แค่เห็นหน้ากันครั้งแรกก็ไม่ถูกชะตาซะแล้ว แต่ด้วยคำมั่นสัญญาของผู้ใหญ่ทำให้เขาและเธอต้องมาแต่งงานกัน
แค่เห็นหน้ากันครั้งแรกก็ไม่ถูกชะตาซะแล้ว แต่ด้วยคำมั่นสัญญาของผู้ใหญ่ทำให้เขาและเธอต้องมาแต่งงานกัน
“ณ ไร่ภูอนันท์”
วันนี้ทั้งวันปานชีวันทำงานอยู่ในสวนส้มท่ามกลางแสง แดดที่ร้อนระอุ ช่วงนี้เป็นช่วงเก็บเกี่ยวผลผลิต ส้มของไร่ภูอนันท์เป็นส้มคุณภาพดีเกรดส่งออก ช่วงนี้หล่อนเลยต้องมาคุมคนงานเอง เพื่อให้ได้งานตามออเดอร์ที่ลูกค้าสั่ง
หล่อนเรียนจบปริญญาตรีด้านการบริหารมา แต่หล่อนก็มาช่วยงานในไร่ของบิดามารดา เพราะหล่อนอยากแบ่งเบาภาระของบิดามารดา และหล่อนก็ไม่อยากอยู่ห่างจากบิดามารดา
ปีนี้ปานชีวันอายุครบ 22 ปีบริบูรณ์แล้ว ถึงเวลาที่จะต้องแต่งงานกับหลานชายของเพื่อนรักตามคำมั่นสัญญาที่เคยมีให้กัน แต่นายอนันท์ก็คิดไม่ตกว่าทำอย่างไรหลานสาวจอมดื้อรั้นของเขาถึงจะยอมแต่ง
เดิมทีการแต่งงานครั้งนี้จะเกิดขึ้นระหว่างลูกของนายอนันท์กับนายมงคลซึ่งทั้งสองคนเป็นเพื่อนรักกัน เคยร่วมทุกข์ร่วมสุขกันมา ท่านทั้งสองสัญญากันว่าเมื่อภรรยาตั้งท้องและคลอดลูกออกมาถ้าเป็นผู้ชายกับผู้หญิงจะให้แต่งงานกัน แต่ถ้าเป็นผู้ชายทั้งคู่จะให้รุ่นหลานแต่งงานกันแทน ถ้ารุ่นหลานเป็นชายทั้งสองบ้านจะถือว่าข้อตกลงนี้จะเป็นโมฆะทันที
ปีนี้นายมงคลได้ทวงถามถึงสัญญาที่เพื่อนรักทั้งสองเคยให้กันไว้ แต่ว่านายอนันท์คุณปู่ของปานชีวันยังไม่รู้จะบอกหลาน สาวอย่างไรดี เนื่องด้วยปานชีวันเป็นหลานสาวคนเดียว บางครั้งหล่อนก็ว่าง่ายแต่ถ้าเป็นเรื่องที่หล่อนไม่เห็นด้วยหล่อนก็จะเถียงหัวชนฝาเหมือนกัน นายอนันท์จึงได้เรียกลูกชายและลูกสะใภ้มาปรึกษา ว่าจะทำอย่างไรดี
สองสามีภรรยาไม่รู้ว่าจะใช้แผนอะไรดี แต่ทั้งสองรู้จุด อ่อนของบุตรสาวคือปานชีวันรักคุณปู่มาก ทั้งสองจึงให้ผู้เป็นพ่อแกล้งป่วย เพราะเป็นวิธีเดียวที่จะทำให้ลูกสาวยอม
พลบค่ำปานชีวันกลับมาถึงบ้าน เห็นคนงานวิ่งวุ่น หล่อนจึงรีบเข้าไปถามว่ามีเรื่องอะไร พอหล่อนรู้ว่าคุณปู่ไม่สบาย หล่อนรีบเข้าไปดูคุณปู่ในห้องทันที
นายกิตติศักดิ์และนางปานชนกซึ่งแอบดูอยู่หลังต้นไม้เห็นว่าเป็นไปตามแผนที่ตนวางไว้ก็รีบตามเข้าไปในห้องของนายอนันท์ทันที
พอปานชีวันเข้าไปในห้องเห็นคุณปู่นอนซมหล่อนก็ใจไม่ดี หล่อนถามพลางร้องไห้
“คุณปู่คะ…คุณปู่เป็นอะไรคะ เมื่อเช้าปานเห็นคุณปู่ยังแข็งแรงอยู่เลย”
“คนแก่ก็แบบนี้แหละปาน ไม่รู้ว่าจะตายวันตายพรุ่ง”
“คุณปู่อย่าพูดแบบนี้นะคะ คุณปู่ต้องอยู่กับปานนานๆ”
“ปาน! ก่อนปู่จะตาย ปู่ขอร้องอะไรปานได้ไหมลูก”
“คุณปู่จะให้ปานทำอะไร ปานจะทำให้ทุกอย่างเลยค่ะ”
“ปานจะต้องแต่งงานกับหลานชายของปู่มงคลนะลูก”
“ได้ยังไงคะคุณปู่ ปานไม่เคยเห็นหน้าเขาด้วยซ้ำจะให้แต่งงานกันได้ยังไง” ปานชีวันโวยวาย
แม้ว่าหล่อนจะรู้จักปู่มงคลเพราะเขาเคยมาเที่ยวที่ไร่บ่อยๆ แต่ปานชีวันไม่เคยเห็นหน้าค่าตาของหลานชายท่านเลย
“ให้ปานทำเรื่องอื่นเถอะค่ะคุณปู่ เรื่องนี้ปานทำให้ไม่ได้จริงๆ”
“ถ้าปู่จะตายจริงๆ ก็เหลือแต่เรื่องนี้แหละที่ปู่อยากจะทำก่อนตาย ปานก็รู้ว่าปู่ยึดถือคำมั่นสัญญาสัญญามากแค่ไหน ปานจะให้ปู่ผิดคำพูดเหรอ ถ้าปานไม่ช่วยปู่คงนอนตายตาไม่หลับ”
“คุณปู่” หล่อนโอดครวญ พร้อมหันหน้าไปขอความเห็นใจจากบิดามารดา
“แต่งๆ ไปเถอะลูก...ถือเสียว่าทำเพื่อคุณปู่นะ” นายกิตติศักดิ์เอ่ยขึ้น
เดิมทีสัญญาการแต่งงานนี้ต้องเป็นนายกิตติศักดิ์แต่งกับลูกคุณปู่มงคล แต่ลูกคุณปู่มงคลกลับเป็นผู้ชายเหมือนกัน ทำให้การแต่งงานตามคำมั่นสัญญาจึงตกมาอยู่ที่รุ่นหลานอย่างปานชีวัน
“ถือว่าทำเพื่อคุณปู่สักครั้งนะลูก”
“คุณพ่อคะ! นี่มันสมัยไหนแล้วคะ มันยังมีการคลุมถุงชนกันอีกเหรอ รู้ไปถึงไหนอายไปถึงนั่นเลยนะคะ ปานขอร้องเถอะค่ะ เห็นใจปานเถอะ ถ้าปานจะแต่งงานจริงๆ ปานก็อยากแต่งกับคนที่ปานรักเท่านั้นค่ะ” หล่อนพูดแล้วเดินออกจากห้อง
ผู้ใหญ่ทั้งสามคนได้แต่มองหน้ากัน ไม่รู้ว่าจะเกลี้ยกล่อม
ปานชีวันด้วยวิธีไหน
รุ่งขึ้น....
นางปานชนกได้ทำข้าวต้มแล้วให้บุตรสาวยกเข้าไปให้คุณปู่ในห้องนนอน พอปานชีวันเข้ามาในห้อง คุณปู่ก็หันหลังให้หล่อนทันที และไม่ยอมทานอาหารที่หล่อนยกเข้ามาให้ แม้หล่อนจะเกลี้ยกล่อมแค่ไหนคุณปู่ก็ไม่ยอมทาน หล่อนได้แต่อ่อนอกอ่อนใจ
“ปานออก ไปทำงานเถอะ ไม่ต้องมาสนใจคนแก่อย่างปู่หรอก อีกอย่างปู่ก็ทานอะไรไม่ลง”
“งั้นปานวางข้าวต้มไว้ตรงนี้นะคะ ปานออกไปทำงานก่อน” หล่อนเอ่ยกับชายสูงวัยก่อนจะวางชามข้าวต้มไว้บนโต๊ะ
พอปานชีวันออกไปคุณปู่ก็ออกจากห้องมาเดินเล่นอยู่ข้างนอก หลังจากที่ทนอุดอู้อยู่ในห้องมานาน พอใกล้ถึงเวลาหลานสาวกลับ ท่านก็รีบกลับเข้าห้องแล้วแกล้งนอนซมเหมือน เดิม
เกือบอาทิตย์ที่คุณปู่อนันท์แกล้งป่วยอยู่แบบนั้น แต่ปานชีวันก็ยังใจแข็ง งานนี้คงต้องวางแผนใหม่เสียแล้วคุณปู่อนันท์คิด ก่อนจะหยิบโทรศัพท์ขึ้นมาโทรหาหมอประจำตระกูล
ตกเย็นปานชีวันกลับมาจากสวนส้มเห็นคุณหมอประจำตระกูลนั่งคุยอยู่กับบิดามารดา หล่อนรู้สึกใจคอไม่ดีจึงรีบเดินเข้าไปในห้องรับแขก
“สวัสดีค่ะลุงหมอ มาดูอาการคุณปู่เหรอคะ”
“ครับผม” หมอตอบพร้อมทำหน้าครุ่นคิด
หล่อนมองหน้าทุกคนสลับกันไปมา ทุกคนต่างมีสีหน้าไม่สู้ดีสักเท่าไหร่ ยิ่งทำให้หล่อนรู้สึกกังวลมากขึ้น
“คุณปู่เป็นอะไรคะ” หล่อนถามออกไปในที่สุด
“เอาไว้หนูปานคุยกับคุณพ่อคุณแม่เองนะ วันนี้ลุงกลับก่อน” คุณหมอกล่าวก่อนจะขอตัวกลับ
ปานชีวันมองหน้าบิดามารดาสลับกันไปมา ก็เห็นว่าท่านทั้งสองมีความกังวลปรากฏอยู่บนใบหน้าอย่างเห็นได้ชัด
“คุณปูท่านอาการไม่ค่อยดีน่ะลูก ตอนนี้อาการของคุณปู่ทรุดลงเร็วมากจนลุงหมอเองก็ตกใจ ลุงหมอบอกว่าคุณปู่อาจจะอยู่ได้ไม่นาน” นายกิตติศักดิ์เอ่ยกับบุตรสาว พอได้ยินบิดาพูดแบบนั้นปานชีวันก็ร้องไห้ออกมาทันที หล่อนสงสารคุณปู่จับใจ
“อีกอย่างคุณปู่ก็แก่แล้วนะลูก สำหรับคนแก่กำลังใจเป็นสิ่งสำคัญ แม่ว่าถ้าปานยอมทำตามคำขอร้องของคุณปู่ อาจจะทำให้ท่านมีกำลังใจและก็อยู่กับเราได้นานขึ้น ลุงหมอย้ำว่าถ้าทำอะไรให้ท่านสบายใจได้ให้รีบทำ ปานพอจะทำเพื่อคุณปู่ได้ไหมลูก” นางปานชนกเอ่ยเสริม
“ปานต้องทำอย่างนั้นจริงๆ หรือคะคุณพ่อคุณแม่ ปานว่ามันน่าจะมีวิธีอื่นนะคะ”
“พ่อปรึกษาลุงหมอแล้ว ที่คุณปู่ล้มป่วยเพราะเป็นโรคของคนแก่นะลูก รักษาไม่หายหรอกได้แต่ประคับประคองอาการไป”
“งั้นก็ได้ค่ะ...แต่งก็แต่ง ปานขอตัวเข้าไปหาคุณปู่ในห้องก่อนนะคะ” พูดจบปานชีวันก็รีบเดินไปที่ห้องของคุณปู่
นายกิตติศักดิ์และนางปานชนกมองหน้ากันแล้วอมยิ้ม ปานชีวันเป็นห่วงนายอนันท์มากจนลืมสังเกตปฏิกิริยาของพ่อกับแม่ว่าดีใจมากแค่ไหนที่หล่อนตอบตกลง
ปานชีวันเข้าไปในห้องของนายอนันท์ หล่อนโผเข้ากอดคุณปู่ พลางร้องไห้เสียใจ
“คุณปู่คะ...ปานตกลงจะแต่งงานกับหลานคุณปู่มงคลแล้วนะคะ แต่คุณปู่ต้องสัญญานะคะว่าจะอยู่กับปานไปนานๆ”
“จริงเหรอปาน หนูรับปากกับปู่แล้วนะลูก” นายอนันท์ถามย้ำเพื่อความแน่ใจ พลางขยิบตาให้กับลูกชายลูกสะใภ้ที่กำลังเดินเข้ามาในห้อง
“จริงค่ะคุณปู่! คุณปู่ต้องแข็งแรงไวๆ นะคะ” หล่อนเอ่ยทั้งนำตา
“ปู่ต้องขอบใจหนูมากนะลูก” นายอนันท์เอ่ยพลางกอดหลานสาวแน่นด้วยความดีใจ
จากที่ต้องมาเป็นไม้กันหมาให้กับเจ้านายอย่างธีรวัฒน์ อิงดาวกลับเป็นฝ่ายตกหลุมรักเขาซะเอง หล่อนจะทำยังไงกับความรู้สึกของตัวเองในตอนนี้ คนที่ทั้งหล่อทั้งรวยอย่างเขา มีผู้หญิงสวยๆเข้าหาไม่เว้นแต่ละวัน โอกาสที่เขาจะหันมามองคนที่ทั้งเฉิ่มทั้งเชยอย่างหล่อนแทบไม่มีเลย
เตชินท์ไม่เคยคิดมาก่อนว่ามัจจุราชจะพรากพิมพ์ชนกไปจากเขาเร็วขนาดนี้ ผู้หญิงอันเป็นที่รักต้องจากไปด้วยอุบัติเหตุ ด้วยหัวใจรักที่มั่นคงของเธอและปาฏิหาริย์แห่งรัก ทำให้พิมพ์ชนกไปอยู่ในร่างผู้หญิงอีกคน แต่ผู้หญิงคนนั้นกลับเป็นคนที่เตชินท์เกลียดที่สุด เธอจะสามารถเอาชนะใจเขาได้อีกครั้งมั้ย เพราะเจ้าของร่างคือคนที่เป็นต้นเหตุทำให้พิมพ์ชนกต้องตาย นับตั้งแต่วันที่พิมพ์ชนกไม่อยู่บนโลกใบนี้ เตชินท์ก็สัญญากับตัวเอง เขาจะทำทุกวิถีทางเพื่อให้ฟ้าลดาเจ็บปวดที่สุด การแก้แค้นจึงเริ่มต้นขึ้น
วิญญาณแพทย์นิติเวชที่มีชื่อเสียงในศตวรรษที่ 21 ได้เข้ามาอยู่ในร่างคุณหนูของจวนเสนาบดีอย่างบังเอิญ ผู้คนกล่าวหาว่านางไม่เชี่ยวชาญด้านการแพทย์และทำให้บุตรชายของแม่ทัพตาย ด้วยเหตุนี้ฮ่องเต้ต้องการฆ่านางเพื่อให้คำอธิบายกับแม่ทัพ! ผู้คนกล่าวหาว่านางเป็นคนหยิ่งยโสและเจ้ากี้เจ้าการ ทุกคนเกลียดนาง และครอบครัวของนางต้องการไล่นางออก! ผู้คนกล่าวหาว่านางเป็นคนเลวทรามและไร้ความปรานี วางยาน้องสาว และพ่อของนางต้องการโบยนางจนตาย! ในความเป็นจริงหากอยากจะกล่าวหาผู้ใดสักคน มันก็หาข้ออ้างได้ทั่ว แต่นางเป็นคนไม่ยอมใคร นางผอมบางนางหนึ่งปลุกปั่นโลกด้วยความสามารถอันทรงพลังตนเอง ท่านอ๋องกล่าวว่า หากได้เจ้ามาครอบครอง ข้ายอมทรยศทุกคนในโลก นางกล่าวว่า เพื่อท่าน ต่อให้ทุกคนในโลกเกลียดข้า ข้าก็ยอม
เจ้าของร่างเดิมถูกท่านย่าตัวเอง ขายให้ชายพิการด้วยเงินเพียงห้าตำลึง จึงคิดสั้นไปกระโดดน้ำฆ่าตัวตาย ทำให้วิญญาณของเซี่ยซือซือทะลุมิติมาเข้าร่างแทน ชีวิตในโลกนี้บิดามารดาล้วนตายไปแล้ว เหลือเพียงน้องสาวกับน้องชายร่างกายผอมแห้งหิวโซสองคน เธอต้องช่วยพวกเขาให้รอด ก่อนจะถูกคนชั่วพวกนี้ขายทิ้งไปแบบเธอ 1 : ทะลุมิติ แคว้นจ้าว หมู่บ้านตระกูลแซ่อวี่ ภายในบ้านสกุลเซี่ย “ท่านพี่รีบกินเร็วเข้า” เสียงเด็กเล็กดังก้องอยู่ข้างหูอย่างน่ารำคาญ ว่าแต่ฉันมีน้องชายตั้งแต่เมื่อไหร่กัน รู้สึกได้ถึงอะไรแข็ง ๆ มาแตะที่ริมฝีปาก ทว่ายังลืมตาไม่ขึ้น “ท่านพี่กินสิ ๆ” เซี่ยซือซือรู้สึกหนักอึ้งไปทั้งศีรษะ พยายามที่จะเปิดดวงตาขึ้นมอง เจ้าของเสียงเล็ก ๆ ด้านข้าง “ท่านพี่ ๆ ท่านพี่อย่าตายนะ ลืมตาสิท่านพี่” “นังตัวดีออกมาเดี๋ยวนี้นะ !” เสียงเอะอะโวยวายดังหนวกหูเซี่ยซือซือเป็นอย่างมาก ปัง ๆ เสียงเคาะประตูดังขึ้นเรื่อย ๆ เซี่ยซือซือลืมตาขึ้นจนได้ พลันสมองกลับมีเรื่องราวพรั่งพรูเข้ามาไม่ขาดสาย จนต้องกรีดร้องออกมาอย่างเจ็บปวด อ๊าก ! “พี่รอง !” เด็กน้อยเซี่ยซือหยางในวัยสามหนาวเรียกพี่สาวพร้อมเบะปากอยากร้องไห้ “ท่านพี่ !” เซี่ยซานซานทิ้งบานประตูที่ตัวเองดันไว้ หันกลับมาดูพี่สาวด้วยความตกใจ “ท่านพี่ ๆ ท่านเป็นอะไร อย่าทำให้พวกข้าตกใจสิท่านพี่ !” ผลัวะ ! มีคนถีบประตูบานเก่าผุพังเข้ามาภายในห้อง เด็กทั้งสองรีบเข้าไปขวางผู้บุกรุกไม่ให้ทำร้ายพี่สาว แม่เฒ่าเซี่ย เซี่ยจิ่วเม่ย หน้าตาแลดูดุร้าย ไม่ใช่หญิงชราใจดีแต่อย่างใด ด้านหลังของแม่เฒ่าเซี่ยยังมีลูกสะใภ้บ้านใหญ่ กับบ้านรองเดินตามมา ท่าทางดุดันเอาเรื่อง “ไอ้พวกบ้านสามตัวดี กล้าลักขโมยอาหารเอาไว้กินเอง ยังเห็นแม่เฒ่าอย่างข้าอยู่ในสายตาหรือไม่ ไอ้พวกหมาป่าตาขาว ดูซิวันนี้ข้าจะจัดการพวกเจ้าอย่างไร” “ท่านย่าพวกข้าไม่ได้ขโมยนะ นี่เป็นหมั่นโถวของท่านพี่ ท่านพี่ไม่สบายข้าแค่เก็บไว้ให้ท่านพี่เท่านั้นเอง” เซี่ยซานซานยังเป็นเด็กหญิงวัยสิบหนาว แต่นางข่มความกลัวตอบโต้ผู้ใหญ่ในบ้านออกไป “หึ กฎบ้านก็มีบอกอยู่แล้วถ้าพลาดมื้ออาหารไปก็คืออด แต่พวกเจ้ากลับแหกกฎ แอบยักยอกอาหารเก็บไว้กินเอง ยังมีหน้ามาเถียงท่านแม่อีก ท่านแม่ท่านต้องลงโทษคนบ้านสามนะเจ้าคะ ไม่เช่นนั้นข้าไม่ยอมจริง ๆ ด้วย ตอนนั้นยวี่เฟยของข้านางได้พลาดมื้อเย็นไป ท่านก็ไม่ให้นางกินนะเจ้าคะ” สะใภ้บ้านรองนามว่าจงอี้ซิน ย้อนรำลึกถึงเรื่องลูกสาววัยแปดปีของตัวเองขึ้นมา “ดูเจ้าเด็กพวกนี้สิท่านแม่ กางแขนปกป้องพี่สาวตัวเอง ช่างน่าสมเพชไม่รู้จักสำเหนียกกำลังตัวเอง ถุย !” หลินพ่านเอ๋อสะใภ้บ้านใหญ่มองดูเด็กทั้งสองพร้อมถ่มน้ำลายใส่ตรงหน้า แม่เฒ่าเซี่ยมองลูกสะใภ้ทั้งสองสลับกันไปมา เดินตรงไปกระชากหมั่นโถวเย็นชืดแถมแข็งปานหิน ออกจากมือของเซี่ยซือหยาง “แง ๆ ๆ” เด็กน้อยถูกแย่งของกินของพี่สาวไป ถึงกับแผดเสียงร้องลั่น “เจ้าคนชั่ว ! เอามานะ ของท่านพี่ข้า” กำปั้นน้อย ๆ ทุบไปยังต้นขาของแม่เฒ่เซี่ย “เจ้าเด็กเนรคุณกล้าตีข้ารึ นี่นะ !” แม่เฒ่าเซี่ยเตะทีเดียวเซี่ยซือหยางก็กระเด็นไปติดกับผนังห้อง “น้องเล็ก !” เซี่ยซานซานรีบวิ่งไปอุ้มน้องชายขึ้นมากอดไว้ด้วยความตกใจ “ท่านย่า น้องเล็กยังเด็กไม่รู้ความ เหตุใดท่านถึงได้ใจร้ายเช่นนี้” “แง ๆ ๆ” เสียงร้องไห้ของเด็กน้อยฟังแล้วน่าสงสารจับใจ ดวงตาที่ปิดไว้ก่อนหน้าของเซี่ยซือซือ ลืมขึ้นหลังจากค้นพบว่า ตัวเองได้ทะลุมิติมายังอดีตอันไกลโพ้นแล้วจริง ๆ หลังจากหลับตาลืมตาอยู่หลายหน เรียบเรียงความคิดที่ไหลเข้ามาไม่ยอมหยุด เมื่อค่อย ๆ จัดการกับมันได้ ความเจ็บปวดที่ศีรษะก่อนหน้าจึงบางเบาลง และมองเหตุการณ์ตรงหน้าอย่างเฉยชา ครบสูตรของการทะลุมิติจริง ๆ มีท่านย่าผู้ชั่วร้าย ขนาบข้างด้วยป้าสะใภ้เลวทั้งสอง ครั้นหันไปมองน้องสาวในวัยสิบขวบของตัวเองกับน้องชายตัวน้อย ทั้งตัวดำเมี่ยมเหมือนไม่ได้อาบน้ำมาเป็นเดือน ร่างกายผอมแห้งเหลือแต่กระดูก เสื้อผ้าเก่าขาดมีรอยปะชุนเต็มไปหมด เส้นผมแห้งกรังเหมือนไม่ผ่านน้ำมานาน ยกมือของตัวเองขึ้นมาดู ไม่ได้มีสภาพต่างกันแม้แต่น้อย ครั้นเงยหน้ามองป้าสะใภ้ใหญ่ร่างกายอวบอ้วนเต็มไปด้วยก้อนไขมัน ป้าสะใภ้รองแม้ไม่ได้อ้วนแต่ก็ไม่ได้ผอม ยิ่งแม่เฒ่าเซี่ยด้วยแล้ว ร่างกายบึกบึนเหมือนคนกินดูอยู่ดีมาตลอด “ท่านแม่ดูอาซือมองท่านสิเจ้าคะ” สะใภ้ใหญ่เห็นสายตาเย็นเยียบของคนที่นอนอยู่บนเตียงก็อดแปลกใจไม่ได้ ดูเยือกเย็นจนไม่น่าไว้ใจ “เจ้าอย่าคิดว่ากระโดดน้ำตายแล้วทุกอย่างจะจบนะอาซือ ข้ารับเงินคนบ้านถานมาแล้ว ถ้าเจ้าตายข้าจะให้อาซานไปแทนเจ้า” คำพูดของแม่เฒ่าเซี่ยทำให้ดวงตาของเซี่ยซือซือเบิกกว้าง ท่านย่าของนางขายนางให้คนบ้านถานในราคาแค่ห้าตำลึง เจ้าของร่างเดิมไม่อยากไปเป็นเมียคนพิการ เลยไปกระโดดน้ำฆ่าตัวตาย ทว่าเธอที่มาจากยุคปัจจุบันกลับเข้ามาแทนที่เจ้าของร่างนี้ เจ้าของร่างเดิมว่ายน้ำไม่เป็น จึงได้ขาดอากาศตายใต้น้ำ แต่เธอที่เข้ามาสวมร่างกลับพาร่างนี้ขึ้นมาจากน้ำได้ โชคชะตาคงเล่นตลกให้เธอกับเจ้าของร่างเดิมมีชื่อเดียวกัน “ท่านย่าอาซานยังเด็กนัก ท่านอย่าได้ทำเช่นนั้นเลย” นานมากกว่าที่นางจะเอ่ยออกมา “มันอยู่ที่เจ้าอาซือ ข้าขอเตือนเอาไว้ อีกสองวันคนบ้านถานจะมารับตัวเจ้าแล้ว อย่าให้เกิดเรื่องขึ้น ไม่อย่างนั้นข้าจะส่งอาซานไปแทนเจ้า แล้วขายซือหยางทิ้งเสีย” แม่เฒ่าเซี่ยจ้องหน้าเซี่ยซือซือแบบอาฆาต เด็กนี่ก่อนหน้าดูอ่อนแอไร้ทางสู้ ทำไมวันนี้ถึงได้ดูแปลกตาไปนัก “ท่านแม่เจ้าคะ ท่านจะลงโทษคนบ้านสามเรื่องหมั่นโถวนี่อย่างไรเจ้าคะ” สะใภ้ใหญ่ยังไม่ยอมปล่อยสามพี่น้องไปง่าย ๆ “พรุ่งนี้งดอาหารบ้านสาม” แม่เฒ่าเซี่ยเอ่ยแล้วหันหลังเดินออกจากห้องของเด็กน้อยทั้งสามไป โดยมีสะใภ้ใหญ่เดินตามไปด้วย “พวกเจ้าได้ยินแล้วใช่ไหม จำใส่หัวเอาไว้ดี ๆ ด้วยล่ะ” สะใภ้รองหมุนตัวตามหลังไปติด ๆ “ท่านพี่ต่อไปท่านอย่าทำเช่นนี้อีกนะเจ้าคะ ข้ากับน้องเล็กจะทำอย่างไร ถ้าท่านไม่อยู่” เซี่ยซานซานปล่อยเสียงร้องไห้ในทันที
เวินอี่ถงได้เห็นความรักอันลึกซึ้งของเจียงยวี่เหิง แต่ก็ได้สัมผัสกับการทรยศของเขาเช่นกัน เธอเผารูปแต่งงานของพวกเขาต่อหน้าเขา แต่เขากลับมัวแต่ง้อชู้ของเขา ทั้งๆ ที่เขาแค่มองดูแวบหนึ่งก็จะเห็น แต่เขากลับไม่สนใจเวินอี่ถงสุดจะทน ตบหน้าเขาอย่างแรง พร้อมอวยพรให้เขากับชู้ของรักกันยืนยาว แล้วเธอก็หันหลังสมัครเข้ากลุ่มวิจัยลับเฉพาะ ลบข้อมูลประจำตัวทั้งหมด รวมถึงความสัมพันธ์การแต่งงานกับเขาด้วย! ก่อนจากไป เธอยังมอบของขวัญชิ้นใหญ่ให้เขาอีกด้วยเมื่อถึงเวลาที่จะเข้ากลุ่ม เวินอี่ถงก็หายตัวไป บริษัทของเจียงยวี่เหิงประสบปัญหาล้มละลาย เขาจึงออกตามหาเธอด้วยทุกวิถีทาง แต่สิ่งที่ได้รับกลับเป็นใบมรณบัตรที่ต้องสงสัยเขาสติแตก “ฉันไม่เชื่อ ฉันไม่ยอมรับ!”เมื่อพบกันอีกครั้ง เจียงยวี่เหิงต้องตกใจที่พบว่าเวินอี่ถงเปลี่ยนตัวตนใหม่แล้ว โดยข้างกายมีผู้มีอำนาจที่เขาต้องยอมก้มหัวให้เขาอ้อนวอนอย่างสิ้นหวัง “ถงถง ผมผิดไปแล้ว คุณกลับมาเถอะ!”เวินอี่ถงเพียงยิ้มยักคิ้ว จับแขนของผู้มีอำนาจข้างๆ “น่าเสียดาย ตอนนี้ฉันอยู่ในระดับที่นายไม่อาจเอื้อมถึงแล้ว”
ซ่งเซียงทำสิ่งที่น่าอายที่สุดในชีวิต คือการเป็น "เลขานุการส่วนตัว" ให้กับเหยียนลี่หานนานถึงห้าปี เธอมอบทุกสิ่งให้เขา แต่ผู้ชายที่น่ารังเกียจกลับบอกว่าเบื่อ แล้วส่งเธอไปอยู่ในที่ที่ห่างไกลไม่มีใครสนใจ ชีวิตที่ถูกส่งไปอยู่ที่ห่างไกลนั้นไม่ง่าย แต่โชคดีที่เคราะห์ร้ายได้ผ่านพ้นไป เมื่อซ่งเซียงมาถึงระดับล่าง ชีวิตของเธอก็เปลี่ยนไปอย่างรวดเร็ว ปวดหลังปวดขาก็หายเป็นปลิดทิ้ง เธอจึงอดทนทำงานหนักจนประสบความสำเร็จ มีหนุ่มน้อยมาไล่ตาม ผู้ใหญ่ใจดีมอบผลงานให้ พ่อที่ไม่เคยพบหน้าเป็นมหาเศรษฐีใกล้ตาย พยักหน้าก็ได้รับมรดก ชีวิตมีขึ้นมีลงอยู่เสมอ เหยียนลี่หานคนโชคร้ายแน่ๆ! ในงานเลี้ยงเหยียนลี่หานถือแก้วไวน์ มองไปที่อดีตเลขานุการที่ไม่ได้เจอหลายวันด้วยรอยยิ้มเยาะเย้ย "ยังคิดถึงฉันจนต้องมาที่งานเลี้ยงนี้ใช่ไหม?" ซ่งเซียงยิ้มเยาะ "คุณเหยียน ฉันไม่ได้เชิญคุณนะ" เหยียนลี่หานตอบ "เธอคิดอะไรอยู่?"
"เธอคือผู้ฝึกสัตว์ร้ายที่มีดวงตาสีม่วงอันเป็นเอกลักษณ์ในศตวรรษที่ 24 เมื่อเธอเกิดใหม่เป็นหญิงตั้งครรภ์ ดวงตาของเธอถูกขุดออก การฝึกฝนของเธอถูกทำลาย ตัวตนของเธอถูกพรากไป และลูกชายของเธอถูกไอ้สารเลวและผู้หญิงใจร้ายแย่งชิงไป! จะทนกับสิ่งนี้ได้อย่างไร! จากนั้นเธอใช้ชีวิตกับลูกสาว ปราบสัตว์ร้ายทั้งหมดด้วยดวงตาสีม่วงของเธอ จัดการทุกคนที่หาเรื่องพวกเขา และในที่สุดก็พบกับราชาเทพชั่วร้ายที่พาลูกชายของเธอไปจนได้ ลูกตัวน้อย ""แม่ มีผู้ชายคนหนึ่งที่บอกว่าตราบใดที่หนูเรียกเขาว่าพ่อ เขาจะมอบภูเขาทองคำให้หนู"" ผู้หญิง ""ถามเขาหน่อยว่าเขามีอีกไหม ฉันสามารถเรียกเขาว่าพ่อได้ด้วยนะ"" ราชาเทพกัดฟัน ""สาวน้อย ลูกทั้งสองเป็นของฉัน และตัวเธอก็เป็นของฉันด้วย"""
ในชีวิตชาติที่แล้ว เพื่อช่วยรักแรกของตัวเอง คนชั่วสามคนได้ทำลายพลังการต่อสู้ของนาง ตัดแขนขาของนางออก ตัดเส้นเลือดของนางและปล่อยเลือดของนางไหลออกมาทั้งอย่างนั้น และทรมานนางจนตาย เมื่อเกิดใหม่ครั้งนี้ นางวางแผนอย่างรอบคอบ โดยสาบานว่าจะให้พวกเขาได้สัมผัสกับความทุกข์ทรมานที่นางเคยประสบมา! รักแรกที่ไร้เดียงสาอะไรกัน ที่จริงก็เป็นเพียงผู้หญิงที่ตีสองหน้าเก่ง อยากจะไต่ขึ้นไปสูงเหรอ งั้นก็จะให้เจ้าปีนขึ้นไป ยิ่งปีนขึ้นสูงมากเท่าไร ตอนตกลงมาก็จะยิ่งเจ็บมากเท่านั้น! พวกสวะสมควรได้รับบาปกรรมของพวกสวะ พวกมันทำชั่วกับนางไปชั่วชีวิตหนึ่ง นางจะทำให้พวกมันไม่ตายดี พวกคนที่เจ้าเล่ห์ ตีสองหน้าเก่ง นางจะจัดการกับทุกคน! แต่นางไม่เคยคิดเลยว่าในการแก้แค้นของนาง นางจะไปมีเรื่องกับเสด็จอาที่เป็นเจ้าแผนการเข้า ที่วัน ๆ ต้องการให้นางจูบและกอดเขาตลอดทั้งวัน ในขณะที่นางแก้แค้นคนชั่วนั้นยังสามารถสนิทสนมกับเสด็จอาด้วย ในความจริงแล้ว การที่เป็นผู้หญิงชั่วๆ ก็มีความสุขมาทีเดียวกว่าที่คิดเลย!
© 2018-now MeghaBook
บนสุด