เรื่อง...หวานใจเฮียมังกร คำโปรย อุบัติเหตุเพียงเล็กน้อยแต่กลับพลิกชีวิตครั้งใหญ่ เมื่อทั้งสองได้สลับร่างกัน แนะนำตัวละคร เฮียมังกร (เฮียกร) อายุ 34 ปี เจ้าของฟาร์มโคนม เขาหล่อ รวย เขาเป็นเพลย์บอย ไม่มีแฟน เน้นซื้อกิน อร่อยไม่ซ้ำจำหน้าไม่ได้ แต่เธอคนนี้จะเข้ามาในชีวิตของเขาในแบบจดจำไปทั้งชีวิตก็ไม่มีวันลืมเลือน น้ำมนต์ (ครูมนต์) อายุ 25 ปี คุณครูคนสวยที่เพิ่งย้ายเข้ามาประจำในโรงเรียนชนบท เธอเป็นคนกรุงเทพฯ มาอยู่ชนบทก็ใช้ชีวิตค่อนข้างยากแล้ว แต่ชีวิตของเธอยังยากไม่พอ เมื่อต้องมาสลับร่างกับเจ้าของฟาร์มโคนม @@@@@@@@@ ปล.นิยายเรื่องนี้เป็นเรื่องแยก แต่งต่อจากเรื่อง หวานใจคุณพ่อลูกติด ค่ะ นิยายเซ็ตนี้ มีทั้งหมด 4 เรื่องค่ะ 1.เฮียช้าง = หวานใจคุณพ่อลูกติด 2.เฮียสิงห์ = หวานใจนายสิงหราช 3.เฮียธรณ์ = หวานใจนายเพลย์บอย 4.เฮียมังกร = หวานใจเฮียมังกร **สามารถแยกอ่านได้ทุกเรื่องไม่งงแน่นอนค่ะ
เรื่อง...หวานใจเฮียมังกร
คำโปรย
อุบัติเหตุเพียงเล็กน้อยแต่กลับพลิกชีวิตครั้งใหญ่ เมื่อทั้งสองได้สลับร่างกัน
แนะนำตัวละคร
เฮียมังกร (เฮียกร) อายุ 34 ปี
เจ้าของฟาร์มโคนม เขาหล่อ รวย เขาเป็นเพลย์บอย ไม่มีแฟน เน้นซื้อกิน อร่อยไม่ซ้ำจำหน้าไม่ได้ แต่เธอคนนี้จะเข้ามาในชีวิตของเขาในแบบจดจำไปทั้งชีวิตก็ไม่มีวันลืมเลือน
น้ำมนต์ (ครูมนต์) อายุ 25 ปี
คุณครูคนสวยที่เพิ่งย้ายเข้ามาประจำในโรงเรียนชนบท เธอเป็นคนกรุงเทพฯ มาอยู่ชนบทก็ใช้ชีวิตค่อนข้างยากแล้ว แต่ชีวิตของเธอยังยากไม่พอ เมื่อต้องมาสลับร่างกับเจ้าของฟาร์มโคนม
@@@@@@@@@
ปล.นิยายเรื่องนี้เป็นเรื่องแยก แต่งต่อจากเรื่อง หวานใจคุณพ่อลูกติด ค่ะ
นิยายเซ็ตนี้ มีทั้งหมด 4 เรื่องค่ะ
1.เฮียช้าง = หวานใจคุณพ่อลูกติด
2.เฮียสิงห์ = หวานใจนายสิงหราช
3.เฮียธรณ์ = หวานใจนายเพลย์บอย
4.เฮียมังกร = หวานใจเฮียมังกร
**สามารถแยกอ่านได้ทุกเรื่องไม่งงแน่นอนค่ะ
-------------------
ตอนที่ 1 อุบัติเหตุ / เฮียมังกร
@มังกร
สวัสดีครับ ผมมังกร คนแถวๆนี้มักจะเรียกผมว่าเฮียมังกร อาชีพของผมก็คือเลี้ยงวัวขายนมนั่นแหละครับ ผมทำฟาร์มโคนมมาตั้งแต่เรียนจบใหม่ๆ จนถึงตอนนี้ก็ประมาณสิบปีแล้ว สถานะโสด ผมยังไม่มีแฟน วันๆอยู่แต่กับวัวจะเอาเวลาที่ไหนไปหาแฟนล่ะครับจริงมั้ย
ผมมีพี่น้องสามคน เป็นผู้ชายล้วน พี่ชายคนโต เฮียช้าง ทำงานอยู่กรุงเทพฯ พี่ชายคนกลาง เฮียสิงห์ เปิดรีสอร์ตและสวนผลไม้อยู่จังหวัดนครนายก ส่วนผมน้องชายคนเล็กสุด ทำฟาร์มอยู่สระบุรี
ชีวิตของผมก็ไม่ได้มีอะไรมาก ดื่มสุราเคล้านารี เมียไม่มีเน้นซื้อกิน ทำงานเหนื่อยๆกลับมาก็นอน คิดถึงคุณแม่ก็ขับรถไปหา ชีวิตวนเวียนอยู่แค่นี้ครับ
“เฮียครับ...เฮีย...” เสียงไอ้เด่นลูกน้องในฟาร์มตะโกนเข้ามาในบ้านเสียงดัง บ้านของผมเป็นบ้านปูนชั้นเดียว หลังไม่ได้ใหญ่มากนักแต่ก็ไม่เล็กเพราะว่าอยู่คนเดียว แม่บ้านไม่มี ภายในบ้านมีห้องนอนหนึ่งห้อง ห้องครัว ห้องรับแขก ห้องทำงานและห้องน้ำสองห้อง บางครั้งพี่ๆของผมก็มักจะพากันมาเที่ยวแต่ก็ไม่ได้บ่อยมากนัก ส่วนมากคุณแม่กับเฮียช้างจะมาแค่บ้านเฮียสิงห์ที่นครนายก เนื่องจากอยู่ใกล้กว่าส่วนผมก็จะเป็นคนขับรถไปหาเอง
“มึงจะเสียงดังทำไม มีอะไร...”
“กำนันเขาจะแต่งลูกสาว ฝากผมเอาการ์ดมาให้เฮีย กำนันฝากมาบอกว่าขอโทษที่ไม่ได้เอาการ์ดมาให้ด้วยตัวเองครับ”
“เออ...ไม่เป็นไร ไหนเอามาดูซิ” ผมเปิดดูการ์ด งานจัดขึ้นวันศุกร์หน้าที่จะมาถึงนี้
“ขอบใจมาก ไปทำงานต่อเถอะ เดี๋ยวสายๆเฮียเข้าไป”
“ครับ”
ผมอยู่บ้านคนเดียว ไม่มีแม่บ้าน ไม่มีคนทำกับข้าวให้ งานบ้านทุกอย่างผมเป็นคนทำเองทั้งหมด กับข้าวผมก็ทำกินเอง เพราะผมไม่ชอบรสชาติของกับข้าวซื้อ
เมื่อไอ้เด่นลูกน้องของผมเดินออกไปแล้ว ผมก็เริ่มเข้าครัว หุงข้าวทำกับข้าว หมูสไลด์เนื้อนุ่มๆผัดพริกแกงใส่พริกอ่อนและใบยี่หร่าหอมๆลงไปในกระทะ เพิ่มไข่เจียวสักสองฟอง ไม่นานอาหารฝีมือผมก็เสร็จพร้อมทาน...หอมมากเลยครับ
กินข้าวเช้าเสร็จ ผมก็เข้าฟาร์มเหมือนทุกวัน ลูกน้องของผมแต่ละคนก็จะมีหน้าที่เป็นของตัวเอง รีดนม ให้อาหาร อาบน้ำให้วัว ขนขี้วัวไปตากแดดให้แห้งเพื่อทำปุ๋ยคอกแล้วส่งให้กับสวนผลไม้ของเฮียสิงห์พี่ชายของผม ไม่ขายให้คนอื่นครับ ถึงเวลาลูกน้องที่สวนก็จะขับรถมารับเอาไปเอง แต่บางครั้งเฮียสิงห์ก็มารับเอง ส่วนงานบัญชีรายรับรายจ่ายของฟาร์ม ผมเป็นคนทำเองทั้งหมดครับ
“ไอ้กร...เร็วๆหน่อยดิวะ เดี๋ยวอีลูกโป่งก็ตายกันพอดี” เสียงไอ้หมอพนาเพื่อนผมเอง มันเป็นหมอสัตวแพทย์ ส่วนอีลูกโป่งก็คือแม่วัวที่กำลังจะให้กำเนิดลูกวัวครับ
“ก็รีบอยู่เนี่ย...ไปๆ” ผมกับไอ้หมอกลับมาเอาอุปกรณ์ที่บ้านนิดหน่อย จากนั้นก็พากันเข้าฟาร์มไปช่วยอีลูกโป่งทำคลอด ผมกับไอ้หมอช่วยอีแม่ทั้งเบ่งทั้งดึง จนสุดท้ายก็สำเร็จ ออกมาตัวเบ้อเริ่มร่างกายแข็งแรงสมบูรณ์ดี ผมกับไอ้หมอนั่งชื่นชมลูกวัวตัวที่เพิ่งคลอดออกมาใหม่สักพักจากนั้นก็แยกย้ายกันไปทำงานของตัวเองต่อ
@น้ำมนต์
สวัสดีค่ะ ฉันน้ำมนต์ ฉันเกิดและโตที่กรุงเทพฯ พอดีว่าโรงเรียนแห่งนี้มีตำแหน่งคุณครูว่างพอดี ฉันก็เลยมา คิดว่าจะมาอยู่สักพักแล้วก็จะย้ายกลับค่ะ ฉันเป็นคุณครูประจำชั้น ป.2 เพิ่งมาทำงานที่นี่ได้แค่อาทิตย์เดียว ยังไม่ค่อยคุ้นชินกับที่นี่สักเท่าไหร่ คงต้องปรับตัวอีกเยอะ
ฉันทำงานบ้านไม่ค่อยเป็นเลยโดยเฉพาะกับข้าว ทำเป็นแต่ง่ายๆเช่นไข่เจียว ไข่ดาว ไข่ต้ม นอกนั้นไม่ต้องถาม มาอยู่ชนบทแบบนี้สำหรับฉันไม่ใช่เรื่องง่ายแต่ในเมื่อมีตำแหน่งให้ลงก็ต้องมาค่ะ
ฉันมีรถเก๋งคันเล็กมาด้วยหนึ่งคัน พักอยู่ที่บ้านพักครู บ้านพักครูที่ไม่มีครูอยู่เลยค่ะ เพราะคุณครูที่นี่ส่วนมากจะเป็นคนพื้นที่จะอยู่บ้านส่วนตัวกันหมดค่ะ
“น้องมนต์ วันศุกร์หน้ากำนันเขาแต่งลูกสาวไปงานด้วยกันนะ” คุณครูหลิว คุณครูประจำชั้น ป.1 เดินมาชวนฉันไปงานแต่ง คุณครูหลิวไม่ใช่คนพื้นที่เหมือนฉันนี่แหละค่ะ อายุของเธอมากกว่าฉันนิดหน่อยมีสามีเป็นตำรวจ เธอพักอยู่กับสามีของเธอค่ะ
“ไปได้เหรอคะ”
“ไปกับพี่ไง สามีพี่เข้าเวรพี่ไม่มีเพื่อน ไปด้วยกันนะ จัดที่หอประชุมโรงเรียนเรานี่เอง”
“ค่ะ” เลิกงานแล้วก็ไม่รู้จะไปไหนธุระก็ไม่มี ฉันจึงตกลงไปร่วมงานแต่งด้วย อีกอย่างงานนี้ก็จัดขึ้นในโรงเรียน เห็นว่าเช่ายืมสถานที่ถ้าปฏิเสธก็คงไม่ดีมั้ง
หนึ่งอาทิตย์ผ่านไป
@งานแต่ง
งานกินเลี้ยงจัดขึ้นที่หอประชุมของโรงเรียนช่วงเย็น มีหลังคา กันแดด กันฝน แถมพื้นที่ยังกว้างขวางจุคนได้เป็นร้อย
“สวัสดีครับ เชิญด้านในเลยครับ / สวัสดีค่ะ เชิญด้านในเลยค่ะ” เจ้าบ่าวกับเจ้าสาวยืนต้อนรับแขกอยู่ที่หน้าประตูทางเข้าด้านหน้างาน เจ้าสาวสวมชุดสีขาวสวยหรูเห็นแล้วอยากใส่บ้างจัง แต่เนื้อคู่ของฉันไม่รู้ไปหลบอยู่ส่วนไหนของโลก ป่านนี้ยังไม่ปรากฏตัวอีก
“นั่งตรงไหนดีคะ พี่หลิว”
“ตรงนี้แล้วกัน ไกลลำโพงหน่อยเดี๋ยวคุยกันไม่ได้ยิน” ฉันกับพี่หลิวพากันนั่งลง บรรยากาศโดยรอบน่าสนุกดี เสียงเพลงดังกระหึ่งลั่นหอประชุม เวทีจัดได้สวยงามโดยช่างจัดงานมืออาชีพ นั่งลงไม่นานอาหารก็ค่อยๆทยอยนำมาเสิร์ฟ
“น้องมนต์” พี่หลิวหันมาสะกิดฉัน
“คะ”
“เห็นผู้ชายคนนั้นมั้ย”
“คนไหนคะ”
“สวมเสื้อสีแดงหน้าตาดีๆคนนั้นน่ะ”
“อ๋อค่ะ ทำไมเหรอคะ”
“เขาชื่อมังกร เป็นเจ้าของฟาร์มอยู่ด้านหลังหมู่บ้านนี่เอง”
“หล่อดีนะคะ น่าจะมีเมียแล้ว”
“โนๆค่ะ เขายังไม่มีใคร”
“พูดแบบนี้จะติดต่อให้มนต์เหรอคะ”
“เปล่าค่ะ พี่จะบอกว่าอยู่ให้ห่างๆเขาที่สุดเท่าที่จะทำได้ เจ้าชู้ตัวพ่อเลยค่ะ”
“ขนาดนั้นเลยเหรอคะ”
“มีผู้หญิงอยากลองของเยอะค่ะ ก็เขาทั้งหล่อ ทั้งรวยใครจะไม่ชอบล่ะจริงมั้ย สุดท้ายน้ำตาเช็ดหัวเข่ากลับไปทุกราย”
“น่ากลัวจังเลยนะคะ”
“ยิ่งกว่าที่คิดค่ะ ทานอาหารกันดีกว่า อย่าไปสนใจคนแบบนั้นเลย” ในขณะที่นั่งรับประทานอาหารกันอยู่นั้น ฉันเกิดรู้สึกปวดฉี่ขึ้นมาเนื่องจากดื่มน้ำเยอะไปหน่อย
“พี่หลิว มนต์ขอไปเข้าห้องน้ำสักครู่นะคะ”
“ให้พี่ไปเป็นเพื่อนมั้ย”
“ไม่เป็นไรค่ะ” สถานที่คุ้นเคย ห้องน้ำก็คุ้นเคย เพราะจัดขึ้นในรั้วโรงเรียน ทำธุระส่วนตัวเสร็จแวะส่องกระจกนิดหน่อยก่อนที่จะเปิดประตูเดินออกมา
“อ้าวฝนตก...เมื่อกี้ยังไม่ตกเลยนี่” บ่นเบาๆอยู่ในลำคอคนเดียว ซึ่งหอประชุมตรงที่จัดงานกับห้องน้ำค่อนข้างห่างกัน และแล้วฉันจึงเริ่มออกวิ่งผ่าเม็ดฝนเข้าหอประชุม แต่ระหว่างทาง...
“ปัก! ว๊าย!! ตุบ!” ฉันรู้สึกเหมือนว่าน่าจะวิ่งชนใครสักคน เป็นเพราะความหลับหูหลับตาวิ่งของฉันเองแท้ๆ ทันใดนั้นฉันล้มลงไปกับพื้นหลับตาปี๋ด้วยความตกใจ ริมฝีปากประกบเข้ากับอะไรสักอย่างมันนุ่มๆ รู้สึกเหมือนมีแรงดึงดูดเกิดขึ้นกับร่างกายของฉันพอสมควร เมื่อฉันเริ่มตั้งสติได้จึงค่อยๆลืมตาขึ้น
“อี๋!! ลุกออกไปจากตัวฉันเดี๋ยวนี้เลยนะ!” เดี๋ยวนะ! ทำไมเสียงของฉันถึงได้แปลกๆไป ฉันรีบลุกขึ้นมองหน้าคนตรงข้ามนั่นมันฉันนี่! ฉันหันซ้ายหันขวาเจอเข้ากับกระจกรถยนต์...เกิดอะไรขึ้น? ทำไมฉันในกระจกเป็นผู้ชายล่ะ
แค่เพียงสบตาความปรารถนาอันร้อนแรงของเขาก็ได้ก่อตัวขึ้น ในเมื่อแต่งงานกันแล้ว เขาย่อมมีสิทธิ์ในตัวเธอทุกประการ
คืน One Night Stand ของมาเฟียอิตาลีกับยัยขี้เมา เช้าวันนั้นเธอหายไป เขาจึงออกตามหา แต่เมื่อได้เจอกันเธอกลับจำหน้าเขาไม่ได้
เรื่อง...คุณหมอสะดุดรัก คำโปรย พริ้งพราวเพื่อนลากให้ไปเที่ยวผับแต่เธอดันถูกยาปลุกเซ็กเข้า แล้วบังเอิญมาเจอกับเขา คุณหมอหนุ่มวัย35ปี แล้วคุณหมอจะมีวิธีช่วยเธออย่างไร... แนะนำตัวละคร วายุภักษ์ ภักดีวัฒนากุล (วายุ) อายุ 35 ปี เขาเป็นผู้ชาย ขี้เล่น อารมณ์ดี และที่สำคัญเขายิ้มเก่งมากๆ วายุเป็นผู้บริหารโรงพยาบาลสาขาที่เชียงใหม่และยังพ่วงด้วยตำแหน่งคุณหมอโรคหัวใจ เขาเป็นลูกชายคนโตของ เจ้าของโรงพยาบาลเอกชนชื่อดังที่มีสาขาอยู่หลายแห่งของประเทศไทย วายุมีความจำเป็นต้องย้ายมาจากสาขาที่เชียงใหม่ เพราะน้องชายที่ประจำอยู่เกิดอุบัติเหตุ วายุเลยมาประจำอยู่สาขาที่กรุงเทพแทนเป็นการชั่วคราว กมลเนตร ธนพัฒน์ธาดา (พริ้งพราว) หญิงสาวบริสุทธิ์ อายุ 24 ปี ทำงานในโรงพยาบาลเอกชนแห่งหนึ่งในกรุงเทพ และเหตุการณ์ในวันนั้นทำให้เธอกับเขาอยู่ด้วยกันและค่อยๆ สนิทกัน เหนือเมฆ ภักดีวัฒนากุล (เมฆ) น้องชายคนเดียวของวายุ ตั้งแต่เขาประสบอุบัติเหตุเดินไม่ได้ เขาก็กลายเป็นคนอารมณ์ร้อน พยาบาลพิเศษที่จ้างมาดูแล ไม่มีใครสามารถอยู่กับเขาได้ จนได้มาเจอกับ...ข้าวหอม ศศินาทิพย์ คงเจริญ (ข้าวหอม) พยาบาลจบใหม่ เธออยู่ในช่วงทดลองงาน ถูกทางโรงพยาบาลขอร้องให้ไปดูแลคนป่วยที่บ้านตลอด 24 ชั่วโมง โดยมีเงื่อนไข และเงื่อนไขนั้นทำให้เธอยอมตอบตกลงรับทำงานนี้ @@@@@@
เรื่อง...พ่อม่ายกับยัยพี่เลี้ยง คำโปรย...นักธุรกิจหนุ่มลูกติด มีปมชีวิตความใสซื่อและความดีของเธอทำให้เขาสนใจ ส่วนลูกชายที่ไม่ยอมไปโรงเรียนเพราะโดนเพื่อนล้อว่าไม่มีแม่ อยากได้เธอมาเป็นแม่ซึ่งเขาก็เห็นด้วยกับลูกชายเช่นกัน แนะนำตัวละคร คุณอาทิตย์ เจริญเดชาพงษ์ (คุณอาทิตย์) หนุ่มหล่อรวย เป็นเจ้าของห้างสรรพสินค้ากลางใจเมือง และยังมีธุรกิจ ผลิต นำเข้า และส่งออก เกี่ยวกับสิ่งอิเล็กทรอนิกส์ รายใหญ่ที่สุดในประเทศอีกด้วย แต่อาทิตย์เขามีลูกติดชื่อน้องเกียร์เป็นเด็กผู้ชายอายุสามขวบ แม่เสียชีวิตตอนคลอดน้องเกียร์ออกมาได้ไม่ถึงหนึ่งชั่วโมง เพราะเธอเสียเลือดมาก นันทิชา มงคลสวัสดิ์ (มิรา) หญิงสาวที่พึ่งเรียนจบมาใหม่ๆ เธอตกงาน ที่บ้านกำลังลำบาก เธอออกหางานทำเพราะต้องส่งน้องเรียน น้องเธออยู่มัธยมต้น เป็นผู้หญิงชื่อลิลิน พ่อแม่เสียไปนานแล้ว เหลือกันอยู่แค่สองคนพี่น้อง โดยได้รับความช่วยเหลือจากเพื่อนบ้านถึงรอดมาถึงทุกวันนี้ได้
เรื่อง...คุณหมออาสากับยัยเด็กบนดอย โปรย...ความรักมันไม่ได้เกี่ยวกับอายุ...แต่มันเกี่ยวอยู่ที่ใจ เขาไม่อยากมีลูกเพราะฉะนั้นเขาก็เลยไม่คิดที่จะมีเมีย ความรักเป็นเรื่องตลกไม่มีเขาก็อยู่ได้ แนะนำตัวละคร แสงเหนือ หรือ หมอแสง อายุ 32 ปี นิสัย ปากร้าย อารมณ์ดี ขี้เล่น อบอุ่นและขี้หึงสุดๆ แต่เขาไม่อยากมีลูกเพราะฉะนั้นเขาก็เลยไม่คิดที่จะมีเมีย ความรักเป็นเรื่องตลกไม่มีเขาก็อยู่ได้ ปิ่นงาม หรือ ปิ่น อายุ 20 ปี เธอสวย เก่ง เธอใช้ชีวิตเรียบง่ายอยู่บนดอยสูง เธอมีความสุขตามอัตภาพของเธอ แต่แล้วชีวิตของเธอก็ได้เปลี่ยนไปเมื่อมีเขาเดินเข้ามา ************* (เรื่องนี้เขียนต่อจากเรื่อง...คุณหมอเจ้าแผนการ) ปล.นิยายเรื่องนี้ทุกเหตุการณ์เป็นการสมมุติขึ้นทั้งสิ้น ไม่ว่าจะเป็นเรื่องของความเป็นอยู่ ศาสนา วัฒนธรรม หรืออะไรก็แล้วแต่ในเนื้อหาของเรื่องนี้เกิดจากจินตนาการของผู้แต่งที่สมมุติขึ้นทั้งสิ้น
ความสวยสะดุดตา ความสดใสสะดุดใจ ปากที่บอกว่ายังไม่อยากมีใคร แต่ในใจกลับอยากได้เธอมาครอบครอง
เขาแอบชอบเธอตั้งแต่เจอกันครั้งแรกแต่เธอกลับกลัวและพยายามอยู่ให้ห่างจากเขาแล้วเขาจะทำอย่างไรที่จะตามจีบเธอดีในเมื่อเธอเป็นน้องรหัสของเขา
ในคืนวันเกิดอายุยี่สิบสองปี ลี่เฉี่ยนโลว่ถูกแฟนหนุ่มวางยา และไปมีอะไรกันกับซือจิ้นเหิง ผู้ชายลึกลับคนหนึ่งตลอดทั้งคืน วันรุ่งขึ้นเธอพบว่าครอบครัวเธอถูกทำลายจนไม่มีอะไรเหลือ เธอแต่งงานกับจิ้นเหิง ได้รับการคุ้มครองจากเขา และใช้เขาเพื่อแก้แค้น "ฉันเป็นภรรยาที่ถูกกฎหมายของเขา" แม้ว่าแม่สามีของเธอจะไม่ยอมรับ แม้ว่าแฟนสาวที่เป็นซุปเปอร์สตาร์ของเขาจะตามมาอยู่ด้วยกัน เธอก็ยังคงยืนยันอยู่อย่างนั้น เธอแท้งโดยบังเอิญ แต่เขากลับเข้าใจผิดว่าเธอไม่อยากมีลูกกับเขา และด้วยความเข้าใจผิดต่าง ๆ อีกหลายหย่าง เธอเลือกที่จะกระโดดลงทะเลเพื่อฆ่าตัวตาย หลายปีต่อมา เมื่อเธอกลับเข้ามาในชีวิตของเขาอีกครั้ง เขาถึงกับตกตะลึง ชายคนนี้ได้สิ่งที่ต้องการจากเธอแล้ว แต่เธอไม่เข้าใจว่าทำไมเขาถึงยังรังควานและทรมานเธอต่อไป
ในวันครบรอบแต่งงาน เหวินซือถูกเมียน้อยของสามีวางยาและไปมีอะไรกับคนแปลกหน้า เธอสูญเสียความบริสุทธิ์ไป แต่เมียน้อยคนนั้นกลับตั้งท้องลูกของสามี ภายใต้ความกดดันต่างๆ เหวินซื่อสูญรู้สึกสิ้นหวังและตัดสินใจหย่า แต่สามีของเธอกลับไม่แยแสโดยคิดว่าเธอกำลังเล่นลูกไม้อยู่ หลังจากการหย่ากัน เหวินซือกลายเป็นจิตรกรที่มีชื่อเสียงและมีผู้ชายนับไม่ถ้วนที่ตามจีบเธอ อดีตสามีไม่ยอมและขอคืนดีไปถึงที่ จากนั้นก็ว่า เธออยู่ในอ้อมแขนของคนใหญคนโตคนหนึ่ง และชายคนนั้นก็พูดอย่างสงบว่า "ดูให้ดี นี่คือพี่สะใภ้ของนาย"
เสิ่นชิงกลายเป็นลูกสาวของชาวนาจากคุณหนูที่ร่ำรวยของตระกูลเสิ่นในชั่วข้ามคืน ลูกสาวตัวจริงใส่ร้ายเธอ คู่หมั้นของเธอทำให้เธออับอาย และพ่อแม่บุญธรรมของเธอก็ไล่เธอออกจากบ้าน... ทุกคนต่างรอที่จะหัวเราะเยาะเธอ ทว่าเธอกลับกลายเป็นทายาทของตระกูลเศรษฐีในเมืองอย่างกะทันหัน นอกจาดนี้ เธอยังมีตัวตนหลากหลาย เช่น หัวหน้าแฮ็กเกอร์ระดับนานาชาติ นักออกแบบเครื่องประดับชั้นนำ นักเขียนผู้ยิ่งใหญ่ที่ลึกลับ และอัจฉริยะด้านการแพทย์! พ่อแม่บุญธรรมเสียใจกับการตัดสินใจของตนและบังคับให้เธอแบ่งทรัพย์สินครึ่งหนึ่งให้เพราะพวกเขาเลี้ยงดูเธอมา เมื่อเสิ่นชิงหยิบกล้องออกมาแล้วบันทึกท่าทางอันน่าเกลียดของพวกเขา อดีตคู่หมั้นรู้สึกเสียใจและพยายามจะคืนดีกับเธอ เสิ่นชิงหัวเราะเยาะ "เขาคู่ควรงั้นเหรอ" จากนั้นก็ไล่เขาออกจากเมือง ในที่สุด ผู้มีอำนาจแห่งเมืองก็พูดอ้อนวอนเบาๆ "ไม่จำเป็นต้องแต่งเข้าตระกูลผม เดี๋ยวผมไปหาเอง"
ฉู่ว่านยู ผู้สืบเชื้อสายมาจากตระกูลแพทย์แผนโบราณ มีทักษะทางการแพทย์ที่ยอดเยี่ยม ยาที่เธอทำนั้นทุกคนต่างอยากได้ สามารถรักษาได้ทุกโรค แต่กลับไม่คาดคิดว่าจะย้อนยุค กลายเป็นผู้หญิงที่ขี้เหร่ที่สุดในใต้หล้า และยังเอาชนะใจท่านอ๋องด้วย การเริ่มต้นไม่ค่อยดีก็ไม่เป็นไร มาดูกันว่าเธอจะพลิกผันยังไง การแย่งการแต่งงานงั้นเหรอ? เธอทำให้น้องต้องรับบทเรียน แย่งสินเิมดลับมา ให้ชายั่วหญิงร้ายคู่นี้อยู่ด้วยกันตลอดไป ขี้ขลาดเหรอ? เธอจัดการพ่อร้าย สั่งสอนผู้หญิงเสแสร้ง! ขี้เหร่เหรอ? เธอรักษาพิษในตัว และกลายเป็นคนงามอันน่าทึ่ง! ลูกสาวขี้เหร่ของจวนอัครมหาเสนาบดี กลายเป็นผู้สูงส่ง แม้แต่ผู้โหดเหี้ยมบางคนยังหวั่นไหวกับเธอ เมื่อสุดที่รักจะจัดการผู้ใด เขามักจะช่วยเสมอ... แต่น่าเสียดายสุดที่รักคนนั้นไม่มีเขาอยู่ในใจ ฉู่ว่านยู "ออกไป หย่าเลย ผู้ชายมีแต่เป็นภาระของข้าเท่านั้น" เสี่ยวลี่จิงรู้สึกน้อยใจ "ไม่ได้ ข้าให้ครั้งแรกกับเจ้าแล้ว เจ้าต้องรับผิดชอบข้า"
ซูมู่หยูคือลูกสาวแท้ๆ ของตระกูลที่พลัดพรากจากกันไปนาน หลังจากกลับมาสู่ครอบครัว เธอพยายามอย่างเต็มที่เพื่อเอาใจญาติๆ ไม่ว่าจะเป็นตัวตน เกียรติศักดิ์ หรือผลงานการออกแบบ เธอก็ถูกบังคับให้มอบสิ่งเหล่านี้ให้กับลูกสาวบุญธรรม อย่างไรก็ตาม เธอไม่ได้รับความรักและการดูแลจากครอบครัวแต่อย่างใด แต่กลับโดนเอาเปรียบตลอด นับแต่นั้นเป็นต้นมา มู่หยูไม่ยอมให้ใครอีกเลย และตัดความรู้สึกและความรักทั้งหมดออกไป ปัจจุบันเธอเป็นสายดำระดับเก้า เชี่ยวชาญภาษาถึงแปดภาษา เป็นผู้เชี่ยวชาญทางการแพทย์ และนักออกแบบระดับโลก ซูมู่หยูกล่าวว่า "จากนี้ไป ฉันเป็นหนึ่งของตระกูลซู"