ก่อนที่จะว่าฉันฉวยโอกาสกับเธอเธอก็หัดย้อนดูตัวเองบ้างว่าตัวเธอก็ใช่ย่อยเล่นเอาซะฉันฟินจนน้ำแตกคาปากเธอ
INTRO 1
วายุ/นกยูง
“แล้วนั่นคอพี่...โดนอะไรมาเหรอคะเหมือนรอยอะไรกัดเลยนะคะ ที่บริษัทคงมีแมลงเยอะใช่มั้ยคะ"
"เอ่อ คือ"
"เดี๋ยวนกยูงไปเอายามาทาให้นะ"
ทำไมฉันจะไม่รู้ว่ารอยที่คอของเขามันคือรอยอะไร มันยิ่งทำให้ฉันมั่นใจว่าที่เขาหายไปเมื่อคืนเขาไปไหนมา เขาไม่ได้ประชุมอย่างที่ฉันเข้าใจ แต่พอกลับมาคิดดูแล้วเขาจะไปมีอะไรกับใครมันก็เป็นสิทธิ์ของเขาไม่ใช่เหรอ ฉันมันก็แค่เมียบำเรอเท่านั้น ไม่มีความสำคัญอะไร
ฉันพยายามห้ามน้ำตาไม่ให้มันไหลออกมาขณะทายาให้เขา รอยที่เห็นมันไม่ได้มีแค่รอยเดียวมันมีเต็มไปหมดซึ่งฉันมั่นใจว่าฉันไม่ได้เป็นคนทำ
"เจ็บมั้ยคะ"
"ไม่เจ็บครับ"
"แต่ทำไมนกยูงถึงเจ็บ"
INTRO 2
อัส/แบม
"ตื่นสักทีนะ นึกว่าจะต้องเรียกรถพยาบาลเพราะเมื่อคืนถูกเอาหนักไปหน่อย" เขาพูดด้วยน้ำเสียงเย้ยหยัน เขาแต่งตัวเรียบร้อยแล้วส่วนฉันยังไม่ได้สวมใส่อะไรเลยเพราะเมื่อคืนฉันสลบไปก่อน
"เอาไปค่าตัวเธอเมื่อคืน" เขาโยนเงินมาให้ฉันปึกใหญ่ถ้าคิดเป็นเงินไทยน่าจะหลายแสนบาท ฉันมองเงินที่เขาโยนมาบนเตียงด้วยความรู้สึกเจ็บปวด
"ส่วนนี่ค่ายาคุมเพราะเมื่อคืนฉันไม่ได้ป้องกันแล้วฉันก็ปล่อยในทุกรอบ ไปซื้อมากินซะถ้าเกิดเธอท้องลูกของฉันแล้วผัวเธอจับได้ฉันไม่รับรู้ด้วยนะ" เขาโยนเงินมาให้ฉันอีกจำนวนหนึ่งฉันมองมันทั้งน้ำตา
"ต่อไปนี้ฉันกับเธอเราไม่มีอะไรเกี่ยวข้องกันอีก ฉันขอให้เธอมีความสุขกับกองเงินกองทองที่เธออยากได้นักได้หนา ส่วนฉันมันจนคงให้ความสุขความสบายกับเธอไม่ได้ เธอคิดถูกแล้วล่ะที่บอกเลิกกับฉันเพราะผู้หญิงอย่างเธอมันคงรักแค่เงินแค่ความสบาย.....ลาก่อน" เขาพูดด้วยน้ำเสียงไร้เยื่อใยก่อนจะลากกระเป๋าของเขาออกไปจากห้อง พอเสียงประตูปิดลงฉันก็ร้องไห้ด้วยความเสียใจผิดหวังกับสิ่งที่เกิดขึ้น มันไม่มีอีกต่อไปแล้วความสุขของฉัน ฉันไม่รู้ว่าต่อจากนี้ไปฉันจะมีความสุขอีกไหม หรือฉันต้องตายไปตายจากโลกโหดร้ายใบนี้
แจ้งก่อนอ่าน.....เรื่องนี้มีคำหยาบคายและมีการกระทำที่รุนแรงในบางEPเพราะฉะนั้นใครโลกสวยหรือไม่ชอบนิยายแนวนี้โปรดเลื่อนผ่านXX เขาเอื้อมมือไปที่หัวเตียงแล้วหยิบซองสี่เหลี่ยมเล็กๆ ที่ฉันคุ้นตาออกมาเพราะฉันเคยเก็บเศษซากของมันมาก่อน มันคือถุงยางอนามัย "คุณธามคะ อย่า!!!" ฉันกำลังจะบอกกับเขาว่าอย่าทำเพราะฉันรู้ว่าเขากำลังจะทำอะไรแต่เขากลับเข้าใจไปอีกอย่าง "ทำไม หรืออยากเอาสดกับกู อย่าหวังเลยว่ากูจะยอมสดกับคนอย่างมึง" สวบ!!!! ปึ่ก!!!!! "ไม่ กรี๊ดดดดดดด" ฉันกรีดร้องออกมาอย่างสุดเสียงเมื่อเขาสอดใส่ท่อนเอ็นเข้าไปจนสุดทางฉันเจ็บแปลบไปทั้งร่างกาย จนน้ำตาไหลออกมาด้วยความเจ็บปวด "เชี่ย!!! มึง ไม่เคยเหรอวะ" คุณธามก้มมองดูจุดเชื่อมต่อแล้วอุทานออกมา
เรื่องนี้เป็นเรื่องของพี่บอมคนดีเพื่อนสนิทอัยวาคุณแม่ของน้องเอิงซึ่งมีคุณพ่ออย่างพี่ภูที่หวงลูกสาวยิ่งกว่าอะไร มาลุ้นความรักต่างวัยของคู่นี้กันนะคะใครชอบแนวโคแก่กินหญ้าอ่อนห้ามพลาดเด็ดขาด ภูผาอัยวาอยู่ในเรื่อง กลลวงร้ายซ่อนรัก นะคะ
"เรื่องที่เกิดขึ้นเมื่อคืนฉันจะไม่รับผิดชอบอะไรทั้งนั้น" "ค่ะ" ฉันฝืนความรู้สึกแล้วตอบออกไป ฉันไม่คิดว่าพี่ภูจะรับผิดชอบอะไรอยู่แล้วคำพูดของเขาเมื่อคืนฉันยังจำขึ้นใจ "และฉันก็หวังว่าเธอจะไม่เอาเรื่องที่เกิดขึ้นไปฟ้องแม่ฉันอีกว่าฉันรังแกเธอ" "ค่ะ" "สรุปก็คือเธอห้ามเอาเรื่องนี้ไปบอกใครเด็ดขาดเพราะไม่อย่างนั้นฉันจะเอาเรื่องที่เธอเคยโกหกไปบอกพ่อเธอรวมถึงย่าเธอด้วยว่าเธอโกหกสร้างเรื่องหาว่าฉันล่วงเกินเธอทั้งที่ตอนนั้นฉันไม่ได้ทำ เธอคิดเอาก็แล้วกันว่าย่าเธอจะผิดหวังแค่ไหนที่หลานสาวสุดที่รักของท่านสร้างเรื่องโกหกหน้าด้านๆ เพื่อจับผู้ชาย" ฉันก้มหน้าแล้วน้ำตาก็ไหลออกมาอีกครั้ง "เข้าใจที่พูดใช่ไหม" "อื้มมม" ฉันตอบเขาได้แค่นั้นเพราะพูดอะไรไม่ออกกลัวเขาจะรู้ว่าตอนนี้ฉันกำลังร้องไห้อยู่ "แต่ความผิดของเธอยังไม่หมดฉันยังไม่พอใจเพราะฉะนั้นเธอต้องมาที่นี่ทุกครั้งที่ฉันต้องการ แต่ถ้าเธอดื้อไม่ยอมมาฉันจะไปลากตัวเธอถึงบ้านไม่เชื่อก็คอยดู" "พี่ติดใจอัยก็บอกว่าเถอะไม่ต้องเอาเรื่องผิดไม่ผิดมาเป็นข้ออ้างหรอก" ฉันโต้กลับเพราะฉันไม่อยากให้พี่ภูคิดว่าฉันกลัวเขา "เธอพูดว่าไงนะฉันเนี่ยนะติดใจเธอ เหอะพูดผิดพูดใหม่ได้นะ"
"เพลง ฮึก ฮึกเพลง" น้ำเสียงสะอื้นด้วยความเจ็บปวดเมื่อเห็นคนที่ตัวเองรักอยู่ในสภาพนี้ "พะ พี่ไทม์เหรอคะ" มือบางลูบไปที่ใบหน้าของชายหนุ่มอย่างสะเปะสะปะ "พี่เองครับ ฮือออ เพลงพี่ขอโทษพี่ขอโทษพี่มันเหี้ยพี่มันเลวเพลงให้อภัยพี่ได้มั้ย" เขาจับมือคนรักแล้วนำมาแนบแก้มที่เต็มไปด้วยคราบน้ำตา "พี่รู้ได้ยังไงว่าเพลงอยู่ที่นี่" "พี่รู้ได้ยังไงไม่สำคัญ แต่พี่จะพาเพลงไปรักษาต่างประเทศที่นั่นหมอเก่งมากเพลงต้องหาย"
"เธอชอบเพื่อนฉันเหรอวะ เหอะดูสารรูปตัวเองซะก่อนเหอะยัยอ้วนก่อนจะมาบอกรักใครไอ้คิมมันหล่อขนาดนั้นเธอคิดว่ามันจะมาชอบผู้หญิงที่ทั้งอ้วนทั้งขี้เหร่แบบเธองั้นเหรอห๊ะ อย่างเธอมันไม่มองให้เปลืองลูกกะตาหรอกตัดใจจากมันซะเถอะ" "แต่...ฉันชอบคิมจริงๆนะ" "อย่างเธอถ้าอยากให้ไอ้คิมชอบมันก็พอมีวิธีอยู่นะอยากรู้มั้ยฉันจะบอก" "บอกมาสิ" "ข้อหนึ่งเธอคงต้องไปตายแล้วเกิดใหม่" "ห๊ะนายว่าอะไรนะ!!!" "ฟังฉันยังพูดไม่จบ ฉันยังมีข้อสองให้เธอเลือกนั่นก็คือเธอต้องไปศัลยกรรมให้มันดูดีกว่านี้ไม่แน่ไอ้คิมมันอาจจะหันมาสนใจเธอก็ได้ แต่..ฉันว่าเบ้าหน้าอย่างเธอคงไปไม่รอดทำไปก็แค่นั้นเปลืองเงินเปลืองแรงหมอเปล่าๆ เพราะฉะนั้นเธอตัดใจจากมันซะ" เรื่องนี้เป็นเรื่องราวของชมจันทร์พยาบาลสาวสวยกับอาร์ตเพื่อนสนิทของคิมหันต์จากเรื่อง ชังรักเมียรับใช้ นะคะ
"ลิล ลิลจำพี่ได้มั้ย" "พี่ พี่เหรอ" "ครับพี่เอง พี่คิมไงสามีของลิล" "สามี สามี" แววตาว่างเปล่าจ้องผมไม่วางตาก่อนจะแปรเปลี่ยนเป็นความหวาดกลัว "ไม่ ไม่ กรี๊ดดดด ไม่ออกไป ฮืออออ ออกไป ฮืออออ"
เรื่องราวการผจญภัยของอดีตสายลับนักฆ่า ที่ทะลุมิติมาเป็นแม่ผู้ชั่วร้าย ทั้งยังต้องร่วมเดินทางกับเด็กน้อยผู้แสนใสซื่อในโลกที่ผู้คนใช้พลังลมปราณ อันตรายมีทั่วทุกหนแห่ง แล้วพวกเขาจะเอาชีวิตรอดได้หรือไม่?!
กู้ชิงเฉิงเชื่อมั่นมาตลอดว่าตราบใดที่เธอประพฤติตัวดี สักวันหนึ่ง เธอก็จะสามารถชนะใจมู่ถิงเซียวให้ได้ อย่างไรก็ตาม เมื่อเสิ่นถัง รักแรกที่เขาคิดถึงมาตลอดกลับมา ทุกอย่างก็เปลี่ยนไป กู้ชิงเฉิงเป็นคนว่าง่ายสอนง่ายจริงๆ เธอจัดงานแต่งงานด้วยคนเดียว และนอนคนเดียวในห้องผ่าตัดเพื่อรับการรักษาฉุกเฉิน มีข่าวลือว่าเธอบ้าไปแล้ว อันที่จริงเธอบ้าไปแล้วจริงๆ ที่รักใครสักคนอย่างไม่ละอายขนาดนี้ ต่อมา ทุกคนลือกันว่า กู้ชิงเฉิงป่วยหนักและกำลังจะเสียชีวิต มู่ถิงเซียวถึงสูญเสียการควบคุมอย่างสิ้นเชิง "ฉันไม่ปล่อยให้เธอตาย" แต่เธอกลับยิ้มอย่างนิ่งๆ ว่า "ดีจังเลย ฉันเป็นอิสระแล้ว" ใช่แล้ว ไม่ต้องการกู้ชิงเฉิงอีกแล้ว"
เสิ่นหยวูแต่งงานกับเหอซวี่ที่เป็นสูติแพทย์ตอนอายุยี่สิบสี่ปี สองปีต่อมา เมื่อเธอตั้งครรภ์ได้ห้าเดือนแล้ว เหอซวี่ก็วางแผนแท้งลูกเธอด้วยมือตัวเอง และหย่าร้างกับเธอ ระหว่างช่วงเวลาที่มืดมนเหล่านี้ ตู้หยวุนปรากฏตัวเข้าในชีวิตของเสิ่นหยวู เขาทำดีต่อเธออย่างอ่อนโยน และให้ความอบอุ่นแก่เธออย่างที่ไม่เคยมีมาก่อน แต่ในขณะเดียวกัน เขาก็ทำให้เธอต้องเจ็บปวดอย่างที่ไม่เคยมีมาก่อนเช่นกัน สุดท้าย เสิ่นหยวูจึงเข้มแข็งขึ้นหลังผ่านพ้นไปกับทุกอย่างแล้ว แต่เมื่อความจริงก็ถูกเปิดเผยในที่สุด เธอจะยอมรับและอดทนได้ไหม? อยู่เบื้องหลังตู้หยวุนผู้ที่หล่อเหลาดูมีเสน่ห์นั้นเป็นใคร?และเมื่อพบคำตอบแล้ว เสิ่นหยวูจะรับมือยังไง ?
"คุณเข้ามาในห้องของฉันทำไม" "นี่อะไร" ศิวัฒน์ชูเอกสารในมือขึ้น "คุณก็เห็นว่ามันคืออะไร" เธอตอบโดยไม่ใส่ใจมากนัก เพราะเกี่ยวกับเขาถึงยังไงเขาก็ต้องรู้ "หึ" เขาเดินเข้าไปใกล้เธอ "เธอคิดว่าเล่นขายของอยู่หรือไง ที่จะเลิกเล่นตอนไหนก็ได้" "คุณเองไม่ใช่เหรอที่อยากหย่าตั้งแต่แรก ตอนนี้ฉันก็ยอมเซ็นใบหย่าให้คุณแล้วเราไปอำเภอกันพรุ่งนี้เลยฉันเตรียมเอกสารครบแล้ว" "มันสายไปแล้ว" เขาบีบต้นแขนเธอแน่น "อยากเป็นเมียก็จะให้เป็น" "ฉันเจ็บนะคุณไตร" เธอพยายามแกะมือของเขาออก "อยากหย่ากับฉันมากละสิ เสียใจด้วยตอนนี้ฉันไม่อยากหย่าแล้ว" น้ำเสียงของเขาเหมือนคนที่กำลังโกรธ ซึ่งฉัตรนลินทร์ก็ไม่เขาใจว่าทำไมเขาถึงได้โกรธขนาดนี้ ทั้ง ๆ ที่เธอพยายามทำในสิ่งที่เขาต้องการตั้งแต่แรกแล้วแท้ ๆ "คุณจะทำอะไร" ฉัตรนลินทร์ร้องถามพลางเอามือดันอกเขาไว้ เมื่ออยู่ ๆ เขาก็พยายามกอดเธอ ความกลัวเริ่มเข้าครอบงำจิตใจของเธอ "ทำหน้าที่สามีไง จะทำทุกคืนให้คุ้มค่ากับเงินที่แม่ของฉันจ่ายให้เธอ" แม้จะเห็นใบหน้านวลตรงหน้านั้นกำลังซีดเผือดแต่เขาก็ไม่ได้สนใจ "ไม่นะ...ปล่อยฉันลงสิคุณไตร" เธอร้องสุดเสียงเมื่อโดนศิวัฒน์อุ้มขึ้นพาดบ่าแล้วพาไปที่เตียงนอน อึก!! ................................ "เธออยากหย่าขนาดนั้นเลย" "ใช่ค่ะ ไม่หย่าวันนี้วันหน้าก็ต้องหย่าอยู่ดี" ................................. "ถอยไปดิ อย่ามาขวาง" เธอไม่สนใจลูกชาย "อ้อ เอกสารของบริษัททั้งหมดอยู่ในห้องทำงานนะ ฉันยกให้แกหมดเลย" "แม่!!" "ไม่ต้องเรียก ฉันไม่มีลูกโง่อย่างแก" ................................. "เราไม่ใช่เด็ก ๆ กันแล้วนะ เรามาแก้ไขสิ่งที่ผิดพลาดกันเถอะ" เธอหันไปเผชิญหน้ากับศิวัฒน์ "ฉันขอโทษที่ไม่ยอมปฏิเสธแม่ของคุณในวันนั้น ขอโทษที่ไม่ยอมรับข้อเสนอของคุณ ถ้าย้อนเวลากลับไปได้ฉันไม่อยากให้เรารู้จักกันด้วยซ้ำ แต่เมื่อมันย้อนไม่ได้เราก็เดินไปข้างหน้าเพื่อลืมเรื่องราวของกันและกันเถอะ" ....................................
หลี่เมิ่งเหยาย้อนเวลามาอยู่ในร่าง ของเด็กสาววัยสิบสองปี ในวันที่มารดาอนุผู้โง่เขลา ถูกขับไล่ออกจากจวน โชคยังดีที่ตอนตาย นางสวมกำไลหยกโลกันตร์เอาไว้ มันจึงติดตามนางมาที่นี่ด้วย +++ 1 : มารดาโง่ จนถูกไล่ออกจากตระกูล จวนตระกูลหลี่เจ้าเมืองถัง สตรีสองนางถูกสาวใช้จับคุกเข่าลง ตรงหน้าของหลี่หงซวนเจ้าเมืองถัง ทั้งยังเป็นพ่อสามีของทั้งคู่อีกด้วย ท่านกำลังสอบสวนเรื่องของสะใภ้ใหญ่ของบ้านสาม ถูกฮูหยินรองกับอนุรวมหัวกันลอบทำร้าย ด้วยการวางยาขับเลือดในถ้วยน้ำแกงบำรุงครรภ์ ทำให้นางต้องสูญเสียทารกในครรภ์ไป “ท่านพ่อข้าไม่รู้จริง ๆ ว่านั่นเป็นยาขับเลือด ฮูหยินรองบอกว่าเป็นน้ำแกงบำรุงครรภ์ ให้ข้าเป็นคนนำไปมอบให้ฮูหยินใหญ่ เป็นนางนั่นเอง นางหลอกข้า !” เฉาซูหลิ่งชี้นิ้วไปทางสตรีด้านข้าง ร้อนรนเอ่ยออกมาเหมือนคนไม่ได้รับความเป็นธรรม “อนุเฉาเจ้าอย่ามาใส่ร้ายข้านะ เจ้าทำคนเดียวทั้งนั้นไม่เกี่ยวกับข้าเลย” ฮูหยินรอง ถูซวงอี้ ชี้นิ้วใส่หน้าเฉาซูหลิ่งกลับคืน ต่างคนต่างโยนความผิดให้กัน ฮูหยินผู้เฒ่าหลิวเยี่ยนหนานโบกมือให้คนเข้ามา “ข้าให้โอกาสพวกเจ้าสองคนพูดความจริง แต่กลับไม่มีใครยอมรับความผิดแม้แต่คนเดียว มันน่าจับส่งทางการให้รู้แล้วรู้รอด” พ่อบ้านหลัวให้คนลากสาวใช้คนหนึ่งเข้ามา สภาพของนางถูกทรมานจนเนื้อตัวบวมช้ำไปหมด “เรียนนายท่านข้าให้คนไปค้นห้องสาวใช้ทุกคนในจวน พบเทียบยาซ่อนไว้ใต้หมอน จากห้องของสาวใช้คนนี้ขอรับ” ถูซวงอี้ถึงกับคุกเข่าต่อไปไม่ไหว ทิ้งตัวลงไปนั่งอยู่บนพื้น สาวใช้ที่ถูกทรมานจนสภาพน่าเวทนานั่น เป็นเสี่ยวอิงสาวใช้สินเดิมของนางเอง “ฮูหยินรอง ข้าขอโทษ ข้าทนต่อไปไม่ไหวจริง ๆ ข้าขอโทษ !” เสี่ยวอิงโขกศีรษะลงตรงหน้าของถูซวงอี้แรง ๆ น้ำตาไหลนองหน้าจน แทบไม่เป็นผู้เป็นคนอยู่แล้ว พ่อบ้านหลัวเอ่ย “ข้าให้คนไปถามที่หอโอสถแล้วขอรับนายท่าน เป็นเทียบยาขับเลือดจริง ๆ” หลี่หงซวนมองไปทางบุตรชายคนที่สามของตน พบว่าเขามีสีหน้ากลืนไม่เข้าคายไม่ออก สตรีที่คุกเข่าอยู่ตรงหน้าคือฮูหยินรอง กับอนุภรรยาที่เขารักใคร่ไม่ต่างกัน เหตุใดถึงได้คิดร้ายต่อฮูหยินใหญ่ของเขาได้ เป็นเหตุให้เขาต้องสูญเสียลูกที่อยู่ในท้องของนางไป เดิมทีฮูหยินใหญ่ของเขาก็ตั้งท้องยากอยู่แล้ว เขารอมาตั้งนานกว่าจะมีวันนี้ได้ ไม่คิดมาก่อนว่าจะต้องสูญเสียไปเช่นนี้ “หย่วนเจ๋อนี่เป็นเรื่องในเรือนของเจ้า เจ้าอยากตัดสินเรื่องนี้ด้วยตัวเองหรือไม่” ผู้เป็นบิดาเอ่ยถามบุตรชาย “ไม่ ข้าไม่อยากเห็นหน้าพวกนางอีกต่อไป แล้วแต่ท่านพ่อเถอะขอรับ ข้าขอตัวไปดูฮูหยินใหญ่ก่อน” หลี่หย่วนเจ๋อคำนับบิดา สะบัดแขนเสื้อเดินจากไปในทันที หางตายังไม่แม้แต่จะมองสตรีทั้งสองนาง เฉาซูหลิ่งลนลานตามเขาไป “ท่านพี่ช่วยข้าด้วย ข้าไม่ผิดนะเจ้าคะ ท่านพี่ !” แต่ถูกบ่าวรับใช้ขวางทางเอาไว้ หลี่หงซวน “หยุดโวยวายได้แล้วอนุเฉา เจ้าเป็นคนถือถ้วยน้ำแกงใส่ยาขับเลือด ไปมอบให้ฮูหยินใหญ่ด้วยตัวเอง ยังคิดจะหนีความผิดนี้ไปได้อีกรึ” “ท่านพ่อขะข้าข้า...ไม่ผิด” เฉาซูหลิ่งทิ้งตัวไปด้านหลังอย่างหมดเรี่ยวแรง เดิมทีนางก็ไม่เป็นที่โปรดปรานของพ่อแม่สามีอยู่แล้ว เพราะไม่สามารถให้กำเนิดบุตรชายได้ ครั้นได้บุตรสาวก็นิสัยขี้ขลาดขี้กลัว ไหนเลยจะเชิดหน้าชูตาให้ตระกูลหลี่ได้ เฉาซูหลิ่งนั่งเหม่อลอย คล้ายคนจิตใจไม่อยู่กับเนื้อกับตัว ขณะที่หลี่หงซวนกำลังประกาศโทษทัณฑ์ของพวกนาง ถูซวงอี้กับคนของนาง ถูกขายออกจากจวน ไปอยู่หอนางโลมอย่างเงียบ ๆ ชาตินี้อย่าได้ก้าวเท้า กลับมาเหยียบที่จวนตระกูลหลี่อีก ส่วนเฉาซูหลิ่งถูกขับไล่ออกจากจวน ไปพร้อมกับบุตรสาว ให้ไปอยู่เรือนร้างของตระกูลหลี่ที่เมืองฉาง ห้ามกลับมาที่ตระกูลหลี่อีกชั่วชีวิต “ท่านพ่อท่านขับไล่ข้าไป ข้ายังพอรับได้ เหตุใดต้องขับไล่เหยาเอ๋อร์ไปด้วย นางเพิ่งจะสิบสองปีเองนะเจ้าคะ” เฉาซูหลิ่งนึกถึงบุตรสาวร่างกายผ่ายผอม นอนซมเพราะพิษไข้อยู่ เกิดนึกสงสารนางขึ้นมาจับใจ ฮูหยินผู้เฒ่าหันไปมองสามีเล็กน้อย นางเห็นเด็กสาวคนนั้นมาตั้งแต่เกิด แม้ไม่ได้เอ็นดูแต่ก็นับว่าเป็นสายเลือดเดียวกัน “ฮูหยินเรื่องนี้ข้าตัดสินใจไปแล้ว ไม่อาจคืนคำได้” คำพูดของประมุขของตระกูล มีหรือใครจะกล้าขัด เฉาซูหลิ่งปล่อยเสียงร้องไห้โฮออกมาดัง ๆ นางโง่งมจนทำให้บุตรสาว ต้องมารับเคราะห์กรรมตามไปด้วย “ลากตัวอนุเฉาออกไป หารถม้าสักคันให้คนส่งนาง ไปที่เรือนร้างเมืองฉาง” คำสั่งของหลี่หงซวนเป็นคำขาด บ่าวไพร่รีบทำตามในทันที ครั้นได้อยู่ด้วยกันเพียงลำพังกับฮูหยินผู้เฒ่า หลี่หงซวนถึงได้บอกเหตุผล ที่ต้องตัดสินใจทำเช่นนี้ นั่นเพราะตระกูลจี้ได้ยื่นคำขาดมา ให้ขับไล่พวกเขาออกไปให้หมด อย่าให้เหลืออยู่แม้แต่ตนเดียว ไม่ต้องการให้คนที่ทำร้ายบุตรสาวของพวกเขา อยู่ระคายสายตาของจี้ชิวหรงอีกต่อไป ฮูหยินผู้เฒ่าแค่นออกมาหนึ่งคำ “อ้างเหตุผลข้าง ๆ คู ๆ ความจริงแล้วต้องการกำจัดอนุในเรือนบุตรสาวทิ้งให้หมด นี่กระทั่งเด็กคนหนึ่งก็ไม่เว้น แต่ก็เอาเถอะ เหยาเอ๋อร์อยู่ที่นี่ ก็ใช่จะมีประโยชน์อันใด นางไม่ได้อยู่ในสายตาของพวกเราด้วยซ้ำ ให้นางไปกับแม่ของนางนั่นแหละดีแล้ว” หลี่หงซวนนั้นเป็นเพียงเจ้าเมืองเล็ก ๆ มีตำแหน่งเป็นขุนนางขั้นที่ห้า ฝั่งตระกูลจี้บ้านเดิมของจี้ชิวหรงนั้น อยู่ในเมืองหลวงมีตำแหน่งใหญ่โตกว่าหนึ่งขั้น เรื่องนี้เขาจึงต้องขบคิด ถึงผลได้ผลเสียในอนาคตอีกด้วย การเสียสละอนุกับหลานสาวคนหนึ่ง เพื่อชดเชยให้แก่คนตระกูลจี้ นับว่าเป็นเรื่องสมควรทำแล้ว “ข้าก็คิดเช่นฮูหยินนั่นแหละ เพียงแต่สะใภ้สามแท้งคราวนี้ ไม่รู้จะยังสามารถตั้งท้องได้อีกหรือไม่ พวกเรารอดูไปก่อนดีกว่า หากนางไม่สามารถตั้งท้องได้จริง ๆ เราค่อยหาอนุมาให้หย่วนเจ๋อภายหลังก็ยังได้ ยามนั้นคนตระกูลจี้จะเอาอะไรมาง้างกับเราได้อีก” “จริงดังท่านว่าเจ้าค่ะ” ฝ่ายเฉาซูหลิ่งที่ถูกคนใช้ ลากตัวออกมาให้เก็บของในเรือน นางส่งเสียงเอะอะโวยวายตลอดทาง พร่ำบอกต้องการพบหลี่หย่วนเจ๋อให้ได้ แต่ถูกสาวใช้ขวางไว้ไม่ให้ไป นางจำใจกลับไปยังห้องนอนของตัวเอง รีบเก็บของสำคัญใส่ห่อผ้าเพื่อออกเดินทาง
หากความรักของเราเปรียบเหมือนแก้วใบหนึ่ง แก้วใบนี้คงร้าวจนใกล้แตกเต็มที อีกฝ่ายต้องการประคองรักนี้ไว้อย่างอดทน แต่อีกคนกลับทำลายจนหัวใจของเธอย่อยยับแหลกลาน ความอดทนของคนเรามีวันที่สิ้นสุดน่ะ “หย่า” คงเป็นทางออกที่ดีที่สุด ถ้าอย่างนั้นก็เชิญเขาไปในที่ชอบ ๆ ทางใครทางมัน แต่เมื่อเวลาพัดผ่าน ด้วยเหตุผลของกามเทพ ทั้งคู่ได้กลับมาเจอกันอีกครั้ง และเมื่อได้พบหน้าเธอ เขาขอแก้ตัว และบอกเธอว่า เขายังรักเธอ ทว่าในวันที่เธอเดินจากไป เธอมีลูกน้อยติดท้องมาด้วย และปัญหาของคนเป็นแม่ เจ้าเด็กน้อยหนูอยากจะมีพ่อครับ แล้วเธอควรทำอย่างไรต่อไป ++++++++++ คำโปรย เมื่อเข้าไปถึง และเห็นภาพตรงหน้า ปริญเขาไม่ได้อยู่คนเดียว ในอ้อมกอดและวงแขนของเขา มีร่างผู้หญิงคนหนึ่ง และสิ่งที่ทำให้หัวใจของทอดาวสลาย ทั้งสองคนกำลังจูบกัน เพล้ง... ข้าวของในมือร่วงลงไป พร้อมกับร่างของทอดาวที่แทบทรุด เธอเซไปจนปะทะกับฝาบ้าน คนสองคนที่กำลังจูบกันอยู่รีบผละออกจากกันแล้วหันมามอง ทอดาวแทบไม่อยากจะเชื่อสายตาตัวเองด้วยซ้ำไป เธอไม่เคยคิดเลยว่าปริญเขาจะทำแบบนี้กับเธอ ทำอะไรที่แสนทุเรศในบ้านที่เป็นเรือนหอของเธอกับเขา ทอดาวน้ำตาคลอ เธอพยายามประคองสติโดยใช้ฝาผนังเป็นที่พึ่ง ‘แล้วลูกของเราล่ะ และนี่คืออะไร มันหมายความว่ายังไง ทำไมเขาทำแบบนี้กับฉัน’ ความคิดอันแรก ครอบครัวของเธอต้องแตกแยกแล้ว พร้อมกับคำถามเกิดขึ้นมามากมายในหัวของทอดาว เธอหน้าถอดสีซีดจางจนไม่มีสีเลือด สิ่งที่น่าเจ็บปวด เมื่อผู้หญิงคนนั้นเห็นเธอที่เป็นภรรยาของปริญแล้วจะกระดากอายถอยห่างจากสามีของชาวบ้าน แต่ไม่เลย สองมือของหล่อนคนนั้นยังสอดรัดเอาลำตัวและหน้าอกของตัวเองเบียดไปกับผิวแขนของปริญ