เรื่อง...พ่อม่ายกับยัยพี่เลี้ยง คำโปรย...นักธุรกิจหนุ่มลูกติด มีปมชีวิตความใสซื่อและความดีของเธอทำให้เขาสนใจ ส่วนลูกชายที่ไม่ยอมไปโรงเรียนเพราะโดนเพื่อนล้อว่าไม่มีแม่ อยากได้เธอมาเป็นแม่ซึ่งเขาก็เห็นด้วยกับลูกชายเช่นกัน แนะนำตัวละคร คุณอาทิตย์ เจริญเดชาพงษ์ (คุณอาทิตย์) หนุ่มหล่อรวย เป็นเจ้าของห้างสรรพสินค้ากลางใจเมือง และยังมีธุรกิจ ผลิต นำเข้า และส่งออก เกี่ยวกับสิ่งอิเล็กทรอนิกส์ รายใหญ่ที่สุดในประเทศอีกด้วย แต่อาทิตย์เขามีลูกติดชื่อน้องเกียร์เป็นเด็กผู้ชายอายุสามขวบ แม่เสียชีวิตตอนคลอดน้องเกียร์ออกมาได้ไม่ถึงหนึ่งชั่วโมง เพราะเธอเสียเลือดมาก นันทิชา มงคลสวัสดิ์ (มิรา) หญิงสาวที่พึ่งเรียนจบมาใหม่ๆ เธอตกงาน ที่บ้านกำลังลำบาก เธอออกหางานทำเพราะต้องส่งน้องเรียน น้องเธออยู่มัธยมต้น เป็นผู้หญิงชื่อลิลิน พ่อแม่เสียไปนานแล้ว เหลือกันอยู่แค่สองคนพี่น้อง โดยได้รับความช่วยเหลือจากเพื่อนบ้านถึงรอดมาถึงทุกวันนี้ได้
1.สมัครงาน
มิราพึ่งเรียนจบปริญญาตรีมาหมาดๆ เธอเป็นเด็กทุนเพราะเรียนเก่ง และกำลังหางานทำเพราะมีน้องสาวที่กำลังเรียนหนังสืออีก ซึ่งเธอและน้องสาวมีกันอยู่แค่สองคน งานก็หายากขึ้นทุกวัน เธอเป็นเด็กจบใหม่ประสบการณ์ก็ยังไม่มี วันนี้ทั้งวันเธอก็ยังไม่ได้งานที่ไหนเลยสักที่ ซึ่งเธอก็ออกหางานทำมาเกือบเดือนแล้ว
"พี่มิราได้งานมั้ย" เป็นเสียงของลิลินที่กำลังตั้งใจทำการบ้านอยู่ในห้องสี่เหลี่ยมแคบๆ แต่ก็อบอุ่น ลิลินเอ่ยถามพี่สาว ขณะที่มิรากำลังเปิดประตูห้องเข้า มิราส่ายหัวให้กับน้องสาวเบาๆ วันนี้เธอรู้สึกเหนื่อยเหลือเกินอากาศก็ร้อน งานก็หาไม่ได้
"ไม่เป็นไรนะพี่ เดี๋ยวพรุ่งนี้ก็ได้" ลิลินให้กำลังใจพี่สาวแบบนี้เสมอ ก็เธอมีกันอยู่แค่สองคนพี่น้อง ก็ต้องรักกันเป็นธรรมดา สำหรับลิลิน มิราคือทุกอย่าง เป็นพี่เป็นเพื่อน ถ้าไม่มีมิราพี่สาวคนนี้คอยดูแล ลิลินคงไม่ได้เรียนหนังสือ และลิลินก็รักพี่มิราของเธอมาก อายุของทั้งสองคน ค่อนข้างห่างกันมากพอสมควร ตอนพ่อกับแม่เสียไป ลิลินยังเล็กมาก มิราเป็นพี่ต้องรับภาระเลี้ยงและดูแลน้องเพียงคนเดียวมาตลอด ตอนที่เธอเรียนอยู่เธอก็หางานพาร์ทไทม์ทำ เธอเรียนไปทำงานไป และก็มีน้องเล็กให้ต้องดูแลอีกด้วย ช่วงที่เธอทำงานตอนกลางคืน เธอก็มักจะฝาก น้องสาวไว้กับเพื่อนบ้าน ซึ่งเพื่อนบ้านของเธอก็ใจดี ซึ่งเรื่องนี้ถือว่าเธอโชคดีมาก
"หิวมั้ย พี่ซื้อข้าวมาฝากลินด้วยนะ" บ้านที่ทั้งสองคนอยู่ เป็นบ้านเช่า เดือนละถูกๆ อยู่ในสังคมแออัดที่คนจนๆ ส่วนมากที่ไม่มีที่ไปมักจะมาอยู่กัน
"เดี๋ยวลินหยิบน้ำให้นะ พี่มาเหนื่อยๆ" มิราเธอมีน้องสาวที่น่ารัก ทำให้เธอมีกำลังใจที่จะสู้ต่อ เพราะอย่างน้อยเธอก็รู้ว่าควรทำไปเพื่อใคร ลิลินอายุสิบห้าปี เธอกำลังเรียนอยู่มัธยมต้นปีสุดท้าย เป็นเด็กน่ารักร่าเริงพูดเก่งยิ้มก็เก่ง ความสวยไม่น้อยไปกว่าคนเป็นพี่เลย
"ลิน พี่ว่างานอะไรถ้าทำแล้วได้เงิน ของให้เป็นงานสุจริตพี่ว่าพี่จะทำ" มิราเริ่มคิดแล้ว ถ้าขืนจะใช้วุฒิการศึกษาคงต้องอดตายกันแน่ๆ น้องเธอก็ต้องเรียน ต้องกิน ต้องใช้ เธอเองก็ด้วย
"ลินก็เห็นด้วยกับพี่นะ" เพราะที่ผ่านมามิราเธอก็ทำงานหนักมาตลอด เรียนก็หนัก แถมช่วงเย็นมิราก็ต้องทำงาน ที่มีกินมีใช้ได้ก็เพราะงานนี่แหละ เพราะฉะนั้น ไม่ว่างานอะไร เธอก็จะทำแล้ว ไม่จำเป็นต้องไปนั่งโต๊ะหรืออยู่ในห้องแอร์ เธอก็ทำได้หมดอยู่แล้ว
"อืองั้นเดี๋ยวพรุ่งนี้ พี่จะออกหางานใหม่" สองพี่น้องถึงอายุจะห่างกันมาก แต่ก็เป็นเพื่อนคุยกันได้เสมอ มีอะไรก็มักจะปรึกษากันแบบนี้เป็นประจำ
"ลินเอาใจช่วยนะคะ" ลิลินยิ้มให้พี่สาวของเธอเหมือนอย่างเช่นเคย ทำให้มิรามีกำลังใจสู่ต่อไปเพื่อน้องสาวสุดที่รักของเธอคนนี้
ทางด้านอาทิตย์
"คุณดา มีพี่เลี้ยงมาสมัครกันอีกมั้ย คนล่าสุดออกอีกแล้ว ผมละปวดหัวจริงๆ หรือว่าเงินเดือนมันจะน้อยไป" อาทิตย์ปวดหัวกับเรื่องนี้มาก น้องเกียร์ลูกชายเพียงคนเดียวของเขา ก็กำลังซน แกอายุสามขวบ เป็นเด็กฉลาด น่ารัก พูดและคุยเก่ง แต่ที่ทำให้พี่เลี้ยงต้องลาออกบ่อยๆ ปัจจัยสำคัญจริงๆ ก็คือเงื่อนไข เพราะพี่เลี้ยงที่มาทำงานนี้ จะต้องมาประจำอยู่ที่บ้านตลอด ซึ่งแต่ละคนมีความจำเป็นหลากหลายกันไป จึงทำให้ไม่มีคนอยู่ได้ แต่ที่บ้านของคุณอาทิตย์ ก็มีแม่บ้าน ซึ่งแม่บ้านพวกนี้ก็มีแต่อายุมากๆ กันแล้วจะให้มาเลี้ยงเด็กด้วยคงจะไม่ไหว
"ไม่มีเลยค่ะ มีแต่มาสมัครงานเป็นพนักงานค่ะ" คุณดา เลขาอายุเกือบเข้าเลขสี่แล้ว เธอทำงานเป็นเลขาให้อาทิตย์มานาน กำลังรายงานตามที่เจ้านายถาม
"คุณเอาใบสมัครงานพวกนั้นมาให้ผมสิ" อาทิตย์ต้องการจะคัดเลือกพี่เลี้ยง เขาจะเอาจากใบสมัครที่มีคนมาสมัครงานนี่แหละ เผื่อจะมีคนสนใจที่จะมาทำงานนี้ ซึ่งตัวเขาเองก็ไม่มั่นใจเหมือนกันว่า จะมีคนสนใจหรือเปล่า เพราะคนพวกนี้มาสมัครงานบริษัท ไม่ได้มาสมัครงานเลี้ยงเด็ก แต่อาทิตย์ก็หวังว่า ต้องมีสักคนแหละน่า
"ค่ะ" อาทิตย์เอาใบสมัครงาน ที่คุณดาเลขาของเขาเอามาให้ เปิดดูและกำลังที่จะคัดเลือก หลังจากที่เขาคัดเลือกคุณสมบัติตามที่เขาต้องการแล้ว เขาก็ให้เลขาไปจัดการต่อ โทรไปสอบถามว่ามีใครอยากจะทำงานนี้บ้าง
คนที่มาเป็นพี่เลี้ยงน้องเกียร์ มักจะออกกันบ่อย มีหลายสาเหตุจากที่ผ่านๆ มาเพราะคนที่จะมาเป็นพี่เลี้ยงให้กับน้องเกียร์ได้ จะต้องมาประจำอยู่ที่บ้านทุกวัน มีวันหยุดให้หนึ่งวันคือวันอาทิตย์ วันที่คุณอาทิตย์หยุดงาน เพราะเขาจะเลี้ยงลูกเอง แต่ถ้ามีงานด่วนเข้ามา พี่เลี้ยงคนนั้นก็จะต้องอยู่ เพื่อที่จะต้องเลี้ยงลูกให้เขา แล้วได้เป็นค่าโอทีเป็นค่าตอบแทน ซึ่งเรียกได้ว่า แทบจะไม่มีวันหยุดเลย และคนที่จะมาทำงานนี้ได้ก็จะต้อง โสดเท่านั้น เพราะจะได้ไม่มีภาระให้เจ้านายอย่างเขาต้องปวดหัว แลกกับค่าแรงที่มากกว่าเลขาของเขาเสียอีก
"คุณดาครับ คุณช่วยโทรหาคนที่ผมเลือกให้หน่อย บอกพวกเขาว่าเป็นงานพี่เลี้ยงเด็ก เงินเดือนสามเท่าของค่าแรงขั้นต่ำ ถ้าใครอยากทำ มาหาผมพรุ่งนี้เช้าได้เลย" เลขารับเอาใบสมัครงานไปดำเนินงานตามที่เจ้านายหนุ่มสั่งทันที
"สวัสดีค่ะ มิรารับสายค่ะ" มิราเมื่อเห็นเบอร์แปลกเธอก็รีบรับทันที เพราะเธอคิดว่าน่าจะเป็นเบอร์ของบริษัทไหนสักที่ โทรมาให้เธอไปสัมภาษณ์หรือไม่ก็ไปทำงานเลยก็ได้ ตอนนี้ความหวังและการรอคอยของเธอทำให้เธอตื่นเต้นกับสายที่กำลังรับสายอยู่
"สวัสดีค่ะ พี่โทรมาจากบริษัท...ที่คุณได้ยื่นใบสมัครไว้นะคะ" และมันก็เป็นสายของบริษัทใด บริษัทหนึ่งจริงๆ ด้วย
"จริงเหรอคะ ดิฉันจะได้งานทำแล้วใช่มั้ยคะ" น้ำเสียงดีใจออกไป ทำให้คู่สนทนา ที่กำลังพูดสายอยู่ในขณะนี้ รู้สึกมีความหวังว่าเธอคนนี้จะต้องยอมไปทำงานเป็นพี่เลี้ยงเด็ก เพราะใบนี้เป็นใบสมัครใบสุดท้ายที่คุณดาโทรหา และทุกคนที่ผ่านมาก็ปฏิเสธหมด เพราะงานที่เรียกให้ไปทำ ไม่ตรงตามความต้องการของพวกเขา
"ค่ะแต่...งานที่คุณจะได้ทำ คืองานเลี้ยงลูกเจ้านาย ถ้าคุณสนใจ คุณก็ได้งานนี้เลย สนใจมั้ยคะ" คุณดากำลังตั้งใจฟังคู่สายที่กำลังจะตอบกลับมา
"สนใจค่ะ งานอะไรก็ได้ ดิฉันไม่เกี่ยง ขอแค่ให้เป็นงานที่สุจริตก็พอค่ะ" ตามที่เธอตั้งใจไว้แล้ว งานอะไรเธอก็จะทำ จะได้มีเงินมากินมาใช้ และคำพูดของเด็กคนนี้ทำให้คุณดานึกเอ็นดูเข้าไปอีก ที่พูดว่าขอแค่ให้เป็นงานที่สุจริตก็พอ
"งานนี้ค่าแรงสามเท่าด้วยนะคะ พรุ่งนี้เชิญที่บริษัทมาให้ได้นะคะ" คุณดาไม่ลืมที่จะพูด ถึงแรงจูงใจที่จะทำให้เธอคนนี้มาทำงานให้ได้ คุณดากลัวว่าเธออาจจะเปลี่ยนใจ เธอขี้เกียจหาคนใหม่แล้ว
"ค่ะ ขอบคุณมากนะคะ" เมื่อสายถูกตัดไป คุณดาพ่นลมหายใจออกมา เพราะใบสมัครใบนี้เป็นใบสุดท้าย ที่มีเกือบยี่สิบใบที่โทรไปก็ถูกปฏิเสธหมด เหลือใบนี้ใบสุดท้ายโชคดีที่เธอตกลง ค่อยยังชั่ว
"ลิน พี่ได้งานทำแล้วนะ" น้ำเสียงดีใจเอ่ยบอกน้องสาว
"จริงเหรอพี่ ลินดีใจด้วยนะ"
"แต่งานที่เขาให้พี่ไปทำ เป็นงานเลี้ยงเด็ก เงินเดือนสามเท่า" เธอรู้สึกว่าที่เขาให้เงินเดือนเยอะขนาดนี้ มันต้องมีอะไรแน่ๆ แต่เธอก็จะลองเสี่ยงดู
"ทำไมเขาให้เงินเดือนสูงจัง แค่เลี้ยงเด็กเนี่ยนะพี่" ลิลินสงสัย มิราก็เช่นกัน
"พี่ก็ไม่รู้แต่ยังไงพี่ก็จะต้องทำงานนี้ให้ได้" มิรา ตอบน้องสาวอย่างมั่นใจ ไม่ว่างานจะยากขนาดไหน หรือเด็กอาจจะดื้อ เธอก็ต้องทำงานนี้ให้ได้
"ถ้างั้นลิลินเอาใจช่วยนะคะ" ทั้งสองโผเข้ากอดกันด้วยความดีใจ ต่อไปนี้เธอก็จะมีเงินส่งน้องสาวของเธอเรียน ไม่ต้องกินอดกินอยากอีกต่อไปแล้ว ปีหน้าขึ้นชั้นใหม่ต้องใช้เงินอีกมาก นี่ก็ใกล้จะปิดเทอมแล้ว ไหนจะชุดนักเรียน กระเป๋า รองเท้า และอุปกรณ์การเรียนอีก
แค่เพียงสบตาความปรารถนาอันร้อนแรงของเขาก็ได้ก่อตัวขึ้น ในเมื่อแต่งงานกันแล้ว เขาย่อมมีสิทธิ์ในตัวเธอทุกประการ
คืน One Night Stand ของมาเฟียอิตาลีกับยัยขี้เมา เช้าวันนั้นเธอหายไป เขาจึงออกตามหา แต่เมื่อได้เจอกันเธอกลับจำหน้าเขาไม่ได้
เรื่อง...คุณหมอสะดุดรัก คำโปรย พริ้งพราวเพื่อนลากให้ไปเที่ยวผับแต่เธอดันถูกยาปลุกเซ็กเข้า แล้วบังเอิญมาเจอกับเขา คุณหมอหนุ่มวัย35ปี แล้วคุณหมอจะมีวิธีช่วยเธออย่างไร... แนะนำตัวละคร วายุภักษ์ ภักดีวัฒนากุล (วายุ) อายุ 35 ปี เขาเป็นผู้ชาย ขี้เล่น อารมณ์ดี และที่สำคัญเขายิ้มเก่งมากๆ วายุเป็นผู้บริหารโรงพยาบาลสาขาที่เชียงใหม่และยังพ่วงด้วยตำแหน่งคุณหมอโรคหัวใจ เขาเป็นลูกชายคนโตของ เจ้าของโรงพยาบาลเอกชนชื่อดังที่มีสาขาอยู่หลายแห่งของประเทศไทย วายุมีความจำเป็นต้องย้ายมาจากสาขาที่เชียงใหม่ เพราะน้องชายที่ประจำอยู่เกิดอุบัติเหตุ วายุเลยมาประจำอยู่สาขาที่กรุงเทพแทนเป็นการชั่วคราว กมลเนตร ธนพัฒน์ธาดา (พริ้งพราว) หญิงสาวบริสุทธิ์ อายุ 24 ปี ทำงานในโรงพยาบาลเอกชนแห่งหนึ่งในกรุงเทพ และเหตุการณ์ในวันนั้นทำให้เธอกับเขาอยู่ด้วยกันและค่อยๆ สนิทกัน เหนือเมฆ ภักดีวัฒนากุล (เมฆ) น้องชายคนเดียวของวายุ ตั้งแต่เขาประสบอุบัติเหตุเดินไม่ได้ เขาก็กลายเป็นคนอารมณ์ร้อน พยาบาลพิเศษที่จ้างมาดูแล ไม่มีใครสามารถอยู่กับเขาได้ จนได้มาเจอกับ...ข้าวหอม ศศินาทิพย์ คงเจริญ (ข้าวหอม) พยาบาลจบใหม่ เธออยู่ในช่วงทดลองงาน ถูกทางโรงพยาบาลขอร้องให้ไปดูแลคนป่วยที่บ้านตลอด 24 ชั่วโมง โดยมีเงื่อนไข และเงื่อนไขนั้นทำให้เธอยอมตอบตกลงรับทำงานนี้ @@@@@@
เรื่อง...คุณหมออาสากับยัยเด็กบนดอย โปรย...ความรักมันไม่ได้เกี่ยวกับอายุ...แต่มันเกี่ยวอยู่ที่ใจ เขาไม่อยากมีลูกเพราะฉะนั้นเขาก็เลยไม่คิดที่จะมีเมีย ความรักเป็นเรื่องตลกไม่มีเขาก็อยู่ได้ แนะนำตัวละคร แสงเหนือ หรือ หมอแสง อายุ 32 ปี นิสัย ปากร้าย อารมณ์ดี ขี้เล่น อบอุ่นและขี้หึงสุดๆ แต่เขาไม่อยากมีลูกเพราะฉะนั้นเขาก็เลยไม่คิดที่จะมีเมีย ความรักเป็นเรื่องตลกไม่มีเขาก็อยู่ได้ ปิ่นงาม หรือ ปิ่น อายุ 20 ปี เธอสวย เก่ง เธอใช้ชีวิตเรียบง่ายอยู่บนดอยสูง เธอมีความสุขตามอัตภาพของเธอ แต่แล้วชีวิตของเธอก็ได้เปลี่ยนไปเมื่อมีเขาเดินเข้ามา ************* (เรื่องนี้เขียนต่อจากเรื่อง...คุณหมอเจ้าแผนการ) ปล.นิยายเรื่องนี้ทุกเหตุการณ์เป็นการสมมุติขึ้นทั้งสิ้น ไม่ว่าจะเป็นเรื่องของความเป็นอยู่ ศาสนา วัฒนธรรม หรืออะไรก็แล้วแต่ในเนื้อหาของเรื่องนี้เกิดจากจินตนาการของผู้แต่งที่สมมุติขึ้นทั้งสิ้น
ความสวยสะดุดตา ความสดใสสะดุดใจ ปากที่บอกว่ายังไม่อยากมีใคร แต่ในใจกลับอยากได้เธอมาครอบครอง
เมื่อความผิดพลาดของเขาและเธอ ทำให้ทั้งสองได้เด็กมาเลี้ยง เขาได้เลี้ยงเด็กผู้ชาย ส่วนเธอได้เลี้ยงเด็กผู้หญิง แล้วทั้งสองก็ไม่ได้เจอกันอีกเลย จนกระทั่งสี่ปีผ่านไป ทั้งสองกลับมาเจอกันอีกครั้ง ด้วยเงื่อนไขวุ่นๆของครอบครัว
เส้าหยวนหยวนแต่งงานกับแม่ทัพเทพทรงพลังที่ได้รับบาดเจ็บสาหัสจนส่งผลกระทบต่อทางจิตใจหลังจาดที่เธอย้อนเวลา เธอไม่ต้องการเข้าไปพัวพันกับการสมรู้ร่วมคิด และต้องการร่วมมือกับเขาเพื่อแสวงหาอิสรภาพ เธอก่อตั้งธุรกิจ รักษาโรคของคนไข้ และช่วยชีวิตผู้คน เป็นคนที่ยอดเยี่ยม กลายเป็นผู้ช่วยที่ดีของแม่ทัพ แต่ต่อมาแม่ทัพกลับคืนคำ ไหนตกลงไว้ว่าจะหย่าล่ะ?
ในวันแต่งงาน เจ้าบ่าวของเฉียวซิงเฉินหนีไปกับผู้หญิงอีกคน เธอโกรธมาก จึงสุ่มหาชายคนหนึ่งมาแต่งงานด้วยทันที "ตราบใดที่คุณกล้าแต่งงานกับฉัน ฉันก็ยอมเป็นเมียคุณ" หลังจากแต่งงาน เธอได้ค้นพบว่าสามีของเธอคือลูกชายคนโตของตระกูลลู่ที่ขึ้นชื่อว่าไร้ประโยชน์ ชื่อลู่ถิงเซียว ทุกคนเยาะเย้ยว่า "เธอยนี่ช่วยไม่ได้จริงๆ" และผู้ชายที่ทรยศเธอก็มาเกลี้ยกล่อมว่า "ไม่เห็นต้องทำร้ายตัวเองเพราะฉันหรอก สักวันเธอต้องเสียใจแน่ๆ" เฉียวซิงเฉินหัวเราะเยาะและโต้ตอบว่า "ไปให้พ้น ฉันกับสามีรักกันมาก" ทุกคนต่าก็คิดว่าเธอเป็นบ้า ไปแล้ว อย่างไรก็ตาม เมื่อตัวตนที่แท้จริงของลู่ถิงเซียวถูกเปิดเผย ที่แท้เขาเป็นคนรวยอันดับต้นๆในโลก ในการถ่ายทอดสดทั่วโลก ชายคนนี้คุกเข่าข้างเดียว ถือแหวนเพชรมูลค่าหลักพันล้าน และพูดช้าๆ ว่า "คุณภรรยา ชีวิตที่เหลือนี้ขอฝากเนื้อฝากตัวด้วยนะ"
ซูมู่หยูคือลูกสาวแท้ๆ ของตระกูลที่พลัดพรากจากกันไปนาน หลังจากกลับมาสู่ครอบครัว เธอพยายามอย่างเต็มที่เพื่อเอาใจญาติๆ ไม่ว่าจะเป็นตัวตน เกียรติศักดิ์ หรือผลงานการออกแบบ เธอก็ถูกบังคับให้มอบสิ่งเหล่านี้ให้กับลูกสาวบุญธรรม อย่างไรก็ตาม เธอไม่ได้รับความรักและการดูแลจากครอบครัวแต่อย่างใด แต่กลับโดนเอาเปรียบตลอด นับแต่นั้นเป็นต้นมา มู่หยูไม่ยอมให้ใครอีกเลย และตัดความรู้สึกและความรักทั้งหมดออกไป ปัจจุบันเธอเป็นสายดำระดับเก้า เชี่ยวชาญภาษาถึงแปดภาษา เป็นผู้เชี่ยวชาญทางการแพทย์ และนักออกแบบระดับโลก ซูมู่หยูกล่าวว่า "จากนี้ไป ฉันเป็นหนึ่งของตระกูลซู"
ในสายตาของเขา เธอเป็นคนขี้โกหก ในสายตาของเธอ เขาเป็นคนไร้หัวใจ เดิมทีถังหว่านคิดว่าเธอคือคนพิเศษหลังจากอยู่กับเสิ่นติงหลานมาสองปี แต่สุดท้ายก็พบว่าตัวเองเป็นแค่ของเล่นที่สามารถทิ้งได้อย่างตามใจเมื่อไม่มีค่าอีกต่อไป จนกระทั่งถังหว่านเห็นว่าเสิ่นติงหลานพาคนรักของเขาไปตรวจครรภ์ เธอจึงยอมแพ้แล้ว เธอหยุดติดตามเขาอีก แต่จู่ๆ เขากลับไม่ยอมปล่อยเธอไป "ถ้าคุณไม่เชื่อฉัน ทำไมคุณไม่ปล่อยฉันไปล่ะ?" ชายผู้เคยหยิ่งยะโสขนาดนั้น ตอนนี้ก้มหัวลงและขอร้องว่า "หวานหว่าน ฉันผิดไปแล้ว โปรดอย่าทิ้งฉันไป"
"นางเป็นบุตรีผู้สูงศักดิ์ของฮูหยินเอกของจวนเสนาบดี นางมีหน้าตาโดดเด่น ทั้งอ่อนโอนและมีน้ำใจไมตรีต่อผู้อื่น แต่... นางทำดีต่อป้าของนาง นางกลับฆ่าแม่ของนางตาย นางรักเอ็นดูน้องสาวของนาง แต่น้องสาวกลับแย่งสามีของนางไป นางคอยสนับสนุนและดูแลสามีของนางอย่างสุดหัวใจ แต่สามีกลับทำให้นางตายทั้งกลม...ตระกูลฝ่ายมารดาของนางก็ถูกประหารชีวิตทั้งตระกูลด้วย นางตายตาไม่หลับและสาบานว่าหากมีชาติหน้า นางจะไม่เมตาตาต่อใครอีก ใครก็ตาม กล้ามาทำร้ายข้า ข้าจะล้างแค้นด้วยชีวิตทั้งตระกูลของพวกเจ้า เมื่อเกิดใหม่อีกครั้ง นางอายุได้สิบสี่ปี นางสาบานว่าจะต้องเปลี่ยนชะตากรรมและแก้แค้นชาติก่อน ป้านางใจ้ร้าย นางจะใจร้ายกลับยิ่งกว่านาง นางคิดจะได้ครองตำแหน่งฮูหยินงั้นเหรอ บอกเลยไม่มีทาง! ส่วนน้องสาวชอบผู้ชายชั่ว ๆ นักไม่ใช่หรือ ได้!ข้าจะยกให้เลย ส่วนชายชั่วนั่น ข้าจะทำให้เจ้าไม่สามารถมีทายาทได้อีกตลอดทั้งชาติ!แต่ข้าจะแก้แค้น เหตุใดเจ้าต้องมาช่วยข้าด้วย?"
"ฉันจะนอนกับคุณทุกที่ ทุกเวลา และทุกครั้งที่คุณต้องการ เพื่อแลกกับอิสรภาพของพ่อฉัน" "แล้วถ้าผมไม่ตกลงล่ะ" ในที่สุดเขาก็พูดออกมาจนได้ ยาหยีก้มหน้าซ่อนความเจ็บช้ำเอาไว้จนมิด ก่อนจะเงยหน้าขึ้นอีกครั้งและพูดออกไปเสียงแผ่วเบา "ฉันจะให้คุณดูสินค้าก่อนก็ได้...แล้วค่อยตัดสินใจ" เมื่อบิดาของตนเป็นโจรขโมยเพชรล้ำค่าของตระกูลมาเฟียที่ยิ่งใหญ่แห่งกรุงมอสโค ยาหยี จำต้องโยนศักดิ์ศรีของตัวเองทิ้งแล้วกลายเป็นหญิงไร้ยางอายเพื่อให้บิดารอดพ้นจากเงื้อมมือมัจจุราชอย่างเขา ทางเลือกเพียงทางเดียวที่มีคือยอมพลีกายให้ผู้ที่ขึ้นชื่อว่าหล่อเหลาในสามโลกได้เชยชม สาวพรหมจรรย์อย่างหล่อนแทบขาดใจตายเพราะบทพิศวาสเร่าร้อนรุนแรงที่ไม่เคยได้พานพบ ความวาบหวามครั้งแล้วครั้งเล่าที่เขามอบให้ทำให้ยาหยีคลั่งไคล้ในรสสิเน่หา กายสาวร่ำร้องโหยหาแต่เขาเพียงผู้เดียว หากภายในใจก็ต้องคอยย้ำเตือนตนเองไว้ว่า หล่อนก็เป็นได้แค่ของเล่นชั่วคราว สักวันพอเขาเบื่อ ก็จะถูกเขี่ยทิ้งอย่างไร้ความปรานี!! จากที่คิดจะตามไล่ล่าเด็ดหัวคนทรยศให้แดดิ้นไปต่อหน้า คอร์เนล ซีร์ยานอฟ เจ้าพ่อยักษ์ใหญ่แห่งวงการโทรคมนาคมในประเทศรัสเซีย ก็เปลี่ยนเป้าหมายทันทีเมื่อได้เจอสาวน้อยนัยน์ตากลมหวานซึ้ง ใบหน้าหวานๆ ส่งผลให้เขาต้องการอยากครอบครองหล่อนแทบคลั่ง คอร์เนลมั่นใจว่ามันจะมีผลกับร่างแกร่งได้ไม่นานหรอก เพราะสำหรับเขา ผู้หญิงคือวัตถุทางเพศเคลื่อนที่ได้เท่านั้น เพียงได้ลิ้มลองแค่ครั้งเดียว เขาก็ไม่เคยหันกลับไปกินของเก่าอีก แต่ทฤษฎีนี้กลับใช้ไม่ได้ผลกับหล่อน ให้ตายสิ! เขาไม่เคยรู้สึกติดใจผู้หญิงรุนแรงขนาดนี้มาก่อน คอร์เนลหลงใหลเนื้อนุ่มจนกลายเป็นเสพติด ทั้งที่ความยโสโอหังของบุรุษเลือดเย็นเยี่ยงเขาพยายามบอกกับตนเองว่า เขายังเชยชมร่างงามไม่คุ้มค่ากับสิ่งที่สูญเสียไป แต่ภายในใจลึกๆ กลับตะโกนก้องสวนทางออกมาว่า เขาขาดเธอไม่ได้แม้แต่วินาทีเดียว!!