อุบัติเหตุครั้งนั้นเกือบพรากชีวิตของเปย์ไป แต่การมีอยู่ของเขาก็เหมือนไร้ตัวตน เพราะต้องนอนเป็นเจ้าชายนิทราและปล่อยลูกเมียให้อยู่ในการดูแลของพี่ชาย โดยไม่เคยรู้การมีอยู่ของลูกสาวตัวน้อย…
อุบัติเหตุครั้งนั้นเกือบพรากชีวิตของเปย์ไป แต่การมีอยู่ของเขาก็เหมือนไร้ตัวตน เพราะต้องนอนเป็นเจ้าชายนิทราและปล่อยลูกเมียให้อยู่ในการดูแลของพี่ชาย โดยไม่เคยรู้การมีอยู่ของลูกสาวตัวน้อย…
• ACTION •
@กทม. สามปีที่แล้วในวันรับปริญญา...
“ญ่ะหญังอยู่ ไปได้แล้วเหนือ (ทำอะไรอยู่ ไปได้แล้วเหนือ) ” เสียงคุณแม่ของเหนือ อู้ภาษาเหนือเพื่อเร่งบัณฑิตหน้าใหม่ให้รีบเข้าไปในหอประชุม เพราะกลัวว่าจะเข้าร่วมพิธีมอบใบปริญญาบัตรไม่ทัน
“เปย์ยังไม่มาเลยน่ะ โทรหาก็บ่ฮับญ่ะจะใดดีแม่ (เปย์ยังไม่มาเลยอ่ะ โทรหาก็ไม่รับทำยังไงดีแม่) ” โทรศัพท์ในมือของสาวแว่น เธอใช้มันระดมโทรหาแฟนหนุ่มของเธอไม่หยุด เพราะกลัวว่าเขาจะมาไม่ทันในพิธีสำคัญนี้
“เดี๋ยวพ่อลองโทรหาเปย์ให้ เหนือเข้าไปก่อนเถอะ เดี๋ยวไม่ทันนะลูก” คุณพ่อคนสุขุมพูดบอกลูกสาวอย่างใจเย็น ด้วยภาษากลางที่ใช้พูดกับเธออยู่เป็นประจำ
“...ก็ได้จ๊ะ งั้นเหนือเข้าไปข้างในก่อนนะ” บัณฑิตสาวโบกมือลาพ่อและแม่ของเธอด้วยสีหน้ากลัดกลุ้ม ในขณะที่วาดตามองไปรอบๆ เพื่อมองหาแฟนหนุ่มของเธอด้วยเช่นกัน
“เฮ้อ~ จะเป็นแม่คนได้จริงๆ เหรอเนี่ย?” เสียงคุณแม่ของเหนือพูดเป็นภาษากลาง เมื่อเธอเจอเรื่องเซอร์ไพรส์จากลูกสาวที่หน้าห้องน้ำเมื่อเช้า เพราะเห็นว่าเธอยืนแน่นิ่งถือที่ตรวจครรภ์อยู่หน้าห้องน้ำ แต่เธอและพ่อของเหนือก็ไม่ได้โกรธเธอเลยกับเรื่องน่ายินดีนั้น หนำซ้ำยังดีใจซะด้วยที่ลูกสาวของเธอกำลังจะได้เป็นแม่คนและมีครอบครัว แต่ก็อดห่วงไม่ได้เพราะตอนนี้เหนือและเปย์มีอายุเพียงแค่22ปีเท่านั้น และเพิ่งจะเรียนจบด้วยกันทั้งคู่
@ในหอประชุม
“เหนือ เปย์เป็นไงบ้าง?” เสียงเพื่อนของเปย์เอ่ยถามกับเหนือเมื่อเห็นว่าเธอเพิ่งเข้ามาด้านในหอประชุม เลยคิดว่าเธอนั้นคงจะติดต่อคุยเรื่องของเปย์อยู่ถึงได้เข้ามาช้า
“เปย์เป็นอะไรเหรอ?” สีหน้ามึนงงของเหนือเอ่ยถามเพื่อนชายคนนั้นกลับอย่างสงสัย
“ยังไม่รู้เหรอ? คลิปกำลังเป็นไวรัล นี่ไง..” เพื่อนชายยื่นคลิปเหตุการณ์ที่เพิ่งเกิดขึ้นเมื่อชั่วโมงก่อนให้เหนือดู
ซึ่งคลิปนั้นก็เป็นภาพอุบัติเหตุที่เกิดขึ้นจากกล้องหน้ารถของรถยนต์ที่จอดให้เปย์เดินข้ามถนน แต่ในขณะที่เปย์กำลังวิ่งข้ามถนนตรงทางม้าลายเพื่อจะเข้ามายังที่จัดงานรับปริญญานั้น ก็มีรถยนต์ที่ขับมาเลนส์ซ้ายด้วยความเร็ว ชนร่างของเปย์กระเด็นไปไกลเกือบสิบเมตร... และเมื่อเห็นแบบนั้นเหนือก็รีบวิ่งออกจากหอประชุมอย่างร้อนใจ เนื้อตัวสั่นน้ำตาคลอด้วยความหวาดกลัวว่าคนรักของเธอจะเจ็บหนัก เพราะภาพที่เห็นนั้นมันช่างรุนแรงเหลือเกิน เธอวิ่งออกไปโดยไม่สนใบปริญญาที่เธอจะต้องขึ้นไปรับอีกไม่กี่ชั่วโมงข้างหน้า เพราะมีบางสิ่งที่สำคัญกว่ารอเธออยู่
@โรงพยาบาล
เมื่อเหนือตัดสินใจโทรเข้าเบอร์ป้ายพี่ชายของเปย์แฟนหนุ่มของเธอ เหนือก็ได้รู้ข่าวจากเขาว่าเปย์ถูกพาส่งตัวไปที่โรงพยาบาลไหน จึงรีบให้พ่อและแม่พามาที่นั่นในทันที
“พี่ป้าย.. เปย์เป็นยังไงบ้างคะ หมอว่าไงบ้าง มีเลือดออกตรงไหนเยอะหรือเปล่า แล้วชนตอนกี่โมงคะ ทำไมไม่เห็นมีใครโทรบอกเหนือเลย ฮือๆ” สาวแว่นในชุดบัณฑิตทิ้งตัวลงนั่งที่พื้นด้านหน้าของป้ายชายหนุ่มร่างสูง พี่ชายแท้ๆ ของเปย์แฟนหนุ่มของเธอ เสียงร้องไห้สั่นเครือของสาวแว่นนั้นโหยหวนไปทั่วรอบบริเวณ
“พี่ขอโทษนะที่ไม่ได้โทรบอกเหนือก่อน” มันเป็นความผิดของผมเองที่บอกให้ไอเปย์ลงรถแล้วข้ามถนนไปก่อน เพราะผมกลัวว่ามันจะไปสายเพราะรถมันติดมาก แต่ก็ไม่คิดว่ามันจะเกิดเหตุการณ์แบบนี้ขึ้น
คนเป็นพี่ยังช็อกกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นอยู่จึงไม่ได้โทรบอกให้ใครรู้ เพราะในชีวิตของเขามีเพียงแค่เขาและน้องชายเท่านั้น เขาจึงทำอะไรไม่ถูกเมื่อเกิดเหตุการณ์แบบนี้ขึ้น...และก็ไม่คิดว่าเหตุการณ์ครั้งนั้นมันจะเปลี่ยนทุกอย่างในชีวิตของเขาไปจนหมดสิ้น น้องชายคนที่เคยเป็นกำลังใจเดียวและสิ่งสำคัญที่สุดในชีวิต ตอนนี้เขายังคงมีชีวิตอยู่ แต่นอนนิ่งไม่ตอบสนองมานานกว่าสามปีแล้ว…
@บ้านของป้าย สามปีต่อมา...
เหตุการณ์ครั้งนั้นทำให้เปย์กลายเป็นเจ้าชายนิทราจนเวลานี้ เขากลับมารักษาตัวอยู่ที่บ้าน โดยที่ป้ายพี่ชายจ้างพยาบาลส่วนตัวมาดูแลเขาอยู่ที่บ้านตลอดยี่สิบสี่ชั่วโมง และนอกจากนั้นที่บ้านหลังนี้ยังมีเหนือน้องสะใภ้ และเนเน่ลูกสาวตัวน้อยของเปย์อยู่ที่บ้านหลังนี้อีกด้วย ...ซึ่งไม่รู้ว่าตอนนี้เปย์จะรู้หรือยังว่าเขามีลูกสาวที่แสนน่ารักและมีหน้าตาละม้ายคล้ายกันกับเขาไม่มีผิด...
@ห้องโถงชั้นสองของบ้าน เวลาสามทุ่ม
ในเวลาที่น้องสะใภ้และหลานสาวไม่อยู่บ้านแบบนี้ ก็เป็นเวลาที่ป้ายจะได้เสพสุขกับดอกไม้ที่เขาเลือกสันมา เพื่อมาบำเรอความสุขให้กับเขาถึงบ้าน...
จ๊วบๆ
“อือ~” ร่างยั่วของสาวสวยในชุดเดรสสีแดงที่ถูกซื้อบริการมาจากข้างนอก กำลังทำหน้าที่เลื้อยยั่วอยู่บนตักของลูกค้าหนุ่มหล่อ
เจ้าของริมฝีปากแดงสดใบหน้าสวยเฉี่ยว ถดตัวลงไปนั่งที่พื้นด้านล่าง เพื่อใช้ปากจัดการกับแกนกลางลำตัวของชายหนุ่มที่นั่งอยู่ด้านบนโซฟาสุดหรูราคาแพง อ๊อกๆ “แคร่กๆ ใหญ่จัง อมไม่มิด” สาวสวยบ่นถึงแกนแท่งใหญ่ที่เธอกำลังอมอยู่ เพราะปากเล็กของเธอไม่สามารถอมมันเข้าไปได้หมด
“งั้นไม่ต้องอมแล้ว ขึ้นมาเลย” เจ้าของดวงตาคมเฉี่ยว พูดบอกสาวสวยเสียงเข้มถึงสิ่งที่เขาต้องการ “อ้อห์..” แต่เพียงแค่หญิงสาวบริการดันส่วนหัวเข้าไปเขาก็ต้องรีบผลักเธอลงจากตักเมื่อเห็นว่าสาวแว่นที่เพิ่งเดินขึ้นบันไดมาหยุดมองการกระทำของเขาอย่างตกใจ... “เหนือ!”
ผลัก!
ปุก! “..อุ๊ย><”
“พี่จี! อย่าพึ่งขึ้นมานะคะ!” เสียงเหนือหันไปบอกกับพี่เลี้ยงที่อุ้มเนเน่ลูกน้อยของเธออยู่ และกำลังเดินตามหลังเธอขึ้นบันไดมาให้หยุด เพราะกลัวว่าลูกสาวของเธอจะเห็นภาพอนาจารเหมือนกับที่เธอเห็นเมื่อครู่
เจ้าของร่างสูงกำยำรีบลุกขึ้นจากโซฟา และดึงกางเกงสแล็คขายาวสีเทาเข้มที่ถอดกองอยู่ที่ข้อเท้าขึ้นมาใส่ให้เรียบร้อยทันทีก่อนที่น้องสะใภ้ของเขานั้นจะหันกลับมา “เอ่อ ...เหนือกลับวันนี้หรอกเหรอ?” เสียงเข้มของป้ายเอ่ยถามกับน้องสะใภ้ในขณะที่ตนนั้นรูดซิปกางเกงอยู่
“คือ.. เหนือเลื่อนไฟท์บินน่ะค่ะ ขอโทษที่ไม่ได้โทรบอกพี่ป้ายก่อนนะคะ” เหนือพูดขอโทษพี่ของสามีเธอเสียงอ่อยในขณะที่เธอนั้นก็ยังยืนหันหลังให้กับเขาอยู่
“หันมาได้แล้วล่ะ..” ในขณะที่พูดบอกกับเหนือน้องสะใภ้ ป้ายเองก็พยามส่งซิกไล่ให้สาวบริการคนนั้นกลับออกไปจากบ้านของเขา ก่อนที่ป้ายจะเอ่ยถามถึงหลานสาวที่ตอนนี้ได้ชื่อว่าเป็นลูกสาวของเขาไปแล้ว “แล้วเนเน่ล่ะ?”
เมื่อสาวแว่นเห็นว่าผู้หญิงแปลกหน้าวิ่งสวนเธอลงบันไดไปแล้วเธอจึงหันไปพูดบอกกับพี่เลี้ยง “พี่จีกลับไปพักเถอะนะคะ เดี๋ยวเหนือดูเนเน่ต่อเอง” ว่าแล้วเธอก็อุ้มลูกน้อยมาสู่อ้อมกอดของเธอก่อนที่เจ้าตัวเล็กจะร้องเรียกหาใครบางคน
“ปะ ปะ” เสียงหนูน้อยเนเน่เรียกหาป้ายปะป๊าของเธอ และถึงแม้ว่าเหนือจะเป็นแม่ผู้ให้กำเนิด แต่ว่าสาวน้อยเนเน่กลับติดป้ายผู้ที่มีศักดิ์เป็นลุงซะมากกว่า
“ครับ~ คิดถึงปะป๊าไหม” เมื่ออยู่ต่อหน้าของเด็กน้อยคนนี้แล้ว ป้ายจะกลายเป็นทุกอย่างที่เธออยากให้เขาเป็น ไม่ว่าจะพ่อหรือตัวตลกก็ตาม ทั้งที่ลุคภายนอกของเขานั้นเป็นคนเข้มขรึมออกไปทางดุๆ ด้วยซ้ำ
“ถึง ถึง ^^ (คิดถึง) ” หนูน้อยยิ้มกว้างพรางดีดตัวหาปะป๊าของเธอ
“มาครับ ไหนให้ป๊าหอมแก้มหน่อย คิดถึงจังเลยไม่ได้เจอกันตั้งหลายวัน” ฟอด~ ฟอด~ เด็กน้อยทำท่าชอบใจเมื่อโดนปะป๊าของเธอหอมฟัดเข้าที่แก้มใสนุ่มนิ่มอมชมพูอย่างเอาใจ
“หอม หอม” นิ้วชี้เล็กจิ๋วชี้ไปที่แก้มของสาวแว่น หรือแม่ของเธอที่ยืนอยู่ใกล้ๆ นั้นเพื่อให้ปะป๊าของเธอทำในแบบเดียวกัน
“ไม่หอมหรอกค่ะ แม่ยังไม่ได้อาบน้ำเลย” เหนือปฏิเสธคำขอของลูกน้อยของเธอที่บอกให้ป้ายหอมแก้มตัวเธอ
“หอม หอม” เจ้าตัวน้อยยังพูดซ้ำเหมือนทุกครั้งเพราะในความคิดของเธอแล้ว เขาสองคนนี้คือพ่อและแม่ของเธอ และเธอก็อยากให้พ่อแสดงความรักต่อแม่ของเธอด้วยเช่นกัน
“ไม่ต้องหรอกค่ะพี่...” ฟอด ฉันพูดบอกเขายังไม่ทันจบ พี่ป้ายก็โน้มหน้าลงมาหอมฉันอีกแล้ว ซึ่งนี่ก็ไม่ใช่ครั้งแรกที่เขาทำแบบนั้นเพราะคำขอของเนเน่ และฉันก็อึดอัดมากๆ ที่ต้องเจอกับเหตุการณ์แบบนี้ เพราะมันไม่สมควรเลยจริงๆ ที่พี่ป้ายจะมาหอมน้องสะใภ้แบบฉัน อีกอย่างฉันกลัวว่าเนเน่จะเป็นเด็กงี่เง่าเสียคนหากว่าตามใจเธอมากๆ
“ขอโทษนะเหนือ พี่ไม่อยากให้ลูกงอแง” ป้ายพูดบอกกับน้องสะใภ้เพราะตนไม่ชอบที่จะเห็นเนเน่ร้องให้งอแง เลยรีบจัดการทุกอย่างให้จบโดยเร็ว ด้วยการตามใจสาวน้อย และเขาก็แก้ปัญหาแบบนั้นมาตลอด โดยมั่นใจในตัวเองว่าต่อให้หอมน้องสะใภ้อีกเป็นร้อยครั้งก็ไม่มีทางเผลอใจให้เธอเป็นแน่...
--------------------------------------------------------------------------
[ติดตามตอนต่อไป] - [Follow the next episode]
[-กดใจ -เพิ่มเข้าชั้น -คอมเมนท์ให้กำลังใจ และฝากกดติดตามไรท์ด้วยนะครับ🙏]
S2(ต่อจากเรื่อง ไอมาเฟียนั่นเมียกู) เรื่องราวความรักของคู่ยูมิ และโจอิ น้องชายตัวแสบของโจดิน
U7 - ฉันเพิ่งมารู้ว่าเด็กที่ฉันถูกว่าจ้างให้อุ้มบุญ เป็นลูกของแฟนเก่าที่เลิกกันไปเมื่อสองปีก่อน… (ผู้ชายที่เขาไม่เคยรักฉัน)
เพื่อนของผมดันหาเด็กสาวมาเป็นติวเตอร์ให้ แถมเธอก็กำลังแตกเนื้อสาวซะด้วย ( ความใสซื่อของเธอทำให้ผมสับสนเรื่องตามไปง้อเมียที่เมืองนอกแล้วทำไงดี )
คู่หมั้นของ ‘โจดิน’ มาเฟียผู้ยิ่งใหญ่ ดันเป็น ’ยูมิ’ แฟนสาวผู้อ่อนแอของ ’นิเณอ’ หญิงแกร่งใจกล้า และบุคลิกของเธอมันก็ดันเข้าตาเขาเต็มๆ จนอยากได้เธอมาเป็นเมียแทน…
S2.2 ถ้าเธอไม่หยุด ฉันจะจับเธอทำเมียอีกคน ถือว่าฉันเตือนเธอแล้วนะแสนดี!...
‘สวรรค์หรือโชคชะตาที่เล่นตลก คนอื่นทะลุมิติมามีแต่คนรุมรัก ทว่าตั้งแต่ข้าฟื้นมามีแต่คนอยากจะฆ่า ในเมื่อข้าอยากเป็นเพียงคุณหนูเสพสุขไปวัน ๆ แต่บารมีไม่ถึงวาสนาไม่อำนวย เช่นนั้นข้าจะทำตามลิขิตฟ้า กลายเป็นนางร้ายอย่างที่สวรรค์ต้องการ’
เธอตกหลุมพรางของว่าที่สามีและเพื่อนสนิทของตัวเอง ทำให้เธอสูญเสียไปทุกอย่าง เธอตายอยู่บนถนน เมื่อเธอลืมตาขึ้นมาอีกที ก็พบว่าสามีของเธอกำลังพยายามรัดคอเธอให้ตาย แต่โชคดี ที่สุดท้ายเธอรอดชีวิตมาได้ แล้วเธอก็ตกลงเซ็นข้อตกลงการหย่ากับสามีของเธออย่างไม่ลังเล ที่เธอคิดไม่ถึงคือ แม่ของเธอได้ทิ้งทรัพย์สมบัติจำนวนมหาศาลก้อนหนึ่งให้เธอ ซึ่งช่วยให้เธอได้มีโอกาสแก้แค้นและพลิกสถานการณ์ทั้งหมด จากนั้น ทุกอย่างกำลังจะดีขึ้น และเธอก็ได้รับความรักอีกครั้งกับอดีตสามีของเธอ...
เสิ่นสุยยินถูกบังคับให้ดำรงชีวิตในสถานะที่ด้อยกว่าตั้งแต่เด็ก การถูกกดขี่มาอย่างยาวนานไม่ได้ทำให้เธอสูญเสียความภาคภูมิใจในตัวเองแม้แต่น้อย การตกต่ำของตระกูลเสิ่นในสายตาของคนภายนอกดูเหมือนจะเป็นความเสื่อมของตระกูลสูงศักดิ์ แต่แท้จริงแล้วนี่เป็นโอกาสเดียวของเสิ่นสุยยินที่จะกลับคืนสู่ชีวิตใหม่ นางต่อสู้กับคนอื่นเพื่อแก้แค้นให้ท่านแม่ทว่ากลับไม่รู้ว่าทุกแผนการของนาง เขากำลังจ้องตามองอยู่ ลู่จินหวยให้นางหลอกใช้ตนเองเป็นประโยชน์ได้ตามอำเภอใจของนาง แต่ไม่เคยให้นางต้องเปื้อนเลือดแม้แต่นิด สิ่งที่เขาต้องการมีเพียงตัวนางเท่านั้น “เสิ่นสุยยิน ทางที่ดีเจ้าจะแกล้งทำไปตลอดชีวิต”
จือหลินเธอเป็นเด็กกำพร้า ที่ถูกมารดาทอดทิ้งไว้ที่โรงพยาบาลตั้งแต่วันแรกที่ลืมตามาดูโลก ต่อมาทางโรงพยาบาลจึงส่งตัวเธอให้กับสถานสงเคราะห์ พออายุได้สามปี ก็มีองค์กรหนึ่งมารับเลี้ยงตัวเธอ แต่พวกเขาเลี้ยงเธอและเด็กคนอื่นๆ ไว้เพื่อเป็นหนูทดลองเท่านั้น ครั้งแรกที่ถูกนำตัวมา ต่างก็โดนจับฉีดยาเข้าสู่ร่างกาย เพื่อหาเด็กที่เลือดต้านเชื้อที่ฉีดเข้าไปได้เท่านั้น หากร่างกายทนรับไม่ไว้สิ่งที่ทางองค์กรมอบให้คือความตาย จือหลินอาจเป็นเพราะเลือดของเธอพิเศษกว่าเด็กคนอื่น ไม่ว่าฉีดยาตัวไหนเข้าสู่ร่างกายเธอก็ทนรับได้ทั้งนั้น นับจากนั้นมาเธอจึงถูกเลี้ยงดูจากองค์กรมาอย่างดี เรื่องการศึกษาเธอก็สามารถเรียนรู้ทุกสิ่งได้อย่างเต็มที่ แต่เพราะความฉลาดของเธอจึงถูกส่งให้เรียนวิทยาศาสตร์การแพทย์และเรียนแพทย์ควบคู่ไปด้วย เมื่อเรียนจบมาแล้ว จือหลินยังคงทำการให้องค์กรเช่นเดิม แม้จะไม่ได้เป็นนักฆ่าเช่นเพื่อนคนอื่นที่มาพร้อมกัน แต่เธอก็ต้องฝึกไม่ต่างจากพวกเขา ยิ่งเมื่อต้องนำเด็กเข้ามาเป็นหนูทดลองเช่นเดียวกับเธอในตอนเล็ก ต่อให้ไม่อยากทำก็ต้องทำ หากฝ่าฝืนไม่ทำการชิปที่ถูกฝังอยู่ในตัวจะถูกกระตุ้นให้ได้รับความทรมานทันที นานวันเข้า ความดำมืดก็ก่อเกิดในใจ ไม่ว่าจะฉีดยาให้เด็กร้ายแรงเพียงใดจือหลินก็เลิกรู้สึกผิดไปเสียแล้ว เพราะการทำงานของเธอตลอดหลายปีที่ผ่านมาทำให้ทางองค์กรยกย่องและมักจะให้สิ่งดีๆ กับเธอเสมอ เมื่อมีชิปตัวหนึ่งที่ถูกสร้างขึ้นมาเพื่อฝังมิติอีกห้วงหนึ่งไว้ภายในร่างกาย จือหลินนางก็ได้รับเลือกให้ทดลองใช้สิ่งนี้ด้วยเช่นกัน จือหลินถูกฝังชิปมิติเข้าที่แกนสมองของเธอ ความเจ็บปวดที่ได้รับทำให้เธอแทบสิ้นสติ เมื่อชิปถูกฝังลงไปแล้ว เพียงไม่นานก็มีเสียงจากระบบให้เธอยืนยันตัวตน ก่อนที่จะปรากฏภาพต่างๆ ภายในหัวของเธอ ของจากภายนอกล้วนแต่ถูกส่งเข้าไปเก็บไว้ด้านในได้ทั้งสิ้น หากเป็นเนื้อสด ผักผลไม้ ยังคงความสดอยู่เช่นเดิมแม้จะเก็บไว้นานมากเพียงใด ห้วงมิติของจือหลินเหมือนเป็นห้องสูทในคอนโดของเธอเองที่มีทุกอย่างพร้อมใช้อยู่ภายใน แม้แต่ห้องทดลอง ห้องทำงานของเธอก็ปรากฏอยู่ในนั้นเช่นกัน นับจากนั้นจือหลินจึงซื้อของเขาเก็บภายในมิติของเธอเป็นจำนวนมาก ตัวเธอเพียงผู้เดียวที่สามารถเข้าออกในห้วงมิติได้ วันเวลาผ่านไปจนจือหลินล่วงเข้าวัยสามสิบปี เธอสามารถผลิตยาที่ทำให้ทั่วโลกจับตามองออกมาได้ ยายื้อชีวิตจากความตาย แต่การทดลองของเธอที่ผ่านมาต้องใช้คนจำนวนมากในการเข้าทดลอง จือหลินสามารถยื้อชีวิตของชายชราที่กำลังจะหมดลมหายใจให้กลับมามีชีวิตปกติได้ เมื่อเธอกักตัวเขาไว้ได้หกเดือนเห็นว่าไม่มีสิ่งใดที่ผิดปกติจึงคิดจะปล่อยเขาออกไปใช้ชีวิตเช่นเดิม แต่แล้วสิ่งที่ไม่คาดคิดก็เกิดขึ้น เมื่อชายชราที่กำลังจะเดินออกจากห้องทดลองล้มลงต่อหน้าทุกคนที่เข้าร่วมชื่นชมผลงานของเธอ จือหลินรีบเข้าไปตรวจดูความผิดปกติทันที ก็พบว่าเขาหยุดหายใจเสียแล้ว เจ้าหน้าที่ทั้งหมดจึงต้องพาชายชราคนนั้นกลับเข้าไปในห้องทดลองเพื่อหาสาเหตุ ผ่านไปเพียงสองครึ่งชั่วโมงเขากลับลืมตาขึ้นมาอย่างไม่น่าเชื่อ แต่แววตาที่มองมาทางทุกคนได้เปลี่ยนไป ในดวงตาของชายชราผู้นั้นมีเพียงตาขาวไม่มีตาดำเช่นคนมีชีวิต “เกิดเรื่องอะไรขึ้น” ผู้อำนวยการองค์กรเดินเข้ามาหาจือหลินแล้วเอ่ยถามอย่างตื่นตระหนก เพราะนักข่าวที่ข่าวเชิญมายังอยู่ที่ด้านนอกเพื่อรอฟังคำตอบ “ขอดิฉันตรวจสอบก่อนค่ะ” จือหลินกุมหน้าผากอย่างมึนงง เธอก็ไม่เข้าใจเช่นกันว่าเป็นแบบนี้ไปได้อย่างไร คนทั้งหมดยืนมองชายชราที่เดินท่าทางประหลาดอยู่ในห้องทดลอง ในตอนนี้เขาเริ่มหยิบสิ่งของทำร้ายตัวเองอย่างบ้าคลั่ง เจ้าหน้าที่คนหนึ่งรีบวิ่งเข้าไปในห้องทดลองเพื่อห้ามไม่ให้เขาทำร้ายตัวเอง ชายชราเมื่อได้ยินเสียงคนเดินเข้ามาก็พุ่งเข้ามาหาอย่างรวดเร็ว และเริ่มกัดกินเนื้อตัวของเขาอย่างโหดร้าย คนที่เห็นเหตุการณ์ทั้งหมดต่างยกมือขึ้นปิดปากอย่างตกใจ เพราะกลัวข่าวเรื่องนี้จะรั่วไหล ผู้อำนวยการสั่งให้คนไปแจ้งนักข่าวให้กลับไปก่อน ทางองค์กรจะแถลงการณ์เรื่องนี้ในภายหลัง เจ้าหน้าที่ที่ถูกทำร้ายล้มลงเสียชีวิตไม่นานก็มีสภาพไม่ต่างจากชายชราคนนั้น เสียงวุ่นวายไม่ได้จบลงที่ห้องทดลองของจือหลินเพียงแห่งเดียว เพราะห้องทดลองอื่นก็ล้วนพบเหตุการณ์เช่นนี้ไม่ต่างกัน ผู้อำนวยการจำต้องส่งสัญญาณเคลื่อนย้ายเจ้าหน้าที่ออกจากตึกทดลองให้เร็วที่สุด จือหลินไม่รู้ว่ายาของนางจะสร้างผลเสียมากถึงเพียงนี้ เพราะเจ้าหน้าที่หลายคนล้วนจบชีวิตจนกลายเป็นซอมบี้ไปเสียแล้ว ตึกทดลองถูกปิดตาย เพื่อไม่ให้ซอมบี้ที่อยู่ด้านในออกมาสร้างความเสียหายภายนอกได้ “เรื่องนี้ดิฉันขอจัดการด้วยตนเองค่ะ” จือหลินเดินเข้าไปหาผู้อำนวยการที่ห้องทำงานของเขา เพื่อบอกสิ่งที่เธอคิดว่าอย่างดีแล้วในหลายวันที่ผ่านมา เมื่อเห็นว่าผู้อำนวยการไม่ห้ามในสิ่งที่เธอจะทำจือหลินจึงเดินไปที่หน้าตึกทดลองพร้อมระเบิดเวลาในมือ เธอคิดจะทำลายสิ่งของทุกอย่างที่เธอสร้างขึ้นมาลงด้วยมือของเธอเอง จือหลินเปิดประตูตึกทดลองแล้วรีบปิดลงทันที เธอเดินเข้าไปที่กลางตึกให้มากที่สุดเท่าที่จะทำได้ เพราะระหว่างทางเธอต้องคอยต่อสู้กับซอมบี้ที่จะเข้ามาทำร้ายเธอไปด้วย เสียงสัญญาณระเบิดดังขึ้น จือหลินหลับตาลง พร้อมทั้งถอนหายใจให้กับเรื่องราวในชีวิตที่ผ่านมา เสียงระเบิดดังไปทั่วบริเวณพร้อมทั้งตึกทดลองที่ถล่มลงมาจนแทบไม่เหลือซาก “เจ็บชะมัด” จือหลินร้องครางออกมาเบาๆ แต่เมื่อรู้สึกตัวได้เธอก็รีบพยุงตัวขึ้นนั่งอย่างรวดเร็วพร้อมมองไปรอบๆ อย่างไม่อยากเชื่อ เธอคิดว่าตายไปแล้วเสียอีก แต่ทำไมถึงได้มีความรู้สึกเจ็บได้ “นี้มันเรื่องบ้าอะไรอีกว่ะเนี่ย” จือหลินเบิกตากว้างอย่างไม่อยากเชื่อ รอบๆ ตัวเธอในตอนนี้เป็นป่าทึบ มือของเธอก็ไม่ใช่ของเธออย่างแน่นอนเพราะมีขนาดเล็กราวกับเป็นเด็กน้อยคนหนึ่งเท่านั้น ตอนที่เธอมึนงงสับสน เรื่องราวความทรงจำของเจ้าของร่างก็ไหลเข้าสู่หัวของเธอจนต้องลงไปนอนดิ้นกับพื้น
ต่อหน้าทุกคน เธอเป็นเลขานุการส่วนตัวของท่านประธาน โดยส่วนตัวแล้ว เธอเป็นภรรยาของเขา กู้เวยยีรู้สึกดีใจเป็นอย่างยิ่งเมื่อเธอทราบว่าตนเองตั้งครรภ์ ทว่าเธอกลับเห็นฟู่จิงเฉินกับรักแรกของเขาสิทสนมกัน... เธอจากไปอย่างเศร้าใจและตัดสินใจที่จะให้พวกเขาสมหวัง ต่อมา เมื่อฟู่จิงเฉินมองดูท้องที่ยื่นออกมาของเธอ และถามอย่างตื่นเต้นว่า "้กู้เวยยี นี่คือลูกของใคร!" เธอตอบอย่างหัวเราะเยาะ "มันไม่เกี่ยวอะไรกับคุณด้วย อดีตสามี!"
คิณ อัคนี สุริยวานิชกุล ทายาทคนโตของสุริยวานิชกุลกรุ๊ป อายุ 26 ปี นักธุรกิจหนุ่มที่หน้าตาหล่อเหลาราวกับเทพบุตร เย็นชากับผู้หญิงทั้งโลกยกเว้นเธอเพียงคนเดียวเท่านั้น เอย อรนลิน "เมื่อเขาดึงเธอเข้ามาในวังวนของไฟรักที่แผดเผาหัวใจดวงน้อยๆของเธอให้ไหม้ไปทั้งดวง" "เธอแน่ใจนะว่าจะให้ฉันช่วยค่าตอบแทนมันสูงเธอจ่ายไหวเหรอ?" เอย อรนลิน พิศาลวรางกูล ดาวเด่นของวงการบันเทิงที่ผันตัวไปรับบทนางร้าย เธอสวย เซ็กซี่ ขี้ยั่วกับเขาเพียงคนเดียวเท่านั้น "เขาคือดวงไฟที่จุดประกายขึ้นในหัวใจดวงน้อยๆของเธอให้หลงเริงร่าอยู่ในวังวนแห่งไฟรัก" "อะ อึก จะ เจ็บ เอยเจ็บค่ะคุณคิณ"
© 2018-now MeghaBook
บนสุด