S2(ต่อจากเรื่อง ไอมาเฟียนั่นเมียกู) เรื่องราวความรักของคู่ยูมิ และโจอิ น้องชายตัวแสบของโจดิน
• ACTION •
หลังจากที่ครอบครัวของเรามีข่าวดีเรื่องที่นิเฌอกำลังจะมีหลานให้ฉัน มันก็ทำให้ฉันสบายใจมากขึ้น หมดห่วงกับเรื่องครอบครัวของลูกชายคนโตไปหนึ่ง ส่วนโจไซก็ไม่น่าเป็นห่วงอะไร เพราะเขาเป็นผู้ชายที่น่ารักอ่อนโยนเดี๋ยวก็หาแฟนได้ไม่ยาก แต่คนที่น่าเป็นห่วงที่สุดก็คงเป็นเจ้าโจอิลูกชายคนเล็กของฉันนี่แหละ ที่นับวันยิ่งโตก็ยิ่งดื้อ และดูไม่มีทีท่าว่าจะหาเมียเลย เอาแต่ต่อยตีสร้างเรื่องไปวันๆ ทั้งที่ตอนนี้เขาก็อายุใกล้จะสามสิบแล้ว...
“จะออกไปไหนครับคุณฮารุ?” โจอิเอ่ยถามผู้เป็นแม่ ที่เดินถือกระเป๋าทำท่าจะขึ้นรถออกจากบ้านไปไหนสักที่
“แม่จะไปเยี่ยมยูมิที่บ้านน่ะ” หลังจากที่เจอหน้ายูมิครั้งล่าสุด เธอก็เก็บตัวเงียบอยู่ที่บ้านเช่นเดิมไม่ได้ออกไปไหน จนคุณฮารุอยากไปดูให้เห็นกับตาว่าตอนนี้เธอเบาความเศร้าใจเรื่องพ่อที่จากไปได้แล้วอย่างที่เธอเคยพูดบอกเมื่อครั้งที่เจอกันล่าสุด
“ผมไปด้วย” พอรู้ว่าแม่ของเขาจะไปไหน โจอิก็เกิดอยากตามไปด้วยเพื่อหาเรื่องสนุกๆ ทำแก้เบื่อ และคาดว่าที่บ้านของยูมิน่าจะมีอะไรให้เขาทำเพื่อผ่อนคลายความเบื่อหน่ายที่เป็นอยู่ลงไปได้บ้าง
“อยากไปก็ไปสิ...” แม้จะรู้สึกแปลกใจที่โจอิอยากตามไปด้วย เธอก็ไม่ได้ขัดอะไร
บ้านยูมิ...
เมื่อทั้งคู่เดินทางมาถึงที่บ้าน ก็มีเพียงแค่แม่บ้านที่ออกมาต้อนรับเท่านั้น “ยูมิล่ะ?”
“คุณหนูเธอไปมหาลัยยังไม่กลับเลยค่ะ...” แม่บ้านพูดตอบ
“งั้นเรากลับกันเลยดีไหมครับ”
“นั่นรถยูมิหรือเปล่า” คุณฮารุเอ่ยถามแม่บ้าน เมื่อเห็นว่ามีรถสปอร์ตคันหรูขับเข้ามา
ทว่ารถคันนั้นกลับคุ้นตาโจอิเป็นอย่างมาก ราวกับเคยเห็นมันมาก่อนที่ไหน และเมื่อประตูทั้งสองข้างเปิดออก ก็เห็นว่าคนที่ลงมาจากฝั่งคนขับคือโยชิ เพื่อนเก่าสุดแค้นของเขา ส่วนอีกคนที่ลงจากรถก็เป็นน้องสาวที่เขากับแม่เดินทางมาหา
“ขอบคุณนะคะพี่โยชิ” ยูมิเอ่ยขอบคุณโยชิที่ใจดีขับรถมาส่งเธอที่บ้าน
“ครับ^^” โยชิยิ้มรับคำขอบคุณของสาวสวย ก่อนจะหันมาทำความเคารพผู้ใหญ่ที่อยู่ตรงนั้น นั่นก็คือคุณฮารุแม่ของโจอิ “สวัสดีครับคุณป้า”
“...” โจอิกัดกรามคมด้วยความไม่ชอบใจกับภาพที่เห็น เพราะดูเหมือนว่าโยชิจะกำลังเข้าหายูมิน้องสาวของเขา ที่เป็นมากกว่าแค่น้องสาว
ดูเหมือนว่าผมกับไอโยชิ จะต้องมีคนใดคนหนึ่งตายกันไปข้างแล้วล่ะ...
“งั้นผมขอตัวกลับก่อนนะครับคุณป้า...พี่กลับก่อนนะยูมิ” โยชิขอตัวลาคุณนายฮารุเสร็จ ก็หันมาบอกลาสาวสวยคนที่เขาขับรถมาส่ง
“คุณป้าจะมาทำไมไม่โทรหายูมิก่อนล่ะคะ ยูมิจะได้รีบกลับ...”
“แม่บอกให้เรียกว่าแม่ไง ตอนนี้ยูมิเป็นลูกสาวแม่แล้วนะ” คุณนายฮารุทักท้วงถึงสถานะของเธอและสาวสวยที่เวลานี้เป็นครอบครัวเดียวกันแล้ว
“ค่ะคุณแม่ ว่าแต่มาหายูมิมีอะไรเหรอคะ?”
“แม่อยากมาทานข้าวเย็นกับยูมิน่ะ ว่าจะทำของชอบให้ยูมิทานด้วย” เธอจำได้ว่ายูมิชอบทานอะไรจากคำบอกเล่าของพ่อเธอที่เพิ่งเสียไป
“คุณแม่จะเข้าครัวเองเหรอคะ”
“ใช่จ้ะ”
แม้จะรู้สึกไม่อยากรับแขกเท่าไหร่ แต่พอเห็นถึงความตั้งใจของคุณนายฮารุแล้ว ยูมิก็ไม่อาจปฏิเสธได้ “งั้นยูมิขอเป็นลูกมือช่วยในครัวนะคะ^^”
“งั้นคืนนี้เรานอนค้างที่นี่ดีไหมครับคุณฮารุ ทานข้าวเสร็จแล้วก็อยู่ค้างที่นี่เป็นเพื่อนน้องสักคืน เผื่อว่าน้องจะเหงา...”
“...”
“ต้องถามน้องก่อนสิอยู่ๆ จะมานอนเลยได้ยังไงล่ะ...” คุณนายฮารุพูดดุลูกชายไร้มารยาทของเธอที่คิดจะทำอะไรตามอำเภอใจ
“ก็เราเป็นครอบครัวเดียวกันแล้วไม่ใช่เหรอครับ ทำไมจะนอนไม่ได้ล่ะ หรือว่ายูมิไม่อยากให้พี่กับแม่นอนที่นี่เหรอ?”
“คือ... เราเข้าครัวกันดีกว่านะคะคุณแม่” ยูมิเปลี่ยนเรื่องพูดเพื่อไม่ให้เสียบรรยากาศ ก่อนจะเกี่ยวแขนคุณนายฮารุเดินเข้าบ้านด้วยใบหน้าปั้นยิ้มให้คุณแม่คนใจดีของเธอสบายใจ
ส่วนโจอินั้นก็มองตามหลังยูมิจนเธอเดินหายเข้าบ้านไปจนลับสายตา “เธอเป็นของฉันยูมิ ของฉันคนเดียว...”
โจอิพูดคำนั้นออกมา เพราะรู้สึกว่าเวลานี้ไม่ใช่แค่เขาที่สนใจตำแหน่งหัวหน้าแก๊งมาเฟียที่ว่างอยู่ของตระกูลยูมิ แต่เพื่อนชั่วคู่แค้นของเขาอย่างโยชิ ก็ดูจะอยากได้เธอด้วยเช่นกัน ซึ่งเขายอมไม่ได้หากว่าโยชิจะได้ยูมิรวมถึงครอบครองแก๊งมาเฟียของตระกูลเธอ
เพราะนี่เป็นโอกาสเดียวที่เขาจะได้ก้าวขึ้นเป็นหัวหน้าแก๊ง และเดินตามรอยโจดินพี่ชายคนโตของเขา ซึ่งเขาก็คิดว่าตนเองมีสิทธิ์ในตัวยูมิมากกว่าใคร เพราะเคยได้เธอมาเป็นของเขาแล้ว แม้ว่าจะเป็นการขืนใจก็ตาม...
ภายในห้องครัว...
หลังจากที่โจอิเดินสำรวจรอบบ้านอยู่สักพัก เขาก็เดินเข้ามาที่ครัวเพื่อจะมาวอแวน้องสาวของเขา ซึ่งเวลานี้เธอกำลังยืนล้างผักอยู่ที่ซิงค์ล้างจานคนเดียว โดยไร้เงาแม่ของเขาอยู่บริเวณนั้น
ฟอด~ แก้มใสของยูมิถูกฟัด โดยพี่ชายชั่วที่โผล่เข้ามาสวมกอดเธอจากทางด้านหลังในตอนที่คนตัวเล็กไม่ทันตั้งตัวรับ
“อี๋~ สกปรก!” คนหน้าหวานยกไหล่ขึ้นและใช้ไหล่สวยถูไถไปกับแก้มข้างที่เธอโดนโจอิใช้จมูกโด่งหอมฟัดเมื่อครู่ ด้วยท่าทางขยะแขยงคนพี่
“จูบก็เคยจูบแล้ว *ก็เคยแล้ว ยังจะมารังเกียจอยู่อีก” โจอิพูดพร้อมกับแสดงกิริยาท่าทางหยาบโลนใส่ยูมิ ที่กำลังยืนจ้องมองเขาด้วยสายตารังเกียจขยะแขยง
“ฉันจะฟ้องแม่”
“เอาสิฟ้องเลย บอกแม่ว่าเราเป็นพี่น้องกันไม่ได้เพราะว่ายูมิโดนพี่*ไปแล้ว จะบอกเรื่องที่พี่ขืนใจยูมิด้วยก็ได้นะ เดี๋ยวพี่จะรับผิดชอบยูมิเอง...” โจอิพูดด้วยหน้าตากวนๆ แถมยกยิ้มร้ายอย่างไม่รู้สึกผิดกับสิ่งที่เขาเคยทำไว้กับคนไม่มีทางสู้อย่างยูมิ
“ไอ้ชั่ว!”
เปรี๊ยะ!
คนตัวเล็กสะบัดฝ่ามือน้อยลงที่แก้มของคนพี่เต็มแรง ด้วยความโมโหในคำพูดหยาบโลนของเขาและกิริยาชั่วๆ ที่แสดงต่อเธอราวกับเกิดมาจากขุมนรก
“นี่!” โจอิง้างมือใส่คนตัวเล็ก ทว่าเขาต้องลดมือลงและระงับอารมณ์โกรธไว้ เพราะการใหญ่ที่คิดจะทำอยู่ ซึ่งมันไม่เป็นผลดีหากว่าเขาลงไม้ลงมือกับเธอตอนนี้
“รอเป็นเมียกูเต็มตัวก่อนเถอะมึง...”
หมับ!
“อ๊ะ!” คนตัวเล็กร้องออกมาด้วยความเจ็บที่ถูกมือหนาขนาดใหญ่ของคนพี่ บีบระบายความโกรธลงที่ข้อมือเล็ก
--------------------------------------------------------------------------
[ติดตามตอนต่อไป] • [Follow the next episode]
• เพิ่มเข้าชั้น • กดใจ • คอมเมนท์ และฝากกดติดตามไรท์ด้วยนะครับ~
U7 - ฉันเพิ่งมารู้ว่าเด็กที่ฉันถูกว่าจ้างให้อุ้มบุญ เป็นลูกของแฟนเก่าที่เลิกกันไปเมื่อสองปีก่อน… (ผู้ชายที่เขาไม่เคยรักฉัน)
เพื่อนของผมดันหาเด็กสาวมาเป็นติวเตอร์ให้ แถมเธอก็กำลังแตกเนื้อสาวซะด้วย ( ความใสซื่อของเธอทำให้ผมสับสนเรื่องตามไปง้อเมียที่เมืองนอกแล้วทำไงดี )
คู่หมั้นของ ‘โจดิน’ มาเฟียผู้ยิ่งใหญ่ ดันเป็น ’ยูมิ’ แฟนสาวผู้อ่อนแอของ ’นิเณอ’ หญิงแกร่งใจกล้า และบุคลิกของเธอมันก็ดันเข้าตาเขาเต็มๆ จนอยากได้เธอมาเป็นเมียแทน…
S2.2 ถ้าเธอไม่หยุด ฉันจะจับเธอทำเมียอีกคน ถือว่าฉันเตือนเธอแล้วนะแสนดี!...
หลี่เมิ่งเหยาย้อนเวลามาอยู่ในร่าง ของเด็กสาววัยสิบสองปี ในวันที่มารดาอนุผู้โง่เขลา ถูกขับไล่ออกจากจวน โชคยังดีที่ตอนตาย นางสวมกำไลหยกโลกันตร์เอาไว้ มันจึงติดตามนางมาที่นี่ด้วย +++ 1 : มารดาโง่ จนถูกไล่ออกจากตระกูล จวนตระกูลหลี่เจ้าเมืองถัง สตรีสองนางถูกสาวใช้จับคุกเข่าลง ตรงหน้าของหลี่หงซวนเจ้าเมืองถัง ทั้งยังเป็นพ่อสามีของทั้งคู่อีกด้วย ท่านกำลังสอบสวนเรื่องของสะใภ้ใหญ่ของบ้านสาม ถูกฮูหยินรองกับอนุรวมหัวกันลอบทำร้าย ด้วยการวางยาขับเลือดในถ้วยน้ำแกงบำรุงครรภ์ ทำให้นางต้องสูญเสียทารกในครรภ์ไป “ท่านพ่อข้าไม่รู้จริง ๆ ว่านั่นเป็นยาขับเลือด ฮูหยินรองบอกว่าเป็นน้ำแกงบำรุงครรภ์ ให้ข้าเป็นคนนำไปมอบให้ฮูหยินใหญ่ เป็นนางนั่นเอง นางหลอกข้า !” เฉาซูหลิ่งชี้นิ้วไปทางสตรีด้านข้าง ร้อนรนเอ่ยออกมาเหมือนคนไม่ได้รับความเป็นธรรม “อนุเฉาเจ้าอย่ามาใส่ร้ายข้านะ เจ้าทำคนเดียวทั้งนั้นไม่เกี่ยวกับข้าเลย” ฮูหยินรอง ถูซวงอี้ ชี้นิ้วใส่หน้าเฉาซูหลิ่งกลับคืน ต่างคนต่างโยนความผิดให้กัน ฮูหยินผู้เฒ่าหลิวเยี่ยนหนานโบกมือให้คนเข้ามา “ข้าให้โอกาสพวกเจ้าสองคนพูดความจริง แต่กลับไม่มีใครยอมรับความผิดแม้แต่คนเดียว มันน่าจับส่งทางการให้รู้แล้วรู้รอด” พ่อบ้านหลัวให้คนลากสาวใช้คนหนึ่งเข้ามา สภาพของนางถูกทรมานจนเนื้อตัวบวมช้ำไปหมด “เรียนนายท่านข้าให้คนไปค้นห้องสาวใช้ทุกคนในจวน พบเทียบยาซ่อนไว้ใต้หมอน จากห้องของสาวใช้คนนี้ขอรับ” ถูซวงอี้ถึงกับคุกเข่าต่อไปไม่ไหว ทิ้งตัวลงไปนั่งอยู่บนพื้น สาวใช้ที่ถูกทรมานจนสภาพน่าเวทนานั่น เป็นเสี่ยวอิงสาวใช้สินเดิมของนางเอง “ฮูหยินรอง ข้าขอโทษ ข้าทนต่อไปไม่ไหวจริง ๆ ข้าขอโทษ !” เสี่ยวอิงโขกศีรษะลงตรงหน้าของถูซวงอี้แรง ๆ น้ำตาไหลนองหน้าจน แทบไม่เป็นผู้เป็นคนอยู่แล้ว พ่อบ้านหลัวเอ่ย “ข้าให้คนไปถามที่หอโอสถแล้วขอรับนายท่าน เป็นเทียบยาขับเลือดจริง ๆ” หลี่หงซวนมองไปทางบุตรชายคนที่สามของตน พบว่าเขามีสีหน้ากลืนไม่เข้าคายไม่ออก สตรีที่คุกเข่าอยู่ตรงหน้าคือฮูหยินรอง กับอนุภรรยาที่เขารักใคร่ไม่ต่างกัน เหตุใดถึงได้คิดร้ายต่อฮูหยินใหญ่ของเขาได้ เป็นเหตุให้เขาต้องสูญเสียลูกที่อยู่ในท้องของนางไป เดิมทีฮูหยินใหญ่ของเขาก็ตั้งท้องยากอยู่แล้ว เขารอมาตั้งนานกว่าจะมีวันนี้ได้ ไม่คิดมาก่อนว่าจะต้องสูญเสียไปเช่นนี้ “หย่วนเจ๋อนี่เป็นเรื่องในเรือนของเจ้า เจ้าอยากตัดสินเรื่องนี้ด้วยตัวเองหรือไม่” ผู้เป็นบิดาเอ่ยถามบุตรชาย “ไม่ ข้าไม่อยากเห็นหน้าพวกนางอีกต่อไป แล้วแต่ท่านพ่อเถอะขอรับ ข้าขอตัวไปดูฮูหยินใหญ่ก่อน” หลี่หย่วนเจ๋อคำนับบิดา สะบัดแขนเสื้อเดินจากไปในทันที หางตายังไม่แม้แต่จะมองสตรีทั้งสองนาง เฉาซูหลิ่งลนลานตามเขาไป “ท่านพี่ช่วยข้าด้วย ข้าไม่ผิดนะเจ้าคะ ท่านพี่ !” แต่ถูกบ่าวรับใช้ขวางทางเอาไว้ หลี่หงซวน “หยุดโวยวายได้แล้วอนุเฉา เจ้าเป็นคนถือถ้วยน้ำแกงใส่ยาขับเลือด ไปมอบให้ฮูหยินใหญ่ด้วยตัวเอง ยังคิดจะหนีความผิดนี้ไปได้อีกรึ” “ท่านพ่อขะข้าข้า...ไม่ผิด” เฉาซูหลิ่งทิ้งตัวไปด้านหลังอย่างหมดเรี่ยวแรง เดิมทีนางก็ไม่เป็นที่โปรดปรานของพ่อแม่สามีอยู่แล้ว เพราะไม่สามารถให้กำเนิดบุตรชายได้ ครั้นได้บุตรสาวก็นิสัยขี้ขลาดขี้กลัว ไหนเลยจะเชิดหน้าชูตาให้ตระกูลหลี่ได้ เฉาซูหลิ่งนั่งเหม่อลอย คล้ายคนจิตใจไม่อยู่กับเนื้อกับตัว ขณะที่หลี่หงซวนกำลังประกาศโทษทัณฑ์ของพวกนาง ถูซวงอี้กับคนของนาง ถูกขายออกจากจวน ไปอยู่หอนางโลมอย่างเงียบ ๆ ชาตินี้อย่าได้ก้าวเท้า กลับมาเหยียบที่จวนตระกูลหลี่อีก ส่วนเฉาซูหลิ่งถูกขับไล่ออกจากจวน ไปพร้อมกับบุตรสาว ให้ไปอยู่เรือนร้างของตระกูลหลี่ที่เมืองฉาง ห้ามกลับมาที่ตระกูลหลี่อีกชั่วชีวิต “ท่านพ่อท่านขับไล่ข้าไป ข้ายังพอรับได้ เหตุใดต้องขับไล่เหยาเอ๋อร์ไปด้วย นางเพิ่งจะสิบสองปีเองนะเจ้าคะ” เฉาซูหลิ่งนึกถึงบุตรสาวร่างกายผ่ายผอม นอนซมเพราะพิษไข้อยู่ เกิดนึกสงสารนางขึ้นมาจับใจ ฮูหยินผู้เฒ่าหันไปมองสามีเล็กน้อย นางเห็นเด็กสาวคนนั้นมาตั้งแต่เกิด แม้ไม่ได้เอ็นดูแต่ก็นับว่าเป็นสายเลือดเดียวกัน “ฮูหยินเรื่องนี้ข้าตัดสินใจไปแล้ว ไม่อาจคืนคำได้” คำพูดของประมุขของตระกูล มีหรือใครจะกล้าขัด เฉาซูหลิ่งปล่อยเสียงร้องไห้โฮออกมาดัง ๆ นางโง่งมจนทำให้บุตรสาว ต้องมารับเคราะห์กรรมตามไปด้วย “ลากตัวอนุเฉาออกไป หารถม้าสักคันให้คนส่งนาง ไปที่เรือนร้างเมืองฉาง” คำสั่งของหลี่หงซวนเป็นคำขาด บ่าวไพร่รีบทำตามในทันที ครั้นได้อยู่ด้วยกันเพียงลำพังกับฮูหยินผู้เฒ่า หลี่หงซวนถึงได้บอกเหตุผล ที่ต้องตัดสินใจทำเช่นนี้ นั่นเพราะตระกูลจี้ได้ยื่นคำขาดมา ให้ขับไล่พวกเขาออกไปให้หมด อย่าให้เหลืออยู่แม้แต่ตนเดียว ไม่ต้องการให้คนที่ทำร้ายบุตรสาวของพวกเขา อยู่ระคายสายตาของจี้ชิวหรงอีกต่อไป ฮูหยินผู้เฒ่าแค่นออกมาหนึ่งคำ “อ้างเหตุผลข้าง ๆ คู ๆ ความจริงแล้วต้องการกำจัดอนุในเรือนบุตรสาวทิ้งให้หมด นี่กระทั่งเด็กคนหนึ่งก็ไม่เว้น แต่ก็เอาเถอะ เหยาเอ๋อร์อยู่ที่นี่ ก็ใช่จะมีประโยชน์อันใด นางไม่ได้อยู่ในสายตาของพวกเราด้วยซ้ำ ให้นางไปกับแม่ของนางนั่นแหละดีแล้ว” หลี่หงซวนนั้นเป็นเพียงเจ้าเมืองเล็ก ๆ มีตำแหน่งเป็นขุนนางขั้นที่ห้า ฝั่งตระกูลจี้บ้านเดิมของจี้ชิวหรงนั้น อยู่ในเมืองหลวงมีตำแหน่งใหญ่โตกว่าหนึ่งขั้น เรื่องนี้เขาจึงต้องขบคิด ถึงผลได้ผลเสียในอนาคตอีกด้วย การเสียสละอนุกับหลานสาวคนหนึ่ง เพื่อชดเชยให้แก่คนตระกูลจี้ นับว่าเป็นเรื่องสมควรทำแล้ว “ข้าก็คิดเช่นฮูหยินนั่นแหละ เพียงแต่สะใภ้สามแท้งคราวนี้ ไม่รู้จะยังสามารถตั้งท้องได้อีกหรือไม่ พวกเรารอดูไปก่อนดีกว่า หากนางไม่สามารถตั้งท้องได้จริง ๆ เราค่อยหาอนุมาให้หย่วนเจ๋อภายหลังก็ยังได้ ยามนั้นคนตระกูลจี้จะเอาอะไรมาง้างกับเราได้อีก” “จริงดังท่านว่าเจ้าค่ะ” ฝ่ายเฉาซูหลิ่งที่ถูกคนใช้ ลากตัวออกมาให้เก็บของในเรือน นางส่งเสียงเอะอะโวยวายตลอดทาง พร่ำบอกต้องการพบหลี่หย่วนเจ๋อให้ได้ แต่ถูกสาวใช้ขวางไว้ไม่ให้ไป นางจำใจกลับไปยังห้องนอนของตัวเอง รีบเก็บของสำคัญใส่ห่อผ้าเพื่อออกเดินทาง
เมื่อสองปีที่แล้ว เพื่อช่วยคนรักในใจ พระเอกถูกบังคับให้แต่งงานกับนางเอก ในใจของเขา เธอเป็นคนน่ารังเกียจและแย่งคนรักของคนอื่น เขาเลยเย็นชาต่อเธอมาตลอด แต่กลับอ่อนโยนและเอาใจใส่กับคนรักในใจถึงเป็นเช่นนี้ เธอยังคงรักเขาอย่างเงียบ ๆ เป็นเวลาสิบปี ต่อมาตอนที่เธอรู้สึกเหนื่อยและอยากจะท้อแท้นั้น เขากลับตื่นตระหนก... เมื่อเธอกำลังจะตายขณะตั้งท้องลูกของเขา ในที่สุดเขาก็ตระหนักว่าผู้หญิงที่เขายอมเอาชีวิตตัวเองไปแลกนั้นก็คือเธอโดยตลอด
เธอเกิดในครอบครัวที่ร่ำรวย แต่ต้องประสบเคราะห์กรรมสูญเสียแม่ไปตั้งแต่เด็ก ตั้งแต่วันนั้นเธอก็ไม่มีวันอยู่เป็นสุขเลย พ่อแท้ ๆ และแม่เลี้ยงของเธอบังคับให้เธอแต่งงานกับชายที่เธอไม่รักแทนน้องสาวต่างมารดาของเธอ เธอไม่ยอมแพ้ต่อชะตากรรมของตน ในวันแต่งงาน เธอหนีออกจากบ้านไปและได้มีอะไรกับชายแปลกหน้าคนหนึ่งในคืนนั้น หลังจากนั้นเธอก็พยายามจะหนีไปแต่สุดท้ายก็ถูกพ่อเธอหาจนพบ และหนีไม่รอดชะตากรรมที่จะต้องแต่งงานแทนน้องสาว เธอจะพบว่าชายที่เคยมีอะไรกับเธอในคืนนั้นก็คือสามีของเธอหรือไม่ และเขานั้นจะรู้ว่าเธอเป็นแค่เจ้าสาวปลอมหรือไม่ ตลอดจนความลับเบื้องหลังของสามีคนจนจะเป็นเช่นไร ติดตามไปด้วยกันเลย
ในคืนวันเกิดอายุยี่สิบสองปี ลี่เฉี่ยนโลว่ถูกแฟนหนุ่มวางยา และไปมีอะไรกันกับซือจิ้นเหิง ผู้ชายลึกลับคนหนึ่งตลอดทั้งคืน วันรุ่งขึ้นเธอพบว่าครอบครัวเธอถูกทำลายจนไม่มีอะไรเหลือ เธอแต่งงานกับจิ้นเหิง ได้รับการคุ้มครองจากเขา และใช้เขาเพื่อแก้แค้น "ฉันเป็นภรรยาที่ถูกกฎหมายของเขา" แม้ว่าแม่สามีของเธอจะไม่ยอมรับ แม้ว่าแฟนสาวที่เป็นซุปเปอร์สตาร์ของเขาจะตามมาอยู่ด้วยกัน เธอก็ยังคงยืนยันอยู่อย่างนั้น เธอแท้งโดยบังเอิญ แต่เขากลับเข้าใจผิดว่าเธอไม่อยากมีลูกกับเขา และด้วยความเข้าใจผิดต่าง ๆ อีกหลายหย่าง เธอเลือกที่จะกระโดดลงทะเลเพื่อฆ่าตัวตาย หลายปีต่อมา เมื่อเธอกลับเข้ามาในชีวิตของเขาอีกครั้ง เขาถึงกับตกตะลึง ชายคนนี้ได้สิ่งที่ต้องการจากเธอแล้ว แต่เธอไม่เข้าใจว่าทำไมเขาถึงยังรังควานและทรมานเธอต่อไป
คิณ อัคนี สุริยวานิชกุล ทายาทคนโตของสุริยวานิชกุลกรุ๊ป อายุ 26 ปี นักธุรกิจหนุ่มที่หน้าตาหล่อเหลาราวกับเทพบุตร เย็นชากับผู้หญิงทั้งโลกยกเว้นเธอเพียงคนเดียวเท่านั้น เอย อรนลิน "เมื่อเขาดึงเธอเข้ามาในวังวนของไฟรักที่แผดเผาหัวใจดวงน้อยๆของเธอให้ไหม้ไปทั้งดวง" "เธอแน่ใจนะว่าจะให้ฉันช่วยค่าตอบแทนมันสูงเธอจ่ายไหวเหรอ?" เอย อรนลิน พิศาลวรางกูล ดาวเด่นของวงการบันเทิงที่ผันตัวไปรับบทนางร้าย เธอสวย เซ็กซี่ ขี้ยั่วกับเขาเพียงคนเดียวเท่านั้น "เขาคือดวงไฟที่จุดประกายขึ้นในหัวใจดวงน้อยๆของเธอให้หลงเริงร่าอยู่ในวังวนแห่งไฟรัก" "อะ อึก จะ เจ็บ เอยเจ็บค่ะคุณคิณ"
ทะลุมิติมาในนิยายยุค 80 ว่ายากลำบากแล้วเธอยังต้องมาเลี้ยงลูกแฝดและวางแผนหนีชะตาชีวิตที่นักเขียนระบุให้ตายอย่างทรมานภายใต้เงื้อมมือของพ่อตัวร้ายอีก สวรรค์!ยังจะมีตัวละครทะลุมิติใดบัดซบเท่าเธออีกหรือไม่