อุบัติเหตุครั้งนั้นเกือบพรากชีวิตของเปย์ไป แต่การมีอยู่ของเขาก็เหมือนไร้ตัวตน เพราะต้องนอนเป็นเจ้าชายนิทราและปล่อยลูกเมียให้อยู่ในการดูแลของพี่ชาย โดยไม่เคยรู้การมีอยู่ของลูกสาวตัวน้อย…
อุบัติเหตุครั้งนั้นเกือบพรากชีวิตของเปย์ไป แต่การมีอยู่ของเขาก็เหมือนไร้ตัวตน เพราะต้องนอนเป็นเจ้าชายนิทราและปล่อยลูกเมียให้อยู่ในการดูแลของพี่ชาย โดยไม่เคยรู้การมีอยู่ของลูกสาวตัวน้อย…
• ACTION •
@กทม. สามปีที่แล้วในวันรับปริญญา...
“ญ่ะหญังอยู่ ไปได้แล้วเหนือ (ทำอะไรอยู่ ไปได้แล้วเหนือ) ” เสียงคุณแม่ของเหนือ อู้ภาษาเหนือเพื่อเร่งบัณฑิตหน้าใหม่ให้รีบเข้าไปในหอประชุม เพราะกลัวว่าจะเข้าร่วมพิธีมอบใบปริญญาบัตรไม่ทัน
“เปย์ยังไม่มาเลยน่ะ โทรหาก็บ่ฮับญ่ะจะใดดีแม่ (เปย์ยังไม่มาเลยอ่ะ โทรหาก็ไม่รับทำยังไงดีแม่) ” โทรศัพท์ในมือของสาวแว่น เธอใช้มันระดมโทรหาแฟนหนุ่มของเธอไม่หยุด เพราะกลัวว่าเขาจะมาไม่ทันในพิธีสำคัญนี้
“เดี๋ยวพ่อลองโทรหาเปย์ให้ เหนือเข้าไปก่อนเถอะ เดี๋ยวไม่ทันนะลูก” คุณพ่อคนสุขุมพูดบอกลูกสาวอย่างใจเย็น ด้วยภาษากลางที่ใช้พูดกับเธออยู่เป็นประจำ
“...ก็ได้จ๊ะ งั้นเหนือเข้าไปข้างในก่อนนะ” บัณฑิตสาวโบกมือลาพ่อและแม่ของเธอด้วยสีหน้ากลัดกลุ้ม ในขณะที่วาดตามองไปรอบๆ เพื่อมองหาแฟนหนุ่มของเธอด้วยเช่นกัน
“เฮ้อ~ จะเป็นแม่คนได้จริงๆ เหรอเนี่ย?” เสียงคุณแม่ของเหนือพูดเป็นภาษากลาง เมื่อเธอเจอเรื่องเซอร์ไพรส์จากลูกสาวที่หน้าห้องน้ำเมื่อเช้า เพราะเห็นว่าเธอยืนแน่นิ่งถือที่ตรวจครรภ์อยู่หน้าห้องน้ำ แต่เธอและพ่อของเหนือก็ไม่ได้โกรธเธอเลยกับเรื่องน่ายินดีนั้น หนำซ้ำยังดีใจซะด้วยที่ลูกสาวของเธอกำลังจะได้เป็นแม่คนและมีครอบครัว แต่ก็อดห่วงไม่ได้เพราะตอนนี้เหนือและเปย์มีอายุเพียงแค่22ปีเท่านั้น และเพิ่งจะเรียนจบด้วยกันทั้งคู่
@ในหอประชุม
“เหนือ เปย์เป็นไงบ้าง?” เสียงเพื่อนของเปย์เอ่ยถามกับเหนือเมื่อเห็นว่าเธอเพิ่งเข้ามาด้านในหอประชุม เลยคิดว่าเธอนั้นคงจะติดต่อคุยเรื่องของเปย์อยู่ถึงได้เข้ามาช้า
“เปย์เป็นอะไรเหรอ?” สีหน้ามึนงงของเหนือเอ่ยถามเพื่อนชายคนนั้นกลับอย่างสงสัย
“ยังไม่รู้เหรอ? คลิปกำลังเป็นไวรัล นี่ไง..” เพื่อนชายยื่นคลิปเหตุการณ์ที่เพิ่งเกิดขึ้นเมื่อชั่วโมงก่อนให้เหนือดู
ซึ่งคลิปนั้นก็เป็นภาพอุบัติเหตุที่เกิดขึ้นจากกล้องหน้ารถของรถยนต์ที่จอดให้เปย์เดินข้ามถนน แต่ในขณะที่เปย์กำลังวิ่งข้ามถนนตรงทางม้าลายเพื่อจะเข้ามายังที่จัดงานรับปริญญานั้น ก็มีรถยนต์ที่ขับมาเลนส์ซ้ายด้วยความเร็ว ชนร่างของเปย์กระเด็นไปไกลเกือบสิบเมตร... และเมื่อเห็นแบบนั้นเหนือก็รีบวิ่งออกจากหอประชุมอย่างร้อนใจ เนื้อตัวสั่นน้ำตาคลอด้วยความหวาดกลัวว่าคนรักของเธอจะเจ็บหนัก เพราะภาพที่เห็นนั้นมันช่างรุนแรงเหลือเกิน เธอวิ่งออกไปโดยไม่สนใบปริญญาที่เธอจะต้องขึ้นไปรับอีกไม่กี่ชั่วโมงข้างหน้า เพราะมีบางสิ่งที่สำคัญกว่ารอเธออยู่
@โรงพยาบาล
เมื่อเหนือตัดสินใจโทรเข้าเบอร์ป้ายพี่ชายของเปย์แฟนหนุ่มของเธอ เหนือก็ได้รู้ข่าวจากเขาว่าเปย์ถูกพาส่งตัวไปที่โรงพยาบาลไหน จึงรีบให้พ่อและแม่พามาที่นั่นในทันที
“พี่ป้าย.. เปย์เป็นยังไงบ้างคะ หมอว่าไงบ้าง มีเลือดออกตรงไหนเยอะหรือเปล่า แล้วชนตอนกี่โมงคะ ทำไมไม่เห็นมีใครโทรบอกเหนือเลย ฮือๆ” สาวแว่นในชุดบัณฑิตทิ้งตัวลงนั่งที่พื้นด้านหน้าของป้ายชายหนุ่มร่างสูง พี่ชายแท้ๆ ของเปย์แฟนหนุ่มของเธอ เสียงร้องไห้สั่นเครือของสาวแว่นนั้นโหยหวนไปทั่วรอบบริเวณ
“พี่ขอโทษนะที่ไม่ได้โทรบอกเหนือก่อน” มันเป็นความผิดของผมเองที่บอกให้ไอเปย์ลงรถแล้วข้ามถนนไปก่อน เพราะผมกลัวว่ามันจะไปสายเพราะรถมันติดมาก แต่ก็ไม่คิดว่ามันจะเกิดเหตุการณ์แบบนี้ขึ้น
คนเป็นพี่ยังช็อกกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นอยู่จึงไม่ได้โทรบอกให้ใครรู้ เพราะในชีวิตของเขามีเพียงแค่เขาและน้องชายเท่านั้น เขาจึงทำอะไรไม่ถูกเมื่อเกิดเหตุการณ์แบบนี้ขึ้น...และก็ไม่คิดว่าเหตุการณ์ครั้งนั้นมันจะเปลี่ยนทุกอย่างในชีวิตของเขาไปจนหมดสิ้น น้องชายคนที่เคยเป็นกำลังใจเดียวและสิ่งสำคัญที่สุดในชีวิต ตอนนี้เขายังคงมีชีวิตอยู่ แต่นอนนิ่งไม่ตอบสนองมานานกว่าสามปีแล้ว…
@บ้านของป้าย สามปีต่อมา...
เหตุการณ์ครั้งนั้นทำให้เปย์กลายเป็นเจ้าชายนิทราจนเวลานี้ เขากลับมารักษาตัวอยู่ที่บ้าน โดยที่ป้ายพี่ชายจ้างพยาบาลส่วนตัวมาดูแลเขาอยู่ที่บ้านตลอดยี่สิบสี่ชั่วโมง และนอกจากนั้นที่บ้านหลังนี้ยังมีเหนือน้องสะใภ้ และเนเน่ลูกสาวตัวน้อยของเปย์อยู่ที่บ้านหลังนี้อีกด้วย ...ซึ่งไม่รู้ว่าตอนนี้เปย์จะรู้หรือยังว่าเขามีลูกสาวที่แสนน่ารักและมีหน้าตาละม้ายคล้ายกันกับเขาไม่มีผิด...
@ห้องโถงชั้นสองของบ้าน เวลาสามทุ่ม
ในเวลาที่น้องสะใภ้และหลานสาวไม่อยู่บ้านแบบนี้ ก็เป็นเวลาที่ป้ายจะได้เสพสุขกับดอกไม้ที่เขาเลือกสันมา เพื่อมาบำเรอความสุขให้กับเขาถึงบ้าน...
จ๊วบๆ
“อือ~” ร่างยั่วของสาวสวยในชุดเดรสสีแดงที่ถูกซื้อบริการมาจากข้างนอก กำลังทำหน้าที่เลื้อยยั่วอยู่บนตักของลูกค้าหนุ่มหล่อ
เจ้าของริมฝีปากแดงสดใบหน้าสวยเฉี่ยว ถดตัวลงไปนั่งที่พื้นด้านล่าง เพื่อใช้ปากจัดการกับแกนกลางลำตัวของชายหนุ่มที่นั่งอยู่ด้านบนโซฟาสุดหรูราคาแพง อ๊อกๆ “แคร่กๆ ใหญ่จัง อมไม่มิด” สาวสวยบ่นถึงแกนแท่งใหญ่ที่เธอกำลังอมอยู่ เพราะปากเล็กของเธอไม่สามารถอมมันเข้าไปได้หมด
“งั้นไม่ต้องอมแล้ว ขึ้นมาเลย” เจ้าของดวงตาคมเฉี่ยว พูดบอกสาวสวยเสียงเข้มถึงสิ่งที่เขาต้องการ “อ้อห์..” แต่เพียงแค่หญิงสาวบริการดันส่วนหัวเข้าไปเขาก็ต้องรีบผลักเธอลงจากตักเมื่อเห็นว่าสาวแว่นที่เพิ่งเดินขึ้นบันไดมาหยุดมองการกระทำของเขาอย่างตกใจ... “เหนือ!”
ผลัก!
ปุก! “..อุ๊ย><”
“พี่จี! อย่าพึ่งขึ้นมานะคะ!” เสียงเหนือหันไปบอกกับพี่เลี้ยงที่อุ้มเนเน่ลูกน้อยของเธออยู่ และกำลังเดินตามหลังเธอขึ้นบันไดมาให้หยุด เพราะกลัวว่าลูกสาวของเธอจะเห็นภาพอนาจารเหมือนกับที่เธอเห็นเมื่อครู่
เจ้าของร่างสูงกำยำรีบลุกขึ้นจากโซฟา และดึงกางเกงสแล็คขายาวสีเทาเข้มที่ถอดกองอยู่ที่ข้อเท้าขึ้นมาใส่ให้เรียบร้อยทันทีก่อนที่น้องสะใภ้ของเขานั้นจะหันกลับมา “เอ่อ ...เหนือกลับวันนี้หรอกเหรอ?” เสียงเข้มของป้ายเอ่ยถามกับน้องสะใภ้ในขณะที่ตนนั้นรูดซิปกางเกงอยู่
“คือ.. เหนือเลื่อนไฟท์บินน่ะค่ะ ขอโทษที่ไม่ได้โทรบอกพี่ป้ายก่อนนะคะ” เหนือพูดขอโทษพี่ของสามีเธอเสียงอ่อยในขณะที่เธอนั้นก็ยังยืนหันหลังให้กับเขาอยู่
“หันมาได้แล้วล่ะ..” ในขณะที่พูดบอกกับเหนือน้องสะใภ้ ป้ายเองก็พยามส่งซิกไล่ให้สาวบริการคนนั้นกลับออกไปจากบ้านของเขา ก่อนที่ป้ายจะเอ่ยถามถึงหลานสาวที่ตอนนี้ได้ชื่อว่าเป็นลูกสาวของเขาไปแล้ว “แล้วเนเน่ล่ะ?”
เมื่อสาวแว่นเห็นว่าผู้หญิงแปลกหน้าวิ่งสวนเธอลงบันไดไปแล้วเธอจึงหันไปพูดบอกกับพี่เลี้ยง “พี่จีกลับไปพักเถอะนะคะ เดี๋ยวเหนือดูเนเน่ต่อเอง” ว่าแล้วเธอก็อุ้มลูกน้อยมาสู่อ้อมกอดของเธอก่อนที่เจ้าตัวเล็กจะร้องเรียกหาใครบางคน
“ปะ ปะ” เสียงหนูน้อยเนเน่เรียกหาป้ายปะป๊าของเธอ และถึงแม้ว่าเหนือจะเป็นแม่ผู้ให้กำเนิด แต่ว่าสาวน้อยเนเน่กลับติดป้ายผู้ที่มีศักดิ์เป็นลุงซะมากกว่า
“ครับ~ คิดถึงปะป๊าไหม” เมื่ออยู่ต่อหน้าของเด็กน้อยคนนี้แล้ว ป้ายจะกลายเป็นทุกอย่างที่เธออยากให้เขาเป็น ไม่ว่าจะพ่อหรือตัวตลกก็ตาม ทั้งที่ลุคภายนอกของเขานั้นเป็นคนเข้มขรึมออกไปทางดุๆ ด้วยซ้ำ
“ถึง ถึง ^^ (คิดถึง) ” หนูน้อยยิ้มกว้างพรางดีดตัวหาปะป๊าของเธอ
“มาครับ ไหนให้ป๊าหอมแก้มหน่อย คิดถึงจังเลยไม่ได้เจอกันตั้งหลายวัน” ฟอด~ ฟอด~ เด็กน้อยทำท่าชอบใจเมื่อโดนปะป๊าของเธอหอมฟัดเข้าที่แก้มใสนุ่มนิ่มอมชมพูอย่างเอาใจ
“หอม หอม” นิ้วชี้เล็กจิ๋วชี้ไปที่แก้มของสาวแว่น หรือแม่ของเธอที่ยืนอยู่ใกล้ๆ นั้นเพื่อให้ปะป๊าของเธอทำในแบบเดียวกัน
“ไม่หอมหรอกค่ะ แม่ยังไม่ได้อาบน้ำเลย” เหนือปฏิเสธคำขอของลูกน้อยของเธอที่บอกให้ป้ายหอมแก้มตัวเธอ
“หอม หอม” เจ้าตัวน้อยยังพูดซ้ำเหมือนทุกครั้งเพราะในความคิดของเธอแล้ว เขาสองคนนี้คือพ่อและแม่ของเธอ และเธอก็อยากให้พ่อแสดงความรักต่อแม่ของเธอด้วยเช่นกัน
“ไม่ต้องหรอกค่ะพี่...” ฟอด ฉันพูดบอกเขายังไม่ทันจบ พี่ป้ายก็โน้มหน้าลงมาหอมฉันอีกแล้ว ซึ่งนี่ก็ไม่ใช่ครั้งแรกที่เขาทำแบบนั้นเพราะคำขอของเนเน่ และฉันก็อึดอัดมากๆ ที่ต้องเจอกับเหตุการณ์แบบนี้ เพราะมันไม่สมควรเลยจริงๆ ที่พี่ป้ายจะมาหอมน้องสะใภ้แบบฉัน อีกอย่างฉันกลัวว่าเนเน่จะเป็นเด็กงี่เง่าเสียคนหากว่าตามใจเธอมากๆ
“ขอโทษนะเหนือ พี่ไม่อยากให้ลูกงอแง” ป้ายพูดบอกกับน้องสะใภ้เพราะตนไม่ชอบที่จะเห็นเนเน่ร้องให้งอแง เลยรีบจัดการทุกอย่างให้จบโดยเร็ว ด้วยการตามใจสาวน้อย และเขาก็แก้ปัญหาแบบนั้นมาตลอด โดยมั่นใจในตัวเองว่าต่อให้หอมน้องสะใภ้อีกเป็นร้อยครั้งก็ไม่มีทางเผลอใจให้เธอเป็นแน่...
--------------------------------------------------------------------------
[ติดตามตอนต่อไป] - [Follow the next episode]
[-กดใจ -เพิ่มเข้าชั้น -คอมเมนท์ให้กำลังใจ และฝากกดติดตามไรท์ด้วยนะครับ🙏]
S2(ต่อจากเรื่อง ไอมาเฟียนั่นเมียกู) เรื่องราวความรักของคู่ยูมิ และโจอิ น้องชายตัวแสบของโจดิน
U7 - ฉันเพิ่งมารู้ว่าเด็กที่ฉันถูกว่าจ้างให้อุ้มบุญ เป็นลูกของแฟนเก่าที่เลิกกันไปเมื่อสองปีก่อน… (ผู้ชายที่เขาไม่เคยรักฉัน)
คู่หมั้นของ ‘โจดิน’ มาเฟียผู้ยิ่งใหญ่ ดันเป็น ’ยูมิ’ แฟนสาวผู้อ่อนแอของ ’นิเณอ’ หญิงแกร่งใจกล้า และบุคลิกของเธอมันก็ดันเข้าตาเขาเต็มๆ จนอยากได้เธอมาเป็นเมียแทน…
S2.2 ถ้าเธอไม่หยุด ฉันจะจับเธอทำเมียอีกคน ถือว่าฉันเตือนเธอแล้วนะแสนดี!...
สาวใช้ใสซื่อกับคุณชายทั้ง7คนในคฤหาสน์หลังใหญ่ คุณชายทุกคนต่างก็หมายตาต้องใจและอยากที่จะครอบครองสาวงามนั้นมาเป็นของตนเพียงผู้เดียว แต่มันไม่ง่ายเมื่อมีศัตรูหัวใจถึง6คน ที่เป็นสายเลือดเดียวกัน..[ฮาเร็ม]
ทะลุมิติเข้าไปอยู่ในนิยาย แต่นางกลับได้รับบทเป็นตัวประกอบที่มีบทเพียงฉากเดียว ใครสน!! ในเมื่อฉันรู้อนาคต!! ข้าวยากหมากแพงหรือ? ฉันรู้ล่วงหน้าจ้ะ! กู้ลี่ถิงผู้นี้จะเขียนบทใหม่ของชีวิตด้วยตัวเอง!!
หลังจากแต่งงานได้ 2 ปี ในที่สุดเจียงเนี่ยนอันก็ตั้งครรภ์สักที ความดีอกดีใจของเธอแต่กลับแลกกับคำขอหย่าของสามี หลังจากการสมคบคิด เธอนอนในกองเลือด และต้องการขอร้องเขาให้ช่วยเด็กเอาไว้ แต่กลับไม่สามารถติดต่อกับอีกฝ่ายได้ ด้วยความสิ้นหวังเธอจึงออกจากประเทศไป ต่อมาในงานแต่งงานของเจียงเหนียนอัน คุณกู้เสียการควบคุมและคุกเข่าลง ดวงตาของเขาแดงก่ำ "มีลูกของฉัน แล้วเธออยากจะแต่งงานกับใครกัน?"
กู้ชิงเฉิงเชื่อมั่นมาตลอดว่าตราบใดที่เธอประพฤติตัวดี สักวันหนึ่ง เธอก็จะสามารถชนะใจมู่ถิงเซียวให้ได้ อย่างไรก็ตาม เมื่อเสิ่นถัง รักแรกที่เขาคิดถึงมาตลอดกลับมา ทุกอย่างก็เปลี่ยนไป กู้ชิงเฉิงเป็นคนว่าง่ายสอนง่ายจริงๆ เธอจัดงานแต่งงานด้วยคนเดียว และนอนคนเดียวในห้องผ่าตัดเพื่อรับการรักษาฉุกเฉิน มีข่าวลือว่าเธอบ้าไปแล้ว อันที่จริงเธอบ้าไปแล้วจริงๆ ที่รักใครสักคนอย่างไม่ละอายขนาดนี้ ต่อมา ทุกคนลือกันว่า กู้ชิงเฉิงป่วยหนักและกำลังจะเสียชีวิต มู่ถิงเซียวถึงสูญเสียการควบคุมอย่างสิ้นเชิง "ฉันไม่ปล่อยให้เธอตาย" แต่เธอกลับยิ้มอย่างนิ่งๆ ว่า "ดีจังเลย ฉันเป็นอิสระแล้ว" ใช่แล้ว ไม่ต้องการกู้ชิงเฉิงอีกแล้ว"
เจ้าของร่างเดิมถูกท่านย่าตัวเอง ขายให้ชายพิการด้วยเงินเพียงห้าตำลึง จึงคิดสั้นไปกระโดดน้ำฆ่าตัวตาย ทำให้วิญญาณของเซี่ยซือซือทะลุมิติมาเข้าร่างแทน ชีวิตในโลกนี้บิดามารดาล้วนตายไปแล้ว เหลือเพียงน้องสาวกับน้องชายร่างกายผอมแห้งหิวโซสองคน เธอต้องช่วยพวกเขาให้รอด ก่อนจะถูกคนชั่วพวกนี้ขายทิ้งไปแบบเธอ 1 : ทะลุมิติ แคว้นจ้าว หมู่บ้านตระกูลแซ่อวี่ ภายในบ้านสกุลเซี่ย “ท่านพี่รีบกินเร็วเข้า” เสียงเด็กเล็กดังก้องอยู่ข้างหูอย่างน่ารำคาญ ว่าแต่ฉันมีน้องชายตั้งแต่เมื่อไหร่กัน รู้สึกได้ถึงอะไรแข็ง ๆ มาแตะที่ริมฝีปาก ทว่ายังลืมตาไม่ขึ้น “ท่านพี่กินสิ ๆ” เซี่ยซือซือรู้สึกหนักอึ้งไปทั้งศีรษะ พยายามที่จะเปิดดวงตาขึ้นมอง เจ้าของเสียงเล็ก ๆ ด้านข้าง “ท่านพี่ ๆ ท่านพี่อย่าตายนะ ลืมตาสิท่านพี่” “นังตัวดีออกมาเดี๋ยวนี้นะ !” เสียงเอะอะโวยวายดังหนวกหูเซี่ยซือซือเป็นอย่างมาก ปัง ๆ เสียงเคาะประตูดังขึ้นเรื่อย ๆ เซี่ยซือซือลืมตาขึ้นจนได้ พลันสมองกลับมีเรื่องราวพรั่งพรูเข้ามาไม่ขาดสาย จนต้องกรีดร้องออกมาอย่างเจ็บปวด อ๊าก ! “พี่รอง !” เด็กน้อยเซี่ยซือหยางในวัยสามหนาวเรียกพี่สาวพร้อมเบะปากอยากร้องไห้ “ท่านพี่ !” เซี่ยซานซานทิ้งบานประตูที่ตัวเองดันไว้ หันกลับมาดูพี่สาวด้วยความตกใจ “ท่านพี่ ๆ ท่านเป็นอะไร อย่าทำให้พวกข้าตกใจสิท่านพี่ !” ผลัวะ ! มีคนถีบประตูบานเก่าผุพังเข้ามาภายในห้อง เด็กทั้งสองรีบเข้าไปขวางผู้บุกรุกไม่ให้ทำร้ายพี่สาว แม่เฒ่าเซี่ย เซี่ยจิ่วเม่ย หน้าตาแลดูดุร้าย ไม่ใช่หญิงชราใจดีแต่อย่างใด ด้านหลังของแม่เฒ่าเซี่ยยังมีลูกสะใภ้บ้านใหญ่ กับบ้านรองเดินตามมา ท่าทางดุดันเอาเรื่อง “ไอ้พวกบ้านสามตัวดี กล้าลักขโมยอาหารเอาไว้กินเอง ยังเห็นแม่เฒ่าอย่างข้าอยู่ในสายตาหรือไม่ ไอ้พวกหมาป่าตาขาว ดูซิวันนี้ข้าจะจัดการพวกเจ้าอย่างไร” “ท่านย่าพวกข้าไม่ได้ขโมยนะ นี่เป็นหมั่นโถวของท่านพี่ ท่านพี่ไม่สบายข้าแค่เก็บไว้ให้ท่านพี่เท่านั้นเอง” เซี่ยซานซานยังเป็นเด็กหญิงวัยสิบหนาว แต่นางข่มความกลัวตอบโต้ผู้ใหญ่ในบ้านออกไป “หึ กฎบ้านก็มีบอกอยู่แล้วถ้าพลาดมื้ออาหารไปก็คืออด แต่พวกเจ้ากลับแหกกฎ แอบยักยอกอาหารเก็บไว้กินเอง ยังมีหน้ามาเถียงท่านแม่อีก ท่านแม่ท่านต้องลงโทษคนบ้านสามนะเจ้าคะ ไม่เช่นนั้นข้าไม่ยอมจริง ๆ ด้วย ตอนนั้นยวี่เฟยของข้านางได้พลาดมื้อเย็นไป ท่านก็ไม่ให้นางกินนะเจ้าคะ” สะใภ้บ้านรองนามว่าจงอี้ซิน ย้อนรำลึกถึงเรื่องลูกสาววัยแปดปีของตัวเองขึ้นมา “ดูเจ้าเด็กพวกนี้สิท่านแม่ กางแขนปกป้องพี่สาวตัวเอง ช่างน่าสมเพชไม่รู้จักสำเหนียกกำลังตัวเอง ถุย !” หลินพ่านเอ๋อสะใภ้บ้านใหญ่มองดูเด็กทั้งสองพร้อมถ่มน้ำลายใส่ตรงหน้า แม่เฒ่าเซี่ยมองลูกสะใภ้ทั้งสองสลับกันไปมา เดินตรงไปกระชากหมั่นโถวเย็นชืดแถมแข็งปานหิน ออกจากมือของเซี่ยซือหยาง “แง ๆ ๆ” เด็กน้อยถูกแย่งของกินของพี่สาวไป ถึงกับแผดเสียงร้องลั่น “เจ้าคนชั่ว ! เอามานะ ของท่านพี่ข้า” กำปั้นน้อย ๆ ทุบไปยังต้นขาของแม่เฒ่เซี่ย “เจ้าเด็กเนรคุณกล้าตีข้ารึ นี่นะ !” แม่เฒ่าเซี่ยเตะทีเดียวเซี่ยซือหยางก็กระเด็นไปติดกับผนังห้อง “น้องเล็ก !” เซี่ยซานซานรีบวิ่งไปอุ้มน้องชายขึ้นมากอดไว้ด้วยความตกใจ “ท่านย่า น้องเล็กยังเด็กไม่รู้ความ เหตุใดท่านถึงได้ใจร้ายเช่นนี้” “แง ๆ ๆ” เสียงร้องไห้ของเด็กน้อยฟังแล้วน่าสงสารจับใจ ดวงตาที่ปิดไว้ก่อนหน้าของเซี่ยซือซือ ลืมขึ้นหลังจากค้นพบว่า ตัวเองได้ทะลุมิติมายังอดีตอันไกลโพ้นแล้วจริง ๆ หลังจากหลับตาลืมตาอยู่หลายหน เรียบเรียงความคิดที่ไหลเข้ามาไม่ยอมหยุด เมื่อค่อย ๆ จัดการกับมันได้ ความเจ็บปวดที่ศีรษะก่อนหน้าจึงบางเบาลง และมองเหตุการณ์ตรงหน้าอย่างเฉยชา ครบสูตรของการทะลุมิติจริง ๆ มีท่านย่าผู้ชั่วร้าย ขนาบข้างด้วยป้าสะใภ้เลวทั้งสอง ครั้นหันไปมองน้องสาวในวัยสิบขวบของตัวเองกับน้องชายตัวน้อย ทั้งตัวดำเมี่ยมเหมือนไม่ได้อาบน้ำมาเป็นเดือน ร่างกายผอมแห้งเหลือแต่กระดูก เสื้อผ้าเก่าขาดมีรอยปะชุนเต็มไปหมด เส้นผมแห้งกรังเหมือนไม่ผ่านน้ำมานาน ยกมือของตัวเองขึ้นมาดู ไม่ได้มีสภาพต่างกันแม้แต่น้อย ครั้นเงยหน้ามองป้าสะใภ้ใหญ่ร่างกายอวบอ้วนเต็มไปด้วยก้อนไขมัน ป้าสะใภ้รองแม้ไม่ได้อ้วนแต่ก็ไม่ได้ผอม ยิ่งแม่เฒ่าเซี่ยด้วยแล้ว ร่างกายบึกบึนเหมือนคนกินดูอยู่ดีมาตลอด “ท่านแม่ดูอาซือมองท่านสิเจ้าคะ” สะใภ้ใหญ่เห็นสายตาเย็นเยียบของคนที่นอนอยู่บนเตียงก็อดแปลกใจไม่ได้ ดูเยือกเย็นจนไม่น่าไว้ใจ “เจ้าอย่าคิดว่ากระโดดน้ำตายแล้วทุกอย่างจะจบนะอาซือ ข้ารับเงินคนบ้านถานมาแล้ว ถ้าเจ้าตายข้าจะให้อาซานไปแทนเจ้า” คำพูดของแม่เฒ่าเซี่ยทำให้ดวงตาของเซี่ยซือซือเบิกกว้าง ท่านย่าของนางขายนางให้คนบ้านถานในราคาแค่ห้าตำลึง เจ้าของร่างเดิมไม่อยากไปเป็นเมียคนพิการ เลยไปกระโดดน้ำฆ่าตัวตาย ทว่าเธอที่มาจากยุคปัจจุบันกลับเข้ามาแทนที่เจ้าของร่างนี้ เจ้าของร่างเดิมว่ายน้ำไม่เป็น จึงได้ขาดอากาศตายใต้น้ำ แต่เธอที่เข้ามาสวมร่างกลับพาร่างนี้ขึ้นมาจากน้ำได้ โชคชะตาคงเล่นตลกให้เธอกับเจ้าของร่างเดิมมีชื่อเดียวกัน “ท่านย่าอาซานยังเด็กนัก ท่านอย่าได้ทำเช่นนั้นเลย” นานมากกว่าที่นางจะเอ่ยออกมา “มันอยู่ที่เจ้าอาซือ ข้าขอเตือนเอาไว้ อีกสองวันคนบ้านถานจะมารับตัวเจ้าแล้ว อย่าให้เกิดเรื่องขึ้น ไม่อย่างนั้นข้าจะส่งอาซานไปแทนเจ้า แล้วขายซือหยางทิ้งเสีย” แม่เฒ่าเซี่ยจ้องหน้าเซี่ยซือซือแบบอาฆาต เด็กนี่ก่อนหน้าดูอ่อนแอไร้ทางสู้ ทำไมวันนี้ถึงได้ดูแปลกตาไปนัก “ท่านแม่เจ้าคะ ท่านจะลงโทษคนบ้านสามเรื่องหมั่นโถวนี่อย่างไรเจ้าคะ” สะใภ้ใหญ่ยังไม่ยอมปล่อยสามพี่น้องไปง่าย ๆ “พรุ่งนี้งดอาหารบ้านสาม” แม่เฒ่าเซี่ยเอ่ยแล้วหันหลังเดินออกจากห้องของเด็กน้อยทั้งสามไป โดยมีสะใภ้ใหญ่เดินตามไปด้วย “พวกเจ้าได้ยินแล้วใช่ไหม จำใส่หัวเอาไว้ดี ๆ ด้วยล่ะ” สะใภ้รองหมุนตัวตามหลังไปติด ๆ “ท่านพี่ต่อไปท่านอย่าทำเช่นนี้อีกนะเจ้าคะ ข้ากับน้องเล็กจะทำอย่างไร ถ้าท่านไม่อยู่” เซี่ยซานซานปล่อยเสียงร้องไห้ในทันที
ครอบครัวเสิ่นเลี้ยงดูเซี่ยซางหนิงเป็นเวลา 20 ปี และเธอเองก็ถูกเอาเปรียบมาเป็นเวลา 20 ปีเช่นกัน วันหนึ่ง พวกเขาตามหาลูกสาวตัวจริงพบ และเซี่ยซางหนิงก็ถูกไล่ออกจากตระกูลเสิ่น ได้ยินมาว่าพ่อแม่ผู้ให้กำเนิดของเธอกำลังเผชิญกับความยากลำบากอย่างหนัก แต่ความเป็นจริง พ่อแม่ทางสายเลือดของเธอเป็นตระกูลที่มีชื่อเสียงในเมืองไห่ เป็นตระกูลที่ร่ำรวยที่สุดที่ตระกูลเสิ่นไม่สามารถเอื้อมถึงได้ ตระกูลเสิ่นที่คอยดูว่าเซี่ยซางหนิงจะต้องตกอับอย่างน่าสมเพช แต่กลับต้องตกตะลึงซ้ำแล้วซ้ำเล่ากับตัวตนของเซี่ยซางหนิง ผู้มีอิทธิพลในการเงินระดับโลก วิศวกรระดับแนวหน้า นักแข่งรถอันดับหนึ่งของโลก... เธอยังมีความสามารถที่ซ่อนอยู่อีกกี่อย่างกันแน่ คู่หมั้นยกเลิกการหมั้นกับเซี่ยซางหนิง อย่างไรก็ตาม เมื่อเซี่ยซางหนิงไปออกเดทกับพี่ชายฝาแฝดของเขา เขากลับปรากฏตัวขึ้นและสารภาพรักกับเธอ
ฉู่ว่านยู ผู้สืบเชื้อสายมาจากตระกูลแพทย์แผนโบราณ มีทักษะทางการแพทย์ที่ยอดเยี่ยม ยาที่เธอทำนั้นทุกคนต่างอยากได้ สามารถรักษาได้ทุกโรค แต่กลับไม่คาดคิดว่าจะย้อนยุค กลายเป็นผู้หญิงที่ขี้เหร่ที่สุดในใต้หล้า และยังเอาชนะใจท่านอ๋องด้วย การเริ่มต้นไม่ค่อยดีก็ไม่เป็นไร มาดูกันว่าเธอจะพลิกผันยังไง การแย่งการแต่งงานงั้นเหรอ? เธอทำให้น้องต้องรับบทเรียน แย่งสินเิมดลับมา ให้ชายั่วหญิงร้ายคู่นี้อยู่ด้วยกันตลอดไป ขี้ขลาดเหรอ? เธอจัดการพ่อร้าย สั่งสอนผู้หญิงเสแสร้ง! ขี้เหร่เหรอ? เธอรักษาพิษในตัว และกลายเป็นคนงามอันน่าทึ่ง! ลูกสาวขี้เหร่ของจวนอัครมหาเสนาบดี กลายเป็นผู้สูงส่ง แม้แต่ผู้โหดเหี้ยมบางคนยังหวั่นไหวกับเธอ เมื่อสุดที่รักจะจัดการผู้ใด เขามักจะช่วยเสมอ... แต่น่าเสียดายสุดที่รักคนนั้นไม่มีเขาอยู่ในใจ ฉู่ว่านยู "ออกไป หย่าเลย ผู้ชายมีแต่เป็นภาระของข้าเท่านั้น" เสี่ยวลี่จิงรู้สึกน้อยใจ "ไม่ได้ ข้าให้ครั้งแรกกับเจ้าแล้ว เจ้าต้องรับผิดชอบข้า"
© 2018-now MeghaBook
บนสุด