“...หนี้ชีวิต หนี้แค้น ที่เธอต้องยอมพลีกายชดใช้ให้เขา !” สำหรับเรื่อง “บ้านไร่ชายดุ” เป็นเรื่องราวของ เมย์ หญิงสาววัยแรกแย้ม ที่ต้องตกเป็นเชลยในกำมือซาตาน เพราะหนี้ชีวิตที่พ่อของเธอได้กระทำไว้
ณ หน้าโรงเรียนมัธยมศึกษา
โรงเรียนแห่งนี้เป็นโรงเรียนประจำจังหวัดแห่งหนึ่งทางภาคเหนือ
วันสุดท้ายของการสอบกลางภาคมักจะเสร็จสิ้นในช่วงเช้า ดังนั้น ในช่วงบ่ายนักเรียนที่ไม่มีการสอบซ่อมก็จะเริ่มทยอยกันกลับบ้าน บางส่วนจับกลุ่มกันไปห้างสรรพสินค้าซึ่งเป็นแหล่งรวมความบันเทิงเพียงแห่งเดียวในจังหวัดที่ค่อนข้างห่างไกลความเจริญ เช่น โรงภาพยนตร์ คาราโอเกะ หรือ การนั่งรับประทานไอศกรีมในห้องแอร์เย็น ๆ
“เมย์ ! เมย์ ! เดี๋ยวสิ !”
เด็กชายร่างโยงในชุดมัธยมปลาย สวมแว่นหนาเตอะ สะพายเป้สีดำวิ่งกระหืดกระหอบ ไล่ตามหลังเหยียดตรงของเด็กสาวมัธยมปลาย รูปร่างของเธอผู้นั้นสูงเพรียว มีส่วนเว้าส่วนโค้งของผู้หญิงในวัยสาวบานสะพรั่ง ผมสีดำขลับยาวสลวยของเธอถูกรวบเป็นหางม้า มัดด้วยโบสีขาว ที่บ่งบอกถึงวัยบริสุทธิ์ไร้เดียงสาของวัยแรกสาว
“ว่าไงคะ ท่านหัวหน้าห้อง”
หญิงสาวร่างสวยที่ถูกเรียกหยุดชะงัก พร้อมกับหันหน้ามาส่งยิ้มให้เด็กหนุ่มซึ่งวิ่งมาหยุดตรงหน้าหล่อนพอดี
ใบหน้ารูปไข่ขาวผ่องของเธอราวกับสวรรค์บรรจงแต่งแต้ม ขนตายาวงอนเรียงกันเป็นแพใต้คิ้วโก่งดังคันศร อีกทั้งจมูกโด่งที่เชิดขึ้นคล้ายกับเด็กสาวจอมรั้นชวนให้คันหัวใจเด็กหนุ่ม ดวงตากลมโตของเธอเป็นประกายระยับ บวกกับริมฝีปากอิ่มสวยที่กำลังส่งรอยยิ้มพิมพ์ใจมาให้เขา จึงทำให้เด็กชายที่เพิ่งแตกหนุ่มรู้สึกหายใจไม่ทั่วท้อง หัวใจเต้นตึกตัก จนเขาไม่แน่ใจว่าที่หัวใจเต้นแรงนั้น เพราะความสวยของเธอ หรือเพราะเขาวิ่งมาเร็วจนเกินไป
เมื่อคนเรียกเธอให้หยุดเอาแต่มองเธอไม่วางตา เด็กสาวจึงผลักเขาที่หัวไหล่ทีหนึ่งก่อนเอ่ยว่า
“นี่ภานุ มีอะไรก็พูดมาสิ”
เสียงของเธอทำให้เด็กหนุ่มตรงหน้าได้สติ จึงเอามือจับท้ายทอยของตนแก้เก้อพร้อมกับบอกว่า
“สอบกลางภาคเสร็จแล้ว เหลือเวลาอีกตั้งครึ่งวันกว่าจะถึงเวลาเลิกเรียน รถของรีสอร์ตก็ยังไม่มารับ พวกเราไปดูหนังกันดีไหม”
ภาณุรีบเอ่ยชวนหญิงสาวที่ตนหมายปองมานานอย่างกระตือรือร้น
เมย์ หรือ เมทินี เป็นลูกสาวของเจ้าของรีสอร์ตอิงผา และยังเป็นเพื่อนร่วมชั้นเดียวกับเขา ซึ่งเขาแอบชอบเธอมาตั้งแต่แรกเข้ามัธยมศึกษา จวบจนวันนี้ที่ทั้งคู่เรียนจนจะจบชั้นมัธยมศึกษากันแล้ว แต่เขายังไม่มีโอกาสได้ใกล้ชิดกับหล่อนเป็นการส่วนตัวเลยสักครั้ง หากพลาดโอกาสนี้อีกไม่กี่เดือนข้างหน้าพวกเขาก็ต้องแยกย้ายกันไปเข้าเรียนมหาวิทยาลัย ซึ่งเขาไม่รู้ว่าจะได้เรียนในมหาวิทยาลัยเดียวกันหรือไม่
“ขอโทษที พอดีวันนี้ฉันไปด้วยไม่ได้ เพราะเป็นวันเกิดเมย์ ก็เลยอยากรีบกลับบ้านไปหาแม่น่ะ”
หญิงสาวรีบปฏิเสธอย่างจริงจัง เพราะเธอตั้งใจเอาไว้แล้วว่าหากสอบเสร็จเร็วก็จะแวะไปซื้อขนมเทียนเจ้าอร่อยที่แม่ชอบ ในวันนี้เธออยากให้ความสำคัญกับแม่มากที่สุด เพราะเธอรู้ว่าวันเกิดลูกคล้ายกับวันตายของแม่
“วันนี้วันเกิดเมย์หรอ” ภาณุถามอย่างตื่นเต้น
สาวน้อยพยักหน้าพร้อมกับยิ้มกว้างเต็มใบหน้า รอยยิ้มของเธอนั้นช่างทำให้หัวใจของเขาเต้นรัวยิ่งนัก
“จ๊ะ ครบรอบ 19 ปีพอดี”
เมย์มีอายุแก่กว่าเพื่อนรุ่นเดียวกัน 1 ปี เพราะว่าเธอเข้าเรียนช้ากว่าเด็กคนอื่น ๆ โดยแม่ของเธอให้เหตุผลว่า เมื่อยังเป็นเด็ก เธอป่วยหนักต้องหยุดอยู่ที่บ้านนานเป็นปี
“แย่จัง นุไม่รู้เลยว่า วันนี้วันเกิดเมย์ นุเลยไม่มีของขวัญให้ เอาไว้วันหลัง นุจะเอาของขวัญวันเกิดมาให้นะ”
“ขอบใจมาก เมย์ไปนะ
“แล้วเมย์จะกลับยังไง รถรีสอร์ตยังไม่มารับนี่”
เด็กหนุ่มเอ่ยถามอย่างเป็นห่วง เพราะปกติแล้วเมย์จะไปกลับโรงเรียนโดยอาศัยรถของรีสอร์ตซึ่งคอยวิ่งรับนักท่องเที่ยว
“เมย์จะกลับรถสองแถว ว่าจะแวะไปที่ตลาดในเมืองก่อนจ๊ะ”
“เมย์ไม่กลัวพวกไร่ปลายดาวแล้วเหรอ ให้ภานุไปส่งเมย์ดีไหม”
ภาณุอาสาด้วยความเป็นห่วง และในส่วนลึกนั้น เขาอยากจะหาโอกาสอยู่กับหล่อนนาน ๆ
เมย์ย่นคิ้วเล็กน้อยในหัวของเธอกำลังนึกถึงไร่ปลายดาวที่อยู่ใกล้กับรีสอร์ตของเธอ ไร่แห่งนี้เป็นที่กล่าวขานว่าเป็นแหล่งรวมคนเถื่อน และยังมีข่าวลือว่าเจ้าของรีสอร์ตถูกฆ่ายกครัว ดังนั้น พ่อกับแม่ของเธอจึงมักจะคอยเตือนหล่อนเสมอว่า ห้ามเข้าไปใกล้ไร่ปลายดาวเป็นอันขาด หรือห้ามแม้กระทั่งพูดคุยกับคนในไร่นั้น
“อืม ก็ดีเหมือนกันนะ”
เมย์พยักหน้าน้อย ๆ
“ไปกัน รถมอเตอร์ไซค์เราจอดอยู่ในโรงรถ”
ภาณุยิ้มฉีกยิ้มจนแทบจะถึงใบหู
……………………………………………………………………
พลั๊วะ !
กรีีดดดดดดดด
“อย่า !”
เสียงกำปั้นกระทบเนื้อ ตามมาด้วยเสียงร้องห้าม ผสมผสานกับเสียงร้องโหยหวนดังสะอึกสะอื้นอยู่เป็นระยะ ท่ามกลางเสียงอันน่ารันทดใจเหล่านั้น ชายหนุ่มรูปร่างสูงใหญ่ยังคงสูบซิการ์ นั่งไขว้ขาอยู่บนโซฟารับรองแขกของรีสอร์ตอิงผาอย่างอ้อยอิ่ง ราวกับว่า เสียงร้องอย่างทุกข์ระทมเช่นนั้น เป็นดนตรีบรรเลงขับขานให้บันเทิงใจ
พลั๊วะ !
ตุบ !
ร่างอ้วนท่วมของเจ้าของรีสอร์ตถูกเตะจนกระเด็นลงมาหมอบแทบเท้า บุรุษที่นั่งชมความบันเทิง ร่างในชุดเสื้อสีขาวทับด้วยแจ็คเก็ตยีนส์ ขายาวที่เต็มไปด้วยกล้ามเนื้อแกร่งสวมทับด้วยกางเกงยีน ใช้เท้าที่สวมด้วยรองเท้าหนังสีน้ำตาลเข้มเชยคางให้คนถูกซ้อมจนหน้ายับยู่ยี่ขึ้นมองเขา
ดวงตาของคนอยู่ใต้เท้าบวมเบ่ง เลือดกบเต็มปาก เขาเป็นชายอายุ 47 ปี ศีรษะที่มีผมสีดอกเลาเบาบางจนแทบจะไม่เหลือเคล้าของเสือเมฆผู้อาจหาญในอดีตแม้แต่น้อย
“ไง ไอ้เสือเมฆ ฉันตามล่าตัวแกมาตั้งนาน ไม่คิดว่าแกจะลอกคราบจากเสือกลายเป็นหมา ซุกตัวหลบอยู่ใกล้ ๆ ตีนฉันนี่เอง”
“ไอ้พยัคฆ์ !”
คนถูกเรียกว่าหมา เปล่งเสียงออกมาจากปากบิดเบี้ยวที่ถูกชกจนแตกยับ ยิ่งเขาถลึงตาด้วยความโกรธ ดวงตาที่ถูกต่อยจนเขียวช้ำยิ่งถลนออกมาอย่างน่ากลัว ไม่นึกเลยว่าวันหนึ่ง เขาจะถูกผู้ที่อ่อนกว่าถึง 10 ปีหยามเกียรติถึงถิ่นตน !
“ขอบคุณพี่ชายที่ยังจำน้องชายคนนี้ได้ และฉันก็ไม่เคยลืมไอ้คนทรยศเช่นแกเหมือนกัน แม้ว่าแกลอกคราบจากเสือเป็นหมา ฮ่า ๆ ศักดิ์ศรีของไอ้เสือผู้ทระนงหายไปไหนหมดละวะฮ่า ๆ”
ชายหนุ่มผู้มีใบหน้าหล่อเหลาหัวเราะลั่นขณะที่บดเท้าเหยียบลงบนศีรษะคนใต้เท้า
ฮ่า ๆ ฮ่า ๆ
เสียงหัวเราะของเหล่าลูกน้องนับสิบคนของพ่อเลี้ยงพยัคฆ์หัวเราะอย่างครื้นเครงด้วยความสะใจไปกับเจ้านาย
ข้าจะใช้มังกรพลิกบัลลังก์มังกร ! // ยาจกหนุ่มหน้าหวานหวังจะพลิกชะตากรรมของตน แม้ว่าต้องแลกมาด้วยความบริสุทธิ์ของตนก็ตาม
บิดามันเถอะ ! ข้าหนีการอภิเษกแต่กลับต้องมาเป็นทาสบำเรอกามแม่ทัพเถื่อน เรื่องราวขององค์ชายผู้ดื้อรั้นหนีการแต่งงาน จนถูกจับไปขายในหอนายโลม แล้วแม่ทัพก็นำตัวเขาไปเป็นทาสกาม เขาจะหนีพ้นจากความโชคร้ายนี้ได้หรือไม่ ไปติดตามกัน ................................................................................ ❌ จับมาเป็นทาส ✅ จับมาทำเมีย ——————————————— 😈“ข้าซื้อเจ้ามาก็เพื่อสิ่งนี้ ‼️ เจ้าจะเล่นตัวไปไย แต่ตอนนี้เจ้าทำให้ข้าเจ็บ เจ้าต้องรับผิดชอบ” สิ้นคำมือแกร่งก็กระชากเสื้อคลุมขององค์ชายน้อยออก แล้วผลักร่างบางเข้าชิดผนังห้อง 😡“จะทำอะไรข้า ถ้าท่านแตะต้องตัวข้าอีก ข้าฆ่าท่านแน่‼️” องค์ชายน้อยขู่ฟ่อ มือทั้งสองถูกเขารวบตรึงไว้เหนือหัว ร่างกายท่อนล่างแทบทุกสัดส่วนถูกเรือนร่างกำยำร้อนฉ่าทาบทับเอาไว้ 😈“ฮ่า ฮ่า คนที่ขู่ฆ่าข้า ไม่เคยมีใครตายดีสักคน แต่สำหรับเจ้า...” แม่ทัพหนุ่มมองสบตาหนุ่มน้อย เขาแตะปลายนิ้วลงที่ริมฝีปากบางด่าทอเขาไม่หยุด 😈 “ข้าจะทรมานจนต้องร้องขอชีวิตเชียวหล่ะ” เขาไล้ปลายนิ้วไปตามผิวเนื้อเนียนนุ่ม แล้วลูบต่ำลงมาจนถึงเม็ดทับทิมสีสวย จากนั้นก็ลูบคลึงหัวทับทิมเล่นอย่างหยอกล้อ 🥴“อื้อ อา เจ้าคนชั่วช้า งื้ออ อา” ฝ่ามือร้ายของท่านแม่ทัพทำให้เสียงองค์ชายน้อยเริ่มสั่นพร่าด้วยความเสียวซ่าน ทุกอณูสัมผัสของเขาทำให้หัวใจดวงน้อยเต้นโครมคราม 😈“ชั่วช้าอย่างไร ก็เป็นสามีเจ้า”
เมื่อตอนเด็ก หลินอวี่เคยช่วยชีวิตเหยาซีเยว่ที่กำลังจะตาย ต่อมา หลินอวี่กลายเป็นพืชหลังจากประสบอุบัติเหตุทางรถยนต์ เธอแต่งงานเข้าตระกูลหลินโดยไม่ลังเลใจและใช้ทักษะทางการแพทย์ของเธอเพื่อรักษาหลินอวี่ สองปีของการแต่งงานและการดูแลอย่างสุดหัวใจของเธอเพียงเพื่อตอบแทนบุญคุณ และเพื่อที่เขาจะให้ความสำคัญกับตัวเองบ้าง แต่ความพยายามทั้งหมดของเธอกลับไร้ประโยชน์เมื่อคนในใจของหลินอวี่กลับมาประเทศ เมื่อหลินอวี่โยนข้อตกลงการหย่ามาใส่เธออย่างไร้ความปราณี เธอก็รีบเซ็นชื่อทันที ทุกคนหัวเราะเยาะเธอที่เป็นผู้หญิงที่ถูกครอบครัวใหญ่ทอดทิ้ง แต่ใครจะไปรู้ว่า เธอคือ Moon นักแข่งรถที่ไม่มีใครเทียบได้บนสนามแข่งรถ เป็นนักออกแบบแฟชั่นที่มีชื่อเสียงระดับนานาชาติ เป็นอัจฉริยะของแฮ็กเกอร์ และเธอยังเป็นหมอมหัศจรรย์ระดับโลก... อดีตสามีของเธอเสียใจมากจนคุกเข่าลงกับพื้นขอร้องให้เธอกลับมา ผู้เผด็จการคนหนึ่งอุ้มเธอไว้ในอ้อมแขนของเขาแล้วพูดว่า "ออกไป! นี่คือภรรยาของฉัน!" เหยาซีเยว่ "?"
ตลอดระยะเวลาสามปีที่หยุยเอินแต่งงานกับฝู้ถิงหย่วน เธอพยายามทำหน้าที่ภรรยาให้ดีที่สุด เธอคิดว่าความอ่อนโยนของตนจะสามารถละลายใจที่เย็นชาของฝู้ถิงหย่วนได้ แต่ต่อมาเธอก็รู้ตัวว่าไม่ว่าเธอจะพยายามแค่ไหน ผู้ชายคนนี้ก็ไม่มีวันจะตกหลุมรักเธอได้ ด้วยความสิ้นหวังของเธอ สุดท้ายเธอตัดสินใจที่จะยุติการแต่งงานครั้งนี้ ในสายตาของฝู้ถิงหย่วน หยุยเอิน ภรรยาของเขาเป็นผู้หญิงที่โง่ ไม่มีอะไรดีเลยสักอย่าง แต่เขาก็คิดไม่ถึงว่าภรรยาของเขาจะกล้าโยนใบหย่าใส่เขาต่อหน้าคนมากมายในงานเลี้ยงวันครบรอบฝู้ซื่อ กรุ๊ป หลังจากหย่าร้าง ทุกคนต่างคิดว่าพวกเขาจะไม่มีอะไรเกี่ยวข้องกันอีกต่อไป แต่เรื่องราวระหว่างทั้งสองคงไม่ได้จบลงอย่างง่าย ๆ แบบนี้ หยุยเอินได้รับรางวัลบทภาพยนตร์ยอดเยี่ยม และคนที่เป็นผู้มอบถ้วยรางวัลให้กับเธอก็คือฝู้ถิงหย่วน หยุยเอินคิดไม่ถึงว่าผู้ชายที่สูงส่งและแสนเย็นชาคนนี้จะลดตัวลงอ้อนวอนเธอต่อหน้าผู้ชมทั้งหมด"หยุยเอิน ก่อนหน้านี้คือผมผิดเอง ขอโอกาสให้ผมอีกครั้งได้ไหม"หยุยเอินยิ้มด้วยความมั่นใจ"ขอโทษนะคุณฝู้ ตอนนี้ฉันสนใจแต่เรื่องงาน"ชายหนุ่มคว้ามือเธอไว้ ดวยตานั้นเต็มไปด้วยความผิดหวัง หยุยเอินสบัดมือเขาและเดินจากไปโดยปราศจากความลังเลใด ๆ
คุณท่านเสียว คุณชายยอดเยี่ยมที่โด่งดังในเมือง B ได้แต่งงาน แต่มีข่าวลือว่าเจ้าสาวมีรูปร่างหน้าตาที่น่าเกลียดและมีฐานะต่ำต้อย สามปีมานี้ เขาปฏิบัติกับเธออย่างเย็นชาและทำเหมือนเป็นคนแปลกหน้า เจียงซิงซิงอดทนกับความเย็นชาอย่างเงียบ ๆ เธอยังคงรักเขาอย่างสุดหัวใจ เสียสละความนับถือตนเองและยอมละทิ้งตัวตนของเธอเอง จนกระทั่งวันหนึ่ง สุดที่รักของเขากลับประเทศ เขได้สารภาพว่าเขาแต่งงานกับเธอเพียงเพื่อช่วยชีวิตคนรักในใจของเขาเท่านั้น เจียงซิงซิงเสียใจและผิดหวังมาก เธอจึงเซ็นเอกสารหย่าและจากไปด้วยความเศร้าใจ สามปีต่อมา เจียงซิงซิงผู้สวยงามจนน่าทึ่งกลับมาอีกครั้ง ได้กลายมาเป็นศัลยแพทย์ที่ดีที่สุดและเป็นยอดฝีมือด้านเปียโน อดีตสามีรู้สึกเสียใจ และกอดเธอแน่นท่ามกลางสายฝน เสียงของเขาสั่นเครือ "ที่รัก คุณเป็นของผม..."
เพียงดื่มน้ำชาจอกแรกที่ผู้เป็นมารดาเลี้ยงมอบให้ซุนฮวาก็กลายเป็นสตรีร้ายกาจ ปีนขึ้นเตียงท่านอ๋องผู้เป็นคู่หมายของน้องสาวจำใจกล้ำกลืนสถานะพระชายาตัวแทนเป็นเพียงเงาของผู้อื่นในสายตาของสวามี
ในเมื่อความปรารถนาสูงสุดของอีกฝ่ายไม่ใช่ครอบครัว เธอจึงกลายเป็นคนที่เขาอยากเขี่ยทิ้งไปให้พ้นตัว เหตุผลที่เขาก้าวเข้ามาในชีวิตของเธอ ใช้ถ้อยคำหวานหลอกล่อจนหญิงสาวตายใจ ในที่สุดเธอก็ได้ตัดสินใจแต่งานกับเขาอย่างไม่มีข้อแม้ใด ๆ ท้ายที่สุดแล้วความจริงก็ปรากฏขึ้น เพราะปรเมศเข้าใจผิด คิดว่าเขมิกาคือสาเหตุที่ทำให้ผู้เป็นมารดาของเขาต้องจากโลกนี้ไปโดยไม่ได้เอ่ยคำบอกลา “เขมท้อง!” หญิงสาวตัดสินใจพูดเรื่องทารกน้อยในครรภ์ เพราะลึก ๆ แล้วยังแอบหวังที่จะได้อยู่กับครอบครัวพร้อมหน้าพร้อมตา อารมณ์ของเขมมิกาแปรปรวน เธอเองไม่อาจควบคุมได้ บางทีก็คิดอยากอยู่ประเดี๋ยวก็อยากไป “กี่เดือน” “หกสัปดาห์แล้วค่ะ” “เด็กคนนี้เป็นลูกของใคร” “คุณปรเมศ!” เขมมิการู้สึกผิดหวังในตัวชายหนุ่ม เขาไม่ควรตั้งคำถามนี้กับเธอ “เอาเด็กนั่นออกซะ! นี่คือเงินที่ผมจะจ่ายให้กับคุณ นับจากนี้ไปเราสองคนเป็นเพียงแค่คนแปลกหน้าสำหรับกัน” “คุณคิดดีแล้วใช่ไหมคะ” “ผมไม่เคยลังเลที่อยากเก็บเด็กคนนี้เอาไว้เลยสักนิด” คำตอบที่ได้ทำเอาหญิงสาวพูดไม่ออก มันจุกในอกเสียจนเธอแทบเสียสติ แต่ก็กลับมาได้เพราะทารกน้อย เธอต้องปกป้องเด็กคนนี้ให้ถึงที่สุด ปรเมศจะต้องเสียใจกับถ้อยคำที่เขาพูดกับเธอในวันนี้
หลังจากแต่งงานกันมาสองปี สามีของเธอไม่เคยเหยียบเข้าไปในบ้านและมองดู 'ภรรยาขี้เหร่' ของเขาเลย แถมเขาก็มีเรื่องอื้อฉาวกับดาราหน้าใหม่หลายคนทุกวัน ซูเหว่ยทนไม่ไหวอีกต่อไป เธอตัดสินใจปล่อยเขาไป ต่อไปก็ต่างคนต่างไปเลย แต่เมื่อเธอเสนอเรื่องหย่า... ฟู่เหยียนอันพบว่านักออกแบบในบริษัทนั้นสะดุดตาเป็นพิเศษ เขาค่อยๆ ทำความรู้จักกับเธอเรื่อยๆ จนกระทั่งวันหนึ่งเขาค้นพบตัวตนที่แท้จริงของเธอเข้า เขาเสียใจแล้ว