เรื่อง...คู่หมั้นมาเฟีย คำโปรย หน้าที่ของเขาคือต้องดูแลเธอ หน้าที่ของเธอคือต้องแต่งงานกับเขา แนะนำตัวละคร อัคราฟ (คุณอาราฟ) อายุ 38 ปี คุณอาหนุ่มแสนดี เขาหล่อ เป็นผู้นำ หัวใจมีไว้ให้แค่หลานสาวนอกไส้ของเขาคนเดียวเท่านั้น ต้นหอม (หนูหอม) อายุ 22 ปี เธอสวย น่ารัก ไร้เดียวสา ขี้สงสัย อยากรู้อยากเห็น พินัยกรรมของบิดาทำให้ชีวิตของเธอเปลี่ยนไป @@@@@@ นิยายเรื่องนี้ไม่มีเนื้อหาหนักหน่วงใจแต่อย่างใด มีแต่ฉากฟินกับฟินเต็มไปหมด พระเอกเป็นน้องชายบุญธรรมของพ่อ ที่ถูกสั่งให้ดูแลนางเอกหลังจากที่ท่านเสียไป ส่วนพระเอกก็มีคำมั่นสัญญาลูกผู้ชายว่าจะดูแลนางเอกให้ดีที่สุด ทั้งพระเอกและนางเอกมีหน้าที่และภารกิจอันยิ่งใหญ่ที่ต้องสานต่อจากผู้เป็นพ่อค่ะ(ฟีลกู๊ดโคแก่)
ตอนที่ 1 พบเจอ
ต้นหอมหรือหนูหอม เธอเป็นลูกครึ่งอิตาลี มีคุณแม่เป็นคนไทย ส่วนคุณพ่อเป็นคนอิตาลี เธออายุ 22 ปี เพิ่งเรียนจบออกจากรั้วมหาวิทยาลัยมาเมื่อไม่กี่เดือนที่ผ่านมานี้เอง เธอเกิดและโตที่ประเทศไทย ยังไม่เคยไปเหยียบแผ่นดินเกิดของผู้เป็นบิดามาก่อน
คุณแม่ของเธอเสียชีวิตไปหลายปีแล้วด้วยโรคร้าย ต้นหอมจึงอยู่กับคุณพ่อแค่สองคนมาตลอด และแล้วคุณพ่อของเธอท่านก็ได้ล้มป่วยลง คุณหมอบอกว่าคุณพ่อของเธอน่าจะอยู่ได้อีกไม่กี่วัน
"ฮึก! ถ้าคุณพ่อไม่อยู่แล้วหอมจะอยู่กับใครคะ" ตอนนี้ต้นหอมเหลือแค่คุณพ่อเพียงคนเดียวเท่านั้น เธอไม่มีญาติหรือพี่น้องที่ไหนเลย
"หอม...หอมลูก อย่าร้องไห้ หอมยังมีคุณอาราฟ เขาจะดูแลหอมแทนพ่อนะลูก"
"ราฟไหน หอมไม่รู้จัก ฮึก!" ต้นหอมน้ำตาไหลร้องไห้สะอึกสะอื้น เมื่อเห็นอาการของคุณพ่อไม่ค่อยสู้ดีนัก แต่ท่านก็พยายามพูดกับลูกสาว ถึงแม้ว่าจะเหนื่อยแต่ท่านก็ฝืนพูด เพราะกลัวว่าอีกไม่นานท่านก็จะไม่ได้พูดแล้ว
มือของคุณพ่อมีอาการสั่นๆอย่างเห็นได้ชัดยกขึ้นลูบศีรษะลูกสาวเบาๆเป็นการปลอบ
"หอมจำไว้นะลูก พ่อรักหอมที่สุด สิ่งที่พ่อตัดสินใจทำลงไปทั้งหมด เพราะพ่อหวังดีกับหอม...หอมอย่าโกรธพ่อได้มั้ย" ท่านเขียนพินัยกรรมฉบับหนึ่งเอาไว้ เรื่องนี้ต้นหอมยังไม่รู้ จนกว่าท่านจะไม่ได้อยู่บนโลกใบนี้แล้ว
"ฮึก! หอมไม่มีวันโกรธคุณพ่อค่ะ" ถึงน้ำเสียงของคุณพ่อจะทั้งแผ่วทั้งเบา แต่ต้นหอมก็ได้ยินชัดทุกคำที่คุณพ่อพูด แต่เธอกำลังเสียใจและกลัว กลัวว่าอีกไม่นานคุณพ่อจะไม่ได้อยู่กับเธอแล้ว ประโยคของคุณพ่อเมื่อสักครู่ ต้นหอมฟังแล้วก็แค่ผ่านหูไปเท่านั้น แต่ในประโยคเมื่อสักครู่กลับซ่อนสิ่งที่ต้นหอมต้องเจออีกมากมายในไม่ช้านี้
"คุณทนาย..." คุณมิลอัล...คุณพ่อของต้นหอม เอ่ยเรียกคุณทนายที่ยืนอยู่ข้างเตียง
"ครับนาย" คุณทนายรีบก้าวขาเข้ามาชิดขอบเตียง ขานรับพร้อมกับสีหน้าเป็นห่วง
"จัดการเรื่องที่สั่ง เรียบร้อยแล้วใช่มั้ย" เรื่องที่ว่าก็คือพินัยกรรมและเงื่อนไขต่างๆ โดยคนที่ได้รับมรดกจะต้องปฏิบัติตามข้อกำหนด ที่ได้ถูกเขียนขึ้นและลงนามไว้เรียบร้อยแล้ว ทุกคนรู้แต่ยกเว้นต้นหอม เธอไม่รู้เรื่องอะไรเลย…โดยเฉพาะตัวตนจริงๆของคุณพ่อของเธอ
"เรียบร้อยแล้วครับนาย ตอนนี้คุณอัคราฟกำลังเดินทางมาที่นี่ครับนาย" คุณทนายทองเอกพูดแค่นี้ มิลอัลจึงพยักหน้าเบาๆรับทราบ เป็นอันว่าเข้าใจ ก่อนที่ท่านจะจากโลกนี้ไป ท่านเองก็อยากพบหน้าน้องชายบุญธรรมตัวเป็นๆก่อนจากไปสักครั้ง
"ใครเหรอคะคุณพ่อ ทำไมหอมไม่รู้จัก"
"เขาเป็นน้องชายบุญธรรมของพ่อเอง ต่อจากนี้ไปพ่อจะให้เขาช่วยดูแลลูกสาวของพ่อนะ" ดูแลในที่นี้ ไม่ใช่การดูแลธรรมดา เหมือนผู้ใหญ่ดูแลเด็กแต่มันมากกว่านั้น รวมถึงเธอจะต้องย้ายไปอยู่ที่อิตาลีด้วย
"หอมโตแล้ว หอมดูแลตัวเองได้ค่ะ" คุณพ่อส่ายหน้าช้าๆ ให้ลูกสาวคล้ายกับคนกำลังจะหมดแรง
"หอมต้องมีคนดูแล อย่าดื้อกับคุณอาเขาได้มั้ยลูก" น้ำเสียงแผ่วเบาของคุณพ่อ พยายามเอ่ยพูดกับลูกสาวไม่ได้หยุด ถึงแม้ว่าท่านจะเหนื่อยมากก็ตาม
"หอมไม่รู้จักเขา หน้าเขาหอมก็ยังไม่เคยเห็น" อีกไม่กี่นาทีต่อจากนี้เธอจะได้เห็นใบหน้าของเขาแล้ว
"หอม...ถ้าหอมดื้อ พ่อคงเป็นห่วง" คุณมิลอัลหมายความว่าท่านคงนอนตายตาไม่หลับถ้าลูกสาวของท่านดื้อ...นั่นจึงทำให้ต้นหอมโน้มตัวลงไปกอดคุณพ่อของเธอเอาไว้แน่น พร้อมกับหลั่งน้ำตาและเสียงสะอึกสะอื้อออกมา
"ฮื่อๆๆๆ คุณพ่อ...คุณพ่อต้องหาย คุณหมอกำลังรักษาคุณพ่ออยู่ คุณพ่อของหอมต้องหาย" โรงพยาบาลแห่งนี้เป็นโรงพยาบาลที่ดีที่สุด ตอนนี้เนื้อตัวของคุณมิลอัลมีแต่สายอะไรต่อมิอะไรของคุณหมอก็ไม่รู้เต็มตัวไปหมด มองดูก็รู้ว่าท่านน่าจะอยู่ได้อีกแค่ไม่กี่ชั่วโมงเท่านั้น ที่พูดได้อยู่ตอนนี้ก็ฝืนเอา
อัคราฟ ชายหนุ่มชาวอิตาลีแท้ใบหน้าหล่อเหลานัยตาสีฟ้า รูปร่างสูงโปร่งเดินลงมาจากเครื่องบินแล้วขึ้นรถตู้ที่ลูกน้องจัดหาไว้ให้ด้วยท่าทางสง่า ในแบบที่ใครๆพบเห็นเป็นต้องเหลียวหลัง
รถยนต์คันที่ชายหนุ่มนั่งมามุ่งหน้าตรงไปที่โรงพยาบาลทันที เมื่อลงจากรถได้ก็รีบก้าวเท้าเร็วๆไปยังห้องพักวีไอพีชั้นบนสุดด้วยความรีบเร่ง
"นายครับ คุณอัคราฟมาถึงแล้วครับ กำลังจะขึ้นมา" เสียงคุณทนายร้องบอกเป็นระยะๆ เพราะติดต่อกันตลอด
"อือ..." คนป่วยหนักนอนอยู่บนเตียงพยักหน้ารับทั้งๆที่ไม่ได้ลืมตา ตอนนี้เหลือแค่รอเวลา ไม่มีใครรู้ว่าร่างกายตอนนี้ของท่านเจ็บและทรมานมากขนาดไหน
ส่วนต้นหอมเธอก็ไม่ได้ไปไหนยังคงนั่งอยู่ข้างๆเตียงเป็นเพื่อนคุณพ่อของเธอไม่ห่าง
ต้นหอมไม่รู้จักกับอัคราฟมาก่อนเลยก็ไม่แปลกเพราะทั้งเรื่องธุรกิจ เรื่องการเงิน และเรื่องตัวตนของมิลอัลที่แท้จริง ถูกมิลอัลบิดาของเธอปิดบังเอาไว้ไม่ให้ต้นหอมรู้มาตลอด ทั้งหมดก็เพื่อความปลอดภัยของเธอทั้งสิ้น
"ก๊อก ก๊อก ก๊อก" เสียงเคาะประตูดังขึ้น คุณทนายจึงเดินไปเปิดประตูให้ ทันใดนั้น ชายหนุ่มรูปร่างสูงโปรงใบหน้าหล่อเหลาก็เดินเข้ามาในห้องพักผู้ป่วยวีไอพีพร้อมกับลูกน้องสองคน
"สวัสดีครับ คุณอัคราฟ"
"สวัสดีครับ คุณทนาย" คุณอัคราฟทักทายกับคุณทนายนิดหน่อยก่อนที่จะเดินเข้ามาประชิดติดขอบเตียงผู้ป่วย
"สวัสดีครับพี่ ผมมาแล้วครับ" มิลอัลกับอัคราฟอายุของทั้งสองคนห่างกันมาก คนเป็นพี่อายุอยู่ที่หกสิบปลายๆ ส่วนคนน้องสามสิบปลายๆเท่านั้น
"ราฟ..." น้ำเสียงแผ่วเบาเอ่ยเรียกชื่อน้องชายอย่างอ่อนแรง
“ครับ” ถึงทั้งสองคนจะอยู่กันคนละประเทศแต่ก็ติดต่อกันตลอด
"พี่มีเรื่อง...จะขอร้อง"
"ผมยินดีช่วยพี่ทุกเรื่อง ไม่ต้องขอร้องครับ"
"พี่ฝาก...หนูหอมด้วย"
"ครับพี่...ผมจะดูแลหนูหอมเป็นอย่างดี พี่ไม่ต้องเป็นห่วงนะครับ"
"หอมลูก สวัสดีคุณอาเขาสิลูก"
"สวัสดีค่ะ" ต้นหอมลุกยืนขึ้นจากเก้าอี้ตัวที่นั่งอยู่ เธอยกมือไหว้ตามแบบฉบับคนไทย มองหน้าคนที่ยืนอยู่ตรงข้ามนิ่งๆ สายตาของเขากำลังสะกดเธอ...
"ยินดีที่ได้รู้จักครับ...หนูหอม"
แค่เพียงสบตาความปรารถนาอันร้อนแรงของเขาก็ได้ก่อตัวขึ้น ในเมื่อแต่งงานกันแล้ว เขาย่อมมีสิทธิ์ในตัวเธอทุกประการ
คืน One Night Stand ของมาเฟียอิตาลีกับยัยขี้เมา เช้าวันนั้นเธอหายไป เขาจึงออกตามหา แต่เมื่อได้เจอกันเธอกลับจำหน้าเขาไม่ได้
เรื่อง...คุณหมอสะดุดรัก คำโปรย พริ้งพราวเพื่อนลากให้ไปเที่ยวผับแต่เธอดันถูกยาปลุกเซ็กเข้า แล้วบังเอิญมาเจอกับเขา คุณหมอหนุ่มวัย35ปี แล้วคุณหมอจะมีวิธีช่วยเธออย่างไร... แนะนำตัวละคร วายุภักษ์ ภักดีวัฒนากุล (วายุ) อายุ 35 ปี เขาเป็นผู้ชาย ขี้เล่น อารมณ์ดี และที่สำคัญเขายิ้มเก่งมากๆ วายุเป็นผู้บริหารโรงพยาบาลสาขาที่เชียงใหม่และยังพ่วงด้วยตำแหน่งคุณหมอโรคหัวใจ เขาเป็นลูกชายคนโตของ เจ้าของโรงพยาบาลเอกชนชื่อดังที่มีสาขาอยู่หลายแห่งของประเทศไทย วายุมีความจำเป็นต้องย้ายมาจากสาขาที่เชียงใหม่ เพราะน้องชายที่ประจำอยู่เกิดอุบัติเหตุ วายุเลยมาประจำอยู่สาขาที่กรุงเทพแทนเป็นการชั่วคราว กมลเนตร ธนพัฒน์ธาดา (พริ้งพราว) หญิงสาวบริสุทธิ์ อายุ 24 ปี ทำงานในโรงพยาบาลเอกชนแห่งหนึ่งในกรุงเทพ และเหตุการณ์ในวันนั้นทำให้เธอกับเขาอยู่ด้วยกันและค่อยๆ สนิทกัน เหนือเมฆ ภักดีวัฒนากุล (เมฆ) น้องชายคนเดียวของวายุ ตั้งแต่เขาประสบอุบัติเหตุเดินไม่ได้ เขาก็กลายเป็นคนอารมณ์ร้อน พยาบาลพิเศษที่จ้างมาดูแล ไม่มีใครสามารถอยู่กับเขาได้ จนได้มาเจอกับ...ข้าวหอม ศศินาทิพย์ คงเจริญ (ข้าวหอม) พยาบาลจบใหม่ เธออยู่ในช่วงทดลองงาน ถูกทางโรงพยาบาลขอร้องให้ไปดูแลคนป่วยที่บ้านตลอด 24 ชั่วโมง โดยมีเงื่อนไข และเงื่อนไขนั้นทำให้เธอยอมตอบตกลงรับทำงานนี้ @@@@@@
เรื่อง...พ่อม่ายกับยัยพี่เลี้ยง คำโปรย...นักธุรกิจหนุ่มลูกติด มีปมชีวิตความใสซื่อและความดีของเธอทำให้เขาสนใจ ส่วนลูกชายที่ไม่ยอมไปโรงเรียนเพราะโดนเพื่อนล้อว่าไม่มีแม่ อยากได้เธอมาเป็นแม่ซึ่งเขาก็เห็นด้วยกับลูกชายเช่นกัน แนะนำตัวละคร คุณอาทิตย์ เจริญเดชาพงษ์ (คุณอาทิตย์) หนุ่มหล่อรวย เป็นเจ้าของห้างสรรพสินค้ากลางใจเมือง และยังมีธุรกิจ ผลิต นำเข้า และส่งออก เกี่ยวกับสิ่งอิเล็กทรอนิกส์ รายใหญ่ที่สุดในประเทศอีกด้วย แต่อาทิตย์เขามีลูกติดชื่อน้องเกียร์เป็นเด็กผู้ชายอายุสามขวบ แม่เสียชีวิตตอนคลอดน้องเกียร์ออกมาได้ไม่ถึงหนึ่งชั่วโมง เพราะเธอเสียเลือดมาก นันทิชา มงคลสวัสดิ์ (มิรา) หญิงสาวที่พึ่งเรียนจบมาใหม่ๆ เธอตกงาน ที่บ้านกำลังลำบาก เธอออกหางานทำเพราะต้องส่งน้องเรียน น้องเธออยู่มัธยมต้น เป็นผู้หญิงชื่อลิลิน พ่อแม่เสียไปนานแล้ว เหลือกันอยู่แค่สองคนพี่น้อง โดยได้รับความช่วยเหลือจากเพื่อนบ้านถึงรอดมาถึงทุกวันนี้ได้
เรื่อง...คุณหมออาสากับยัยเด็กบนดอย โปรย...ความรักมันไม่ได้เกี่ยวกับอายุ...แต่มันเกี่ยวอยู่ที่ใจ เขาไม่อยากมีลูกเพราะฉะนั้นเขาก็เลยไม่คิดที่จะมีเมีย ความรักเป็นเรื่องตลกไม่มีเขาก็อยู่ได้ แนะนำตัวละคร แสงเหนือ หรือ หมอแสง อายุ 32 ปี นิสัย ปากร้าย อารมณ์ดี ขี้เล่น อบอุ่นและขี้หึงสุดๆ แต่เขาไม่อยากมีลูกเพราะฉะนั้นเขาก็เลยไม่คิดที่จะมีเมีย ความรักเป็นเรื่องตลกไม่มีเขาก็อยู่ได้ ปิ่นงาม หรือ ปิ่น อายุ 20 ปี เธอสวย เก่ง เธอใช้ชีวิตเรียบง่ายอยู่บนดอยสูง เธอมีความสุขตามอัตภาพของเธอ แต่แล้วชีวิตของเธอก็ได้เปลี่ยนไปเมื่อมีเขาเดินเข้ามา ************* (เรื่องนี้เขียนต่อจากเรื่อง...คุณหมอเจ้าแผนการ) ปล.นิยายเรื่องนี้ทุกเหตุการณ์เป็นการสมมุติขึ้นทั้งสิ้น ไม่ว่าจะเป็นเรื่องของความเป็นอยู่ ศาสนา วัฒนธรรม หรืออะไรก็แล้วแต่ในเนื้อหาของเรื่องนี้เกิดจากจินตนาการของผู้แต่งที่สมมุติขึ้นทั้งสิ้น
ความสวยสะดุดตา ความสดใสสะดุดใจ ปากที่บอกว่ายังไม่อยากมีใคร แต่ในใจกลับอยากได้เธอมาครอบครอง
องค์หญิงสิบสามนามหลินฮุ่ยหมินสตรีผู้ที่งดงามโดดเด่นไม่เป็นรองผู้ใดแต่กลับมีฐานะต่ำต้อยในวังหลวงด้วยพระมารดาเสียชีวิตตั้งแต่นางยังเด็ก ท่ามกลางความคับแค้นใจนางยังต้องคำสาปร้ายต้องกลายร่างเป็นสัตว์ทุกคืนวันพระจันทร์เต็มดวง เขาคือ หยางเอ้อหลาง แม่ทัพหนุ่มผู้มีความสามารถรูปโฉมสง่างามและเป็นวีรบุรุษคนสุดท้ายของสกุลหยาง ทั้งยังเป็นที่รักเคารพของชาวเมือง ทว่าด้วยความสามารถและตำแหน่งใหญ่โต ฮ่องเต้มิอาจวางใจจึงได้คิดกำจัดเขาให้พ้นตำแหน่งเสีย โดยมอบสมรสพระราชทานให้หยางเอ้อหลางกับพระธิดาของตน เดิมทีชีวิตของคนสองคนย่อมไม่บรรจบ เมื่อสตรีที่หมายหมั้นกับหยางเอ้อหลางคือองค์หญิงใหญ่ที่ปักใจรักเขาตั้งแต่เยาว์วัย ทว่าเรื่องไม่เป็นเช่นนั้น เมื่อคนทั้งคู่เกิดอุบัติเหตุจนคนเข้าพิธีสมรสกลายเป็นองค์หญิงสิบสาม ท่ามกลางความหวาดกลัวขององค์หญิงสิบสามที่กลัวความลับจะเปิดเผย ท่ามกลางหยางเอ้อหลางที่พยายามพาสกุลหยางให้รอดพ้น ท่ามกลางการแตกหักของความสัมพันธ์พี่น้องที่แสนรักใคร่ระหว่างองค์หญิงใหญ่และองค์หญิงสิบสามเพราะบุรุษเพียงผู้เดียว หลินฮุ่ยหมินจะทำเช่นใด เพื่อจะยุติเรื่องราวน่าเวียนหัวนี้
เมื่อเซิ่งหนิงเตรียมจะบอกฮั่วหลิ่นเกี่ยวกับการตั้งครรภ์ของเธอ ทว่ากลับพบเขาช่วยพยุงผู้หญิงอีกคนลงจากรถอย่างเอาใจใส่... เคยคิดว่าตนเองอยู่เคียงข้างฮั่วหลิ่นคอยดูแลเขามาสามปี สักวันหนึ่งเขาจะมาสามารถสร้างความประทับใจให้กับเขา แต่สุดท้ายเป็นตนเองที่คิดเองเออเองไปฝ่ายเดียว เซิ่งหนิงตายใจแล้วจากไป สามปีต่อมา ข้างกายของเธมีผู้ชายอีกคนหนึ่ง และฮั่วหลิ่นเสียใจมาก เจาพูดด้วยความโศกเศร้า "เซิ่งหนิง เรามาแต่งงานกันเถอะ" เซิ่งหนิงยิ้มอย่างเฉยเมย "ขออภัยนะคุณฮั่ว ฉันมีคู่หมั้นแล้ว"
จือหลินเธอเป็นเด็กกำพร้า ที่ถูกมารดาทอดทิ้งไว้ที่โรงพยาบาลตั้งแต่วันแรกที่ลืมตามาดูโลก ต่อมาทางโรงพยาบาลจึงส่งตัวเธอให้กับสถานสงเคราะห์ พออายุได้สามปี ก็มีองค์กรหนึ่งมารับเลี้ยงตัวเธอ แต่พวกเขาเลี้ยงเธอและเด็กคนอื่นๆ ไว้เพื่อเป็นหนูทดลองเท่านั้น ครั้งแรกที่ถูกนำตัวมา ต่างก็โดนจับฉีดยาเข้าสู่ร่างกาย เพื่อหาเด็กที่เลือดต้านเชื้อที่ฉีดเข้าไปได้เท่านั้น หากร่างกายทนรับไม่ไว้สิ่งที่ทางองค์กรมอบให้คือความตาย จือหลินอาจเป็นเพราะเลือดของเธอพิเศษกว่าเด็กคนอื่น ไม่ว่าฉีดยาตัวไหนเข้าสู่ร่างกายเธอก็ทนรับได้ทั้งนั้น นับจากนั้นมาเธอจึงถูกเลี้ยงดูจากองค์กรมาอย่างดี เรื่องการศึกษาเธอก็สามารถเรียนรู้ทุกสิ่งได้อย่างเต็มที่ แต่เพราะความฉลาดของเธอจึงถูกส่งให้เรียนวิทยาศาสตร์การแพทย์และเรียนแพทย์ควบคู่ไปด้วย เมื่อเรียนจบมาแล้ว จือหลินยังคงทำการให้องค์กรเช่นเดิม แม้จะไม่ได้เป็นนักฆ่าเช่นเพื่อนคนอื่นที่มาพร้อมกัน แต่เธอก็ต้องฝึกไม่ต่างจากพวกเขา ยิ่งเมื่อต้องนำเด็กเข้ามาเป็นหนูทดลองเช่นเดียวกับเธอในตอนเล็ก ต่อให้ไม่อยากทำก็ต้องทำ หากฝ่าฝืนไม่ทำการชิปที่ถูกฝังอยู่ในตัวจะถูกกระตุ้นให้ได้รับความทรมานทันที นานวันเข้า ความดำมืดก็ก่อเกิดในใจ ไม่ว่าจะฉีดยาให้เด็กร้ายแรงเพียงใดจือหลินก็เลิกรู้สึกผิดไปเสียแล้ว เพราะการทำงานของเธอตลอดหลายปีที่ผ่านมาทำให้ทางองค์กรยกย่องและมักจะให้สิ่งดีๆ กับเธอเสมอ เมื่อมีชิปตัวหนึ่งที่ถูกสร้างขึ้นมาเพื่อฝังมิติอีกห้วงหนึ่งไว้ภายในร่างกาย จือหลินนางก็ได้รับเลือกให้ทดลองใช้สิ่งนี้ด้วยเช่นกัน จือหลินถูกฝังชิปมิติเข้าที่แกนสมองของเธอ ความเจ็บปวดที่ได้รับทำให้เธอแทบสิ้นสติ เมื่อชิปถูกฝังลงไปแล้ว เพียงไม่นานก็มีเสียงจากระบบให้เธอยืนยันตัวตน ก่อนที่จะปรากฏภาพต่างๆ ภายในหัวของเธอ ของจากภายนอกล้วนแต่ถูกส่งเข้าไปเก็บไว้ด้านในได้ทั้งสิ้น หากเป็นเนื้อสด ผักผลไม้ ยังคงความสดอยู่เช่นเดิมแม้จะเก็บไว้นานมากเพียงใด ห้วงมิติของจือหลินเหมือนเป็นห้องสูทในคอนโดของเธอเองที่มีทุกอย่างพร้อมใช้อยู่ภายใน แม้แต่ห้องทดลอง ห้องทำงานของเธอก็ปรากฏอยู่ในนั้นเช่นกัน นับจากนั้นจือหลินจึงซื้อของเขาเก็บภายในมิติของเธอเป็นจำนวนมาก ตัวเธอเพียงผู้เดียวที่สามารถเข้าออกในห้วงมิติได้ วันเวลาผ่านไปจนจือหลินล่วงเข้าวัยสามสิบปี เธอสามารถผลิตยาที่ทำให้ทั่วโลกจับตามองออกมาได้ ยายื้อชีวิตจากความตาย แต่การทดลองของเธอที่ผ่านมาต้องใช้คนจำนวนมากในการเข้าทดลอง จือหลินสามารถยื้อชีวิตของชายชราที่กำลังจะหมดลมหายใจให้กลับมามีชีวิตปกติได้ เมื่อเธอกักตัวเขาไว้ได้หกเดือนเห็นว่าไม่มีสิ่งใดที่ผิดปกติจึงคิดจะปล่อยเขาออกไปใช้ชีวิตเช่นเดิม แต่แล้วสิ่งที่ไม่คาดคิดก็เกิดขึ้น เมื่อชายชราที่กำลังจะเดินออกจากห้องทดลองล้มลงต่อหน้าทุกคนที่เข้าร่วมชื่นชมผลงานของเธอ จือหลินรีบเข้าไปตรวจดูความผิดปกติทันที ก็พบว่าเขาหยุดหายใจเสียแล้ว เจ้าหน้าที่ทั้งหมดจึงต้องพาชายชราคนนั้นกลับเข้าไปในห้องทดลองเพื่อหาสาเหตุ ผ่านไปเพียงสองครึ่งชั่วโมงเขากลับลืมตาขึ้นมาอย่างไม่น่าเชื่อ แต่แววตาที่มองมาทางทุกคนได้เปลี่ยนไป ในดวงตาของชายชราผู้นั้นมีเพียงตาขาวไม่มีตาดำเช่นคนมีชีวิต “เกิดเรื่องอะไรขึ้น” ผู้อำนวยการองค์กรเดินเข้ามาหาจือหลินแล้วเอ่ยถามอย่างตื่นตระหนก เพราะนักข่าวที่ข่าวเชิญมายังอยู่ที่ด้านนอกเพื่อรอฟังคำตอบ “ขอดิฉันตรวจสอบก่อนค่ะ” จือหลินกุมหน้าผากอย่างมึนงง เธอก็ไม่เข้าใจเช่นกันว่าเป็นแบบนี้ไปได้อย่างไร คนทั้งหมดยืนมองชายชราที่เดินท่าทางประหลาดอยู่ในห้องทดลอง ในตอนนี้เขาเริ่มหยิบสิ่งของทำร้ายตัวเองอย่างบ้าคลั่ง เจ้าหน้าที่คนหนึ่งรีบวิ่งเข้าไปในห้องทดลองเพื่อห้ามไม่ให้เขาทำร้ายตัวเอง ชายชราเมื่อได้ยินเสียงคนเดินเข้ามาก็พุ่งเข้ามาหาอย่างรวดเร็ว และเริ่มกัดกินเนื้อตัวของเขาอย่างโหดร้าย คนที่เห็นเหตุการณ์ทั้งหมดต่างยกมือขึ้นปิดปากอย่างตกใจ เพราะกลัวข่าวเรื่องนี้จะรั่วไหล ผู้อำนวยการสั่งให้คนไปแจ้งนักข่าวให้กลับไปก่อน ทางองค์กรจะแถลงการณ์เรื่องนี้ในภายหลัง เจ้าหน้าที่ที่ถูกทำร้ายล้มลงเสียชีวิตไม่นานก็มีสภาพไม่ต่างจากชายชราคนนั้น เสียงวุ่นวายไม่ได้จบลงที่ห้องทดลองของจือหลินเพียงแห่งเดียว เพราะห้องทดลองอื่นก็ล้วนพบเหตุการณ์เช่นนี้ไม่ต่างกัน ผู้อำนวยการจำต้องส่งสัญญาณเคลื่อนย้ายเจ้าหน้าที่ออกจากตึกทดลองให้เร็วที่สุด จือหลินไม่รู้ว่ายาของนางจะสร้างผลเสียมากถึงเพียงนี้ เพราะเจ้าหน้าที่หลายคนล้วนจบชีวิตจนกลายเป็นซอมบี้ไปเสียแล้ว ตึกทดลองถูกปิดตาย เพื่อไม่ให้ซอมบี้ที่อยู่ด้านในออกมาสร้างความเสียหายภายนอกได้ “เรื่องนี้ดิฉันขอจัดการด้วยตนเองค่ะ” จือหลินเดินเข้าไปหาผู้อำนวยการที่ห้องทำงานของเขา เพื่อบอกสิ่งที่เธอคิดว่าอย่างดีแล้วในหลายวันที่ผ่านมา เมื่อเห็นว่าผู้อำนวยการไม่ห้ามในสิ่งที่เธอจะทำจือหลินจึงเดินไปที่หน้าตึกทดลองพร้อมระเบิดเวลาในมือ เธอคิดจะทำลายสิ่งของทุกอย่างที่เธอสร้างขึ้นมาลงด้วยมือของเธอเอง จือหลินเปิดประตูตึกทดลองแล้วรีบปิดลงทันที เธอเดินเข้าไปที่กลางตึกให้มากที่สุดเท่าที่จะทำได้ เพราะระหว่างทางเธอต้องคอยต่อสู้กับซอมบี้ที่จะเข้ามาทำร้ายเธอไปด้วย เสียงสัญญาณระเบิดดังขึ้น จือหลินหลับตาลง พร้อมทั้งถอนหายใจให้กับเรื่องราวในชีวิตที่ผ่านมา เสียงระเบิดดังไปทั่วบริเวณพร้อมทั้งตึกทดลองที่ถล่มลงมาจนแทบไม่เหลือซาก “เจ็บชะมัด” จือหลินร้องครางออกมาเบาๆ แต่เมื่อรู้สึกตัวได้เธอก็รีบพยุงตัวขึ้นนั่งอย่างรวดเร็วพร้อมมองไปรอบๆ อย่างไม่อยากเชื่อ เธอคิดว่าตายไปแล้วเสียอีก แต่ทำไมถึงได้มีความรู้สึกเจ็บได้ “นี้มันเรื่องบ้าอะไรอีกว่ะเนี่ย” จือหลินเบิกตากว้างอย่างไม่อยากเชื่อ รอบๆ ตัวเธอในตอนนี้เป็นป่าทึบ มือของเธอก็ไม่ใช่ของเธออย่างแน่นอนเพราะมีขนาดเล็กราวกับเป็นเด็กน้อยคนหนึ่งเท่านั้น ตอนที่เธอมึนงงสับสน เรื่องราวความทรงจำของเจ้าของร่างก็ไหลเข้าสู่หัวของเธอจนต้องลงไปนอนดิ้นกับพื้น
ทะลุมิติมาในนิยายยุค 80 ว่ายากลำบากแล้วเธอยังต้องมาเลี้ยงลูกแฝดและวางแผนหนีชะตาชีวิตที่นักเขียนระบุให้ตายอย่างทรมานภายใต้เงื้อมมือของพ่อตัวร้ายอีก สวรรค์!ยังจะมีตัวละครทะลุมิติใดบัดซบเท่าเธออีกหรือไม่
คุณท่านเสียว คุณชายยอดเยี่ยมที่โด่งดังในเมือง B ได้แต่งงาน แต่มีข่าวลือว่าเจ้าสาวมีรูปร่างหน้าตาที่น่าเกลียดและมีฐานะต่ำต้อย สามปีมานี้ เขาปฏิบัติกับเธออย่างเย็นชาและทำเหมือนเป็นคนแปลกหน้า เจียงซิงซิงอดทนกับความเย็นชาอย่างเงียบ ๆ เธอยังคงรักเขาอย่างสุดหัวใจ เสียสละความนับถือตนเองและยอมละทิ้งตัวตนของเธอเอง จนกระทั่งวันหนึ่ง สุดที่รักของเขากลับประเทศ เขได้สารภาพว่าเขาแต่งงานกับเธอเพียงเพื่อช่วยชีวิตคนรักในใจของเขาเท่านั้น เจียงซิงซิงเสียใจและผิดหวังมาก เธอจึงเซ็นเอกสารหย่าและจากไปด้วยความเศร้าใจ สามปีต่อมา เจียงซิงซิงผู้สวยงามจนน่าทึ่งกลับมาอีกครั้ง ได้กลายมาเป็นศัลยแพทย์ที่ดีที่สุดและเป็นยอดฝีมือด้านเปียโน อดีตสามีรู้สึกเสียใจ และกอดเธอแน่นท่ามกลางสายฝน เสียงของเขาสั่นเครือ "ที่รัก คุณเป็นของผม..."