“มานั่งตรงนี้สิ” เขาใช้ฝ่ามือตบบนเบาะข้างตัวเบาๆ หญิงสาวมองมือหนาแล้วปฏิเสธออกไปอย่างนุ่มนวล “ดิฉันไม่อาจเอื้อมค่ะ ดิฉันยืนอยู่ตรงนี้ดีแล้ว และมั่นใจว่าคนอื่นๆ ในทีมก็ยืนที่จุดนี้เหมือนกัน” เธอตอบอย่างชาญฉลาด “ดิฉันไม่อาจเอื้อมเหรอ” เขาพูดทวนประโยคด้วยโทนเสียงสูง มองร่างอรชรตั้งแต่ศีรษะจรดปลายเท้า นัยน์ตาสีฟ้าคู่นั้นโลมเลียอย่างเห็นได้ชัด ยกยิ้มขึ้นข้างหนึ่ง เอ่ยประโยคที่ทำให้คนฟังชาวาบไปทั้งกาย “แต่ฉันจำได้ว่า ผู้หญิงที่ไม่อาจเอื้อมตรงหน้านี้ เคยแก้ผ้ามาประเคนให้ฉันถึงเตียง อย่างนี้เรียกว่าอาจเอื้อมหรือเปล่า ตกลงเธอจะมาหรือไม่มา ถ้าไม่มาก็เชิญออกไปจากห้องของฉัน แล้วพาทีมเธอกลับไปด้วย เพราะฉันก็ไม่ต้องการทีมอารักขาชุดนี้อยู่แล้ว แค่คนของฉันก็พอ” น้ำเสียงทรงอำนาจพูดราบเรียบแต่ทว่าหนักแน่น เธอรู้ว่าดีกว่าใครว่า เขาพูดจริงทำจริงเสมอ และคำสั่งแกมข่มขู่ในครั้งนี้เป็นเรื่องที่เธอจะปฏิเสธไม่ได้ เพราะจะส่งผลต่องานที่ตระเตรียมกันมาเป็นเวลาหลายเดือนต้องพังลง ซึ่งณัฐกานต์คงยอมให้เป็นเช่นนั้นไม่ได้ งานจะมาพังเพราะเธอไม่ได้ เท้าเล็กก้าวเดินไปยังโซฟาตัวนั้นตามคำสั่งของแอรอน ณัฐกานต์เลือกที่จะนั่งชิดด้านริมแทนที่จะนั่งข้างร่างหนาตามที่เขาต้องการ แอรอนใช้ฝ่ามือตบเบาะแรงๆ อย่างขัดใจ หญิงสาวสะดุ้งแต่พยายามนั่งนิ่ง แม้ในใจหวาดกลัว “รังเกียจฉันมากหรือไง ถึงได้นั่งห่างกันเป็นวาขนาดนี้” แอรอนพูดเสียงดัง ด้วยความไม่พอใจ ดวงตาคมเปล่งประกายไปด้วยแรงโทสะ “เปล่าค่ะ...ดิฉันไม่ได้รังเกียจคุณแอรอน แต่คิดว่านั่งตรงนี้น่าจะเหมาะกว่า” เธอพูดเสียงนุ่มแลดูสั่น หัวใจเต้นรัวเป็นทวีคูณ เมื่อร่างสูงใหญ่เป็นฝ่ายขยับร่างเข้ามาใกล้และใกล้ จนกระทั่งชิดกับร่างของตน ลำแขนข้างหนึ่งตวัดร่างเล็กเข้ามาในอ้อมแขน มืออีกข้างจับแก้มเนียนสวยแล้วบีบบังคับให้ดวงหน้าสวยหันมาเผชิญหน้ากับตน ให้เธอได้มองเห็นดวงตากรุ่นโกรธ เหมือนลูกระเบิดที่พร้อมจะระเบิดออกมาได้ทุกเมื่อ หญิงสาวสะบัดตัวหนีด้วยความตกใจ ไม่ใช่รังเกียจ เธอจะรังเกียจอ้อมแขนของเขาได้อย่างไรเพราะอ้อมกอดนี้เป็นอ้อมกอดที่อบอุ่นที่สุด เป็นอ้อมกอดของคนที่เธอรักสุดหัวใจ “ทีหลังฉันสั่งให้นั่งตรงไหนก็ต้องนั่งจำไว้...และนี่คือโทษของเธอที่ขัดคำสั่งของฉัน” การลงโทษของเขาทำให้ณัฐกานต์เบิกตากว้าง ตกใจกับการกระทำของแอรอน ริมฝีปากหนาได้รูปฉกจูบเรียวปากบางสวยอย่างรวดเร็ว ไม่ทันให้หญิงสาวตั้งตัว บดเคล้าเร่าร้อนและรุนแรง รักแสนรัก แค้นแสนแค้น โหยหา คิดถึง หลากหลายความรู้สึกที่เขามีต่อเธอ ถูกถ่ายทอดลงไปบนเรียวปากสีชมพูที่เผยอรับลิ้นหนาแทรกผ่านเข้าไปในช่องปากหวานล้ำโดยไม่รู้ตัว เนื่องจากอารามตกใจทำให้ปากสาวตั้งใจจะเปิดปากร้องค้าน และนั่นเป็นโอกาสให้เขาได้ลิ้มรสหวานในโพรงปากของเธอ ลิ้นใหญ่สอดรัดเกี่ยวกระหวัดหาความหวานจากปากของเธออย่างดื่มด่ำ เพียรหารสชาติพิเศษให้สมกับเวลาสี่ปีที่เขาไม่ได้สัมผัส
1
ณัฐกานต์ยืนอยู่หน้าประตูห้องนอนของแอรอน ชาล์ลวาเกีย ลูกชายหัวแก้วหัวแหวนของประธานาธิบดีมอร์แกน ชาล์ลวาเกียแห่งประเทศเมอริกันด้า ประเทศเล็กๆ ทางตอนเหนือของประเทศสเปน ชายหนุ่มที่มอบความรักให้กับตนจนหมดใจ เอาใจใส่และดูแลเธอมาตลอดสองปี เฝ้ารอให้เธอมอบความรักตอบกลับไป
แล้ววันนี้ณัฐกานต์ก็พร้อมมอบความรู้สึกนั้นให้กับเขา หญิงสาวสูดลมหายใจเข้าปอดลึกๆ แล้วผ่อนออกมา ราวกับเรียกกำลังใจให้ตนเอง ก่อนจะตัดสินใจครั้งสุดท้ายว่า จะต้องทำในสิ่งที่ตัวเองตั้งใจเอาไว้ก่อนที่ตนจะไม่มีโอกาส
ก๊อก ก๊อก ก๊อก
มือเล็กยกขึ้นเคาะประตูไม้ขัดเงา ไม่นานนักเสียงของเจ้าของห้องก็ดังผ่านเทเลคอมที่ติดอยู่ด้านข้างของประตู
“ใคร” คนในห้องถาม
“ณัฐเองค่ะแอรอน” เสียงของคนที่อยู่ด้านนอกตอบกลับไป
“เข้ามาสิครับ” เขาเอ่ยตอบกลับ ก่อนที่ผู้พูดจะเอื้อมมือไปกดปุ่มเปิดล็อคประตูบนโต๊ะหัวเตียง และเมื่อคนด้านนอกได้ยินเสียงปลดล็อค มือเล็กค่อนข้างสั่นก็เปิดประตูบานนั้นแล้วผลักเข้าไป
ณัฐกานต์เดินเข้ามาในห้องนอนของแอรอนชายหนุ่มที่ตนรักด้วยรอยยิ้ม แต่คงไม่มีใครรู้หรอกว่ารอยยิ้มของหญิงสาวนั้นขมขื่นเพียงใด เป็นเพราะวันนี้เป็นวันสุดท้ายที่เธอจะอยู่ที่นี่ และวันนี้จะเป็นวันที่เธอพร้อมจะบอกรักเขา ก่อนจะจากแอรอนไปตลอดกาล
แอรอนละสายตาจากนิตยสารในมือ ทอดมองณัฐกานต์ที่เดินเข้ามาหาตนด้วยหัวใจเต้นระรัว ตื่นตะลึง สาเหตุที่ทำให้เขาเกิดความรู้สึกเช่นนี้เป็นเพราะ คนที่เดินมาหยุดริมเตียง ทำในสิ่งที่เขาไม่คาดคิด เธอค่อยๆ ถอดเสื้อคลุมสีขาวออก และทันทีที่เสื้อคลุมตัวนั้นไปกองอยู่บนพื้น ภาพที่เขาเห็นคือ เรือนร่างสวยงามอวดส่วนเว้าส่วนโค้งภายใต้ชุดนอนบางเบา มองผ่านเนื้อผ้าทะลุไปถึงด้านในมองเห็นทุกสัดส่วนได้อย่างแจ่มตา ลมหายใจของบุรุษรูปงามติดขัด กลืนน้ำลายเหนียวๆ ลงคออย่างยากลำบาก มือที่ถือนิตยสารเริ่มสั่น ทุกสัดส่วนในร่างกายลุกโชน เพียงแค่ได้เห็นเรือนร่างเซ็กซี่ของเธอ
เขาไม่เคยเป็นอย่างนี้มาก่อน แอรอนยอมรับว่าผ่านผู้หญิงมามาก หลากหลายเชื้อชาติ แต่ไม่เคยมีใครทำให้อารมณ์ดิบของเขาเดือดพล่านได้เท่าสาวตรงหน้ามาก่อนเลย
“ณัฐ...” เขาเอ่ยชื่อสาวอันเป็นที่รักเสียงพร่า มองเรือนร่างสาวตาไม่กระพริบ
ณัฐกานต์ข่มความเขินอายเดินเข้าไปหาเขา ยืนชิดติดริมเตียงขนาดใหญ่ที่สามารถนอนได้ถึงห้าคน หญิงสาวทำในสิ่งที่เขาไม่คาดคิดอีกครั้ง เธอปลดชุดนอนออกจากร่างกายอย่างเชื่องช้า เผยให้เห็นเรือนร่างเปลือยเปล่าสวยสดยิ่งนัก ณัฐกานต์ข่มความเขินอายมองใบหน้าของชายที่ตนรัก ส่งยิ้มหวานน่าประทับใจให้กับชายหนุ่ม
“แอรอนคะ...ณัฐมีเรื่องจะบอก”
เธอไม่พูดเปล่า ยังอาจหาญหย่อนกายนั่งลงบนหน้าขาของเขา ใช้ลำแขนโอบรอบลำคอหนาไว้หลวมๆ จ้องมองซึ้งลงไปในดวงตาสีฟ้าแลดูมีเสน่ห์ ร่างสูงใหญ่แข็งทื่อราวกับหิน นิตยสารร่วงหลุดลงไปจากมือ ร่างกายขาวลออแต่งแต้มด้วยสีแดงระเรื่อจากอาการอาย ทำให้เขาร้อนรุ่มไปทั้งตัว ทำใจอย่างลำบากที่จะไม่กอดร่างเปลือยเปล่านี้
“มีอะไรจะบอกผม...คนดี...รีบบอกก่อนที่จะไม่มีโอกาสได้บอก”
เขาพูดเสียงสั่น ฝ่ามือใหญ่ลูบไล้ไปตามแผ่นหลังเปล่าเปลือยของเธอไปมา กลิ่นกายสาวยามอยู่ใกล้ทำให้เขาตบะแตก ทรวดทรงองค์เอวของเธอทำให้เขาอยากกลายร่างเป็นหมาป่า ไล่ตะปบเหยื่อสาว อารมณ์ดิบในร่างกระพือเดือดยิ่งกว่าลาวา
ตลอดระยะเวลาสองปีที่เธออยู่ที่นี่กับเขา แอรอนไม่เคยแตะต้องร่างกายของณัฐกานต์มากไปกว่าโอบเอว เขาให้เกียรติ ให้ความรัก ทะนุถนอม ดูแลเอาใจใส่ ให้คลายจากความเศร้าโศกเสียใจเรื่องคนรักเก่า ที่บัดนี้กลายมาเป็นน้องเขยของเขา แอรอนพร้อมจะรอให้เธอรับรัก แม้ว่าจะต้องคอยไปตลอดชีวิตก็ตาม
“คุณรอให้ณัฐบอกคำๆ หนึ่งกับคุณ แล้ววันนี้ณัฐพร้อมที่จะบอกคำๆ นั้นแล้วค่ะ” เธอหยุดพูด แย้มยิ้มให้ชายตรงหน้า “ณัฐรักคุณค่ะแอรอน”
กำแพงหัวใจที่ปิดกั้นคำว่ารัก นับตั้งแต่ถูกอัคนารถคนรักเก่าทิ้งไปแต่งงานกับโซเฟีย น้องสาวต่างมารดาของแอรอนเมื่อสองปีก่อน ณัฐกานต์ก็สัญญากับตัวเองว่า จะไม่เปิดรับรักใครอีก หัวใจดวงนี้เจ็บปวดและเข็ดหลาบกับความรัก เธอกลัวว่าจะต้องพบกับความผิดหวังอีกครั้ง และกลัวว่าตนเองจะทานรับความรู้สึกนั้นไม่ไหว
คำว่ารักกลับบ่มเพาะในหัวใจของเธอทีละน้อยๆ โดยไม่รู้ตัว ความรัก ความเอาใจใส่ การดูแลและคำปลอบโยนของแอรอน ทำให้กำแพงกั้นสูงค่อยๆ ทลายลง แต่เธอก็ยังไม่มั่นใจมากนัก ในช่วงแรกที่รู้หัวใจตัวเอง ณัฐกานต์กลัวเหลือเกินว่าประวัติศาสตร์จะซ้ำรอย ทว่าแอรอนก็ทำให้เธอมั่นใจในตัวเขาได้ในที่สุด
ดวงตาสีฟ้าเบิกกว้าง ใบหน้าคมหล่อเกลื่อนไปด้วยรอยยิ้ม หัวใจเอิบอิ่มเต้นเร็วกว่าครั้งไหนๆ เมื่อได้ยินคำๆ นี้ คำว่า “รัก” ที่เขารอมานานแสนนาน ในที่สุดแอรอนก็ได้หัวใจเธอมาครอบครองเสียที เวลานี้เขาไม่อาจบอกได้ว่า ความดีใจนั้นมากมายแค่ไหน บอกได้เพียงแค่ว่า ไม่เคยมีความดีใจครั้งใดเท่าครั้งนี้
ทันทีที่กล่าวความในใจจบ เรียวปากนุ่มก็ทาบทับกลีบปากหนาของแอรอนอย่างแผ่วเบา นุ่มนวล และไม่เป็นประสบการณ์ อากัปกิริยาของเธอสร้างความงุนงงให้กับเขาเป็นอย่างมาก ไม่คาดคิดว่าสาวในดวงใจจะเป็นฝ่ายจู่โจมเขาก่อน
ทว่าเวลานี้แอรอนคิดอะไรไม่ออก ไม่สนใจสิ่งใดทั้งนั้น ไม่ว่าจะเป็นเหตุและผล สิ่งที่แอรอนเลือกที่จะทำคือ จุมพิตตอบกลับอย่างเร่าร้อน แฝงไว้ซึ่งความอ่อนโยนและนุ่มนวล ลิ้นหนารุกเร้าลิ้นบางแลกเร้าจนร่างสาวอ่อนยวบไม่ต่างกับขี้ผึ้งลนไฟ
เพียงแค่ได้เห็นใบหน้าสวย สรีระหน้าฟัดของ พลอยพัตรา ทำให้ เฟอเดอริค มอโร อยากจะคว้าตัวเธอมาเป็นดอกไม้บนเตียงของเขาทันที คนเจ้าเล่ห์และเจ้าบุญทุ่มอย่างเขาจึงทำทุกอย่างที่จะได้ดอกไม้ดอกนี้มาเชยชม
"ฮือๆ .. ทำไมทำอย่างนี้กับรุ้ง ทำไมต้องเป็นเดียร์ ทำไม?" ความรู้สึกเสียงใจของหทัยชนกจะน้อยกว่านี้ หากคนที่เป็นภรรยาน้อยของสามีไม่ใช่เกวลิน...เพื่อนรักของเธอ
"คนอย่างเธอความเจ็บปวดแค่นี้มันยังน้อยเกินไป เธอต้องเจ็บเหมือนกับที่มินามิเจ็บ และต้องเจ็บยิ่งกว่าหลายร้อยเท่า ฉันจะทำให้เธอตายอย่างช้าๆ แต่ทุกข์ทรมานแสนสาหัส เธอจะไม่ได้ยินหรือสัมผัสกับความอ่อนโยนเมตตาจากฉัน สิ่งที่ฉันจะมอบให้เธอมีเพียงความเกลียดชังเท่านั้น จำใส่กะโหลกไว้" เรียวเหวี่ยงร่างงามไปที่เตียงนอนอย่างแรง มือหนาจับที่ข้อเท้าของเธอไว้แน่นเมื่อรู้ว่าเธอกำลังกระเถิบตัวหนี "หนีสิ หนีเลย ถ้าเธอหนี คนที่ตายเป็นคนแรกคือแม่ของเธอ ฉันจะให้แม่เธอตายเหมือนหมูเหมือนหมาข้างถนน เหมือนกับที่เธอฆ่าแม่ของฉัน" ดวงตาเขาเปล่งแสงแรงกล้าของความอาฆาต เมื่อนึกถึงข้อนี้อยากจะฆ่าหญิงสาวตรงหน้าให้ตายตามมารดาและคนที่เขารัก แต่ความตายอาจจะไม่ทำให้เขาสะใจ นอกจากกระกระทำต่อไปนี้ที่สะใจเขามากที่สุด ทรรศิกาหยุดดิ้นรนขัดขืน เขาจึงปล่อยข้อเท้าของเธอให้เป็นอิสระ จัดการปลดเปลื้องเสื้อผ้าต่อหน้าเธอ ความกลัวเริ่มเกาะกินจิตใจของเธอมากขึ้นเรื่อยๆ อยากจะวิ่งหนีออกไปจากที่นี่ แต่เมื่อนึกถึงมารดา ทำให้เธอก้มหน้ารับชะตากรรมที่กำลังจะเกิดขึ้น เรื่องที่คุณน่าจะสน
ความอิจฉาน้องสาวต่างมารดาคือจุดเริ่มต้นของแผนการ “ชิงไอศูรย์” มาเป็นของตน เธอจึงใช้เล่ห์เหลี่ยมง่ายๆ คือวางยานอนหลับเขา พอตื่นขึ้นมาก็จะติ๋งต่างว่า เขากับเธอมีอะไรกัน ทว่าแผนเกิดผิดพลาด ยาที่ผสมในไวน์กลับเป็นยาปลุกเซ็กซ์ ผลที่ออกมาคือ ไอศูรย์มีความสัมพันธ์ทางกายกับเธอจริงๆ ในที่สุด ชเนตตีได้แต่งงานกับเขาตามตั้งใจ ทว่าผลที่ออกมา ไม่ได้เป็นไปตามที่คิดไว้ “เนยใส่อะไรในแก้วไวน์ของพี่ใช่ไหม ไม่อย่างนั้นพี่จะไม่มีวันอยู่ในสภาพแบบนี้” เขาถามอีกครั้งเมื่อเห็นอีกฝ่ายเงียบ เสียงที่ถามเข้มห้วน ใบหน้ายังคงเรียบตึง สายตาถมึงทึงใส่ร่างอวบที่ย่นคอหนีน้ำเสียงแผดกร้าว “ตอบพี่มา” “ใส่อะไร เนยไม่รู้เรื่อง…ฮือ…พี่เจย์ทำผิดแล้วอย่ามาโทษว่าเนยวางยาพี่นะ…ฮือ” เธอยังคงปากแข็งต่อไป หลบสายตาแข็งกร้าวพัลวัน
“ว้าย!!..” เธอร้องได้เพียงเท่านั้น ก่อนที่ปากของหยาดน้ำค้างจะถูกมือใหญ่ของใครบางคนปิดเอาไว้ ลำแขนอีกข้างรัดร่างน้อยไว้แน่น ก่อนจะลากไปที่พุ่มไม้รกข้างทาง “อย่าดิ้น อย่าร้อง ไม่งั้นจะจับปล้ำมันตรงนี้แหละ” เสียงที่พูดชิดเรียวหูสะอาด ทำให้เธอรู้ว่าเจ้าของเสียงนั้นคือใคร..เหมันต์ วิเศษเดโช เขาดันร่างเล็กให้แผ่นหลังแนบชิดกับต้นไม้ใหญ่ขนาดสี่คนโอบ ใช้ลำแขนกักร่างบางเอาไว้ “ปล่อยนะ” หญิงสาวพูดเสียงเบาทว่าหนักแน่น เธอไม่กล้าพูดเสียงดังมาก เพราะกลัวว่าคนที่เดินผ่านไปผ่านมาจะได้ยิน “ไปกล่อมพ่อหรือกล่อมลูกมาล่ะ ถึงได้อ้อยอิ่งเป็นชั่วโมงแบบนี้” น้ำเสียงของเหมันต์เขียวเหมือนกับใบหน้าที่เขียวคล้ำด้วยความโกรธ “มันเรื่องของฉัน..คุณไม่เกี่ยว..เราไม่มีอะไรต่อกันแล้ว คุณก็ได้ในสิ่งที่คุณต้องการแล้วนี่ จะมาเอาอะไรกับฉันอีก ปล่อยนะ ฉันจะกลับที่พัก” หยาดน้ำค้างพยายามดิ้นรนหนีพันธนาการที่รัดร่างอยู่ แต่ทว่าลำแขนของเขานั้นหาได้คลายออกไม่ ยิ่งรัดแน่นมากกว่าเก่า เมื่อได้ยินวลีของเธอ “ทำไมผมจะไม่เกี่ยว ในเมื่อน้ำค้างเป็นเมียของผม..เป็นเมีย หรือว่าจำไม่ได้ว่าเราสองคนมีความสุขกันมากแค่ไหน” เขาเท้าความหนหลังให้เธอได้ฟัง ฝ่ายหญิงนิ่งเงียบกับคำพูดของเขา เธอไม่เถียงว่ามีความสุขมากแค่ไหนเวลาได้อยู่ใกล้ชิดกับเรือนกายที่แสนแข็งแรงและอบอุ่น หากแต่ความทุกข์และความเสียใจที่เธอได้รับนั้นมันก็มากมายเช่นกัน ไม่ว่าจะเป็นความสุขหรือว่าความทุกข์ เธอก็ไม่มีวันลืมเช่นกัน และไม่มีทางจะกลับไปจมกับความทุกข์อีกแล้ว “ฉันไม่ใช่เมียคุณ..ถ้าคุณคิดว่าการที่เรามีอะไรกันแล้วฉันจะเป็นเมียคุณ พี่ว่านก็ต้องเป็นสามีของฉันเหมือนกัน” หยาดน้ำค้างคิดว่าวิธีนี้เป็นวิธีที่ดีที่สุด วิธีที่เขาไม่มีทางมายุ่งเกี่ยวกับเธออีก อ้อมแขนที่รัดร่างนิ่มคลายออกโดยอัตโนมัติ หัวใจของคนที่ฟังเต้นเร็ว ดวงตาคมเข้มสีดำเรืองแสงในความมืดที่โรยตัวไปทั่วบริเวณ บ่งบอกอะไรหลายอย่างในแววตา เสียใจ ไม่คาดฝัน ไม่แน่ใจ
จะกี่หมัดก็ไม่หวั่น กี่ยกก็ไม่กลัว เธอจะ Knock Out ด้วยหัวใจติดปลายนวม ภัทรียายินดีสานต่อค่ายมวยและรับผิดชอบหนี้สินรุงรังต่อจากพ่อซึ่งเสียชีวิต แต่ ณ วันนี้หนี้สินสามปีที่ผัดผ่อนมาตลอดทำให้เธอมืดแปดด้าน ไม่ว่าความหวังแสนริบหรี่แค่ไหน เธอก็คว้าไว้อย่างไม่รอช้า ไม่เว้นแม้แต่การเป็นภรรยาหลอกๆ ต่อให้ต้องโดนแม่สามีดูถูกทุกขณะ น้องสาวสามีจ้องเหยียดชาติกำเนิดทุกครั้งที่เจอหน้า ภัทรียาก็ไม่หวั่นเกรงแม้แต่น้อย เพราะเธอคือ... ‘มะปราง ลูกจ่าดาบ ศิษย์จอมทอง’ นักมวยสาวหุ่นกระชากใจหนุ่มๆ หากไม่เพราะกำลังจะถูกแม่จับคลุมถุงชน ธัชธรรมจึงต้องเลือกใช้วิธีสิ้นคิด จ้างนักมวยสาวหมัดหนักที่กำลังร้อนเงินมาเป็นภรรยากำมะลอ จดทะเบียนจริง อยู่ด้วยกันจริง...และทำท่าว่าจะต้องอยู่ด้วยกันอีกนาน รออีกอย่างเดียวเท่านั้น... รอให้สะใภ้กำมะลอยอมเป็นภรรยาตัวจริงของเศรษฐีหนุ่มหล่อ
หลังจากแต่งงานได้ 2 ปี ในที่สุดเจียงเนี่ยนอันก็ตั้งครรภ์สักที ความดีอกดีใจของเธอแต่กลับแลกกับคำขอหย่าของสามี หลังจากการสมคบคิด เธอนอนในกองเลือด และต้องการขอร้องเขาให้ช่วยเด็กเอาไว้ แต่กลับไม่สามารถติดต่อกับอีกฝ่ายได้ ด้วยความสิ้นหวังเธอจึงออกจากประเทศไป ต่อมาในงานแต่งงานของเจียงเหนียนอัน คุณกู้เสียการควบคุมและคุกเข่าลง ดวงตาของเขาแดงก่ำ "มีลูกของฉัน แล้วเธออยากจะแต่งงานกับใครกัน?"
เสียงกระเส่าในยามค่ำคืน ไม่ได้มีแค่เสียงเดียวแต่มีถึงหลายคน สตรีนางน้อยที่อยู่บนเตียงหันมองสตรีที่จูบแม่ทัพปีศาจ นางพึ่งจะเป็นมือใหม่ที่ใหม่จนไม่กล้าทำสิ่งใด ได้แต่มองเขาเสพสมสตรีอื่นต่อหน้านาง เสียงเนื้อกระทบเนื้อที่ดังไม่หยุด ยิ่งทำให้นางประสาทเสีย หากแต่ว่าหากนางยังนิ่งมองอยู่เช่นนี้ เกรงว่าพรุ่งนี้จะไม่มีที่นอน เมื่อเป็นเช่นนี้ก็จัดเลยสิจะรออะไร ใช่ว่านางจะทำไม่เป็นเสียหน่อย
ในชีวิตชาติที่แล้ว เพื่อช่วยรักแรกของตัวเอง คนชั่วสามคนได้ทำลายพลังการต่อสู้ของนาง ตัดแขนขาของนางออก ตัดเส้นเลือดของนางและปล่อยเลือดของนางไหลออกมาทั้งอย่างนั้น และทรมานนางจนตาย เมื่อเกิดใหม่ครั้งนี้ นางวางแผนอย่างรอบคอบ โดยสาบานว่าจะให้พวกเขาได้สัมผัสกับความทุกข์ทรมานที่นางเคยประสบมา! รักแรกที่ไร้เดียงสาอะไรกัน ที่จริงก็เป็นเพียงผู้หญิงที่ตีสองหน้าเก่ง อยากจะไต่ขึ้นไปสูงเหรอ งั้นก็จะให้เจ้าปีนขึ้นไป ยิ่งปีนขึ้นสูงมากเท่าไร ตอนตกลงมาก็จะยิ่งเจ็บมากเท่านั้น! พวกสวะสมควรได้รับบาปกรรมของพวกสวะ พวกมันทำชั่วกับนางไปชั่วชีวิตหนึ่ง นางจะทำให้พวกมันไม่ตายดี พวกคนที่เจ้าเล่ห์ ตีสองหน้าเก่ง นางจะจัดการกับทุกคน! แต่นางไม่เคยคิดเลยว่าในการแก้แค้นของนาง นางจะไปมีเรื่องกับเสด็จอาที่เป็นเจ้าแผนการเข้า ที่วัน ๆ ต้องการให้นางจูบและกอดเขาตลอดทั้งวัน ในขณะที่นางแก้แค้นคนชั่วนั้นยังสามารถสนิทสนมกับเสด็จอาด้วย ในความจริงแล้ว การที่เป็นผู้หญิงชั่วๆ ก็มีความสุขมาทีเดียวกว่าที่คิดเลย!
วิญญาณฮองเฮาชั่วร้ายต้องเข้ามาอยู่ในร่างคุณหนูหลินจื่อเว่ยที่ตายโดยไม่ได้รับความเป็นธรรม เพราะต้องต่อกรกับแม่เลี้ยงใจยักษ์และโหดเหี้ยม งานนี้นางจึงต้องงัดฝีไม้ลายมือเก่า ๆ เอามาใช้ เพียงแต่ว่าเรื่องนี้ช่างยากเย็นนัก เมื่อนางมิได้ต่อสู้กับแม่เลี้ยงใจโฉดเพียงคนเดียว เมื่อบัดนี้กลับต้องเผชิญหน้ากับท่านอ๋องคู่หมั้น ที่วิปริตเย็นชาและยังเป็นโรคประสาทบ้าตัณหาผู้หนึ่ง!
[แนวลูกเด็กน่ารัก+สาวเก่ง+แก้แค้น]ฉวี่ชิงเกอแต่งงานกับฟู่หนานจิ่นมาเป็นเวลา 5 ปี เธอใช้ชีวิตเหมือนแม่บ้าน เธอคิดว่าตัวเองท้องแล้วจะทำให้ความสัมพันธ์ระหว่างเธอกับเขาดีขึ้น แต่สุดท้ายสิ่งที่ได้มาคือ ข้อตกลงการหย่า เมื่อคลอดลูก ฉวี่ชิงเกอแทบจะไม่รอดเพราะมีคนทำร้าย เธอถึงรู้สํานึก ห้าปีต่อมา เธอกลายเป็น"ท่านประธานฉวี่"แล้วกลับมาแก้แค้น คนที่เคยรังแกเธอต่างก็ได้รับการสั่งสอนอย่างสะหัส และความจริงที่ถูกปิดบังไว้ก็ค่อย ๆ ถูกเปิดเผยออกมาก อดีตสามีคิดจะขอคืนดีกับเธอเหรอ คิดง่ายไปหน่อยไหม? ฟู่หนานจิ่นอ้อนวอน"ที่รัก ลูกต้องการหม่ามี๊ ขอแต่งงานใหม่ได้ไหม?"
ในวันแต่งงาน เจ้าบ่าวของเฉียวซิงเฉินหนีไปกับผู้หญิงอีกคน เธอโกรธมาก จึงสุ่มหาชายคนหนึ่งมาแต่งงานด้วยทันที "ตราบใดที่คุณกล้าแต่งงานกับฉัน ฉันก็ยอมเป็นเมียคุณ" หลังจากแต่งงาน เธอได้ค้นพบว่าสามีของเธอคือลูกชายคนโตของตระกูลลู่ที่ขึ้นชื่อว่าไร้ประโยชน์ ชื่อลู่ถิงเซียว ทุกคนเยาะเย้ยว่า "เธอยนี่ช่วยไม่ได้จริงๆ" และผู้ชายที่ทรยศเธอก็มาเกลี้ยกล่อมว่า "ไม่เห็นต้องทำร้ายตัวเองเพราะฉันหรอก สักวันเธอต้องเสียใจแน่ๆ" เฉียวซิงเฉินหัวเราะเยาะและโต้ตอบว่า "ไปให้พ้น ฉันกับสามีรักกันมาก" ทุกคนต่าก็คิดว่าเธอเป็นบ้า ไปแล้ว อย่างไรก็ตาม เมื่อตัวตนที่แท้จริงของลู่ถิงเซียวถูกเปิดเผย ที่แท้เขาเป็นคนรวยอันดับต้นๆในโลก ในการถ่ายทอดสดทั่วโลก ชายคนนี้คุกเข่าข้างเดียว ถือแหวนเพชรมูลค่าหลักพันล้าน และพูดช้าๆ ว่า "คุณภรรยา ชีวิตที่เหลือนี้ขอฝากเนื้อฝากตัวด้วยนะ"