อุตส่าห์ช่วยเหลือเพราะเห็นว่าไร่อยู่ใกล้กัน แต่พี่ชายตัวดีของเธอกลับไม่ยอมคืนเงิน แถมยังร่วมมือกับพวกชาติชั่วเล่นงานเขาอีก "มีเมียเป็นคนใบ้ก็ดีเหมือนกัน จะได้ไม่ต้องทนฟังเสียงบ่น ถอดเสื้อผ้า!!!"
อุตส่าห์ช่วยเหลือเพราะเห็นว่าไร่อยู่ใกล้กัน แต่พี่ชายตัวดีของเธอกลับไม่ยอมคืนเงิน แถมยังร่วมมือกับพวกชาติชั่วเล่นงานเขาอีก "มีเมียเป็นคนใบ้ก็ดีเหมือนกัน จะได้ไม่ต้องทนฟังเสียงบ่น ถอดเสื้อผ้า!!!"
“ได้ตัวคุณหนูใบ้! น้องสาวไอ้ปิติยศมาแล้วครับพ่อเลี้ยง!”
รายงานของชายวัยกลางคนรูปร่างกำยำ ทำให้บุรุษหนุ่มที่นั่งหลับตาอยู่บนเก้าอี้นวดไฟฟ้าในห้องโถงขนาดใหญ่ตกแต่งด้วยเฟอร์นิเจอร์ราคาแพงและหายาก ค่อยๆลืมตาขึ้นพร้อมแสยะยิ้มมุมปาก
“พาเข้ามา!”
กรีชาเจ้าของอาณาจักรไร่พญาป่าเสือ ผู้ได้ชื่อว่าร่ำรวยและทรงอิทธิพลที่สุดคนหนึ่งของภาคเหนือ แม้พึ่งอายุเพียง 29 ปี แต่ความสามารถทั้งบู๊และบุ๋นใช่จะหาตัวจับได้ง่ายๆ จึงไม่แปลกที่ได้ชื่อว่าเป็นเจ้าพ่อแห่งภูป่าเสือ ดินแดนอันปกคลุมไปด้วยอิทธิพลมืด แหล่งซ่องสุมธุรกิจสีเทาค่อนไปทางดำทุกรูปแบบ
ไม่นานลูกน้องของเจ้าพ่อใหญ่อีกสองคนก็นำตัวเจ้าของร่างบางสูงประมาณ163เซนติเมตรเห็นจะได้เข้ามา หุ่นทรงเล็กทุกสัดส่วนยกเว้นหน้าอกกับสะโพก น้ำหนักให้ไม่เกิน43-44 กิโลกรัม แลน่าฟัดทีเดียว จับหิ้วด้วยแขนข้างเดียวได้สบาย
จำได้ว่าเคยเห็นยัยคุณหนูใบ้คนนี้ตอนที่เธอยังเป็นเด็ก ปริญบิดาของเธอพามาสวัสดีคุณปู่ของเขาแต่หลังจากที่คุณปู่เสียได้ไม่นาน ปริญก็จากโลกนี้ไปเช่นกัน นับจากนั้นก็ไม่เคยได้เจอะเจอปิติยาหรือยัยคุณหนูใบ้อีกเลย ได้ยินว่าเป็นคนค่อนข้างเก็บตัว ไม่ชอบออกไปไหน วันๆขลุกอยู่แต่ในไร่แม่กรองทองอย่างคนมีปมด้อย
ยอมรับว่าเธอสวยมาก แตกต่างจากตอนเด็กที่เคยพบ นัยน์ตาสีอำพัน ระหว่างสันจมูกเรียวโด่ง แสดงออกถึงความหวาดกลัวแต่แฝงความเป็นนักสู้ พยายามดีดดิ้นเพื่อให้หลุดจากพันธนาการตลอดเวลาแม้ไม่ส่งเสียงแต่ดูออกว่ามีบทผรุสวาทมากมายในสายตาคู่งาม
ตอนเด็กกับตอนโตต่างกันชะมัด ไม่ใช่แค่หน้าอกหน้าใจโตขึ้นนะ แต่กาลเวลาทำให้แววตาอ่อนโยนเอียงอายประหม่าไม่สู้คนเปลี่ยนเป็นแม่เสือสาวซึ่งถ้าพูดได้คงด่ากันจนหูชาเป็นแน่
“เธอจะโทษฉันไม่ได้นะปิติยา ก็พี่ชายเธอมันเล่นไม่ซื่อ ฉันอุตส่าห์ให้เงินมันยืมเพราะเห็นว่ามันเดือดร้อน อีกอย่างเราก็บ้านใกล้เรือนเคียง แต่แทนที่มันจะสำนึกบุญคุณ มันกลับไปร่วมมือกับไอ้เสี่ยเรืองชัยเผาโกดังเก็บผลผลิตของฉัน งานนี้พี่ชายเธอเริ่มก่อน! ถ้าอ้างเรื่องไม่มีทางเลือก ฉันว่าฟังไม่ขึ้น แต่ถึงอย่างงั้นก็เถอะ ถ้าเธอยอมยกที่ดินส่วนของเธอหรือทรัพย์สินส่วนของเธอใช้หนี้แทนมัน ฉันก็จะปล่อยเธอไป ฉันไม่ใช่คนใจร้ายถึงขั้นรังแกคนพิการหรอก ฉันแค่อยากได้เงินของฉันคืนก็เท่านั้น เดี๋ยวฉันจะให้คนไปเรียกพี่ชายของเธอมาที่นี่ ตกลงกันเองว่าจะเอายังไง"
"อาชา พาคุณหนูปิติยาขึ้นไปพักที่ห้องรับรอง แล้วให้คนไปส่งข่าวที่ไร่แม่กรองทอง”
ถึงจะได้ชื่อว่าเป็นเจ้าพ่อแห่งภูป่าเสือ มีอิทธิพลคับที่แห่งนี้ แต่กรีชาก็ไม่เคยทำร้ายใครก่อนโดยเฉพาะเด็ก สตรี คนชรา และคนพิการ กลับกันคือช่วยเหลือด้วยซ้ำ ยิ่งธุรกิจผิดกฎหมายด้วยแล้ว เขายิ่งไม่ยุ่ง แต่ด้วยความที่อยู่ท่ามกลางดงเสือจะทำตัวเป็นแมวก็อยู่ไม่รอด ยังมีอีกหลายร้อยชีวิตที่ฝากให้เขาดูแล ดังนั้นกรีชาจึงไม่เคยระรานใครก่อน แต่! ใครก็อย่าบังอาจกระตุกหนวดพญาแห่งป่าเสือตนนี้เด็ดขาด ไม่งั้นได้ตายไม่ดีทุกราย!
สาวสวยในวัย22ปีเต็มผู้ถูกเรียกขานว่าปิติยา ไม่พอใจมากที่ถูกพาตัวมาขัง แต่ตอนนี้ทำอะไรไม่ได้ ด้วยตกกระไดพลอยโจนจึงปล่อยเลยตามเลย
“ไปเจอตัวที่ไหนทำไมมีกระเป๋าเดินทาง?”
เห็นแม่บ้านลากกระเป๋าเดินทางใบใหญ่หนึ่งใบและใบเล็กอีกหนึ่งใบขึ้นไปบนห้องรับรองกรีชาจึงเอ่ยถามอาชาซึ่งเป็นลูกน้องคนสนิท
“ที่หน้าสนามบินครับพ่อเลี้ยง ไอ้ปลื้มมันกำลังจะให้น้องสาวมันหนีอย่างที่พ่อเลี้ยงเดาไว้ไม่มีผิด”
หลังจากโกดังเก็บผลผลิตถูกเผาอาชาจับคนร้ายทำได้ทันควัน เพียงแค่ใช้ปืนจ่อกะโหลกไอ้คนงานพม่าคนนั้นก็สารภาพหมดเปลือกว่าปิติยศเป็นคนจ้างวานให้วางเพลิง
ทั้งหลักฐาน พยานแน่นหนาถ้ากรีชาแจ้งความเอาเรื่องปิติยศคงไม่รอดคุก แต่ทุกคนที่ภูป่าเสือรู้ดีว่ากฎหมายทำอะไรคนชั่วบนดินแดนแห่งนี้ไม่ได้ ลูกปืนเท่านั้นที่ศักดิ์สิทธิ์!
การจับปิติยาไว้เป็นตัวประกันคือทางออกที่ดีที่สุด อย่างน้อยก็เป็นเครื่องยืนยันว่าเขาจะได้เงินคืน รวมไปถึงค่าเสียหายที่โกดังถูกเผาด้วย เพราะปิติยามีสิทธิ์ในที่ดินไร่แม่กรองทองครึ่งหนึ่ง ไม่นับทรัพย์สินอื่นๆที่ปริญยกให้ แน่นอนว่าปิติยาคงไม่เคยได้ใช้เพราะวันๆก็ขลุกอยู่แต่กับไร่
ส่วนของปิติยศมันไม่เหลืออะไรแล้ว รายนั้นติดการพนันเข้ากระแสเลือด ขอยืมเงินกรีชาก็เพื่อเอาไปใช้หนี้พนัน มันรับปากดิบดีว่าจะเลิก สุดท้ายก็เอาไปเผาในบ่อนถลำลึกกว่าเดิม ตอนนี้คงหมดหนทางจึงหันไปร่วมมือกับไอ้เสี่ยเรืองชัยผู้ที่ได้ชื่อว่าเป็นเจ้าพ่อแห่งภูป่าเสืออีกคน อะไรที่เลวๆ อะไรที่ผิดกฎหมายไอ้เสี่ยเรืองชัยเอาหมด ศัตรูหมายเลขหนึ่งที่มันหมายหัวก็คือกรีชา
ที่ดินไร่พญาป่าเสือถ้ากรีชาบอกว่าขายพันล้านเสี่ยเรืองชัยก็กล้าซื้อ เพราะทำเลเอื้ออำนวยต่อการทำธุรกิจผิดกฎหมายทุกรูปแบบ ไม่ว่าจะตั้งบ่อน ส่งยา ค้าอาวุธ ค้ามนุษย์ เก็บค่าผ่านทางส่งผู้ร้ายข้ามแดน รับรองว่าไม่เกิน2ปีคืนทุนพันล้านสบายๆ
ระหว่างที่ปิติยศชายหนุ่มวัย 28 ปี กำลังนั่งจิบไวน์อยู่อย่างสบายใจในบ้านพักส่วนตัวไร่แม่กรองทอง ข้างกายมีสาวสวยสองคนกำลังบีบนวดเอาอกเอาใจ ลูกน้องที่กรีชาใช้ไปส่งสาส์นได้รับอนุญาตให้เข้าพบ ปิติยศคิดว่าไม่ต้องเกรงกลัวกรีชาอีกต่อไป เพราะตอนนี้ไร่แม่กรองทองกำลังจะเป็นของตนแต่เพียงผู้เดียวแล้ว ถ้าขายก็ได้เงินหลายร้อยล้าน
“พ่อเลี้ยงกรีชาให้พวกเรามาบอกว่าตอนนี้คุณหนูปิติยาอยู่ในความดูแลของไร่พญาป่าเสือ และขอเชิญพ่อเลี้ยงปิติยศไปพบด้วยครับ”
ประโยคเมื่อครู่ทำให้คนที่กำลังจะยกแก้วไวน์ขึ้นจิบพลาดทำแก้วหลุดมือ โชคดีที่สาวสวยข้างกายช่วยรับเอาไว้ทันจึงไม่หล่นลงพื้น
“อะไรนะ! มึงพูดว่าอะไร”
“........” ลูกน้องของกรีชามองหน้ากัน แต่ไม่พูดซ้ำ
“พ่อเลี้ยงสะดวกไปพบพ่อเลี้ยงกรีชาวันนี้ไหมครับ ผมว่ารีบไปหน่อยก็ดีนะ เพราะระยะเวลาอาจส่งผลต่อความปลอดภัยของคุณหนูใบ้ หมดธุระแล้วพวกผมขอตัวก่อน”
“เดี๋ยว! พวกมึงพูดบ้าอะไร พวกมึงกำลังบอกกูว่าน้องสาวกูอยู่ที่ไร่พญาป่าเสืออย่างงั้นเหรอ ตอแหล! อย่าคิดว่ากูจะเชื่อลูกไม้ตื้นๆของนายมึง”
ก็แน่ล่ะเมื่อคืนนี้ปิติยศพึ่งหลอกปิติยาไปที่ท้ายไร่ ใช้มีดแหลมแทงหน้าท้องน้องสาวจนเป็นแผลและจับโยนลงเหวน้ำตกไปแล้ว ตอนนี้ก็รอแค่ใครสักคนไปพบศพปิติยาเมื่อถึงตอนนั้นกรรมสิทธิ์ในไร่แม่กรองทองและทรัพย์สินของปิติยาทั้งหมดก็จะตกเป็นของเขา ความจริงก็ไม่ได้อยากทำอย่างนี้แต่ในเมื่อคุยกันดีๆขอให้ขายไร่อีนังน้องใบ้มันยืนยันไม่ยอมขายท่าเดียว แล้วทางด้านคนซื้อถ้าซื้อก็จะซื้อหมด เป็นเหี้ยอะไรก็ไม่รู้มันบอกครึ่งเดียวไม่ซื้อ! แล้วอะไร? ตลกสิ้นดีไอ้พ่อเลี้ยงกรีชาเอาเรื่องอีใบ้มาอ้าง กลัวจะไม่ได้เงินคืนถึงขนาดกุเรื่องโง่ๆขึ้นมาเชียวหรือ
“ไม่เชื่อก็ตามใจ พวกเรามาบอกแค่นี้ ลานะครับ”
ลูกน้องของพ่อเลี้ยงกรีชากลับไปแล้ว แต่ทิ้งปริศนาไว้ให้ปิติยศคิดไม่ตก มันจะเป็นไปได้ยังไงในเมื่อเขาฆ่าปิติยากับมือ แต่พ่อเลี้ยงกรีชาก็เป็นคนจริงพอตัว มันไม่เคยโกหก ไม่เคยพูดเล่น พูดจริง ทำจริง ฆ่าจริง! ถ้าอยากฆ่ากันไม่ใช่เรื่องยาก บุกมายิงทิ้งคาไร่นานแล้ว ไม่จำเป็นต้องหลอกให้ไปหา ความน่าจะเป็นที่พ่อเลี้ยงกรีชาจะโกหกเรื่องปิติยาคือศูนย์ แต่ก็นั่นแหละเขาพึ่งฆ่าปิติยา! แล้วปิติยาจะไปอยู่ที่ไร่พญาป่าเสือได้ยังไง?
นางบำเรอชั้นต่ำอย่างเธอ ไม่มีสิทธิ์ปริปากร้องขอความเห็นใจ สิ่งที่เธอต้องทำคือยอมรับความเจ็บปวดทั้งหมดที่เขามอบให้ เพื่อรอให้ถึงวันที่เขารู้สึกสาสมใจและปล่อยเธอไปแต่โดยดี.......
"อย่าดื้อนะอีหนู คนดีของพี่กำนัน" "พี่กำนันบ้าอะไร ไอ้แก่!" พระนางลิ้นกับฟัน โคแก่กินหญ้าอ่อน ตีกันตลอด เร่าร้อน หึงโหด โกรธแรง ดราม่าครบทุกรส ตลก เศร้า น่ากลัว ซึ้ง หวาน โรมานติก
หลังสืบรู้ว่าภรรยาเก่าของลูกหนี้ผู้น่ารำคาญคือผู้หญิงแพศยาที่เคยทำให้ครอบครัวของเขาพัง เดปมาเฟียหนุ่มเจ้าของบ่อนคาสิโนจึงไม่รีรอที่จะแก้แค้น ผู้หญิงแพศยาคนนั้นทำเลวไว้ไม่รู้ตั้งกี่ครั้ง ครั้งล่าสุดก็คือทิ้งลูกสาวกับผู้ชายที่เป็นลูกหนี้ของเขาไปแต่งงานใหม่กับมหาเศรษฐี และตอนนี้ลูกสาวของหล่อนที่อยู่กับลูกหนี้ของเขาโตพอใช้งานได้แล้ว.....
ฟ้าเป็นใจให้สินทรผู้ช่วยผู้ใหญ่บ้านหนุ่มวัย34 มีโอกาสได้เห็นเรือนร่างเปล่าเปลือยของ ดาวใจ สาวน้อยวัย16 ย่าง17 ปี ซึ่งเป็นลูกสาวของผู้หญิงที่เคยทำให้เขาช้ำใจ จึงได้ข้ออ้างมาต่อรองหวังฟันสาวน้อยแล้วทิ้งขว้างเพื่อแก้แค้นพ่อแม่ของเธอ ทว่าฟ้าก็ดันกลั่นแกล้งให้สินทรหลงรักลูกสาวอดีตกิ๊กจนโงหัวไม่ขึ้น ความรักของ น้าสินทรตัวร้าย กับ อีหนูดาวใจตัวแสบ จะสนุกสนาน เสียวซ่าน บันเทิงเริงใจ ฮาลั่นทุ่งกันเพียงไหน ไปติดตามกันเลยจ้า..... “แม่เจ้าโว้ย! อีดาวใจ ข้าเห็นเอ็งมาตั้งแต่ตีนเท่าฝาหอย ตอนนี้หอยเท่าฝ่าตีนข้าแล้วหรือวะเนี่ย” “น้าสินพูดบ้าอะไรเอาผ้าถุงฉันคืนมาเดี๋ยวนี้นะ ไม่งั้นฉันจะฟ้องแม่” “ยังกะข้ากลัวแม่กับพ่อเอ็งนิ!” “น้าสิน เอาผ้าถุงมาให้ฉันเถอะเดี๋ยวคนมาเห็น”
เธอมาเพื่อเงินของเขา ส่วนเขาต้องการแค่สนุก วินๆทั้งคู่ แค่ความสุขฉาบฉวยของผู้ชายขี้เบื่อ และ เงินจำนวนหนึ่งที่หญิงสาวกำลังต้องการ เพียงเท่านั้น... แต่!วันหนึ่งคนขี้เบื่อดันกลัวจะโดนเบื่อซะเอง..
ใครบัญญัติว่าพระเอกต้องเป็นคนดี ในเมื่อผู้หญิงส่วนมากหลงรักคนเลวทั้งนั้น สำหรับเขาก็แค่จะร้ายให้เธอรัก (รวยมากเลวมากใครไม่รักก็ให้มันรู้ไป)
ในระยะเวลาสองปีที่แต่งงานกัน เนี่ยเหยียนเซินจู่ๆ ก็เสนอขอหย่า เขาพูดว่า "เธอกลับมาแล้ว เราหย่ากันเถอะ คุณอยากได้อะไรบอกมาได้เลย" ชีวิตการแต่งงานสองปีสู้อีกคนที่หันหลังกลับมาไม่ได้ ตามอย่างที่คนเขาว่ากัน "คนรักเก่าแค่ร้องไห้สักหน่อย คนรักปัจจุบันก็ย่อมแพ้แน่นอน" เหยียนซีไม่ได้โวยวายอะไร เลือกที่จะตอบตกลงและเสนอเงื่อนไขว่า "ฉันต้องการรถซูเปอร์คาร์ที่แพงที่สุดของคุณ" "ได้" "วิลล่าสุดหรูชานเมือง" "ตกลง" "กำไรหลายพันล้านที่หามาในช่วงสองปีนี้ แบ่งคนละครึ่ง" "อะไรนะ"
ธัญญ์... ชายหนุ่มที่เจ็บช้ำกับความรักเมื่อครั้งอดีต วิธาดา... หญิงสาวร้ายกาจที่แอบรักเขาหมดหัวใจ หญิงสาวมองสบตากับเขาในระยะกระชั้นชิด หัวใจบอบบางเรียกร้องให้เธอเปิดเผยความจริงในส่วนลึกของจิตใจ “ฉันรักนายนะธัญญ์ รักนายมานานแล้ว” หล่อนคิดเอาไว้ไม่มีผิดว่าเขาจะต้องทำหน้าตกใจ แม้จะทำใจเอาไว้แล้ว แต่เธอรู้สึกเจ็บปวด มีผู้ชายหลายคนอยากสานสัมพันธ์กับเธอ แต่เธอก็สลัดทิ้ง แต่เขา... คนที่เธอแอบรัก เขากลับมีใจให้น้องสาวของเธอ เขากลับไม่ต้องการความรักของเธอ เขากลับตกใจและมองเธอเหมือนตัวประหลาด “เธอพูดอะไรของเธอ” ธัญญ์ทั้งมึนงง ทั้งตกใจในคำพูดของหญิงสาว “พูดความจริง นายคงไม่เคยรู้มาก่อน นายเป็นผู้ชายคนแรกของฉัน คืนนั้น...” เธอพูดอย่างหมดเปลือก เขาจะดูถูกยังไงก็ช่าง แต่เธอเป็นคนพูดตรงๆ เธออยากให้เขารับรู้และเข้าใจ “แต่ฉันไม่ได้รักเธอ ไม่แม้แต่จะคิด”
เซิ่งหนานหยินเกิดใหม่แล้ว ชาติที่แล้ว เธอถูกชายชั่วหักหลัง ถูกชายเสแสร้งใส่ร้าย โดนครอบครัวสามีเล่นงาน จนทำให้เธอล้มละลายและเป็นบ้าไป ในท้ายที่สุด เธอเสียชีวิตอย่างน่าสลดใจด้วยอุบัติเหตุทางรถยนต์เมื่อเธอตั้งครรภ์ได้ 9 เดือน แต่คนร้ายกลับทำเงินได้มากมาย และใช้ชีวิตทั้งครอบครัวอย่างมีความสุข เกิดใหม่ครั้งนี้ เซิ่งหนานหยินคิดตกอล้ว อะไรที่ว่าพระคุณช่วยชีวิต คนรักในใจอะไรกัน ล้วนไม่ต้องไปสน เธอจะจัดการชายชั่วหญิงร้าย สร้างชื่อเสียงให้กับตระกูลเก่าของตนเองขึ้นมาใหม่อีกครั้งและนำตระกูลเซิ่งไปสู่จุดสูงสุดของชีวิต สิ่งที่แตกต่างออกไปก็คือ คนที่หยิ่งมาตลอดในชาติที่แล้ว กลับเป็นฝ่ายริเริ่มมาหาเธอ "เซิ่งหนานหยิน การแต่งงานครั้งแรกผมไม่ทัน การแต่งงานครั้งที่สองก็ต้องถึงคิวผมแล้วสินะ"
ตอนเด็กถูกทอดทิ้งให้โดดเดี่ยว แม่ถูกทำร้าย ฉือเนี่ยนสาบานว่าจะเอาทุกอย่างที่เป็นของตัวเองกลับคืนมา!ครั้งแรกที่กลับมาที่เมืองจิง เธอถูกมองว่าเป็นผู้หญิงที่ไร้การศึกษาและสำส่อนหลายคนบอกว่าลู่เหยียนสือต้องตาบอดแน่ๆ ถึงได้มาสนใจฉือเนี่ยนแต่มีแค่ลู่เหยียนสือเท่านั้นที่รู้ ว่าเธอที่เขารักและทะนุถนอมนั้นมากความสามารถ สามารถสร้างความวุ่นวายให้ทั้งเมืองจิงได้ด้วยตัวคนเดียวเธอคือหมอมือหนึ่ง เธอคือแฮ็กเกอร์มือทอง และยังเป็นนักปรุงน้ำหอมชั้นยอดที่ได้รับการยกย่องจากบุคคลสำคัญคนภายนอก: "คุณลู่ คุณจะเอาใจภรรยาจนไม่มีขอบเขตเลยเหรอ ทำไมแม้แต่ประชุมยังต้องอุ้มเธอไว้ด้วย!"ลู่เหยียนสือ "ต้องเอาใจภรรยาถึงจะรุ่งเรืองเฟื่องฟู"ต่อมาความลับของเธอถูกเปิดเผย ทำให้ผู้คนนับไม่ถ้วนหันมาชื่นชมและยกย่องเธอ...
"อ๊ะ..ที่ไหนนี่มืดจัง อึดอัดจังเลย โอ้ย !!ใครถีบหัววะ" "ฮูหยินคลอดแล้วเป็นคุณชายน้อยเจ้าค่ะ ยังมีอีกคนเจ้าค่ะ เบ่งอีกเจ้าคะ " "อุ๊แว" "เป็นคุณหนูเจ้าค่ะฮูหยิน"
หลี่เมิ่งเหยาย้อนเวลามาอยู่ในร่าง ของเด็กสาววัยสิบสองปี ในวันที่มารดาอนุผู้โง่เขลา ถูกขับไล่ออกจากจวน โชคยังดีที่ตอนตาย นางสวมกำไลหยกโลกันตร์เอาไว้ มันจึงติดตามนางมาที่นี่ด้วย +++ 1 : มารดาโง่ จนถูกไล่ออกจากตระกูล จวนตระกูลหลี่เจ้าเมืองถัง สตรีสองนางถูกสาวใช้จับคุกเข่าลง ตรงหน้าของหลี่หงซวนเจ้าเมืองถัง ทั้งยังเป็นพ่อสามีของทั้งคู่อีกด้วย ท่านกำลังสอบสวนเรื่องของสะใภ้ใหญ่ของบ้านสาม ถูกฮูหยินรองกับอนุรวมหัวกันลอบทำร้าย ด้วยการวางยาขับเลือดในถ้วยน้ำแกงบำรุงครรภ์ ทำให้นางต้องสูญเสียทารกในครรภ์ไป “ท่านพ่อข้าไม่รู้จริง ๆ ว่านั่นเป็นยาขับเลือด ฮูหยินรองบอกว่าเป็นน้ำแกงบำรุงครรภ์ ให้ข้าเป็นคนนำไปมอบให้ฮูหยินใหญ่ เป็นนางนั่นเอง นางหลอกข้า !” เฉาซูหลิ่งชี้นิ้วไปทางสตรีด้านข้าง ร้อนรนเอ่ยออกมาเหมือนคนไม่ได้รับความเป็นธรรม “อนุเฉาเจ้าอย่ามาใส่ร้ายข้านะ เจ้าทำคนเดียวทั้งนั้นไม่เกี่ยวกับข้าเลย” ฮูหยินรอง ถูซวงอี้ ชี้นิ้วใส่หน้าเฉาซูหลิ่งกลับคืน ต่างคนต่างโยนความผิดให้กัน ฮูหยินผู้เฒ่าหลิวเยี่ยนหนานโบกมือให้คนเข้ามา “ข้าให้โอกาสพวกเจ้าสองคนพูดความจริง แต่กลับไม่มีใครยอมรับความผิดแม้แต่คนเดียว มันน่าจับส่งทางการให้รู้แล้วรู้รอด” พ่อบ้านหลัวให้คนลากสาวใช้คนหนึ่งเข้ามา สภาพของนางถูกทรมานจนเนื้อตัวบวมช้ำไปหมด “เรียนนายท่านข้าให้คนไปค้นห้องสาวใช้ทุกคนในจวน พบเทียบยาซ่อนไว้ใต้หมอน จากห้องของสาวใช้คนนี้ขอรับ” ถูซวงอี้ถึงกับคุกเข่าต่อไปไม่ไหว ทิ้งตัวลงไปนั่งอยู่บนพื้น สาวใช้ที่ถูกทรมานจนสภาพน่าเวทนานั่น เป็นเสี่ยวอิงสาวใช้สินเดิมของนางเอง “ฮูหยินรอง ข้าขอโทษ ข้าทนต่อไปไม่ไหวจริง ๆ ข้าขอโทษ !” เสี่ยวอิงโขกศีรษะลงตรงหน้าของถูซวงอี้แรง ๆ น้ำตาไหลนองหน้าจน แทบไม่เป็นผู้เป็นคนอยู่แล้ว พ่อบ้านหลัวเอ่ย “ข้าให้คนไปถามที่หอโอสถแล้วขอรับนายท่าน เป็นเทียบยาขับเลือดจริง ๆ” หลี่หงซวนมองไปทางบุตรชายคนที่สามของตน พบว่าเขามีสีหน้ากลืนไม่เข้าคายไม่ออก สตรีที่คุกเข่าอยู่ตรงหน้าคือฮูหยินรอง กับอนุภรรยาที่เขารักใคร่ไม่ต่างกัน เหตุใดถึงได้คิดร้ายต่อฮูหยินใหญ่ของเขาได้ เป็นเหตุให้เขาต้องสูญเสียลูกที่อยู่ในท้องของนางไป เดิมทีฮูหยินใหญ่ของเขาก็ตั้งท้องยากอยู่แล้ว เขารอมาตั้งนานกว่าจะมีวันนี้ได้ ไม่คิดมาก่อนว่าจะต้องสูญเสียไปเช่นนี้ “หย่วนเจ๋อนี่เป็นเรื่องในเรือนของเจ้า เจ้าอยากตัดสินเรื่องนี้ด้วยตัวเองหรือไม่” ผู้เป็นบิดาเอ่ยถามบุตรชาย “ไม่ ข้าไม่อยากเห็นหน้าพวกนางอีกต่อไป แล้วแต่ท่านพ่อเถอะขอรับ ข้าขอตัวไปดูฮูหยินใหญ่ก่อน” หลี่หย่วนเจ๋อคำนับบิดา สะบัดแขนเสื้อเดินจากไปในทันที หางตายังไม่แม้แต่จะมองสตรีทั้งสองนาง เฉาซูหลิ่งลนลานตามเขาไป “ท่านพี่ช่วยข้าด้วย ข้าไม่ผิดนะเจ้าคะ ท่านพี่ !” แต่ถูกบ่าวรับใช้ขวางทางเอาไว้ หลี่หงซวน “หยุดโวยวายได้แล้วอนุเฉา เจ้าเป็นคนถือถ้วยน้ำแกงใส่ยาขับเลือด ไปมอบให้ฮูหยินใหญ่ด้วยตัวเอง ยังคิดจะหนีความผิดนี้ไปได้อีกรึ” “ท่านพ่อขะข้าข้า...ไม่ผิด” เฉาซูหลิ่งทิ้งตัวไปด้านหลังอย่างหมดเรี่ยวแรง เดิมทีนางก็ไม่เป็นที่โปรดปรานของพ่อแม่สามีอยู่แล้ว เพราะไม่สามารถให้กำเนิดบุตรชายได้ ครั้นได้บุตรสาวก็นิสัยขี้ขลาดขี้กลัว ไหนเลยจะเชิดหน้าชูตาให้ตระกูลหลี่ได้ เฉาซูหลิ่งนั่งเหม่อลอย คล้ายคนจิตใจไม่อยู่กับเนื้อกับตัว ขณะที่หลี่หงซวนกำลังประกาศโทษทัณฑ์ของพวกนาง ถูซวงอี้กับคนของนาง ถูกขายออกจากจวน ไปอยู่หอนางโลมอย่างเงียบ ๆ ชาตินี้อย่าได้ก้าวเท้า กลับมาเหยียบที่จวนตระกูลหลี่อีก ส่วนเฉาซูหลิ่งถูกขับไล่ออกจากจวน ไปพร้อมกับบุตรสาว ให้ไปอยู่เรือนร้างของตระกูลหลี่ที่เมืองฉาง ห้ามกลับมาที่ตระกูลหลี่อีกชั่วชีวิต “ท่านพ่อท่านขับไล่ข้าไป ข้ายังพอรับได้ เหตุใดต้องขับไล่เหยาเอ๋อร์ไปด้วย นางเพิ่งจะสิบสองปีเองนะเจ้าคะ” เฉาซูหลิ่งนึกถึงบุตรสาวร่างกายผ่ายผอม นอนซมเพราะพิษไข้อยู่ เกิดนึกสงสารนางขึ้นมาจับใจ ฮูหยินผู้เฒ่าหันไปมองสามีเล็กน้อย นางเห็นเด็กสาวคนนั้นมาตั้งแต่เกิด แม้ไม่ได้เอ็นดูแต่ก็นับว่าเป็นสายเลือดเดียวกัน “ฮูหยินเรื่องนี้ข้าตัดสินใจไปแล้ว ไม่อาจคืนคำได้” คำพูดของประมุขของตระกูล มีหรือใครจะกล้าขัด เฉาซูหลิ่งปล่อยเสียงร้องไห้โฮออกมาดัง ๆ นางโง่งมจนทำให้บุตรสาว ต้องมารับเคราะห์กรรมตามไปด้วย “ลากตัวอนุเฉาออกไป หารถม้าสักคันให้คนส่งนาง ไปที่เรือนร้างเมืองฉาง” คำสั่งของหลี่หงซวนเป็นคำขาด บ่าวไพร่รีบทำตามในทันที ครั้นได้อยู่ด้วยกันเพียงลำพังกับฮูหยินผู้เฒ่า หลี่หงซวนถึงได้บอกเหตุผล ที่ต้องตัดสินใจทำเช่นนี้ นั่นเพราะตระกูลจี้ได้ยื่นคำขาดมา ให้ขับไล่พวกเขาออกไปให้หมด อย่าให้เหลืออยู่แม้แต่ตนเดียว ไม่ต้องการให้คนที่ทำร้ายบุตรสาวของพวกเขา อยู่ระคายสายตาของจี้ชิวหรงอีกต่อไป ฮูหยินผู้เฒ่าแค่นออกมาหนึ่งคำ “อ้างเหตุผลข้าง ๆ คู ๆ ความจริงแล้วต้องการกำจัดอนุในเรือนบุตรสาวทิ้งให้หมด นี่กระทั่งเด็กคนหนึ่งก็ไม่เว้น แต่ก็เอาเถอะ เหยาเอ๋อร์อยู่ที่นี่ ก็ใช่จะมีประโยชน์อันใด นางไม่ได้อยู่ในสายตาของพวกเราด้วยซ้ำ ให้นางไปกับแม่ของนางนั่นแหละดีแล้ว” หลี่หงซวนนั้นเป็นเพียงเจ้าเมืองเล็ก ๆ มีตำแหน่งเป็นขุนนางขั้นที่ห้า ฝั่งตระกูลจี้บ้านเดิมของจี้ชิวหรงนั้น อยู่ในเมืองหลวงมีตำแหน่งใหญ่โตกว่าหนึ่งขั้น เรื่องนี้เขาจึงต้องขบคิด ถึงผลได้ผลเสียในอนาคตอีกด้วย การเสียสละอนุกับหลานสาวคนหนึ่ง เพื่อชดเชยให้แก่คนตระกูลจี้ นับว่าเป็นเรื่องสมควรทำแล้ว “ข้าก็คิดเช่นฮูหยินนั่นแหละ เพียงแต่สะใภ้สามแท้งคราวนี้ ไม่รู้จะยังสามารถตั้งท้องได้อีกหรือไม่ พวกเรารอดูไปก่อนดีกว่า หากนางไม่สามารถตั้งท้องได้จริง ๆ เราค่อยหาอนุมาให้หย่วนเจ๋อภายหลังก็ยังได้ ยามนั้นคนตระกูลจี้จะเอาอะไรมาง้างกับเราได้อีก” “จริงดังท่านว่าเจ้าค่ะ” ฝ่ายเฉาซูหลิ่งที่ถูกคนใช้ ลากตัวออกมาให้เก็บของในเรือน นางส่งเสียงเอะอะโวยวายตลอดทาง พร่ำบอกต้องการพบหลี่หย่วนเจ๋อให้ได้ แต่ถูกสาวใช้ขวางไว้ไม่ให้ไป นางจำใจกลับไปยังห้องนอนของตัวเอง รีบเก็บของสำคัญใส่ห่อผ้าเพื่อออกเดินทาง
© 2018-now MeghaBook
บนสุด
GOOGLE PLAY