ไม่รู้เรื่องบังเอิญหรือพรหมลิขิตได้ขีดเอาไว้ให้เธอต้องไปพลาดนอนกับเจ้าของบริษัทจนทำให้เกิดตั้งท้องขึ้นมาโดยที่ไม่ได้ตั้งใจอีกทั้งเรื่องราวที่ไม่ได้คาดคิดก็เกิดขึ้นเมื่อลูกของเธอไม่ใช่แค่คนธรรมดา.... เรื่องนี้จะออกแนวลึกลับข้ามภพข้ามชาติกันนิดหน่อยนะคะแต่ความโรแมนติกมาเต็มค่า ร่างโครงเรื่องโดย หอศังกร และลงรายละเอียดคำบรรยายโดย ปลายฟ้า นิยายเรื่องนี้สร้างจากจินตนาการไม่ได้อ้างอิงประวัติศาสตร์จากใครหรือสิ่งใดและไม่ได้เจตนาลบหลู่ความเชื่อย้ำอีกครั้งว่าไม่ได้เจตนาลบหลู่ความเชื่อทุกอย่างเกิดจากจินตนาการนะคะ ชื่อคนสัตว์สิ่งของสถานที่ทุกอย่างล้วนเป็นเรื่องที่ปรุงแต่งขึ้น ขอทำความเข้าใจ ณ ที่นี้ด้วยค่ะ แอบกระซิบว่า ความเป็นมาของพิมพ์ดาวและเพชรรัตน์ ในชาติที่แล้วอยู่ในเรื่อง หทัยแก้วปักษา นะคะ ตัวอย่างบางตอน "นี่คุณถ้าฉันคลอดลูกแล้วคุณจะดูแลฉันดีแบบนี้หรือเปล่า" คนึงนิจเอ่ยถามชายหนุ่มในขณะที่เขาวางแก้วนมอุ่นๆตรงหน้าเธอก่อนจะหย่อนก้นลงนั่งข้างๆ "ก็คงจะเหมือนเดิมไม่มีอะไรเปลี่ยนแปลง" เขตแดนตอบไปตามตรงทุกวันนี้เขาก็ดูแลเธอจนเป็นกิจวัตรอยู่แล้วและคิดว่าจะทำไปเรื่อยๆไม่ได้มีอะไรเปลี่ยนแปลง "แล้วถ้าคุณมีคนรักล่ะ ลูกกับฉันยังสำคัญกับคุณอยู่มั้ย" สาวเจ้าเอ่ยเสียงอ่อนเรื่องที่เธอกังวลในใจมาตลอดก็คงจะเป็นเรื่องนี้ "ผมไม่เคยคิดเรื่องนั้น มีคุณกับลูกแล้วผมจะหาคนอื่นมาวุ่นวายกับชีวิตทำไม" เขตแดนเห็นว่าหญิงสาวดูท่าจะถามอะไรที่ค่อนข้างไร้สาระ เขาเป็นคนที่มีความคิดพอคงไม่หาเรื่องมาทำให้เขาวุ่นวายไปกว่าเดิมอยู่แล้ว คำตอบของเขตแดนทำให้คนึงนิจยิ้มและคลายกังวลไปได้มาก ทั้งยังรู้สึกเขินกับคำตอบของเขาจนใบหน้าของเธอตอนนี้แดงจนเป็นลูกตำลึงไปแล้ว "ยิ้มกรุ้มกริ่มอีกแล้ว มีอะไรจะพูดกับผมหรือเปล่า" "เรามาลองเป็นคนรักกันดีหรือเปล่าคะ" สาวเจ้าเอ่ยถามโดยที่ไม่กล้ามองหน้าคนที่นั่งอยู่ข้างๆ "นี่คุณกำลังจีบผมงั้นหรอ" เขตแดนเอี้ยวตัวมองหน้าของคนึงนิจให้แน่ใจว่าเมื่อครู่เธอพูดจริงหรือพูดเล่น "ก็แค่ถามเล่นๆ ไม่มีอะไรหรอก" ว่าจบก็ยกนมอุ่นขึ้นมาดื่มแก้เขิน "ก็ได้" พรวด.. "อะ.. แอ้กก.. " สาวเจ้าได้ฟังคำตอบที่ไม่คาดคิดว่าชายหนุ่มจะตกปากรับคำเธอเร็วเช่นนี้ จึงเกิดสำลักนมในแก้วขึ้นมากะทันหัน "เลอะเทอะหมดแล้วค่อยๆ ดื่มสิ" มือหนารีบหยิบทิชชู่เปียกเช็ดหน้าเช็ดตาให้หญิงสาวในขณะที่เธอยังคงนิ่งอึ้งกับคำตอบของเขาอยู่ "เมื่อกี้ว่าไงนะ" คนึงนิจมองหน้าเขตแดนด้วยความสงสัย ทั้งอยากได้ยินคำตอบที่เขาพูดกับเธออีกครั้ง "ก็ได้เอาอย่างที่คุณเสนอ ยังไงเราก็ต้องอยู่ด้วยกันยาวอยู่แล้วนี่" เมื่อจบคำพูดของชายหนุ่มร่างบางก็เอาแต่บิดตัวเขินไปมาไม่ได้สนในรอยเปื้อนนมในแก้วบนตัวของตัวเอง หน้าที่เช็ดทำความสะอาดเลยตกเป็นของเขตแดน คนตัวโตส่ายหัวอมยิ้มอ่อนที่หญิงสาวเอาแต่นั่งเขินไม่คิดว่าเรื่องที่เขาอยากจะคุยกับเธอกลับเป็นเธอที่เอ่ยพูดขึ้นมาก่อน นับว่าหัวใจเขาและเธอตรงกันมานานแล้วเป็นแน่
SC group
ณ. บริษัทขายเครื่องประดับรายใหญ่ในกรุงเทพมหานครบริษัทนี้เป็นบริษัทที่ค่อนข้างมีชื่อเสียงและผลิตแบรนด์เครื่องประดับหลายแบรนด์มีพนักงานร่วมหลายร้อยคนที่อยู่ที่นี่
ช่วงสายของวันนี้หลังจากการประชุมเรื่องการเปิดตัวคอลเลคชั่นล่าสุดของแบรนด์หลักที่แผนกดีไซน์เนอร์ก็ค่อนข้างวุ่นวายเป็นพิเศษเพราะตอนนี้ดีไซน์เนอร์มือดีสองคนของบริษัทกำลังต่อล้อต่อเถียงกันยกใหญ่
“เธอขโมยงานของฉัน”
คนึงนิจหญิงสาวตัวเล็กวัย25 เธออยู่ในชุดพนักงานของบริษัทเสื้อเชิ้ตสีขาวกระโปรงทรงเอยาวเหนือเข่า สิ่งที่ทำให้เธอดูสูงเทียมอีกฝ่ายได้ก็เพราะส้นสูงห้านิ้วที่เธอใส่ หญิงสาวยืนเท้าเอวมองหน้าอีกฝ่ายอย่างเอาเรื่อง
“เธอมีหลักฐานอะไรมาปรักปรำฉัน”
รสสุคนสาวสวยหุ่นดีวัยยี่28เป็นคนที่มั่นใจในตัวเองสูงที่สุดในออฟฟิศก็ว่าได้ เธอยืนกอดอกมองหน้าคนึงนิจอย่างไม่พอใจเช่นกัน
“ก็งานที่เธอเสนอวันนี้มันเป็นงานที่ฉันออกแบบ”
คนึงนิจมั่นใจว่ายังไงรสสุคนก็ต้องก้อปปี้งานของเธอไป ไม่อย่างนั้นทุกตัวอย่างที่รสสุคนเสนอที่บอร์ดประชุมและได้หน้าไปวันนี้มันจะเหมือนที่เธอออกแบบทุกชิ้นได้ยังไง
“ถ้าไม่มีหลักฐานก็อย่ามากล่าวหากันลอยๆ อย่ามาทำตัวสก๊อยแถวนี้”
รสสุคนเปรยสายตามองคนึงนิจที่โวยวายเอะอะเสียงดังตั้งแต่หัวจรดเท้า ก่อนที่จะหันหลังกลับไปนั่งที่เก้าอี้ทำงานของตนเองอย่างไม่สนใจ
“หนอย..”
เพี๊ยะ “โอ้ยย..”
ด้วยอารมณ์โทสะสาวร่างเล็กจึงเอื้อมมือไปจิกหัวรสสุคน แล้วฟาดมือเรียวไปที่ใบหน้าที่แต่งแต้มเครื่องสำอางค์แน่นจนรสสุคนนั้นหน้าหัน
“สก๊อยงั้นหรอถึงฉันจะสก๊อยแต่ฉันก็ไม่เคยหน้าด้านขโมยงานคนอื่นมาเป็นงานของตัวเองหน้าตาเฉยหรอกนะ”
คนึงนิจแค้นรสสุคนมากที่ทำผิดแล้วยังลอยหน้าลอยตา เครื่องประดับที่เธอออกแบบเธออดหลับอดนอนตั้งหลายคืนกว่าจะทำมันเสร็จ แต่รสสุคนดันขโมยงานของเธอไปหน้าดื้อๆทั้งยังได้รับความดีความชอบจากผู้ใหญ่หลายๆคนอีกด้วย
“แก..”
“อะไรกัน”
รสสุคนเงื้อมมือหมายจะฟาดไปที่หน้าของคนึงนิจ แต่ก็ต้องชะงักเอาไว้เพราะได้ยินเสียงของเปรมสุดาหัวหน้าแผนกของพวกเธอดังขึ้นมาก่อน
“โอ้ย..พี่ปุ้ยขาอยู่ดีๆ น้ำขิงก็มาหาเรื่องโรสค่ะ”
รสสุคนเห็นดังนั้นจึงแกล้งเจ็บยกใหญ่เพื่อที่จะให้เปรมสุดานั้นเห็นใจ
“ไปคุยกับพี่ในห้องเดี๋ยวนี้”
เปรมสุดาเรียกทั้งสองเข้าไปคุยในห้องทำงานเป็นการส่วนตัว และแล้วผลก็ออกมาว่าคนึงนิจนั้นถูกไล่ออกที่ไปกล่าวหารสสุคนโดยที่ไม่มีหลักฐานและเริ่มลงมือทำร้ายรสสุคนก่อนด้วย
ชานเมืองนนทบุรี
“เฮ้อ..ไม่น่าใจร้อนเลยเรางานเดี๋ยวนี้ก็ยิ่งหายากๆ อยู่ด้วย”
ร่างบางสวมชุดนอนตัวยาวสีชมพูออกมานั่งที่ระเบียงบ้านหลังเล็กของเธอ หลังจากที่ทานข้าวเย็นเรียบร้อยแล้วดวงตากลมโตตอนนี้ละห้อยห่อเหี่ยวอย่างเห็นได้ชัด ริมฝีปากบางพ่นลมหายใจอย่างหดหู่ครั้งแล้วครั้งเล่าเมื่อนึกถึงเหตุการณ์ในวันนี้...หากเธอชั่งใจในความใจร้อนของเธอได้สักนิด แล้วหาหลักฐานมาเอาผิดรสสุคนชะตากรรมของเธอก็จะได้ไม่เป็นเช่นนี้
คนึงนิจเป็นหญิงสาวตัวเล็กน่าตาจิ้มลิ้มผมยาวสีน้ำตาลหยักศก ผิวขาวอมชมพูหุ่นนาฬิกาทรายเป็นคนที่ชอบแต่งตัวในระดับหนึ่ง เพราะชอบในแฟชั่นเธอจะดูเป็นผู้หญิงที่น่าทะนุถนอมมาก หากลดความโผงผางตรงไปตรงมาและหัวร้อนง่ายลง แต่แม้เธอจะนิสัยใจร้อนเธอก็ไม่เคยหาเรื่องใครก่อน เธอเป็นคนที่คนอื่นดูจากภายนอกแล้วจะดูเข้มแข็ง แต่ในใจนั้นก็แอบว้าเหว่อยู่พอสมควร ในชีวิตไม่เคยเกรงกลัวอะไรแต่หลังจากที่เสียพ่อและแม่ไปเธอก็เกลียดและกลัวการสูญเสียเป็นที่สุด
หญิงสาวเรียนจบแฟชั่นดีไซน์มาจากมหาวิทยาลัยชื่อดังในกรุงเทพ หลังจากที่เรียนจบได้เพียงแค่ปีเดียวพ่อกับแม่ของเธอก็มาประสบอุบัติเหตุเสียชีวิตทั้งคู่ทำให้เธอต้องใช้ชีวิตอยู่ตัวคนเดียว ดีที่พ่อแม่นั้นเหลือสมบัติเอาไว้ให้บ้างตอนนี้เธอจึงไม่ได้ลำบากอะไรมากมายนัก
Rrrrrrr
“ว่าไงดาว อะไรนะ แกรอฉันอยู่นั่นแหละเดี๋ยวฉันขับรถไปรับเดี๋ยวนี้เลย”
สาวเจ้าที่กำลังเหม่อหลุดจากภวังค์ได้ก็เพราะเสียงมือถือที่วางอยู่ข้างๆตัวดังขึ้นและปรากฏเป็นชื่อของเพื่อนรักคนเดียวของเธอ เมื่อวางสายจากเพื่อนที่กำลังมีปัญหาอยู่ในตอนนี้เรียบร้อยแล้ว หญิงสาวก็ผุดลุกวิ่งออกไปขับรถเก๋งสีขาวคู่ใจออกจากบ้านเพื่อไปรับเพื่อนของเธอทันที
ณ ศาลาหน้าหมู่บ้านแห่งหนึ่ง
“ฮึก..ฮือๆๆ ..”
เสียงร้องให้กระซิกของหญิงสาวเคล้าคลอกับเสียงรถที่ผ่านไปผ่านมายามหัวค่ำ ผู้คนที่เดินผ่านไปผ่านมาต่างก็เหลือบมองอย่างสงสัยแต่ก็ไม่มีใครกล้าเข้ามาถามหญิงสาวว่าเธอนั้นเป็นอะไร เพราะที่นี่เป็นกรุงเทพมหานครเมืองที่ไม่ค่อยมีใครใส่ใจใครมากนักต่างคนต่างก็เร่งรีบที่จะไปให้ถึงที่หมายเพื่อที่จะพักผ่อนหลังจากทำงานมาทั้งวัน
“ถ้าคุณพ่อยังอยู่ชีวิตของดาวจะไม่เป็นแบบนี้ใช่หรือเปล่าคะ”
พิมพ์ดาวหญิงสาววัย24ย่าง25เป็นลูกคุณหนูตระกูลไฮโซที่บ้านมีกิจการนำเข้ารถหรู เธอเป็นผู้หญิงที่มีความเป็นกุลสตรีทุกกระเบียดนิ้วค่อนข้างหัวอ่อนและเห็นอกเห็นใจคนอื่นเสียจนถูกเอาเปรียบอยู่บ่อยๆ รูปร่างหน้าตาของเธอก็สวยหวานใครเห็นเป็นเอ็นดูกันแทบทุกคน เธอเป็นผู้หญิงตัวเล็กผอมแห้งผมยาวดำตรงสลวยจนถึงกลางหลังใบหน้ารูปไข่คิ้วคมเข้มได้รูปดวงตาคมกลมโตเหมือนลูกแมวน้อยจมูกเล็กตรงเป็นสันริมฝีปากบางเป็นกระจับอมชมพูมีแก้มเล็กน้อยนัยตากลมโตนั้นค่อนข้างเศร้า เพราะแม้นเธอจะเกิดมาเป็นคุณหนูแต่เธอก็ไม่เคยรู้สึกมีความสุขจริงๆเลยสักครั้งในชีวิตตั้งแต่เกิดมาก็ไม่เคยเห็นหน้าแม่ด้วยแม่เธอเสียตอนคลอดเธอ ส่วนคนเป็นพ่อก็ทำแต่งานปล่อยให้เธออยู่บ้านกับแม่เลี้ยงที่ไม่เคยเห็นเธอเป็นลูก
หลังจากที่พิมพ์ดาวเรียนจบพยาบาลเธอก็ขอออกมาอยู่ข้างนอกคนเดียวมาเกือบสามปีแล้ว โดยให้เหตุผลกับคนเป็นพ่อว่าอยากอยู่ใกล้ที่ทำงานแต่ความจริงแล้วเธออึดอัดที่จะอยู่บ้านกับแม่เลี้ยงที่เอาแต่กีดกันเธอกับพ่อของเธอมากกว่า..การอยู่ข้างนอกแม้คนเป็นพ่อจะนานๆ มาหาทีแต่เธอก็ยังมีโอกาสได้พูดคุยกับพ่อของเธอมากกว่าตอนที่มีแม่เลี้ยงอยู่ด้วย
แต่ตอนนี้พ่อของเธอได้จากไปแล้วเมื่อไม่กี่เดือนก่อน คราแรกคิดว่าเธอจะไม่ต้องเกี่ยวพันอะไรกับแม่เลี้ยงของเธออีกแล้วแต่แม่เลี้ยงของเธอก็ยังหาเรื่องมาทำให้เธออึดอัดใจอีกจนได้ คือให้เธอแต่งงานกับคนที่เธอไม่ได้รักเพื่อเป็นการใช้หนี้ที่แม่เลี้ยงเธอก่อเอาไว้..ตอนนี้เธอเลยต้องตัดสินใจที่จะหนีเลยโทรให้คนึงนิจเพื่อนสนิทที่เรียนด้วยกันตั้งแต่ประถมมารับ
คนึงนิจจอดรถที่ข้างถนนเลื่อนกระจกมองเข้าไปในศาลาริมทางเห็นหญิงสาวใส่ชุดเดรสยาวสีขาวข้างๆตัวมีกระเป๋าใบใหญ่มั่นใจแล้วว่านั่นเพื่อนเธอจึงรีบลงจากรถและเดินเข้าไปหา
“แกหยุดร้องให้แล้วบอกฉันก่อนว่าทำไมแกถึงหนีออกมาดึกๆ ดื่นๆ แบบนี้”
“แม่ฉันจะให้ฉันแต่งงานใช้หนี้แต่ฉันไม่ได้รักคุณณัฐ”
มือน้อยของพิมพ์ดาวปาดน้ำตาลวกๆก่อนจะเงยหน้าขึ้นมาพูดกับเพื่อนสาวด้วยอาการสะอึกสะอื้น
“ไปๆ ขึ้นรถก่อน”
คนึงนิจรีบช่วยเพื่อนเธอลากกระเป๋าลงจากศาลาข้างทางแล้วรีบขับรถออกไปจากตรงนี้อย่างรวดเร็ว
“คนแบบนั้นแกไม่น่ายกให้เป็นแม่นะ..ตั้งแต่พ่อแกเสียฉันนึกว่าแม่เลี้ยงจะเลิกยุ่งกับแกแล้วเสียอีกตัดสินใจหนีออกมาก็อย่ากลับไปอีกล่ะ”
คนึงนิจใช้เวลาขับรถพักใหญ่จึงพาพิมพ์ดาวกลับมาถึงบ้านหลังเล็กของเธอ ทั้งยังเจ็บใจแทนพิมพ์ดาวเรื่องแม่เลี้ยงของเพื่อนเธอที่หาแต่เรื่องมาให้เพื่อนเธออึดอัดใจ
เกริ่น “คืนนั้นฉันนอนกับเค้าเพราะต้องการแค่ลูก ใครจะไปคิดว่าเค้าจะตามหาฉันจนเจอแล้วสั่งให้ฉันทำร้ายลูกในท้องตัวเองเล่า ไอ้มาเฟียบ้าฉันจะทำยังไงกับเค้าดี” “ทำให้เค้ารักแกไง” กลิ่นชวาก็แค่อยากจะมีลูกเพื่อให้พ้นการถูกแม่เลี้ยงจับตัวไปใช้หนี้เท่านั้น คืนนั้นเธอต้องการแค่ลูก ไม่ได้คิดว่าชีวิตจะพลิกผันจนได้มาอยู่ท่ามกลางมาเฟียใจดำที่ไม่อยากให้ลูกเธอเกิดมา เพื่อนเธอก็ช่างหาเป้าหมายมาให้ถูกคนเสียจริง ชีวิตวาดิมมันเต็มไปด้วยอันตรายรอบด้าน แค่เอาชีวิตตัวเองให้รอดไปวันๆ ยังยาก หากจะต้องมีจุดอ่อนให้ศัตรูทำลายเขาก็ต้องรีบกำจัด ใครจะไปคิดว่าการนอนกับผู้หญิงที่ถูกใจแค่คืนเดียวจะทำให้เขามีปัญหาตามมาจนปวดหัว ตัวอย่างบางตอน “ความเห็นแก่ตัวของคุณมันทำให้ตัวผมกำลังเดือดร้อนรู้ไหม” วาดิมสาดเสียงแข็งใส่กลิ่นชวากับเพื่อนของเธอที่เป็นต้นเหตุทำให้เขาเป็นพ่อคนโดยที่ไม่ได้ตั้งใจ “ถ้าคุณไม่มานอนกับฉันทุกอย่างมันจะเกิดขึ้นไหมล่ะ อย่ามาว่าฉันเห็นแก่ตัวอย่างเดียวเลย คุณมันก็เห็นแก่ได้เหมือนกันนั่นแหละ” กลิ่นชวายังไม่เลิกปากเก่ง เด็กคนนี้จะเกิดมาไม่ได้หากเขาไม่ร่วมกระทำกับเธอด้วย ทั้งหมดทั้งมวลมันก็ไม่ใช่ผลงานของเธอคนเดียวเสียเมื่อไหร่ “ถ้าพวกคุณไม่วางยาผมวันนั้นผมคงจะมีสติไม่หลงเชื่อคุณว่าไม่ต้องป้องกัน” กลิ่นชวาหันไปถลึงตากับเพื่อนรัก ส่วนพิริสาก็ได้แต่พยักหน้าน้อยๆ รายละเอียดความจริงเป็นเช่นไรเธอถูกบังคับให้เล่าให้หมดไปแล้วจริงๆ “ช่างเหอะน่า เด็กคนนี้ฉันรับผิดชอบเองได้คุณไม่ต้องห่วงว่าฉันจะให้ลูกไปยุ่งกับคุณหรอก พูดจริงสาบานเลย” “ผมนัดหมอเอาไว้แล้ว ผมจะพาคุณไปเอาเด็กออก” “ไม่นะ อย่าเห็นแก่ตัวสิ เด็กน้อยตาดำๆ คนนึงกำลังจะลืมตาดูโลกเลยนะ ถึงคุณไม่รักเค้าแต่ฉันรัก คนไม่มีหัวใจอย่างคุณไม่เข้าใจหรอก” วาดิมยืนจ้องตากับกลิ่นชวาอย่างไม่มีใครยอมใคร ไม่กี่วินาทีหลังจากนั้นชายหนุ่มก็คว้าปืนออกมาจากเอวและจ่อปลายกระบอกปืนสั้นไปที่หน้าท้องของหญิงสาว “อ๊าย/ว๊าย” สองสาวสวยตกใจกอดกันแน่นขึ้นกว่าเดิม แต่มิวายคนที่ไม่ค่อยจะยอมใครง่ายๆ อย่างกลิ่นชวาก็รีบตั้งสติและหันมาต่อว่าวาดิมอีกรอบ “พ่อแม่คุณรู้ไหมเนี่ยว่าคุณเป็นคนแบบนี้ เกิดเป็นลูกผู้ชายซะเปล่าไม่มีความเป็นสุภาพบุรุษเลย” แม้หัวใจจะเต้นจนแทบจะหลุดกระเด็นออกมาข้างนอกแต่กลิ่นชวาก็ยังทำใจดีสู้เสือ พูดไปจ้องตาชายหนุ่มไปไม่สะทกสะท้าน “พอเถอะว่าน” พิริสาที่กลัวจนตัวสั่นรีบปรามให้เพื่อนรักสงบปากก่อนที่จะตายกันหมด ตอนนี้พิริสารู้แล้วว่าวาดิมอยู่ระดับไหน เขาสามารถทำให้พวกเธอหายสาบสูญไปได้แค่ไม่กี่วินาที แถมใครก็เอาผิดคนอย่างเขาง่ายๆ ไม่ได้ด้วย หากย้อนเวลากลับไปได้เธอจะไม่ล็อคเขาเป็นเป้าหมายให้กลิ่นชวาเลย “จะไปไหนล่ะ ไม่ยิงฉัน...ล อื้อ” พิริสายกมือปิดปากกลิ่นชวาขณะที่เพื่อนเธอกำลังพูดตามหลังวาดิมที่กำลังเดินออกไปจากห้อง “อยากตายมากหรือไงถึงได้พูดแบบนั้นน่ะ” พิริสาในตอนนี้สั่นไปทั้งตัว “ไม่ตายหรอก อีตานั่นไม่กล้ามาทำผิดที่บ้านเมืองเราหรอก” “ไม่กล้ากับผีอะไรล่ะ รู้ไหมว่าพ่อของลูกแกเค้าเป็นใคร” “ก็แค่นักธุรกิจเพื่อนเจ้านายแกไม่ใช่หรือไง คงจะรวยพอๆ กับเจ้านายแกใช่ไหมล่ะ” “หัวหน้ามาเฟียค้าอาวุธที่รัสเซียเลยโว้ย สามารถทำให้เราหายไปโดยที่ไม่มีใครเอาผิดได้ด้วย พูดแล้วฉันก็อยากจะร้องให้ เมื่อกี้ที่แกท้าทายเค้า ฉันฉี่จะราดอยู่แล้วรู้ไหม” พูดไปปาดน้ำตาไป ไอ้ที่บอกว่าพูดแล้วอยากจะร้องให้น้ำตามันไหลมาก่อนคำพูดแล้ว “อ้าว แกหาใครมาให้ฉันเนี่ย? ไหนบอกแค่นักธุรกิจธรรมดาไง” ตัวของกลิ่นชวาชาวาบตั้งแต่ปลายเท้าขึ้นมายังใบหน้า ตอนนี้ก็กำลังรู้สึกขนหัวลุกกลืนน้ำลายไม่ลงคอ ตอนนี้เหมือนเธอกำลังขึ้นหลังเสือไปแล้วเลย จะเอายังไงกับชีวิตต่อไปดีล่ะเนี่ย เธอจะสามารถปกป้องลูกในท้องได้หรือไม่ แล้วชีวิตที่อยู่ท่ามกลางความเป็นความตายทำให้เธอต้องเจออุปสรรคอะไรบ้าง ติดตามได้ในนิยายเรื่อง One night คืนนั้นฉันต้องการแค่ลูก ได้เลยค่า... เนื้อหาในนิยายล้วนเกิดจากจินตนาการของผู้เขียน ไม่ได้มีเจตนาอ้างอิงถึงใครหรือสิ่งใด ขอทำความเข้าใจ ณ ที่นี้ด้วยนะคะ ติดตามผลงานใหม่ๆ หรือพูดคุยกับไรท์ได้ที่ FB นิยาย ปลายฟ้า หากชื่นชอบนิยายที่ไรท์เขียน ฝากกดติดตามนามปากกา ปลายฟ้า เป็นกำลังใจให้ไรท์ด้วยน้า ขอบคุณมากค่ะ
“บอกกับผมว่าฐานะเรามันต่างกันเกินไป แต่คุณก็มีผู้ชายรวยๆผลัดกันมาส่งที่หอไม่ซ้ำหน้า นี่เหรอไม่อยากคบคนรวย หรืออยากหว่านเสน่ห์เพื่อเก็บแต้ม ทำให้เค้ารักแล้วก็เฉดหัวเค้าทิ้งแบบนี้เหรอ” “หยุดดูถูกริตานะคะ ออกไปจากห้องริตาเดี๋ยวนี้” สายตาที่มองเขาเต็มไปด้วยความตื่นกลัวเพราะตอนนี้ภูตะวันไม่เหมือนผู้ชายคนเดิมที่เธอรู้จักสักนิด สายตาของเขาแข็งกร้าวทั้งคำพูดคำจายังไร้ซึ่งความเป็นสุภาพบุรุษคนเดิมที่เธอเคยรู้จัก เนื้อหาทั้งหมดเกิดจากจินตนาการของผู้เขียน ไม่ได้มีเจตนาอ้างอิงถึงใครหรือสิ่งใด ขอทำความเข้าใจ ณ ที่นี้ด้วยนะคะ คำเตือน นิยายเป็นเรื่องรักโรแมนติก ดราม่า มีเรื่องเกี่ยวกับการเสียลูกในท้อง พระเอกบังคับขู่เข็ญนางเอก แต่ไม่มีนอกกายนอกใจ หากรับเรื่องแบบนี้ได้ไปต่อกับนิยายไรท์ได้เลยค่ะ
ถ้าเขามีฝาแฝด แล้วคืนนั้นเธออยู่กับใครกันแน่? เธอกลืนน้ำลายไม่ลงคอก่อนจะก้มมองรูปลูกสาวตัวกลมที่หน้าจอมือถือ ‘แม่จะทำยังไงดี’
เขาพาเธอขึ้นไปยังจุดสูงสุดของความสุข แล้วก็ถีบเธอล่วงหล่นลงมาตกในเหว เจ็บดีจังเลย ออกไปจากชีวิตฉัน...นายสามีตัวร้าย เนื้อหาในนิยายล้วนเกิดจากจินตนาการของผู้เขียน ไม่ได้มีเจตนาอ้างอิงถึงใครหรือสิ่งใด ขอทำความเข้าใจ ณ ที่นี้ด้วยนะคะ แม้ครอบครัวจะหาใครมาให้ดูตัวทำความรู้จักไม่รู้กี่ครั้งต่อกี่ครั้งเธอก็ไม่คิดที่จะตกลงปลงใจคบกับใครหากไม่เห็นความเป็นไปได้ว่าจะคบกันถึงวันแต่งงานและใช้ชีวิตไปด้วยกันได้ตลอดจริงๆ จนงานวันเกิดอายุครบ 26 ปี เธอก็ได้เจอกับใครคนนั้น คนที่เธอเห็นเพียงแวบแรกก็รู้ว่าเขาคือคนที่เธอกำลังรอ เขามีชื่อว่าดาเนียลเล นักธุรกิจหนุ่มชาวอิตาลีที่รับสืบทอดกิจการเป็นเจ้าของบริษัทผลิตรถยนต์หรูในอิตาลีแทนคนพ่อและแม่ที่เสียและกอบกุมธุรกิจอีกหลายอย่างในมือ คราแรกที่รู้ว่าเขาสนใจเธอจากปากของพี่ชายก็ดีใจจนแทบอยากจะกรีดร้องอย่างบ้าคลั่งไม่ห่วงคำว่ากุลสตรี ขอบคุณโชคชะตาที่นำพาให้เขาได้มาเป็นเพื่อนทางธุรกิจกับพี่ชายของเธอ และขอบคุณโชคชะตาที่นำพาคนที่เธอเฝ้ารอให้ได้มาพบกันเสียทีหลังจากเพื่อนฝูงต่างก็มีคู่หรือแต่งงานมีลูกกันไปแล้ว เมื่อได้พบกับนักธุรกิจหนุ่มตาน้ำข้าวแสนสุขุมได้เพียงวันเดียวเขาก็ขอเธอเป็นแฟนจากนั้นก็บินเที่ยวไปเทียวมาหาเธออยู่พักใหญ่ จนกระทั่งหลังจากนั้นไม่นานเขาก็ทำการเซอร์ไพรซ์ของเธอแต่งงานบนเครื่องบินส่วนตัว เธอตอบตกลงในทันทีเพราะก่อนหน้ารู้สึกว่าเขาและเธอช่างเข้ากันได้ดีเหลือเกิน ประกอบกับความอยากจะเป็นแม่คนเพราะเห็นเพื่อนมีลูกสาวลูกชายน่ารักน่าชังเลยอยากจะมีบ้าง ชีวิตของเธอหลังแต่งก็ได้ย้ายไปอยู่ที่อิตาลี ชีวิตความเป็นอยู่สุขสบายมีเรื่องง้องอนตามประสา และอุปสรรคที่ทำให้เธอต้องเจ็บตัวบ้าง จนกระทั่งหลังการแต่งงานผ่านพ้นไปไม่เท่าไหร่ จู่ๆ เธอก็ได้ล่วงรู้ว่าความรู้สึกโชคดีที่เจอผู้ชายดีๆ มันเป็นเรื่องจอมปลอมหมดทั้งสิ้น ความหวังที่อยากจะแต่งงานเพียงครั้งเดียวและอยู่กับสามีคนเดียวไปจนตายก็พังทลายไม่เหลือชิ้นดี ฝากนิยายเรื่อง ลวงรักสามีตัวร้ายไว้ในอ้อมใจทุกคนด้วยนะคะ
ในคืนเข้าหอ...เจ้าบ่าวของเธอเปลี่ยนไป จากคนสุภาพอ่อนโยน กลายเป็นคนดิบเถื่อนในทันตา ทว่า...เธอก็ทำใจตัดเขาออกไปจากชีวิตไม่ได้ ตัวอย่างบางตอน แควก “อ๊าย...” หลังจากหลับลงไปด้วยความเพลียที่ต้องต้อนรับแขกเหรื่อในงานแต่งมาทั้งวัน เธอหลับตาลงไปได้ไม่ถึงชั่วโมงจู่ๆ ก็มีมือของใครบางคนกำลังฉุดกระชากชุดเจ้าสาวของเธอจนขาดวิ่น ผ้าชิ้นหนาบวกกับแรงกระชากสร้างความเจ็บแสบให้เนื้อนวลนุ่มนิ่มของเธอไม่น้อยจนต้องระบายความเจ็บเป็นเสียงกรีดร้อง “อื้อ...” ยังไม่ทันที่จะได้ส่งเสียงร้องอีกครั้ง มือหนาของคนที่ขึ้นชื่อว่าเป็นสามีก็กดปิดปากของเธอเอาไว้ ดวงตากลมโตเพ่งมองไปยังชายหนุ่มที่เคยสุภาพและอ่อนโยน ทว่าตอนนี้เธอมองเขาแล้วไม่หลงเหลือความรู้สึกนั้น ดวงตาของเขาที่จ้องมองเธอแข็งกร้าวดิบเถื่อน ประดุจเสือร้ายที่กำลังจะขย้ำเหยื่อ คนที่กำลังคร่อมอยู่บนตัวของเธอคือคนที่เธอเพิ่งเข้าพิธีแต่งงานด้วยจริงๆ หรือ เนื้อหาในนิยายไม่ว่าจะเป็นชื่อคนหรือสถานที่และเหตุการณ์ต่างๆ ล้วนเกิดจากจินตนาการของผู้เขียน ไม่ได้มีเจตนาอ้างอิงถึงใครหรือสิ่งใด ขอทำความเข้าใจ ณ ที่นี้ด้วยนะคะ นิยายเรื่องนี้เป็นเรื่องแรกที่ไรท์เขียน ปี2024 หลังจากห่างหายจากการเขียนนิยายในนามปากกาปลายฟ้าร่วมหกเดือน หวังว่าผลงานชิ้นนี้ของไรท์จะทำให้นักอ่านมีความสุขทุกเวลาที่อ่านนะคะ ...ปลายฟ้ากลับมาแล้วค่า หากชื่นชอบฝากกดติดตามนามปากกา กดนิยายเพิ่มเข้าชั้นหนังสือ กดหัวใจเพื่อเป็นกำลังใจให้ไรท์ด้วยนะคะ ขอบคุณมากๆ ค่ะ สามีเถื่ิอน นี่น่าจะเถื่อนแค่ไม่กี่ตอนนะคะ อิๆ ในเรื่องนี้ส่วนมากจะหวานละมุน แล้วไปดราม่านิดหน่อยช่วงท้ายๆ แต่รวมๆ มีแต่ความหวานเสียส่วนใหญ่ค่ะ (ปล นิยายเรื่องเก่าๆ ของไรท์ที่เคยลงเอาไว้ กำลังทยอยรีไรท์นะคะ หากเจอคำผิดต้องขออภัย ไรท์กำลังเตรียมรื้ออัปเดตใหม่ทั้งหมดค่ะ)
มารู้ว่าตัวเองนั้นรักเธอจนหมดหัวใจก็เมื่อวันที่เธอนั้นกำลังจะจากไป จากคราแรกที่แกล้งรักเพื่อหวังผลประโยชน์ แต่ตอนนี้ยอมทิ้งทุกอย่างเพื่อให้ได้หัวใจของเธอที่รักคืนมา.. เขาจำเป็นต้องแกล้งทำเป็นรักสาวสุดแปลกที่ไม่ใช่สเปคสักนิดเพื่อเงินก้อนโตจากคนเป็นย่าที่จะสร้างธุรกิจเพื่อเป็นหน้าเป็นตาให้กับตัวเอง..แต่..มารู้ว่าตัวเองนั้นรักเธอจนหมดหัวใจก็เมื่อวันที่เธอนั้นกำลังจะจากไป จากคราแรกที่แกล้งรักเพื่อหวังผลประโยชน์ แต่ตอนนี้ยอมทิ้งทุกอย่างเพื่อให้ได้หัวใจของเธอที่รักคืนมา..
ในสายตาของเขา เธอเป็นคนขี้โกหก ในสายตาของเธอ เขาเป็นคนไร้หัวใจ เดิมทีถังหว่านคิดว่าเธอคือคนพิเศษหลังจากอยู่กับเสิ่นติงหลานมาสองปี แต่สุดท้ายก็พบว่าตัวเองเป็นแค่ของเล่นที่สามารถทิ้งได้อย่างตามใจเมื่อไม่มีค่าอีกต่อไป จนกระทั่งถังหว่านเห็นว่าเสิ่นติงหลานพาคนรักของเขาไปตรวจครรภ์ เธอจึงยอมแพ้แล้ว เธอหยุดติดตามเขาอีก แต่จู่ๆ เขากลับไม่ยอมปล่อยเธอไป "ถ้าคุณไม่เชื่อฉัน ทำไมคุณไม่ปล่อยฉันไปล่ะ?" ชายผู้เคยหยิ่งยะโสขนาดนั้น ตอนนี้ก้มหัวลงและขอร้องว่า "หวานหว่าน ฉันผิดไปแล้ว โปรดอย่าทิ้งฉันไป"
เสิ่นชิงกลายเป็นลูกสาวของชาวนาจากคุณหนูที่ร่ำรวยของตระกูลเสิ่นในชั่วข้ามคืน ลูกสาวตัวจริงใส่ร้ายเธอ คู่หมั้นของเธอทำให้เธออับอาย และพ่อแม่บุญธรรมของเธอก็ไล่เธอออกจากบ้าน... ทุกคนต่างรอที่จะหัวเราะเยาะเธอ ทว่าเธอกลับกลายเป็นทายาทของตระกูลเศรษฐีในเมืองอย่างกะทันหัน นอกจาดนี้ เธอยังมีตัวตนหลากหลาย เช่น หัวหน้าแฮ็กเกอร์ระดับนานาชาติ นักออกแบบเครื่องประดับชั้นนำ นักเขียนผู้ยิ่งใหญ่ที่ลึกลับ และอัจฉริยะด้านการแพทย์! พ่อแม่บุญธรรมเสียใจกับการตัดสินใจของตนและบังคับให้เธอแบ่งทรัพย์สินครึ่งหนึ่งให้เพราะพวกเขาเลี้ยงดูเธอมา เมื่อเสิ่นชิงหยิบกล้องออกมาแล้วบันทึกท่าทางอันน่าเกลียดของพวกเขา อดีตคู่หมั้นรู้สึกเสียใจและพยายามจะคืนดีกับเธอ เสิ่นชิงหัวเราะเยาะ "เขาคู่ควรงั้นเหรอ" จากนั้นก็ไล่เขาออกจากเมือง ในที่สุด ผู้มีอำนาจแห่งเมืองก็พูดอ้อนวอนเบาๆ "ไม่จำเป็นต้องแต่งเข้าตระกูลผม เดี๋ยวผมไปหาเอง"
อวิ๋นเจินอาศัยอยู่ในตระกูลอวิ๋นมาเป็นเวลา 20 ปี กลับพบว่าเธอเป็นลูกสาวปลอม พ่อแม่บุญธรรมของเธอวางยาเธอเพื่ออยากจะได้เงินมาลงทุน หลังจากที่อวิ๋นเจินรู้เรื่องนี้ เธอก็ถูกไล่กลับไปที่ชนบท จากนั้นเธอก็ค้นพบว่าตัวเองคือลูกสาวแท้ๆ ของตระกูลเฉียวและมีชีวิตที่หรูหราสุด ๆ หลังจากกลับมา เธอได้รับความรักจากครอบครัวและมีชื่อเสียงโด่งดัง น้องสาวจอมปลอมใส่ร้ายอวิ๋นเจิน แต่เธอไม่คาดคิดว่าอวิ๋นเจินจะมีความสามารถต่างๆ เมื่อต้องเผชิญกับการยั่วยุ เธอได้แสดงความสามารถและทักษะต่างๆ มากมายเพื่อจัดการผู้รังแก มีข่าวลือกันว่าอวิ๋นเจินยังคงโสด และชายหนุ่มชื่อดังแห่งเมืองงก็ผลักเธอไปเข้ากำแพง "คุณนายกู้ ถึงตามราเปิดเผยตัวตนได้แล้วนะ"
"ไล่ผู้หญิงคนนี้ออกไปซะ" "โยนผู้หญิงคนนี้ลงทะเลซะ" ขณะที่ไม่รู้จักตัวตนที่แท้จริงของเหนียนหย่าเสวียน โฮว่หลิงเฉินได้ปฏิบัติต่อเธออย่างไม่เป็นมิตร "คุณหลิงเฉินครับ เธอคือภรรยาของท่านครับ" ผู้ช่วยของหลิงเฉินกล่าวเตือนเขา เมื่อได้ยินเช่นนั้น หลิงเฉินหยุดเพ่งมองไปที่เขาอย่างเย็นชาและบ่นขึ้นมาว่า "ทำไมไม่บอกผมให้เร็วกว่านี้?" นับจากนั้นเป็นต้นมา หลิงเฉินได้ตามใจและรักใคร่ทะนุถนอมหย่าเสวียนมาตลอด โดยไม่มีใครคาดคิดว่าพวกเขาจะหย่าร้างกัน
“หยุดทำบ้าๆ นะพี่สิงห์...อ๊อย...” น้ำผึ้งขนลุกซู่ เขาจูบไซ้ซอกคอของหล่อน ขณะหญิงสาวกำลังยืนส่องกระจกอยู่หน้าอ่างล้างหน้า “พี่ขออีกนิด แค่ภายนอกเท่านั้นนะจ๊ะ ไม่เสียหายอะไรนี่นา...นะครับ” พี่เขยปะเหลาะปะแหละอย่างคนเอาแต่ได้ เสียงออดอ้อนอ่อนหวานเริ่มทำให้น้องเมียใจอ่อนหวามไหว ปล่อยให้มือของเขาเคล้นคลึงสะโพกของหล่อนอย่างนึกมันเขี้ยว สอดท่อนแขนเข้ามาระหว่างง่ามก้น หงายฝ่ามือลูบไล้เข้ามาถึงหนอกเนื้ออุ่นจัดอีกครั้ง ตะล่อมล้วงเข้ามาโอบเนินนูนเหมือนหลังเต่า บีบขยำเบาๆ เหมือนจะประมาณความอวบใหญ่ล้นอุ้งมือ “ของผึ้งใหญ่จัง” มือสัมผัสกลีบเนื้อเป็นพูแน่น โหนกนูนและใหญ่กว่าของเจนนี่มากมาย “อ๊าย...” น้ำผึ้งเสียว กระดกก้นขึ้นโดยอัตโนมัติ สิงหาบีบขยำความเป็นผู้หญิงของหล่อนเป็นจังหวะ หัวใจเต้นแรงกับความอวบใหญ่ที่อัดแน่นอยู่ในอุ้งมือของตน “อย่า...พี่สิงห์...หยุดเดี๋ยวนี้นะ เดี๋ยวพี่เจนนี่มาเห็นผึ้งซวยแน่ๆ” น้องเมียร้องห้ามอย่างสับสนใจ ส่ายก้นทำท่าว่าจะดิ้นหนี แต่ช้ากว่ามือใหญ่ของสิงหาอีกข้างที่กดลงบนแผ่นหลังของหล่อนเหมือนจะล็อกกายไม่ให้ขยับหนี
เมื่อนางย้อนยุคกลายเป็นพระชายาคังที่ถูกขังอยู่ในโรงขังคนบ้า เพิ่งมาถึงฉินเซิงก็กำจัดคนสองคนที่ต้องการทำร้ายนาง นางบุกเข้าไปในงานแต่งงานของคู่รักชั่วชาสองคนนั้นในชุดแดง นางหยิ่งผยองและยั่วยุ ทำให้ชายชั่วโกรธจนกัดฟันแน่นแต่กลับทำอะไรไม่ได้ และหญิงร้ายนั้นก็เกลียดชังอย่างมากทว่าเอาคืนไม่ได้ ท่านอ๋องจิ้นได้เห็นสถานการณ์ทั้งหมดนี้ เขาโค้งงอริมฝีปาก สตรีนางนี้ช่างแตกต่างจากคนอื่นจริงๆ ถูกใจเหลือเกิน เขาจะเอาชนะใจนางและให้ชีวิตที่ดีแกนาง