แค่เห็นหน้ากันครั้งแรกก็ไม่ถูกชะตาซะแล้ว แต่ด้วยคำมั่นสัญญาของผู้ใหญ่ทำให้เขาและเธอต้องมาแต่งงานกัน
“ณ ไร่ภูอนันท์”
วันนี้ทั้งวันปานชีวันทำงานอยู่ในสวนส้มท่ามกลางแสง แดดที่ร้อนระอุ ช่วงนี้เป็นช่วงเก็บเกี่ยวผลผลิต ส้มของไร่ภูอนันท์เป็นส้มคุณภาพดีเกรดส่งออก ช่วงนี้หล่อนเลยต้องมาคุมคนงานเอง เพื่อให้ได้งานตามออเดอร์ที่ลูกค้าสั่ง
หล่อนเรียนจบปริญญาตรีด้านการบริหารมา แต่หล่อนก็มาช่วยงานในไร่ของบิดามารดา เพราะหล่อนอยากแบ่งเบาภาระของบิดามารดา และหล่อนก็ไม่อยากอยู่ห่างจากบิดามารดา
ปีนี้ปานชีวันอายุครบ 22 ปีบริบูรณ์แล้ว ถึงเวลาที่จะต้องแต่งงานกับหลานชายของเพื่อนรักตามคำมั่นสัญญาที่เคยมีให้กัน แต่นายอนันท์ก็คิดไม่ตกว่าทำอย่างไรหลานสาวจอมดื้อรั้นของเขาถึงจะยอมแต่ง
เดิมทีการแต่งงานครั้งนี้จะเกิดขึ้นระหว่างลูกของนายอนันท์กับนายมงคลซึ่งทั้งสองคนเป็นเพื่อนรักกัน เคยร่วมทุกข์ร่วมสุขกันมา ท่านทั้งสองสัญญากันว่าเมื่อภรรยาตั้งท้องและคลอดลูกออกมาถ้าเป็นผู้ชายกับผู้หญิงจะให้แต่งงานกัน แต่ถ้าเป็นผู้ชายทั้งคู่จะให้รุ่นหลานแต่งงานกันแทน ถ้ารุ่นหลานเป็นชายทั้งสองบ้านจะถือว่าข้อตกลงนี้จะเป็นโมฆะทันที
ปีนี้นายมงคลได้ทวงถามถึงสัญญาที่เพื่อนรักทั้งสองเคยให้กันไว้ แต่ว่านายอนันท์คุณปู่ของปานชีวันยังไม่รู้จะบอกหลาน สาวอย่างไรดี เนื่องด้วยปานชีวันเป็นหลานสาวคนเดียว บางครั้งหล่อนก็ว่าง่ายแต่ถ้าเป็นเรื่องที่หล่อนไม่เห็นด้วยหล่อนก็จะเถียงหัวชนฝาเหมือนกัน นายอนันท์จึงได้เรียกลูกชายและลูกสะใภ้มาปรึกษา ว่าจะทำอย่างไรดี
สองสามีภรรยาไม่รู้ว่าจะใช้แผนอะไรดี แต่ทั้งสองรู้จุด อ่อนของบุตรสาวคือปานชีวันรักคุณปู่มาก ทั้งสองจึงให้ผู้เป็นพ่อแกล้งป่วย เพราะเป็นวิธีเดียวที่จะทำให้ลูกสาวยอม
พลบค่ำปานชีวันกลับมาถึงบ้าน เห็นคนงานวิ่งวุ่น หล่อนจึงรีบเข้าไปถามว่ามีเรื่องอะไร พอหล่อนรู้ว่าคุณปู่ไม่สบาย หล่อนรีบเข้าไปดูคุณปู่ในห้องทันที
นายกิตติศักดิ์และนางปานชนกซึ่งแอบดูอยู่หลังต้นไม้เห็นว่าเป็นไปตามแผนที่ตนวางไว้ก็รีบตามเข้าไปในห้องของนายอนันท์ทันที
พอปานชีวันเข้าไปในห้องเห็นคุณปู่นอนซมหล่อนก็ใจไม่ดี หล่อนถามพลางร้องไห้
“คุณปู่คะ…คุณปู่เป็นอะไรคะ เมื่อเช้าปานเห็นคุณปู่ยังแข็งแรงอยู่เลย”
“คนแก่ก็แบบนี้แหละปาน ไม่รู้ว่าจะตายวันตายพรุ่ง”
“คุณปู่อย่าพูดแบบนี้นะคะ คุณปู่ต้องอยู่กับปานนานๆ”
“ปาน! ก่อนปู่จะตาย ปู่ขอร้องอะไรปานได้ไหมลูก”
“คุณปู่จะให้ปานทำอะไร ปานจะทำให้ทุกอย่างเลยค่ะ”
“ปานจะต้องแต่งงานกับหลานชายของปู่มงคลนะลูก”
“ได้ยังไงคะคุณปู่ ปานไม่เคยเห็นหน้าเขาด้วยซ้ำจะให้แต่งงานกันได้ยังไง” ปานชีวันโวยวาย
แม้ว่าหล่อนจะรู้จักปู่มงคลเพราะเขาเคยมาเที่ยวที่ไร่บ่อยๆ แต่ปานชีวันไม่เคยเห็นหน้าค่าตาของหลานชายท่านเลย
“ให้ปานทำเรื่องอื่นเถอะค่ะคุณปู่ เรื่องนี้ปานทำให้ไม่ได้จริงๆ”
“ถ้าปู่จะตายจริงๆ ก็เหลือแต่เรื่องนี้แหละที่ปู่อยากจะทำก่อนตาย ปานก็รู้ว่าปู่ยึดถือคำมั่นสัญญาสัญญามากแค่ไหน ปานจะให้ปู่ผิดคำพูดเหรอ ถ้าปานไม่ช่วยปู่คงนอนตายตาไม่หลับ”
“คุณปู่” หล่อนโอดครวญ พร้อมหันหน้าไปขอความเห็นใจจากบิดามารดา
“แต่งๆ ไปเถอะลูก...ถือเสียว่าทำเพื่อคุณปู่นะ” นายกิตติศักดิ์เอ่ยขึ้น
เดิมทีสัญญาการแต่งงานนี้ต้องเป็นนายกิตติศักดิ์แต่งกับลูกคุณปู่มงคล แต่ลูกคุณปู่มงคลกลับเป็นผู้ชายเหมือนกัน ทำให้การแต่งงานตามคำมั่นสัญญาจึงตกมาอยู่ที่รุ่นหลานอย่างปานชีวัน
“ถือว่าทำเพื่อคุณปู่สักครั้งนะลูก”
“คุณพ่อคะ! นี่มันสมัยไหนแล้วคะ มันยังมีการคลุมถุงชนกันอีกเหรอ รู้ไปถึงไหนอายไปถึงนั่นเลยนะคะ ปานขอร้องเถอะค่ะ เห็นใจปานเถอะ ถ้าปานจะแต่งงานจริงๆ ปานก็อยากแต่งกับคนที่ปานรักเท่านั้นค่ะ” หล่อนพูดแล้วเดินออกจากห้อง
ผู้ใหญ่ทั้งสามคนได้แต่มองหน้ากัน ไม่รู้ว่าจะเกลี้ยกล่อม
ปานชีวันด้วยวิธีไหน
รุ่งขึ้น....
นางปานชนกได้ทำข้าวต้มแล้วให้บุตรสาวยกเข้าไปให้คุณปู่ในห้องนนอน พอปานชีวันเข้ามาในห้อง คุณปู่ก็หันหลังให้หล่อนทันที และไม่ยอมทานอาหารที่หล่อนยกเข้ามาให้ แม้หล่อนจะเกลี้ยกล่อมแค่ไหนคุณปู่ก็ไม่ยอมทาน หล่อนได้แต่อ่อนอกอ่อนใจ
“ปานออก ไปทำงานเถอะ ไม่ต้องมาสนใจคนแก่อย่างปู่หรอก อีกอย่างปู่ก็ทานอะไรไม่ลง”
“งั้นปานวางข้าวต้มไว้ตรงนี้นะคะ ปานออกไปทำงานก่อน” หล่อนเอ่ยกับชายสูงวัยก่อนจะวางชามข้าวต้มไว้บนโต๊ะ
พอปานชีวันออกไปคุณปู่ก็ออกจากห้องมาเดินเล่นอยู่ข้างนอก หลังจากที่ทนอุดอู้อยู่ในห้องมานาน พอใกล้ถึงเวลาหลานสาวกลับ ท่านก็รีบกลับเข้าห้องแล้วแกล้งนอนซมเหมือน เดิม
เกือบอาทิตย์ที่คุณปู่อนันท์แกล้งป่วยอยู่แบบนั้น แต่ปานชีวันก็ยังใจแข็ง งานนี้คงต้องวางแผนใหม่เสียแล้วคุณปู่อนันท์คิด ก่อนจะหยิบโทรศัพท์ขึ้นมาโทรหาหมอประจำตระกูล
ตกเย็นปานชีวันกลับมาจากสวนส้มเห็นคุณหมอประจำตระกูลนั่งคุยอยู่กับบิดามารดา หล่อนรู้สึกใจคอไม่ดีจึงรีบเดินเข้าไปในห้องรับแขก
“สวัสดีค่ะลุงหมอ มาดูอาการคุณปู่เหรอคะ”
“ครับผม” หมอตอบพร้อมทำหน้าครุ่นคิด
หล่อนมองหน้าทุกคนสลับกันไปมา ทุกคนต่างมีสีหน้าไม่สู้ดีสักเท่าไหร่ ยิ่งทำให้หล่อนรู้สึกกังวลมากขึ้น
“คุณปู่เป็นอะไรคะ” หล่อนถามออกไปในที่สุด
“เอาไว้หนูปานคุยกับคุณพ่อคุณแม่เองนะ วันนี้ลุงกลับก่อน” คุณหมอกล่าวก่อนจะขอตัวกลับ
ปานชีวันมองหน้าบิดามารดาสลับกันไปมา ก็เห็นว่าท่านทั้งสองมีความกังวลปรากฏอยู่บนใบหน้าอย่างเห็นได้ชัด
“คุณปูท่านอาการไม่ค่อยดีน่ะลูก ตอนนี้อาการของคุณปู่ทรุดลงเร็วมากจนลุงหมอเองก็ตกใจ ลุงหมอบอกว่าคุณปู่อาจจะอยู่ได้ไม่นาน” นายกิตติศักดิ์เอ่ยกับบุตรสาว พอได้ยินบิดาพูดแบบนั้นปานชีวันก็ร้องไห้ออกมาทันที หล่อนสงสารคุณปู่จับใจ
“อีกอย่างคุณปู่ก็แก่แล้วนะลูก สำหรับคนแก่กำลังใจเป็นสิ่งสำคัญ แม่ว่าถ้าปานยอมทำตามคำขอร้องของคุณปู่ อาจจะทำให้ท่านมีกำลังใจและก็อยู่กับเราได้นานขึ้น ลุงหมอย้ำว่าถ้าทำอะไรให้ท่านสบายใจได้ให้รีบทำ ปานพอจะทำเพื่อคุณปู่ได้ไหมลูก” นางปานชนกเอ่ยเสริม
“ปานต้องทำอย่างนั้นจริงๆ หรือคะคุณพ่อคุณแม่ ปานว่ามันน่าจะมีวิธีอื่นนะคะ”
“พ่อปรึกษาลุงหมอแล้ว ที่คุณปู่ล้มป่วยเพราะเป็นโรคของคนแก่นะลูก รักษาไม่หายหรอกได้แต่ประคับประคองอาการไป”
“งั้นก็ได้ค่ะ...แต่งก็แต่ง ปานขอตัวเข้าไปหาคุณปู่ในห้องก่อนนะคะ” พูดจบปานชีวันก็รีบเดินไปที่ห้องของคุณปู่
นายกิตติศักดิ์และนางปานชนกมองหน้ากันแล้วอมยิ้ม ปานชีวันเป็นห่วงนายอนันท์มากจนลืมสังเกตปฏิกิริยาของพ่อกับแม่ว่าดีใจมากแค่ไหนที่หล่อนตอบตกลง
ปานชีวันเข้าไปในห้องของนายอนันท์ หล่อนโผเข้ากอดคุณปู่ พลางร้องไห้เสียใจ
“คุณปู่คะ...ปานตกลงจะแต่งงานกับหลานคุณปู่มงคลแล้วนะคะ แต่คุณปู่ต้องสัญญานะคะว่าจะอยู่กับปานไปนานๆ”
“จริงเหรอปาน หนูรับปากกับปู่แล้วนะลูก” นายอนันท์ถามย้ำเพื่อความแน่ใจ พลางขยิบตาให้กับลูกชายลูกสะใภ้ที่กำลังเดินเข้ามาในห้อง
“จริงค่ะคุณปู่! คุณปู่ต้องแข็งแรงไวๆ นะคะ” หล่อนเอ่ยทั้งนำตา
“ปู่ต้องขอบใจหนูมากนะลูก” นายอนันท์เอ่ยพลางกอดหลานสาวแน่นด้วยความดีใจ
เตชินท์ไม่เคยคิดมาก่อนว่ามัจจุราชจะพรากพิมพ์ชนกไปจากเขาเร็วขนาดนี้ ผู้หญิงอันเป็นที่รักต้องจากไปด้วยอุบัติเหตุ ด้วยหัวใจรักที่มั่นคงของเธอและปาฏิหาริย์แห่งรัก ทำให้พิมพ์ชนกไปอยู่ในร่างผู้หญิงอีกคน แต่ผู้หญิงคนนั้นกลับเป็นคนที่เตชินท์เกลียดที่สุด เธอจะสามารถเอาชนะใจเขาได้อีกครั้งมั้ย เพราะเจ้าของร่างคือคนที่เป็นต้นเหตุทำให้พิมพ์ชนกต้องตาย นับตั้งแต่วันที่พิมพ์ชนกไม่อยู่บนโลกใบนี้ เตชินท์ก็สัญญากับตัวเอง เขาจะทำทุกวิถีทางเพื่อให้ฟ้าลดาเจ็บปวดที่สุด การแก้แค้นจึงเริ่มต้นขึ้น
จากที่ต้องมาเป็นไม้กันหมาให้กับเจ้านายอย่างธีรวัฒน์ อิงดาวกลับเป็นฝ่ายตกหลุมรักเขาซะเอง หล่อนจะทำยังไงกับความรู้สึกของตัวเองในตอนนี้ คนที่ทั้งหล่อทั้งรวยอย่างเขา มีผู้หญิงสวยๆเข้าหาไม่เว้นแต่ละวัน โอกาสที่เขาจะหันมามองคนที่ทั้งเฉิ่มทั้งเชยอย่างหล่อนแทบไม่มีเลย
องค์หญิงใหญ่รั่วเสียน ต้องปกป้องบัลลังก์ของน้องชายที่ขึ้นครองราชย์ในวัยเพียงแค่ 4 ขวบ ดังนั้นนางจึงต้องหาทางมัดใจเสนาบดีกัวผู้กุมอำนาจราชสำนักเอาไว้ให้ได้ ทว่าบุรุษผู้นี้กลับไม่ต้องการแต่งงานกับนาง เขายังทำตัวดั่งบิดาหาบุรุษไว้ให้นางอีก รั่วเสียนจึงต้องฝึกฝนการยั่วยวนเขาเพื่อหาวิธีมัดใจบุรุษผู้นี้เอาไว้ให้ได้ และนางก็ต้องตกใจเมื่อเสนาบดีกัวกลับมีถึงสองคน! +++ นิยายเรื่องนี้เป็นนิยายจีนโบราณประเภทนิยายรักสำหรับผู้ใหญ่ เป็นเรื่องแต่งขึ้นจากจินตนาการไม่ได้อ้างอิงจากประวัติศาสตร์ใด ๆ ดังนั้นภายในจะมีฉาก เนื้อหา เน้นหนักที่เรื่องเพศระหว่างชายหญิง มีการร่วมรักกันตั้งแต่ 3 คนขึ้นไป (3P) และอาจมีความไม่สมเหตุสมผลบ้าง ขอให้ผู้อ่านใช้วิจารณญาณในการอ่านนะคะ
กู้ชิงเฉิงเชื่อมั่นมาตลอดว่าตราบใดที่เธอประพฤติตัวดี สักวันหนึ่ง เธอก็จะสามารถชนะใจมู่ถิงเซียวให้ได้ อย่างไรก็ตาม เมื่อเสิ่นถัง รักแรกที่เขาคิดถึงมาตลอดกลับมา ทุกอย่างก็เปลี่ยนไป กู้ชิงเฉิงเป็นคนว่าง่ายสอนง่ายจริงๆ เธอจัดงานแต่งงานด้วยคนเดียว และนอนคนเดียวในห้องผ่าตัดเพื่อรับการรักษาฉุกเฉิน มีข่าวลือว่าเธอบ้าไปแล้ว อันที่จริงเธอบ้าไปแล้วจริงๆ ที่รักใครสักคนอย่างไม่ละอายขนาดนี้ ต่อมา ทุกคนลือกันว่า กู้ชิงเฉิงป่วยหนักและกำลังจะเสียชีวิต มู่ถิงเซียวถึงสูญเสียการควบคุมอย่างสิ้นเชิง "ฉันไม่ปล่อยให้เธอตาย" แต่เธอกลับยิ้มอย่างนิ่งๆ ว่า "ดีจังเลย ฉันเป็นอิสระแล้ว" ใช่แล้ว ไม่ต้องการกู้ชิงเฉิงอีกแล้ว"
‘ลู่ซิงเหยียน’ ไม่คิดเลยว่าการอาสาช่วยโจรผู้หนึ่งหลบหนีออกจากจวนเจ้าเมืองเพื่อแลกกับชีวิตของตนเองนั้น จะทำให้โชคชะตาของนางผูกติดกับ ‘เขา’อย่างไม่มีวันแยกจาก ********************* ลู่ซิงเหยียนทำงานอยู่ภายในจวนเจ้าเมืองหลิวลี่ซือในฐานะสาวใช้ เพื่อสืบหาคนร้ายที่ทำให้ตระกูลลู่ของนางถูกประหารทั้งตระกูล ทว่าวันหนึ่งมีชายชุดดำบุกเข้ามาขโมยของในจวนเจ้าเมือง เพื่อแลกกับชีวิตของตนเอง ลู่ซิงเหยียนจึงอาสาช่วยเหลือโจรผู้นี้หลบหนี นางเสี่ยงชีวิตช่วยเหลือเขา นอกจากจะไม่ได้รับคำขอบคุณ เขากลับตามตอแย วนเวียนอยู่รอบกายนางเพื่อตอบแทนบุญคุณ แต่ไม่รู้เป็นเพราะซาบซึ้งใจหรือชิงชังที่นางบังคับให้เขาหลบซ่อนอยู่ในถังอาจมกันแน่!!! ************************** “หมายความว่าอย่างไร” เสียงทุ้มต่ำเอ่ยถาม ดวงตาเขียวปัด ฟังจากโทนเสียงคล้ายกับเป็นเสียงคำรามในลำคอเสียมากกว่า ส่วนเจ้าของคำถามบัดนี้จับจ้องสตรีตรงหน้าด้วยความโกรธจัดจนแทบอยากจะกระโจนเข้ามาบีบคอ “ปัดโธ่ ท่านมีทางเลือกมากนักหรือ นี่เป็นวิธีเดียวที่ข้าคิดได้แล้ว หากอยากหนีออกไปโดยไม่ถูกจับได้ก็มีเพียงวิธีนี้เท่านั้น” แม้ปากจะกล่าวไปเช่นนั้น แต่ใบหน้ากลับหดเล็กยิ่งกว่าฝ่ามือ ลู่ซิงเหยียนเหลือบมองร่างสูงสลับกับถังไม้ขนาดใหญ่บนรถเข็นที่เต็มไปด้วยสิ่งปฏิกูลเน่าเหม็น ยามนี้เมื่อเปิดฝาที่ปิดอยู่ออกก็ยิ่งส่งกลิ่นน่าสะอิดสะเอียนจนรู้สึกคลื่นเหียนท้องไส้ปั่นป่วนไปหมด นางเห็นร่างสูงยืนแข็งค้างอยู่ในเงามืดหลังพุ่มไม้หนาทึบ มือข้างที่จับมีดกำแน่นขึ้นกว่าเดิมจนน่าหวาดหวั่น ท่าทางโกรธจัดของเขาทำให้หญิงสาวรู้สึกถึงความไม่ปลอดภัยในชีวิต คาดว่าภายในใจตอนนี้คงอยากปาดคอนางแล้วจับหมกลงไปในถังอาจมเป็นแน่ "ข้าจะฆ่าเจ้าซะ” เขาเอ่ยเสียงลอดไรฟัน ************************************** สวัสดีค่ะ ไรท์กลับมาแล้ววววว เรื่องนี้เป็นนิยายเรื่องยาวนะคะ แนวโรแมนติกดราม่านิดๆ + เกมการเมืองหน่อยๆ ไม่ทะลุมิติ ไม่ย้อนเวลาค่ะ ไม่อิงประวัติศาสตร์และยุคสมัยใดๆ นะคะ ตัวละครและสถานที่เกิดขึ้นจากจินตนาการทั้งหมดของไรท์ค่ะ
ตลอดระยะเวลาสามปีของการแต่งงาน เธอรู้สึกสิ้นหวัง ที่ถูกบังคับให้เซ็นใบหย่า ทั้งๆที่เธอกำลังท้อง เธอใจสลายกับความไร้มนุษยธรรมของเขา กระทั่งเธอออกไปจากชีวิตของเขา เขาเพิ่งรู้ตัวว่าเธอคือรักแท้ของเขา ไม่มีวิธีใดที่จะเยียวยาหัวใจที่บอบช้ำของเธอให้หายขาดได้ เขาจึงมอบความรักทั้งหมดของเขาให้แก่เธอเพื่อชดเชย
เสิ่นชิงกลายเป็นลูกสาวของชาวนาจากคุณหนูที่ร่ำรวยของตระกูลเสิ่นในชั่วข้ามคืน ลูกสาวตัวจริงใส่ร้ายเธอ คู่หมั้นของเธอทำให้เธออับอาย และพ่อแม่บุญธรรมของเธอก็ไล่เธอออกจากบ้าน... ทุกคนต่างรอที่จะหัวเราะเยาะเธอ ทว่าเธอกลับกลายเป็นทายาทของตระกูลเศรษฐีในเมืองอย่างกะทันหัน นอกจาดนี้ เธอยังมีตัวตนหลากหลาย เช่น หัวหน้าแฮ็กเกอร์ระดับนานาชาติ นักออกแบบเครื่องประดับชั้นนำ นักเขียนผู้ยิ่งใหญ่ที่ลึกลับ และอัจฉริยะด้านการแพทย์! พ่อแม่บุญธรรมเสียใจกับการตัดสินใจของตนและบังคับให้เธอแบ่งทรัพย์สินครึ่งหนึ่งให้เพราะพวกเขาเลี้ยงดูเธอมา เมื่อเสิ่นชิงหยิบกล้องออกมาแล้วบันทึกท่าทางอันน่าเกลียดของพวกเขา อดีตคู่หมั้นรู้สึกเสียใจและพยายามจะคืนดีกับเธอ เสิ่นชิงหัวเราะเยาะ "เขาคู่ควรงั้นเหรอ" จากนั้นก็ไล่เขาออกจากเมือง ในที่สุด ผู้มีอำนาจแห่งเมืองก็พูดอ้อนวอนเบาๆ "ไม่จำเป็นต้องแต่งเข้าตระกูลผม เดี๋ยวผมไปหาเอง"
เดิมทีนางเป็นทายาทของตระกูลแพทย์เทพ แต่จู่ๆ นางก็กลายเป็นบุตรีของภรรยาเอกจากจวนเสนาบดีที่พ่อไม่สนใจใยดีและแม่ก็เสียชีวิตตั้งแต่ยังนางยังเด็ก ในวันที่นางย้อนยุค นางถูกใส่ร้ายว่าเป็นผู้ร้ายตัวจริงที่สังหารฮูหยินจวนโหว นางพยายามพลิกผัน พลิกสถานการณ์ และพิสูจน์ความบริสุทธิ์ของนาง นางคิดว่าภาวะที่กลืนไม่เข้าคายไม่ออกนั้นจบลงแล้ว แต่นางไม่รู้ว่าสิ่งที่นางจะต้องเผชิญคือเหวอันไม่มีที่สิ้นสุด เป็นถึงบุตรีของภรรยาเอกจากจวนเสนาบดีกลับมีอันตรายอยู้รอบตัวมากมาย ทุกคนก็รังแกนางได้ พ่อไม่สนใจนางจะเป็นหรือจะตาย แม่เลี้ยงและน้องสาวต่างแม่สนุกกับการทรมานนาง คู่หมั้นชั่วร้ายของนางอยากจะใช้นางเป็นประโยชน์เพื่อขึ้นไปที่สูง และแม้แต่น้องชายแท้ๆ ของนางยังทรยศนาง นางจึงเริ่มต่อสู้กับคนเจ้าเล่ห์ ข่มเหงแม่เลี้ยงของนาง และดูแลน้องชายและน้องสาวของนาง ดังนั้นนางวางแผนที่จะเล่นงานผู้ชายชั่ว เอาคืนแม่เลี้ยง และแก้แค้นน้องๆ ระหว่างที่นางแก้แค้นนั้น นางมีชีวิตที่มีความสุข แต่กลับไม่รู้ว่าไปยั่วยุคนใหญคนหนึ่งเข้าเมื่อไร เมื่อนางจะทำเรื่องไม่ดีหรือฆ่าคน เขาก็ช่วยนางหมด ในที่สุดนางก็อดไม่ได้ที่ถามออกมาว่า "ท่าน แม้ว่าข้าจะทำลายโลกที่ไม่มความยุติธรรมนี้ ท่านก็จะช่วยข้าเช่นกันหรือ" เขาทำหน้าใจเย็น "ตราบใดที่เจ้าอยู่เคียงข้างข้า แม้ว่าจะเป็นโลกใบนี้ ข้าก็สามารถให้เจ้าได้"