ซ่งหยุนหยุนแต่งงานไปแล้ว แต่เจ้าบ่าวไม่เคยปรากฏตัวตั้งแต่ต้นจนจบเลย ด้วยความโกรธหนัก เธอจึงมอบกายให้กับชายแปลกหน้าคนหนึ่งแทนในคืนการแต่งงานนั้น หลังจากวันนั้น เธอก็ถูกชายคนนั้นจับตาเข้า...
ตอนกลางคืน ห้องเวรของโรงพยาบาล
ซงยุ่นยุ่นถอดชุดแต่งงานของเธอออก แล้วสวมเสื้อกาวน์สีขาว
คืนนี้เป็นงานแต่งงานคืนแรกของเธอ
แต่เมื่อเพื่อนร่วมงานขอให้เธอช่วยเข้าเวรแทน เธอไม่ได้พูดอะไร ก็มาที่โรงพยาบาลทันที
ซงยุ่นยุ่นหัวเราะเยาะให้กับตัวเอง ยังไงก็ไม่มีใครสนใจอยู่แล้วว่าเธอจะไปไหน
มีเสียงโครมครามดังขึ้น จากนั้นประตูห้องที่เธออยู่เวรก็ถูกผลักเข้ามาอย่างแรง
เธอกำลังจะเงยหน้าขึ้น ก็ได้ยินเสียงแต๊ะ แล้วไฟในห้องก็ดับลง
ซงยุ่นยุ่นตกใจจนขนลุกซู่ไปทั้งตัว
“ใครน่ะ……”
ก่อนที่เธอจะทันได้พูดอะไร เธอก็ถูกผลักลงไปบนโต๊ะ ข้าวของบนโต๊ะกลิ้งตกลงไปที่พื้นอย่างแรง มีมีดปลายแหลมเล่มหนึ่งจ่ออยู่ที่คอของเธอพร้อมกับคำขู่ที่ว่า “อย่าพูด!”
ภายใต้แสงสลัว ๆ เธอเห็นเพียงใบหน้าที่เปื้อนเลือดของชายคนนั้น และดวงตาที่เฉียบคมคู่หนึ่ง
มีกลิ่นคาวเลือดโชยมาเตะที่ปลายจมูกของเธอ ทำให้เธอรู้ว่าชายคนนี้ได้รับบาดเจ็บมา
อาจเป็นเพราะวิชาชีพของเธอ เวลาเจอกับปัญหาจึงทำให้เธอสามารถตั้งสติได้
เธองอขาเล็กน้อย พยายามโจมตีจุดอ่อนของชายคนนั้น แต่เพียงแค่เธอขยับตัวเล็กน้อย ชายคนนั้นก็สังเกตเห็นได้ทันที เขาจึงจับขาทั้งสองข้างของเธอที่อยู่ไม่สุขเอาไว้แน่น
“ฉันเห็นมันวิ่งมาทางนี้ชัด ๆ ”
มีเสียงฝีเท้าที่กำลังเข้ามาใกล้ประตู
ฟังการเคลื่อนไหวของพวกเขาแล้ว คาดว่าเดี๋ยวพวกเขาจะต้องมาเปิดประตูอย่างแน่นอน
ในสถานการณ์ที่กำลังจะจวนตัว ชายคนนั้นก็ก้มหน้าลงจูบริมฝีปากของเธอ
ซงยุ่นยุ่นพยายามขัดขืน แล้วเธอก็ผลักชายคนนั้นออกไปได้อย่างง่ายดาย เขาไม่ได้ทำร้ายเธอด้วยอาวุธมีคมในมือที่ถืออยู่
เธอชะงักไปครู่หนึ่ง
แกร๊ก!
เวลานี้ ลูกบิดประตูถูกบิด
หัวใจของซงยุ่นยุ่นสั่นไปหมด เธอเงยหน้าขึ้น และจูบเขา เธอเป็นฝ่ายที่เริ่มเอามือโอบรอบคอของชายคนนั้นไว้ก่อน
เสียงของเธอสั่นเทา แต่เธอก็ยังแสร้งทำเป็นนิ่ง “ฉันช่วยคุณได้”
ลูกกระเดือกของชายคนนั้นกระเดือกขึ้นลง ในวินาทีถัดมา เขาก็ตอบโต้กลับไป เมื่อลมหายใจร้อน ๆ ของเขาโดนใบหูของเธอ มันทั้งเคร่งขรึม และเซ็กซี่ “ผมจะรับผิดชอบคุณเอง”
ไม่ เขาเข้าใจผิดแล้ว เธอก็แค่แสดงละครตบตาชั่วคราวเท่านั้น
วินาทีที่ประตูถูกผลักเปิดออก
เธอก็ครางออกมาเล็กน้อยเลียนแบบในทีวี ซึ่งเสียงการหอบหายใจที่มีเสน่ห์ และอ่อนโยนของเธอนั้น ทำให้ผู้ชายถึงกับหลงใหล
ทำให้คนที่ประตู ได้ยินแล้วก็รู้สึกใจเต้นแรงไปด้วย
“ให้ตายเถอะคนกำลังเล่นเสียวกัน แอบมามีอะไรกันในโรงพยาบาล บัดสีบัดเถลิงจริง ๆ”
ตอนที่ประตูถูกผลักเปิดออก และเกิดช่องว่างเล็ก ๆ ทำให้แสงไฟจากทางเดินสาดส่องเข้ามา แล้วก็ส่องไปที่ตัวของซงยุ่นยุ่น ซึ่งชายคนนั้นกำลังกดตัวของเธอไว้เพื่อปิดกั้นสายตาที่มองเข้ามาด้วยความอยากรู้อยากเห็นของคนที่อยู่ประตูนั้น ภายใต้แสงไฟสลัว ๆ นี้ พวกเขาจึงเห็นเพียงคนสองคนที่กำลังนัวเนียกันอย่างเมามันส์
“ต้องไม่ใช่เจียงเย่าจิ่งแน่ ๆ มันบาดเจ็บขนาดนั้น ต่อให้ประทานนางฟ้ามาให้ มันก็คงจะเสพสุขไม่ไหว”
“สองคนนี้แซ่บเป็นบ้าเลย”
“จะบ้ารึไง รีบไปหามันซะ ไม่งั้นพวกเราได้ตายกันหมดแน่!”
เสียงกรอบแกรบ และเสียงฝีเท้าค่อย ๆ หายไป
ชายคนนั้นรู้ดีว่าคนกลุ่มนั้นออกไปแล้ว แต่เขากลับพบว่าเขาไม่สามารถควบคุมตัวเองได้ เขาถูกกระตุ้นจากผู้หญิงแปลกหน้าคนนี้ จนเกิดความปรารถนาแบบที่ไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อน
หลังจากพ้นวิกฤตไปแล้ว เดิมทีซงยุ่นยุ่นอยากจะผลักชายคนนั้นออก แต่ทันใดนั้นเธอก็นึกถึงการแต่งงานของเธอขึ้นมา
ตั้งแต่เกิดมา ชีวิตของเธอถูกควบคุมโดยคนอื่นมาโดยตลอด รวมทั้งการแต่งงานของเธอด้วย
การแต่งงานเข้าไปอยู่ในตระกูลเจียง เป็นเพราะความโลภของพ่อเธอเท่านั้น
ปู่ของเธอเคยเป็นคนขับรถของเถ้าแก่เจียงมาก่อน แต่ด้วยอุบัติเหตุครั้งนึง เขาได้ช่วยชีวิตเถ้าแก่เจียงเอาไว้จนตัวเองเสียชีวิต
บริษัทเล็ก ๆ ที่เป็นกิจการของครอบครัวมีหนี้สินก้อนโต และกำลังจะล้มละลาย พ่อผู้เฉลียวฉลาดรู้ว่า หากเขาเอ่ยปากขอเงินจากตระกูลเจียง บุญคุณนี้ก็จะหมดไปทันที ดังนั้นเขาจึงคิดหาวิธีที่จะหาผลประโยชน์ให้กับตัวเองระยะยาว โดยการขอให้เจียงเย่าจิ่งที่เป็นหลานชายของเถ้าแก่เจียงแต่งงานกับเธอ
เมื่อเป็นเช่นนี้ ด้วยความมั่งคั่งของตระกูลเจียง เขาก็จะได้รับสินสอดมาเป็นจำนวนมาก
อีกทั้งยังได้ดองกับตระกูลเจียงอีกด้วย
เป็นเพราะกลัวจะเสียหน้า ตระกูลเจียงจึงไม่สามารถปฏิเสธได้
การแต่งงานครั้งนี้ทำให้เจียงเย่าจิ่งรู้สึกไม่พอใจเป็นอย่างมาก ดังนั้นเขาจึงไม่มาปรากฏตัวในงานเลี้ยงงานแต่งงานของทั้งสองครอบครัว แล้วก็เสนอความต้องการมาว่า ไม่อนุญาตให้เธอแอบอ้างเป็นภรรยาของเขาตอนอยู่ข้างนอก
ซึ่งเรื่องทุกอย่างที่เกิดขึ้น ไม่มีใครถามซงยุ่นยุ่นเลยว่าเธอเต็มใจที่จะทำรึเปล่า
งานแต่งงานตอนกลางวัน เจ้าบ่าวไม่มาปรากฏตัวเลยตั้งแต่ต้นจนจบ
ผ้านวมสีแดง คำมงคลที่อยู่บนผนัง สีสันต่าง ๆ ที่โดดเด่นสะดุดตา เหมือนเป็นการตบหน้าเธออย่างแรง
ความอัปยศอดสู! ความไม่พอใจ! !
อาจเป็นเพราะบรรยากาศ หรือไม่ก็ความใกล้ชิด จึงทำให้ความรู้สึกต่อต้านที่อัดอั้นอยู่ในใจของซงยุ่นยุ่นปะทุออกมาทันที
สิ่งที่เธอต้องเผชิญ มันทำให้ชีวิตของเธอต้องมืดมนไปหมด
เธอจะต่อต้านด้วยการทำตามใจตัวเองบ้าง!
ซงยุ่นยุ่นก็ไม่ได้ขัดขืนอะไรนัก เธอเคลิ้มไปตามชายคนนั้น ยอมจำนนต่อความเจ็บปวดครั้งแรกของตัวเอง
........
หลังจากนั้น ชายคนนั้นก็จูบแก้มของเธอเบา ๆ เสียงที่เคร่งขรึมของเขามีความแหบพร่าแบบพึงพอใจ “ผมจะมาหาคุณ” เมื่อพูดจบ เขาก็ออกไปจากที่นี่อย่างรวดเร็ว
ซงยุ่นยุ่นไม่ได้ลุกขึ้นมาเป็นเวลานาน เอวของเธอถูกกดเข้ากับขอบโต๊ะ ทำให้เธอรู้สึกเจ็บจนปวดไปหมด
ทันใดนั้นโทรศัพท์ที่ถูกดันไปที่ขอบโต๊ะแต่ยังไม่ตกลงไปก็ดังขึ้นมา
เธอยื่นมือออกไปเพื่อคว้ามัน แล้วก็มีเสียงรีบเร่งดังมาจากปลายสาย “คุณหมอเฉิน มีคนไข้ที่แผนกฉุกเฉินได้รับบาดเจ็บจากอุบัติเหตุทางรถยนต์มา อาการบาดเจ็บสาหัส จำเป็นต้องได้รับการช่วยเหลือ คุณรีบมาทางนี้หน่อยนะคะ”
ซงยุ่นยุ่นปรับเสียงของเธอ แล้วก็ตอบกลับไปอย่างใจเย็นว่า “ได้ค่ะ เดี๋ยวฉันจะรีบไป
เมื่อวางโทรศัพท์ลง เธอก็เหม่อไปหลายวินาที เมื่อกี้นี้.....
เสื้อผ้าที่ยับเยิน ความรู้สึกเหนียวเหนอะหนะของช่วงล่างมันบอกกับเธอว่า สิ่งที่เกิดขึ้นเมื่อกี้นี้ไม่ใช่ความฝัน แต่มันเป็นเรื่องที่เกิดขึ้นจริง คืนวันแต่งงาน เธอไปมีสัมพันธ์กับชายแปลกหน้าคนหนึ่ง......
เธอได้ทำเรื่องที่ร้ายที่สุดในชีวิตลงไปแล้ว!
แต่ตอนนี้มันไม่ใช่เวลามาคิดถึงเรื่องนี้แล้ว เธอสวมเสื้อผ้าให้เรียบร้อย และรีบไปยังแผนกฉุกเฉินทันที
แล้วเธอก็ยุ่งตลอดทั้งคืน
เมื่อกลับมายังห้องอยู่เวร เธอก็เห็นห้องที่เละเทะ
ดูเหมือนเธอจะนึกถึงเรื่องที่เกิดขึ้นเมื่อคืนนี้ขึ้นมาได้ สองมือของเธอกำแน่นขึ้นมาเล็กน้อย
“ขอบคุณหมอซ่งมากนะคะ ที่มาเข้าเวรแทนฉัน” เฉินเวินเหยียนเดินเข้ามาด้วยรอยยิ้ม
ซงยุ่นยุ่นฝืนดึงมุมปากขึ้น “ด้วยความยินดีค่ะ”
“ธุระของฉันเสร็จแล้ว คุณกลับไปพักผ่อนเถอะ” เมื่อเห็นความยุ่งเหยิงในห้อง เฉินเวินเหยียนก็เลิกคิ้วขึ้น “นี่มันเกิดอะไรขึ้นคะ?”
ซงยุ่นยุ่นหันหน้าไปทางอื่น เพื่อซ่อนความตื่นตระหนกในแววตาของตัวเอง “พอดีฉันเผลอทำมันหลุดมือน่ะ ไหน ๆ คุณก็มาแล้ว งั้นฉันขอตัวกลับก่อนนะ”
เฉินเวินเหยียนรู้ว่าซงยุ่นยุ่นดูแปลก ๆ ไป แต่ก็ไม่ได้สนใจอะไร เธอเข้าไปในห้องเพื่อเก็บของที่อยู่บนพื้น
แต่ทว่า จู่ ๆ ผู้อำนวยการก็พาฮั่วซวินที่เป็นผู้ช่วยของเจียงเย่าจิ่งมาหยุดอยู่ที่หน้าประตู
ผู้อำนวยการกล่าวว่า “เธอคือคุณหมอเฉิน เฉินเวินเหยียน แพทย์ที่เข้าเวรเมื่อคืนนี้ครับ”
ฮั่วซวินเดินเข้าไปตรวจสอบบัตรงานของเฉินเวินเหยียน และพูดว่า “มากับผม”
เฉินเวินเหยียนรู้สึกงุนงงเล็กน้อย
“ไปไหนเหรอ……”
“รีบไปเถอะน่า” ผู้อำนวยการไม่ได้ปล่อยให้เธอถามอะไรให้มากความ เขาดึงตัวเธอไปพลางพูดว่า “อย่าให้คุณเจียงต้องรอนาน”
ซ่งหยุนหยุนแต่งงานไปแล้ว แต่เจ้าบ่าวไม่เคยปรากฏตัวตั้งแต่ต้นจนจบเลย ด้วยความโกรธหนัก เธอจึงมอบกายให้กับชายแปลกหน้าคนหนึ่งแทนในคืนการแต่งงานนั้น หลังจากวันนั้น เธอก็ถูกชายคนนั้นจับตาเข้า...
“พี่นุยังรักลินอยู่ไหม...” คำถามที่ไม่เคยคิดเคยฝันเลยว่าเธอจะต้องเป็นคนถามมันกับเขาดังขึ้น มันคือคำถามที่เธอไม่เคยอยากได้คำตอบ เพราะกลัวว่าถ้ามันเกิดไม่ตรงใจขึ้นมาเธอคงเจ็บปวดเจียนตายน่าดู แต่เธอทนไม่ไหวอีกแล้ว ทนอยู่กับความรู้สึกบ้าๆ พวกนี้ไม่ไหวแล้ว “ลิน ใจเย็นๆ แล้วฟังพี่ก่อน…” ปรเมศวร์เองก็เริ่มได้สติหลังจากได้เห็นแววตาที่อัดแน่นไปด้วยความปวดร้าวของอีกคนเข้า มันทำให้เขาคิดได้ว่าเรื่องที่เกิดขึ้นต้นเหตุมันมาจากตรงไหน และก็เป็นเหมือนทุกครั้ง เขาเองที่ผิด ผิดที่พาช่อลดามาที่นี่
ตลอดระยะเวลาสามปีที่หยุยเอินแต่งงานกับฝู้ถิงหย่วน เธอพยายามทำหน้าที่ภรรยาให้ดีที่สุด เธอคิดว่าความอ่อนโยนของตนจะสามารถละลายใจที่เย็นชาของฝู้ถิงหย่วนได้ แต่ต่อมาเธอก็รู้ตัวว่าไม่ว่าเธอจะพยายามแค่ไหน ผู้ชายคนนี้ก็ไม่มีวันจะตกหลุมรักเธอได้ ด้วยความสิ้นหวังของเธอ สุดท้ายเธอตัดสินใจที่จะยุติการแต่งงานครั้งนี้ ในสายตาของฝู้ถิงหย่วน หยุยเอิน ภรรยาของเขาเป็นผู้หญิงที่โง่ ไม่มีอะไรดีเลยสักอย่าง แต่เขาก็คิดไม่ถึงว่าภรรยาของเขาจะกล้าโยนใบหย่าใส่เขาต่อหน้าคนมากมายในงานเลี้ยงวันครบรอบฝู้ซื่อ กรุ๊ป หลังจากหย่าร้าง ทุกคนต่างคิดว่าพวกเขาจะไม่มีอะไรเกี่ยวข้องกันอีกต่อไป แต่เรื่องราวระหว่างทั้งสองคงไม่ได้จบลงอย่างง่าย ๆ แบบนี้ หยุยเอินได้รับรางวัลบทภาพยนตร์ยอดเยี่ยม และคนที่เป็นผู้มอบถ้วยรางวัลให้กับเธอก็คือฝู้ถิงหย่วน หยุยเอินคิดไม่ถึงว่าผู้ชายที่สูงส่งและแสนเย็นชาคนนี้จะลดตัวลงอ้อนวอนเธอต่อหน้าผู้ชมทั้งหมด"หยุยเอิน ก่อนหน้านี้คือผมผิดเอง ขอโอกาสให้ผมอีกครั้งได้ไหม"หยุยเอินยิ้มด้วยความมั่นใจ"ขอโทษนะคุณฝู้ ตอนนี้ฉันสนใจแต่เรื่องงาน"ชายหนุ่มคว้ามือเธอไว้ ดวยตานั้นเต็มไปด้วยความผิดหวัง หยุยเอินสบัดมือเขาและเดินจากไปโดยปราศจากความลังเลใด ๆ
หวังฉีหลิน อายุ 25 ปีสาวเจ้าหน้าที่การเกษตรและพ่วงมาด้วยเจ้าของสวนสมุนไพรรายใหญ่ เสียชีวิตกระทันหันหลังจากกลับมาจากท่องเที่ยวพักผ่อนและเธอได้เก็บเอาก้อนหินสีรุ้งมาจากพระราชวังโปตาลามาได้เพียงสามเดือน ด้วยอุบัติเหตุทางรถยนต์ หากตายไปแล้วก็ไม่เป็นไรเพราะเธอเองเติบโตมาอย่างโดดเดี่ยวในสถานเลี้ยงเด็กกำพร้าจนกระทั่งมีอายุได้ 18ปี ถึงได้ออกไปใช้ชีวิตด้วยตัวเองตอนนี้เธอ ไม่มีอะไรให้ต้องห่วงแล้ว เพียงแต่เสียดายที่เธอยังไม่ได้ทำตามความฝันของตัวเองเลย เฮ้อ ชีวิตคนเรานั้นมันแสนสั้น อายุ25 แฟนไม่เคยมี สามียังอยากได้ ไหนจะลูกๆที่ฝันอยากจะมีอีก คงต้องหยุดความหวังและความฝันเอาไว้เท่านี้ เหนือสิ่งอื่นใด ตายแล้วตายเลยจะไม่ว่า แต่ดันตื่นขึ้นมาในร่างหญิงชาวนายากจน ชื่อหวังฉีหลินเช่นเดียวกับเธอพ่วงมาด้วยภาระชิ้นใหญ่ อย่างสามีที่ป่วยติดเตียงและลูกชายฝาแฝดทั้งสอง แถมยังมีภาระชิ้นใหญ่ม๊ากกกมาก กอไกล่ล้านตัวอย่างพ่อแม่สามีและน้องๆของสามี ที่โดนบ้านสายหลักกดขี่ข่มเหงรังแก เอารัดเอาเปรียบและบังคับแยกบ้านหลังจากที่สามีของนางได้รับบาดเจ็บสาหัส สาเหตุที่หวังฉีหลินต้องมาตายไปนั้นเพราะโดนลูกสะใภ้บ้านสายหลักผลักตกเขาระหว่างที่กำลังยื้อแย่งโสมคนที่หวังฉีหลินขุดมาได้
รูรักอันบริสุทธิ์เมื่อถูกปลายลิ้นร้อนของชายหนุ่มเป็นครั้งแรกดูเหมือนว่าจะตอบสนองได้เป็นอย่างดี ร่องของนางขมิบรัว สะโพกของนางยกขึ้นยังเด้งเข้าไปหาปากร้อน ฝ่าบาทเก่งกาจยังสามารถแยงลิ้นเข้าไปในรู อันซูเซี่ยถูกทาขี้ผึ้งหอมรอบปากทาง ขี้ผึ้งนี้นอกจากจะมีรสชาติดีส่งเสริมรสน้ำรักของนางแล้วยังมีคุณสมบัติอันวิเศษ แม้จะเป็นหญิงพรหมจรรย์ก็จะไม่รู้สึกเจ็บปวด และเผลอทำร้ายฝ่าบาทจนบาดเจ็บ อี้หลงดูดแบะขาของนางให้กว้างขึ้นแล้วรวบขึ้นไปให้ขาชี้ฟ้า จากนั้นมุดใบหน้าลงมาอย่างหลงใหล “หอมอร่อยเหลือเกิน รู้สึกเหมือนดื่มสุราไม่เมามาย อ้า ข้าชอบยิ่ง หอยของฮองเฮาช่างใหญ่โต ดูโคกเนื้อโยนีแทบจะล้นริมฝีปากของข้า สีแดงเช่นนี้คงไม่เคยผ่านสิ่งใดมาก่อน บริสุทธิ์ยิ่งนัก ซี้ด” นางดิ้นเร่าอยู่ในปาก ไม่รู้ว่าต้องทำอย่างไรนอกจากเชื่อฟังในคำของฝ่าบาท “อืม อร่อยยิ่งนัก อ้า ข้าไม่ไหวแล้วขอดูหน้าฮองเฮาของข้าหน่อยเถิด” ดูเหมือนว่าร่องรักของนางยังขมิบ นางไม่อยากให้เขาเงยหน้าขึ้นจากตรงนั้นด้วยซ้ำ อยากถูกปลายลิ้นเลียเช่นนั้นจนกว่านางจะได้รับการปลดปล่อย “อ้า ฝ่าบาทเพคะ อย่าหยุดเพคะ อื้อ” นิยายเรื่องนี้เป็นนิยายรักสำหรับผู้ใหญ่ มี 2 เล่มจบ เป็นนิยายแบบพล็อตอ่อน เน้นฉากรักบนเตียงของตัวละครเป็นหลัก เหมาะสำหรับผู้มีอายุ 25 ปีขึ้นไป ไม่เหมาะสำหรับสายคลีนใส ๆ นะคะ หากใครไม่ชอบอ่าน NC เยอะ ๆ กรุณาเลื่อนผ่าน เพราะเรื่องนี้เน้น NC เป็นหลักค่ะ ซีไซต์ นักเขียน
หลังจากแต่งงานกันมาสามปี เวินเหลี่ยงก็ยังไม่เคยได้ความรักจากฟู่เจิ้งแต่อย่างใดเลย เมื่อรักแรกของเขากลับมา สิ่งที่รอเธออยู่คือหนังสือการหย่า "ถ้าฉันมีลูก คุณยังเลือกหย่าไหม?" เธออยากจับโอกาสสุดท้ายนี้ไว้ แต่แล้วมีแต่คำตอบที่เย็นชาว่า "ใช่" เวินเหลี่ยงหลับตาและเลือกที่จะปล่อยมือ ...ต่อมาเธอนอนอยู่บนเตียงคนไข้ด้วยความสิ้นหวังและลงนามในข้อตกลงการหย่า "ฟู่เจิ้ง เราไม่ได้เป็นหนี้กันอีกต่อไปแล้ว..." ชายที่มีความเด็ดขาดและเย็นชามาโดยตลอดนอนอยู่ข้างเตียงขอร้องให้อีกฝ่ายกลับมาด้วยเสียงแผ่วเบา "เหลียง ได้โปรดอย่าหย่าได้ไหม?"
เดิมทีนางเป็นทายาทของตระกูลแพทย์เทพ แต่จู่ๆ นางก็กลายเป็นบุตรีของภรรยาเอกจากจวนเสนาบดีที่พ่อไม่สนใจใยดีและแม่ก็เสียชีวิตตั้งแต่ยังนางยังเด็ก ในวันที่นางย้อนยุค นางถูกใส่ร้ายว่าเป็นผู้ร้ายตัวจริงที่สังหารฮูหยินจวนโหว นางพยายามพลิกผัน พลิกสถานการณ์ และพิสูจน์ความบริสุทธิ์ของนาง นางคิดว่าภาวะที่กลืนไม่เข้าคายไม่ออกนั้นจบลงแล้ว แต่นางไม่รู้ว่าสิ่งที่นางจะต้องเผชิญคือเหวอันไม่มีที่สิ้นสุด เป็นถึงบุตรีของภรรยาเอกจากจวนเสนาบดีกลับมีอันตรายอยู้รอบตัวมากมาย ทุกคนก็รังแกนางได้ พ่อไม่สนใจนางจะเป็นหรือจะตาย แม่เลี้ยงและน้องสาวต่างแม่สนุกกับการทรมานนาง คู่หมั้นชั่วร้ายของนางอยากจะใช้นางเป็นประโยชน์เพื่อขึ้นไปที่สูง และแม้แต่น้องชายแท้ๆ ของนางยังทรยศนาง นางจึงเริ่มต่อสู้กับคนเจ้าเล่ห์ ข่มเหงแม่เลี้ยงของนาง และดูแลน้องชายและน้องสาวของนาง ดังนั้นนางวางแผนที่จะเล่นงานผู้ชายชั่ว เอาคืนแม่เลี้ยง และแก้แค้นน้องๆ ระหว่างที่นางแก้แค้นนั้น นางมีชีวิตที่มีความสุข แต่กลับไม่รู้ว่าไปยั่วยุคนใหญคนหนึ่งเข้าเมื่อไร เมื่อนางจะทำเรื่องไม่ดีหรือฆ่าคน เขาก็ช่วยนางหมด ในที่สุดนางก็อดไม่ได้ที่ถามออกมาว่า "ท่าน แม้ว่าข้าจะทำลายโลกที่ไม่มความยุติธรรมนี้ ท่านก็จะช่วยข้าเช่นกันหรือ" เขาทำหน้าใจเย็น "ตราบใดที่เจ้าอยู่เคียงข้างข้า แม้ว่าจะเป็นโลกใบนี้ ข้าก็สามารถให้เจ้าได้"