แค่เพียงสบตาความปรารถนาอันร้อนแรงของเขาก็ได้ก่อตัวขึ้น ในเมื่อแต่งงานกันแล้ว เขาย่อมมีสิทธิ์ในตัวเธอทุกประการ
แค่เพียงสบตาความปรารถนาอันร้อนแรงของเขาก็ได้ก่อตัวขึ้น ในเมื่อแต่งงานกันแล้ว เขาย่อมมีสิทธิ์ในตัวเธอทุกประการ
แต่งก่อนค่อยรัก
คำโปรย
แค่เพียงสบตาความปรารถนาอันร้อนแรงของเขาก็ได้ก่อตัวขึ้น ในเมื่อแต่งงานกันแล้ว เขาย่อมมีสิทธิ์ในตัวเธอทุกประการ
แนะนำตัวละคร
คมสัน (เฮียแสน) อายุ 34 ปี
เขาหล่อ รวย อบอุ่น หยอดเก่งและเจ้าเล่ห์ ม้าพยศอย่างเธออีกไม่นานจะกลายเป็นแมวเชื่องๆให้เขาเชยชม
ขวัญทิพย์ (น้ำขิง) อายุ 24 ปี
เธอสวย น่ารัก ทุกครั้งที่ได้สบตากับเขา ร่างกายของเธอมีบางอย่างผิดปกติ เหมือนกำลังถูกมนต์รักจากเขาสะกด
❤️❤️❤️❤️❤️
เรื่องย่อ...เมื่อย่ามารู้ว่าหลานชายออกเที่ยวหญิง ท่านจึงจัดการหาเมียให้ทันที หลังจากการจดทะเบียนสมรสเสร็จสิ้นแล้ว น้ำขิงต้องย้ายเข้าไปอยู่ในบ้านของเขาที่มีเพียงแค่เขาและเธอสองคนเท่านั้น เธอจะรอดพ้นความหิวกระหายของเขาได้นานแค่ไหน โปรดติดตามอ่านต่อได้ในเรื่องค่ะ
❤️❤️❤️❤️❤️
ตอนที่ 1 ตามประสาคนโสด
คมสัน หรือ ที่ใครๆมักจะเรียกเขาว่าเฮียแสน เขามีอาชีพทำสวน ปลูกต้นโป๊ยเซียนขาย โดยมีพื้นที่มากกว่าสิบห้าไร่ ถือว่าเป็นสวนที่ใหญ่ที่สุดของภาคเลยก็ว่าได้ สวนนี้เดิมทีเป็นของคุณปู่ที่เสียไปแล้ว
คมสันเป็นหลานชายเพียงคนเดียวที่ถูกปู่กับย่าเลี้ยงมาเหมือนลูกคนเล็ก จึงได้สานต่อธุรกิจทำสวนโป๊ยเซียนต่อจากท่าน ต้นโป๊ยเซียนมีลักษณะเป็นไม้พุ่มขนาดเล็ก ลำต้นอวบน้ำมีหนาม ออกดอกสวยทั้งปี ส่วนสายพันธุ์ที่มีและกำลังพัฒนาเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ มีมากกว่าหนึ่งร้อยสายพันธุ์
เช้าวันนี้คมสันกลับมาบ้านในช่วงสายๆ บ้านที่มีแค่เพียงเขาอาศัยอยู่คนเดียว ไม่นับรวมลูกน้องในสวน เมื่อคืนเขาออกไปหาความสำราญตามประสาหนุ่มโสด ซึ่งเป็นเรื่องปกติของเขา เขามักจะหายไปในช่วงหัวค่ำแล้วกลับเข้ามาในช่วงเช้าของวันใหม่ ซึ่งเป็นแบบนี้เป็นประจำ
“ไปไหนมา!” เสียงเข้มของคนที่กำลังนั่งรออยู่เอ่ยถามขึ้น ทำให้เจ้าตัวที่กำลังเดินเข้าบ้านมาในแบบไม่รู้ร้อนรู้หนาวสะดุ้งตัวโยน เมื่อหันไปเห็นว่าใครนั่งรออยู่ที่โซฟากลางบ้าน
“อุ้ย! ย่า...มาได้ยังไงครับเนี่ย” ย่าบัวคือแม่ของพ่อ ท่านเป็นคนเลี้ยงคมสันมาตั้งแต่เล็กแต่น้อย บ้านหลังนี้คือบ้านของท่าน แต่ตอนนี้ท่านได้ย้ายไปอยู่กับลูกชาย นั่นก็คือพ่อของคมสันนั่นเอง สาเหตุเป็นเพราะท่านอายุมากแล้ว ลูกชายจึงขอร้องให้ไปอยู่ด้วยกัน ส่วนคมสันวันๆเอาแต่ทำงานกับออกเที่ยว คงไม่มีเวลามาดูแลคนแก่
พ่อกับแม่ของคมสันมีอาชีพเปิดร้านอาหารอยู่ในตัวจังหวัด ส่วนบ้านหลังที่คมสันอยู่ ตั้งอยู่ในจังหวัดเดียวกันแต่คนละอำเภอ
บ้านหลังนี้เป็นบ้านไม้สองชั้นหลังใหญ่ ชั้นบนเป็นพื้นที่ส่วนตัว มีสองห้องนอน หนึ่งห้องน้ำ ส่วนชั้นล่างก็จะเป็นในส่วนของห้องครัว ห้องนั่งเล่น ห้องทำงานและพื้นที่ใช้สอยอื่นๆ
“เดินมามั้ง” เสียงของผู้เป็นย่าเอ่ยประชด ท่านกำลังรู้สึกโมโหที่เห็นหลานชายกลับมาบ้านเอาเวลานี้
“อย่าดุสิครับ ความดันขึ้นไม่รู้ด้วยนะ"
"ย่ายังไม่ตายง่ายๆหรอก ไม่ต้องมาแช่ง"
"จะมาหาผมทำไมไม่โทรมาบอกก่อนล่ะ ให้ผมไปหาย่าก็ได้ ไม่ต้องลำบากมาให้เหนื่อยหรอกครับ” ระยะทางจากบ้านสวนไปบ้านแม่ยี่สิบกิโลเมตร ใช้เวลาขับรถประมาณครึ่งชั่วโมง ถึงกระนั้นก็ไม่ได้รู้สึกไกลแต่อย่างใด เพราะว่าไปกลับบ่อยจนชินแล้ว
“ถ้าย่าไม่มา แล้วจะรู้มั้ย ว่าแกออกเที่ยวกลางคืน ไปอ่างไหนมาล่ะ”
“แหม...ย่าก็ อ่างที่ไหนกันครับ ผมไม่เห็นจะรู้เรื่องเลย” คนเป็นหลานชายเริ่มเฉไฉ ไม่เห็นกับตาหลักฐานก็ไม่มีเรื่องอะไรเขาจะยอมรับ
“ไม่ต้องมาเล่นลิ้นกับย่านะแสน ถามจริงๆเถอะ ไม่อยากแก่ตายหรือไง ติดโรคขึ้นมาจะทำยังไง” ผู้เป็นย่าเป็นห่วงหลานชายที่สุด คมสันเป็นหลานในไส้แถมยังเลี้ยงมาเองกับมือ ย่อมต้องรักมากเป็นธรรมดา แต่เจ้าหลานชายของท่านก็เอาแต่รักสนุกเจ้าชู้เพลย์บอยไปวันๆ ทำให้คนแก่อย่างท่านอดที่จะเป็นห่วงไม่ได้
“สมัยนี้เขามียากินแล้วครับย่า” ประโยคนี้ของหลานชายหัวดื้อทำเอาคนเป็นย่าอย่างท่านต้องทำอะไรสักอย่าง ดูเหมือนว่าคมสันจะไม่ยอมหยุดเที่ยวง่ายๆ
“ยังจะมาทำเป็นพูดดีอีก อายุแกก็ไม่น้อยแล้ว ทำไมไม่หาเมียสักคนล่ะ” วิธีนี้คงเป็นวิธีที่ดีที่สุด ที่จะทำให้หลานชายของท่านหยุดเที่ยวกลางคืนได้
“ย่าก็หาให้ผมหน่อยสิ ขอสวยๆ ขาวๆ อวบๆ นมใหญ่ๆ” จบคำพูดของคนเป็นหลานชาย ฝ่ามือเหี่ยวย่นของผู้เป็นย่าก็คว้าหมับเข้ามาที่ใบหูของคนเป็นหลานชายจากนั้นก็ออกแรงบิดทันที
“นี่แน่ะ! นมใหญ่ๆเหรอ”
“โอ๊ยๆๆๆ ปล่อยครับปล่อย ผมเจ็บนะ” เหมือนว่าจะบิดได้ไม่เต็มแรงสักเท่าไหร่ แต่ก็สามารถทำให้ใบหูขาวๆของคมสันแดงก่ำได้ไม่น้อย
“ก็บิดให้เจ็บน่ะสิ นิสัยเหมือนปู่ของแกไม่มีผิด!”
“ไม่เอาน่าย่า ปู่เสียไปตั้งนานแล้ว อย่าขุดเอาแกขึ้นมาด่าเลย”
“ถ้าย่าหาเมียให้ แกจะเอามั้ย” ย่าบัวเอ่ยถามหลานชายตัวโตของท่านด้วยน้ำเสียงจริงจัง ขืนออกเที่ยวอยู่แบบนี้มีหวังคนแก่อย่างท่านคงนอนตายตาไม่หลับ
“ก็อย่างที่บอก ขอสวยๆ ขาวๆ อวบๆ นม...อ๊ะ!” คมสันยังพูดไม่ทันจบดี ฝ่ามือข้างเดิมของผู้เป็นย่ากำลังจะยกขึ้นหวังจะเอื้อมมาบิดใบหูของหลานชายอีกครั้ง แต่ครั้งนี้ดูเหมือนว่าเจ้าหลานชายตัวแสบจะรู้ทัน รีบคว้าเอามือเหี่ยวย่นของย่ามากอบกุมเอาไว้ แต่ท่านก็เลือกที่จะชักมือออก
“ถ้าได้เมียแล้ว แกต้องสัญญากับย่าว่าจะหยุดเที่ยวทุเรศๆแบบนี้”
“ใครฟ้องย่าว่าผมออกเที่ยว” ต้องเป็นลูกน้องในสวนคนใดคนหนึ่งแน่ๆ
“ย่าหัวหงอกขนาดนี้แล้ว แค่มองดูก็รู้ ไม่ต้องมีใครมาฟ้องหรอก”
“มาหาผมแต่เช้าแบบนี้ ย่ามีธุระอะไรกับผมหรือเปล่าครับ” คมสันรีบเปลี่ยนเรื่องพูด ขืนคุยเรื่องเดิมมีหวังย่าของเขาคงด่าไม่เลิกแน่ๆ
“เช้าบ้านแกสิ! ลูกน้องในสวนเขาทำงานกันหมดแล้ว เจ้าของสวนอย่างแกมัวแต่ทำอะไรอยู่” ใครจะบอก?
“ใจเย็นๆสิครับ อย่าโมโห เดี๋ยวความดันก็ขึ้นหรอก ตกลงย่ามีธุระอะไรกับผมหรือเปล่าครับ”
“ไม่ได้มีธุระอะไร มาดูสวนเฉยๆ เห็นมีไม้เมล็ดสีสวยๆหลายต้นนี่” คุยเรื่องงานน้ำเสียงของผู้เป็นย่าก็เริ่มเบาลงหน่อย ถึงแม้ว่าท่านจะไม่ค่อยชอบนิสัยรักสนุกในส่วนนี้ของหลานชายนัก แต่ท่านก็ต้องชื่นชมในเรื่องการทำงานที่คมสันทำมาตลอด
“ครับ” จากสวนโป๊ยเซียนเล็กๆของปู่ ตอนนี้ได้ขยายใหญ่โต มีออเดอร์ส่งออกไปไกลถึงต่างประเทศปีๆหนึ่งคิดเป็นเงินแล้วก็มากโขอยู่ พอมีรายได้สามารถเลี้ยงตัวเองและคนงานในสวนได้ จุดมุ่งหมายหลักของปู่ก่อนที่ท่านจะสิ้นใจก็คือ อยากให้คนแก่แถวบ้านที่ยังพอมีแรงทำงาน มีรายได้สามารถพึ่งพาเลี้ยงดูตนเองได้ เจตนาของปู่ในวันนั้น ทำให้มีคมสันและสวนโป๊ยเซียนในวันนี้
“ช่วงนี้ขายดีมั้ย” โป๊ยเซียนออกดอกตลอดทั้งปี จึงเป็นที่นิยมของคนที่รักต้นไม้ดอกไม้ ไม่ว่าช่วงไหนก็ขายได้ตลอด
“ดีปกติครับ เดือนหน้ามีออเดอร์ส่งนอกห้าพันต้น คนงานเร่งมือกันน่าดูช่วงนี้” เรื่องการส่งออกโป๊ยเซียนไปต่างประเทศ ที่สวนไม่ได้ส่งเองแต่จะมีพ่อค้ามารับอีกทอด หน้าที่ของทางสวนก็คือทำผลผลิตให้พอกับความต้องการของลูกค้า ส่วนราคาก็จะอยู่ในส่วนของขายส่ง
“เจ้าแสบบ่นหาน่ะ ไม่คิดจะไปหาลูกบ้างเหรอ” แสบอายุห้าขวบเป็นเด็กผู้ชาย พูดเก่ง คุยเก่ง น่ารัก เวลาเจอหน้าพ่อแสน แสบมักจะชอบบอกพ่อว่า 'พ่อ...แสบอยากมีแม่' ทำเอาคนฟังแอบขำทุกทีที่ได้ยิน
“ว่าจะไปเย็นนี้ครับ”
“อือ...ย่าจะกลับแล้ว อากาศร้อนเดินไม่ไหว กลับบ้านดีกว่า” ย่าบัวอาศัยลูกน้องที่ร้านอาหารขับรถมาให้ ว่าจะมาสักพักแล้วจะกลับ แต่ที่ต้องอยู่นานเป็นเพราะรอหลานชายกลับมาบ้าน
“ทำไมรีบกลับล่ะครับ รอกลับเย็นๆพร้อมผมก็ได้” ย่าลุกขึ้นจากโซฟาที่นั่งอยู่ แล้วกำลังจะเดินออกจากบ้านไป
“มีธุระ”
“ธุระอะไรครับ”
“หาเมียให้แกไง” คมสันคิดว่าย่าพูดเล่น หาเมียนะไม่ใช่หาคนงาน คงไม่ได้หาง่ายขนาดนั้น
“ขอสวยๆ ขาวๆ อวบๆ นะครับ” คมสันตะโกนตามหลังย่าไปด้วยน้ำเสียงขี้เล่น
“จะสวยแค่ไหน สุดท้ายก็ต้องแก่เหมือนย่า เลือกคนดีช่วยกันทำมาหากินไม่ดีกว่าเหรอลูก” คมสันทำได้แค่เพียงส่งยิ้มไปให้ผู้เป็นย่าเท่านั้น เขาไม่ได้โต้ตอบอะไรกลับไป เพราะถ้าโต้ตอบมีหวังวันนี้คงไม่จบเรื่องนี้ได้ง่ายๆแน่
❤️❤️❤️❤️❤️
คืน One Night Stand ของมาเฟียอิตาลีกับยัยขี้เมา เช้าวันนั้นเธอหายไป เขาจึงออกตามหา แต่เมื่อได้เจอกันเธอกลับจำหน้าเขาไม่ได้
เรื่อง...คุณหมอสะดุดรัก คำโปรย พริ้งพราวเพื่อนลากให้ไปเที่ยวผับแต่เธอดันถูกยาปลุกเซ็กเข้า แล้วบังเอิญมาเจอกับเขา คุณหมอหนุ่มวัย35ปี แล้วคุณหมอจะมีวิธีช่วยเธออย่างไร... แนะนำตัวละคร วายุภักษ์ ภักดีวัฒนากุล (วายุ) อายุ 35 ปี เขาเป็นผู้ชาย ขี้เล่น อารมณ์ดี และที่สำคัญเขายิ้มเก่งมากๆ วายุเป็นผู้บริหารโรงพยาบาลสาขาที่เชียงใหม่และยังพ่วงด้วยตำแหน่งคุณหมอโรคหัวใจ เขาเป็นลูกชายคนโตของ เจ้าของโรงพยาบาลเอกชนชื่อดังที่มีสาขาอยู่หลายแห่งของประเทศไทย วายุมีความจำเป็นต้องย้ายมาจากสาขาที่เชียงใหม่ เพราะน้องชายที่ประจำอยู่เกิดอุบัติเหตุ วายุเลยมาประจำอยู่สาขาที่กรุงเทพแทนเป็นการชั่วคราว กมลเนตร ธนพัฒน์ธาดา (พริ้งพราว) หญิงสาวบริสุทธิ์ อายุ 24 ปี ทำงานในโรงพยาบาลเอกชนแห่งหนึ่งในกรุงเทพ และเหตุการณ์ในวันนั้นทำให้เธอกับเขาอยู่ด้วยกันและค่อยๆ สนิทกัน เหนือเมฆ ภักดีวัฒนากุล (เมฆ) น้องชายคนเดียวของวายุ ตั้งแต่เขาประสบอุบัติเหตุเดินไม่ได้ เขาก็กลายเป็นคนอารมณ์ร้อน พยาบาลพิเศษที่จ้างมาดูแล ไม่มีใครสามารถอยู่กับเขาได้ จนได้มาเจอกับ...ข้าวหอม ศศินาทิพย์ คงเจริญ (ข้าวหอม) พยาบาลจบใหม่ เธออยู่ในช่วงทดลองงาน ถูกทางโรงพยาบาลขอร้องให้ไปดูแลคนป่วยที่บ้านตลอด 24 ชั่วโมง โดยมีเงื่อนไข และเงื่อนไขนั้นทำให้เธอยอมตอบตกลงรับทำงานนี้ @@@@@@
เรื่อง...พ่อม่ายกับยัยพี่เลี้ยง คำโปรย...นักธุรกิจหนุ่มลูกติด มีปมชีวิตความใสซื่อและความดีของเธอทำให้เขาสนใจ ส่วนลูกชายที่ไม่ยอมไปโรงเรียนเพราะโดนเพื่อนล้อว่าไม่มีแม่ อยากได้เธอมาเป็นแม่ซึ่งเขาก็เห็นด้วยกับลูกชายเช่นกัน แนะนำตัวละคร คุณอาทิตย์ เจริญเดชาพงษ์ (คุณอาทิตย์) หนุ่มหล่อรวย เป็นเจ้าของห้างสรรพสินค้ากลางใจเมือง และยังมีธุรกิจ ผลิต นำเข้า และส่งออก เกี่ยวกับสิ่งอิเล็กทรอนิกส์ รายใหญ่ที่สุดในประเทศอีกด้วย แต่อาทิตย์เขามีลูกติดชื่อน้องเกียร์เป็นเด็กผู้ชายอายุสามขวบ แม่เสียชีวิตตอนคลอดน้องเกียร์ออกมาได้ไม่ถึงหนึ่งชั่วโมง เพราะเธอเสียเลือดมาก นันทิชา มงคลสวัสดิ์ (มิรา) หญิงสาวที่พึ่งเรียนจบมาใหม่ๆ เธอตกงาน ที่บ้านกำลังลำบาก เธอออกหางานทำเพราะต้องส่งน้องเรียน น้องเธออยู่มัธยมต้น เป็นผู้หญิงชื่อลิลิน พ่อแม่เสียไปนานแล้ว เหลือกันอยู่แค่สองคนพี่น้อง โดยได้รับความช่วยเหลือจากเพื่อนบ้านถึงรอดมาถึงทุกวันนี้ได้
เรื่อง...คุณหมออาสากับยัยเด็กบนดอย โปรย...ความรักมันไม่ได้เกี่ยวกับอายุ...แต่มันเกี่ยวอยู่ที่ใจ เขาไม่อยากมีลูกเพราะฉะนั้นเขาก็เลยไม่คิดที่จะมีเมีย ความรักเป็นเรื่องตลกไม่มีเขาก็อยู่ได้ แนะนำตัวละคร แสงเหนือ หรือ หมอแสง อายุ 32 ปี นิสัย ปากร้าย อารมณ์ดี ขี้เล่น อบอุ่นและขี้หึงสุดๆ แต่เขาไม่อยากมีลูกเพราะฉะนั้นเขาก็เลยไม่คิดที่จะมีเมีย ความรักเป็นเรื่องตลกไม่มีเขาก็อยู่ได้ ปิ่นงาม หรือ ปิ่น อายุ 20 ปี เธอสวย เก่ง เธอใช้ชีวิตเรียบง่ายอยู่บนดอยสูง เธอมีความสุขตามอัตภาพของเธอ แต่แล้วชีวิตของเธอก็ได้เปลี่ยนไปเมื่อมีเขาเดินเข้ามา ************* (เรื่องนี้เขียนต่อจากเรื่อง...คุณหมอเจ้าแผนการ) ปล.นิยายเรื่องนี้ทุกเหตุการณ์เป็นการสมมุติขึ้นทั้งสิ้น ไม่ว่าจะเป็นเรื่องของความเป็นอยู่ ศาสนา วัฒนธรรม หรืออะไรก็แล้วแต่ในเนื้อหาของเรื่องนี้เกิดจากจินตนาการของผู้แต่งที่สมมุติขึ้นทั้งสิ้น
ความสวยสะดุดตา ความสดใสสะดุดใจ ปากที่บอกว่ายังไม่อยากมีใคร แต่ในใจกลับอยากได้เธอมาครอบครอง
เมื่อความผิดพลาดของเขาและเธอ ทำให้ทั้งสองได้เด็กมาเลี้ยง เขาได้เลี้ยงเด็กผู้ชาย ส่วนเธอได้เลี้ยงเด็กผู้หญิง แล้วทั้งสองก็ไม่ได้เจอกันอีกเลย จนกระทั่งสี่ปีผ่านไป ทั้งสองกลับมาเจอกันอีกครั้ง ด้วยเงื่อนไขวุ่นๆของครอบครัว
กลางวันอ่อนหวาน กลางคืนร้อนแรง นี่คือคำที่ลู่เยียนจือใช้เพื่อบรรยายถึงเธอ แต่หานเวยบอกว่าตัวเองมีชีวิตอยู่ไม่ถึงครึ่งปี ลู่เยียนจือกลับไม่ลังเลที่จะขอหย่ากับสือเนี่ยน “แค่ปลอบใจเธอไปก่อน ครึ่งปีข้างหน้าเราค่อยแต่งงานใหม่” เขาคิดว่าสือเนี่ยนจะรออยู่ที่เดิมตลอด แต่เธอได้ตาสว่างแล้ว น้ำตาแห้งสนิท หัวใจสือเนี่ยนก็แตกสลายไปแล้วด้วย การหย่าปลอมๆ สุดท้ายกลายเป็นจริง ทำแท้งลูก เริ่มต้นชีวิตใหม่ สือเนี่ยนจากไปโดยไม่หันกลับมาอีก แต่ลู่เยียนจือกลับเสียสติ ต่อมา ได้ยินว่าคุณชายลู่ผู้มีอิทธิพลนั้นก็อยู่นิ่งๆ ต่อไปไม่ได้ ขับรถเมอร์เซเดส-เบนซ์ไล่ตามเธออย่างบ้าคลั่ง เพียงเพื่อขอให้เธอเหลือบมองเขาอีกครั้ง...
"พี่เจี๋ยข้าอยากได้อีกจุมพิตเพิ่มพลังของท่าน" ฉีเย่ว์กล่าวงึมงำบนริมฝีปากของเขา นางเป็นฝ่ายดูดกลีบปากของหยางเจี๋ยเบา ๆ ซุกไซร้ซอกซอนแหย่ลิ้นเข้าไปในปากของเขา สัมผัสอ่อนนุ่มในคราแรกเริ่มโหมกระหน่ำร้อนแรงมากขึ้น ฉีเย่ว์ปลดสายรัดเอวของเขาออกสอดมือล้วงเข้าไปในกางเกงของหยางเจี๋ยพบเนื้อร้อนของเขาแข็งแกร่งขึ้นเต็มลำ นางขยำแรง ๆ พร้อมกับรูดมือเบา ๆ "อ๊า คนดีของพี่" หยางเจี๋ยมือหนึ่งประคองศีรษะของนางให้แนบชิดกับปากของเขาอีกมือล้วงเข้าไปในสาบเสื้อของนาง ฉีเย่ว์ไร้อาภรณ์กางกั้นด้านในนางใส่เพียงเสื้อคลุมนอนสีขาวเท่านั้น เขาลูบแผ่นหลังเปลือยเปล่าของนางไล้นิ้วลงไปจนถึงแก้มก้มแล้วขยำเบา หนัก สลับกัน "พี่เจี๋ยให้ข้ารักท่านเถิด" ฉีเย่ว์กัดปากข่มเสียงครางเอาไว้ นางดึงกางเกงของเขาออกโดยมีหยางเจี๋ยคอยช่วยเหลือ นางขึ้นคร่อมเขาอย่างกระหายไม่บัดนี้ตื่นอย่างเต็มตาในขณะที่ควงเอวควบขี่เขาเป็นจังหวะ หยางเจี๋ยขยับรับจังหวะที่องค์ราชินีของตนเองควบขี่ เขาเด้งสะโพกขึ้นรับนางมือดึงผ้ารัดเอวของนางออกแล้วทิ้งไว้ด้านข้าง แหวกสาบเสื้อของนางแล้วผวาศีรษะขึ้นมาอ้าปากดูดรับเนื้ออวบของนางที่กระเด้งเป็นจังหวะ ฉีเย่ว์ดันร่างของตนเองเข้าหาปากเขามือช่วยประคองศีรษะของหยางเจี๋ยให้แนบชิด หยางเจี๋ยดูดปทุมถันคู่งามอย่างกระหาย เสียงหอบหายใจของฉีเย่ว์สั่นสะท้านหัวใจแทบจะหลุดออกมาจากอก เขาคือหัวหน้าหน่วยจู่โจมที่ตายในสงคราม และได้ย้อนเวลากลับมาหลายร้อยปีกระทั่งฟื้นขึ้นมาในร่างเด็กน้อยนาม หยางเจี๋ย เด็กผู้อาภัยจากตระกูลใหญ่ ที่บิดาและมารดาถูกใส่ความว่าทุจริตจนต้องจบชีวิตลง หยางเจี๋ยเป็นเด็กกำพร้าที่ถูกเลี้ยงดูให้เติบโตในจวนราชครู สหายของบิดา และที่นี่เขาได้พบกับเด็กน้อยผู้หนึ่งนาม ฉีเย่ว์ ธิดาของท่านราชครูฉีผู้สูงส่ง พวกเขาเติบโตมาด้วยกัน ความใกล้ชิดทำให้เขาหวั่นไหว หยางเจี๋ยจะทำเช่นไรเมื่อได้พบว่า ตัวเอง ตกหลุมรักคุณหนูผู้สูงส่งจนหมดหัวใจไปเสียแล้ว เขารักนาง ต้องการทำให้นางตกเป็นของเขา และทำลายขวากหนามทุกอย่างที่ขัดขวางให้หมดสิ้นไป เพื่อนางเพียงคนเดียว
เพราะเพื่อน..เธอจึงต้องทำอะไรลับๆ ล่อๆ เป็นเหตุให้เขาเข้าใจผิดคิดว่าเธอแอบชอบ ในขณะเดียวกัน เธอเองก็คิดว่าเขาเป็นเกย์ เพราะสถานการณ์บางอย่างเช่นกัน แล้วความวุ่นวายก็บังเกิด เมื่อเธอดัน…หลงรักเกย์ ‘ฮื่อ! เป็นเกย์นะเว้ยไม่ได้เป็นหวัด รักษาวันเดียวจะหายได้ไง สู้ต่อไปศิศิรา ความพยายามอยู่ที่ไหน ความสำเร็จอยู่ที่นั่น อย่างน้อยตอนนี้เขาก็ยังไม่มีผัวเป็นตัวเป็นตน เพราะงั้นฉันก็ยังมีหวัง เฮ้อ! อย่างมากก็แค่ผิดหวังล่ะน่า’ ***“สาบานได้ว่าครั้งนี้ผมจะไม่หยุด จนกว่าเรา…จะเป็นของกันและกัน” เขาบอกก่อนจะผละลุกขึ้นยืนเต็มความสูง ขณะที่สองมือค่อยๆ ปลดกระดุมเสื้อ สองตาก็ยังไม่ยอมเลื่อนไปจากเรือนร่างขาวโพลนตรงหน้า และไอ้สายตาคมกล้าประหนึ่งเสือรอตะครุบเหยื่อของเขาก็ทำให้เธอหนาวๆ ร้อนๆ บอกไม่ถูก “ไม่! เราพวกเดียวกัน เรากินกันไม่ได้” เธอพยายามเตือนสติ เพราะคิดว่าเขาอาจจะกำลังขาดสติ “แต่ผมเคยกินคุณแล้ว แล้วผมก็ชอบกินคุณ” เขาพูดพลางหลุบตามองไปที่แพนตี้ของเธอ ทำเอาเจ้าของแพนตี้ทำตาโต ไม่แน่ใจในคำว่ากินของเขา ที่สำคัญ…กะๆ กินอะไร “มะหมายความว่าไง”
เวินอี่ถงได้เห็นความรักอันลึกซึ้งของเจียงยวี่เหิง แต่ก็ได้สัมผัสกับการทรยศของเขาเช่นกัน เธอเผารูปแต่งงานของพวกเขาต่อหน้าเขา แต่เขากลับมัวแต่ง้อชู้ของเขา ทั้งๆ ที่เขาแค่มองดูแวบหนึ่งก็จะเห็น แต่เขากลับไม่สนใจเวินอี่ถงสุดจะทน ตบหน้าเขาอย่างแรง พร้อมอวยพรให้เขากับชู้ของรักกันยืนยาว แล้วเธอก็หันหลังสมัครเข้ากลุ่มวิจัยลับเฉพาะ ลบข้อมูลประจำตัวทั้งหมด รวมถึงความสัมพันธ์การแต่งงานกับเขาด้วย! ก่อนจากไป เธอยังมอบของขวัญชิ้นใหญ่ให้เขาอีกด้วยเมื่อถึงเวลาที่จะเข้ากลุ่ม เวินอี่ถงก็หายตัวไป บริษัทของเจียงยวี่เหิงประสบปัญหาล้มละลาย เขาจึงออกตามหาเธอด้วยทุกวิถีทาง แต่สิ่งที่ได้รับกลับเป็นใบมรณบัตรที่ต้องสงสัยเขาสติแตก “ฉันไม่เชื่อ ฉันไม่ยอมรับ!”เมื่อพบกันอีกครั้ง เจียงยวี่เหิงต้องตกใจที่พบว่าเวินอี่ถงเปลี่ยนตัวตนใหม่แล้ว โดยข้างกายมีผู้มีอำนาจที่เขาต้องยอมก้มหัวให้เขาอ้อนวอนอย่างสิ้นหวัง “ถงถง ผมผิดไปแล้ว คุณกลับมาเถอะ!”เวินอี่ถงเพียงยิ้มยักคิ้ว จับแขนของผู้มีอำนาจข้างๆ “น่าเสียดาย ตอนนี้ฉันอยู่ในระดับที่นายไม่อาจเอื้อมถึงแล้ว”
ทุกคนต่างรู้ดีว่าเจียงว่านหนิงรักเย่เชินมานานหลายปี เธอที่มักจะว่านอนสอนง่ายและน่ารักเสมอ ได้สักลายเพื่อเขาและยอมทนอยู่ใต้อำนาจผู้อื่น เมื่อเธอถูกทุกคนใส่ร้ายจนโดนตำหนิ เขากลับนิ่งเฉยและยังถึงขั้นให้เธอคุกเข่าให้แฟนเก่าของเขาอีกด้วย เธอที่รู้สึกอับอาย ในที่สุดก็หมดหวัง หลังจากยกเลิกการหมั้น เธอก็หันไปแต่งงานกับทายาทพันล้านทันที คืนนั้นเอง ใบทะเบียนสมรสของทั้งคู่ก็กลายเป็นข่าวฮิตบนโลกออนไลน์ เย่เชินที่เคยคิดว่าตัวเองเก่งกาจที่สุดก็เริ่มวิตกและพูดออกมาด้วยความโกรธว่า "อย่าเพ้อฝันไปเลย นายคิดว่าเธอรักนายจริงๆ งั้นเหรอ เธอแค่ต้องการใช้พลังอำนาจของตระกูลฟู่เพื่อแก้แค้นฉันเท่านั้นเอง" ฟู่จิงเซินจูบหญิงสาวในอ้อมกอดและตอบกลับอย่างไม่ใส่ใจว่า "แล้วจะเป็นไรไปล่ะ ก็พอดีว่าฉันมีทั้งเงินและอำนาจนี่"
“ก่อนทำเรื่องนี้พี่ขอถามน้องภาสักข้อได้ไหม” ธาวิศพูดแล้วก้าวเท้าเข้าไปหาคนบนเตียง “ได้ค่ะ” นิภาก้มหน้ายามตอบ ธาวิศทิ้งสะโพกลงนั่งด้านข้าง พร้อมกับดันปลายคางของหญิงสาวให้ขึ้นมองหน้าเขา “น้องภาเต็มใจใช่ไหม” แววตาของคนถูกถามสั่นระริกไปมา ปากจิ้มลิ้มก็ขยับขึ้นลงเหมือนคนคิดไม่ออกว่าควรตอบอย่างไร “น้องภาพี่ถามว่าเต็มใจใช่ไหม หรือว่าถูกคุณยายบังคับ” คราวนี้ธาวิศเน้นน้ำหนักเสียงมากขึ้นกว่าเดิม “ภาเต็มใจค่ะ” หญิงสาวตอบเขาแล้ว แต่เป็นคำตอบที่เต็มไปด้วยความไม่มั่นใจในตัวเอง “ไม่ได้ถูกบังคับแน่นะ” “ค่ะ ภาไม่ได้ถูกบังคับ ภาเต็มใจค่ะพี่ภูมิ” ธาวิศกัดฟันกรอดในคำตอบที่เขาไม่ปรารถนาจะได้ยิน ออกแรงผลักหน้าอกนิภาจนล้มลงไปนอนอยู่บนเตียง ปลดกระดุมเสื้อนอนของตนเองออกทีละเม็ด โดยที่สายตาก็ยังจดจ้องอยู่กับคนตรงหน้า “ระหว่างเรามันจะไม่มีความผูกพันอะไรกันทั้งนั้น เราทำเรื่องนี้ก็เพื่อคุณยาย เสร็จจากนี้ไปพี่ก็จะกลับกรุงเทพฯ ไปใช้ชีวิตกับคนรักของพี่ตามเดิม ภายังรับได้อยู่ใช่ไหม” ชายหนุ่มพูดจบก็ทิ้งเสื้อนอนลงบนพื้น คนบนเตียงก็ยังเม้มริมฝีปากตัวเองเอาไว้แน่น คำตอบไม่มาสักทีเขาเลยต้องเลิกคิ้วขึงตาใส่ “ค่ะภารับได้” คำพูดที่เปล่งออกมาช่างเบาหวิว คงไม่ต่างไปจากอารมณ์ของคนพูด “รับได้ก็ดี อย่ามาเรียกร้องอะไรทีหลังก็แล้วกัน ไม่งั้นพี่เอาตายแน่” ธาวิศทาบร่างตัวเองลงบนลำตัวของนิภา มองจุดหมายแรกที่จะเริ่มต้นทำรัก ประทับจูบลงบนริมฝีปากนุ่มนิ่มของหญิงสาว สัมผัสแรกของทั้งคู่ช่างตราตรึงในความรู้สึก จากที่จะจูบเพียงแผ่วเบากลายเป็นแทรกลึกดูดดื่มขึ้นตามอารมณ์ (รักซ้ำรอย)
© 2018-now MeghaBook
บนสุด
GOOGLE PLAY