+++ เมื่อนางบำเรอที่คิดว่าเป็นของตายหายไป เขาจึงรู้ใจของตัวเอง +++ “จะกลับแล้วเหรอคะ” “พรุ่งนี้ผมมีนัดกับ น้องลียา แต่เช้าน่ะ ถ้าผมค้างคืนที่นี่ ผมอาจจะตื่นเช้าไม่ไหว” แววตาของเขายังคงมองหล่อนไม่วางตา “คุณก็รู้ใช่ไหมว่าถ้าผมอยู่กับคุณ ผมไม่ค่อยได้นอนเท่าไหร่ เอาเป็นว่า คืนพรุ่งนี้ผมจะมาหาคุณก็แล้วกันนะ ผมไปล่ะ” แล้วบุรุษรูปงามดั่งเทพเจ้าปั้นแต่งก็โน้มหน้ามาจูบแก้มนวลที่มีสีเลือดฝาดของหล่อนเบาๆ แต่ถึงแม้จะถูกสัมผัสเพียงแผ่วเบา แต่ไออุ่นจากปลายจมูกของเขาก็ทำให้หล่อนสะท้านไปทั้งหัวใจ ยิ่งอยู่ใกล้เขา หล่อนก็ยิ่งตกหลุมรักเขามากขึ้นทุกวันๆ “นอนพักนะ เอาไว้พรุ่งนี้ผมจะโทรหา” “ขับรถดีๆ นะคะ และถ้าไม่เป็นการรบกวนเกินไป ถึงบ้านแล้วไลน์มาบอกพิชาบ้างนะคะ พิชาจะได้รู้ว่าคุณถึงบ้านโดยปลอดภัยน่ะค่ะ” เขาระบายยิ้ม ซึ่งมันเป็นรอยยิ้มที่มีเสน่ห์เหลือเกิน ไม่มีผู้หญิงคนไหนห้ามใจไม่ให้ลุ่มหลงคุณหมอหนุ่มรูปงามอย่างพิริยะได้หรอก โดยเฉพาะหล่อน ที่หลงใหลเขาจนหัวปักหัวปำเลยทีเดียว “ถ้าผมไม่ลืมนะ” หล่อนหน้าเจื่อนลง ก่อนจะฝืนยิ้มตอบรับเขาออกไป “ถ้าลืมก็ไม่เป็นไรค่ะ” คำตอบของเขาตรงไปตรงมา ไม่เคยรักษาน้ำใจของหล่อนเลย แต่ก็อย่างที่เขาเคยบอกเอาไว้นั่นแหละ เขาจะทำทุกอย่างตามความรู้สึก ดังนั้นถ้าหล่อนรับไม่ได้ก็เดินออกไปได้เลย เขาอนุญาต... แต่หล่อนก็ยังไม่ยอมไปไหนเสียที... ยังคงอยู่เป็นนางบำเรอของเขา รอเสี้ยวเศษความใคร่จากเขาอย่างไร้ยางอาย
“จะกลับแล้วเหรอคะ”
ร่างอรชรของ กานพิชชา ผุดลุกขึ้นนั่ง ผ้าห่มสีขาวเลื่อนลงไปกองที่บริเวณช่วงเอว ทำให้เห็นหน้าอกอวบใหญ่เปลือยเปล่าสะท้อนกับแสงไฟสีเหลืองนวลกลางห้องกว้าง
ดวงตากลมโตจับจ้องมองเรือนร่างสูงใหญ่สมบูรณ์แบบของ พิริยะ กิติกรไพศาล หรือ คุณหมอพีท คุณหมอเซแลปผู้โด่งดังในแวดวงไฮโซ
พิริยะ ทั้งหล่อทั้งรวย เขาคือลูกชายคนโตของตระกูลมหาเศรษฐีอย่างกิติกรไพศาล มีดีกรีเป็นถึงคุณหมอนักเรียนนอก และตอนนี้ก็กำลังเป็นผู้บริหารโรงพยาบาลเอกชนชื่อดังที่สุดในเมืองไทย
ส่วนหล่อนนะหรือ...
หล่อนเป็นเพียงแค่ผู้ช่วยพยาบาลในโรงพยาบาลของพิริยะเท่านั้นเอง
ผู้หญิงต่ำต้อย ไร้ค่า แถมยังใจง่าย...
หากค่ำคืนนั้นเมื่อหกเดือนก่อน หล่อนไม่ได้ช่วยชีวิตเขาเอาไว้ สายตาของเขาก็คงไม่มีวันมองมาที่หล่อนแน่นอน
เขาตอบแทนบุญคุณของหล่อนด้วยการทำให้ร่างกายของหล่อนรุ่มร้อน แผดเผาสำนึกผิดชอบชั่วดีของหล่อนด้วยเพลิงปรารถนาอันแสนมหัศจรรย์
จนกระทั่งตอนนี้...
วินาทีนี้...
หล่อนอยู่ในฐานะ นางบำเรอ ลับๆ ของเขามาเกือบหกเดือนแล้ว
อยู่ในที่ของตัวเอง ไม่แพร่งพรายเรื่องลับๆ นี้ให้ใครรู้
นี่คือความต้องการของพิริยะ
ซึ่งหล่อนก็ยอมทำตามแต่โดยดี ยอมอยู่ในที่ลับ อยู่เป็นคนในความลับของเขาตลอดมา ไม่มีปากไม่มีเสียง เขาต้องการอะไร หล่อนก็พร้อมจะมอบให้ทุกอย่าง
เพราะอะไรน่ะหรือ...
เพราะหล่อนรักเขายังไงล่ะ
หล่อนรักเขา...
รักทั้งๆ ที่รู้ว่าความสัมพันธ์ลับๆ นี้ไม่มีทางยั่งยืน
ไม่มีคำว่า ‘ตลอดไป’ กับการเป็นนางบำเรอของพิริยะ
“ใช่ครับ”
คนที่เพิ่งติดกระดุมเสื้อเสร็จตอบเสียงเรียบ ดวงตาสำรวจมาที่ร่างเปลือยของหล่อน
สองแก้มของกานต์พิชาร้อนผ่าวขึ้นมา ด้วยความเขินอาย จึงดึงผ้าห่มขึ้นมาปิดหน้าอกอวบเต่งตึงของตัวเองเอาไว้โดยอัตโนมัติ
“แต่... วันนี้เป็นวันศุกร์ ปกติคุณหมอจะอยู่ค้างคืนจนถึงเช้าไม่ใช่เหรอคะ...”
หล่อนแย้งเสียงเบา เพราะไม่อยากทำให้เขาอึดอัดใจจึงไม่ได้แสดงความไม่พอใจอะไรออกไป
“พรุ่งนี้ผมมีนัดกับ น้องลียา แต่เช้าน่ะ ถ้าผมค้างคืนที่นี่ ผมอาจจะตื่นเช้าไม่ไหว”
แววตาของเขายังคงมองหล่อนไม่วางตา
“คุณก็รู้ใช่ไหมว่าถ้าผมอยู่กับคุณ ผมไม่ค่อยได้นอนเท่าไหร่”
หล่อนอดก้มหน้าหลบสายตาคมแวววาวของพิริยะไม่ได้ เพราะเข้าใจความหมายจากคำพูดของเขาเป็นอย่างดี
“เอาเป็นว่า คืนพรุ่งนี้ผมจะมาหาคุณก็แล้วกันนะ ผมไปล่ะ”
แล้วบุรุษรูปงามดั่งเทพเจ้าปั้นแต่งก็โน้มหน้ามาจูบแก้มนวลที่มีสีเลือดฝาดของหล่อนเบาๆ แต่ถึงแม้จะถูกสัมผัสเพียงแผ่วเบา แต่ไออุ่นจากปลายจมูกของเขาก็ทำให้หล่อนสะท้านไปทั้งหัวใจ
ยิ่งอยู่ใกล้เขา หล่อนก็ยิ่งตกหลุมรักเขามากขึ้นทุกวันๆ
“นอนพักนะ เอาไว้พรุ่งนี้ผมจะโทรหา”
“ขับรถดีๆ นะคะ และถ้าไม่เป็นการรบกวนเกินไป ถึงบ้านแล้วไลน์มาบอกพิชาบ้างนะคะ พิชาจะได้รู้ว่าคุณถึงบ้านโดยปลอดภัยน่ะค่ะ”
เขาระบายยิ้ม ซึ่งมันเป็นรอยยิ้มที่มีเสน่ห์เหลือเกิน
ไม่มีผู้หญิงคนไหนห้ามใจไม่ให้ลุ่มหลงคุณหมอหนุ่มรูปงามอย่างพิริยะได้หรอก โดยเฉพาะหล่อน ที่หลงใหลเขาจนหัวปักหัวปำเลยทีเดียว
“ถ้าผมไม่ลืมนะ”
หล่อนหน้าเจื่อนลง ก่อนจะฝืนยิ้มตอบรับเขาออกไป
“ถ้าลืมก็ไม่เป็นไรค่ะ”
คำตอบของเขาตรงไปตรงมา ไม่เคยรักษาน้ำใจของหล่อนเลย แต่ก็อย่างที่เขาเคยบอกเอาไว้นั่นแหละ เขาจะทำทุกอย่างตามความรู้สึก ดังนั้นถ้าหล่อนรับไม่ได้ก็เดินออกไปได้เลย เขาอนุญาต...
แต่หล่อนก็ยังไม่ยอมไปไหนเสียที...
ยังคงอยู่เป็นนางบำเรอของเขา รอเสี้ยวเศษความใคร่จากเขาอย่างไร้ยางอาย
“งั้นผมไปล่ะ”
แล้วเขาก็เดินไปที่ประตูห้องนอน จากนั้นก็กดสวิตซ์ไฟให้ดับลง ก่อนจะปิดประตูเบาๆ และหายไปในความมืด
กานต์พิชาล้มตัวลงนอน ดวงตาตอนนี้มีหยาดน้ำตาเอ่อล้น
หล่อนตื่นเต้นยินดีทุกครั้งที่ถึงวันศุกร์และวันเสาร์ เพราะมันคือวันที่พิริยะจะมาหา มาอยู่ด้วยทั้งกลางวันกลางคืน แต่หลังจากที่เขากลับไป หล่อนก็จะจมดิ่งลงสู่เหวแห่งความเจ็บปวดทุกครั้งเช่นกัน
ความรักที่มีให้เขา มันไร้ราคา และพิริยะไม่เคยเห็นค่ามันเลย
แผ่นหลังเปลือยขาวนวลเนียนสะท้อนขึ้นลงเพราะเจ้าของร่างกำลังสะอื้นไห้
หล่อนเจ็บปวด ทุกข์ทรมานแต่ก็ยังไม่สามารถตัดใจเดินออกไปจากวังวนนางบำเรอนี้สักที
เปลือกตาปิดลงช้าๆ หยาดน้ำตาอุ่นร้อนยังคงไหลออกมาตลอดเวลา
อดทนเอาไว้กานต์พิชา ในเมื่อเธอรักพิริยะ เธอก็ต้องอดทนให้ได้
หญิงสาวสั่งตัวเองราวกับคนโง่เขลาครั้งแล้วครั้งเล่า ก่อนจะผล็อยหลับไปโดยไม่รู้ตัว
เมื่อ คิมหันต์ ชายหนุ่มหล่อ รวย ทายาทคนเดียวของตระกูล ถูกใจ พอฤทัย นักกายภาพบำบัดที่คุณย่าจ้างมา เขาคิดว่าหล่อนง่าย แต่หล่อนกลับไม่ได้เป็นอย่างที่เขาคิดเลย หล่อนสวย แต่ยาก และนั้นก็ยิ่งทำให้เขากระหาย ยิ่งอยากได้หล่อนจนใจจะขาด ++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++ ประตูห้องยังไม่ทันจะปิดสนิท คิมหันต์ก็ดึงคนตัวเล็กเข้ามาประกบปากจูบดูดดื่ม ราวกับว่าถ้ารออีกนิดเดียวเขาจะขาดใจตาย "คุณคิมหันต์ อย่าค่ะ...คุณปวดเอวอยู่ไม่ใช่เหรอ?" หล่อนจับมือที่บีบขยำนมออก แต่เขาก็เอาขึ้นมาบีบใหม่ ก้มหน้าลงกระซิบข้างหู "ปวดก็ต้องซ้ำครับ จะได้หายปวด" พูดจบก็อุ้มร่างบางขึ้นแนบอกทันที พอฤทัยรู้ว่าโดนหลอก ก็โมโหเอาฟันกัดที่หัวไหล่เขาไปทีหนึ่ง แล้วก็รู้ว่าตัวเองทำผิดพลาดครั้งใหญ่ เมื่อได้ยินประโยคที่เขาพูดออกมา "ที่แท้คุณก็ชอบความรุนแรงนี่เอง ได้เลยครับเมียจ๋า...เดี๋ยวผัวจัดให้" เขาเดินก้าวยาว ๆ จนมาถึงเตียง วางร่างบางบนที่นอน จากนั้นก็ถอดเหมือนกระชากชุดของหล่อนออกจากร่าง ตามด้วยเสื้อผ้าของตัวเอง แล้วทาบทับลงไป "เห็นคุณชอบความรุนแรงแบบนี้ แสดงว่าต้องชอบแบบจูบแรกของเราด้วยใช่ไหม?" เขาเคลื่อนหน้าลงมาถาม หล่อนถลึงตาใส่เขา เมื่อนึกถึงจูบรุนแรง ที่มีแต่ความเจ็บตรงหน้าห้องน้ำ "ก็ลองทำอีกสิ คราวนี้ฉันจะกัดลิ้นคุณให้ขาดเลย" เขาได้ยินก็หัวเราะเสียงร่วนออกมา ก่อนจะก้มหน้าลงไปจูบกลีบปากอิ่มอ่อนโยน และเปลี่ยนเป็นร้อนแรงขึ้นในเวลาต่อมา
นนท์ปวิธคือคุณหมอหนุ่มรูปงามและใจดี และมีเพียงแค่เธอคนเดียวเท่านั้นที่ได้เห็นมุมมืดของผู้ชายคนนี้ มุมมืด... ที่เขาสร้างเอาไว้เพื่อทำร้ายเธอเพียงคนเดียว +++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++ "นอนกับฉัน แล้วฉันจะยอมช่วยลูกสาวของเธอ" นี่คือข้อเสนอของนายแพทย์นนท์ปวิธ อริณวัฒน์ ศัลยแพทย์หัวใจชื่อดังของเมืองไทย เขาคือเทพเจ้าแห่งการผ่าตัดหัวใจ เพราะคนไข้ทุกคนที่ผ่านมีดผ่าตัดของเขาจะประสบความสำเร็จทุกราย ทุกคนต่างชื่นชมในฝีมือและความมีน้ำใจของคุณหมอหนุ่มหล่อคนนี้มาก เขาคือเทพบุตร คือเทวดาสำหรับคนไข้และญาติๆ แต่ในมุมมืดของเขามีเพียงแค่หล่อนคนเดียวที่ได้เห็น แน่ล่ะ... เขาสร้างมุมมืดเอาไว้เพื่อทำร้ายหล่อนแค่เพียงคนเดียวเท่านั้น "ตกลงค่ะ" รอยยิ้มหยันเกลื่อนใบหน้าหล่อเหลาของนายแพทย์นนท์ปวิธ ขณะที่เคลื่อนเรือนร่างสูงโปร่งหกฟุตสามนิ้วเข้ามาหยุดใกล้ๆ "งั้นก็คืนนี้เลย" "ตาว... ขอเวลา..." "ลูกสาวของเธอ มีเวลาเหลือเยอะสินะ" "เอ่อ..." "ฉันต้องการเอาเธอคืนนี้..." แล้วเท้าใหญ่ก็ขยับเข้ามาใกล้ขึ้นอีก จนตอนนี้ร่างกายอยู่ห่างกันแค่เพียงฟุตเดียวเท่านั้น กลิ่นหอมเฉพาะตัวของเขาโชยฟุ้งเข้ามาในจมูก ทำให้รจิตราตัวสั่นเทา หล่อนช้อนตาขึ้นมองคนตัวสูง ซึ่งเขาก็ลดสายตามองลงมามองพอดี ดวงตาสองดวงสบประสานกัน โลกทั้งใบหยุดหมุน ความทรงจำเมื่อห้าปีก่อนย้อนกลับเข้ามาราวกับสายน้ำไหลหลาก ความทรงจำที่หล่อนไม่เคยลืม... และใช้มันหล่อเลี้ยงหัวใจมากว่าห้าปี
ในสายตาของทุกคน คชาวุฒิเก่งฉลาด สุภาพเรียบร้อย และสุดเนิร์ด คงมีเพียงแค่เธอคนเดียวเท่านั้น ที่รู้ว่าใต้แว่นตาหนาของเขาซ่อนความร้อนแรงเอาไว้มากแค่ไหน ไม่รู้จะอวยยศให้อาจารย์ฟิสิกส์คนนี้ยังไงดี แต่รับประกันว่าอาจารย์แซ่บมาก แซ่บฉ่ำแฉะ^^ +++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++ "ตรงไหนดี..." หล่อนควรต่อต้านสิ ควรผลักไส เพราะมันไม่ใช่เรื่องที่ควรเกิดขึ้นเลย แต่... แต่ร่างกายของหล่อนมันอ่อนระทวยไม่มีแรงเลย "ตรงไหนดีเด็กน้อย..." เขากระซิบถามเสียงกระเส่า "ถ้าคุณไม่ตอบ ผมจะเลือกเองนะ..." "อาจารย์... หนู... หนู..." ใบหน้านวลแดงระเรื่อ ตอนนี้สมองของหล่อนขาวโพลนไร้ความคิดชั่วคราว รอยยิ้มจากปากหยักสวยของอาจารย์ฟิสิกส์สุดหล่อช่างบาดใจเหลือเกิน เขาค่อยๆ ย่อตัวลง และคุกเข่าลงกับพื้น ขณะที่สายตาช้อนขึ้นมาสบประสานกับหล่อนตลอดเวลา ไฟร้อนๆ ในดวงตาของเขากำลังแผดเผาให้หล่อนมอดไหม้ "อา... จารย์..." นี่เขากำลังจะทำอะไรน่ะ เขาคุกเข่าทำไม
พระเอกเรื่องนี้แรกๆ จะออกแนวปากหมา ใจร้าย ชอบทำนางเอกช้ำใจ แต่หลังจากเห่าหอนเป็นแล้ว ก็จะกลายเป็นหมาโบ้คลั่งรักสุดๆ เลยค่ะ ไรต์นอนยันเลย 555+++ คำเตือน... พระเอกเรื่องนี้โบ้ซ้ำโบ้ซ้อนโบ้ไม่ปรานีใคร 55 ++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++ "คุณ... ภาม... เป็นอะไรคะ..." คำถามของหล่อนตะกุกตะกักจนแทบฟังไม่เป็นคำ "หึ... ยังจะมีหน้ามาถามอีกหรือคาลิสา!" เขายื่นมาบีบคอของหล่อน และนั่นก็ทำให้หล่อนตกใจแทบช็อก "คุณภาม... ครีม... กลัว..." ทำไมเขาทำแบบนี้ ทำไมภาวินทร์ถึงบีบคอหล่อนล่ะ แม้จะไม่ได้บีบแรงนัก แต่ก็ทำให้หล่อนกลัวจนแทบหยุดหายใจ "เธอนี่มันเลี้ยงไม่เชื่อง" "คุณภาม... พูดอะไรคะ ครีมไม่เข้าใจ... อ๊ะ..." นิ้วยาวของเขาบีบเค้นลงกับลำคอขาวผ่องของหล่อนแรงขึ้น จนหล่อนเกือบจะหายใจไม่ออก "ยังจะมีหน้ามาถามอีกเหรอ เธอไปทำอะไรเอาไว้ล่ะ" "ครีม... ครีมเปล่า..." "เลิกตอแหลเถอะ ฉันรู้เรื่องจากน้องอัญหมดแล้ว" "..." "เธอจงใจละเมิดข้อตกลงของเรา" "ครีมเปล่านะคะ คุณอัญเธอรู้อยู่แล้ว... เธอรู้จากคุณภามไม่ใช่เหรอคะ..." หล่อนพยายามจะอธิบายในมุมของตัวเอง แต่ชายหนุ่มไม่ยอมรับฟัง "เธอเดือดร้อน ฉันก็ช่วย ให้ข้าวให้น้ำ ให้เงิน เซ็กซ์ดีๆ ฉันก็ให้ งานก็มีให้ทำ แล้วเธอยังต้องการอะไรจากฉันอีก อยู่เงียบๆ อยู่ในที่ตัวเองไม่ได้หรือไง หื้อ!" "ครีม... ฮืออออ..." "แล้วเธอยังมีหน้าไปโกหกน้องอัญว่าท้องกับฉันอีกเหรอ เธอกล้าดียังไงพูดแบบนั้นออกไป คาลิสา!" หากหล่อนบอกออกไปว่าตัวเองกำลังตั้งท้องลูกของเขาจริงๆ ภาวินทร์ก็คงจะไม่เชื่อ ใช่... เขาไม่มีทางเชื่อหรอก ตอนนี้เขาเชื่อคำพูดของคู่หมั้นคนสวยของเขาคนเดียวเท่านั้น "ตอบมาสิ... เธอท้องลูกของฉันจริงหรือเปล่า" ใบหน้าที่เปียกชุ่มไปด้วยหยาดน้ำตาส่ายไปมา ก่อนจะตอบเสียงสะอื้น "ไม่... ไม่ได้ท้องค่ะ..." "หึ... นึกอยู่แล้วเชียว เธอมันก็แค่ผู้หญิงมารยา ที่ต้องการทำให้ฉันเดือดร้อนเท่านั้นเอง" เขาหยุดบีบคอของหล่อน และผลักร่างของหล่อนออกห่าง แสดงท่าทางรังเกียจออกมา "เราเลิกกันเถอะ"
เรื่องนี้พระเอกเป็นพวกชอบวิ่ง ตอนแรกวิ่งหนี ตอนหลังวิ่งชนจนมดลูกน้องแทบอักเสบ ฝากติดตามเป็นกำลังใจให้ไรต์ด้วยค่ะ เลิฟ เลิฟ ++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++ "พี่วิศ... ทำไมพี่เปลี่ยนไปแบบนี้คะ... อื้อ... อย่าทำแบบนี้สิคะ... " แม้จะพยายามขัดขืน แต่เสียงก็แผ่วเบา และอ่อนแรงเหลือเกิน "แล้วชอบพี่แบบนี้ไหมล่ะครับ... อืมม หอมจัง" ปลายจมูกของเขาซุกไซ้อยู่ที่ลำคอ ในขณะที่ฝ่ามืออบอุ่นลูบไล้ซุกซน "พี่ชอบก้นของเธอจัง นุ่มนิ่มมาก" "พี่วิศ..." "และพี่ก็ชอบเสียงครางของเธอด้วย ฟังแล้วยิ่งมีอารมณ์..." เขาเงยหน้าขึ้นจากลำคอของหล่อนที่ดูดเม้มจนแดงช้ำ ดวงตาสบประสานกัน ก่อนที่ปากหยักสวยจะแนบชิดลงมาหา เขาจูบเบาๆ หนึ่งครั้ง ก่อนจะกระซิบเสียงแปร่งพร่า "ให้พี่เอานะ... พี่หิว..."
เพราะแอบรักจึงยอมทุกอย่าง ยอมแม้กระทั่งเป็นคนในความลับ อยู่เงียบๆ ในเงามืดชั่วนิรันดร์ กฎของเขาก็คือ มีอะไรกัน นอนด้วยกัน สนุกกัน แต่ห้ามบอกใคร ห้ามให้ใครรู้ว่ามีความสัมพันธ์กันแบบไหน ในที่ทำงานเขาคือท่านประธาน และเธอก็คือพนักงานคนหนึ่งในบริษัทเท่านั้น เมื่อเจอกันก็ทักทายกันบ้างแบบเจ้านายกับลูกน้อง ห้ามแสดงท่าทางหรือแสดงความเป็นเจ้าของ ห้ามโพสต์สถานะในโซเชียล แม้จะไปเที่ยวด้วยกัน ไปถึงไหนต่อไหนด้วยกันก็แล้วแต่ห้ามเปิดเผยทั้งนั้น ซึ่งด้วยความรักที่มีต่อเขา ทำให้เธอตกลงยอมเป็น คนในความลับของเขาอย่างเต็มใจ +++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++ "มามี๊ขา..." วชิรวัฒน์มองเด็กหญิงตัวน้อยที่อายุน่าจะไม่ถึงสามขวบวิ่งเข้ามาสวมกอดฟาริดาด้วยความประหลาดใจและตกใจในเวลาเดียวกัน เขามองใบหน้ากลมๆ ของเด็กหญิงคนนั้น สลับกับใบหน้าของฟาริดา ซึ่งก็พบว่าหญิงสาวกำลังหน้าซีดเผือดไร้สีเลือด "นี่มันอะไรกัน น้องฟาง... เด็กคนนี้... เป็น..." เขายังพูดไม่ทันจบ ฟาริดาก็ดันร่างของเด็กหญิงไปไว้ด้านหลัง ก่อนจะตอบเขาด้วยสุ่มเสียงดังฟังชัด "ลูกสาวของฟางเองค่ะ" วชิรวัฒน์ถึงกับอึ้ง เขาหันไปมองสบตากับอภิวัฒน์ ก็พบว่าเลขาฯ หนุ่มก็อึ้งไม่ต่างกัน หลังจากตั้งสติอยู่ชั่ววินาที เขาก็หันกลับมาจ้องหน้าฟาริดาเขม็ง "เด็กคนนี้เป็นลูกของใครครับ" เขาพยายามที่จะถามเสียงสุภาพ ทั้งๆ ที่ภายในในเต็มไปด้วยเพลิงไฟกัลป์ เพราะอย่างนี้เองเหรอ ฟาริดาถึงได้หนีจากเขาไป เพราะหล่อนท้อง... แล้วหล่อนท้องกับใครล่ะ นอกจากเขาแล้ว หล่อนยังแอบมีความสัมพันธ์กับผู้ชายคนอื่นอีกอย่างนั้นเหรอ บ้าชิบ! นี่หล่อนกำลังจะทำให้เขาโมโหจนเป็นบ้าอยู่แล้วนะ! "ลูกของใครก็ช่างเถอะค่ะ แต่ไม่มีอะไรเกี่ยวข้องกับพี่โรมแน่นอน"
"ไง...หลบหน้าผัวมาหลายวัน" คนตัวโตกดเสียงมาอย่างไม่น่าฟัง ยิ่งเธอขัดขืนเขายิ่งเพิ่มแรงบีบที่ข้อมือ "ปล่อยนะพี่ริว พี่ไม่ใช่ ผัว..." เสียงเล็กถูกกลื้นหายในลำคอ เมื่อโดนคนใจร้ายตรงหน้าระดมจูบไปทั้งใบหน้า อย่างไม่ทันตั้งตัว ริวถอนจูบออก เสมองคนตรงหน้าอย่างเย้ยหยัน "ผัว...ที่เอาเธอคนแรกหนะ" "พี่ริว..." เจนิสตะเบ่งเสียงด้วยสีหน้าอันโกรธจัด "ทำไม เรียกชื่อพี่บ่อยแบบนี้ละครับ" ริวเอ่ยพร้อมกับสบตาคนตรงหน้าด้วยสายตาดุดัน "คิดว่าคืนนี้เธอจะรอดเหรอ" ริวตะเบ่งเสียงขึ้นมา จนร่างบางถึงกับชะงัก "ปล่อย...นะ คนเลว" ยิ่งเธอต่อต้านเขายิ่งรุนแรงกับเธอมากขึ้น "เอาดิ...เธอตบ ฉันจูบ..." ริวเอ่ยพร้อมกับจ้องมองด้วยสายตาดุดัน
หลังจากถูกแฟนหนุ่มและเพื่อนสนิทของเธอจัดฉาก เฉี่ยนซีก็จบลงด้วยการใช้เวลาทั้งคืนกับชายแปลกหน้าลึกลับคนนั้น เธอมีความสุขมาก แต่พอเธอตื่นขึ้นมาในเช้าวันรุ่งขึ้น เธอก็รู้สึกแย่กับสิ่งที่เกิดขึ้นเมื่อคืน อย่างไรก็ตาม ความรู้สึกผิดทั้งหมดของเธอถูกชะล้างออกไป เมื่อเธอเห็นใบหน้าของชายที่นอนอยู่ข้างเธอ เธอจึงเอ่ยด้วยเสียงเบา ๆ ที่ว่า “ผู้ชายอะไร ทำไมหล่อจัง” และเธอก็ต้องตกใจกับสิ่งที่เห็น ความผิดของเธอกลายเป็นความละอายใจโดยทันที และมันทำให้เธอตัดสินใจทิ้งเงินจำนวนหนึ่งไว้ให้ชายผู้นั้นก่อนที่เธอจะจากไป "เจ๋อข่าย" รู้สึกประหลาดใจเมื่อเห็นเงินดังกล่าว พร้อมกับคิดว่า ‘ผู้หญิงคนนั้นพยายามจะจ่ายเงินให้ฉัน ราวกับว่า ฉันเป็นผู้ชายขายบริการอย่างนั้นหรอ? ’ เขารู้สึกโกรธ จึงต้องการดูภาพจากกล้องวงจรปิดของโรงแรม เขาสั่งผู้ช่วยของเขาด้วยใบหน้าที่จริงจังพร้อมขมวดคิ้ว “ผมอยากรู้ว่า ใครอยู่ในห้องของผมเมื่อคืนนี้” ‘อย่าให้เจอนะ ถ้าเจอเมื่อไหร่จะสั่งสอนให้เข็ดเลย! ’ เรื่องราวของพวกเขาจะเป็นอย่างไรต่อไปนะ
นิยายเรื่องนี้เป็นเพียงเรื่องที่สมมติขึ้น ไม่เกี่ยวข้องกับเรื่องจริงแต่อย่างใด ชื่อบุคคล และสถานที่ที่ปรากฏในเนื้อเรื่อง ไม่มีเจตนา อ้างอิงหรือก่อให้เกิดความเสียหายใดๆ ………. นิยายเรื่องนี้… ไม่มีแก่นสารสารัตถะอะไรนักหนา ทั้งเรื่องขับเคลื่อนด้วยอารมณ์อันมืดดำของมนุษย์ ดำเนินเรื่องด้วยตัณหาราคะสุดร้อนแรง ท่านใดที่ไม่ชอบโปรดหลีกเลี่ยง *เราเตือนท่านแล้ว*
วิญญาณแพทย์นิติเวชที่มีชื่อเสียงในศตวรรษที่ 21 ได้เข้ามาอยู่ในร่างคุณหนูของจวนเสนาบดีอย่างบังเอิญ ผู้คนกล่าวหาว่านางไม่เชี่ยวชาญด้านการแพทย์และทำให้บุตรชายของแม่ทัพตาย ด้วยเหตุนี้ฮ่องเต้ต้องการฆ่านางเพื่อให้คำอธิบายกับแม่ทัพ! ผู้คนกล่าวหาว่านางเป็นคนหยิ่งยโสและเจ้ากี้เจ้าการ ทุกคนเกลียดนาง และครอบครัวของนางต้องการไล่นางออก! ผู้คนกล่าวหาว่านางเป็นคนเลวทรามและไร้ความปรานี วางยาน้องสาว และพ่อของนางต้องการโบยนางจนตาย! ในความเป็นจริงหากอยากจะกล่าวหาผู้ใดสักคน มันก็หาข้ออ้างได้ทั่ว แต่นางเป็นคนไม่ยอมใคร นางผอมบางนางหนึ่งปลุกปั่นโลกด้วยความสามารถอันทรงพลังตนเอง ท่านอ๋องกล่าวว่า หากได้เจ้ามาครอบครอง ข้ายอมทรยศทุกคนในโลก นางกล่าวว่า เพื่อท่าน ต่อให้ทุกคนในโลกเกลียดข้า ข้าก็ยอม
เมื่อเซิ่งหนิงเตรียมจะบอกฮั่วหลิ่นเกี่ยวกับการตั้งครรภ์ของเธอ ทว่ากลับพบเขาช่วยพยุงผู้หญิงอีกคนลงจากรถอย่างเอาใจใส่... เคยคิดว่าตนเองอยู่เคียงข้างฮั่วหลิ่นคอยดูแลเขามาสามปี สักวันหนึ่งเขาจะมาสามารถสร้างความประทับใจให้กับเขา แต่สุดท้ายเป็นตนเองที่คิดเองเออเองไปฝ่ายเดียว เซิ่งหนิงตายใจแล้วจากไป สามปีต่อมา ข้างกายของเธมีผู้ชายอีกคนหนึ่ง และฮั่วหลิ่นเสียใจมาก เจาพูดด้วยความโศกเศร้า "เซิ่งหนิง เรามาแต่งงานกันเถอะ" เซิ่งหนิงยิ้มอย่างเฉยเมย "ขออภัยนะคุณฮั่ว ฉันมีคู่หมั้นแล้ว"
เพลิงกัลป์ / Ryuu ริว ซาโต้อิชิบะ หัวหน้าแก๊งมาเฟียใหญ่ในคราบคุณหมอ หล่อ เลว เถื่อน ร้ายกับทุกคนไม่เว้นแม้กระทั่งกับ เธอ "กฎของการเป็นของเล่นคือห้ามรักเขา" ลูกพีช รินรดา สวย เซ็กซี่ สดใส ร่าเริง ปากร้าย กล้าได้กล้าเสีย สายอ่อยตัวแม่ "ของเล่นที่มีหัวใจของผู้ชายที่ไร้หัวใจ"