U6 - ฉันไม่ใช่พวกใฝ่ต่ำนะ ที่จะได้เอาคนใช้มาทำเมีย…
• ACTION •
เช้านี้เป็นอีกวันที่ใบหม่อนจะหาเรื่องมารดน้ำต้นไม้อยู่ที่สวนฝั่งซ้ายของคฤหาสน์ เพราะต้องการแอบมองคนที่เธอชอบในทุกเช้า ซึ่งวันนี้เธอก็มีเรื่องสำคัญจะพูดบอกเขาอีกด้วย...
“หาว~” เสียงหาวปากกว้างของคุณชายภูริดังขึ้น ก่อนที่เจ้าของร่างสูงยาวจะยืนบิดขี้เกียจไปมาอยู่ที่ระเบียงห้องนอนชั้นสองของตึกใหญ่ และมีเสียงคุ้นหูน่ารำคาญดังขึ้น เสียงที่ทำให้เขาหงุดหงิดทุกครั้งที่ได้ยิน
“ตอนนี้หม่อนโตเป็นสาวเต็มตัวแล้วนะ~ เพิ่งจะยี่สิบเมื่อวานนี้เอง” เสียงของสาวผมเปียในลุกเสื้อผ้าแสนธรรมดา เงยหน้าขึ้นสูงเพื่อพูดโปรยเสน่ห์ใส่คุณชายคนเล็กของบ้านหลังจากที่ยืนรอเจอหน้าเขาอยู่นาน
“เฮ้อ ใครก็ได้เอายัยนี่ออกไปจากบ้านฉันที” เขาพูดลอยๆ ขึ้นอย่างเอือมละอากับท่าทางของเด็กสาวที่แสดงออกต่อเขาตั้งแต่เธออายุเพียงแค่สิบห้าปีจนตอนนี้โตเป็นสาวอย่างที่เธอว่า
“คุณชายสนใจจะ...”
“ไม่!” เขาตะโกนตอบปฏิเสธทันทีตั้งแต่เธอพูดเสนอตัวยังไม่ทันจบประโยค “ฉันไม่ใช่พวกใฝ่ต่ำนะ ที่จะได้เอาคนใช้มาทำเมีย...”
“เจ็บจัง แต่ไม่เป็นไรค่ะ หม่อนยังรักคุณชายเหมือนเดิม^^” เธอพูดตอบกลับด้วยใบหน้าสดใส แม้ว่าท่าทางร้ายๆ ของเขาจะทำให้เธอเจ็บใจอยู่ลึกๆ
“น่ารำคาญ” พูดจบเขาก็เดินกลับเข้าห้องนอนไป
“น่ารำคาญเหรอคะ? เกลียดอะไรระวังจะได้แบบนั้นนะคะคุณชาย~” ใบหม่อนตะโกนตามหลังคุณชายภูริไปท่าทางอ้อล้อ แต่ไม่มีวี่แววว่าเขาจะหันกลับมาสนใจเธอเลยแม้แต่น้อย อีกทั้งยังแสดงท่าทางรำคาญให้เห็นเหมือนทุกที
หลังครัวที่พักคนใช้...
“ไม่ชอบหม่อนขนาดนั้นเลยเหรอ หม่อนไม่สวยตรงไหน” เธอพูดพรางมองดูสภาพของตัวเองด้วยความมั่นใจว่าเธอก็สวยไม่เป็นลองคนใช้คนไหนในคฤหาสน์หลังนี้
“อ่อยกี่ทีก็ไม่เคยมอง เดี๋ยวเถอะ หม่อนเปลี่ยนใจขึ้นมาแล้วคุณชายจะน้ำตาเช็ดหัวเข่า” เด็กสาวผมเปียไม่พูดเปล่าหยิบกิ่งไม้ฟาดตีใบไม้ริมรั้วเพื่อระบายอารมณ์หงุดหงิด
“วันนึงหม่อนก็จะเป็นสะใภ้ รังเกียจเดียดฉันท์หม่อนขนาดนี้ หม่อนก็…”
“ไปจัดสำรับได้แล้วหม่อน! พร่ำเพ้ออะไรของแกอยู่ เดี๋ยวคุณชายเขาก็ได้ด่าหัวเอาอีกหรอก!”
“รู้แล้วแม่!” ใบหม่อนตะโกนตอบกลับคำพูดของแม่เธอท่าทางเกรี้ยวกราด
คุณแม่ยังสวยวัยสามสิบแปดของใบหม่อนนั้นชอบพูดดุเธออยู่บ่อยๆ กับพฤติกรรมชอบอ่อยคุณชายคนเล็กของบ้าน ใบหม่อนมักโดนคุณชายด่ากับเรื่องที่เธอใฝ่สูงอยากจะเป็นคุณหญิงของคฤหาสน์อย่างไม่เจียมตัว และผู้เป็นแม่ก็รับรู้มาตลอดจึงคอยห้ามปรามพฤติกรรมลูกสาวแต่ก็ไม่เป็นผล
หลังครัว...
“คุณชาย~ คุณชายของหม่อน~”
เสียงของใบหม่อนร้องเล่นอยู่หลังครัวกับคนเป็นแม่ ที่ก็มีตำแหน่งเป็นคนใช้ในบ้านนี้ไม่ต่างกันกับเธอที่เป็นลูกสาว ซึ่งเธอเป็นเด็กที่น่ารักและสดใสในสายตาของผู้เป็นแม่และป้าๆ คนใช้ของเธอเสมอ
“ป้าเอาใจช่วยนะหม่อน ถ้าเองได้เป็นเมียคุณชายจริงๆ แม่เองคงสบาย...” เสียงป้าแม่บ้านคนนึงที่ช่วยกันเตรียมอาหารเช้าให้พวกนายท่านพูดขึ้น
“อีกไม่นานหรอกป้า เดี๋ยวหม่อนก็ได้ไปนั่งๆ นอนๆ อยู่ในคฤหาสน์หลังใหญ่นั้นแล้ว^^” คนขี้เล่นจีบปากจีบคอพูดตอบกลับ
“เฮ้อ ปวดหัวจริงๆ”
คนเป็นแม่ถอนหายใจออกมาเมื่อเห็นท่าทางลูกสาวของเธอที่อยากมีผัวจนตัวสั่น หนำซ้ำยังเป็นคนที่ใบหม่อนไม่อาจเอื้อมถึงได้ง่ายๆ อีกด้วย และแม้ว่าเธอจะพูดเตือนไปเป็นร้อยๆ พันๆ ครั้งแล้วก็ตาม ว่าเธอไม่เหมาะสมกับเขาที่อยู่สูงกว่า แต่ใบหม่อนก็ไม่เคยท้อแท้เลยสักนิด
แม้จะโดนคุณชายปฏิเสธมาตลอดห้าปี และคนเป็นแม่ก็พอดูออกว่าคุณชายคนเล็กที่ใบหม่อนหมายปองนั้นเขาเกลียดขี้หน้าเธอยิ่งกว่าอะไร...
“หวังไว้สูง ระวังเถอะ...”
“ตกมาแล้วจะเจ็บ...แม่พูดจนหม่อนจำได้แล้วเนี่ย” เธอพูดต่อคำแม่ของเธอได้ทันควันตั้งแต่ที่ได้ยินเธอเกริ่นประโยคนั้นขึ้นมา
“จำได้ แต่ก็ยังไม่เลิกหวัง แทนที่รู้แล้วจะหยุด...”
“จะให้หยุดได้ไงล่ะ ก็คนมันรักไปแล้ว~” สาวขี้เล่นพูดหน้าตาทะเล้นใส่แม่ของเธอ
“เอาเถอะ ยังไงก็อย่าให้เขาไล่ฉันกับแกออกจากบ้านแล้วกัน ไม่งั้นคงได้เร่ร่อนกันสองคนแม่ลูกแน่...”
“ไม่ต้องห่วงหรอกแม่...อย่างน้อยก็ไม่ได้เร่ร่อนคนเดียว”
“อ้าวเด็กนี่...” เธอเงยหน้าขึ้นมองลูกสาวหัวดื้อของเธอ ที่กำลังนั่งทำหน้ามึนใส่อย่างไม่รู้สึกรู้สา “แกนี่มันดื้อเหมือนพ่อแกไม่มีผิด”
“พ่อตายไปตั้งหลายปีแล้ว ยังจะไปขุดเขาขึ้นมาด่าอยู่ได้” เธอพูดเถียงแม่จบก็เดินหนีแม่ไปช่วยป้าแม่ครัวเตรียมอาหาร
“เหอะ! ให้มันได้อย่างนี้สิ” คนเป็นแม่ถอนหายใจเฮือกใหญ่ให้กับลูกสาวของเธอที่นับวันยิ่งเถียงเก่ง และหัวดื้อเป็นที่สุด
คฤหาสน์...
ที่คฤหาสน์หลังนี้มีคุณ ‘ภาคภูมิ’ ที่เป็นเจ้าของคฤหาสน์ โดยอาศัยอยู่ร่วมกันกับลูกชายของเขาทั้งสามคน คุณชาย ‘ภูดิท’ ในวัยสามสิบสองปี คุณชาย ‘ภูผา’ ในวัยสามสิบ และ คุณชาย ‘ภูริ’ ในวัยยี่สิบแปดปี
ทั้งสี่คนพ่อลูกอาศัยอยู่ที่คฤหาสน์หลังนี้ด้วยกัน ซึ่งก็เป็นเวลานานมากแล้วที่แม่ของพวกเหล่าคุณชายจากไป แต่บ้านหลังนี้ก็ยังคงความสุขอยู่เช่นเดิม เพราะมีคุณพ่อที่แสนใจดีอย่างคุณภาคภูมิที่คอยเลี้ยงลูกชายด้วยความรักและความเข้าใจ
ห้องทานข้าว...
“เตรียมตัวพร้อมกับงานคืนนี้กันแล้วใช่ไหม?” เสียงนุ่มทุ้มของท่านภาคภูมิเอ่ยถามกับลูกชายทั้งสองของเขาที่นั่งร่วมโต๊ะทานข้าวด้วยกันเวลานี้
“เตรียมพร้อมแล้วครับพ่อ” ลูกชายคนโตพูดตอบ
“ดี งั้นคืนนี้พ่อฝากช่วยกันรับแขกที่งานด้วยนะ”
“ครับพ่อ” เสียงภูผาพูดรับคำสั่ง
“ว่าแต่เจ้าภูริยังไม่ลงมาอีกเหรอเนี่ย?”
“ให้หม่อนขึ้นไปตามบนห้องให้ไหมคะ?” ใบหม่อนที่ยืนรอตักข้าวให้เจ้านายทั้งสี่เอ่ยปากอาสา แต่ก็ถูกขัดจังหวะขึ้นซะก่อน
“ไม่ต้อง อย่าได้คิดจะขึ้นไปบนห้องฉันเชียว...” เสียงภูริที่เพิ่งเดินมาถึงพูดบอกสาวคนใช้อย่างไร้เยื่อใย จนทำเธอฝันสลายรีบหุบยิ้มลงในทันที
“- -”
“อ๋อจริงสิ เมื่อวานวันเกิดหม่อนใช่ไหม?”
“ใช่ค่ะคุณชาย” ใบหม่อนตอบกลับภูผาคุณชายคนกลางของบ้านท่าทางสดใส
“นี่ ของขวัญ”
“คุณชายให้หม่อนเหรอคะ”
“เสียดายจังที่ฉันไม่รู้ว่าเมื่อวานเป็นวันเกิดหม่อน ไม่งั้นคงได้มีของขวัญมาให้” เสียงเจ้าบ้านพูดขึ้นอย่างเอ็นดูสาวหน้าใส เมื่อเห็นว่าลูกชายคนกลางของตนยื่นของขวัญให้กับเด็กสาวคนใช้ที่พวกเขาต่างก็เอ็นดูเธอ ยกเว้นลูกชายคนเล็กของบ้าน
“ไม่เป็นไรคะคุณท่าน...” ใบหม่อนยิ้มรับคำพูดนั้น
“ในนั้นมีชุดสวยอยู่ เย็นนี้หม่อนใส่ชุดนี้มาหาฉันที่นี่นะ”
“...” เธอไม่เข้าใจในการกระทำของคุณชายภูผาที่บอกกับเธอเช่นนั้น ซึ่งก็มีคนที่สงสัยเหมือนกับเธอเช่นกัน
“นายจะทำอะไร?” ภูดิทเอ่ยถามน้องชายของเขา
“คืนนี้ผมว่าจะพาหม่อนไปออกงานด้วยครับ ถ้ามีสาวสวยไปออกงานด้วยคงดี...” เขาพูดจบก็หันมองหน้าใบหม่อนสาวสวยที่เขาพูดถึง ส่วนน้องชายคนเล็กก็นั่งเบะปากเมื่อได้ยินพี่ชายของตนเอ่ยปากชมสาวคนใช้ว่าสวย
--------------------------------------------------------------------------
[ติดตามตอนต่อไป] - [Follow the next episode]
[-กดใจ -เพิ่มเข้าชั้น -คอมเมนท์ให้กำลังใจ และฝากกดติดตามไรท์ด้วยนะครับ🙏]
S2(ต่อจากเรื่อง ไอมาเฟียนั่นเมียกู) เรื่องราวความรักของคู่ยูมิ และโจอิ น้องชายตัวแสบของโจดิน
U7 - ฉันเพิ่งมารู้ว่าเด็กที่ฉันถูกว่าจ้างให้อุ้มบุญ เป็นลูกของแฟนเก่าที่เลิกกันไปเมื่อสองปีก่อน… (ผู้ชายที่เขาไม่เคยรักฉัน)
เพื่อนของผมดันหาเด็กสาวมาเป็นติวเตอร์ให้ แถมเธอก็กำลังแตกเนื้อสาวซะด้วย ( ความใสซื่อของเธอทำให้ผมสับสนเรื่องตามไปง้อเมียที่เมืองนอกแล้วทำไงดี )
คู่หมั้นของ ‘โจดิน’ มาเฟียผู้ยิ่งใหญ่ ดันเป็น ’ยูมิ’ แฟนสาวผู้อ่อนแอของ ’นิเณอ’ หญิงแกร่งใจกล้า และบุคลิกของเธอมันก็ดันเข้าตาเขาเต็มๆ จนอยากได้เธอมาเป็นเมียแทน…
S2.2 ถ้าเธอไม่หยุด ฉันจะจับเธอทำเมียอีกคน ถือว่าฉันเตือนเธอแล้วนะแสนดี!...
ในวันแต่งงาน เสิ่นเยวียนถูกคู่หมั้นและน้องสาวของเธอทำร้าย และถูกจำคุกเป็นเวลาสามปีด้วยความทุกข์ทรมาน หลังจากได้รับการปล่อยตัวจากคุก น้องสาวผู้ชั่วร้ายได้คุกคามด้วยชีวิตแม่และพยายามให้เธอมอบตัวกับชายชรา อย่างไรก็ตาม เธอได้พบกับเซียวเป่ยหาน ซึ่งเป็นผู้ทรงอิธิพลที่หล่อเหลาและเย็นชาแห่งแห่งสังคมด้านมืด อย่างไม่คาดคิด และชะตากรรมของเธอก็เปลี่ยนไปตั้งแต่นั้นเป็นต้นมา แม้ว่าเซียวเป่ยหานจะเย็นชา แต่เขากลับปฏิบัติต่อเสิ่นเยวียนดั่งเป็นสมบัติล้ำค่า นับแต่นั้นมา เธอจัดการคนเสแสร้ง เอาคืนแม่เลี้ยงและไม่ถูกกลั่นแกล้งอีกต่อไป
หลังจากอุบัติเหตุทางรถยนต์ เจียงหว่านฉือตื่นขึ้นมาด้วยความเจ็บปวด ทีแรกเธอยังคิดว่าสามีของเธอที่แต่งงานกันมาเป็นเวลาสามปีนั้นมาที่นี่เพื่อดูอาการของเธอ แต่ไม่คิดเลยว่า ชายคนนั้นกลับเดินไปที่ห้องผู้ป่วยข้างๆ เพื่อดูแลผู้หญิงอีกคนหนึ่ง และเพื่อผู้หญิงคนนั้นแล้ว เขายังต้องการส่งเธอเข้าคุกด้วย "2500 ล้าน เพื่อแลกกับการตบผู้หญิงของคุณหนึ่งฉาด"เจียงหว่านฉือมองไปที่เขาอย่างเย็นชา "เราหย่ากันเถอะ"" เธอรับใช้เขาอย่างอดทนมาเป็นเวลาตั้งสามปี ตอนนี้ เธอขอไม่ทำเรื่องโง่ ๆ แบบนั้นอีกต่อไปแล้ว เธอจะกลับไปสืบทอดมรดกมหาศาลของตระกูล
ต่อหน้าทุกคน เธอเป็นเลขานุการส่วนตัวของท่านประธาน โดยส่วนตัวแล้ว เธอเป็นภรรยาของเขา กู้เวยยีรู้สึกดีใจเป็นอย่างยิ่งเมื่อเธอทราบว่าตนเองตั้งครรภ์ ทว่าเธอกลับเห็นฟู่จิงเฉินกับรักแรกของเขาสิทสนมกัน... เธอจากไปอย่างเศร้าใจและตัดสินใจที่จะให้พวกเขาสมหวัง ต่อมา เมื่อฟู่จิงเฉินมองดูท้องที่ยื่นออกมาของเธอ และถามอย่างตื่นเต้นว่า "้กู้เวยยี นี่คือลูกของใคร!" เธอตอบอย่างหัวเราะเยาะ "มันไม่เกี่ยวอะไรกับคุณด้วย อดีตสามี!"
เสิ่นชิงกลายเป็นลูกสาวของชาวนาจากคุณหนูที่ร่ำรวยของตระกูลเสิ่นในชั่วข้ามคืน ลูกสาวตัวจริงใส่ร้ายเธอ คู่หมั้นของเธอทำให้เธออับอาย และพ่อแม่บุญธรรมของเธอก็ไล่เธอออกจากบ้าน... ทุกคนต่างรอที่จะหัวเราะเยาะเธอ ทว่าเธอกลับกลายเป็นทายาทของตระกูลเศรษฐีในเมืองอย่างกะทันหัน นอกจาดนี้ เธอยังมีตัวตนหลากหลาย เช่น หัวหน้าแฮ็กเกอร์ระดับนานาชาติ นักออกแบบเครื่องประดับชั้นนำ นักเขียนผู้ยิ่งใหญ่ที่ลึกลับ และอัจฉริยะด้านการแพทย์! พ่อแม่บุญธรรมเสียใจกับการตัดสินใจของตนและบังคับให้เธอแบ่งทรัพย์สินครึ่งหนึ่งให้เพราะพวกเขาเลี้ยงดูเธอมา เมื่อเสิ่นชิงหยิบกล้องออกมาแล้วบันทึกท่าทางอันน่าเกลียดของพวกเขา อดีตคู่หมั้นรู้สึกเสียใจและพยายามจะคืนดีกับเธอ เสิ่นชิงหัวเราะเยาะ "เขาคู่ควรงั้นเหรอ" จากนั้นก็ไล่เขาออกจากเมือง ในที่สุด ผู้มีอำนาจแห่งเมืองก็พูดอ้อนวอนเบาๆ "ไม่จำเป็นต้องแต่งเข้าตระกูลผม เดี๋ยวผมไปหาเอง"
หลินตงหยาง อายุ 27 ปี เติบโตมากับแม่เพียงสองคน ในวัยเด็กหลินตงหยางเคยมีพ่อผู้ให้กำเนิดแต่หลังจากที่พ่อได้งานใหม่ในเมืองหลวงพ่อที่เคยมีก็ไม่มีอีกแล้ว พ่อกลับมาหย่าขาดกับแม่ทันทีที่ไปทำงานในเมืองหลวงได้เพียง 2 เดือน ด้วยให้เหตุผลในการหย่าว่า แม่กับและเขาคือตัวถ่วงความเจริญในชีวิตพ่อ สาเหตุก็ไม่มีอะไรมากแค่พ่อหน้าตาหล่อเหลาและเป็นที่ถูกใจของลูกสาวหัวหน้างาน เพื่อตำแหน่งงานและความเป็นอยู่ที่สบายขึ้น พ่อเลือกที่จะทิ้งภรรยาคู่ทุกข์คู่ยากที่ผ่านเรื่องยากลำบากมาด้วยกัน หย่าขาดกับภรรยาเพื่อไปแต่งงานใหม่ มีชีวิตใหม่ในเมืองหลวง โดยทิ้งคนข้างหลัง ทิ้งภรรยาที่เคยสาบานว่าจะอยู่ครองคู่กันตลอดไป ในปีที่เขาเรียนจบมหาวิทยาลัย แม่ก็ล้มป่วยและจากเขาไปในที่สุด สาเหตุที่หลินตงหยางเสียชีวิต เพราะทำงานหนัก อาชีพโปรแกรมเมอร์ตัวเล็กๆ อย่างเขา ต้องพยายามทำงานให้ได้ตามที่หัวหน้าสั่งมา ในที่สุดเขาก็พัฒนาเกมกำลังภายในของบริษัทได้สำเร็จ หลินตงหยางนอนหลับไปด้วยความสบายใจ แต่ทว่าพอเขาลืมตาตื่นขึ้นมาอีกที นี่ไม่ใช่คอนโดหรูย่านใจกลางเมืองปักกิ่ง หลังคามุงหญ้านี่คืออะไร มันควรจะเป็นเพดานสีขาวสิ เมื่อมองไปรอบๆ ห้องนี่คืออะไร นี่มันไม่ใช่ผนังที่ทำมาจากคอนกรีต มันคือดินเหนียว หลินตงหยางคิดว่าตัวเองฝันไป เขาหลับตาลงอีกครั้งแล้วลืมตาขึ้น ทุกอย่างยังเหมือนเดิม มารดามันเถอะ เขามาอยู่ที่นี่ได้ยังไง หลังจากแน่ใจแล้วว่าไมไ่ด้ฝัน ตอนนั้นเองเขารู้สึกปวดหัวขึ้นมาอย่างรุนแรง และในหัวของเขามีภาพเหตุการณ์ของเด็กชายที่ชื่อเดียวกับเขา หลินตงหยาง อายุ 10 ขวบ เรื่องราวชีวิตตั้งแต่เกิดจนตายไปของเด็กชาย ทำเอาหลินตงหยางกำมือแน่น ก่อนจะสบถออกมา “พ่อสารเลว เฉินซื่อเหม่ยชัดๆ” และตามมาด้วยเสียงร้องไห้ของน้องสาว สาเหตุที่เด็กชายหลินตงหยางเสียชีวิต เพราะถูกผู้ที่ได้ขึ้นชื่อว่าเป็นย่าแย่งผักป่าและทุบตี ทั้งๆ ที่คนพวกนั้นได้ตัดขาดพับพวกเขาสามแม่ลูกแล้ว แต่ยังมิวายข่มเหงรังแก
เสิ่นซือหนิงซ่อนตัวตนไว้ยอมทำทุกอย่างให้ แต่ความจริงใจของเธอกลับถูกสามีทำลายไปหมด และสิ่งที่เธอได้รับนั้นคือข้อตกลงการหย่า ด้วยความผิดหวังเธอจึงหันหลังจากไปและกลายเป็นตัวเองที่แท้จริงอีกครั้ง หลังจากได้เห็นความใกล้ชิดของสามีกับคนรักของเขา เธอก็จากไปด้วยความผิดหวัง จากนั้นเปิดเผยตัวตนที่เป็นนักปรุงน้ำหอมอัจฉริยะระดับนานาชาติ ผู้ก่อตั้งองค์กรข่าวกรองที่มีชื่อเสียง และผู้สืบทอดในโลกแฮ็กเกอร์ อดีตสามีของเธอเลยเสียใจมาก เมื่อเมิ่งซือเฉินรู้ว่าตัวเองทำผิด เขาก็เสียใจมาก หนิง ผมผิดไปแล้ว ให้โอกาสผมอีกครั้งเถอะ ทว่าฮั่วจิ่งชวนขาพิการนั้นกลับลุกขึ้นยืนและจับมือกับเธอว่า "อยากคบกับเธอ นายยังไม่มีค่าพอ"