เตชินท์ไม่เคยคิดมาก่อนว่ามัจจุราชจะพรากพิมพ์ชนกไปจากเขาเร็วขนาดนี้ ผู้หญิงอันเป็นที่รักต้องจากไปด้วยอุบัติเหตุ ด้วยหัวใจรักที่มั่นคงของเธอและปาฏิหาริย์แห่งรัก ทำให้พิมพ์ชนกไปอยู่ในร่างผู้หญิงอีกคน แต่ผู้หญิงคนนั้นกลับเป็นคนที่เตชินท์เกลียดที่สุด เธอจะสามารถเอาชนะใจเขาได้อีกครั้งมั้ย เพราะเจ้าของร่างคือคนที่เป็นต้นเหตุทำให้พิมพ์ชนกต้องตาย นับตั้งแต่วันที่พิมพ์ชนกไม่อยู่บนโลกใบนี้ เตชินท์ก็สัญญากับตัวเอง เขาจะทำทุกวิถีทางเพื่อให้ฟ้าลดาเจ็บปวดที่สุด การแก้แค้นจึงเริ่มต้นขึ้น
เตชินท์กับพิมพ์ชนกเป็นคู่รักที่น่าอิจฉาที่สุด ทั้งสองคนเป็นรักแรกของกันและกัน คบกันตั้งแต่สมัยเรียนมหาวิทยาลัย
จุดเริ่มต้นของความรัก ตอนนั้นทั้งเตชินท์และพิมพ์ชนกกำลังเรียนอยู่มหาวิทยาลัยชั้นปีที่สอง ทั้งสองคนเจอกันที่ร้านอาหารที่พิมพ์ชนกทำงานพาร์ทไทม์อยู่ พิมพ์ชนกต้องทำงานส่งตัวเองเรียน เพราะเธอเป็นเด็กกำพร้า
เตชินท์มาทานข้าวกับเพื่อน แว็บแรกที่เขาเห็นพิมพ์ชนกเขาก็ตกหลุมรักเธอทันที เตชินท์ต้องการใกล้ชิดกับพิมพ์ชนก เพื่อจะได้หาโอกาสจีบเธอ เขาจึงไปสมัครงานที่ร้านอาหารร้านเดียวกันกับเธอ
ความจริงแล้วถึงแม้เตชินท์จะไม่ทำงาน คนอย่างเขาก็มีกินมีใช้ไปตลอดชาติ เพราะที่บ้านของชายหนุ่มประกอบธุรกิจโรงแรมและรีสอร์ตหลายแห่งในจังหวัดกระบี่
“นี่พิมพ์! เธอทำงานมาเกือบเดือนกว่าแล้วนะ ยังเสิร์ฟอาหารให้ลูกค้าผิดอยู่เลย พี่จะทำยังไงกับเธอดี” ผู้จัดการร้านพูดกับพิมพ์ชนกหลังจากที่ปิดร้านเรียบร้อยแล้ว
“พิมพ์ขอโทษนะคะ คราวหลังพิมพ์จะรอบคอบให้มากกว่านี้นะคะ” เธอกล่าวขอโทษพร้อมทั้งยกมือไหว้
“พยายามหน่อยละกันนะพิมพ์ พี่กลัวเราจะไม่ผ่านโปร...งั้นพี่จะให้เตชินท์มาสอนงานเราก็แล้วกันนะ รายนั้นเขาคล่องแคล่วและก็ทำงานเก่ง ทั้งๆ ที่เขาพึ่งจะมาทำงานได้ไม่นาน มาทีหลังเราด้วยซ้ำเขายังเรียนรู้งานได้เร็ว เรานี่มันน่านักนะ”ผู้จัดการบ่นให้พิมพ์ชนกอย่างไม่ค่อยจะจริงจังนัก
“เตชินท์เขาแนะนำอะไรเราก็ทำตามละกันนะ”
“ค่ะผู้จัดการ ขอบคุณมากนะคะที่ให้โอกาสพิมพ์” พิมพ์ชนกกล่าวขอบคุณผู้จัดการด้วยท่าทางกระตือรือร้น
“เตชินท์มาหาพี่หน่อยเร็ว” ผู้จัดการร้านกวักมือเรียกชายหนุ่ม
“ผู้จัดการมีอะไรเหรอครับ”
“พี่อยากจะวานให้เราช่วยสอนงานพิมพ์หน่อยนะ พี่กลัวพิมพ์จะไม่ผ่านโปร”
“ได้ครับผู้จัดการ”
เตชินท์ตอบรับด้วยความยินดี เพราะนี่เป็นโอกาสที่เขาจะได้ทำความรู้จักกับพิมพ์ชนกอย่างจริงจังสักที
“เราชื่อเตชินท์นะ...เรียกเตเฉยๆ ก็ได้” ชายหนุ่มแนะนำตัวกับพิมพ์ชนกอย่างเป็นทางการ
“เราชื่อพิมพ์ชนกจ้า...เรียกพิมพ์ก็ได้ ยินดีที่ได้รู้จักนะ” เธอยิ้มให้เขา มันเป็นรอยยิ้มที่ตราตรึงใจเตชินท์มาจนถึงทุกวันนี้
หลังจากวันนั้นทั้งสองคนก็สนิทสนมกันเพราะต้องทำงานด้วยกันทุกวัน พอถึงเวลาเลิกงานเตชินท์ก็ไปส่งพิมพ์ชนกที่หอพัก ความใกล้ชิดทำให้ความรักก่อตัวขึ้น ไม่นานทั้งสองคนก็ตกลงเป็นแฟนกัน
และแล้วพิมพ์ชนกก็ตัดสินใจย้ายเข้ามาอยู่คอนโดของเตชินท์ เพราะเธอทนการรบเร้าของเขาไม่ไหว เตชินท์ไม่อยากให้พิมพ์ชนกต้องอยู่หอพักคนเดียว เพราะหอพักของเธออยู่ในซอยลึก ทั้งมืดทั้งเปลี่ยวแถมยังมีพวกขี้ยาอีกด้วย ความจริงเขาอยากพาเธอเข้าไปอยู่ในบ้านเสียด้วยซ้ำ แต่ถ้าแม่ของเขารู้ว่าพาผู้หญิงเข้าบ้านคงเป็นเรื่องใหญ่แน่
หลังจากเรียนจบเตชินท์ก็ทำงานที่โรงแรมในเครือของที่บ้าน ส่วนพิมพ์ชนกทำงานเป็นเลขาที่บริษัทแห่งหนึ่ง ความจริงเตชินท์อยากให้เธอมาทำงานที่โรงแรมของเขา แต่พิมพ์ชนกไม่ยอม เพราะเธอรู้ดีว่านางปวีณาแม่ของชายหนุ่มไม่ค่อยชอบเธอ แต่ด้วยเหตุผลอะไรนั้นพิมพ์ชนกก็ไม่รู้เหมือนกัน
ตอนนี้ความรักของเตชินท์และพิมพ์ชนกกำลังสุกงอม ทั้งสองคนวางแผนว่าจะแต่งงานกันในอีกไม่กี่เดือนข้างหน้านี้แล้ว
แค่เห็นหน้ากันครั้งแรกก็ไม่ถูกชะตาซะแล้ว แต่ด้วยคำมั่นสัญญาของผู้ใหญ่ทำให้เขาและเธอต้องมาแต่งงานกัน
จากที่ต้องมาเป็นไม้กันหมาให้กับเจ้านายอย่างธีรวัฒน์ อิงดาวกลับเป็นฝ่ายตกหลุมรักเขาซะเอง หล่อนจะทำยังไงกับความรู้สึกของตัวเองในตอนนี้ คนที่ทั้งหล่อทั้งรวยอย่างเขา มีผู้หญิงสวยๆเข้าหาไม่เว้นแต่ละวัน โอกาสที่เขาจะหันมามองคนที่ทั้งเฉิ่มทั้งเชยอย่างหล่อนแทบไม่มีเลย
ซ่งหยุนหยุนแต่งงานไปแล้ว แต่เจ้าบ่าวไม่เคยปรากฏตัวตั้งแต่ต้นจนจบเลย ด้วยความโกรธหนัก เธอจึงมอบกายให้กับชายแปลกหน้าคนหนึ่งแทนในคืนการแต่งงานนั้น หลังจากวันนั้น เธอก็ถูกชายคนนั้นจับตาเข้า...
หลังจากแต่งงานกันมาสามปี เวินเหลี่ยงก็ยังไม่เคยได้ความรักจากฟู่เจิ้งแต่อย่างใดเลย เมื่อรักแรกของเขากลับมา สิ่งที่รอเธออยู่คือหนังสือการหย่า "ถ้าฉันมีลูก คุณยังเลือกหย่าไหม?" เธออยากจับโอกาสสุดท้ายนี้ไว้ แต่แล้วมีแต่คำตอบที่เย็นชาว่า "ใช่" เวินเหลี่ยงหลับตาและเลือกที่จะปล่อยมือ ...ต่อมาเธอนอนอยู่บนเตียงคนไข้ด้วยความสิ้นหวังและลงนามในข้อตกลงการหย่า "ฟู่เจิ้ง เราไม่ได้เป็นหนี้กันอีกต่อไปแล้ว..." ชายที่มีความเด็ดขาดและเย็นชามาโดยตลอดนอนอยู่ข้างเตียงขอร้องให้อีกฝ่ายกลับมาด้วยเสียงแผ่วเบา "เหลียง ได้โปรดอย่าหย่าได้ไหม?"
เสียงเครื่องยนต์ดังกระหึ่มจนฉันต้องลดหนังสือในมือลงชะเง้อคอมองไปที่ถนน “เสียงท่อรถแบบนี้ ผ่านด่านตรวจมาได้ยังไงวะ?” ความรู้สึกแรกหลังได้ยินเสียงแสบหู ท่อไอเสียที่ถูกตัดแต่งเพิ่มเสียงให้ดังมากขึ้น จนทำให้คนที่ได้ยินเกิดความรำคาญ และฉันเป็นหนึ่งในหลายคนที่เบ้ปากร้องยี๋ แต่ฉันอาจจะอาการหนักกว่าคนอื่นนิดหน่อยก็ได้ เพราะฉันกำลังติดพันกับหนังสือนวนิยายที่เพิ่งได้มา มันเป็นหนังสือนิยายทำมือของนักเขียนท่านหนึ่งแต่ติดเรท ที่ฉันพยายามหลบๆ อ่าน เพราะบางทีสายตาของคนอื่นตอนที่มองปกหนังสือก็ทำให้ฉันหงุดหงิดเล็กๆ ฉันคิดในใจทุกครั้งหากสายตาคนเหล่านั้นพุ่งตรงมาที่หนังสือในมือฉัน ฉันซื้อมาด้วยสตางค์ที่หาได้ ไม่ได้ไปใครขโมยใครมา แล้วทำไมล่ะ ความชอบส่วนตัวของฉันจึงไปขัดตาคนอื่น จบเรื่องนั้นกันก่อนเถอะค่ะ เรามาว่ากันต่อด้วยเรื่องที่กำลังเกิดขึ้น ไอ้รถบิ้กไบค์คันนั้นดันมาจอดใกล้ๆ แปลที่ฉันนอนซุ่มอ่านหนังสือเล่มโปรดอยู่นี่สิ!!
เพราะคิดว่าเป็นความฝัน ฉินหร่านจึงร่วมมือบรรเลงเพลงรักอย่างไม่ได้ตั้งใจ ไฉนตื่นขึ้นมาถึงมีสามีเป็นของตัวเอง อีกทั้งสามีนางยังตาบอดอีกด้วย! แต่นั่นไม่น่าตกใจ เท่ากับที่นางมาอยู่ในร่างเด็กสาวในยุคจีนโบราณ ที่ไม่มีในประวัติศาสตร์ อีกทั้งร่างนี้ถูกขายให้มาเป็นภรรยาของชายตาบอด แต่ไหนๆ ก็มาแล้วจึงจะใช้ชีวิตให้ดี ส่วนสามีนะหรือ หล่อขนาดนั้น แซ่บขนาดนี้ เดินหน้าเกี้ยวสามีสิ จะรออะไร!
หลิวซือซือผู้หญิงธรรมดาคนหนึ่งที่นอกจากรูปร่างหน้าตาที่สวยหยดย้อยแล้ว แทบจะไม่มีความสามารถหรือความโดดเด่นในเรื่องอื่น และหากจะว่ากันไปหญิงสาวก็เป็นคนที่ค่อนข้างใสซื่อบริสุทธิ์อยู่ไม่น้อย เพราะได้รับการรับเลี้ยงประดุจไข่ในหินจากผู้เป็นพ่อและแม่ที่มีฐานะไม่ธรรมดา เธอรักในอาชีพนักแสดงแม้พ่อแม่จะคัดค้านแต่สุดท้ายก็ตามใจเธอเพราะไม่ต้องการให้ลูกสาวเสียใจ อยู่มาวันหนึ่งด้วยบทบาทที่ต้องแสดงในซีรีส์ย้อนยุค ทำให้พ่อของเธอหาขลุ่ยโบราณเล่มหนึ่งมาให้ ตั้งแต่ได้รับขลุ่ยมาหลิวซือซือก็มักฝันประหลาด ว่าเธอได้พบผู้ชายคนหนึ่งในเขาเป็นแม่ทัพอยู่ระหว่างสงครามอีกทั้งตนเองยังมีโอกาสช่วยเขาหลายครั้ง ที่น่าประหลาดใจคือ ฝันนั้นของเธอเหมือนจะเป็นความจริงไปแล้ว เขาคือใครและเกี่ยวข้องกับเธอด้วยเหตุใด ทำไมเธอจึงมักฝันประหลาดเช่นนี้???
"ทำไม นอนกับผมมันแย่ขนาดนั้นเลยหรอคุณถึงได้กลัวว่าผมจะทำอะไรคุณอีก ผมรุนแรงกับคุณหรือยังไง งั้นผมคงต้องรีบทำใหม่เพื่อแก้ตัว" "คุณหมอ!" เมรีญาหันไปจ้องหน้าชายหนุ่มอย่างเอาเรื่อง พร้อมกับตำหนิเขาในใจที่กล้าพูดเรื่องแบบนั้นออกมาอย่างหน้าไม่อาย "ว่าไง ตอบมาสิว่าผมทำให้คุณไม่ประทับใจหรอถึงต้องตั้งเงื่อนไขบ้าๆ นี้ขึ้นมา" เวทัสถามด้วยค วามโมโห ถ้าเป็นสองข้อแรกเขาพอเข้าใจและรับได้ แต่สำหรับข้อสามต่อให้เขารับปากเธอตอนนี้ในอนาคตเขารู้ตัวดีว่าคนอย่างเขาต้องผิดสัญญาแน่นอน เขาไม่มีทางห้ามใจตัวเองไม่ให้ยุ่งกับเธอได้! "ทำไมคุณมันเข้าใจอะไรยากแบบนี้ ฉันบอกแล้วไงคะว่าฉันไม่อยากนึกถึงเรื่องพวกนั้นอีก" หญิงสาวพยายามอธิบายกับชายหนุ่มด้วยเหตุผล แม้จะรู้ดีว่าคนข้างๆ เริ่มไม่มีเหตุผลกับเธอแล้ว "ผมไม่สัญญา" เวทัสตอบกลับทันทีพร้อมกับสต๊าทรถออกจากโรงแรมด้วยความไม่พอใจ