จื่อรั่ว จากคุณหนูตระกูลขุนนาง เหตุเพราะถูกถอนหมั้นหมายจากคุณชายหลายตระกูล ทำให้บิดาและมารดาตัดขาด โดนหักเบี้ยหวัด จัดพลัดจับพลูอีกท่าไหนก็ไม่รู้ถูกจ้างให้มาเป็นสายลับสืบข่าวในวังหลวง
จื่อรั่ว จากคุณหนูตระกูลขุนนาง เหตุเพราะถูกถอนหมั้นหมายจากคุณชายหลายตระกูล ทำให้บิดาและมารดาตัดขาด โดนหักเบี้ยหวัด จัดพลัดจับพลูอีกท่าไหนก็ไม่รู้ถูกจ้างให้มาเป็นสายลับสืบข่าวในวังหลวง
มือบางสั่นเทาค่อยๆรับจดหมายจากแม่นม ค่อยๆคลี่อ่านด้วยใจระทึก หวังให้มันเป็นเพียงจดหมายถามสาระทุกข์สุขดิบจากบิดาเท่านั้น แต่คราวนี้ไม่ได้มีเพียงจดหมาย แต่มีคณะเดินทางมากับจดหมายด้วย
แต่เมื่ออ่านไปได้เพียงไม่กี่ตัวอักษรน้ำตาก็หยดลงจดหมายจนเปียกปอน ร่างบางสั่นเทา
จื่อรั่ว แม้นางนั้นจะเป็นถึงคุณหนูใหญ่ตระกูลจื่อ บุตรสาวของเจ้ากรมอารักษ์ แต่กระนั้นนางก็เป็นเพียงบุตรสาวของฮูหยินรองเท่านั้น หลังจากมารดาเสียชีวิต ฮูหยินเอกย่อมไม่คิกจะปล่อยให้ลูกสาวของคนที่ค่อยทิ้มแทงหัวใจอยู่ในจวนเดียวกัน จื่อฮูหยินส่งนางมาอยู่หมู่บ้านใกล้จากเมืองหลวงทันทีที่มารดาของจื่อรั่วเสียชีวติ ตอนนี้จิ่อรั่วอายุเพียง 8 หนาวเท่านั้น จื่อฮูหยินให้เหตุผลว่านางนั้นแพ้ท้องหนัก ไม่อาจดูแลเด็กในวัยกำลังซุกซนอย่างจิ่อรั่วได้ บิดาที่เป็นเพียงที่พึ่งเดียวก็ไม่เคยคิดจะเหลี่ยวแล เพราะเกรงใจฮูหยินเอก
ตราบวันนั้นจนวันนี้ ก็ล่วงเลยมา 10 ปี คนตระกูลจื่อไม่เคยมีใครมาเยี่ยมเยี่ยนนางเลยซักครั้ง จดหมายมาเขียนมาเพียงถามข่าวคราว และส่งเบี้ยหวัดมาให้ทุกๆเดือน แต่ไม่มีครั้งใดที่บอกให้นางกลับเมืองหลวงได้ นางเองก็หมดความหวังที่จะกลับไปแล้ว ยิ่งคาดหวังยิ่งผิดหวัง ใจดวงน้อยๆนี้เริ่มแข็งแกร่ง
ไม่คาดหวังย่อมไม่ผิดหวัง
“คุณหนู” แม่นมจางที่ตามมาคุณหนูใหญ่มาอยู่ที่ต่างเมือง รีบเข้าไปโอบกอดดวงใจของคุณหนูตัวน้อยที่นางเฝ้าทะนุถนอมดูแลมาตั้งแต่ยังอยู่ในผ้าอ้อม
ร่างบางยังคงสะอื้นไห้ กับจดหมาย
“ท่านพ่อให้ข้ากลับเมืองหลวง ฮื่อ.. กับไปแต่งงาน”
ใจความในจดหมายมีเพียงข้อความไม่กี่ประโยค สั่งให้นางกลับเมืองหลวงทันทีที่ได้รับจดหมาย ทางครอบครัวได้ทำการหมั้นหมายนางกับบุตรชายตระกูลขุนนางด้วยกันเแล้ว เมื่อนางเดินทางไปถึงจะมีงานแต่งเกิดขึ้นทันที
หากต้องกลับไปแต่งงานกับใครก็ไม่รู้ นางขอไม่กลับเมื่องหลวงตลอดชีวิต แต่บุตรสาวอย่างนางมีทางเลือกด้วยหรือการเลือกคู่ครองเป็นสิทธิ์ขาดของบิดามารดา
“ตลอดเวลาที่ผ่านมาข้านึกว่าท่านพ่อลืมเลือนข้าไปแล้ว แต่พอนึกได้ว่ามีข้า ก็เอาข้าไปใช้หาผลประโยชน์” จื่อรั่วยิ้มขื่นกับโชคชะตาขอตนเอง แต่งงานกับบุตรชายขุนนางด้วยกัน ย่อมไม่พ้นเรื่องผลประโยชน์และความเหมาะสม
“แม่นมท่านดูสิ คงกลัวว่าข้าจะแข็งข้อ ถึงได้เตรียมคนมาพาข้ากลับไปด้วย” ร่างบางปรายตามองตาสาวใช้ที่เดินทางมาพร้อมกับจดหมาย
“นายท่านส่งพวกข้ามาดูแลความสะดวกสบายให้คุณหนูใหญ่ระหว่างเดินทางกลับเมืองหลวงเท่านั้นเจ้าค่ะ”
หัวหน้าสาวใช้รับแก้ต่าง แม้คำสั่งที่ได้รับมาคือไม่ว่าจะเกิดอะไรขึ้น ก็ต้องพานางขึ้นรถม้ากลับเมืองหลวงให้ได้
“เฮอะ ที่ผ่านมาข้าอยู่เรือนหลังเล็กๆ กับแม่นมเพียงสองคน ยังดีที่มีเบี้ยหวัดจุนจือทุกเดือน ชีวิตสุขสบาย ต้องขอบคุณท่านแม่ใหญ่ที่เอ็นดูข้า อยากให้ข้าอยู่นี่ข้าก็อยู่ อยากให้ข้ากลับข้าก็จะกลับ ไหนๆก็ยกขโยงกันมาขนาดนี้ ก็ช่วยกันเก็บของของข้าก็แล้วกัน อย่าให้ตกหล่นแม้แต่ชิ้นเดียว”
มือบางยกขึ้นกรีดน้ำตาออกจากดวงหน้า รู้ดีว่าวันหนึ่งก็ต้องถูกจับแต่งงานทำหน้าที่บุตรสาวกตัญญู นางจะกลับตามที่บิดาสั่ง ส่วนว่าที่เจ้าบ่าวจะเป็นใครนั้นนางหาได้สนใจไม่ เสียใจไปก็เปล่าประโยชน์ ‘เฮอะ พวกท่านไม่รู้จักข้าดีพอ 10 ปี ข้าคนนี้เปลี่ยนไปแล้ว’
เลือกสามีผิดคิดจนตัวตาย!เป็นเช่นไรรู้ก็เมื่อสายไปเสียแล้ว ลูกต้องตายจาก พ่อแม่พี่ชายพลัดพราก ด้วยหน้าที่ของเขาในฐานะเจ้าเมือง ช่วยชีวิตทุกคนไว้ได้ เว้นแต่นาง เว้นแต่ครอบครัวของนาง
โปรยปราย ผู้คนเกลียดชังข้า แต่กลับมิมีผู้ใดรู้เบื้องหลังว่าแท้จริงแล้วข้าต้องโหดร้ายเช่นนี้เป็นเพราะผู้ใด แทงมีดใส่อกคนรักของข้า สังหารตระกูลข้าจนสิ้นแม้แต่เด็กทารกก็มิเว้น ข้าต้องยืนยิ้มแล้วเอ่ยว่า ไม่เป็นไร ข้าให้อภัย นั่นคงมีเพียงพระโพธิสัตว์เสียแล้วมิใช่ข้าคนนี้ คนที่พวกเจ้าหวาดกลัวยิ่งกว่าภูตผี
นางเคยเป็นดั่งดอกบัวขาว บริสุทธิ์ผุดผ่องมองแล้วสบายตา แต่เขาและน้องสาวต่างมารดาของนางกลับมาแต้มหมึกดำลงบนบัวขาวดอกนี้
นางเกิดมาขาพิการแต่หาได้ไร้ใจไม่ มีเพียงคนผู้นั้นที่ไร้หัวใจยิ่งกว่านาง เขามาหลอกให้นางหลงรักแล้วถอนหมั้นอย่างเลือดเย็น หลังนางตายจากไปแล้วยังใช้ความเห็นอกเห็นใจของพี่ชายนางเพื่อหาประโยชน์เข้าตัว โชคดีสวรรค์ไม่ปล่อยให้คนชั่วลอยนวล กลับมาครานี้ ในเมื่อพวกมันรักกันมากนัก ก็เชิญรักกันไปได้เลย ชายชั่วเช่นนี้คิดจนตัวตายก็ไม่เอามาเป็นสามีเด็ดขาด!
ท่านช่างใจดำยิ่งนัก ท่านกับข้าเปรียบดั่งเหมยเขียวม้าไม้ไผ่ ข้าเชื่อว่าสักวันท่านจะกลับมาเข้าพิธีกราบไหว้ฟ้าดินกับข้า แต่ใยท่านจึงพาสตรีอื่นกลับมา แล้วถอนหมั้นข้าอย่างไร้เยื่อใย
เพราะรักนางจึงยอมทุกอย่าง แต่สุดท้ายเขากลับมอบความรักให้สตรีอื่น ในเมื่อเดินมาจนถึงสุดทางแล้วนางก็ไม่คิดจะยื้อไว้อีกต่อไป ไปเถิดข้าปล่อยมือท่านแล้ว ส่วนข้าจะเดินจากไปพร้อมกับบุตรในครรภ์
"เธอคือผู้ฝึกสัตว์ร้ายที่มีดวงตาสีม่วงอันเป็นเอกลักษณ์ในศตวรรษที่ 24 เมื่อเธอเกิดใหม่เป็นหญิงตั้งครรภ์ ดวงตาของเธอถูกขุดออก การฝึกฝนของเธอถูกทำลาย ตัวตนของเธอถูกพรากไป และลูกชายของเธอถูกไอ้สารเลวและผู้หญิงใจร้ายแย่งชิงไป! จะทนกับสิ่งนี้ได้อย่างไร! จากนั้นเธอใช้ชีวิตกับลูกสาว ปราบสัตว์ร้ายทั้งหมดด้วยดวงตาสีม่วงของเธอ จัดการทุกคนที่หาเรื่องพวกเขา และในที่สุดก็พบกับราชาเทพชั่วร้ายที่พาลูกชายของเธอไปจนได้ ลูกตัวน้อย ""แม่ มีผู้ชายคนหนึ่งที่บอกว่าตราบใดที่หนูเรียกเขาว่าพ่อ เขาจะมอบภูเขาทองคำให้หนู"" ผู้หญิง ""ถามเขาหน่อยว่าเขามีอีกไหม ฉันสามารถเรียกเขาว่าพ่อได้ด้วยนะ"" ราชาเทพกัดฟัน ""สาวน้อย ลูกทั้งสองเป็นของฉัน และตัวเธอก็เป็นของฉันด้วย"""
เมื่อนางย้อนยุคกลายเป็นพระชายาคังที่ถูกขังอยู่ในโรงขังคนบ้า เพิ่งมาถึงฉินเซิงก็กำจัดคนสองคนที่ต้องการทำร้ายนาง นางบุกเข้าไปในงานแต่งงานของคู่รักชั่วชาสองคนนั้นในชุดแดง นางหยิ่งผยองและยั่วยุ ทำให้ชายชั่วโกรธจนกัดฟันแน่นแต่กลับทำอะไรไม่ได้ และหญิงร้ายนั้นก็เกลียดชังอย่างมากทว่าเอาคืนไม่ได้ ท่านอ๋องจิ้นได้เห็นสถานการณ์ทั้งหมดนี้ เขาโค้งงอริมฝีปาก สตรีนางนี้ช่างแตกต่างจากคนอื่นจริงๆ ถูกใจเหลือเกิน เขาจะเอาชนะใจนางและให้ชีวิตที่ดีแกนาง
กู้ชิงเฉิงเชื่อมั่นมาตลอดว่าตราบใดที่เธอประพฤติตัวดี สักวันหนึ่ง เธอก็จะสามารถชนะใจมู่ถิงเซียวให้ได้ อย่างไรก็ตาม เมื่อเสิ่นถัง รักแรกที่เขาคิดถึงมาตลอดกลับมา ทุกอย่างก็เปลี่ยนไป กู้ชิงเฉิงเป็นคนว่าง่ายสอนง่ายจริงๆ เธอจัดงานแต่งงานด้วยคนเดียว และนอนคนเดียวในห้องผ่าตัดเพื่อรับการรักษาฉุกเฉิน มีข่าวลือว่าเธอบ้าไปแล้ว อันที่จริงเธอบ้าไปแล้วจริงๆ ที่รักใครสักคนอย่างไม่ละอายขนาดนี้ ต่อมา ทุกคนลือกันว่า กู้ชิงเฉิงป่วยหนักและกำลังจะเสียชีวิต มู่ถิงเซียวถึงสูญเสียการควบคุมอย่างสิ้นเชิง "ฉันไม่ปล่อยให้เธอตาย" แต่เธอกลับยิ้มอย่างนิ่งๆ ว่า "ดีจังเลย ฉันเป็นอิสระแล้ว" ใช่แล้ว ไม่ต้องการกู้ชิงเฉิงอีกแล้ว"
เพิ่งหย่ากับอดีตสามีไปไม่นานแต่ปรากฏว่าตัวเองท้อง จะทำอย่างไรดี? หรือจะให้อดีตสามีรับผิดชอบ แต่ก็ไม่คิดว่าอดีตสามีมีคนรักใหม่ไปแล้ว ชีวิตของถังชีชีนั้นช่างสับสน ช่างน่าวิตกกังวลและไม่รู้จะอธิบายยังไงดี เธอต้องคอยระวังไม่ให้คุณเฟิงรู้เรื่องการตั้งครรภ์จนกระทั่งคลอดลูกออกมาอย่างปลอดภัย แต่ไม่คิดว่าจะถูกเขาบังคับถึงเพียงนี้ "เราหย่ากันแค่สี่เดือน แต่เธอกลับตั้งครรภ์ได้เจ็ดเดือนแล้ว บอกมาดี ๆ ว่า ลูกเป็นของใคร!"
“แหวนไปไหน” “คะ” หญิงสาวรีบหดมือหนีในทันที “พี่ถามว่าแหวนไปไหน” คริษฐ์ยังย้ำคำถามเดิมแล้วจ้องหน้าคู่หมั้นสาวแบบไม่พอใจ “คืออยู่ที่ออฟฟิศมันต้องล้างแก้วกาแฟบ่อย ๆ รุ้งก็เลยถอดเก็บเอาไว้ค่ะกลัวมันจะสึกเสียก่อน” คำตอบของหญิงสาวค่อยทำให้คริษฐ์รู้สึกผ่อนคลายลงเล็กน้อย “ถ้าถอดออกพี่จะถือว่ารุ้งขอถอนหมั้นพี่นะ” “ก็ไม่ได้ถอนสักหน่อย แค่ถอดเก็บเอาไว้เฉย ๆ” “งั้นก็ใส่เสียสิ เดี๋ยวนี้เลย” คริษฐ์ถลึงตาใส่แกมบังคับ “ใส่ก็ใส่ค่ะ” คนพูดตัดพ้อเล็กน้อย แล้วหันไปหยิบกระเป๋าด้านข้างมาเปิดเพื่อหยิบแหวนหมั้นของตนออกมาสวมใส่ จากนั้นก็หันหลังมือให้เขาดู “พอใจหรือยังคะ” “ดี” “ว่าแต่พี่คริษฐ์มานั่งรอรุ้งทำไมคะ มีธุระสำคัญหรือเปล่า” หญิงสาววกมาหาคำถามแรกที่เธออยากรู้ แต่เขาดันจุดประเด็นเรื่องแหวนขึ้นมาแทรกเสียก่อน “แม่ให้พี่มาหาคู่หมั้นตัวเองบ้าง” ฟังเขาพูดแล้วรุ้งพรายชักเครียดขึ้นมาหน่อย ๆ “ถ้าคุณป้าพิมพ์ไม่บอกพี่คริษฐ์ก็คงไม่มาหารุ้งใช่ไหมคะ” “แล้วทำไมรุ้งถึงไม่ไปหาพี่เองบ้างล่ะ” “ก็รุ้งกลัวพี่คริษฐ์รำคาญ” บทสนทนาสิ้นสุดลงด้วยความเงียบด้วยกันทั้งสองฝ่าย คริษฐ์ถอนหายใจเบา ๆ ส่วนรุ้งพรายก็ก้มหน้าต่ำลง ทำไมถึงได้รู้สึกอึดอัดอย่างบอกไม่ถูก “พี่ไลน์หาอ่านแล้วทำไมไม่ตอบ” คริษฐ์เป็นฝ่ายเอ่ยขึ้นก่อนหลังจากเงียบมาเกือบหนึ่งนาที “พอดีรุ้งมาอ่านตอนดึกแล้วไม่อยากรบกวนพี่คริษฐ์ค่ะ” “ตอบมาสักคำก็ยังดี อย่าทำเหมือนพี่ไม่มีตัวตนนะรุ้ง จำเอาไว้ด้วยว่าพี่เป็นคู่หมั้นของรุ้ง” “มันไม่น่าจะเป็นแบบนี้นะคะพี่คริษฐ์” “อะไรกันที่ว่าไม่น่าจะเป็นแบบนี้” “รุ้งว่าเราถอนหมั้นกันดีกว่าไหมคะ ดูพี่คริษฐ์อึดอัดกับการหมั้นของเราเหลือเกิน ขนาดจะมาหารุ้งก็ต้องให้คุณป้าพิมพ์บังคับมาเลย” “แม่ไม่ได้บังคับพี่” “ไม่บังคับก็เหมือนบังคับนั่นแหละค่ะ ตั้งแต่ตอนเด็กแล้วพี่ คริษฐ์แทบไม่เคยขัดใจคุณป้าพิมพ์ได้เลย ถ้ามันเหนื่อยและยุ่งยากมากรุ้งขอถอนหมั้นไปเลยก็ได้ค่ะ” รุ้งพรายดึงแหวนออกจากนิ้วนางข้างซ้าย แล้ววางแหมะอยู่ตรงหน้าของเขา คริษฐ์มองแหวนมองคนแล้วอารมณ์ของเขาก็เดือดดาลขึ้น บทจะอยากได้ก็วิ่งตามติดเป็นเงา บทจะสลัดทิ้งก็ง่าย ๆ แบบนี้เหรอรุ้งพราย “ใส่กลับไปเดี๋ยวนี้” ชายหนุ่มแทบจะกัดฟันพูดออกมา “ไม่ค่ะ อ๊ะ! พี่คริษฐ์จะทำอะไรรุ้งไม่ใส่” รุ้งพรายถูกคริษฐ์กระชากมือมาแล้วจัดการสวมแหวนกลับที่เดิม “ใส่แล้วห้ามถอด ห้ามทำให้แม่พี่เสียใจรู้ไหม” “พี่คริษฐ์!” (รักร้ายจอมทระนง)
อวิ๋นเจินอาศัยอยู่ในตระกูลอวิ๋นมาเป็นเวลา 20 ปี กลับพบว่าเธอเป็นลูกสาวปลอม พ่อแม่บุญธรรมของเธอวางยาเธอเพื่ออยากจะได้เงินมาลงทุน หลังจากที่อวิ๋นเจินรู้เรื่องนี้ เธอก็ถูกไล่กลับไปที่ชนบท จากนั้นเธอก็ค้นพบว่าตัวเองคือลูกสาวแท้ๆ ของตระกูลเฉียวและมีชีวิตที่หรูหราสุด ๆ หลังจากกลับมา เธอได้รับความรักจากครอบครัวและมีชื่อเสียงโด่งดัง น้องสาวจอมปลอมใส่ร้ายอวิ๋นเจิน แต่เธอไม่คาดคิดว่าอวิ๋นเจินจะมีความสามารถต่างๆ เมื่อต้องเผชิญกับการยั่วยุ เธอได้แสดงความสามารถและทักษะต่างๆ มากมายเพื่อจัดการผู้รังแก มีข่าวลือกันว่าอวิ๋นเจินยังคงโสด และชายหนุ่มชื่อดังแห่งเมืองงก็ผลักเธอไปเข้ากำแพง "คุณนายกู้ ถึงตามราเปิดเผยตัวตนได้แล้วนะ"
© 2018-now MeghaBook
บนสุด