________
💫คำโปรย💫 " ขาแข้งสั่นถึงเพียงนี้แล้ว! เจ้ายังจักมีแรงหนีข้าได้อีกอย่างนั้นรึ? หึ.. เช่นนั้นข้าคงต้องทำให้เจ้าหมดแรงก่อนสินะ! ข้าใคร่รู้นัก ว่าเจ้าจักมีแรงหนีไปที่ใดได้อีก..” 💫อารัมภบท💫 พญาครุฑหนุ่มนามว่า พระมหิงส์เวหะ ราชโอรสแห่งเมืองครุฑดินแดนทักษิณ เมืองสินธุ เป็นพญาครุฑหนุ่มรูปงาม ผิวสีเข้ม คมคร้าม นัยน์ตาสีชาด(สีเลือด) รูปกายสง่างาม ยากจักหาครุฑาหนุ่มตนใดมาเปรียบได้ ครั้นเมื่อพญาครุฑหนุ่มต้องสูญเสียต้องสูญเสียคู่หมั้นที่ตนรักให้แก่กษัตริย์อสุราตนหนึ่งไป ..ใจพญาครุฑหนุ่มมันแสนเจ็บปวดที่ต้องสูญเสียนางไปแต่กลับทำอันใดมิได้เลย มิหนำซ้ำนางยังมีใจแก่กษัตริย์อสุราตนนั้นอีก แต่ทว่า! เมื่อพระมหิงส์เวหะได้พบกับ นรีทิพย์อัปสร ญาติผู้น้องของกษัตริย์อสุราตนนั้น ความเจ็บปวดที่มีอยู่กลับแปลเปลี่ยนไปโดยเขาไม่รู้ตัว พญาครุฑหนุ่มได้ฉุดคร่าอัปสรตัวน้อยกลับไปถิ่นฐานของตน เพียงใคร่จักเอาคืนกษัตริย์อสุราตนนั้น และได้เชยชมนางจนสมใจ แต่กว่าจะรู้ตัว พญาครุฑหนุ่มก็ทั้งรักทั้งหลงนางอัปสรตัวน้อยจนถอนตัวถอนใจมิได้เสียแล้ว ________💫_________ เรื่อง : พญาครุฑอุ้มสม (เล่ม๑) ผู้เขียน : รดามณีนัฐฐ์ ภาพปก : Dayny_white พิสูจน์อักษร : รดามณีนัฐฐ์ นิยายเรื่องนี้ สงวนลิขสิทธิ์ตามพระราชบัญญัติลิขสิทธิ์ พ.ศ. 2537 ฉบับแก้ไขเพิ่มเติม ห้ามทำการคัดลอด เลียนแบบ หรือดัดแปลงเนื้อหาส่วน ใดส่วนหนึ่งของานเขียนนี้ รวมทั้งการจัดเก็บ ถ่ายทอด บันทึก ถ่ายภาพ ไม่ว่ารูปแบบหรือวิธีการใดๆ ในกระบวนการอิเล็กทรอนิกส์ เว้นแต่จะได้รับอนุญาตจากเจ้าของลิขสิทธิ์เท่านั้น ________💫_________ #คำเตือน นิยายเรื่องนี้ไม่เหมาะสำหรับนักอ่านที่อายุต่ำกว่า ๑๘ ปี โปรดใช้วิจารณญาณก่อนอ่าน นิยายเรื่องนี้เขียนขึ้นจากความคิดและจินตนาการของไรต์ล้วน ๆ เป็นเรื่องราวของความรักในยุคของวรรณคดี ที่ไม่เคยปรากฏอยู่ในวรรณคดีใดมาก่อน ลักษณะความพิเศษของตัวละครมีเรื่องราวเหนือธรรมชาติและสถานที่ต่าง ๆ จึงเป็นเพียงสิ่งที่สมมุติขึ้นมาเท่านั้น อาจผิดแผก แปลกไปจากตำนานที่เล่าขานกันมา เพราะฉะนั้น ภาษาที่ใช้ จะเป็นภาษาที่มาจากหลายยุคหลายสมัยรวมกัน มีเนื้อหารุนแรง และเนื้อหาบรรยายฉากร่วมรักระหว่างหญิงชายอย่างโจ่งแจ้ง เนื้อหาที่ไม่เหมาะสมของตัวละครที่ ไม่สมควรลอกเลียนแบบ ________💫_________
...เมื่อกษัตริย์อสุรารูปงาม เกิดต้องตาต้องใจเชลยสาวตั้งแต่แรกเห็น และเขาหมายจะครอบครองนาง แต่ทว่า! เชลยศักดิ์ผู้เลอโฉมนั้นกลับแสนพยศ อีกทั้งยังประกาศกร้าว ว่านางจะไม่ยอมสวามิภักดิ์ต่อเขาเป็นอันขาด! #หมายเหตุ : นิยายโรมานซ์ แนวพีเรียดแฟนตาซี เซตนี้มีทั้งหมด 3 เรื่องด้วยกันนะคะ เรื่องแรก : ยักษ์ครุฑี เป็นคู่ของ พี่ยักษ์ กับ น้องครุฑีตัวน้อย (พระสุวรรณเมฆา / นิศามณี) มี 2 เล่ม เรื่องที่สอง : ปราบพยศเชลยยักษ์ เป็นคู่ของ พนาสูรย์ กับ กรรณา (พระราชธิดายักษ์) คือเรื่องนี้ เรื่องที่สาม : พญาครุฑอุ้มสม เป็นคู่ของ พี่ครุฑ กับ น้องอัปสรตัวน้อย (พระมหิงส์เวหะ / นรีทิพย์) #คำเตือน : นิยายเรื่องนี้ไม่เหมาะสำหรับนักอ่านที่อายุต่ำกว่า 18 ปี
‘คทา’ มาเฟียหนุ่มวัย 32 ปีที่ต้องมาเป็นคุณอาแบบกะทันหัน เมื่อพี่ชายต่างมารดาได้ประสบอุบัติเหตุเสียชีวิตพร้อมกับภรรยา แต่ก่อนจะสิ้นใจเขาได้ฝากให้มาเฟียหนุ่มช่วยอุปการะบุตรสาวบุญธรรมวัยเพียง17ปีของเขา ‘มัสลิน’ เด็กสาวจำต้องกลายมาเป็นหลานสาวมาเฟียแบบไม่ทันตั้งตัว ทว่าเพียงแค่เห็นหน้าลูกสาวบุญธรรมของพี่ชาย มาเฟียหนุ่มก็คิดจะกินหลานสาวนอกไส้ของตัวเองเสียอย่างงั้น คทา แสงไท วัย 32 ปี มาเฟียหนุ่มโสดรูปหล่อ เจ้าของธุรกิจครบวงจร รวมทั้งผับและบ่อนคาสิโนมากมาย มัสลิน แสงไท หรือ อ้อน บุตรบุญธรรมของดนัย พี่ชายมาเฟียหนุ่ม สาวน้อยวัย 17 ปี ที่ร่างกายกำลังเข้าสู่วัยสาว หน้าตาดี ผิวพรรณขาวใสหมดจด กับรูปร่างที่โตเกินวัยเด็ก ส่วนเว้าโค้งเอวคอดกิ่ว หน้าอกหน้าใจล้นทะลักเกินตัว #สปอย “ เหอะ! แล้วใครบอกคุณ ว่าหนูจะไปอยู่ด้วยไม่ทราบ? ” ใบหน้าสวยดวงตาใสไร้เดียงสาเชิดขึ้นสบกับดวงตาคมพร้อมกับน้ำเสียงเด็ดเดี่ยว ก่อนดวงตาคู่สวยจะเบนสายตาไปทางอื่นเพื่อหลบนัยน์ตาสีเข้มของมาเฟียหนุ่มที่จ้องมองมาไม่กระพริบ “ หึ...ดื้อ ” คทาหัวเราะเสียงต่ำในลำคอก่อนจะเอ่ยสั้นๆ “ หนูจะกลับบ้านของหนู ” “ ไม่ได้!! หนูจะต้องกลับไปกับอา ” “ คุณไม่ใช่อาของหนูจริงๆซักหน่อย.. ” “.....” คทานิ่งไปชั่วขณะ ไม่คิดว่าเด็กสาวจะกล้าเถียงเขาก่อนจะเอ่ยอย่างใจเย็น “ จะใช่หรือไม่ อาก็ได้สิทธิ์เลี้ยงดูหนูอย่างถูกต้องตามกฎหมาย ” “ หนูดูแลตัวเองได้ค่ะ ไม่จำเป็นจะต้องให้ใครมาเลี้ยงดู..” “ อวดเก่ง..” “ เก่งอยู่แล้วค่ะ ไม่ได้อวด ” เด็กสาวตอบกลับอย่างไม่ลดละด้วยน้ำเสียงเย่อหยิ่ง สถานการณ์เริ่มตึงเครียด เมื่อสองอาหลานถกเถียงกันอยู่กลางฟลอร์อย่างไม่มีใครยอมใคร ต่อหน้าพนักงานทั้งผับ ____
คำโปรย : “นี่คุณ!! ”‘ เธอยังบริสุทธิ์!! เป็นไปได้ไง? ’ ไหนว่าเป็นหม้าย??!! ..เมื่อมาเฟียหนุ่มได้ช่วยเหลือหม้ายสาวแสนสวยที่ถูกวางยา... ทว่า!ก็กลับต้องแปลกใจ ที่เขาดันเป็นคนแรกของเธอ #สปอย “ อื้อออออ.. ” เสียงครางต่อสู้กับความต้องการบางอย่างที่เริ่มรุนแรงขึ้นทุกขณะ รินรดาหน้าแดงก่ำ เริ่มกัดรีมฝีปากล่างจนแดงเอ่อ สองขาหนิบบิดหากันแน่น เสียดสีกันไปมาในอ้อมแขนของมาเฟียหนุ่ม สติของเธอกำลังเตลิด และเริ่มที่จะคบคุมตัวเองไม่ได้อีกครั้ง มือบางอยู่ไม่สุข คว้าเอาสาปเสื้อเชิ้ตสีดำของคนอุ้ม ก่อนดึงกระชากจนกระดุมหลุดขาดกระเด็น มืออีกข้างเริ่มเลื้อยลงไปผลุบตรงส่วนล่างของตัวเองอย่างควบคุมไม่ได้ ภาพอันรัญจวนใจตรงหน้า ทำเอามาเฟียหนุ่มใจเต้นแรงส่วนล่างของเขากำลังปวดหนึบแทบจะดันทะลุเป้ากางเกง กับสิ่งยั่วยวน ชวนชิม ที่อยู่ในอ้อมแขนของตัวเอง มาเฟียหนุ่มเองก็แทบจะทนไม่ไหวอยู่แล้ว “ คุณริน.. คุณรินครับ ตั้งสติหน่อย ” ลำแขนแกร่งพยายามเขย่าตัวร่างบางอีกครั้งเพื่อเรียกสติก่อนที่ประตูลิฟท์ชั้นบนสุดจะเปิดออก ปภาวินโอบอุ้มคนตัวเล็กกึ่งเดินกึ่งวิ่งตรงดิ่งไปยังห้องพักตัวเอง ผ่านส่วนห้องรับแขกตรงไปยังห้องนอนของตัวเองบอดี้การ์ดวิ่งไปเปิดประตูให้คนเป็นนาย เมื่อประตูห้องนอนถูกปิดลง แขนแกร่งรีบวางร่างเล็กอ่อนปวกเปียกที่กำลังบิดกายไปมาลงบนเตียงนุ่ม ก่อนผละออกมายืนอยู่ตรงปลายเตียง จ้องมองดูร่างระทวยอย่างใจสั่นไหว มาเฟียหนุ่มขมกรามแน่นอย่างข่มอารมณ์ความต้องการของตัวเอง มองดูร่างบางที่กำลังดิ้นเร่าบิดกายไปมาอย่างทรมานจากฤทธิ์ยาปลุกกำหนัด รู้สึกสงสารเธอเหลือเกินที่ถูกคนเลวคิดทำร้าย “ ร้อน.. รินร้อน.. ทรมานเหลือเกิน อื้ออออ ” เสียงครางหวานแหบพร่า ที่ต่อสู้กับความทรมานจากฤทธิ์ยาปลุกกำหนัด เริ่มขาดๆหายๆ “ อิ้อออ นะ..น้ำ ห้องน้ำ พารินไปห้องน้ำ รินต้องอาบน้ำ ” เสียงครางกระเส่ากับสติที่ยังหลงเหลืออยู่อันน้อยนิด คิดได้ว่าน้ำอาจช่วยลดความร้อนรุ่มภายในกายได้ ร่างบางอ่อนปวกเปียกกำลังตะเกียกตะกายลงจากเตียงอย่างทุลักทุเล คนที่ยืนมองอยู่ได้ยินแบบนั้น ก็รีบเข้าไปช้อนร่างบางขึ้นไว้ในอ้อมแขนแกร่งแล้วตรงไปยังห้องน้ำทันที ลำแขนแกร่งประคองร่างเล็กให้ยืนอยู่ใต้ฝักบัวอาบน้ำขนาดใหญ่ รินรดาหวังเพียงใช้น้ำเพื่อดับความร้อนรุ่มในกาย ฝ่ามือหนาไม่รอช้ารีบเปิดน้ำให้เธออย่างรวดเร็ว สายน้ำจากฝักบัวไหลพรมลงบนร่างเล็กจนเปียกชุ่มทั้งตัว ทำให้ชุดเดรสสั้นที่เธอสวมใส่มานั้นเปียกชุ่มจนแนบเนื้อ เผยให้เห็นเนื้อเนียนภายใต้ชุดนั่น “ อึก!” สัดส่วนเว้าโค้งเอวคอดกิ่วของร่างเล็กนั่นอย่างชัดเจน ทำเอาคนที่กำลังยืนมองถึงกับกลืนน้ำลายเอื้อกใหญ่ลงคอ มาเฟียหนุ่มใบหน้าร้อนผ่าวเมื่อเขาเห็นเนินอกอวบอิ่มที่ไร้บรา มีแค่เพียงจุกปิดยอดถัน แม้จะอยู่ภายใต้ชุดเดรสแต่ก็ยังเห็นเด่นชัด ส่วนล่างของเค้ามันกำลังเริ่มคับแน่น เขากำลังเกิดอารมณ์เพราะร่างเล็กที่เปียกชุ่มเป็นต้นเหตุ #มาเฟียหนุ่มได้ช่วยเหลือหญิงหม้ายที่ถูกวางยาปลุกเซ็กซ์ ทว่าเขากลับต้องตกใจ!เธอจะเป็นหม้ายได้ไง? ในเมื่อรู้ว่าเธอยังบริสุทธิ์อยู่ และเขาเป็นคนแรก มาเฟียหนุ่มหลงเสน่ห์หญิงหม้ายที่ว่าเพียงชั่วข้ามคืน ‘ปภาวิน’ (30) มาเฟียหนุ่มโสด หล่อ หน้าตาดี เป็นทายาทตระกูลมาเฟียใหญ่ที่มีธุรกิจโรงแรมมากกว่า 40 แห่ง รวมถึงธุรกิจสีเทามากมายอีกทั้งยังมีสาวๆในสต็อกมากมาย ‘ รินรดา’ (36) หม้ายสาวแสนสวยใบหน้าอ่อนกว่าวัยราวกับเด็กสาวมหา’ลัย เจ้าของธุรกิจโรงแรมรีสอร์ทที่เธอออกแบบและสร้างมันกับมือ Talk.. Set มาเฟียร้าย สวัสดีค่ะนักอ่านทุกท่าน นามปากกา รดามณีนัฐฐ์ นะคะ ชื่อเล่นว่า นา ค่ะ ขอบคุณสำหรับการตอบรับนะคะ Set มาเฟียร้าย ทั้งหมดมี 3 เรื่องนะคะ เรื่องแรกเริ่มต้นที่คู่ของ ปภาวิน & รินรดา มาเฟียร้ายหลงบ่วงหม้ายเสน่หา ค่ะ เรื่องที่ 2 เป็นคู่ของ คทา & มัสลิน ร้อนรักคุณอามาเฟีย นะคะ เรื่องที่ 3 เป็นคู่ของ หมอสันต์ & ผักหวาน รักร้ายหมอมาเฟีย ฝากติดตามผลงานของไรท์ด้วยนะคะ
ในสายตาของเขา เธอเป็นคนขี้โกหก ในสายตาของเธอ เขาเป็นคนไร้หัวใจ เดิมทีถังหว่านคิดว่าเธอคือคนพิเศษหลังจากอยู่กับเสิ่นติงหลานมาสองปี แต่สุดท้ายก็พบว่าตัวเองเป็นแค่ของเล่นที่สามารถทิ้งได้อย่างตามใจเมื่อไม่มีค่าอีกต่อไป จนกระทั่งถังหว่านเห็นว่าเสิ่นติงหลานพาคนรักของเขาไปตรวจครรภ์ เธอจึงยอมแพ้แล้ว เธอหยุดติดตามเขาอีก แต่จู่ๆ เขากลับไม่ยอมปล่อยเธอไป "ถ้าคุณไม่เชื่อฉัน ทำไมคุณไม่ปล่อยฉันไปล่ะ?" ชายผู้เคยหยิ่งยะโสขนาดนั้น ตอนนี้ก้มหัวลงและขอร้องว่า "หวานหว่าน ฉันผิดไปแล้ว โปรดอย่าทิ้งฉันไป"
เซิ่งหนานหยินเกิดใหม่แล้ว ชาติที่แล้ว เธอถูกชายชั่วหักหลัง ถูกชายเสแสร้งใส่ร้าย โดนครอบครัวสามีเล่นงาน จนทำให้เธอล้มละลายและเป็นบ้าไป ในท้ายที่สุด เธอเสียชีวิตอย่างน่าสลดใจด้วยอุบัติเหตุทางรถยนต์เมื่อเธอตั้งครรภ์ได้ 9 เดือน แต่คนร้ายกลับทำเงินได้มากมาย และใช้ชีวิตทั้งครอบครัวอย่างมีความสุข เกิดใหม่ครั้งนี้ เซิ่งหนานหยินคิดตกอล้ว อะไรที่ว่าพระคุณช่วยชีวิต คนรักในใจอะไรกัน ล้วนไม่ต้องไปสน เธอจะจัดการชายชั่วหญิงร้าย สร้างชื่อเสียงให้กับตระกูลเก่าของตนเองขึ้นมาใหม่อีกครั้งและนำตระกูลเซิ่งไปสู่จุดสูงสุดของชีวิต สิ่งที่แตกต่างออกไปก็คือ คนที่หยิ่งมาตลอดในชาติที่แล้ว กลับเป็นฝ่ายริเริ่มมาหาเธอ "เซิ่งหนานหยิน การแต่งงานครั้งแรกผมไม่ทัน การแต่งงานครั้งที่สองก็ต้องถึงคิวผมแล้วสินะ"
หลังจากแต่งงานได้ 2 ปี ในที่สุดเจียงเนี่ยนอันก็ตั้งครรภ์สักที ความดีอกดีใจของเธอแต่กลับแลกกับคำขอหย่าของสามี หลังจากการสมคบคิด เธอนอนในกองเลือด และต้องการขอร้องเขาให้ช่วยเด็กเอาไว้ แต่กลับไม่สามารถติดต่อกับอีกฝ่ายได้ ด้วยความสิ้นหวังเธอจึงออกจากประเทศไป ต่อมาในงานแต่งงานของเจียงเหนียนอัน คุณกู้เสียการควบคุมและคุกเข่าลง ดวงตาของเขาแดงก่ำ "มีลูกของฉัน แล้วเธออยากจะแต่งงานกับใครกัน?"
เฉียวลู่ นักแสดงแถวหน้าของจีนมีข่าวฉาวออกมาทำให้ทางต้นสังกัดของเธอสั่งให้เธองดออกสื่อชั่วคราว จึงเป็นโอกาสที่หาได้ยากสำหรับคนงานยุ่งตลอดทั้งปีของเธอที่จะได้พักผ่อน เฉียวลู่เดินทางกลับบ้านเกิดของเธอและการกลับไปครั้งนี้ทำให้ชีวิตของเฉียวลู่เปลี่ยนไปตลอดการ ฉีหมิงเยี่ยน อนุชาองค์เล็กของฮ่องเต้แห่งแคว้นฉี ถูกลอบปลงพระชนม์ระหว่างที่เดินทางมาทำหน้าที่เจรจาสงบศึกกับเเเคว้นเซียว เพราะได้รับบาดเจ็บสาหัสทำให้ชินอ๋องความจำเสื่อมและได้รับการช่วยเหลือจากพ่อลูกตระกูลเฉียว เซียวยิ่น ฮ่องเต้แคว้นเซียวมีพระสนมมากมายเเต่กลับไม่สามารถให้กำเนิดพระโอรสได้โหรหลวงได้ทำนายเอาไว้ว่า ในอนาคตองค์รัชทายาทที่แท้จริงจะกลับมาเซียวยิ่นจึงมีรับสั่งให้ทหารออกตามหาพระโอรสและอดีตฮองเฮาของตนอย่างลับๆ ฉินอี้เหยา ได้รับบาดเจ็บสาหัสร่างลอยตามแม่น้ำมาพร้อมกับเด็กทารกในอ้อมแขนเมื่อฟื้นขึ้นมานางจึงแสร้งจำเรื่องราวในอดีตไม่ได้ เพื่อให้นางและบุตรชายมีชีวิตรอดต่อไป
คุณท่านเสียว คุณชายยอดเยี่ยมที่โด่งดังในเมือง B ได้แต่งงาน แต่มีข่าวลือว่าเจ้าสาวมีรูปร่างหน้าตาที่น่าเกลียดและมีฐานะต่ำต้อย สามปีมานี้ เขาปฏิบัติกับเธออย่างเย็นชาและทำเหมือนเป็นคนแปลกหน้า เจียงซิงซิงอดทนกับความเย็นชาอย่างเงียบ ๆ เธอยังคงรักเขาอย่างสุดหัวใจ เสียสละความนับถือตนเองและยอมละทิ้งตัวตนของเธอเอง จนกระทั่งวันหนึ่ง สุดที่รักของเขากลับประเทศ เขได้สารภาพว่าเขาแต่งงานกับเธอเพียงเพื่อช่วยชีวิตคนรักในใจของเขาเท่านั้น เจียงซิงซิงเสียใจและผิดหวังมาก เธอจึงเซ็นเอกสารหย่าและจากไปด้วยความเศร้าใจ สามปีต่อมา เจียงซิงซิงผู้สวยงามจนน่าทึ่งกลับมาอีกครั้ง ได้กลายมาเป็นศัลยแพทย์ที่ดีที่สุดและเป็นยอดฝีมือด้านเปียโน อดีตสามีรู้สึกเสียใจ และกอดเธอแน่นท่ามกลางสายฝน เสียงของเขาสั่นเครือ "ที่รัก คุณเป็นของผม..."
จือหลินเธอเป็นเด็กกำพร้า ที่ถูกมารดาทอดทิ้งไว้ที่โรงพยาบาลตั้งแต่วันแรกที่ลืมตามาดูโลก ต่อมาทางโรงพยาบาลจึงส่งตัวเธอให้กับสถานสงเคราะห์ พออายุได้สามปี ก็มีองค์กรหนึ่งมารับเลี้ยงตัวเธอ แต่พวกเขาเลี้ยงเธอและเด็กคนอื่นๆ ไว้เพื่อเป็นหนูทดลองเท่านั้น ครั้งแรกที่ถูกนำตัวมา ต่างก็โดนจับฉีดยาเข้าสู่ร่างกาย เพื่อหาเด็กที่เลือดต้านเชื้อที่ฉีดเข้าไปได้เท่านั้น หากร่างกายทนรับไม่ไว้สิ่งที่ทางองค์กรมอบให้คือความตาย จือหลินอาจเป็นเพราะเลือดของเธอพิเศษกว่าเด็กคนอื่น ไม่ว่าฉีดยาตัวไหนเข้าสู่ร่างกายเธอก็ทนรับได้ทั้งนั้น นับจากนั้นมาเธอจึงถูกเลี้ยงดูจากองค์กรมาอย่างดี เรื่องการศึกษาเธอก็สามารถเรียนรู้ทุกสิ่งได้อย่างเต็มที่ แต่เพราะความฉลาดของเธอจึงถูกส่งให้เรียนวิทยาศาสตร์การแพทย์และเรียนแพทย์ควบคู่ไปด้วย เมื่อเรียนจบมาแล้ว จือหลินยังคงทำการให้องค์กรเช่นเดิม แม้จะไม่ได้เป็นนักฆ่าเช่นเพื่อนคนอื่นที่มาพร้อมกัน แต่เธอก็ต้องฝึกไม่ต่างจากพวกเขา ยิ่งเมื่อต้องนำเด็กเข้ามาเป็นหนูทดลองเช่นเดียวกับเธอในตอนเล็ก ต่อให้ไม่อยากทำก็ต้องทำ หากฝ่าฝืนไม่ทำการชิปที่ถูกฝังอยู่ในตัวจะถูกกระตุ้นให้ได้รับความทรมานทันที นานวันเข้า ความดำมืดก็ก่อเกิดในใจ ไม่ว่าจะฉีดยาให้เด็กร้ายแรงเพียงใดจือหลินก็เลิกรู้สึกผิดไปเสียแล้ว เพราะการทำงานของเธอตลอดหลายปีที่ผ่านมาทำให้ทางองค์กรยกย่องและมักจะให้สิ่งดีๆ กับเธอเสมอ เมื่อมีชิปตัวหนึ่งที่ถูกสร้างขึ้นมาเพื่อฝังมิติอีกห้วงหนึ่งไว้ภายในร่างกาย จือหลินนางก็ได้รับเลือกให้ทดลองใช้สิ่งนี้ด้วยเช่นกัน จือหลินถูกฝังชิปมิติเข้าที่แกนสมองของเธอ ความเจ็บปวดที่ได้รับทำให้เธอแทบสิ้นสติ เมื่อชิปถูกฝังลงไปแล้ว เพียงไม่นานก็มีเสียงจากระบบให้เธอยืนยันตัวตน ก่อนที่จะปรากฏภาพต่างๆ ภายในหัวของเธอ ของจากภายนอกล้วนแต่ถูกส่งเข้าไปเก็บไว้ด้านในได้ทั้งสิ้น หากเป็นเนื้อสด ผักผลไม้ ยังคงความสดอยู่เช่นเดิมแม้จะเก็บไว้นานมากเพียงใด ห้วงมิติของจือหลินเหมือนเป็นห้องสูทในคอนโดของเธอเองที่มีทุกอย่างพร้อมใช้อยู่ภายใน แม้แต่ห้องทดลอง ห้องทำงานของเธอก็ปรากฏอยู่ในนั้นเช่นกัน นับจากนั้นจือหลินจึงซื้อของเขาเก็บภายในมิติของเธอเป็นจำนวนมาก ตัวเธอเพียงผู้เดียวที่สามารถเข้าออกในห้วงมิติได้ วันเวลาผ่านไปจนจือหลินล่วงเข้าวัยสามสิบปี เธอสามารถผลิตยาที่ทำให้ทั่วโลกจับตามองออกมาได้ ยายื้อชีวิตจากความตาย แต่การทดลองของเธอที่ผ่านมาต้องใช้คนจำนวนมากในการเข้าทดลอง จือหลินสามารถยื้อชีวิตของชายชราที่กำลังจะหมดลมหายใจให้กลับมามีชีวิตปกติได้ เมื่อเธอกักตัวเขาไว้ได้หกเดือนเห็นว่าไม่มีสิ่งใดที่ผิดปกติจึงคิดจะปล่อยเขาออกไปใช้ชีวิตเช่นเดิม แต่แล้วสิ่งที่ไม่คาดคิดก็เกิดขึ้น เมื่อชายชราที่กำลังจะเดินออกจากห้องทดลองล้มลงต่อหน้าทุกคนที่เข้าร่วมชื่นชมผลงานของเธอ จือหลินรีบเข้าไปตรวจดูความผิดปกติทันที ก็พบว่าเขาหยุดหายใจเสียแล้ว เจ้าหน้าที่ทั้งหมดจึงต้องพาชายชราคนนั้นกลับเข้าไปในห้องทดลองเพื่อหาสาเหตุ ผ่านไปเพียงสองครึ่งชั่วโมงเขากลับลืมตาขึ้นมาอย่างไม่น่าเชื่อ แต่แววตาที่มองมาทางทุกคนได้เปลี่ยนไป ในดวงตาของชายชราผู้นั้นมีเพียงตาขาวไม่มีตาดำเช่นคนมีชีวิต “เกิดเรื่องอะไรขึ้น” ผู้อำนวยการองค์กรเดินเข้ามาหาจือหลินแล้วเอ่ยถามอย่างตื่นตระหนก เพราะนักข่าวที่ข่าวเชิญมายังอยู่ที่ด้านนอกเพื่อรอฟังคำตอบ “ขอดิฉันตรวจสอบก่อนค่ะ” จือหลินกุมหน้าผากอย่างมึนงง เธอก็ไม่เข้าใจเช่นกันว่าเป็นแบบนี้ไปได้อย่างไร คนทั้งหมดยืนมองชายชราที่เดินท่าทางประหลาดอยู่ในห้องทดลอง ในตอนนี้เขาเริ่มหยิบสิ่งของทำร้ายตัวเองอย่างบ้าคลั่ง เจ้าหน้าที่คนหนึ่งรีบวิ่งเข้าไปในห้องทดลองเพื่อห้ามไม่ให้เขาทำร้ายตัวเอง ชายชราเมื่อได้ยินเสียงคนเดินเข้ามาก็พุ่งเข้ามาหาอย่างรวดเร็ว และเริ่มกัดกินเนื้อตัวของเขาอย่างโหดร้าย คนที่เห็นเหตุการณ์ทั้งหมดต่างยกมือขึ้นปิดปากอย่างตกใจ เพราะกลัวข่าวเรื่องนี้จะรั่วไหล ผู้อำนวยการสั่งให้คนไปแจ้งนักข่าวให้กลับไปก่อน ทางองค์กรจะแถลงการณ์เรื่องนี้ในภายหลัง เจ้าหน้าที่ที่ถูกทำร้ายล้มลงเสียชีวิตไม่นานก็มีสภาพไม่ต่างจากชายชราคนนั้น เสียงวุ่นวายไม่ได้จบลงที่ห้องทดลองของจือหลินเพียงแห่งเดียว เพราะห้องทดลองอื่นก็ล้วนพบเหตุการณ์เช่นนี้ไม่ต่างกัน ผู้อำนวยการจำต้องส่งสัญญาณเคลื่อนย้ายเจ้าหน้าที่ออกจากตึกทดลองให้เร็วที่สุด จือหลินไม่รู้ว่ายาของนางจะสร้างผลเสียมากถึงเพียงนี้ เพราะเจ้าหน้าที่หลายคนล้วนจบชีวิตจนกลายเป็นซอมบี้ไปเสียแล้ว ตึกทดลองถูกปิดตาย เพื่อไม่ให้ซอมบี้ที่อยู่ด้านในออกมาสร้างความเสียหายภายนอกได้ “เรื่องนี้ดิฉันขอจัดการด้วยตนเองค่ะ” จือหลินเดินเข้าไปหาผู้อำนวยการที่ห้องทำงานของเขา เพื่อบอกสิ่งที่เธอคิดว่าอย่างดีแล้วในหลายวันที่ผ่านมา เมื่อเห็นว่าผู้อำนวยการไม่ห้ามในสิ่งที่เธอจะทำจือหลินจึงเดินไปที่หน้าตึกทดลองพร้อมระเบิดเวลาในมือ เธอคิดจะทำลายสิ่งของทุกอย่างที่เธอสร้างขึ้นมาลงด้วยมือของเธอเอง จือหลินเปิดประตูตึกทดลองแล้วรีบปิดลงทันที เธอเดินเข้าไปที่กลางตึกให้มากที่สุดเท่าที่จะทำได้ เพราะระหว่างทางเธอต้องคอยต่อสู้กับซอมบี้ที่จะเข้ามาทำร้ายเธอไปด้วย เสียงสัญญาณระเบิดดังขึ้น จือหลินหลับตาลง พร้อมทั้งถอนหายใจให้กับเรื่องราวในชีวิตที่ผ่านมา เสียงระเบิดดังไปทั่วบริเวณพร้อมทั้งตึกทดลองที่ถล่มลงมาจนแทบไม่เหลือซาก “เจ็บชะมัด” จือหลินร้องครางออกมาเบาๆ แต่เมื่อรู้สึกตัวได้เธอก็รีบพยุงตัวขึ้นนั่งอย่างรวดเร็วพร้อมมองไปรอบๆ อย่างไม่อยากเชื่อ เธอคิดว่าตายไปแล้วเสียอีก แต่ทำไมถึงได้มีความรู้สึกเจ็บได้ “นี้มันเรื่องบ้าอะไรอีกว่ะเนี่ย” จือหลินเบิกตากว้างอย่างไม่อยากเชื่อ รอบๆ ตัวเธอในตอนนี้เป็นป่าทึบ มือของเธอก็ไม่ใช่ของเธออย่างแน่นอนเพราะมีขนาดเล็กราวกับเป็นเด็กน้อยคนหนึ่งเท่านั้น ตอนที่เธอมึนงงสับสน เรื่องราวความทรงจำของเจ้าของร่างก็ไหลเข้าสู่หัวของเธอจนต้องลงไปนอนดิ้นกับพื้น