แค่เพียงสบตาความปรารถนาอันร้อนแรงของเขาก็ได้ก่อตัวขึ้น ในเมื่อแต่งงานกันแล้ว เขาย่อมมีสิทธิ์ในตัวเธอทุกประการ
แค่เพียงสบตาความปรารถนาอันร้อนแรงของเขาก็ได้ก่อตัวขึ้น ในเมื่อแต่งงานกันแล้ว เขาย่อมมีสิทธิ์ในตัวเธอทุกประการ
แต่งก่อนค่อยรัก
คำโปรย
แค่เพียงสบตาความปรารถนาอันร้อนแรงของเขาก็ได้ก่อตัวขึ้น ในเมื่อแต่งงานกันแล้ว เขาย่อมมีสิทธิ์ในตัวเธอทุกประการ
แนะนำตัวละคร
คมสัน (เฮียแสน) อายุ 34 ปี
เขาหล่อ รวย อบอุ่น หยอดเก่งและเจ้าเล่ห์ ม้าพยศอย่างเธออีกไม่นานจะกลายเป็นแมวเชื่องๆให้เขาเชยชม
ขวัญทิพย์ (น้ำขิง) อายุ 24 ปี
เธอสวย น่ารัก ทุกครั้งที่ได้สบตากับเขา ร่างกายของเธอมีบางอย่างผิดปกติ เหมือนกำลังถูกมนต์รักจากเขาสะกด
❤️❤️❤️❤️❤️
เรื่องย่อ...เมื่อย่ามารู้ว่าหลานชายออกเที่ยวหญิง ท่านจึงจัดการหาเมียให้ทันที หลังจากการจดทะเบียนสมรสเสร็จสิ้นแล้ว น้ำขิงต้องย้ายเข้าไปอยู่ในบ้านของเขาที่มีเพียงแค่เขาและเธอสองคนเท่านั้น เธอจะรอดพ้นความหิวกระหายของเขาได้นานแค่ไหน โปรดติดตามอ่านต่อได้ในเรื่องค่ะ
❤️❤️❤️❤️❤️
ตอนที่ 1 ตามประสาคนโสด
คมสัน หรือ ที่ใครๆมักจะเรียกเขาว่าเฮียแสน เขามีอาชีพทำสวน ปลูกต้นโป๊ยเซียนขาย โดยมีพื้นที่มากกว่าสิบห้าไร่ ถือว่าเป็นสวนที่ใหญ่ที่สุดของภาคเลยก็ว่าได้ สวนนี้เดิมทีเป็นของคุณปู่ที่เสียไปแล้ว
คมสันเป็นหลานชายเพียงคนเดียวที่ถูกปู่กับย่าเลี้ยงมาเหมือนลูกคนเล็ก จึงได้สานต่อธุรกิจทำสวนโป๊ยเซียนต่อจากท่าน ต้นโป๊ยเซียนมีลักษณะเป็นไม้พุ่มขนาดเล็ก ลำต้นอวบน้ำมีหนาม ออกดอกสวยทั้งปี ส่วนสายพันธุ์ที่มีและกำลังพัฒนาเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ มีมากกว่าหนึ่งร้อยสายพันธุ์
เช้าวันนี้คมสันกลับมาบ้านในช่วงสายๆ บ้านที่มีแค่เพียงเขาอาศัยอยู่คนเดียว ไม่นับรวมลูกน้องในสวน เมื่อคืนเขาออกไปหาความสำราญตามประสาหนุ่มโสด ซึ่งเป็นเรื่องปกติของเขา เขามักจะหายไปในช่วงหัวค่ำแล้วกลับเข้ามาในช่วงเช้าของวันใหม่ ซึ่งเป็นแบบนี้เป็นประจำ
“ไปไหนมา!” เสียงเข้มของคนที่กำลังนั่งรออยู่เอ่ยถามขึ้น ทำให้เจ้าตัวที่กำลังเดินเข้าบ้านมาในแบบไม่รู้ร้อนรู้หนาวสะดุ้งตัวโยน เมื่อหันไปเห็นว่าใครนั่งรออยู่ที่โซฟากลางบ้าน
“อุ้ย! ย่า...มาได้ยังไงครับเนี่ย” ย่าบัวคือแม่ของพ่อ ท่านเป็นคนเลี้ยงคมสันมาตั้งแต่เล็กแต่น้อย บ้านหลังนี้คือบ้านของท่าน แต่ตอนนี้ท่านได้ย้ายไปอยู่กับลูกชาย นั่นก็คือพ่อของคมสันนั่นเอง สาเหตุเป็นเพราะท่านอายุมากแล้ว ลูกชายจึงขอร้องให้ไปอยู่ด้วยกัน ส่วนคมสันวันๆเอาแต่ทำงานกับออกเที่ยว คงไม่มีเวลามาดูแลคนแก่
พ่อกับแม่ของคมสันมีอาชีพเปิดร้านอาหารอยู่ในตัวจังหวัด ส่วนบ้านหลังที่คมสันอยู่ ตั้งอยู่ในจังหวัดเดียวกันแต่คนละอำเภอ
บ้านหลังนี้เป็นบ้านไม้สองชั้นหลังใหญ่ ชั้นบนเป็นพื้นที่ส่วนตัว มีสองห้องนอน หนึ่งห้องน้ำ ส่วนชั้นล่างก็จะเป็นในส่วนของห้องครัว ห้องนั่งเล่น ห้องทำงานและพื้นที่ใช้สอยอื่นๆ
“เดินมามั้ง” เสียงของผู้เป็นย่าเอ่ยประชด ท่านกำลังรู้สึกโมโหที่เห็นหลานชายกลับมาบ้านเอาเวลานี้
“อย่าดุสิครับ ความดันขึ้นไม่รู้ด้วยนะ"
"ย่ายังไม่ตายง่ายๆหรอก ไม่ต้องมาแช่ง"
"จะมาหาผมทำไมไม่โทรมาบอกก่อนล่ะ ให้ผมไปหาย่าก็ได้ ไม่ต้องลำบากมาให้เหนื่อยหรอกครับ” ระยะทางจากบ้านสวนไปบ้านแม่ยี่สิบกิโลเมตร ใช้เวลาขับรถประมาณครึ่งชั่วโมง ถึงกระนั้นก็ไม่ได้รู้สึกไกลแต่อย่างใด เพราะว่าไปกลับบ่อยจนชินแล้ว
“ถ้าย่าไม่มา แล้วจะรู้มั้ย ว่าแกออกเที่ยวกลางคืน ไปอ่างไหนมาล่ะ”
“แหม...ย่าก็ อ่างที่ไหนกันครับ ผมไม่เห็นจะรู้เรื่องเลย” คนเป็นหลานชายเริ่มเฉไฉ ไม่เห็นกับตาหลักฐานก็ไม่มีเรื่องอะไรเขาจะยอมรับ
“ไม่ต้องมาเล่นลิ้นกับย่านะแสน ถามจริงๆเถอะ ไม่อยากแก่ตายหรือไง ติดโรคขึ้นมาจะทำยังไง” ผู้เป็นย่าเป็นห่วงหลานชายที่สุด คมสันเป็นหลานในไส้แถมยังเลี้ยงมาเองกับมือ ย่อมต้องรักมากเป็นธรรมดา แต่เจ้าหลานชายของท่านก็เอาแต่รักสนุกเจ้าชู้เพลย์บอยไปวันๆ ทำให้คนแก่อย่างท่านอดที่จะเป็นห่วงไม่ได้
“สมัยนี้เขามียากินแล้วครับย่า” ประโยคนี้ของหลานชายหัวดื้อทำเอาคนเป็นย่าอย่างท่านต้องทำอะไรสักอย่าง ดูเหมือนว่าคมสันจะไม่ยอมหยุดเที่ยวง่ายๆ
“ยังจะมาทำเป็นพูดดีอีก อายุแกก็ไม่น้อยแล้ว ทำไมไม่หาเมียสักคนล่ะ” วิธีนี้คงเป็นวิธีที่ดีที่สุด ที่จะทำให้หลานชายของท่านหยุดเที่ยวกลางคืนได้
“ย่าก็หาให้ผมหน่อยสิ ขอสวยๆ ขาวๆ อวบๆ นมใหญ่ๆ” จบคำพูดของคนเป็นหลานชาย ฝ่ามือเหี่ยวย่นของผู้เป็นย่าก็คว้าหมับเข้ามาที่ใบหูของคนเป็นหลานชายจากนั้นก็ออกแรงบิดทันที
“นี่แน่ะ! นมใหญ่ๆเหรอ”
“โอ๊ยๆๆๆ ปล่อยครับปล่อย ผมเจ็บนะ” เหมือนว่าจะบิดได้ไม่เต็มแรงสักเท่าไหร่ แต่ก็สามารถทำให้ใบหูขาวๆของคมสันแดงก่ำได้ไม่น้อย
“ก็บิดให้เจ็บน่ะสิ นิสัยเหมือนปู่ของแกไม่มีผิด!”
“ไม่เอาน่าย่า ปู่เสียไปตั้งนานแล้ว อย่าขุดเอาแกขึ้นมาด่าเลย”
“ถ้าย่าหาเมียให้ แกจะเอามั้ย” ย่าบัวเอ่ยถามหลานชายตัวโตของท่านด้วยน้ำเสียงจริงจัง ขืนออกเที่ยวอยู่แบบนี้มีหวังคนแก่อย่างท่านคงนอนตายตาไม่หลับ
“ก็อย่างที่บอก ขอสวยๆ ขาวๆ อวบๆ นม...อ๊ะ!” คมสันยังพูดไม่ทันจบดี ฝ่ามือข้างเดิมของผู้เป็นย่ากำลังจะยกขึ้นหวังจะเอื้อมมาบิดใบหูของหลานชายอีกครั้ง แต่ครั้งนี้ดูเหมือนว่าเจ้าหลานชายตัวแสบจะรู้ทัน รีบคว้าเอามือเหี่ยวย่นของย่ามากอบกุมเอาไว้ แต่ท่านก็เลือกที่จะชักมือออก
“ถ้าได้เมียแล้ว แกต้องสัญญากับย่าว่าจะหยุดเที่ยวทุเรศๆแบบนี้”
“ใครฟ้องย่าว่าผมออกเที่ยว” ต้องเป็นลูกน้องในสวนคนใดคนหนึ่งแน่ๆ
“ย่าหัวหงอกขนาดนี้แล้ว แค่มองดูก็รู้ ไม่ต้องมีใครมาฟ้องหรอก”
“มาหาผมแต่เช้าแบบนี้ ย่ามีธุระอะไรกับผมหรือเปล่าครับ” คมสันรีบเปลี่ยนเรื่องพูด ขืนคุยเรื่องเดิมมีหวังย่าของเขาคงด่าไม่เลิกแน่ๆ
“เช้าบ้านแกสิ! ลูกน้องในสวนเขาทำงานกันหมดแล้ว เจ้าของสวนอย่างแกมัวแต่ทำอะไรอยู่” ใครจะบอก?
“ใจเย็นๆสิครับ อย่าโมโห เดี๋ยวความดันก็ขึ้นหรอก ตกลงย่ามีธุระอะไรกับผมหรือเปล่าครับ”
“ไม่ได้มีธุระอะไร มาดูสวนเฉยๆ เห็นมีไม้เมล็ดสีสวยๆหลายต้นนี่” คุยเรื่องงานน้ำเสียงของผู้เป็นย่าก็เริ่มเบาลงหน่อย ถึงแม้ว่าท่านจะไม่ค่อยชอบนิสัยรักสนุกในส่วนนี้ของหลานชายนัก แต่ท่านก็ต้องชื่นชมในเรื่องการทำงานที่คมสันทำมาตลอด
“ครับ” จากสวนโป๊ยเซียนเล็กๆของปู่ ตอนนี้ได้ขยายใหญ่โต มีออเดอร์ส่งออกไปไกลถึงต่างประเทศปีๆหนึ่งคิดเป็นเงินแล้วก็มากโขอยู่ พอมีรายได้สามารถเลี้ยงตัวเองและคนงานในสวนได้ จุดมุ่งหมายหลักของปู่ก่อนที่ท่านจะสิ้นใจก็คือ อยากให้คนแก่แถวบ้านที่ยังพอมีแรงทำงาน มีรายได้สามารถพึ่งพาเลี้ยงดูตนเองได้ เจตนาของปู่ในวันนั้น ทำให้มีคมสันและสวนโป๊ยเซียนในวันนี้
“ช่วงนี้ขายดีมั้ย” โป๊ยเซียนออกดอกตลอดทั้งปี จึงเป็นที่นิยมของคนที่รักต้นไม้ดอกไม้ ไม่ว่าช่วงไหนก็ขายได้ตลอด
“ดีปกติครับ เดือนหน้ามีออเดอร์ส่งนอกห้าพันต้น คนงานเร่งมือกันน่าดูช่วงนี้” เรื่องการส่งออกโป๊ยเซียนไปต่างประเทศ ที่สวนไม่ได้ส่งเองแต่จะมีพ่อค้ามารับอีกทอด หน้าที่ของทางสวนก็คือทำผลผลิตให้พอกับความต้องการของลูกค้า ส่วนราคาก็จะอยู่ในส่วนของขายส่ง
“เจ้าแสบบ่นหาน่ะ ไม่คิดจะไปหาลูกบ้างเหรอ” แสบอายุห้าขวบเป็นเด็กผู้ชาย พูดเก่ง คุยเก่ง น่ารัก เวลาเจอหน้าพ่อแสน แสบมักจะชอบบอกพ่อว่า 'พ่อ...แสบอยากมีแม่' ทำเอาคนฟังแอบขำทุกทีที่ได้ยิน
“ว่าจะไปเย็นนี้ครับ”
“อือ...ย่าจะกลับแล้ว อากาศร้อนเดินไม่ไหว กลับบ้านดีกว่า” ย่าบัวอาศัยลูกน้องที่ร้านอาหารขับรถมาให้ ว่าจะมาสักพักแล้วจะกลับ แต่ที่ต้องอยู่นานเป็นเพราะรอหลานชายกลับมาบ้าน
“ทำไมรีบกลับล่ะครับ รอกลับเย็นๆพร้อมผมก็ได้” ย่าลุกขึ้นจากโซฟาที่นั่งอยู่ แล้วกำลังจะเดินออกจากบ้านไป
“มีธุระ”
“ธุระอะไรครับ”
“หาเมียให้แกไง” คมสันคิดว่าย่าพูดเล่น หาเมียนะไม่ใช่หาคนงาน คงไม่ได้หาง่ายขนาดนั้น
“ขอสวยๆ ขาวๆ อวบๆ นะครับ” คมสันตะโกนตามหลังย่าไปด้วยน้ำเสียงขี้เล่น
“จะสวยแค่ไหน สุดท้ายก็ต้องแก่เหมือนย่า เลือกคนดีช่วยกันทำมาหากินไม่ดีกว่าเหรอลูก” คมสันทำได้แค่เพียงส่งยิ้มไปให้ผู้เป็นย่าเท่านั้น เขาไม่ได้โต้ตอบอะไรกลับไป เพราะถ้าโต้ตอบมีหวังวันนี้คงไม่จบเรื่องนี้ได้ง่ายๆแน่
❤️❤️❤️❤️❤️
คืน One Night Stand ของมาเฟียอิตาลีกับยัยขี้เมา เช้าวันนั้นเธอหายไป เขาจึงออกตามหา แต่เมื่อได้เจอกันเธอกลับจำหน้าเขาไม่ได้
เรื่อง...คุณหมอสะดุดรัก คำโปรย พริ้งพราวเพื่อนลากให้ไปเที่ยวผับแต่เธอดันถูกยาปลุกเซ็กเข้า แล้วบังเอิญมาเจอกับเขา คุณหมอหนุ่มวัย35ปี แล้วคุณหมอจะมีวิธีช่วยเธออย่างไร... แนะนำตัวละคร วายุภักษ์ ภักดีวัฒนากุล (วายุ) อายุ 35 ปี เขาเป็นผู้ชาย ขี้เล่น อารมณ์ดี และที่สำคัญเขายิ้มเก่งมากๆ วายุเป็นผู้บริหารโรงพยาบาลสาขาที่เชียงใหม่และยังพ่วงด้วยตำแหน่งคุณหมอโรคหัวใจ เขาเป็นลูกชายคนโตของ เจ้าของโรงพยาบาลเอกชนชื่อดังที่มีสาขาอยู่หลายแห่งของประเทศไทย วายุมีความจำเป็นต้องย้ายมาจากสาขาที่เชียงใหม่ เพราะน้องชายที่ประจำอยู่เกิดอุบัติเหตุ วายุเลยมาประจำอยู่สาขาที่กรุงเทพแทนเป็นการชั่วคราว กมลเนตร ธนพัฒน์ธาดา (พริ้งพราว) หญิงสาวบริสุทธิ์ อายุ 24 ปี ทำงานในโรงพยาบาลเอกชนแห่งหนึ่งในกรุงเทพ และเหตุการณ์ในวันนั้นทำให้เธอกับเขาอยู่ด้วยกันและค่อยๆ สนิทกัน เหนือเมฆ ภักดีวัฒนากุล (เมฆ) น้องชายคนเดียวของวายุ ตั้งแต่เขาประสบอุบัติเหตุเดินไม่ได้ เขาก็กลายเป็นคนอารมณ์ร้อน พยาบาลพิเศษที่จ้างมาดูแล ไม่มีใครสามารถอยู่กับเขาได้ จนได้มาเจอกับ...ข้าวหอม ศศินาทิพย์ คงเจริญ (ข้าวหอม) พยาบาลจบใหม่ เธออยู่ในช่วงทดลองงาน ถูกทางโรงพยาบาลขอร้องให้ไปดูแลคนป่วยที่บ้านตลอด 24 ชั่วโมง โดยมีเงื่อนไข และเงื่อนไขนั้นทำให้เธอยอมตอบตกลงรับทำงานนี้ @@@@@@
เรื่อง...พ่อม่ายกับยัยพี่เลี้ยง คำโปรย...นักธุรกิจหนุ่มลูกติด มีปมชีวิตความใสซื่อและความดีของเธอทำให้เขาสนใจ ส่วนลูกชายที่ไม่ยอมไปโรงเรียนเพราะโดนเพื่อนล้อว่าไม่มีแม่ อยากได้เธอมาเป็นแม่ซึ่งเขาก็เห็นด้วยกับลูกชายเช่นกัน แนะนำตัวละคร คุณอาทิตย์ เจริญเดชาพงษ์ (คุณอาทิตย์) หนุ่มหล่อรวย เป็นเจ้าของห้างสรรพสินค้ากลางใจเมือง และยังมีธุรกิจ ผลิต นำเข้า และส่งออก เกี่ยวกับสิ่งอิเล็กทรอนิกส์ รายใหญ่ที่สุดในประเทศอีกด้วย แต่อาทิตย์เขามีลูกติดชื่อน้องเกียร์เป็นเด็กผู้ชายอายุสามขวบ แม่เสียชีวิตตอนคลอดน้องเกียร์ออกมาได้ไม่ถึงหนึ่งชั่วโมง เพราะเธอเสียเลือดมาก นันทิชา มงคลสวัสดิ์ (มิรา) หญิงสาวที่พึ่งเรียนจบมาใหม่ๆ เธอตกงาน ที่บ้านกำลังลำบาก เธอออกหางานทำเพราะต้องส่งน้องเรียน น้องเธออยู่มัธยมต้น เป็นผู้หญิงชื่อลิลิน พ่อแม่เสียไปนานแล้ว เหลือกันอยู่แค่สองคนพี่น้อง โดยได้รับความช่วยเหลือจากเพื่อนบ้านถึงรอดมาถึงทุกวันนี้ได้
เรื่อง...คุณหมออาสากับยัยเด็กบนดอย โปรย...ความรักมันไม่ได้เกี่ยวกับอายุ...แต่มันเกี่ยวอยู่ที่ใจ เขาไม่อยากมีลูกเพราะฉะนั้นเขาก็เลยไม่คิดที่จะมีเมีย ความรักเป็นเรื่องตลกไม่มีเขาก็อยู่ได้ แนะนำตัวละคร แสงเหนือ หรือ หมอแสง อายุ 32 ปี นิสัย ปากร้าย อารมณ์ดี ขี้เล่น อบอุ่นและขี้หึงสุดๆ แต่เขาไม่อยากมีลูกเพราะฉะนั้นเขาก็เลยไม่คิดที่จะมีเมีย ความรักเป็นเรื่องตลกไม่มีเขาก็อยู่ได้ ปิ่นงาม หรือ ปิ่น อายุ 20 ปี เธอสวย เก่ง เธอใช้ชีวิตเรียบง่ายอยู่บนดอยสูง เธอมีความสุขตามอัตภาพของเธอ แต่แล้วชีวิตของเธอก็ได้เปลี่ยนไปเมื่อมีเขาเดินเข้ามา ************* (เรื่องนี้เขียนต่อจากเรื่อง...คุณหมอเจ้าแผนการ) ปล.นิยายเรื่องนี้ทุกเหตุการณ์เป็นการสมมุติขึ้นทั้งสิ้น ไม่ว่าจะเป็นเรื่องของความเป็นอยู่ ศาสนา วัฒนธรรม หรืออะไรก็แล้วแต่ในเนื้อหาของเรื่องนี้เกิดจากจินตนาการของผู้แต่งที่สมมุติขึ้นทั้งสิ้น
ความสวยสะดุดตา ความสดใสสะดุดใจ ปากที่บอกว่ายังไม่อยากมีใคร แต่ในใจกลับอยากได้เธอมาครอบครอง
เมื่อความผิดพลาดของเขาและเธอ ทำให้ทั้งสองได้เด็กมาเลี้ยง เขาได้เลี้ยงเด็กผู้ชาย ส่วนเธอได้เลี้ยงเด็กผู้หญิง แล้วทั้งสองก็ไม่ได้เจอกันอีกเลย จนกระทั่งสี่ปีผ่านไป ทั้งสองกลับมาเจอกันอีกครั้ง ด้วยเงื่อนไขวุ่นๆของครอบครัว
หนานอันพริตตี้สาวสู้ชีวิตอายุยี่สิบปีแอบชอบผู้ชายคนหนึ่งอย่างหนักและอยากได้เขามาเป็นแฟนใจจะขาด แต่ดูเหมือนว่าเขาจะไม่สนใจเธอ หญิงสาวได้ไปดูดวงแม่หมอคนนั้นจึงบอกให้เธอมาขอพรที่ศาลเจ้าเล็ก ๆ ในอำเภอแห่งหนึ่งที่ห่างไกลเพื่อให้เธอสมหวังและต้องไปในวันที่ฟ้ามืดที่สุดของเดือนในอีกสองวันข้างหน้าถึงจะเห็นผล หนานอันเชื่อแม่หมอเพราะอยากได้ผัว เธอจึงไม่รอช้ารีบคว้ากระเป๋าเป้เดินทางมายังศาลเจ้าทันที เมื่อหนานอันเข้าไปภายในศาลเจ้าก็พบว่า มีสตรีสูงวัยคนหนึ่งอายุราวหกสิบกว่าปีกำลังกวาดศาลเจ้าอยู่ ...... "ได้ของสิ่งนี้ไปต้องสมหวังอย่างแน่นอน" คุณยายพูดพร้อมกับรอยยิ้ม น้ำเสียงนี้ฟังดูเยือกเย็นเป็นอย่างยิ่ง หนานอันยิ้มให้คุณยายจู่ ๆ ขนแขนของเธอก็ตั้งชันขึ้นมา เธอกำลังจะลุกขึ้นในตอนนั้นก็เกิดฟ้าผ่าเปรี้ยงลงมา หนานอันหวีดร้องด้วยความตกใจทว่าเมื่อหันไปมองคุณยายเธอไม่เห็นแม้แต่เงาแล้ว หนานอันประหลาดใจมากร้องเรียกคุณยายอยู่หลายคำ แต่ว่าในตอนนี้เธอก็ไม่มีเวลาให้คิดสิ่งใดแล้วเพราะเกิดสิ่งที่ไม่คาดคิดขึ้นเมื่อฟ้าผ่าลงมาที่ศาลเจ้าเข้าอย่างจังหนานอันที่อยู่ด้านในจึงถูกฟ้าผ่าไปด้วยและสติดับวูบลงไปทันใด ไม่รู้ว่านานเท่าใดที่หนานอันตกอยู่ในความมืดมิด และเมื่อเธอตื่นขึ้นมาทุกอย่างรอบกายของเธอก็ไม่เหมือนเดิมอีกต่อไป...
ตลอดสิบปีที่ฉู่จินเหอรักเหลิ่งมู่หยวนฝ่ายเดียว เอาใจใส่กับเขาอย่างเต็มที่ แต่เธอไม่เคยคิดว่าที่แท้เธอเป็นแค่ตัวตลกคนหนึ่งเท่านั้น ที่สำนักงานเขตเพื่อทำการหย่า เหลิ่งมู่หยวนมองดูฉู่จินเหอด้วยความเย็นชาและพูดอย่างเหยียดหยามว่า "ถ้าเธอคุกเข่าลงและขอร้องฉัน ฉันอาจจะให้โอกาสเธอกอีกครั้ง ฉู่จินเหอเซ็นอย่างไม่ลังเลและออกจากตระกูลเหลิ่ง สามเดือนต่อมา ฉู่จินเหอปรากฏตัวอย่างเปิดเผย ในเวลานั้น เธอเป็นประธานเบื้องหลังของ LX นักออกแบบลับที่ล้ำค่าที่สุดในโลก และเจ้าของเหมืองที่มีมูลค่าหลายร้อยล้าน ทางตระกูลเหลิ่งคุกเข่าลงและขอร้องให้คืนดีและขอการให้อภัย ฉู่จินเหอแยู่ในโอบกอดของซีอีโอโจว ซึ่งเป็นคนใหญ่คนโตในโลกธุรกิจอย่างมีความุข เธอเลิกคิ้วพลางเยาะเย้ย "ฉันในตอนนี้ไม่ใช่คนที่พวกคุณมาเกี่ยวข้องได้"
เซียวหนานอยู่ในระดับต่ำสุดขององค์กรลับที่แผ่ขยายสายข่าวไปทุกแว่นแคว้น นางเป็นเด็กกำพร้าไร้บิดามารดาที่ถูกเก็บมาให้เป็น นกกระจอกสืบข่าว เรียกได้ว่าเป็นชนชั้นที่วรยุทธ์ต่ำต้อยและต้องทำงานเอาตัวเข้าแลกเพื่อหาข่าวให้กับเบื้องบน ดังนั้นนกกระจอกเช่นนางจึงมีมากมายแทรกซึมเข้าไปในจวนขุนนางต่าง ๆ โดยที่ไม่มีผู้ใดล่วงรู้ สิ่งที่นางฝึกฝนมาตลอดหลายปีมานี้ก็คือการเอาใจบุรุษ บำรุงร่างกาย ฝึกฝนศาสตร์ทั้งห้าให้เชี่ยวชาญ และฝึกวิชาเสพสังวาสให้บุรุษติดใจ แม้ว่าจะไม่เคยทำกับบุรุษจริง ๆ แต่ขนาดของแท่งหยกของบุรุษนางล้วนได้สัมผัสมาแล้วจากแท่งหยกของเทียมและแท่งหยกบุรุษของจริงที่นางไม่เคยเห็นหน้าว่าคนพวกนั้นคือผู้ใด เพราะพวกนางต้องมอบกายให้กับเหยื่อคนแรกที่นับว่าส่วนใหญ่จะเป็นชนชั้นสูง ดังนั้นจึงไม่อาจร่วมประเวณีกับบุรุษอื่นก่อนที่จะได้รับมอบเหยื่อจากนายใหญ่
หลี่เมิ่งเหยาย้อนเวลามาอยู่ในร่าง ของเด็กสาววัยสิบสองปี ในวันที่มารดาอนุผู้โง่เขลา ถูกขับไล่ออกจากจวน โชคยังดีที่ตอนตาย นางสวมกำไลหยกโลกันตร์เอาไว้ มันจึงติดตามนางมาที่นี่ด้วย +++ 1 : มารดาโง่ จนถูกไล่ออกจากตระกูล จวนตระกูลหลี่เจ้าเมืองถัง สตรีสองนางถูกสาวใช้จับคุกเข่าลง ตรงหน้าของหลี่หงซวนเจ้าเมืองถัง ทั้งยังเป็นพ่อสามีของทั้งคู่อีกด้วย ท่านกำลังสอบสวนเรื่องของสะใภ้ใหญ่ของบ้านสาม ถูกฮูหยินรองกับอนุรวมหัวกันลอบทำร้าย ด้วยการวางยาขับเลือดในถ้วยน้ำแกงบำรุงครรภ์ ทำให้นางต้องสูญเสียทารกในครรภ์ไป “ท่านพ่อข้าไม่รู้จริง ๆ ว่านั่นเป็นยาขับเลือด ฮูหยินรองบอกว่าเป็นน้ำแกงบำรุงครรภ์ ให้ข้าเป็นคนนำไปมอบให้ฮูหยินใหญ่ เป็นนางนั่นเอง นางหลอกข้า !” เฉาซูหลิ่งชี้นิ้วไปทางสตรีด้านข้าง ร้อนรนเอ่ยออกมาเหมือนคนไม่ได้รับความเป็นธรรม “อนุเฉาเจ้าอย่ามาใส่ร้ายข้านะ เจ้าทำคนเดียวทั้งนั้นไม่เกี่ยวกับข้าเลย” ฮูหยินรอง ถูซวงอี้ ชี้นิ้วใส่หน้าเฉาซูหลิ่งกลับคืน ต่างคนต่างโยนความผิดให้กัน ฮูหยินผู้เฒ่าหลิวเยี่ยนหนานโบกมือให้คนเข้ามา “ข้าให้โอกาสพวกเจ้าสองคนพูดความจริง แต่กลับไม่มีใครยอมรับความผิดแม้แต่คนเดียว มันน่าจับส่งทางการให้รู้แล้วรู้รอด” พ่อบ้านหลัวให้คนลากสาวใช้คนหนึ่งเข้ามา สภาพของนางถูกทรมานจนเนื้อตัวบวมช้ำไปหมด “เรียนนายท่านข้าให้คนไปค้นห้องสาวใช้ทุกคนในจวน พบเทียบยาซ่อนไว้ใต้หมอน จากห้องของสาวใช้คนนี้ขอรับ” ถูซวงอี้ถึงกับคุกเข่าต่อไปไม่ไหว ทิ้งตัวลงไปนั่งอยู่บนพื้น สาวใช้ที่ถูกทรมานจนสภาพน่าเวทนานั่น เป็นเสี่ยวอิงสาวใช้สินเดิมของนางเอง “ฮูหยินรอง ข้าขอโทษ ข้าทนต่อไปไม่ไหวจริง ๆ ข้าขอโทษ !” เสี่ยวอิงโขกศีรษะลงตรงหน้าของถูซวงอี้แรง ๆ น้ำตาไหลนองหน้าจน แทบไม่เป็นผู้เป็นคนอยู่แล้ว พ่อบ้านหลัวเอ่ย “ข้าให้คนไปถามที่หอโอสถแล้วขอรับนายท่าน เป็นเทียบยาขับเลือดจริง ๆ” หลี่หงซวนมองไปทางบุตรชายคนที่สามของตน พบว่าเขามีสีหน้ากลืนไม่เข้าคายไม่ออก สตรีที่คุกเข่าอยู่ตรงหน้าคือฮูหยินรอง กับอนุภรรยาที่เขารักใคร่ไม่ต่างกัน เหตุใดถึงได้คิดร้ายต่อฮูหยินใหญ่ของเขาได้ เป็นเหตุให้เขาต้องสูญเสียลูกที่อยู่ในท้องของนางไป เดิมทีฮูหยินใหญ่ของเขาก็ตั้งท้องยากอยู่แล้ว เขารอมาตั้งนานกว่าจะมีวันนี้ได้ ไม่คิดมาก่อนว่าจะต้องสูญเสียไปเช่นนี้ “หย่วนเจ๋อนี่เป็นเรื่องในเรือนของเจ้า เจ้าอยากตัดสินเรื่องนี้ด้วยตัวเองหรือไม่” ผู้เป็นบิดาเอ่ยถามบุตรชาย “ไม่ ข้าไม่อยากเห็นหน้าพวกนางอีกต่อไป แล้วแต่ท่านพ่อเถอะขอรับ ข้าขอตัวไปดูฮูหยินใหญ่ก่อน” หลี่หย่วนเจ๋อคำนับบิดา สะบัดแขนเสื้อเดินจากไปในทันที หางตายังไม่แม้แต่จะมองสตรีทั้งสองนาง เฉาซูหลิ่งลนลานตามเขาไป “ท่านพี่ช่วยข้าด้วย ข้าไม่ผิดนะเจ้าคะ ท่านพี่ !” แต่ถูกบ่าวรับใช้ขวางทางเอาไว้ หลี่หงซวน “หยุดโวยวายได้แล้วอนุเฉา เจ้าเป็นคนถือถ้วยน้ำแกงใส่ยาขับเลือด ไปมอบให้ฮูหยินใหญ่ด้วยตัวเอง ยังคิดจะหนีความผิดนี้ไปได้อีกรึ” “ท่านพ่อขะข้าข้า...ไม่ผิด” เฉาซูหลิ่งทิ้งตัวไปด้านหลังอย่างหมดเรี่ยวแรง เดิมทีนางก็ไม่เป็นที่โปรดปรานของพ่อแม่สามีอยู่แล้ว เพราะไม่สามารถให้กำเนิดบุตรชายได้ ครั้นได้บุตรสาวก็นิสัยขี้ขลาดขี้กลัว ไหนเลยจะเชิดหน้าชูตาให้ตระกูลหลี่ได้ เฉาซูหลิ่งนั่งเหม่อลอย คล้ายคนจิตใจไม่อยู่กับเนื้อกับตัว ขณะที่หลี่หงซวนกำลังประกาศโทษทัณฑ์ของพวกนาง ถูซวงอี้กับคนของนาง ถูกขายออกจากจวน ไปอยู่หอนางโลมอย่างเงียบ ๆ ชาตินี้อย่าได้ก้าวเท้า กลับมาเหยียบที่จวนตระกูลหลี่อีก ส่วนเฉาซูหลิ่งถูกขับไล่ออกจากจวน ไปพร้อมกับบุตรสาว ให้ไปอยู่เรือนร้างของตระกูลหลี่ที่เมืองฉาง ห้ามกลับมาที่ตระกูลหลี่อีกชั่วชีวิต “ท่านพ่อท่านขับไล่ข้าไป ข้ายังพอรับได้ เหตุใดต้องขับไล่เหยาเอ๋อร์ไปด้วย นางเพิ่งจะสิบสองปีเองนะเจ้าคะ” เฉาซูหลิ่งนึกถึงบุตรสาวร่างกายผ่ายผอม นอนซมเพราะพิษไข้อยู่ เกิดนึกสงสารนางขึ้นมาจับใจ ฮูหยินผู้เฒ่าหันไปมองสามีเล็กน้อย นางเห็นเด็กสาวคนนั้นมาตั้งแต่เกิด แม้ไม่ได้เอ็นดูแต่ก็นับว่าเป็นสายเลือดเดียวกัน “ฮูหยินเรื่องนี้ข้าตัดสินใจไปแล้ว ไม่อาจคืนคำได้” คำพูดของประมุขของตระกูล มีหรือใครจะกล้าขัด เฉาซูหลิ่งปล่อยเสียงร้องไห้โฮออกมาดัง ๆ นางโง่งมจนทำให้บุตรสาว ต้องมารับเคราะห์กรรมตามไปด้วย “ลากตัวอนุเฉาออกไป หารถม้าสักคันให้คนส่งนาง ไปที่เรือนร้างเมืองฉาง” คำสั่งของหลี่หงซวนเป็นคำขาด บ่าวไพร่รีบทำตามในทันที ครั้นได้อยู่ด้วยกันเพียงลำพังกับฮูหยินผู้เฒ่า หลี่หงซวนถึงได้บอกเหตุผล ที่ต้องตัดสินใจทำเช่นนี้ นั่นเพราะตระกูลจี้ได้ยื่นคำขาดมา ให้ขับไล่พวกเขาออกไปให้หมด อย่าให้เหลืออยู่แม้แต่ตนเดียว ไม่ต้องการให้คนที่ทำร้ายบุตรสาวของพวกเขา อยู่ระคายสายตาของจี้ชิวหรงอีกต่อไป ฮูหยินผู้เฒ่าแค่นออกมาหนึ่งคำ “อ้างเหตุผลข้าง ๆ คู ๆ ความจริงแล้วต้องการกำจัดอนุในเรือนบุตรสาวทิ้งให้หมด นี่กระทั่งเด็กคนหนึ่งก็ไม่เว้น แต่ก็เอาเถอะ เหยาเอ๋อร์อยู่ที่นี่ ก็ใช่จะมีประโยชน์อันใด นางไม่ได้อยู่ในสายตาของพวกเราด้วยซ้ำ ให้นางไปกับแม่ของนางนั่นแหละดีแล้ว” หลี่หงซวนนั้นเป็นเพียงเจ้าเมืองเล็ก ๆ มีตำแหน่งเป็นขุนนางขั้นที่ห้า ฝั่งตระกูลจี้บ้านเดิมของจี้ชิวหรงนั้น อยู่ในเมืองหลวงมีตำแหน่งใหญ่โตกว่าหนึ่งขั้น เรื่องนี้เขาจึงต้องขบคิด ถึงผลได้ผลเสียในอนาคตอีกด้วย การเสียสละอนุกับหลานสาวคนหนึ่ง เพื่อชดเชยให้แก่คนตระกูลจี้ นับว่าเป็นเรื่องสมควรทำแล้ว “ข้าก็คิดเช่นฮูหยินนั่นแหละ เพียงแต่สะใภ้สามแท้งคราวนี้ ไม่รู้จะยังสามารถตั้งท้องได้อีกหรือไม่ พวกเรารอดูไปก่อนดีกว่า หากนางไม่สามารถตั้งท้องได้จริง ๆ เราค่อยหาอนุมาให้หย่วนเจ๋อภายหลังก็ยังได้ ยามนั้นคนตระกูลจี้จะเอาอะไรมาง้างกับเราได้อีก” “จริงดังท่านว่าเจ้าค่ะ” ฝ่ายเฉาซูหลิ่งที่ถูกคนใช้ ลากตัวออกมาให้เก็บของในเรือน นางส่งเสียงเอะอะโวยวายตลอดทาง พร่ำบอกต้องการพบหลี่หย่วนเจ๋อให้ได้ แต่ถูกสาวใช้ขวางไว้ไม่ให้ไป นางจำใจกลับไปยังห้องนอนของตัวเอง รีบเก็บของสำคัญใส่ห่อผ้าเพื่อออกเดินทาง
"พี่ริก" นินิวเรียกคนที่เข้ามาในห้องเธอ ฉันอยากจะกรี๊ดและกัดลิ้นตัวเองให้ขาด ฉันลืมไปสนิทว่าริกเป็นคนที่เข้าออกคอนโดของเธอได้อย่างง่ายดาย "ออกไป ถ้าไม่อยากโดนข้อหาบุกรุกห้องคนอื่นในยามวิกาล" นินิวบอกริกมาเสียดังด้วยสีหน้าโกรธจัด ที่ริกเข้าห้องเธออย่างถือวิสะ "ไม่ไป ในเมื่อที่นี่คือห้องเมียฉัน ทำไมฉันต้องออก" ร่างสูงบอกมาด้วยเสียงแข็งด้วยความไม่พอใจ "ห้องฉันไม่ใช่ห้องของยัยโมเน่ เมียคนปัจจุบันของพี่ ถ้าพี่ยังหลงเหลือความเป็นคนอยู่บ้างก็ออกไปจากห้องฉันคะ" แต่ริกกับไม่สนใจคำพูดนินิวเลยซักนิด ร่างสูงเดินเข้ามาหาคนตรงหน้า นินิวที่เห็นเช่นนั้นถึงกับจับที่ชายผ้าขนหนูเอาไว้แน่นขึ้น เพราะคนตรงหน้านั่นดูอันตรายสำหรับเธอ "อย่านะพี่ริก เรื่องของเรามันจบไปแล้ว" นินิวบอกมาด้วยเสียงสั่นเพราะสายตาที่เขามองเธอมามันน่ากลัวมากจริงๆ "ชอบฉันไม่ใช่เหรอ เอาฉันแล้วจะไปอ่อยคนอื่น อีกทำไม ฉันเห็นเต็มสองตาว่าเธอจูบกับไอ้ไทม์" "ในเมื่อพี่เห็นเช่นนั้น พี่ก็เลิกยุ่งกับฉันเสียสิ ฉันจะอ่อยจะจูบกับใครมันก็เรื่องของฉันไหม ฉันบอกพี่ไม่กี่ร้อยครั้งแล้วว่าเราเลิกกันแล้ว เพราะพี่มันเลว ฉันเลยไม่อยากได้พี่แล้ว " นินิวบอกคนใจร้ายอย่างคนเหลืออด เธอระเบิดอารมณ์ใส่คนตรงหน้าอย่างไม่มีท่าทีเกรงกลัว สำหรับริกตอนนี้เธอมองเขาเป็นแค่เศษฝุ่นที่รู้สึกขยะแขยงยิ่งกว่าแมลงสาบ ริกถึงกับกัดฟันกอดด้วยความโกรธและโมโห เชตเรื่องหนุ่มๆวิศวะทั้ง 4 หนุ่มนะคะ พันธะร้ายนายวิศวะ เรียวตะ x เชอรีน (มีให้อ่านจบเรื่อง) พิษรักร้าย Toxic Love ริกกี้ x นินิว พลาดรักร้ายนายวิศวะ อรัณ x มิริณ คลั่งรักร้ายนายวิศวะ ริว x เจนิส โลกสวยไม่เหมาะกับนิยายเรื่องนี้ ข้ามไปได้เลยจ้า นิยายเรื่องนี้เขียนขึ้นตามจิตนาการของผู้แต่ง ห้ามขัดลอกเรียนแบบใดๆ ทั้งสิ้นเขียนขึ้นตามจิตนาการของผู้เขียนเท่านั้น นิยายเรื่องนี้อาจมีเนื้อหารุนแรงในบางตอน โปรดใช้วิจารณญาณในการอ่าน อายุต่ำกว่า 18 ปีควรได้รับคำแนะนำ
องค์หญิงสิบสามนามหลินฮุ่ยหมินสตรีผู้ที่งดงามโดดเด่นไม่เป็นรองผู้ใดแต่กลับมีฐานะต่ำต้อยในวังหลวงด้วยพระมารดาเสียชีวิตตั้งแต่นางยังเด็ก ท่ามกลางความคับแค้นใจนางยังต้องคำสาปร้ายต้องกลายร่างเป็นสัตว์ทุกคืนวันพระจันทร์เต็มดวง เขาคือ หยางเอ้อหลาง แม่ทัพหนุ่มผู้มีความสามารถรูปโฉมสง่างามและเป็นวีรบุรุษคนสุดท้ายของสกุลหยาง ทั้งยังเป็นที่รักเคารพของชาวเมือง ทว่าด้วยความสามารถและตำแหน่งใหญ่โต ฮ่องเต้มิอาจวางใจจึงได้คิดกำจัดเขาให้พ้นตำแหน่งเสีย โดยมอบสมรสพระราชทานให้หยางเอ้อหลางกับพระธิดาของตน เดิมทีชีวิตของคนสองคนย่อมไม่บรรจบ เมื่อสตรีที่หมายหมั้นกับหยางเอ้อหลางคือองค์หญิงใหญ่ที่ปักใจรักเขาตั้งแต่เยาว์วัย ทว่าเรื่องไม่เป็นเช่นนั้น เมื่อคนทั้งคู่เกิดอุบัติเหตุจนคนเข้าพิธีสมรสกลายเป็นองค์หญิงสิบสาม ท่ามกลางความหวาดกลัวขององค์หญิงสิบสามที่กลัวความลับจะเปิดเผย ท่ามกลางหยางเอ้อหลางที่พยายามพาสกุลหยางให้รอดพ้น ท่ามกลางการแตกหักของความสัมพันธ์พี่น้องที่แสนรักใคร่ระหว่างองค์หญิงใหญ่และองค์หญิงสิบสามเพราะบุรุษเพียงผู้เดียว หลินฮุ่ยหมินจะทำเช่นใด เพื่อจะยุติเรื่องราวน่าเวียนหัวนี้
© 2018-now MeghaBook
บนสุด