/0/14938/coverbig.jpg?v=a1fe780839279f499aa28dd6681219f4)
ข้าผู้ไม่เคยถูกจดจำ ไม่ว่าในฐานะบุตรีของเสนาบดีหรือแม้แต่อยู่ในฐานะองค์หญิง ในเมื่อผู้คนใต้หล้าเลือกที่จะลืมเลือนข้า คงไม่ผิดอันใดที่ข้าผู้นี้จะสังหารทุกคนให้หมดสิ้น
ข้าผู้ไม่เคยถูกจดจำ ไม่ว่าในฐานะบุตรีของเสนาบดีหรือแม้แต่อยู่ในฐานะองค์หญิง ในเมื่อผู้คนใต้หล้าเลือกที่จะลืมเลือนข้า คงไม่ผิดอันใดที่ข้าผู้นี้จะสังหารทุกคนให้หมดสิ้น
บทนำ
ยามโฉ่ว (01.00 - 02.59 น.) ผู้คนมากมายในเมืองหลวงต่างยังพากันหลับไหล แต่จวนแห่งหนึ่งกลางเมืองหลวงบ่าวรับใช้กำลังโกลาหลแตกตื่น
“ไฟไหม้!”
“ไฟไหม้!”
“เรือนนอนขององค์หญิงแปดไฟไหม้ “
เสียงบ่าวรับใช้ตะโกนระงม เปลวไฟแดงฉ่าลุกโชติช่วง ไฟกำลังไหม้เรือนนอนขององค์หญิงแปด องค์หญิงบรรณาการที่ถูกส่งมาจากแคว้นเว่ย พระองค์เพิ่งเดินทางมาถึงแคว้นจ้าวเพื่อมาแต่งงานกับองค์รัชทายาท
บ่าวรับใช้ชายหญิงต่างพากันช่วยคนละไม่ละมือ บางคนถือถังไม้ บางคนหายน้ำวิ่งมา หวังจะดับเปลวไฟที่กำลังไหม้อยู่ในตอนนี้ ทุกคนต่างหวาดกลัว หากองค์หญิงสิ้นพระชนม์ไปทั้งแบบนี้ บ่าวทั้งจวนมีหวังได้ถูกสั่งประหารชีวิตตามองค์หญิงไปเป็นแน่
“ดับตรงไหน”
“ไฟลามไปแล้ว ใครก็ได้เอาน้ำมาเพิ่มที”
ยิ่งสาดน้ำเข้าไปมากเท่าใด เปลวไฟก็ไม่มีทีท่าจะหมดลง
เสียงกู่เจิงแววออกมาจากภายในเรือนนอนขององค์หญิงแปดท่ามกลางเปลวเพลิง
เสียงหวานขับร้องตามทำนองเพลง
“การได้พบท่าน”
“คือความทรงจำที่งดงามที่สุดในชีวิตของข้า”
“เงาสะท้อนที่ได้เห็นยามมองลงลึกไปในแววตาท่าน”“คือข้าเอง”
“หากสุดท้ายเราสองต้องพลัดพรากกัน”
“ข้าขอลืมเลือนเสียดีกว่า”
ห้วงทำนองนั้นไพเราะจับจิต หากเป็นเวลาอื่นคงยืนฟังองค์หญิงแปดขับร้องซึมซับอารมณ์ไปตามบทเพลง
แต่เวลานี้ไม่ใช่เวลาที่จะมาฟังดนตรี บ่าวรับใช้รีบเร่งมือช่วยกันดับไฟ
ไม่ช้าเสียงกู่เจิ่งเงียบสงบลงพร้อมกับเปลวไฟ เหลือทิ้งไว้เพียงกลุ่มควันจางๆ และเถ้าถ่าน
บ่าวรับใช้หลายคนวิ่งเข้าไปภายในเรือน เพื่อช่วยกันค้นหาองค์หญิงแปด ขอให้พระนางยังรอดชีวิต แม้สภาพเรือนนอนที่เหลือเพียงตอตะโก ทุกคนก็ยังหวังว่าพระนางจะยังมีชีวิตอยู่ ไม่ว่าจะอยู่ในสภาพใดก็ตามขอให้ได้หาจนพบเพื่อที่จะได้รายงานองค์รัชทายาทได้
เรื่องที่เกิดขึ้นไม่ใช่ความผิดพวกเขาที่ดูแลพระนางไม่ดี ไฟไหม้มันคืออุบัติเหตุไม่มีผู้ใดอยากให้เกิดเหตุการณ์เช่นนี้
แสงจันทร์สว่างไสวแต่ยังมีจุดที่มืดมิด ภายใต้เงามืดนั้นมีร่างคนผู้หนึ่งยืนดูเหตุการณ์ทั้งหมดด้วยสีหน้าเรียบเฉย
กวนเสี่ยวถง ยืนมองทุกสิ่งที่เกิดขึ้น เดิมนางเป็นบุตรีของเสนาบดีของแคว้นเว่ย แต่นางเป็นเพียงบุตรีเกิดจากฮูหยินรอง มารดาของนางคลอดนางก็เสียชีวิตทันที กวนเสี่ยวถงเติบโตมาท่ามกลางพี่น้องมากมาย แต่ไม่มีผู้ใดให้ความสำคัญกับนางแม่แต่บิดา
เมื่ออายุครบ 16 หนาว นางถูกรับเลือกให้เป็นบุตรบุญธรรมองฮองเต้แคว้นเว่ย แต่ไม่มีผู้ใดยินดีกับนางแม้แต่คนเดียวแคว้นเว่ยแพ้สงคราม แคว้นจ้าวจึงสั่งให้ส่งองค์หญิงเพื่อมาแต่งงานกับองค์รัชทายาทของแคว้นจ้าวเพื่อเป็นองค์ประกัน แล้วองค์หญิงพระองค์ใดจะอยากทิ้งชีวิตสุขสบายมาอยู่ต่างแคว้นกันเหล่า บุตรสาวขุนนางจึงถูกเฟ้นเลือกให้เป็นองค์หญิง แต่ไม่ว่าจะเรียกบุตรสาวตระกูลใดเข้าเฝ้า ขุนนางต่างก็ไม่ยินยอมให้บุตรตนเองมาต่างแค้วน นางจึงเป็นตัวเลือกสุดท้ายที่ถูกเลือก บิดาของนางอยู่ๆก็นึกได้ว่ามีบุตรีรีบเสนอนางให้รับพระราชทานยศองค์หญิง จับนางยัดขึ้นเกี้ยวแดง
กวนเสี่ยวถงเดินทางมาในฐานะองค์องค์หญิงบรรณาการ มาพักอาศัยอยู่ที่จวนแห่งนี้ แม้ฐานะจะเป็นถึงองค์หญิง แต่แล้วอย่างไร แคว้นที่แพ้สงครามไม่ต่างอะไรกับทาส นางจึงถูกละเลยจากบ่าวในจวน
‘ไม่ว่าอยู่ที่ใดข้าก็ไม่เคยมีความสำคัญ’
ไฟที่ไหม้หาใช่อุบัติเหตุ นางเป็นคนจุดมันขึ้นมาจากพลังจากปราณของนางเอง พลังที่กวนเสี่ยวถงแอบซ้อนมิให้ผู้ใดล่วงรู้
‘จากนี้ไปข้าจะยืนหยันอยู่เพื่อตัวข้าเอง‘
กวนเสี่ยวถงก้าวถอยหลังลึกเข้าไปในเงามืด ไม่ช้าร่างบางก็เร้นหายไปพร้อมกับความมืดมิดยามราตรี
เลือกสามีผิดคิดจนตัวตาย!เป็นเช่นไรรู้ก็เมื่อสายไปเสียแล้ว ลูกต้องตายจาก พ่อแม่พี่ชายพลัดพราก ด้วยหน้าที่ของเขาในฐานะเจ้าเมือง ช่วยชีวิตทุกคนไว้ได้ เว้นแต่นาง เว้นแต่ครอบครัวของนาง
โปรยปราย ผู้คนเกลียดชังข้า แต่กลับมิมีผู้ใดรู้เบื้องหลังว่าแท้จริงแล้วข้าต้องโหดร้ายเช่นนี้เป็นเพราะผู้ใด แทงมีดใส่อกคนรักของข้า สังหารตระกูลข้าจนสิ้นแม้แต่เด็กทารกก็มิเว้น ข้าต้องยืนยิ้มแล้วเอ่ยว่า ไม่เป็นไร ข้าให้อภัย นั่นคงมีเพียงพระโพธิสัตว์เสียแล้วมิใช่ข้าคนนี้ คนที่พวกเจ้าหวาดกลัวยิ่งกว่าภูตผี
นางเคยเป็นดั่งดอกบัวขาว บริสุทธิ์ผุดผ่องมองแล้วสบายตา แต่เขาและน้องสาวต่างมารดาของนางกลับมาแต้มหมึกดำลงบนบัวขาวดอกนี้
นางเกิดมาขาพิการแต่หาได้ไร้ใจไม่ มีเพียงคนผู้นั้นที่ไร้หัวใจยิ่งกว่านาง เขามาหลอกให้นางหลงรักแล้วถอนหมั้นอย่างเลือดเย็น หลังนางตายจากไปแล้วยังใช้ความเห็นอกเห็นใจของพี่ชายนางเพื่อหาประโยชน์เข้าตัว โชคดีสวรรค์ไม่ปล่อยให้คนชั่วลอยนวล กลับมาครานี้ ในเมื่อพวกมันรักกันมากนัก ก็เชิญรักกันไปได้เลย ชายชั่วเช่นนี้คิดจนตัวตายก็ไม่เอามาเป็นสามีเด็ดขาด!
ท่านช่างใจดำยิ่งนัก ท่านกับข้าเปรียบดั่งเหมยเขียวม้าไม้ไผ่ ข้าเชื่อว่าสักวันท่านจะกลับมาเข้าพิธีกราบไหว้ฟ้าดินกับข้า แต่ใยท่านจึงพาสตรีอื่นกลับมา แล้วถอนหมั้นข้าอย่างไร้เยื่อใย
เพราะรักนางจึงยอมทุกอย่าง แต่สุดท้ายเขากลับมอบความรักให้สตรีอื่น ในเมื่อเดินมาจนถึงสุดทางแล้วนางก็ไม่คิดจะยื้อไว้อีกต่อไป ไปเถิดข้าปล่อยมือท่านแล้ว ส่วนข้าจะเดินจากไปพร้อมกับบุตรในครรภ์
เสิ่นชิงกลายเป็นลูกสาวของชาวนาจากคุณหนูที่ร่ำรวยของตระกูลเสิ่นในชั่วข้ามคืน ลูกสาวตัวจริงใส่ร้ายเธอ คู่หมั้นของเธอทำให้เธออับอาย และพ่อแม่บุญธรรมของเธอก็ไล่เธอออกจากบ้าน... ทุกคนต่างรอที่จะหัวเราะเยาะเธอ ทว่าเธอกลับกลายเป็นทายาทของตระกูลเศรษฐีในเมืองอย่างกะทันหัน นอกจาดนี้ เธอยังมีตัวตนหลากหลาย เช่น หัวหน้าแฮ็กเกอร์ระดับนานาชาติ นักออกแบบเครื่องประดับชั้นนำ นักเขียนผู้ยิ่งใหญ่ที่ลึกลับ และอัจฉริยะด้านการแพทย์! พ่อแม่บุญธรรมเสียใจกับการตัดสินใจของตนและบังคับให้เธอแบ่งทรัพย์สินครึ่งหนึ่งให้เพราะพวกเขาเลี้ยงดูเธอมา เมื่อเสิ่นชิงหยิบกล้องออกมาแล้วบันทึกท่าทางอันน่าเกลียดของพวกเขา อดีตคู่หมั้นรู้สึกเสียใจและพยายามจะคืนดีกับเธอ เสิ่นชิงหัวเราะเยาะ "เขาคู่ควรงั้นเหรอ" จากนั้นก็ไล่เขาออกจากเมือง ในที่สุด ผู้มีอำนาจแห่งเมืองก็พูดอ้อนวอนเบาๆ "ไม่จำเป็นต้องแต่งเข้าตระกูลผม เดี๋ยวผมไปหาเอง"
“ฮึ่ก... พอแล้วหนูเสียว ฮือๆ ไม่ไหวแล้วค่ะคุณลุงขา” มือเรียวของฉันขยุ้มศีรษะของลุงทอมเอาไว้แน่น ลิ้นของเขาไล้เลียนุ่มนวล สลับกระแทกเสียบรุนแรง ฉันยอมรับว่าทรมาน แต่ใจจริงก็ชอบ… มันเสียวซ่าน ไม่อยากให้เขาหยุด ลุงทอมเลียเก่งเหลือเกิน “ของหนูสวยมาก… ฟิตแน่นดูดลิ้นลุงดีจัง” ลุงทอมชำแรกเรียวลิ้น ไชชอนกลีบเนื้อสีชมพูนุ่มอ่อนบอบบางของฉันอย่างบ้าคลั่ง ทั้งแบะทั้งบีบกลีบสวาทออกมาไล้เลีย สลับไปมาทั้งสองข้างซ้ายขวา เสียงดังจ๊วบจั๊บหนับหนุบ “ฮื่อๆ…. ลุงขาหนูเสียวจะขาดใจอยู่แล้ว” ฉันขยับสะโพก ยกหนอกเนินสวาทกระแทกสวนใบหน้าของลุงทอมที่ก้มงุดอยู่ตรงง่ามขา เบิร์นน้องสาวฉันไม่ลืมหูลืมตา เมามันจนแทบไม่อยากเงยหน้ากลับขึ้นมาหายใจ คาวสวาทของฉันคงหอมถูกใจแก กระตุ้นอารมณ์ลุงทอมจนออกอาการหลงใหลอย่างที่เห็น
เรื่องของอารียาคุณครูสาวใหญ่วัย35กับหนุ่มน้อยลูกติดผัววัย19ที่ชื่อโจ โจเป็นเด็กช่างอาชีวะสายโหดและหื่นกาม เธอมักจะโดนลูกชายแอบลวนลามอยู่บ่อยๆ ทว่าเธอกลับเป็นสาวหัวโบราณที่ไม่กล้าแม้ปริปากบอกสามี ด้วยความกลัวว่าบ้านจะแตกสาแหรกขาดอารียาเลยปล่อยเลยตามเลย แค่คำพูดห้ามปรามทำให้คุณแม่พลาดท่าเสียทีให้ลูกเลี้ยงไปจนได้ เธอโดนโจจับกดจนเสร็จสมอารมณ์หมายไปหลายหนจนตัวเองก็ติดใจเสียดื้อๆ ในที่สุดอารียาก็ต้องจำใจมีผัวถึงสองคนอยู่ในบ้านหลังเดียวกัน คนแรกคือผัวที่ถูกต้องตามกฏหมาย อีกคนคือลูกติดผัวที่หื่นเสียเหลือเกิน
เพิ่งหย่ากับอดีตสามีไปไม่นานแต่ปรากฏว่าตัวเองท้อง จะทำอย่างไรดี? หรือจะให้อดีตสามีรับผิดชอบ แต่ก็ไม่คิดว่าอดีตสามีมีคนรักใหม่ไปแล้ว ชีวิตของถังชีชีนั้นช่างสับสน ช่างน่าวิตกกังวลและไม่รู้จะอธิบายยังไงดี เธอต้องคอยระวังไม่ให้คุณเฟิงรู้เรื่องการตั้งครรภ์จนกระทั่งคลอดลูกออกมาอย่างปลอดภัย แต่ไม่คิดว่าจะถูกเขาบังคับถึงเพียงนี้ "เราหย่ากันแค่สี่เดือน แต่เธอกลับตั้งครรภ์ได้เจ็ดเดือนแล้ว บอกมาดี ๆ ว่า ลูกเป็นของใคร!"
ชาติที่แล้วของไห่เฉิงเขาเป็นประมุขมารที่ไม่สมหวังในความรัก มาแสนภพแสนชาติ และภพชาติที่หนึ่งแสนของเขา มีเหตุให้ต้องทำลายดวงจิตมารของตนเอง และเหลือเสี้ยวดวงจิตเอาไว้เพียงน้อยนิด ดวงจิตที่เหลืออยู่เขาอ้อนวอนขอต่อมหาเทพขอให้เขาได้เกิดเป็นมนุษธรรมดา ที่สมหวังในความรักม่ีครอบครัวที่อบอุ่น และไม่ขอจดจำอดีตชาติของตัวเองอีกต่อไป เขาขอเริ่มต้นใหม่ในดินแดนมนุษย์และไม่ว่าจะเกิดอีกกี่ครั้งกี่ภพกี่ชาติ ขอให้เขาได้สมหวังในความรักทุกภพทุกชาติไป
เซียวหลิ่นตาบอดจากอุบัติเหตุทางรถยนต์ ลูกสาวคนรวยทุกคนต่างหลีกเลี่ยงเขา มีแต่สวี่โยวหรานยอมแต่งงานกับเขาโดยไม่ลังเล สามปีต่อมา เซียวหลิ่นกลับมามองเห็นได้อีกครั้ง จากนั้รเขา็ยื่นข้อตกลงการหย่าเพื่อยุติการแต่งงานนี้ เขากล่าวอย่างเย็นชาว่า "ฉันพลาดกับชิงชิงมานนานมากพอแล้ว ฉันไม่อยากให้เธอต้องรอนานกว่านี้!" สวี่โยวหรานลงนามในข้อตกลงการหย่าโดยไม่ลังเล ทุกคนต่างก็หัวเราะเยาะเธอตลอด - หัวเราะเยาะว่าที่เธอแต่งเข้าตระกูลเซียวถือว่าเกาะผู้มีอิทธิพลเข้า จากนั้นก็มาหัวเราะเยาะเธอที่ถูกทอดทิ้ง เป็นหญิงที่ไร้ค่า แต่ทุกคนกลับไม่รู้ว่า เธอคือหมออัศจรรย์ที่รักษาดวงตาของเซียวหลิ่นให้หายดี เป็นผู้ออกแบบเครื่องประดับมูลค่าหลักร้อยล้าน ผู้เป็นมือหนึ่งแห่งหุ้นที่ครองตลาดหุ้น และแม้แต่แฮกเกอร์ระดับแนวหน้าและลูกสาวแท้ๆ ของผู้มีอิทธิพล อดีตสามีมาขอร้องขอคืนดี ซีอีโอผู้เผด็จการก็โยนเซียวหลิ่นออกไปนอกประตูอย่างเย็นชา "ดูดีๆ นี่ภรรยาของผม"
© 2018-now MeghaBook
บนสุด