เงาคานทองเสริมเหล็กกล้าฝังเพชรกำลังคืบคลานเข้าหานางร้ายสาวสุดสวยแต่ไม่รวยรัก อายุที่เดินหน้าไปทุกวันกับโอกาสอันริบหรี่ที่จะค้นพบชายในฝันว่าแย่พออยู่แล้ว... แต่การตกเป็นข่าวกับไฮโซหนุ่มมากหน้าหลายตาทั้งที่ไม่ได้มีอะไรในกอไผ่ทำให้คนสวยกลายเป็นคนฉาวจนชายดีๆ ไม่กล้าแหยมนั้นแย่กว่า... ข่าวสร้างกระแสเหล่านั้น ต่อให้แก้ตัวก็ไม่มีใครเชื่อว่าหล่อนไม่เคยมีชายข้างกาย ภาพลักษณ์เสียหายจนน่าโมโห เมื่อการนิ่งสงบ ไม่ได้สยบข่าวอย่างที่เขาว่าไว้ นางร้ายไร้จริตคิดว่าคงต้องรีบลุกมาทำอะไรสักอย่าง.... มันคงถึงเวลาที่หล่อนต้องกระโดดลงจากคานมาบริหารเสน่ห์ เพิ่มจริตให้เทียบทันนางเอกสาวแอ๊บแบ๊วเพื่อลาจากคานเป็นการถาวร แล้วต่อด้วยการกวาดหนุ่มๆ ในลิสต์ที่ตกเป็นข่าวด้วยออกจากทางให้เรียบเพื่อเตรียมทางเจ้าชายสักคนมามอบความรักให้ แต่ความรักเจ้ากรรม คงไม่อยากเกิดกับหล่อน เมื่อมีคนพลัดหลงเข้ามาในชีวิต หล่อนก็ไม่คิดจะยอมรับเขาเสียอย่างนั้น... ตัวเลือกแทบจะไม่เหลือ แต่กระนั้นหล่อนก็ยังคัดกรองด้วยมาตรฐานที่สูง จนเห็นแววคานรำไร... โปรดเถอะ ใครก็ได้ ช่วยมาสอยลงจากคานเสียที
กว่าจะเป็นเจ้าสาว
เขียนโดย เม็ดแตงโม
ตีพิมพ์ครั้งที่หนึ่งในแบบรูปเล่ม โดย สำนักพิมพ์อิงค์
ตีพิมพ์ครั้งที่สองในรูปแบบ e-books โดย พิมพ์จันทร์สำนักพิมพ์
หนังสือเล่มนี้สงวนสิทธิ์ตามพระราชบัญญัติลิขสิทธิ์ พ.ศ. 2537
เงาคานทองเสริมเหล็กกล้าฝังเพชรกำลังคืบคลานเข้าหานางร้ายสาวสุดสวยแต่ไม่รวยรัก
อายุที่เดินหน้าไปทุกวันกับโอกาสอันริบหรี่ที่จะค้นพบชายในฝันว่าแย่พออยู่แล้ว...
แต่การตกเป็นข่าวกับไฮโซหนุ่มมากหน้าหลายตาทั้งที่ไม่ได้มีอะไรในกอไผ่ทำให้คนสวยกลายเป็นคนฉาวจนชายดีๆ ไม่กล้าแหยมนั้นแย่กว่า...
ข่าวสร้างกระแสเหล่านั้น ต่อให้แก้ตัวก็ไม่มีใครเชื่อว่าหล่อนไม่เคยมีชายข้างกาย ภาพลักษณ์เสียหายจนน่าโมโห
เมื่อการนิ่งสงบ ไม่ได้สยบข่าวอย่างที่เขาว่าไว้ นางร้ายไร้จริตคิดว่าคงต้องรีบลุกมาทำอะไรสักอย่าง....
มันคงถึงเวลาที่หล่อนต้องกระโดดลงจากคานมาบริหารเสน่ห์ เพิ่มจริตให้เทียบทันนางเอกสาวแอ๊บแบ๊วเพื่อลาจากคานเป็นการถาวร แล้วต่อด้วยการกวาดหนุ่มๆ ในลิสต์ที่ตกเป็นข่าวด้วยออกจากทางให้เรียบเพื่อเตรียมทางเจ้าชายสักคนมามอบความรักให้
แต่ความรักเจ้ากรรม คงไม่อยากเกิดกับหล่อน เมื่อมีคนพลัดหลงเข้ามาในชีวิต หล่อนก็ไม่คิดจะยอมรับเขาเสียอย่างนั้น...
ตัวเลือกแทบจะไม่เหลือ แต่กระนั้นหล่อนก็ยังคัดกรองด้วยมาตรฐานที่สูง จนเห็นแววคานรำไร... โปรดเถอะ ใครก็ได้ ช่วยมาสอยลงจากคานเสียที
เธอทำให้คนที่เขารักเจ็บปวด เขาจึงเอาคืนให้เธอเจ็บกว่าร้อยเท่า ในวันที่เขาแก้แค้นเธอสำเร็จจนเธอเจ็บปวดเจียนตาย เขากลับค้นพบว่าเขารักเธอ การเดินเข้ามาในชีวิตเธออีกครั้งหนึ่งเพ่ื่อตามหาหัวใจตัวเองจึงเกิดขึ้น แต่มันไม่ง่ายอย่างที่คิดเมื่อเธอเจ็บแล้วจำเธอเลยไม่ให้โอกาสซ้ำยังเอาแต่จะหนีไปจากชีวิตเขา เพื่อให้ได้เธอกลับคืนมา เขาจึงต้องทำทุกทางและทุกอย่างเพื่อได้หัวใจเธอมาเป็นของเขาเหมือนเดิม hope and nink "อย่าลืมไปเล่าให้พี่ชายคุณฟังด้วยล่ะ ว่าความรู้สึกที่ถูกหลอกให้รักมันรู้สึกอย่างไง แล้วเรื่องที่กล่าวหาว่าอีฟทำ รับรู้เอาไว้ด้วยว่ามันไม่มีทางเป็นไปได้" "ทำไมถึงปกป้องผู้หญิงคนนั้นขนาดนั้น" แล้วคำที่บอกว่าอยู่ข้างเธอ ที่ผ่านมาหมายความว่าอะไร... "ที่ผมปกป้องขนาดนั้นเพราะว่ารักอีฟ และไม่ยอมให้ใครมาทำลายอีฟได้ยังไงล่ะ" "รัก?" แล้วไม่ได้รักเธอหรอกหรือ เธอตั้งคำถามอย่างโง่งั่ง ไม่พยายามเข้าใจสิ่งที่เขาบอก แม้ส่วนลึกเริ่มจะเห็นเค้าลางว่าเหตุการณ์ต่างๆ ที่เกิดขึ้นมาไม่ใช่เรื่องบังเอิญ ทุกอย่างที่วิษุวัติทำมีเหตุผลของเขาอยู่แล้ว "ใช่" "..." เขาลุกขึ้นยืน แขนเล็กๆ ที่เกาะเเขนเขาไว้ร่วงผล็อย นลินวิภาเงยหน้าขึ้นมองเขา "แล้วความรู้สึกดีๆ ที่คุณแสดงออกกับฉันที่ผ่านมา" "มันแค่การเอาคืน..." เขาพึมพำ ก่อนจะก้มหน้ามองเธอ "ผมมาก็เพื่อแก้แค้นให้อีฟตอนนี้หน้าที่ของผมจบแล้วถือว่าเราจบกัน คุณไปเก็บของซะผมจะให้คนไปส่ง" เขาทำท่าจะเดินจากไป แต่นลินวิภาดึงชายเสื้อเขาไว้ ดวงหน้ายังสับสนและในใจพร่ำบอกว่ามันไม่ใช่ และเธอฉุดรั้งเขาไว้ โดยที่ไม่รู้ตัวเลย จนมีแรงตึงที่มือและเขาหยุดชะงักนั่นล่ะ เธอถึงปริปากออกมา... "คุณเคยบอกฉันว่าไม่ต้องสนเรื่องอื่นว่าเราพบกันอย่างไง เพราะระหว่างเราเข้าใจกันก็พอ ฉันเข้าใจว่าคุณพูดออกมาจากใจจริงๆ เสียอีก" "มันคือคำโกหกคุณคงไม่คิดว่าผมจะรักคุณหรอกนะเพราะคนที่ผมรักมาตลอดคืออีฟ คนแบบที่ผมชอบคืออีฟเท่านั้น" ไม่ต้องมีมีดนับร้อยนับพันมาจ้วงแทง เพียงแค่สายตาคู่เดียวของเขาที่จ้องมองมาก็ทำให้เธอเหมือนถูกกระหน่ำแทงจากความจริงที่เขากำลังบอก เธอกับเอวิตาแตกต่างกันราวฟ้ากับเหว และเธอไม่ใช่คนแบบที่เขาชอบ ทั้งหมดที่ผ่านมาคือการหลอกลวงเพื่อแก้แค้นให้เอวิตา คนที่เขารัก... "โฮป" "เรียกผมว่าวิษุวัติ... อย่าเรียกชื่อเล่น เราไม่ได้สนิทกันขนาดนั้น "..." นลินวิภากะพริบตาปริบๆ มือร่วงผล็อยจากชายเสื้อเขาไปในทันที สิ่งที่เขาบอก เหมือนดึงเธอมาสู่โลกแห่งความจริงที่เธอไม่อาจหนี เขาบอกชัดเจนขนาดนี้เธอคงไม่สามารถหลอกตัวเองต่อไปได้อีกแล้ว... #ทินอีฟ "ยินดีด้วยนะครับคนไข้ ผลตรวจทางห้องปฏิบัติการออกมาแล้วครับ คนไข้ตั้งครรภ์ เดี๋ยวหมอจะส่งคนไข้ไปพบสูตินรีแพทย์เพื่อฝากครรภ์นะครับ" คำพูดของนายแพทย์ประจำคลินิกทำให้เธอยิ้มออกหลังจากทนกับอาการเวียนหัวในช่วงเช้ามาหลายวันไม่ไหวเธอจึงไปตรวจให้รู้แน่ชัด ผลที่แพทย์บอกตอนที่อยู่คลินิกทำให้เธอมีความสุขมาตลอดบ่าย เพราะเธอกำลังตั้งครรภ์กับทิน...ผู้ชายที่เธอรัก วันนี้เป็นวันเกิดของเธอ การได้รับข่าวดีเรื่องลูกจึงเปรียบประหนึ่งเป็นของขวัญ หญิงสาวรีบกลับมาที่เพนธ์เฮาส์และจัดเตรียมสถานที่รอพ่อของลูกกลับมาอย่างคาดหวังและตื่นเต้น เรื่องที่ตั้งครรภ์เธอยังไม่ปริปากบอกใครแม้แต่พี่เลี้ยงคนสนิทที่อยู่กับเธอตลอดเวลา นั่นเป็นเพราะอยากให้ทินรู้เป็นคนแรก ทันทีที่เขาให้ของขวัญวันเกิดแก่เธอ เธอจะยื่นกระดาษอัลตราซาวน์ให้เขาแล้วบอกว่าเป็นของขวัญที่เธอมอบกลับคืนในฐานะที่เขารักและดูแลเธอมาตลอด แต่เมื่อประตูห้องเปิดก็เกิดเรื่องผิดแผนครั้งใหญ่เพราะทินเดินเข้ามาพร้อมกับผู้หญิงสาวที่มีดวงหน้าสวยโฉบเฉี่ยวดูมั่นใจในตัวเอง ริมฝีปากสีแดงสดของผู้หญิงคนนั้นยิ้มและมองเอวิตาด้วยสายตาไม่เป็นมิตรอย่างบอกไม่ถูก คนทั้งคู่ที่เข้ามาใหม่ไม่ได้สนใจบรรยากาศปาร์ตี้ ทินมีสีหน้าเคร่งขรึม แววตาของเขาไม่อ่อนโยนเหมือนทุกวัน มีเพียงเสียงทุ้มน่าฟังที่เหมือนเดิม "อีฟ ผมมีเรื่องจะบอก" "เรื่องอะไรคะ" เสียงของเธอแทบไม่หลุดจากปาก ความหวาดกลัวในสถานการณ์เกาะกุมหัวใจเธอ รู้สึกสังหรณ์ใจขึ้นมาครามครัน "ผมจะไม่อ้อมค้อมนะ ธุระที่ผมไปทำวันนี้คือไปจดทะเบียนกับนิ้ง" "..." ดวงตาของเอวิตาเบิกกว้าง "นิ้งท้องกับผม ท้องตั้งแต่ก่อนที่ผมจะมาคบกับคุณ มันอาจจะผิดต่อคุณแต่คุณคงเข้าใจว่าผมต้องรับผิดชอบลูกในท้องของนิ้งเป็นอันดับแรก..." "ทิน" เธอเรียกชื่อเขา น้ำตาเอ่อล้นปริ่มขอบตาที่ร้อนผะผ่าวในใจมีร้อยพันหมื่นถ้อยคำแต่กลับพูดอะไรไม่ออกสักคำ กระดาษอัลตราซาวน์ในมือถูกกำแน่น อย่าว่าแต่ยื่นมันให้เขาได้เห็น แค่ยืนอยู่ตรงหน้าเขาและหายใจ เอวิตายังทำได้อย่างยากลำบากเหลือเกิน "ผมเสียใจนะอีฟ... แต่ผมหวังว่าคุณจะเข้าใจว่าทำไมผมเลือกนิ้ง" "ที่จริงฉันต้องรีบพาทินไปพบครอบครัว แต่ว่าเขาอยากแวะมาบอกเธอก่อนไม่อยากหายไปเลย" ผู้หญิงคนนั้นพูดขึ้นมาเป็นครั้งแรก เอวิตาจับใจความไม่ได้เลยว่าคนตรงข้ามพูดอะไรกับเธอบ้างเพราะในหูมีแต่เสียงอื้ออึ้งน้ำตาก็ไหลจากตาจนไม่เห็นหน้าคนสองคนตรงหน้าเสียแล้ว... สติของเธอหลุดลอยไปตั้งแต่ที่ทินบอกว่าเขาแต่งงานกับผู้หญิงอื่น เรื่องที่เตรียมจะบอกในทีแรกจึงไม่หลุดจากปากและไม่ว่าเขาจะพูดอะไรอีกเธอก็ไม่ได้ยินอีกต่อไปแล้ว จนเมื่อคำว่าลาก่อนแว่วเข้าหู และมีเสียงประตูปิด เธอถึงได้ทรุดลงไปนั่งกับพื้น เพราะหมดแรงที่จะยืน... หลังจากที่ร้องไห้จนไม่เหลืออะไรจะร้อง ในหัวไม่มีสติพอที่จะคิดอะไรอีก ภาพเลือนรางที่เห็นเขาเดินจูงมือออกไปกับผู้หญิงอื่นฉายวนซ้ำ เธอไม่ได้เป็นคนที่ถูกเลือก เขาเดินจากไปง่ายดายราวกับไม่เคยรักกันเลย ความทุกข์ที่หนักหนาที่สุดที่เคยพานพบเกาะกินหัวใจจนเธอคิดว่าไม่อยากจะมีชีวิตอยู่เพื่อรับรู้เรื่องราวเหล่านี้อีกแล้ว... เธออยากหนีไปให้พ้นจากความเจ็บปวดทั้งหมดทั้งมวลที่กำลังถาโถมเธออยู่ในตอนนี้ "อีฟ" เสียงเรียกคุ้นหู เป็นเสียงเรียกที่เหมือนอยู่ไกลออกไป ภาพของเขาปรากฏอยู่ตรงหน้านั้นไม่แจ่มชัด สาเหตุไม่ใช่เพราะหยาดน้ำตา หากแต่เป็นเพราะสติรับรู้ของเธอนั้นสุ
"ปะป๊า" อยู่ดีๆ ก็มีเด็กที่หน้าเหมือนตัวเองมาเกาะแข้งเกาะขาแล้วเรียกว่าปะป๊า แล้วจะให้คีรินเข้าใจว่ายังไง "บอกฉันมาซิว่าแม่ของหนูคือใคร!" "แม่ของหนูคือหม่าม๊า" "..." .................. แสงดาว... คุณปกปิดอะไรเอาไว้" เขาย้ำเธออีกครั้งเพราะอยากได้ยินจากปากเธอเอง "ปกปิดอะไรคะ?" แสงดาวมองเขาด้วยสายตางุนงง ที่ผ่านมาก็คุยกันจนเข้าใจทุกอย่างแล้ว เธอไม่เข้าใจว่าคีรินจะมาคาดคั้นเอาอะไรอีก "เรื่องเกี่ยวกับไคร่า มีอะไรที่คุณบอกผมไม่หมด" "ฉันพูดความจริงไปหมดแล้ว "ถ้าไม่พูด ผมจะลงโทษคุณ" เขาบอกพร้อมๆ กับสาวเท้าเข้ามาใกล้เธอมากขึ้นคล้ายจะข่มขวัญ ลงโทษที่ว่านี่คงไม่ใช่กอดไว้แน่นแล้วปล้ำหอมแก้มให้จั๊กจี้เหมือนที่ทำกับลูกหรอกนะ หญิงสาวจินตนาการเล่นๆ แต่พอเงยหน้าขึ้นมาเห็นใบหน้าคนที่อยู่ห่างจากตัวเองไม่ถึงคืบแล้วก็ต้องกะพริบตาปริบๆ เพราะดูท่าทางเขาจะทำแบบนั้นจริงๆ "ลงโทษอะไร คุณไม่มีสิทธิ์นะ!" แม้จะพูดอย่างนั้นแต่ท่าทางคุกคามของเขาก็ทำให้แสงดาวต้องถอยไปหลายก้าวจนหลังเธอชนฝา แล้วเขาก็ค้ำมือกับผนัง เพื่อกักกันเธอไว้ในวงแขน "ผมเป็นพ่อของไคร่า ทำไมจะไม่มีสิทธิ์ลงโทษแม่จอมปากแข็งของแกล่ะ" ชายหนุ่มจดจ้องแสงดาวไม่วางตา... ดวงตาของคนตรงหน้าเหมือนกับดวงตาของเจ้าตัวน้อยที่เธอฟูมฟักตั้งแต่ตีนเท่าฝาหอยราวกับเป็นดวงตาคู่เดียวกัน แต่ก็นั่นล่ะ ถึงเขาจะเหมือนยัยหนูไคร่าของเธอทุกอย่าง แต่ก็ไม่ได้หมายความว่าเขาจะทำอะไรกับเธอตามอำเภอใจได้นี่นา... พรึ่บ... ยังไม่ทันที่เธอจะได้ห้ามปราม คีรินก็คว้าตัวเธอไปแนบชิดกับกายแกร่งแล้วก้มหน้าลงมาจูบปิดปากเธอเอาไว้ แม้เธอจะดิ้นขลุกขลักเพื่อถามว่าเขาทำอย่างนี้ทำไม แต่เหมือนคนตัวโตจะไม่เปิดโอกาสให้ เธอเริ่มไม่แน่ใจแล้วว่าเขาโมโหแล้วลงโทษเธออย่างที่ว่าจริงๆ หรือว่านั่นเป็นแค่ข้ออ้าง ริมฝีปากอุ่นที่บดขยี้ดูดดึงกลีบปากของเธอเอาไว้ไม่ให้พูดฟ้องว่าน่าจะเป็นอย่างหลังมากกว่า... แสงดาวค่อนข้างแน่ใจว่าคีรินหาเรื่องรังแกเธอชัดๆ ถึงจะเป็นพ่อของลูก แต่ก็ไม่ได้หมายความว่าจะทำอย่างนี้กับเธอได้นะ! หญิงสาวพยายามดันอกเขาแล้วเบี่ยงหน้าหนีการรุกล้ำที่เริ่มจะกลืนกินสติสตังของเธอไป แต่นอกจากจะไม่ทำให้เขาไหวติงแล้วเธอก็ยังเบี่ยงหน้าหนีไม่พ้นการปล้นจูบของคนตรงหน้าเลย บ้าจริง!
“พี่อุ่นรู้ตัวไหมคะว่าเป็นคนร้ายกาจขนาดไหน” “ก็รู้ในระดับหนึ่ง” เขาพยักหน้ายอมรับ แล้วยิ้มขันที่เธอทำหน้าตาเหมือนไปไม่เป็น... นี่ยังสารภาพไม่หมดเลยว่าตลอดเวลาที่นอนห้องด้วยกันหลายครั้งที่เธอตื่นมาบนเตียงเขาแบบไม่รู้ตัวนั้น มีเพียงครั้งสองครั้งที่เธอละเมอมานอนผิดที่ แต่ทุกครั้งที่เหลือเขาไปอุ้มเธอมาจากโซฟามานอนกอดล้วนๆ เรื่องที่คุณน่
“ตอนนี้เข็มดีขึ้นแล้ว ผมจะให้คุณไปขอโทษเค้า” “...” ไม่มีถ้อยคำใดเอ่ยจากปากเธอ ริมฝีปากที่แย้มยิ้มหุบลง และสั่นระริก สายตาที่ทอดมองเขาตัดพ้อ “ลุก” เขาจะคว้าแขนเธอให้ลุก แต่เธอสะบัดแขนหลุดจากมือเขาทันใด “เลิฟไม่มีวันไปขอโทษในสิ่งที่เลิฟไม่ได้ทำ” “คุณยังกล้าพูดคำนั้นอีกหรือไง...” เขาตวาดเธอจนสะดุ้ง ภูรินไม่เคยขึ้นเสียงกับเธอมาก่อน “รู้ตัวไหมว่าตั้งแต่กลับมา คุณเป็นอีกคนที่ผมไม่เคยรู้จักมาก่อน คุณมาพร้อมคำโกหก หลอกลวง จากที่เคยคิดว่าแค่เฉยๆ กับคุณก็พอ คุณกลับทำให้ผมรู้สึกว่าเกลียดความเป็นตัวตนของคุณมากขึ้นทุกวัน สิ่งที่คุณหวังมันไม่มีทางเกิดขึ้น และยิ่งผ่านไปทุกวันก็ยิ่งไม่มีทางไปใหญ่ เลิกหวังแล้วก็ไปตามทางของคุณดีกว่า ผมขอเตือนเป็นครั้งสุดท้าย” ร่างสูงหันหลังแล้วเดินออกไป แผ่นหลังมั่นคงที่เคยกอดห่างไกลและเลือนรางเพราะม่านน้ำตาบดบัง เขาไม่ได้อยู่ไกลจนคว้าไม่ถึง แต่เอื้อมมือไปเท่าไหร่ก็ไม่ถึงเขาสักที
เพราะรักเขาตั้งแต่แรกเห็น หล่อนจึงยินยอมแต่งงานกับเขา เพราะถูกบังคับเขาจึงเห็นหล่อนเป็นเศษธุลีดินไร้ค่า แม้เป็นเมียแต่ง หล่อนคิดว่าสักวันหนึ่งเขาอาจจะรักหล่อนตอบกลับมา ไม่มาก... ก็น้อย แต่ไม่นึกว่าเมื่อเขาหลอกให้หล่อนรักเขาสุดหัวใจ เขากลับขับไล่หล่อนออกมาจากชีวิตด้วยเหตุผลว่า เขาไม่รักหล่อน... "เธอเข้ามาในชีวิตฉันง่ายๆ ก็ช่วยออกไปง่ายๆ ด้วยเถอะ" ถ้อยคำเจ็บปวดทำร้ายที่ตามมาหลอกหลอน แม้ในยามที่หล่อนหลีกลี้จากเขามาได้นานเนิ่น ในวันที่หล่อนเข้มเเข็งและอยู่ได้โดยไม่มีเขา ลูกในท้องที่หล่อนปกปิดเขาเอาไว้ กำลังจะทำให้หล่อนกับเขาหวนกลับมาเจอกันอีกครั้ง ในวันที่หล่อนไม่ได้รักเขาอีกต่อไปแล้ว ................................................................ “การแต่งงานของเราเกิดขึ้นเพราะฉันถูกบังคับ การที่ฉันไม่ได้รักเธอ มันไม่ใช่ความผิดของฉัน ฉันหวังว่าเธอจะเข้าใจ” ธีภพ วิชญ์วิศิษฐ์ “ความรักของมนอาจจะดูไร้ค่าแต่มันเป็นสิ่งที่ดีที่สุดสิ่งเดียวที่มนพอจะให้คุณธีร์ได้ ที่ผ่านมาคุณธีร์แสดงออกเสมอว่าคุณธีร์ไม่ต้องการและทิ้งขว้างมันมาตลอด มันก็ไม่ใช่ความผิดของมนที่สุดท้ายมนจะหมดรัก มนหวังว่าคุณธีร์จะเข้าใจ เหมือนที่มนเคยเข้าใจคุณธีร์” มนพัทธ์ สว่างโชติ
ด้วยภาระหนี้สินก้อนโตของบิดา ทำให้เคียงเดือนต้องวิ่งรอกรับงานทั่วราชอาณาจักรเพื่อหาเงิน นางแบบสาวต้องวิ่งรอกรับงานจนไปถึง เบเดน ดินแดนแห่งทะเลทราย หล่อนไม่คาดคิดว่าจะได้พบกับคนที่ปากร้าย บ้าอำนาจ ชอบยัดเยียด จอมใส่ร้ายเป็นที่สุดอย่างนาคินเลย แค่เขาหลงคิดเข้าใจผิดว่าหล่อนเป็นคนใช้ ก็น่าโมโหพออยู่แล้ว... แต่เขาก็อาจหาญหาว่าหล่อนเป็นนางนกต่อของผู้ก่อการร้าย และยังจับหล่อนไปขังเพื่อสอบสวน... เขาชักจะทำกับหล่อนมากเกินไปแล้ว... เคียงเดือนจะไม่ขอทน !
หลังจากแต่งงานได้ 2 ปี ในที่สุดเจียงเนี่ยนอันก็ตั้งครรภ์สักที ความดีอกดีใจของเธอแต่กลับแลกกับคำขอหย่าของสามี หลังจากการสมคบคิด เธอนอนในกองเลือด และต้องการขอร้องเขาให้ช่วยเด็กเอาไว้ แต่กลับไม่สามารถติดต่อกับอีกฝ่ายได้ ด้วยความสิ้นหวังเธอจึงออกจากประเทศไป ต่อมาในงานแต่งงานของเจียงเหนียนอัน คุณกู้เสียการควบคุมและคุกเข่าลง ดวงตาของเขาแดงก่ำ "มีลูกของฉัน แล้วเธออยากจะแต่งงานกับใครกัน?"
“หยุดทำบ้าๆ นะพี่สิงห์...อ๊อย...” น้ำผึ้งขนลุกซู่ เขาจูบไซ้ซอกคอของหล่อน ขณะหญิงสาวกำลังยืนส่องกระจกอยู่หน้าอ่างล้างหน้า “พี่ขออีกนิด แค่ภายนอกเท่านั้นนะจ๊ะ ไม่เสียหายอะไรนี่นา...นะครับ” พี่เขยปะเหลาะปะแหละอย่างคนเอาแต่ได้ เสียงออดอ้อนอ่อนหวานเริ่มทำให้น้องเมียใจอ่อนหวามไหว ปล่อยให้มือของเขาเคล้นคลึงสะโพกของหล่อนอย่างนึกมันเขี้ยว สอดท่อนแขนเข้ามาระหว่างง่ามก้น หงายฝ่ามือลูบไล้เข้ามาถึงหนอกเนื้ออุ่นจัดอีกครั้ง ตะล่อมล้วงเข้ามาโอบเนินนูนเหมือนหลังเต่า บีบขยำเบาๆ เหมือนจะประมาณความอวบใหญ่ล้นอุ้งมือ “ของผึ้งใหญ่จัง” มือสัมผัสกลีบเนื้อเป็นพูแน่น โหนกนูนและใหญ่กว่าของเจนนี่มากมาย “อ๊าย...” น้ำผึ้งเสียว กระดกก้นขึ้นโดยอัตโนมัติ สิงหาบีบขยำความเป็นผู้หญิงของหล่อนเป็นจังหวะ หัวใจเต้นแรงกับความอวบใหญ่ที่อัดแน่นอยู่ในอุ้งมือของตน “อย่า...พี่สิงห์...หยุดเดี๋ยวนี้นะ เดี๋ยวพี่เจนนี่มาเห็นผึ้งซวยแน่ๆ” น้องเมียร้องห้ามอย่างสับสนใจ ส่ายก้นทำท่าว่าจะดิ้นหนี แต่ช้ากว่ามือใหญ่ของสิงหาอีกข้างที่กดลงบนแผ่นหลังของหล่อนเหมือนจะล็อกกายไม่ให้ขยับหนี
ในชีวิตชาติที่แล้ว เพื่อช่วยรักแรกของตัวเอง คนชั่วสามคนได้ทำลายพลังการต่อสู้ของนาง ตัดแขนขาของนางออก ตัดเส้นเลือดของนางและปล่อยเลือดของนางไหลออกมาทั้งอย่างนั้น และทรมานนางจนตาย เมื่อเกิดใหม่ครั้งนี้ นางวางแผนอย่างรอบคอบ โดยสาบานว่าจะให้พวกเขาได้สัมผัสกับความทุกข์ทรมานที่นางเคยประสบมา! รักแรกที่ไร้เดียงสาอะไรกัน ที่จริงก็เป็นเพียงผู้หญิงที่ตีสองหน้าเก่ง อยากจะไต่ขึ้นไปสูงเหรอ งั้นก็จะให้เจ้าปีนขึ้นไป ยิ่งปีนขึ้นสูงมากเท่าไร ตอนตกลงมาก็จะยิ่งเจ็บมากเท่านั้น! พวกสวะสมควรได้รับบาปกรรมของพวกสวะ พวกมันทำชั่วกับนางไปชั่วชีวิตหนึ่ง นางจะทำให้พวกมันไม่ตายดี พวกคนที่เจ้าเล่ห์ ตีสองหน้าเก่ง นางจะจัดการกับทุกคน! แต่นางไม่เคยคิดเลยว่าในการแก้แค้นของนาง นางจะไปมีเรื่องกับเสด็จอาที่เป็นเจ้าแผนการเข้า ที่วัน ๆ ต้องการให้นางจูบและกอดเขาตลอดทั้งวัน ในขณะที่นางแก้แค้นคนชั่วนั้นยังสามารถสนิทสนมกับเสด็จอาด้วย ในความจริงแล้ว การที่เป็นผู้หญิงชั่วๆ ก็มีความสุขมาทีเดียวกว่าที่คิดเลย!
ฉู่ว่านยู ผู้สืบเชื้อสายมาจากตระกูลแพทย์แผนโบราณ มีทักษะทางการแพทย์ที่ยอดเยี่ยม ยาที่เธอทำนั้นทุกคนต่างอยากได้ สามารถรักษาได้ทุกโรค แต่กลับไม่คาดคิดว่าจะย้อนยุค กลายเป็นผู้หญิงที่ขี้เหร่ที่สุดในใต้หล้า และยังเอาชนะใจท่านอ๋องด้วย การเริ่มต้นไม่ค่อยดีก็ไม่เป็นไร มาดูกันว่าเธอจะพลิกผันยังไง การแย่งการแต่งงานงั้นเหรอ? เธอทำให้น้องต้องรับบทเรียน แย่งสินเิมดลับมา ให้ชายั่วหญิงร้ายคู่นี้อยู่ด้วยกันตลอดไป ขี้ขลาดเหรอ? เธอจัดการพ่อร้าย สั่งสอนผู้หญิงเสแสร้ง! ขี้เหร่เหรอ? เธอรักษาพิษในตัว และกลายเป็นคนงามอันน่าทึ่ง! ลูกสาวขี้เหร่ของจวนอัครมหาเสนาบดี กลายเป็นผู้สูงส่ง แม้แต่ผู้โหดเหี้ยมบางคนยังหวั่นไหวกับเธอ เมื่อสุดที่รักจะจัดการผู้ใด เขามักจะช่วยเสมอ... แต่น่าเสียดายสุดที่รักคนนั้นไม่มีเขาอยู่ในใจ ฉู่ว่านยู "ออกไป หย่าเลย ผู้ชายมีแต่เป็นภาระของข้าเท่านั้น" เสี่ยวลี่จิงรู้สึกน้อยใจ "ไม่ได้ ข้าให้ครั้งแรกกับเจ้าแล้ว เจ้าต้องรับผิดชอบข้า"
หลินตงหยาง อายุ 27 ปี เติบโตมากับแม่เพียงสองคน ในวัยเด็กหลินตงหยางเคยมีพ่อผู้ให้กำเนิดแต่หลังจากที่พ่อได้งานใหม่ในเมืองหลวงพ่อที่เคยมีก็ไม่มีอีกแล้ว พ่อกลับมาหย่าขาดกับแม่ทันทีที่ไปทำงานในเมืองหลวงได้เพียง 2 เดือน ด้วยให้เหตุผลในการหย่าว่า แม่กับและเขาคือตัวถ่วงความเจริญในชีวิตพ่อ สาเหตุก็ไม่มีอะไรมากแค่พ่อหน้าตาหล่อเหลาและเป็นที่ถูกใจของลูกสาวหัวหน้างาน เพื่อตำแหน่งงานและความเป็นอยู่ที่สบายขึ้น พ่อเลือกที่จะทิ้งภรรยาคู่ทุกข์คู่ยากที่ผ่านเรื่องยากลำบากมาด้วยกัน หย่าขาดกับภรรยาเพื่อไปแต่งงานใหม่ มีชีวิตใหม่ในเมืองหลวง โดยทิ้งคนข้างหลัง ทิ้งภรรยาที่เคยสาบานว่าจะอยู่ครองคู่กันตลอดไป ในปีที่เขาเรียนจบมหาวิทยาลัย แม่ก็ล้มป่วยและจากเขาไปในที่สุด สาเหตุที่หลินตงหยางเสียชีวิต เพราะทำงานหนัก อาชีพโปรแกรมเมอร์ตัวเล็กๆ อย่างเขา ต้องพยายามทำงานให้ได้ตามที่หัวหน้าสั่งมา ในที่สุดเขาก็พัฒนาเกมกำลังภายในของบริษัทได้สำเร็จ หลินตงหยางนอนหลับไปด้วยความสบายใจ แต่ทว่าพอเขาลืมตาตื่นขึ้นมาอีกที นี่ไม่ใช่คอนโดหรูย่านใจกลางเมืองปักกิ่ง หลังคามุงหญ้านี่คืออะไร มันควรจะเป็นเพดานสีขาวสิ เมื่อมองไปรอบๆ ห้องนี่คืออะไร นี่มันไม่ใช่ผนังที่ทำมาจากคอนกรีต มันคือดินเหนียว หลินตงหยางคิดว่าตัวเองฝันไป เขาหลับตาลงอีกครั้งแล้วลืมตาขึ้น ทุกอย่างยังเหมือนเดิม มารดามันเถอะ เขามาอยู่ที่นี่ได้ยังไง หลังจากแน่ใจแล้วว่าไมไ่ด้ฝัน ตอนนั้นเองเขารู้สึกปวดหัวขึ้นมาอย่างรุนแรง และในหัวของเขามีภาพเหตุการณ์ของเด็กชายที่ชื่อเดียวกับเขา หลินตงหยาง อายุ 10 ขวบ เรื่องราวชีวิตตั้งแต่เกิดจนตายไปของเด็กชาย ทำเอาหลินตงหยางกำมือแน่น ก่อนจะสบถออกมา “พ่อสารเลว เฉินซื่อเหม่ยชัดๆ” และตามมาด้วยเสียงร้องไห้ของน้องสาว สาเหตุที่เด็กชายหลินตงหยางเสียชีวิต เพราะถูกผู้ที่ได้ขึ้นชื่อว่าเป็นย่าแย่งผักป่าและทุบตี ทั้งๆ ที่คนพวกนั้นได้ตัดขาดพับพวกเขาสามแม่ลูกแล้ว แต่ยังมิวายข่มเหงรังแก
เฉียวลู่ นักแสดงแถวหน้าของจีนมีข่าวฉาวออกมาทำให้ทางต้นสังกัดของเธอสั่งให้เธองดออกสื่อชั่วคราว จึงเป็นโอกาสที่หาได้ยากสำหรับคนงานยุ่งตลอดทั้งปีของเธอที่จะได้พักผ่อน เฉียวลู่เดินทางกลับบ้านเกิดของเธอและการกลับไปครั้งนี้ทำให้ชีวิตของเฉียวลู่เปลี่ยนไปตลอดการ ฉีหมิงเยี่ยน อนุชาองค์เล็กของฮ่องเต้แห่งแคว้นฉี ถูกลอบปลงพระชนม์ระหว่างที่เดินทางมาทำหน้าที่เจรจาสงบศึกกับเเเคว้นเซียว เพราะได้รับบาดเจ็บสาหัสทำให้ชินอ๋องความจำเสื่อมและได้รับการช่วยเหลือจากพ่อลูกตระกูลเฉียว เซียวยิ่น ฮ่องเต้แคว้นเซียวมีพระสนมมากมายเเต่กลับไม่สามารถให้กำเนิดพระโอรสได้โหรหลวงได้ทำนายเอาไว้ว่า ในอนาคตองค์รัชทายาทที่แท้จริงจะกลับมาเซียวยิ่นจึงมีรับสั่งให้ทหารออกตามหาพระโอรสและอดีตฮองเฮาของตนอย่างลับๆ ฉินอี้เหยา ได้รับบาดเจ็บสาหัสร่างลอยตามแม่น้ำมาพร้อมกับเด็กทารกในอ้อมแขนเมื่อฟื้นขึ้นมานางจึงแสร้งจำเรื่องราวในอดีตไม่ได้ เพื่อให้นางและบุตรชายมีชีวิตรอดต่อไป