U6 - ฉันไม่ใช่พวกใฝ่ต่ำนะ ที่จะได้เอาคนใช้มาทำเมีย…
U6 - ฉันไม่ใช่พวกใฝ่ต่ำนะ ที่จะได้เอาคนใช้มาทำเมีย…
• ACTION •
เช้านี้เป็นอีกวันที่ใบหม่อนจะหาเรื่องมารดน้ำต้นไม้อยู่ที่สวนฝั่งซ้ายของคฤหาสน์ เพราะต้องการแอบมองคนที่เธอชอบในทุกเช้า ซึ่งวันนี้เธอก็มีเรื่องสำคัญจะพูดบอกเขาอีกด้วย...
“หาว~” เสียงหาวปากกว้างของคุณชายภูริดังขึ้น ก่อนที่เจ้าของร่างสูงยาวจะยืนบิดขี้เกียจไปมาอยู่ที่ระเบียงห้องนอนชั้นสองของตึกใหญ่ และมีเสียงคุ้นหูน่ารำคาญดังขึ้น เสียงที่ทำให้เขาหงุดหงิดทุกครั้งที่ได้ยิน
“ตอนนี้หม่อนโตเป็นสาวเต็มตัวแล้วนะ~ เพิ่งจะยี่สิบเมื่อวานนี้เอง” เสียงของสาวผมเปียในลุกเสื้อผ้าแสนธรรมดา เงยหน้าขึ้นสูงเพื่อพูดโปรยเสน่ห์ใส่คุณชายคนเล็กของบ้านหลังจากที่ยืนรอเจอหน้าเขาอยู่นาน
“เฮ้อ ใครก็ได้เอายัยนี่ออกไปจากบ้านฉันที” เขาพูดลอยๆ ขึ้นอย่างเอือมละอากับท่าทางของเด็กสาวที่แสดงออกต่อเขาตั้งแต่เธออายุเพียงแค่สิบห้าปีจนตอนนี้โตเป็นสาวอย่างที่เธอว่า
“คุณชายสนใจจะ...”
“ไม่!” เขาตะโกนตอบปฏิเสธทันทีตั้งแต่เธอพูดเสนอตัวยังไม่ทันจบประโยค “ฉันไม่ใช่พวกใฝ่ต่ำนะ ที่จะได้เอาคนใช้มาทำเมีย...”
“เจ็บจัง แต่ไม่เป็นไรค่ะ หม่อนยังรักคุณชายเหมือนเดิม^^” เธอพูดตอบกลับด้วยใบหน้าสดใส แม้ว่าท่าทางร้ายๆ ของเขาจะทำให้เธอเจ็บใจอยู่ลึกๆ
“น่ารำคาญ” พูดจบเขาก็เดินกลับเข้าห้องนอนไป
“น่ารำคาญเหรอคะ? เกลียดอะไรระวังจะได้แบบนั้นนะคะคุณชาย~” ใบหม่อนตะโกนตามหลังคุณชายภูริไปท่าทางอ้อล้อ แต่ไม่มีวี่แววว่าเขาจะหันกลับมาสนใจเธอเลยแม้แต่น้อย อีกทั้งยังแสดงท่าทางรำคาญให้เห็นเหมือนทุกที
หลังครัวที่พักคนใช้...
“ไม่ชอบหม่อนขนาดนั้นเลยเหรอ หม่อนไม่สวยตรงไหน” เธอพูดพรางมองดูสภาพของตัวเองด้วยความมั่นใจว่าเธอก็สวยไม่เป็นลองคนใช้คนไหนในคฤหาสน์หลังนี้
“อ่อยกี่ทีก็ไม่เคยมอง เดี๋ยวเถอะ หม่อนเปลี่ยนใจขึ้นมาแล้วคุณชายจะน้ำตาเช็ดหัวเข่า” เด็กสาวผมเปียไม่พูดเปล่าหยิบกิ่งไม้ฟาดตีใบไม้ริมรั้วเพื่อระบายอารมณ์หงุดหงิด
“วันนึงหม่อนก็จะเป็นสะใภ้ รังเกียจเดียดฉันท์หม่อนขนาดนี้ หม่อนก็…”
“ไปจัดสำรับได้แล้วหม่อน! พร่ำเพ้ออะไรของแกอยู่ เดี๋ยวคุณชายเขาก็ได้ด่าหัวเอาอีกหรอก!”
“รู้แล้วแม่!” ใบหม่อนตะโกนตอบกลับคำพูดของแม่เธอท่าทางเกรี้ยวกราด
คุณแม่ยังสวยวัยสามสิบแปดของใบหม่อนนั้นชอบพูดดุเธออยู่บ่อยๆ กับพฤติกรรมชอบอ่อยคุณชายคนเล็กของบ้าน ใบหม่อนมักโดนคุณชายด่ากับเรื่องที่เธอใฝ่สูงอยากจะเป็นคุณหญิงของคฤหาสน์อย่างไม่เจียมตัว และผู้เป็นแม่ก็รับรู้มาตลอดจึงคอยห้ามปรามพฤติกรรมลูกสาวแต่ก็ไม่เป็นผล
หลังครัว...
“คุณชาย~ คุณชายของหม่อน~”
เสียงของใบหม่อนร้องเล่นอยู่หลังครัวกับคนเป็นแม่ ที่ก็มีตำแหน่งเป็นคนใช้ในบ้านนี้ไม่ต่างกันกับเธอที่เป็นลูกสาว ซึ่งเธอเป็นเด็กที่น่ารักและสดใสในสายตาของผู้เป็นแม่และป้าๆ คนใช้ของเธอเสมอ
“ป้าเอาใจช่วยนะหม่อน ถ้าเองได้เป็นเมียคุณชายจริงๆ แม่เองคงสบาย...” เสียงป้าแม่บ้านคนนึงที่ช่วยกันเตรียมอาหารเช้าให้พวกนายท่านพูดขึ้น
“อีกไม่นานหรอกป้า เดี๋ยวหม่อนก็ได้ไปนั่งๆ นอนๆ อยู่ในคฤหาสน์หลังใหญ่นั้นแล้ว^^” คนขี้เล่นจีบปากจีบคอพูดตอบกลับ
“เฮ้อ ปวดหัวจริงๆ”
คนเป็นแม่ถอนหายใจออกมาเมื่อเห็นท่าทางลูกสาวของเธอที่อยากมีผัวจนตัวสั่น หนำซ้ำยังเป็นคนที่ใบหม่อนไม่อาจเอื้อมถึงได้ง่ายๆ อีกด้วย และแม้ว่าเธอจะพูดเตือนไปเป็นร้อยๆ พันๆ ครั้งแล้วก็ตาม ว่าเธอไม่เหมาะสมกับเขาที่อยู่สูงกว่า แต่ใบหม่อนก็ไม่เคยท้อแท้เลยสักนิด
แม้จะโดนคุณชายปฏิเสธมาตลอดห้าปี และคนเป็นแม่ก็พอดูออกว่าคุณชายคนเล็กที่ใบหม่อนหมายปองนั้นเขาเกลียดขี้หน้าเธอยิ่งกว่าอะไร...
“หวังไว้สูง ระวังเถอะ...”
“ตกมาแล้วจะเจ็บ...แม่พูดจนหม่อนจำได้แล้วเนี่ย” เธอพูดต่อคำแม่ของเธอได้ทันควันตั้งแต่ที่ได้ยินเธอเกริ่นประโยคนั้นขึ้นมา
“จำได้ แต่ก็ยังไม่เลิกหวัง แทนที่รู้แล้วจะหยุด...”
“จะให้หยุดได้ไงล่ะ ก็คนมันรักไปแล้ว~” สาวขี้เล่นพูดหน้าตาทะเล้นใส่แม่ของเธอ
“เอาเถอะ ยังไงก็อย่าให้เขาไล่ฉันกับแกออกจากบ้านแล้วกัน ไม่งั้นคงได้เร่ร่อนกันสองคนแม่ลูกแน่...”
“ไม่ต้องห่วงหรอกแม่...อย่างน้อยก็ไม่ได้เร่ร่อนคนเดียว”
“อ้าวเด็กนี่...” เธอเงยหน้าขึ้นมองลูกสาวหัวดื้อของเธอ ที่กำลังนั่งทำหน้ามึนใส่อย่างไม่รู้สึกรู้สา “แกนี่มันดื้อเหมือนพ่อแกไม่มีผิด”
“พ่อตายไปตั้งหลายปีแล้ว ยังจะไปขุดเขาขึ้นมาด่าอยู่ได้” เธอพูดเถียงแม่จบก็เดินหนีแม่ไปช่วยป้าแม่ครัวเตรียมอาหาร
“เหอะ! ให้มันได้อย่างนี้สิ” คนเป็นแม่ถอนหายใจเฮือกใหญ่ให้กับลูกสาวของเธอที่นับวันยิ่งเถียงเก่ง และหัวดื้อเป็นที่สุด
คฤหาสน์...
ที่คฤหาสน์หลังนี้มีคุณ ‘ภาคภูมิ’ ที่เป็นเจ้าของคฤหาสน์ โดยอาศัยอยู่ร่วมกันกับลูกชายของเขาทั้งสามคน คุณชาย ‘ภูดิท’ ในวัยสามสิบสองปี คุณชาย ‘ภูผา’ ในวัยสามสิบ และ คุณชาย ‘ภูริ’ ในวัยยี่สิบแปดปี
ทั้งสี่คนพ่อลูกอาศัยอยู่ที่คฤหาสน์หลังนี้ด้วยกัน ซึ่งก็เป็นเวลานานมากแล้วที่แม่ของพวกเหล่าคุณชายจากไป แต่บ้านหลังนี้ก็ยังคงความสุขอยู่เช่นเดิม เพราะมีคุณพ่อที่แสนใจดีอย่างคุณภาคภูมิที่คอยเลี้ยงลูกชายด้วยความรักและความเข้าใจ
ห้องทานข้าว...
“เตรียมตัวพร้อมกับงานคืนนี้กันแล้วใช่ไหม?” เสียงนุ่มทุ้มของท่านภาคภูมิเอ่ยถามกับลูกชายทั้งสองของเขาที่นั่งร่วมโต๊ะทานข้าวด้วยกันเวลานี้
“เตรียมพร้อมแล้วครับพ่อ” ลูกชายคนโตพูดตอบ
“ดี งั้นคืนนี้พ่อฝากช่วยกันรับแขกที่งานด้วยนะ”
“ครับพ่อ” เสียงภูผาพูดรับคำสั่ง
“ว่าแต่เจ้าภูริยังไม่ลงมาอีกเหรอเนี่ย?”
“ให้หม่อนขึ้นไปตามบนห้องให้ไหมคะ?” ใบหม่อนที่ยืนรอตักข้าวให้เจ้านายทั้งสี่เอ่ยปากอาสา แต่ก็ถูกขัดจังหวะขึ้นซะก่อน
“ไม่ต้อง อย่าได้คิดจะขึ้นไปบนห้องฉันเชียว...” เสียงภูริที่เพิ่งเดินมาถึงพูดบอกสาวคนใช้อย่างไร้เยื่อใย จนทำเธอฝันสลายรีบหุบยิ้มลงในทันที
“- -”
“อ๋อจริงสิ เมื่อวานวันเกิดหม่อนใช่ไหม?”
“ใช่ค่ะคุณชาย” ใบหม่อนตอบกลับภูผาคุณชายคนกลางของบ้านท่าทางสดใส
“นี่ ของขวัญ”
“คุณชายให้หม่อนเหรอคะ”
“เสียดายจังที่ฉันไม่รู้ว่าเมื่อวานเป็นวันเกิดหม่อน ไม่งั้นคงได้มีของขวัญมาให้” เสียงเจ้าบ้านพูดขึ้นอย่างเอ็นดูสาวหน้าใส เมื่อเห็นว่าลูกชายคนกลางของตนยื่นของขวัญให้กับเด็กสาวคนใช้ที่พวกเขาต่างก็เอ็นดูเธอ ยกเว้นลูกชายคนเล็กของบ้าน
“ไม่เป็นไรคะคุณท่าน...” ใบหม่อนยิ้มรับคำพูดนั้น
“ในนั้นมีชุดสวยอยู่ เย็นนี้หม่อนใส่ชุดนี้มาหาฉันที่นี่นะ”
“...” เธอไม่เข้าใจในการกระทำของคุณชายภูผาที่บอกกับเธอเช่นนั้น ซึ่งก็มีคนที่สงสัยเหมือนกับเธอเช่นกัน
“นายจะทำอะไร?” ภูดิทเอ่ยถามน้องชายของเขา
“คืนนี้ผมว่าจะพาหม่อนไปออกงานด้วยครับ ถ้ามีสาวสวยไปออกงานด้วยคงดี...” เขาพูดจบก็หันมองหน้าใบหม่อนสาวสวยที่เขาพูดถึง ส่วนน้องชายคนเล็กก็นั่งเบะปากเมื่อได้ยินพี่ชายของตนเอ่ยปากชมสาวคนใช้ว่าสวย
--------------------------------------------------------------------------
[ติดตามตอนต่อไป] - [Follow the next episode]
[-กดใจ -เพิ่มเข้าชั้น -คอมเมนท์ให้กำลังใจ และฝากกดติดตามไรท์ด้วยนะครับ🙏]
S2(ต่อจากเรื่อง ไอมาเฟียนั่นเมียกู) เรื่องราวความรักของคู่ยูมิ และโจอิ น้องชายตัวแสบของโจดิน
U7 - ฉันเพิ่งมารู้ว่าเด็กที่ฉันถูกว่าจ้างให้อุ้มบุญ เป็นลูกของแฟนเก่าที่เลิกกันไปเมื่อสองปีก่อน… (ผู้ชายที่เขาไม่เคยรักฉัน)
คู่หมั้นของ ‘โจดิน’ มาเฟียผู้ยิ่งใหญ่ ดันเป็น ’ยูมิ’ แฟนสาวผู้อ่อนแอของ ’นิเณอ’ หญิงแกร่งใจกล้า และบุคลิกของเธอมันก็ดันเข้าตาเขาเต็มๆ จนอยากได้เธอมาเป็นเมียแทน…
S2.2 ถ้าเธอไม่หยุด ฉันจะจับเธอทำเมียอีกคน ถือว่าฉันเตือนเธอแล้วนะแสนดี!...
สาวใช้ใสซื่อกับคุณชายทั้ง7คนในคฤหาสน์หลังใหญ่ คุณชายทุกคนต่างก็หมายตาต้องใจและอยากที่จะครอบครองสาวงามนั้นมาเป็นของตนเพียงผู้เดียว แต่มันไม่ง่ายเมื่อมีศัตรูหัวใจถึง6คน ที่เป็นสายเลือดเดียวกัน..[ฮาเร็ม]
ในระยะเวลาสองปีที่แต่งงานกัน เนี่ยเหยียนเซินจู่ๆ ก็เสนอขอหย่า เขาพูดว่า "เธอกลับมาแล้ว เราหย่ากันเถอะ คุณอยากได้อะไรบอกมาได้เลย" ชีวิตการแต่งงานสองปีสู้อีกคนที่หันหลังกลับมาไม่ได้ ตามอย่างที่คนเขาว่ากัน "คนรักเก่าแค่ร้องไห้สักหน่อย คนรักปัจจุบันก็ย่อมแพ้แน่นอน" เหยียนซีไม่ได้โวยวายอะไร เลือกที่จะตอบตกลงและเสนอเงื่อนไขว่า "ฉันต้องการรถซูเปอร์คาร์ที่แพงที่สุดของคุณ" "ได้" "วิลล่าสุดหรูชานเมือง" "ตกลง" "กำไรหลายพันล้านที่หามาในช่วงสองปีนี้ แบ่งคนละครึ่ง" "อะไรนะ"
หลิวซือซือผู้หญิงธรรมดาคนหนึ่งที่นอกจากรูปร่างหน้าตาที่สวยหยดย้อยแล้ว แทบจะไม่มีความสามารถหรือความโดดเด่นในเรื่องอื่น และหากจะว่ากันไปหญิงสาวก็เป็นคนที่ค่อนข้างใสซื่อบริสุทธิ์อยู่ไม่น้อย เพราะได้รับการรับเลี้ยงประดุจไข่ในหินจากผู้เป็นพ่อและแม่ที่มีฐานะไม่ธรรมดา เธอรักในอาชีพนักแสดงแม้พ่อแม่จะคัดค้านแต่สุดท้ายก็ตามใจเธอเพราะไม่ต้องการให้ลูกสาวเสียใจ อยู่มาวันหนึ่งด้วยบทบาทที่ต้องแสดงในซีรีส์ย้อนยุค ทำให้พ่อของเธอหาขลุ่ยโบราณเล่มหนึ่งมาให้ ตั้งแต่ได้รับขลุ่ยมาหลิวซือซือก็มักฝันประหลาด ว่าเธอได้พบผู้ชายคนหนึ่งในเขาเป็นแม่ทัพอยู่ระหว่างสงครามอีกทั้งตนเองยังมีโอกาสช่วยเขาหลายครั้ง ที่น่าประหลาดใจคือ ฝันนั้นของเธอเหมือนจะเป็นความจริงไปแล้ว เขาคือใครและเกี่ยวข้องกับเธอด้วยเหตุใด ทำไมเธอจึงมักฝันประหลาดเช่นนี้???
ลูหว่านแต่งงานอย่างลับๆ มาสามปีแล้วและไม่เคยเห็นหน้าสามีมาก่อนเลย แต่แล้วสิ่งที่เธอได้รับในที่สุดกลับเป็นข้อตกลงารกย่าและข่าวที่เขาใช้เงินฟุ่มเฟือยเพื่อตามจีบสาวรักในใจของเขา ในที่สุดเธอก็ตื่นขึ้นมาและตัดสินใจหย่าร้าง หลังจากนั้น ลู่หว่านก็มุ่งหน้าที่พัฒนาในตัว โดยมีตัวตนหลายตัวตน เป็นหมอเทวดา สายลับระดับสูง แฮ็กเกอร์ชั้นนำ นักออกแบบชื่อดัง นักแข่งรถ และหัวหน้าฝ่ายวิจัยทางวิทยาศาสตร์ หลังจากเปิดเผยตัวตนมากมายของลู่หว่าน อดีตสามีของเธอก็รู้สึกเสียใจอย่างยิ่ง ชายคนนั้นร้องขอว่า "หว่านหว่าน ให้โอกาสผมอีกครั้ง ทรัพย์สินทั้งหมดของผมเป็นของคุณ และชีวิตของผมก็มอบให้คุณด้วย"
รูรักอันบริสุทธิ์เมื่อถูกปลายลิ้นร้อนของชายหนุ่มเป็นครั้งแรกดูเหมือนว่าจะตอบสนองได้เป็นอย่างดี ร่องของนางขมิบรัว สะโพกของนางยกขึ้นยังเด้งเข้าไปหาปากร้อน ฝ่าบาทเก่งกาจยังสามารถแยงลิ้นเข้าไปในรู อันซูเซี่ยถูกทาขี้ผึ้งหอมรอบปากทาง ขี้ผึ้งนี้นอกจากจะมีรสชาติดีส่งเสริมรสน้ำรักของนางแล้วยังมีคุณสมบัติอันวิเศษ แม้จะเป็นหญิงพรหมจรรย์ก็จะไม่รู้สึกเจ็บปวด และเผลอทำร้ายฝ่าบาทจนบาดเจ็บ อี้หลงดูดแบะขาของนางให้กว้างขึ้นแล้วรวบขึ้นไปให้ขาชี้ฟ้า จากนั้นมุดใบหน้าลงมาอย่างหลงใหล “หอมอร่อยเหลือเกิน รู้สึกเหมือนดื่มสุราไม่เมามาย อ้า ข้าชอบยิ่ง หอยของฮองเฮาช่างใหญ่โต ดูโคกเนื้อโยนีแทบจะล้นริมฝีปากของข้า สีแดงเช่นนี้คงไม่เคยผ่านสิ่งใดมาก่อน บริสุทธิ์ยิ่งนัก ซี้ด” นางดิ้นเร่าอยู่ในปาก ไม่รู้ว่าต้องทำอย่างไรนอกจากเชื่อฟังในคำของฝ่าบาท “อืม อร่อยยิ่งนัก อ้า ข้าไม่ไหวแล้วขอดูหน้าฮองเฮาของข้าหน่อยเถิด” ดูเหมือนว่าร่องรักของนางยังขมิบ นางไม่อยากให้เขาเงยหน้าขึ้นจากตรงนั้นด้วยซ้ำ อยากถูกปลายลิ้นเลียเช่นนั้นจนกว่านางจะได้รับการปลดปล่อย “อ้า ฝ่าบาทเพคะ อย่าหยุดเพคะ อื้อ” นิยายเรื่องนี้เป็นนิยายรักสำหรับผู้ใหญ่ มี 2 เล่มจบ เป็นนิยายแบบพล็อตอ่อน เน้นฉากรักบนเตียงของตัวละครเป็นหลัก เหมาะสำหรับผู้มีอายุ 25 ปีขึ้นไป ไม่เหมาะสำหรับสายคลีนใส ๆ นะคะ หากใครไม่ชอบอ่าน NC เยอะ ๆ กรุณาเลื่อนผ่าน เพราะเรื่องนี้เน้น NC เป็นหลักค่ะ ซีไซต์ นักเขียน
ทุกคนรู้ดีว่า บุตรีคนโตที่ไม่เป็นที่โปรดปรานในจวนโหวอันติ้งแห่งเมืองหลวง ทำให้แม่แท้ๆ ของตนต้องเสียชีวิต เป็นคนที่ถูกมองว่าเป็นตัวโชคร้าย ก่อนแต่งงานก็ทำให้แม่เลี้ยงฝันร้ายอยู่หลายวัน ออกเดินทางไปทำบุญนอกเมืองก็ถูกโจรจับตัวไป แต่ใครจะคิดว่าโชคร้ายกลับกลายเป็นโชคดี นางเปลี่ยนนิสัยไปอย่างสิ้นเชิง ไม่ยอมให้ใครมารังแกอีกต่อไปที่แท้ซูชิงซวู่ ผู้สุดยอดสายลับที่ทะลุมิติมาเผชิญกับพ่อที่เย็นชา แม่เลี้ยงที่ชั่วร้าย คู่หมั้นที่นอกใจน้องสาวต่างแม่ แต่ไม่เป็นไร คอยดูว่าเธอจะจัดการพวกชั่วช้า และเอาคืนทุกอย่าง ทว่าทำไมท่านอ๋องผู้นั้นถึงมองมาที่เธอด้วยสายตาแปลกๆ นั่นล่ะเผ่ยเสวียนจู: บุญคุณที่ช่วยชีวิต ไม่มีสิ่งใดตอบแทนได้ นอกจากเอาตัวไปแลก
เจ้าบ่าวหลุดจองเป็นเรื่องของคุณกระทิงกับหมี่ที่ต้องตกกระไดพลอยโจนเป็นคู่บ่าวสาวกัน เหตุผลก็เพราะเงินตัวเดียว มาตามอ่านกันค่ะ ว่าการแต่งงานปลอมๆ จะนำรักแท้มาสู่ทั้งสองหรือไม่ +++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++ มัญชุพรเลือกชุดไทยศิวาลัยสีงาช้าง ต่อมาคือชุดเจ้าสาว เว็ดดิ้งแพลนเนอร์แนะนำชุดแบบเรียบหรู ทิ้งชายหางปลานิด ๆ ไม่ฟูฟ่องมาก หญิงสาวใส่แล้วอึดอัดที่อกนิดหน่อย คิดว่าน่าจะพอดีกับอกน้องสาว “ลองเดินดูนะคะ” เธอถูกจูงมาจนถึงห้องโถง พงศพัศในชุดสูทยืนอยู่ตรงนั้น แม้เสื้อผ้าเรียบโก้ แต่ไม่อาจกลบความดุดันของเขาลงได้ มัญชุพรเห็นแล้วคิดว่าเขาเป็นเจ้าบ่าวที่ ‘แนว’ ใช้ได้ “มีชุดที่โชว์อกน้อยกว่านี้ไหม เห็นนมเจ้าสาวตั้งขนาดนี้ เดี๋ยวฉันใจแตก ไม่ได้เข้าหอกันพอดี” พงศพัศมีความสามารถพิเศษเรื่องปากเสียหรืออย่างไร เขาว่าจนทำหน้ามัญชุพรซับสีเลือด “เดี๋ยวแก้ตรงอกให้นะคะ” “เอาแบบคลุมยาวถึงคอหอยไปเลย” เขาเพิ่งรู้สึกสนุกก็ตอนนี้ เมื่อเห็นเธอตอบโต้อะไรไม่ได้ หนุ่มชาวไร่ค่อยอารมณ์ดีขึ้นมาหน่อย “ฉันเอาแบบนี้แหละค่ะ” ชักเข้าใจความรู้สึกอยากหนีของพรสรวงแล้ว นายตัวโตคนนี้ไม่เหมาะกับการเป็นเจ้าบ่าวใครเลย นอกจากหน้าดุแล้วยังไร้มารยาท “เปลี่ยนซะ ฉันไม่ชอบ” พงศพัศเห็นเธอเงียบหงิม ไม่คิดว่าจะแผลงฤทธิ์ได้ “เอาตัวนี้เลยค่ะ” “น้องสาวเธอเป็นคนใส่ในงานแต่งนะ ไม่ใช่เธอ เจ้าบ่าวอย่างฉันต้องออกความเห็นได้สิ” มัญชุพรสบตาคมดุ “มุกให้สิทธิ์ขาดฉันเลือกแทนแล้ว ชุดไหนที่ฉันชอบ น้องก็ต้องชอบด้วย ถ้าคุณไม่ชอบก็อย่ามองสิคะ” +++++++++++++++++++++++++++++++++++++++
© 2018-now MeghaBook
บนสุด