หลังจากโดนสามีนอกใจราตรีก็ถูกเพื่อนพาไปลงเสน่ห์กับลัทธิที่บูชาเรื่องเพศ กว่าจะรู้ตัวว่าเรื่องราวเหล่านี้มันผิดเธอก็หลงจนโงหัวไม่ขึ้น กลายเป็นว่าเธอต้องหลับนอนกับชายอื่นโดยที่สามีไม่เคยรู้เลย
หลังจากโดนสามีนอกใจราตรีก็ถูกเพื่อนพาไปลงเสน่ห์กับลัทธิที่บูชาเรื่องเพศ กว่าจะรู้ตัวว่าเรื่องราวเหล่านี้มันผิดเธอก็หลงจนโงหัวไม่ขึ้น กลายเป็นว่าเธอต้องหลับนอนกับชายอื่นโดยที่สามีไม่เคยรู้เลย
ลัทธิวิปริต
ตอน ลงเสน่ห์
ภายในบ้านหรูของมหาเศรษฐีนักธุรกิจส่งออกธัญพืช
ฮือ! ๆ ๆ
เสียงหญิงสาววัยยี่สิบปลายกำลังร้องไห้กระซิกๆด้วยหัวใจที่พังทลายและอ่อนล้า
ร่างอิ่มสวยทรุดลงนั่งพับเพียบกับพื้นห้องโถงอันหรูหรา สองแขนเล็กเรียวกอดรูปแต่งงานของเธอกับสามีไว้แนบอก
น้ำตาไหลพาดแก้มนูนนิ่มเป็นทางยาวทั้งสองข้างก่อนจะหยดลงบนหน้าขาที่เนียนขาวและอิ่มอวบซ่อนรูป
ทำไม ทำไมเค้าถึงนอกใจฉันทั้งๆที่บอกว่ามีฉันคนเดียว!
เสียงความคิดแว่วดังในหัวคุณนายราตรี เมียรักวัยสาวสะพรั่งของนายราเมศวร
ติ๊ง! ๆ ๆ ๆ เสียงข้อความในมือถือบนโต๊ะรับแขกดังระรัว ปรากฏข้อความจากเพื่อนในกลุ่มแม่บ้านสาวไฮโซที่ต่างก็เป็นภรรยานักธุรกิจระดับแนวหน้าของประเทศ
นุ้ย: อย่าอยู่คนเดียวนะ! เดี๋ยวฉันไปหา
พี่หญิง: ของเล่นชั่วคราว ประเดี๋ยวเค้าเบื่อก็กลับมาหาเรา พวกเรานี่แหละตัวจริง
ร่างบางที่แอบซ่อนรูปค่อยๆพยุงตัวเองลุกยืนก่อนจะเดินโซเซมายังโต๊ะ พอหยิบมือถือขึ้นมาอ่านก็ปรากฏข้อความจากสามีรักเด้งขึ้นมาต่อ
ถ้าเรื่องแค่นี้อภัยไม่ได้ก็เลิกๆกันไปเลย
โพล๊ะ! มือน้อยที่สั่นเทาทำให้สมาร์ทโฟนราคาแพงตกลงพื้นแตกกระจุย เศษหน้าจอกลายเป็นเศษแก้วที่ทอแสงไฟบนเพดานระยิบระยับ
ฮือ! ๆ ๆ ร่างขาวโพลนในชุดเดรสลายดอกไม้ทรุดลงมานั่งกอดเข่า น้ำตาไหลหลากออกมาอีกชุดใหญ่
รู้สึกเจ็บปวดเหมือนมีเศษแก้วยัดแน่นอยู่ในอก ภาพสามีจูงมือนักศึกษาสาวเดินเข้าโรงแรมยังแจ่มชัดเหมือนเช่นวันวาน
คำสอนของแม่ที่บอกว่าผู้ชายรวยจะเห็นเราเป็นเพียงแค่สิ่งของกังวาลก้องอยู่เต็มหัว สะอึกสะอื้นจนไม่รู้นานเท่าใด
แป๊น! ๆ เสียงแตรรถโรสรอยดังอยู่หน้าบ้าน มันเรียกสติของราตรีกลับมา เธอรีบจัดเผ้าผมให้เข้าที่และย่างเดินมาเปิดประตูบ้านหรู ทว่าใบหน้ายังเลอะคราบน้ำตาที่แห้งกรัง
"เลิกร้องได้แล้วยัยราตรี" เสียงนุ้ย เพื่อนสาวคนสนิทที่เพิ่งลงจากรถฝั่งคนขับ เธอสวยและสูงยาวราวกับนางแบบ
แก๊ก! ๆ ๆ เสียงรองเท้าส้นสูงของสาวอีกนางนึงเดินย่างกรายมายืนหน้าเรือนร่างที่เล็กบางกว่า พร้อมรอยยิ้มและมือที่ยกขึ้นลูบหัวราตรีอย่างอบอุ่น
"เรื่องนี้มันแก้ได้พี่จะพาไปหาอาจารย์เอง" พี่หญิง
"ทำไมต้องไปหาอาจารย์คะ" หญิงสาวอ่อนวัยกล่าวด้วยดวงตากลมแป๋วที่แดงก่ำ
"พวกเราจะพาแกไปลงเสน่ห์ไง รับรองสามีกลับมาหลงแกจนไม่ออกจากบ้านแน่" นุ้ยรีบตอบ
"ฮริ! ๆ" พี่หญิงหัวเราะและกล่าวต่อ
"รับรองน้องจะชอบ อีกอย่างพี่จ่ายให้เอง" เสียงภรรยาของนักธุรกิจขนส่งกล่าวขณะเสยผมเหน็บหูให้เพื่อนสาวรุ่นน้อง
"แต่ ถ้ามันไม่ได้ผลล่ะคะ" ราตรี
"ไม่ได้ผลก็ไม่เห็นเป็นไร แกไม่ต้องเสียอะไรซักหน่อย" นุ้ย
"ใช่จ๊ะ พี่จะออกค่าใช้จ่ายให้เอง ถ้ามันได้ผลก็เกินคุ้มไม่ใช่เหรอ สามีก็กลับมารักมาหลงน้อง" พี่หญิง
"แต่" ราตรีอ้ำอึ้ง
"น้องจะไม่ให้อภัยราเมศวรหรือ" พี่หญิง
"ปะ เปล่าค่ะ" ราตรี
"โอเคงั้นไปกัน พี่ขับเอง นุ้ยไปนั่งหลังแต่งหน้าให้ราตรีด้วย" สาวใหญ่สั่งแล้วเดินก้าวไปเปิดประตูขึ้นรถอย่างอารมณ์ดี
ราตรีขึ้นมานั่งเบาะหลังอย่างงงๆ ขณะที่เพื่อนสาวรุ่นราวคราวเดียวกันกำลังแต่งหน้าทาปากให้เธอ
นั่งใจลอยได้เพียงชั่วครู่ก็มาถึงตึกหรูที่ตกแต่งสไตล์จีน มองจากข้างนอกแล้วเหมือนดั่งเรือสำเภาขนาดใหญ่
พี่หญิงและนุ้ยพาขึ้นลิฟท์ไปยังชั้นบนสุด เมื่อมาถึงก็ต้องตกใจเมื่อบนชั้นนี้ตกแต่งแนวตะวันตก
มีผู้ชายร่างใหญ่ใส่สูทดำยืนคุมประตูไม้บานใหญ่ที่สลักลายไม้กางเขน พอพี่หญิงล้วงนามบัตรมาชูขึ้นชายฉกรรจ์ที่น่ากลัวทั้งสองกลับก้มโค้งคำนับหล่อนและเปิดประตูแง้มออก
แอ๊ดดด!
เดินเข้ามาภายในเห็นแสงไฟสลัวๆ กลางห้องโถงมีบัลลังก์ทองคำตั้งตระหง่านราวกับที่นั่งพระราชากรีก
มีรูปปั้นชายหญิงที่โป๊เปลือยเรียงรายจากประตูไปถึงบัลลังก์กลางห้อง มองไปรอบๆภายในกว้างขวางพอๆกับสนามฟุตบอล
มีการตกแต่งด้วยต้นไม้และดอกไม้ราวกับป่ามนเทพนิยาย มีราวผ้ากั้นและแขวนบดบังแต่ละส่วนให้เป็นโซนเล็กๆ มีเสียงครางของชายหญิงดังแว่วมาไกลๆชนิดแทบไม่ได้ยิน
แปะ! ๆ ๆ ๆ จู่ๆก็มีเสียงปรบมือดังก้องอยู่หน้าบัลลังก์ทองคำ สามสาวหันขวับมามองก็เจอกับร่างชายสูงวัยที่แต่งชุดสูทสีขาว
"มาแล้วหรือคุณหญิง คุณนุ้ย" หนุ่มใหญ่เอ่ยและกวักมือเรียกสองสาวให้เดินเข้าไปหา
สองสาวจับมือชายสูงวัยที่ดูเหมือนบาทหลวงแล้วก้มจูบหลังมือของเค้าอย่างเคารพจนทำเอาราตรีที่ยืนมองตกใจ
จุ๊บ! ๆ
"วันนี้มีเรื่องอะไร ทำไมสองสาวถึงมาหาพ่อได้" หนุ่มใหญ่เอ่ยและบีบคางงอนสวยของสองสาวก่อนจะเชิ่ดหน้าพวกหล่อนขึ้นมามองตาประสานใจ
ราตรีถึงกับอึ้งเมื่อเห็นเพื่อนสาวปล่อยให้ชายหนุ่มที่ไม่ใช่สามีคีบคางลูบแก้มอย่างย่ามใจ
"อ้อ อยากให้อาจารย์ช่วยราตรีค่ะ" พี่หญิง
"ผัวเธอนอกใจไปคบเด็กค่ะอาจารย์" นุ้ยรีบเสริม
"หิ! ๆ ๆ เรื่องเเค่นี้เอง มานี่ซิหนู มานั่งบนเก้าอี้นี่มา" อาจารย์หันมาหัวเราะและแสยะยิ้มก่อนจะมองเรือนร่างที่ขาวโพลนซ่อนรูปอยู่ภายใต้ผ้าเดรสสีฟ้าบาง
"รีบมาเร็วๆสิแก" นุ้ยกวักมือเมื่อเห็นราตรีอ้ำอึ้ง
"ไม่ต้องกลัว พวกเราก็เคยทำแล้ว" พี่หญิงพยักหน้าและส่งยิ้ม
"ขึ้นไปนั่งบนนั้นเลย" หนุ่มใหญ่เอ่ยย้ำและหันกลับไปพูดคุยจู๋จี๋กับสองสาว เค้าส่งสายตาเจ้าชู้ใส่พวกหล่อนซึ่งมองยังไงๆก็ไม่มีความน่าเคารพเอาเสียเลย
ราตรีหันหลังให้บัลลังก์สีทองที่สูงสง่าก่อนจะเขย่งเท้าขึ้นมานั่งอย่างสำรวม สองมือกุมตักและหนีบขาแน่น
"เอาหละ ๆ ขอเวลาแป๊บ" หนุ่มใหญ่เอ่ยกับสองสาวแล้วเดินมายืนหน้าราตรี เค้าคุกเข่าลงกับพื้นและก้มถอดรองเท้าของเธอออกอย่างใจเย็น
"ไม่เป็นไรค่ะ อาจารย์" หญิงสาวรีบก้มดึงรองเท้าตัวเองออก ทว่าไม่ทัน สองมือใหญ่ได้โยนรองเท้าลงพื้นเสียแล้ว
"อื่ม เป็นคนที่งามมาก งามทั้งผิวพรรณ ทรวดทรงและกระดูก" หนุ่มใหญ่เอ่ยขณะกุมสองเท้าเล็กขาวไว้แน่น ตาก้มมองตั้งแต่น่องขาวไล่ขึ้นมายังขาอ่อน
ราตรีเบือนหน้าหนีเมื่อรู้สึกว่ากำลังโดนชายอื่นกำลังจ้องเข้ามายังชายชุดเดรส ขณะเดียวกันมือที่หยาบโลนของเค้าก็บีบข้อเท้าสองข้างและค่อยๆฉีกขาเธอแยกออก
"อย่าค่ะ" ราตรีร้องห้ามและพยายามหนีบขากลับมาแนบกัน
"ราตรี" นุ้ยตะคอกดัง
"อย่าไปกลัว ปล่อยใจสบายๆ พวกเราดูอยู่" พี่หญิงกล่าวแล้วเดินมายืนข้างๆบัลลังก์ พร้อมทั้งดึงมือราตรีไปจับ
หิ! ๆ หนุ่มใหญ่หัวเราะและบีบข้อเท้าสองข้างฉีกออกในสภาพแดงคามือ ทำให้สองขาที่ขาวโพลนซ่อนรูปถ่างอ้าจนเห็นกางเกงในสีขายภายใต้ชายชุดเดรสสีฟ้าคราม
จู่ๆผู้ชายคนนึงก็เดินดุ่มๆมาจากม่านกั้นด้านข้างห้องโถง ในมือเค้ามีคฑาสั้นและขันน้ำอีกหนึ่งใบ
อาจารย์ปล่อยข้อเท้าสองข้างที่ถูกบีบจนแดงเป็นจ้ำๆก่อนจะหันไปรับไม้คฑาและจับขันน้ำวางลงพื้น
เค้าขมุบขมิบปากและค่อยๆจุ่มคฑากับน้ำในขัน จากนั้นเอาปลายไม้มาแตะที่ขาอ่อนด้านในของราตรี
พรื่ดด! ๆ ไม้แอปเปิ้ลที่เย็นและเปียกชุ่มลูบไล้ขาขาวๆไล่ขึ้นมาจนถึงขาหนีบก่อนจะทิ่มชนกับกลางเป้ากางเกงในที่นูนโหนก
อื้ออ! ราตรีเม้มกัดริมฝีปากตัวเองขณะที่หลับตาปี๋ เสียงครางกระเส่าเล็ดหลุดจากลำคอเบาๆ ขณะที่ไม้คฑาถูไถไปกับความรียาวของร่องสาว
พรื่ดด! ๆ ปลายไม้ที่ทู่โค้งแยงถูขึ้นลงจนเสียวทะลุกางเกงในตัวน้อย สำใสๆไหลเอ่อเลอะเต็มง่ามขาขณะที่รอยแยกของเรือนกายร้อนวูบๆวาบๆ
ใจเต้นดังตูมๆจนกลบเสียงเพื่อนทั้งสองที่กำลังพูดให้กำลังใจอยู่ข้างๆ สองมือจิกมือเพื่อนๆจนเป็นรอยเล็บฝังอุ้งมือพวกหล่อน
ขณะหลับตารู้สึกว่ากางเกงในกำลังโดนดึงร่นลงมาจนเจ็บตูด ฟุ่บ! ฟั่บ!
เมื่อลืมตาขึ้นก็พบว่าชั้นในตัวจิ๋วหลุดลงมาที่เข่าเสียแล้ว ชายชุดเดรสก็โดนผู้ชายอีกคนถลกขึ้นจนหว่างขาและเนินหน่าวจ่ออยู่ตรงหน้าอาจารย์ที่กำลังนั่งคุกเข่าอยู่กับพื้น
"พี่หญิง นุ้ย หนูไม่เอาแล้ว" ราตรีเอ่ยเสียงดังทั้งๆที่หน้ายังมองผู้ชายอีกคนที่กำลังถลกชายผ้าของเธออยู่
หิ! ๆ ๆ ชายแปลกหน้าส่งยิ้มและหัวเราะกลับ ขณะเดียวกันอาจารย์ของเค้าก็ลุกขึ้นยืนและก้มหน้าซบกับร่องสาวที่ขาวโบ๊ะแทบไร้เส้นขน
รู้สึกถึงริมฝีปากที่ร้อนแดงตรงเนินหน่าว พร้อมทั้งหนวดเคราสั้นแข็งที่บาดขาอ่อนสองข้าง
แผล๊บ! ๆ ลิ้นสากยาวเลียปาดร่องสวาทจากล่างขึ้นบนสองที
อร๊า! อร๊ายยย! ราตรีกรีดร้องสุดเสียงขณะที่สะบัดแขนออกจากมือเพื่อน ก่อนจะใช้สองมือน้อยๆจิกหัวอาจารย์อย่างลืมเนื้อลืมตัว
แนวทาสสวาท ล่อลวง เปิดซิง รุนแรง ซาดิสม์ หลอกเอา คนสวน รุมคุณหนู nc 3p
นิยายอีโรติก แนวเรื่องจริง นอกใจ มีชู้ เผลอใจ ไม่ตั้งใจ nc 18+ รวมเรื่องสั้นแนวนอกใจ นอกกาย สายบาป เป็นเรื่องแต่งเสริมเรื่องจริง สั้นๆจบในตอน มีหลายแนว หลายเหตุการณ์ สำหรับผู้ใหญ่ อายุ18ปีขึ้นไป
นิยายผู้ใหญ่ แนวฮาเร็มชาย นางเอกเป็นคุณหนูวัย18ปี เธอชอบยั่วคนสวน คนขับรถ ใจแตก มั่วสวาท nc 18+
ในยุคก่อนสงครามโลก ยังมีการค้าทาส ในดินแดนแถบเอเชียที่ไม่ระบุชื่อและสถานที่ตั้ง มีปราสาทแห่งหนึ่งตั้งตะหง่านอยู่ริมหน้าผาบนเขาสูง เจ้าปราสาทคือสามีนางเอก เขาเป็นขุนนางชั้นสูง เขาชอบซื้อทาสชายหลากเชื้อชาติมาเลี้ยง ใช้งานพวกเขาหนัก และมักจะให้นางเอกมีอะไรกับคนแปลกหน้าพวกนั้นเพื่อให้เขานั่งดูอย่างมีอารมณ์
นางเอกแต่งงานกับสามีแก่ เขาเป็นเสี่ยเจ้าของร้านทองที่รวยมาก ทว่านกเขากลับไม่ขันและอ่อนปวกเปียก นานๆจะมีเซ็กกับเมียรัก เดือนละครั้งสองครั้ง นางเอกทนความอยากไม่ไหวแต่ก็ไม่อยากมีชู้ ไม่อยากนอกใจสามี เธอจึงแอบมีอะไรกับเจ้าแสนรักที่เลี้ยงไว้ในบ้าน
เรื่องสั้นแนวมีชู้ fwb ลับๆ นอกใจ แอบแซ่บ 3p 4p หลายบุคคลหลากเหตุการณ์ จบในตอนสองตอน
เว่ยจื้อโหยวลืมตาตื่นขึ้นมาอีกครั้งพบว่าตนอยู่ในยุคสมัยที่ไม่คุ้นเคยสิ่งรอบกายดูโบราณล้าหลัง โลกโบราณที่ไม่มีในประวัติศาสตร์โลก ยังไม่ทันได้เตรียมใจก็ถูกส่งให้ไปแต่งงานกับชายยากจนที่ท้ายหมู่บ้าน สาเหตุที่เว่ยจื้อโหย่วถูกส่งมาให้แต่งงานกับชายที่ขึ้นชื่อว่ายากจนที่สุดในหมู่บ้านนั้น เพราะนางเกิดไปต้องตาต้องใจเศรษฐีผู้มักมากในกามเข้า เพื่อหาทางหลีกเลี่ยงไม่ให้ถูกบ้านใหญ่ขายไปเป็นอนุภรรยาของเศรษฐีเฒ่า พ่อแม่ของนางจึงยอมแตกหักจากบ้านใหญ่และท่านย่าที่เห็นแก่ตัวและลำเอียงเป็นที่สุด ด้วยเหตุนี้พ่อแม่ของนางจึงตัดสินใจยกนางให้กับอวิ๋นเซียว ชายหนุ่มที่แสนยากจนข้นแค้น ที่เพิ่งเสียบิดามารดาไป อีกทั้งยังทิ้งน้องชายน้องสาวเอาไว้ให้เขาเลี้ยงดู นอกจากนี้ยังมีป้าสะใภ้มหาภัยที่คอยแต่จะมารังแกเอารัดเอาเปรียบสามพี่น้อง สิ่งที่ย่ำแย่ที่สุดไม่ใช่ป้าสะใภ้มหาภัย แต่ มันคืออะไรแต่งงานนางไม่ว่ายังไม่ทันได้เข้าหอสามีหมาดๆ ก็ถูกเกณฑ์ไปเป็นทหารในสงครามระหว่างแคว้น มันไม่มีอะไรเลวร้ายไปมากว่านี้อีกแล้วสำหรับ เว่ยจื้อโหยว หากสามีทางนิตินัยของนางตายในสนามรบ ก็ไม่เท่ากับว่านางเป็นหม้ายสามีตายทั้งที่ยังบริสุทธิ์หรอกหรือ แถมยังต้องเลี้ยงดูน้องชายน้องสาวของอดีตสามีอีก สวรรค์เหตุใดถึงได้ส่งนางมาเกิดใหม่ในที่แบบนี้
เจียงหยวนชอบเสิ่นตู้มาเป็นเวลาสี่ปี แม้จะต้องเผชิญความรังเกียจจากตระกูลเจียง แต่เธอก็ยังเลือกยืนหยัดเคียงข้างเขา กระทั่งวันหนึ่ง เสิ่นตู้เพื่อพี่สาวของเขา ยอมยกให้เธอไปมีอะไรกับคนอื่น ในที่สุด เธอถึงได้เข้าใจว่าคนที่ไม่ใช่ยังไงก็คือไม่ใช่ ในเมื่อไม่ใช่คนที่ใช่ งั้นเธอยอมตัดทิ้งแล้วกัน เธอหันไปให้ความสำคัญกับการทำงานจนกลายเป็นนางแบบระดับโลก ทำให้คนทั้งโลกตะลึง ผู้ชายที่ทำร้ายเธอรู้สึกเสียใจ“หยวนหยวน โลกของฉันขาดเธอไม่ได้ กลับมานะ” ตลกสิ้นดี ผู้ชายมันจะเทียบกับอาชีพการงานได้ที่ไหน ! ** เจี่ยงเฉินโจว ผู้นำของตระกูลที่ร่ำรวยที่สุดในเมืองหรงเฉิง เวลาอยู่ต่อหน้าคนอื่นเป็นคนแสนเย็นชา แต่อยู่ลับหลังกลับเป็นคนคลั่งรัก เขาชอบความงามของเจียงหยวน เห็นเธอเป็นเหมือนสัตว์เลี้ยงตัวน้อยที่น่ารักและเชื่อง ต่อมา บนพรมแดงท่ามกลางแสงสปอร์ตไลท์ ชายผู้ก้าวลงจากเวทีคุกเข่าข้างหนึ่งต่อหน้าสาธารณะ“ถึงแม้จะไม่มีฐานะอะไร ฉันก็ยินยอม”
ได้ข่าวว่าเจ้าเด็กสาวหน้าตาจิ้มลิ้มที่ทำให้ครอบครัวลี่ล่มสลาย ถูกขับไล่ออกจากประเทศไปหลายปี… ตอนนี้กลับมาแล้ว คืนนั้น หลี่ เย่ถิงจับเอวเธอแน่นแล้วกดเธอเข้ากับมุมกำแพงอย่างแรง ดวงตาเย็นเยียบมืดลึก “ฉันอนุญาตเธอตั้งแต่เมื่อไหร่?” เฉียวเว่ยยี่ยิ้มเย้ยเย็น “คุณหลี่ คำคนมันน่ากลัวนะคะ เราสองคนจบกันไปนานแล้ว กรุณารักษามารยาทด้วยค่ะ” วันถัดมา เหล่าบรรดาผู้มีอำนาจทั่วทั้งเมืองจิงก็ได้รับบัตรแดงคำเตือนจากครอบครัวลี่ทันทีว่า “คุณนายรองของพวกเราอารมณ์ไม่ค่อยดีนัก ไม่ชอบได้ยินคำซุบซิบนินทา” พวกคนที่นั่งรอให้เฉียวเว่ยยี่ตกต่ำแล้วหนีไปแบบหมดรูป ??? พวกคุณไปจดทะเบียนกันตั้งแต่เมื่อไหร่?
แต่งงานซ่อนเงากับหลี่ เจวี๋เฉินมาได้สามปี เจียงวานเคยคิดว่าความรักของเธอจะทำให้หัวใจเขาอุ่นขึ้นได้ แต่สิ่งที่รอเธออยู่ กลับเป็นวันที่จู่ ๆ รักแรกของเขากลับมาจากต่างประเทศ แล้วเขาก็พูดเพียงประโยคเดียวว่า “พวกเราหย่ากันเถอะ” เจียงวานรู้ดีว่าคนที่หลี่ เจวี๋เฉินรักไม่ใช่เธอ เธอจึงกลบเก็บความรู้สึกทั้งหมดไว้ หยิบกระเป๋าแล้วเดินจากไปอย่างเด็ดขาด หลังหย่า ชีวิตของเจียงหว่านกลับพุ่งแรงราวติดปีก ทั้งงานทั้งโชคลาภหลั่งไหลไม่หยุด กลายเป็นสไตลิสต์ระดับท็อปของโลก ทั้งการงานและความรักล้วนรุ่งโรจน์ ส่วนอดีตสามีผู้มีตำแหน่ง บางคน นั้นวัน ๆ เอาแต่จ้องหน้าจอ คิดทุกวิถีทางว่าจะทำยังไงให้ได้แต่งงานกับเธออีกครั้ง จนกระทั่งวันหนึ่ง ผู้มีพระคุณที่เคยช่วยชีวิตเจียงวานตอนยังเด็กกลับมาอีกครั้งหลี่ เจวี๋เฉินถึงกับอยู่เฉยไม่ไหวอีก “วานวาน แต่งงานกันอีกครั้งเถอะนะ ได้โปรด!” เจียงวานเพียงยิ้มบาง ๆ อย่างไม่ใส่ใจ“ไม่มีเวลาหรอก ไปหารักแรกของคุณเถอะ!” หลี่ เจวี๋เฉินควักแหวนออกมา คุกเข่าข้างเดียวแล้วเอ่ยว่า “ฉันไม่มีใครคนอื่นในใจ มีเพียงเธอเท่านั้น เธอคือคนที่ฉันรักมาตลอด ตั้งแต่แรกจนถึงตอนนี้ก็ยังเป็นเธอ!” ตลอดสามปีที่อยู่ด้วยกันทั้งเช้าเย็น ทำให้ทั้งคู่ค่อย ๆ เกิดความรักและผูกพันต่อกัน เธอเข้าใจว่าเขายังรักแฟนเก่าอย่างสุดหัวใจ แต่เขากลับคิดว่าในใจเธอมีใครอีกคนอยู่แล้ว คนดื้อสองคนที่แอบรักกันอยู่ฝ่ายละมุม แต่กลับเข้าใจผิดเพราะมีคนอื่นเข้ามาอยู่รอบตัวจนคิดไปต่าง ๆ นานา ความรักครั้งนี้จะฝ่าหมอกแห่งความเข้าใจผิดไปจนถึงตอนจบที่งดงามได้หรือไม่?
“ท่านผู้อำนวยการคะ ทางทีมสำรวจแจ้งว่าคนไม่เพียงพอที่จะเข้าไปเก็บตัวอย่างพันธุ์พืชในป่าเมืองเหอหนานค่ะ” ซูเจิน ที่ได้ยินก็หูผึ่งทันที เธอนั่งทำการอยู่ในห้องวิจัยตั้งแต่เรียนจบ ถึงตอนนี้ก็สี่ปีได้แล้ว ผู้อำนวยที่เข้ามาตรวจงานวิจัยล่าสุด ก็มองไปรอบห้อง เพื่อดูว่ามีใครต้องการเสนอตัวไปทำงานในครั้งนี้หรือไม่ แต่หลายคนที่เขามองไป ต่างหลบสายตาของเขา จะมีใครอยากออกไปเสี่ยงอันตราย เดินป่าขึ้นเขาให้เหนื่อยสู้นั่งทำงานในห้องปรับอากาศเย็นๆ ดีกว่า เมื่อไม่มีใครคิดจะเสนอตัว เขาจึงได้สอบถามหาผู้ที่สมัครใจทันที “มีใครอยากจะอาสาไปไหม” ไว้กว่าความคิด ซูเจินยกมือขึ้น “ฉันค่ะ” เพื่อนสนิทรีบดึงเสื้อของเธอเพื่อจะห้ามปราม “จะบ้าหรอ เธอไม่เคยไปสักครั้ง ไม่รู้หรือว่างานนี้เสี่ยงแค่ไหน” เสียงกระซิบของเสี่ยวชิง เอ่ยลอดไรฟันออกมา เมื่อปีที่แล้ว ที่ทีมสำรวจเดินทางเข้าไปที่ป่าเหอหนาน พื้นป่าที่ไม่อาจสำรวจได้อย่างทั่วถึง สร้างความท้าทายให้เหล่านักพฤกษศาสตร์จากทุกองค์กร แต่ไม่ว่าจะส่งเข้าไปกี่ครั้งก็ไปไม่ถึงป่าชั้นกลางเสียที แม้จะใช้เทคโนโลยีที่ล้ำหน้าเข้าช่วยเพียงได้ ก็สำรวจได้เพียงป่าชั้นนอก แถมยังพาชีวิตคนไปทิ้งอีกนับไม่ถ้วน ปีนี้ทางองค์กรของซูเจิน หยิบโครงการสำรวจป่าเหอหนานขึ้นมาใหม่ แต่กว่าจะหาทีมสำรวจได้ครบคนก็กินเวลาไปหลายเดือน ถึงตอนนี้คนก็ยังไม่พอจนต้องมาถามหาจากทีมวิจัยให้ช่วยเหลือ “คุณอยากไปจริงหรือ” เขาเอ่ยถามเพื่อความแน่ใจอีกครั้ง “ค่ะ ฉันอยากลองทำงานนี้” ซูเจินยิ้มออกมา “ได้ อีกสองวัน คุณก็เตรียมตัวให้พร้อม” เมื่อมีคนเสนอตัวแล้ว ผู้อำนวยการก็ออกไปพบทีมสำรวจ เพื่อวางแผนการทำงาน ทั้งยังให้ซูเจินตามเขาไปเข้ารวมการประชุมในครั้งนี้ด้วย “เธอมันบ้าไปแล้ว” เพื่อร่วมงานต่างเดินเข้ามาหาซูเจิน แล้วตำหนิเธอที่กล้ายกมือเสนอตัว “เอาน่า ไว้กลับมาฉันจะเอาเรื่องสนุกมาเล่าให้พวกเธอฟัง” ซูเจินยิ้มหวานออกมา ก่อนที่จะเก็บของแล้วไปเข้าร่วมประชุมกับทีมสำรวจ สองวันต่อมาซูเจินก็แบกกระเป๋าเดินทางมาที่จุดนัดพบ เธอออกเดินทางด้วยรถตู้ขององค์กร พร้อมทีมสำรวจอีกเกือบยี่สิบชีวิต ยังดีที่เธอได้แบกกระเป๋าเพียงใบเดียว หากต้องแบกเต็นท์นอน อาหารด้วย คงได้เป็นภาระของคนอื่นอย่างแน่นอน ภายในป่าเหอหนาน น่ากลัวว่าที่ซูเจินคิดไว้เยอะ พอตะวันตกดิน หากไม่มีแสงไฟที่ทีมสำรวจนำมาด้วยคงจะมืดจนมองไม่เห็นอะไร เสียงแมลงทั้งสัตว์ป่าร้องตลอดทั้งคืน สร้างความหวาดกลัวให้กับคนที่ไม่เคยเข้าป่าสักครั้งอย่างเธอได้อย่างดี ยังดีที่เจ้าหน้าที่ผู้นำทางติดตามมาด้วยอีกหลายคน พวกเขาจึงได้อยู่ผลัดเปลี่ยนเวรยาม เพื่อป้องกันไม่ให้สัตว์ป่าเข้ามาถึงตัวพวกเขา หลายวันที่อยู่ในป่า ซูเจินเก็บตัวอย่างพันธุ์ได้หลายชนิด แต่ทั้งทีม ยังเดินไม่หลุดป่าชั้นนอกเลย ยังดีที่อาหารที่เตรียมมาเพียงพอให้พวกเขาอยู่ไปได้อีกหลายวัน “เอ๊ะ” เข้าวันที่เจ็ดของการสำรวจป่า ซูเจิน เห็นดอกไม้แปลกตา ที่ขึ้นอยู่ท่ามกลางพงหญ้ารก เธอจึงเดินห่างจากกลุ่มทีมสำรวจเข้าไปดูทันที เพราะไม่คิดว่าจะเกิดเรื่องอะไรได้ ระยะห่างที่อยู่ไกลจากพวกเขา หากร้องเรียกก็ยังได้ยินอยู่ เธอหยิบกล้องถ่ายรูปขึ้นมา พร้อมทั้งจดรายละเอียดก่อนที่จะดึงต้นไม้เก็บเข้าถุงเก็บตัวอย่างที่เตรียมมา แต่เมื่อมือของซูเจินสัมผัสไปที่ดอกไม้ เธอก็ต้องตกตะลึง เหมือนมีกระแสไฟวิ่งผ่านปลายนิ้วไปจนทั่วทั้งตัว “โอ๊ยย” เสียงร้องอย่างเจ็บปวดของซูเจิน เรียกความสนใจให้คนทั้งหมดรีบวิ่งมาทางที่เธออยู่ ซูเจินเห็นเพียงแสงสีขาวที่สว่างวาบไปทั่ว แล้วภาพตรงหน้าของเธอก็ดำมืดลง
เกิดใหม่ในชาตินี้ นางแค่ต้องการอยู่อย่างสงบสุขปกป้องครอบครัวจากเรื่องร้ายที่จะเกิดขึ้น นางไม่อยากตกอยู่ในบ่วงรักอันทำให้ครอบครัวต้องพบกับวิบัติอีกต่อไปแล้ว... คำเตือน นิยายเรื่องนี้เป็นนิยายรักโรแมนติก ดราม่า มีฉากความรุนแรง ฉาก NC และมีฉากเศร้าสะเทือนใจ โปรดพิจารณาก่อนดาวโหลดนะคะ กราบขอบพระคุณค่ะ
© 2018-now MeghaBook
บนสุด
GOOGLE PLAY