พอเจ้านายสละโสด บอดี้การ์ดที่เคยตัวติดเป็นเงาเลยกลายเป็นส่วนเกิน การ์ดหนุ่มสองคนเลยตัดสินใจลาพักร้อนพร้อมกัน การพักร้อนครั้งนี้ ทำให้พวกเขาต้องตัดสินใจครั้งใหญ่ หากต้องสละโสด เพราะดันบังเอิญเจอคนที่เขาอยากปกป้องเท่าชีวิตเข้า การผจญภัยครั้งนี้ เขาเกือบเอาชีวิตมาทิ้ง แต่จุดจบกลับดีเกินคาด หากต้องทิ้ง ‘ปืน’ มาจับที่เปิดขวด หรือตะหลิว มันก็ไม่ได้น่าเกลียดเท่าไหร่หรอก นอกจาก ‘ฆ่า’ แล้วการสร้างชีวิตเพิ่มขึ้นมาบนโลก ก็เป็นอะไรที่น่าสนใจไม่น้อย
ตอนที่ 1. เมื่อมาเฟียเบื่อการเป็นโสดแล้ว
เอียน โคลคลี่ยิ้มแล้วก็หมุนตัวกลับมา พร้อมกับรวบมือเรียวเล็กไปกุมไว้ ก่อนจะกระซิบเสียงแหบปร่า... “ไกลตรงไหนกันอานิลา... เราสองคนอยู่ใกล้กันแค่นี้เอง จนเกือบจะหายใจรดกันแล้วนะ...อย่าไปคิดถึงเรื่องอื่นสิ ขอให้คิดแค่เรื่องของเราสองคนก็พอ”
เอียนหยอดหวานสุดฤทธิ์ เพื่อเปลี่ยนความกลัวของอานิลาให้เป็นความกล้า
อานิลาส่ายหน้า เธอเห็นแก่ตัวไม่ได้ คนตรงหน้าไม่ใช่ผู้ชายธรรมดา เขามีบริวารและคนที่ต้องพึ่งพาเขาหลายร้อยชีวิต “ไม่ได้หรอกค่ะ อานิลารู้ตัวดี อานิลามีแต่จะดึงคุณลงต่ำ อานิลาเป็นแค่คนธรรมดาเองนะคะ”
“มันก็จริงนะ แต่ทำไมไม่รู้ ผมอยากจะลองลดตัวลงที่ต่ำ เมื่อผมอยู่ใกล้คุณมากกว่า แต่เรื่องที่ต้องขึ้นสูงนี่ก็น่าสนใจเหมือนกันนะ อยากรู้เหมือนกันว่าผม-จะ-ดัน-คุณ-สูงได้มากแค่ไหน?” เอียนพูดเสียงแหบ เขามองอานิลาด้วยแววตาหวานเชื่อม เลือดลมในตัวเขาแล่นพล่าน มันวิ่งปรู๊ดปร๊าดจนน่าตกใจ เมื่อความคิดเตลิดเลยไปไกลสุดกู่
“คะ!!...คุณพูดถึงอะไรนะคะเอียน” อานิลาผวาเยือก แววตามีความหมายของเอียน ยิ่งทำให้เธอหัวใจเต้นแรง เธอไม่ได้ไร้เดียงสาจนไม่รู้ความนัยที่เอียนพยายามจะสื่อให้รู้...ความหมายที่แฝงมาในคำพูดนั่น ชวนวาบหวามจนสะท้านสะเทือนไปทั้งตัว
“...” ไม่มีคำตอบมีแต่รอยยิ้มแปลกๆ เอียนอยากจะบ้า!! เขาเกิดอารมณ์กำหนัดกับผู้หญิงตรงหน้าทุกสถานการณ์ เขาควบคุมตัวเองไม่ได้เลยหากอยู่ใกล้อานิลา เขาอยากจับหล่อนกดลงบนพื้นและแทรกตัวตนเข้าไปในร่างกายของเธอ ทั้งที่!! เขากับเธอ ไม่เคยอยู่กันสองต่อสองสักครั้ง
เอียนเหลือบมองบอดี้การ์ดคู่ใจ
ทุกย่างก้าวของเขาไม่เคยขาด เดวิด กับคาดิโอเลย
การเกิดมาในตระกูลโคล ที่เป็นผู้ครองอำนาจยิ่งใหญ่
ถึงสมัยนี้ไม่ต้องรบราช่วงชิงอำนาจกันแล้ว แต่ในอิตาลีมีใครไม่รู้บ้างละ ว่าเอียน คือมาเฟีย ธุรกิจของเขามีทั้งโปร่งใสและสีเทา ต่อให้ไม่อยากแตะต้อง แต่ทั้งหมดนั่น ต้นตระกูลโคลสร้างมา
“อานิลา เรายังมีเวลาศึกษานิสัยใจคอกันอีกนาน...เพราะยังไงผมก็ตัดใจปล่อยคุณไปไม่ได้ เชื่อสิคุณกับผม สักวันก็ต้องลงเอยกันแบบที่คุณกำลังกังวลนั่นแหละ ต่อไปนี้ผมจะรุกเต็มที่ หากกลัว...ก็ต้องเสียใจด้วย ผมขาดคุณไม่ได้” เอียดพูดความในใจ เขาหว้าเหว่มานานเกินไปแล้ว ถึงก่อนหน้านี้เขาจะมีผู้หญิงอยู่ข้างกายไม่ขาด แต่ผู้หญิงเหล่านั้น ไม่เหมือนอานิลาสักคนเดียว เขาวางใจหญิงตรงหน้า เหมือนรู้จักกันมาหลายชาติ เขาสบายใจทุกครั้งที่อานิลาอยู่ใกล้ แล้วแบบนี้ เขาจะปล่อยมือจากเธอได้ยังไง
อานิลาเสก้มหน้าซ่อนริ้วแก้มแดงจากสายตาคมวาว แต่เธอกลับไม่รู้สึกกลัว ในหัวใจเธอมีแต่ความวาบหวาม...คนทั้งประเทศเกรงอำนาจเอียนจนหัวหด แต่เธอกลับมองเขาเป็นเทพบุตรสุดหล่อ เขากระด้างก็จริง แต่ก็มากไปด้วยความอบอุ่น เธอรู้สึกปลอดภัยทุกครั้ง หากมีเอียนอยู่ใกล้
ความรู้สึกในใจตรงกันอะไรๆ ที่ควรยาก ก็กลายเป็นเรื่องง่ายๆ กลิ่นอายความรักลอยกรุ่นอยู่รอบตัว ความเศร้า ความสูญเสีย ความทุกข์ลอยหายไปทั้งหมด!!... ต่อไปเอียนคงไม่หมกมุ่นอยู่แต่กับธุรกิจ และคนของเขา ในเมื่อมีเรื่องน่าสนใจมากกว่า...การสร้างครอบครัวที่ไม่เคยมีในสมอง
แต่เวลานี้เอียนอยากลองดู
หากเขาทำได้ ทายาทของเขาจะปลอดภัยและเป็นสุข
เขาอยากวางมือจากธุรกิจสีเทานั่น ปล่อยผลประโยชน์มหาศาลให้กับกลุ่มคนกลุ่มใหม่ เอียนไม่เคยเสียดายอำนาจที่เคยครอบครองเลย เขาเบื่อมากกว่า เบื่อที่ต้องอดทนประคับประครองอำนาจมหาศาลนั่นไว้
เพื่อหลายร้อยชีวิตที่เขาต้องดูแล
แต่กลับไม่มีสักคนที่สงสารเขาเลย
ดังนั้นเสียงดนตรีในใจของคนทั้งคู่จึงดังประสานกัน อาจจะเป็นทำนองเพลงเดียวกันเลยก็ได้ เพลงที่ไพเราะ หวานฉ่ำละมุนละไม ในใจของเอียนตอนนี้สดใส ไม่มีแค่สีเทาหม่นเหมือนเดิม เขาสามารถปล่อยวางความอึดอัดที่เคยมีลงได้ เขาคงต้องปรึกษาผู้ใหญ่ที่เคารพอีกหลายคน จนกว่าจะหาทางออกดีๆ เจอ การวางมือนั่นมันไม่ใช่เรื่องง่าย เพราะคนส่วนใหญ่ยังโลภมาก หากเขายกผลประโยชน์เหล่านี้ให้กับคนที่ไม่คู่ควร ผลร้ายจะตามมาอย่ามหาศาล ดังนั้น ตั้งแต่นี้ไป เขาคงต้องเริ่มคิดใหม่ ทำใหม่ หากปล่อยวางเรื่องนี้ลงได้สำเร็จ อนคตของเขา จะไม่ต้องหวาดระแวงอีกต่อไป
ยี่หวาไม่เคยคิดว่าปลายทางชีวิตของเธอจะจบลงแบบนี้ ก่อนที่เธอจะทิ้งอนาคตที่เหลือไปอย่างไร้ค่า เนื่องจากสุดที่จะทนกับความชอกช้ำที่ได้รับมาจากสามีคนเดียว เธอตัดสินใจฝากดวงใจของตัวเองไว้กับน้องสาวฝาแฝด น้องสาวที่ไม่มีคนรอบตัวรู้จัก มันคือความลับที่เธอปิดบังพวกเขาไว้ สมัยเด็กๆ พ่อกับแม่แยกทางกัน ทั้งสองท่านเลยแบ่งลูกไปเลี้ยงดูคนละคน ยี่หวาอยู่กับแม่ ส่วนญาดาไปอยู่กับบิดา สองสาวที่เหมือนกันทุกกระบิ แตกต่างที่นิสัย คนหนึ่งเรียบร้อย พูดน้อย น่ารัก ส่วนอีกคนตรงข้ามทุกอย่าง แกร่ง และกล้าท้าชน… และเพราะแค้นใจแทนพี่สาว ญาดาเลยรับปากก่อนยี่หวาสิ้นลม เธอจะเอาคืนทั้งสองคนนั้นให้สาสม ไม่ว่าจะเป็นปกป้องสามีสุดที่รักของยี่หวา หรือแม้แต่...ฉันทา ว่าที่ภรรยาคนใหม่แสนผยองคนนั้น สองคนนี้ต้องหาความสุขไม่ได้ เธอจะรังควานพวกเขา ให้เหมือนตกนรกทั้งเป็น...การจองเวรคืองานที่เธอควรทำ…ถ้าเป็นดั่งที่ตั้งใจไว้ ญาดาคงไม่กลุ้มใจหนัก ‘ความรัก’ บทจะมาก็มาประชิด เธออยากแก้แค้น แต่ดันไปหลงรัก ผู้ชายเลวคนนั้นเสียอีก หลังจากเฉดหัวฉันทา คงต้องหาทางมัดใจปกป้อง อย่างน้อยก็ทำเพื่อหลาน ถ้าเธอตกนรก เธอจะลากปกป้องตามไปด้วย...
คงไม่มีความซวยไหนเลวร้ายเท่ากับการถูกตราหน้าว่าเป็น ‘เด็กดริ้ง’ ความตั้งใจของณิรินคือไปจับผิดว่าที่พี่เขย แต่กลับกลายเป็นว่าเธอถูกเข้าใจผิดเสียเอง แถมผู้ชายคนนั้นดันเป็นคนสำคัญที่เธอต้องคอยดูแลระหว่างที่เขามาเจรจา เพื่อเป็นคู่ค้ากับบริษัทของลุงกับป้า หน้าที่นั้นเลยถูกโยนมาให้ณิรินรับผิดชอบ ผู้ชายปากร้ายเอาแต่ใจตัวเอง ค่อนข้างงี่เง่าคนนั้น เขาคิดว่าเธอมีอาชีพเสริม และพยายามเกาะแกะจนณิรินโมโห บางครั้งณิรินก็อดคิดไม่ได้ มันเป็นเพราะช่วงเบญจเพศของเธอหรือเปล่า เรื่องซวยๆ เลยเกิดขึ้นกับเธอไม่หยุดหย่อน
เสียงของเขาดังก้องอยู่ในหู ฉันไม่สามารถสลัดเสียงแหบๆ ของเขาออกไปจากความทรงจำได้เลย นี่เกิดอะไรขึ้นกับฉันนะ สิ่งที่ฉันคิดอยู่นี่คือ...ความผิด แม้จะเป็นแค่ความคิด แต่มันเป็นก้าวแรกที่ฉันตั้งใจทำผิดศีลธรรม กับผู้ชายที่มีภรรยาแล้ว!! ฉันกำลังเป็นคนเลว และอีกไม่ช้า ฉันคงโดนคนทั้งโลกประณามหากฉันไม่หยุดความคิดทุเรศๆ นั่นเสียตั้งแต่ตอนนี้ จะทำยังไงดีล่ะ? ฉันคิดอะไรไม่ออกเลย มีเพียงเสียงแหบๆ ของคน คนนั้นดังก้องอยู่ในหูเท่านั้น “สามีของเธอเดินทางไปทำธุรกิจ” “เธอบอกว่าสามีของเธอจะไม่อยู่ประมาณหนึ่งอาทิตย์!!” “มันจะดีแค่ไหนนะ หากฉันเปลี่ยนสิ่งที่ได้ยินได้ เขาน่าจะไปซัก7ปี” ผมพยายามข่มใจให้รู้สึกเศร้าตาม แต่หัวใจของผมกลับเต้นระรัวเกินกว่าจะควบคุมได้ “คุณอยู่ที่ไหน?
รัชศกปีที่สิบ มันเป็นช่วงเวลาแสนสุขที่ลืมไม่ลง แม้เวลาจะผ่านมาเนิ่นนาน ครั้งหนึ่ง ข้าเคยเป็น ‘สาวงาม’ ที่ผู้คนทั้งเมืองหลงใหล เมืองหลวงกว้างใหญ่ใต้แผ่นฟ้าเดียว ข้าผู้มาก่อนกาล เดิมทีข้าคิดว่าเป็นแค่ความฝันหนึ่งตื่น แต่ที่ไหนได้ ทุกเหตุการณ์ที่ข้าพบเจอ คือเรื่องราวที่เกิดขึ้นจริง ความสุขที่ท่วมท้นอยู่ในใจ เป็นความทรงจำเดียวที่ทำให้ข้าอยากมีชีวิตอยู่ต่อ เพื่อ...รอ...ใครบางคน
เมื่อสามีตะโกนใส่หน้า “ผมต้องการหย่ากับเธอ!! คนที่ผมรักเขากลับมาหาผมแล้ว” เมษาเซ็นจำใจชื่อบนใบหย่าพร้อมทั้งน้ำตาที่ไหลพรู เธอตัดสินใจเก็บงำความลับไว้กับตัว พร้อมกับจากไปโดยไม่ปริปากบอกคีรินเลยสักคำ ผ่านไป 5 ปี เด็กชายคนหนึ่งมาตามหาพ่อ... “ผมจะไปหาพ่อผม ปล่อยผมนะ!!” เสียงแผดก้องบริเวณหน้า ล็อบบี้ แม้แต่คีรินเองยังอดสนใจไม่ได้ เด็กชายคนหนึ่งถูก รปภ. รั้งตัวไว้ เขาดิ้นกระแด๋วๆ ตะโกนลั่น ผิวทั้งหน้าแดงก่ำ มีเม็ดเหงื่อผุดเต็มไปหน้า และเมื่อเด็กชายวิ่งตรงมาหาเขา “พ่อคร๊าฟฟฟฟฟ” คิรินเข่าอ่อน สัญชาตญาณบางอย่างเตือน เด็กชายตรงหน้าเขานี่ เป็นเลือดเนื้อส่วนหนึ่งของเขาร้อยเปอร์เซ็นต์
เป็นข้อเสนอที่น่าสนใจไม่หยอก หากสามารถปราบพยศผู้ชายเจ้าอารมณ์ได้ ดานันจะเป็นอิสระจากข้อผูกมัดของบิดา ทว่า...ในความโชคร้าย มีความโชคดีแอบแฝงอยู่ ว่าที่สามีของเธอ เป็นบุตรชายผู้มั่งคั่งของตระกูลใหญ่ แต่เขาเพิ่งสูญเสียดวงตาไปจากอุบัติเหตุ ดานันต้องรองรับความเกรี้ยวกราดเช่นนี้ จนกว่าจะเปลี่ยนความคิดของเขาได้ ครามไม่ได้พิกลพิการมาตั้งแต่กำเนิด เขามีหนทางรักษาได้ ขึ้นอยู่กับว่า...ดานันจะโน้มน้าวว่าที่สามีของเธอได้หรือเปล่า
หลังจากแต่งงานได้ 2 ปี ในที่สุดเจียงเนี่ยนอันก็ตั้งครรภ์สักที ความดีอกดีใจของเธอแต่กลับแลกกับคำขอหย่าของสามี หลังจากการสมคบคิด เธอนอนในกองเลือด และต้องการขอร้องเขาให้ช่วยเด็กเอาไว้ แต่กลับไม่สามารถติดต่อกับอีกฝ่ายได้ ด้วยความสิ้นหวังเธอจึงออกจากประเทศไป ต่อมาในงานแต่งงานของเจียงเหนียนอัน คุณกู้เสียการควบคุมและคุกเข่าลง ดวงตาของเขาแดงก่ำ "มีลูกของฉัน แล้วเธออยากจะแต่งงานกับใครกัน?"
หยางจื้อซี เด็กกำพร้าจากศตวรรษที่21 ถูกองค์กรมืดเลี้ยงดูจนเติบโตและทำให้เธอกลายเป็นมนุษย์กลายพันธ์ ในระหว่างที่ถูกส่งตัวไปทำภารกิจลับ เธอกลับถูกคนในองค์กรมืดหักหลังและถูกฆ่าโดยเพื่อนสนิทที่เธอไว้ใจมากที่สุด ก่อนสิ้นใจเธอถามเพื่อนสนิทว่าทำไม แต่ไม่ได้รับคำตอบจากปากของอีกฝ่าย สิ่งที่เธอได้รับคือรอยยิ้มที่ดูถูกเหยียดหยามและ คำว่า “โง่” จากปากของอีกฝ่ายเท่านั้น หลังจากที่ตายไปแล้วสิ่งที่เธอคิดไว้ คงจะเป็นนรกหรือที่ไหนสักแห่งที่เป็นโลกหลังความตาย แต่ทว่ามันกลับไม่เป็นเช่นนัน เธอตื่นขึ้นมาในร่างของ หยางจื้อซี เด็กหญิงอายุ เพียง 13 ขวบปีในหมู่บ้านป่าหมอก ในดินแดนโบราณล้าหลังที่ไม่มีในประวัติศาสตร์ คล้ายกับว่าเป็นโลกคู่ขนานที่อยู่อีกมิติหนึ่ง เธอตื่นขึ้นมาในบ้านที่ผุพัง ครอบครัวยากจน มีแม่ที่อ่อนแอและเจ็บป่วย มีพี่น้องที่อายุน้อย มีปู่ย่าตายายที่เห็นแก่ตัวและใจร้าย มีลุงที่เห็นแก่ได้ป้าสะใภ้ที่เต็มไปด้วยความละโมบโมบโลภมาก หยางจื้อซี คิดว่านับจากนี้ไปชีวิตจะต้องอยู่ได้ด้วยตัวเอง หากใครมารังแกก็แค่ทุบตี เธอไม่เชื่อว่าด้วยพลังที่ติดตัวเธอมาจากชาติที่แล้วจะไม่สามารถอยู่รอดได้ในโลกล้าหลังแห่งนี้
ผมต้องทำงานนอกเวลาทุกวันเพื่อหารายได้ประคองชีวิตและจ่ายค่าเรียนมหาวิทยาลัยด้วยตัวเอง เนื่องจากฐานะครอบครัวยากจนและไม่สามารถส่งเสียผมเข้ามหาวิทยาลัยได้ และตอนเรียนที่มหาวิทยาลัย ผมก็ได้พบกับเธอ-สาวแสนสวยที่หนุ่มๆ ทุกคนในชั้นเรียนต่างก็ใฝ่ฝันถึง ไม่เว้นแม้แต่ผมเอง แต่ผมก็รู้ตัวดีว่าตัวเองไม่คู่ควรกับเธอ ถึงอย่างนั้นก็ตาม ผมก็รวบรวมความกล้าสารภาพกับเธอจนได้ สุดท้ายผมนึกไม่ถึงว่าเธอจะยอมตกลงเป็นแฟนกับผม เธอบอกกับผมว่าอยากได้ของขวัญเป็นไอโฟนรุ่นล่าสุด ผมก็ไปรับงานซักเสื้อผ้าให้เพื่อนร่วมชั้นเรียนเพื่อพยายามเก็บเงินซื้อให้เธอจนได้ และในที่สุดหนึ่งเดือนต่อมา ผมก็ซื้อมาได้จริง ๆ แต่ขณะที่ผมกำลังห่อของขวัญเพื่อนำไปมอบให้เธอ ก็พบว่าเธอกำลังมีอะไรกับหัวหน้าทีมฟุตบอลในห้องล็อกเกอร์ เธอเหมือนเปลี่ยนเป็นอีกคนหนึ่งซึ่งผมไม่เคยรู้จักเลย เธอหัวเราะเยาะความโง่เขลาของผม เหยียดหยามศักดิ์ศรีของผม ปล่อยให้เขาซึ่งตอนนี้ได้กลายเป็นแฟนใหม่ของเธอไปแล้ว ทุบตีผม ผมนอนเจ็บอยู่บนพื้นอย่างสิ้นหวัง ต่อมา จู่ ๆ ผมก็ได้รับโทรศัพท์จากพ่อ ตั้งแต่วันนั้น ชีวิตของผมก็ได้เปลี่ยนแปลงไปอย่างกับหนัามือเป็นหลังมือ ใครจะไปรู้ว่า ผมเป็นลูกชายของมหาเศรษฐี
อวิ๋นเจินอาศัยอยู่ในตระกูลอวิ๋นมาเป็นเวลา 20 ปี กลับพบว่าเธอเป็นลูกสาวปลอม พ่อแม่บุญธรรมของเธอวางยาเธอเพื่ออยากจะได้เงินมาลงทุน หลังจากที่อวิ๋นเจินรู้เรื่องนี้ เธอก็ถูกไล่กลับไปที่ชนบท จากนั้นเธอก็ค้นพบว่าตัวเองคือลูกสาวแท้ๆ ของตระกูลเฉียวและมีชีวิตที่หรูหราสุด ๆ หลังจากกลับมา เธอได้รับความรักจากครอบครัวและมีชื่อเสียงโด่งดัง น้องสาวจอมปลอมใส่ร้ายอวิ๋นเจิน แต่เธอไม่คาดคิดว่าอวิ๋นเจินจะมีความสามารถต่างๆ เมื่อต้องเผชิญกับการยั่วยุ เธอได้แสดงความสามารถและทักษะต่างๆ มากมายเพื่อจัดการผู้รังแก มีข่าวลือกันว่าอวิ๋นเจินยังคงโสด และชายหนุ่มชื่อดังแห่งเมืองงก็ผลักเธอไปเข้ากำแพง "คุณนายกู้ ถึงตามราเปิดเผยตัวตนได้แล้วนะ"
ตลอดระยะเวลาสามปีของการแต่งงาน เธอรู้สึกสิ้นหวัง ที่ถูกบังคับให้เซ็นใบหย่า ทั้งๆที่เธอกำลังท้อง เธอใจสลายกับความไร้มนุษยธรรมของเขา กระทั่งเธอออกไปจากชีวิตของเขา เขาเพิ่งรู้ตัวว่าเธอคือรักแท้ของเขา ไม่มีวิธีใดที่จะเยียวยาหัวใจที่บอบช้ำของเธอให้หายขาดได้ เขาจึงมอบความรักทั้งหมดของเขาให้แก่เธอเพื่อชดเชย
เพราะแอบรักกล้าตะวันมากนาน หวันยิหวาจึงทำทุกวิถีทางเพื่อให้ได้ครองรักกับเขา โดยมีมารดาของเขาเป็นผู้ให้การสนับสนุน แต่สำหรับกล้าตะวันแล้ว หวันยิหวาคือนางมารร้ายที่ทำให้เขากับคนรักต้องเลิกรากัน ดังนั้นทุกวินาทีหลังจากงานวิวาห์นี้จบลง หวันยิหวาจะต้องได้รู้จักกับนรกอเวจีปอยเปตอย่างถ่องแท้เลยทีเดียว “อา... อ๊า...อา...” ลำคอระหงถูกซุกไซ้และดูดเม้ม เสื้อผ้าถูกดึงทึ้งออกไปจากร่างกาย จนในที่สุดก็เปลือยเปล่า กล้าตะวันเลียลงมาที่ไหปลาร้า และมาซบหน้าคลุกเคล้ากับร่องอกอวบ เขาดอมดมกลิ่นสาปสาวอย่างหิวกระหาย ขณะที่ฝ่ามือหนาวางทาบลงกับเต้านมอวบอัดข้างซ้ายของหล่อน “อา... อ๊า... ซี๊ดดดด” หล่อนเผยอปากครางลั่น เมื่อปทุมถันถูกฟอนเฟ้นบีบเคล้าหนักหน่วง ปลายนิ้วแข็งแรงถูไถเม็ดเต่งอย่างเมามัน หล่อนดิ้นเร่าๆ หยัดหน้าอกขึ้นหาสัมผัสจากฝ่ามืออบอุ่นด้วยความกระตือรือร้น