ปารวิชญ์ถอดสูทโยนไว้ในรถ เดินไปสั่งของอาหารสองสามอย่าง แล้วรินน้ำเปล่าจากขวดแก้วให้เธอ “คิดถึงสมัยยังเรียนเนอะ ถ้าอยู่คณะดึก ๆ พวกเราก็เฮโลกันมากินข้าวแบบนี้” เขาเล่าเรื่องเก่า สร้างบรรยากาศที่ดีขึ้นหน่อย “ตอนนั้นสนุกที่สุดเลย” เธอเห็นด้วย แต่มันก็เป็นแค่อดีตที่มีไว้ให้แค่คิดถึง ตอนนี้มีเรื่องหนักอึ้งในหัวต้องคิด “วันงานเลี้ยงรุ่นเราไม่ได้คุยกันเลย” หญิงสาวเลิกคิ้ว ทำไมเขาถึงต้องมาคุยกับเธอกันล่ะ ปารวิชญ์เป็นจุดเด่นอยู่ท่ามกลางเพื่อน ขณะเธอหลบมุมกินดื่มไปเงียบ ๆ “บูมสบายดี ฉันก็สบายดี มันน่าจะโอเคแล้วนะ” เส้นทางชีวิตระหว่างเธอกับเขาเป็นคู่ขนาน โลกที่อยู่ก็ต่างกัน แค่เจอ ทักทายนิดหน่อย ยิ้มให้แล้วต่างคนต่างไปก็น่าจะพอ “ถ้าไม่อยากเป็นเด็กเสี่ยอ่าง มาเป็นเด็กฉันไหมล่ะ” เกวลีอ้าปากเหวอ ตาโตเหมือนเห็นผี “นี่คือจุดประสงค์ที่ฉันพาเธอมาคืนนี้”
“ฟ้าน”
เพื่อนส่งเสียงเรียกหญิงสาวที่กำลังหันซ้ายหันขวาอยู่ในร้านอาหาร
“ทางนี้”
เกวลีส่งยิ้มให้คนโบกมือทัก เท้าสวมรองเท้าคัชชูปิดมิดชิดก้าวเดินไปทางเพื่อน
“โทษทีที่มาช้า ต้องเคลียร์งานนิดหน่อย”
เธอหย่อนก้นลงเก้าอี้ตัวข้างเพื่อน แขวนกระเป๋าสะพายไว้ที่พนักแขน
“พวกเราก็เพิ่งมากันเอง”
หนึ่งปี จะมีหนึ่งครั้ง งานเลี้ยงรุ่นของสาขาเธอ นัยว่าเพื่อเป็นการกระชับสายสัมพันธ์ระหว่างกันให้แน่นแฟ้นนอกเหนือจากการเป็นเพื่อนกันในเฟซบุก เกวลีมางานทุกปีไม่เคยขาด เพื่อนหากไม่ติดเดินทางไปต่างประเทศก็จะมากันทุกคน
กาลเวลาอาจทำให้เปลี่ยนไปบ้าง ทั้งรูปร่าง สีผม หรือสถานะทางสังคม แต่เมื่ออยู่ในกลุ่มเพื่อน ทุกคนราวย้อนวัยไปสมัยเป็นนักศึกษา พูดคุยหัวเราะ กระเซ้าเย้าแหย่กันสนุก
เกวลีพลอยหัวใจชุ่มชื้น มีรอยยิ้มประดับริมฝีปากบ้าง หลังจากเครียดมาหลายอาทิตย์
“เห็นข่าวเมื่อวีคที่แล้ว คิดว่าบูมจะได้แต่งงานซะแล้ว”
เพื่อนสาวนั่งฝั่งตรงข้ามเธอรำพึงไปถึงอีกคนที่นั่งอยู่เกือบสุดโต๊ะยาว
“อีกนานกว่าฉันจะแต่งงาน ยังไม่เจอนางในฝันเลย”
ปารวิชญ์ส่งสายตาเจ้าชู้ให้พลางยกแก้วเหล้าขึ้นจิบ สัปดาห์ที่แล้วมีข่าวใหญ่คือดาราสาวอดีตแฟนเขาไปตรวจ แล้วพบว่าตั้งท้องได้หนึ่งเดือน ทุกคนคาดว่าเขาเป็นพ่อของเด็ก แต่ดาราสาวก็เปิดแถลงข่าวพร้อมนายแบบหนุ่มรัสเซียที่อายุอ่อนกว่าถึงสามปี เป็นอันสยบข่าวลือใด ๆ ที่จะพาดพิงมาถึงเขา
“ระวังนะ เลือกนักมักได้แร่”
สาวคนเดิมยังจิกไม่เลิก เพราะเจ้าหล่อนก็เหมือนสาว ๆ อีกครึ่งคณะที่แอบชอบปารวิชญ์ แต่เขาไม่สน ระดับผู้หญิงของเขาคือระดับดาวมหาวิทยาลัยหรือดารานางแบบ
ปารวิชญ์เกิดมีพร้อมรูปทรัพย์ที่ทั้งขาว ตัวสูง หล่อเหลา และทรัพย์สินที่มากมาย เพราะเป็นลูกคนเดียว หากใครได้เขาเป็นแฟนก็หมดปัญหาแม่ผัวลูกสะใภ้ เพราะแม่เขาเพิ่งเสียด้วยโรคหัวใจตอนปีกลาย ตามพ่อที่เสียด้วยโรคมะเร็งไปไม่นานนัก
“ถึงได้แร่ แต่ฉันก็ภูมิใจที่ได้เลือกเองกับมือ”
ปารวิชญ์เป็นสุภาพบุรุษแต่กับผู้หญิงที่คู่ควรเท่านั้น หากใครร้ายมาเขาก็ร้ายกลับ
“การเข้าไปเลือกเองสนุกออก ดีกว่าของมันมายัดเยียดให้เลือกถึงมือ”
เพื่อนผู้ชายแตะขาเขาใต้โต๊ะปรามให้หยุดพูด เพราะคนต้นเรื่องมองเขาตาวาววับ
“เออ รู้ข่าวอาจารย์ต้นหรือยัง แกได้เป็นศาสตราจารย์แล้วนะ”
หัวหน้าชั้นปีเปลี่ยนหัวข้อการสนทนา ทำให้ทุกคนค่อยหายใจคล่องกันหน่อย รูปและเงินเป็นทรัพย์ไม่ได้บันดาลแต่โชคดีให้เขา ยังมีความโชคร้ายแฝงมาด้วย คือความริษยาของทั้งชายและหญิง หากเป็นผู้ชายอาจเพียงแค่เขม่นกัน แต่กลับผู้หญิงที่ทอดสะพานใยเหล็กแล้วเขาไม่ข้ามไปนั่นก็คือความแค้น
เกวลีดื่มน้ำอัดลมไปพลางคิด ไม่เข็ดกันบ้างหรืออย่างไรหนอ โดนเขาตอบโต้มาได้ทุกปี ยังจะไปแหย่ชายหนุ่มอยู่ได้
เธอยอมรับ ตนเองก็พอใจเขาอยู่เงียบ ๆ ความรู้สึกเหมือนชื่นชอบดารานักร้อง เอาไว้กรี๊ด ไว้ฝันถึง แต่จับต้องไม่ได้ เกวลีคิดว่าเป็นอย่างนี้จะมีความสุขกว่า
งานเลี้ยงสนุก มีทั้งอาหารและเหล้าแบบเติมไม่อั้น ประมาณสามทุ่มเกวลีขอตัวไปโทรศัพท์ที่หน้าห้องน้ำ
“น้าจอย น้าทิศเป็นยังไงบ้างคะวันนี้”
เธอถามถึงผู้มีพระคุณที่ช่วยอุปการะจนจบมหาวิทยาลัย แต่ตอนนี้นอนป่วยอยู่ในโรงพยาบาล ปลายสายตอบว่าอาการยังคงเดิม และบ่นเรื่องเจ้าหนี้ที่โทรมาทวงเงิน
น้าสาวและน้าเขยเปิดแผงขายส่งผักอยู่ในตลาด มีบ้านรถต้องผ่อนและยังมีลูกวัยกำลังเรียนอยู่สองคน การที่คนใดคนหนึ่งล้มเจ็บเช่นนี้จึงขาดรายได้หนัก ต้องหยิบยืมเจ้าของตลาด ซึ่งเป็นเจ้าหนี้หน้าเลือดชื่อเสี่ยอ่าง เกวลีรับปากว่าจะช่วยคุยกับเจ้าหนี้ให้ แล้วเธอก็กดโทรหาทันที
“เสี่ยอ่าง ขอเวลาอีกสักหน่อย ฉันกำลังหาเงินอยู่ค่ะ ไม่เบี้ยวแน่ ขอเวลาสักอาทิตย์ก่อนค่ะ”
เธอกำลังให้เจ้ว่าน สาวพนักงานรุ่นพี่ช่วยยื่นขอสินเชื่อผ่านพวกบัตรกดเงินสดต่างๆ ให้ เพราะเจ้ว่านมีเพื่อนที่ทำเกี่ยวกับด้านนี้เยอะ คำนวณกันดูคร่าว ๆ น่าจะได้เงินมาสักสามแสน พอจะจ่ายดอกเบี้ยกับเงินต้นบางส่วนจากยอดหนี้ห้าแสนของเสี่ยอ่างลงได้บ้าง
อีกฝ่ายทั้งขู่ทั้งคำราม แต่เกวลียังใจดีสู้เสือคุยต่อไป โดยไม่ได้รู้ตัวเลยว่าอยู่ใต้สายตาใครคนหนึ่ง
ปารวิชญ์มาเข้าห้องน้ำ แล้วได้ยินเสียงใส ๆ ที่คุยโทรศัพท์เครือ เหมือนจะร้องไห้ เขาจำเธอได้ เกวลีเพื่อนร่วมชั้นสาวจืด ๆ เคยทำรายงานกลุ่มด้วยกันครั้งสองครั้ง เธอเป็นประเภททำงานงก ๆ เชื่อคนง่าย ไม่ทันคน สมัยมหาวิทยาลัยเห็นเอาแต่เรียนอย่างเดียว
เท่าที่จับใจความได้ ตอนนี้คงกำลังลำบากเรื่องเงิน ผู้หญิงซื่อจนเกือบโง่อย่างนี้คงหลงคารมผู้ชายแย่ ๆ สร้างหนี้สินล้นพันตัวกระมัง เขาอยากออกไปจากที่หลบมุม แต่เกรงว่าหากเดินออกไปเธอจะรู้ว่ากำลังแอบฟัง คนอย่างปารวิชญ์ถูกจับได้กับแค่เรื่องง่าย ๆ อย่างนี้ เสียฟอร์มหมด
“ฉันจะเอาเงินไปคืนเสี่ยอ่างเองค่ะ แค่นัดสถานที่มา”
เธอใจกล้าเสียด้วย คนปลายสายขึ้นเชื่อว่าเสี่ย คงลูกไม้แพรวพราว แค่น้ำตากับเสียงเครือ ๆ มันไม่ช่วยให้ผู้ชายบางคนใจอ่อนหรอกนะ
“ค่ะ ได้ค่ะ ฉันจะไปพบเสี่ยเอง”
เกวลีตัดบทสนทนา ซึ่งปลายสายก็คงรู้สึกเช่นเดียวกัน ตาโตมองมือถือที่หน้าจอดับ ทอดถอนหายใจ แล้วเดินกลับเข้างานเลี้ยง โดยมีปารวิชญ์เดินตามไปในอีกไม่กี่นาที
ตั้งแต่ฉันได้กุหลาบสีม่วงมาอย่างบังเอิญ ฉันก็เริ่มฝันถึง อัศวินชุดดำ แม่มดในกระท่อม แมวดำ ความตายสีเพลิง ...และดวงตาสีฟ้าปริศนาที่ทำใจเต้นแรงคู่นั้น ++++++++++++++++++++++++ เราสบตากัน ดวงดาวสีฟ้าที่ฉันเคยใฝ่ฝัน ดวงดาวที่ฉันอยากเอื้อมให้ถึง "เจ้าเป็นเพื่อนที่ข้าไว้ใจที่สุด" เขาโกหกฉัน เหมือนที่ฉันก็โกหกเขา ตลอดมาฉันไม่เคยคิดว่าเขาเป็นเพียงเพื่อน ผู้คุมปลดโซ่ ทหารเข้ามาล้อมรอบตัวฉัน ผลักขึ้นสู่บันได ที่มีอีกคนยืนอยู่พร้อมขดเชือกหนา ร้อยรัดมัดร่างกายฉันไว้อย่างแน่นหนา ชายอ้วนเตี้ยพล่ามอะไรอีกแล้ว ฉันไม่ได้ยินเพราะเสียงร้องไห้ระงมของหลายคนบนเสาต้นข้าง ๆ บ้างก็ก่นด่า บ้างตะโกนบอกตนไม่ผิด ดวงดาวสีฟ้ายังส่องแสง ขณะในตาฉันกำลังเลือนรางด้วยน้ำสีแดง กลุ่มเส้นไหมสีทองซบลงที่ไหล่เขา ทันใดนั้นดวงดาวสีฟ้าก็กะพริบ หลุบมองเธอในชุดขาว "ประหารแม่มด" ท่านอาจารย์ที่รับเลี้ยงฉันเคยพูดไว้ หากแผลใดทำเราเจ็บมาก ถึงที่สุดแล้วมันจะชา กระทั่งไม่รู้สึกอะไรอีก "ไม่มีแผลใดที่ไม่มีวันหาย" ฉันยิ้ม นึกเยาะเย้ย อาจารย์โกหกเสียแล้ว ตอนนี้ฉันเจ็บมาก เจ็บปวดเหลือเกิน ทำไมยังไม่ชาอีกล่ะ +++++++++++++++++++++++++ ขอให้อ่านสนุก เฌอเลียร์
ชารีญา เปรียบเสมือนเจ้าสาวที่กลัวฝน เธอหนีงานแต่งมาด้วยเหตุจำเป็นบางอย่าง ทว่าเมื่อหลบซ่อนอยู่ในโรงแรมเธอกลับได้มาพบกับเขา มาเฟียร้ายจอมไร้อารมณ์ เดเมียน จัสติน วินด์ทรอฟ ไม่มีอารมณ์ใครและปรารถนาต่อผู้หญิงคนไหนมาก่อน กระทั่งได้มาพบเธอ ผู้หญิงที่มีดวงตาที่เป็นประกายและช่วยปลุกไฟสวาทของเขาให้ตื่นขึ้นมา ค่ำคืนพลาดพลั้งของทั้งคู่ก่อเกิดขึ้นอย่างไม่ทันตั้งตัว แต่เมื่อวันใหม่มาเยือน เธอคนนั้นก็หนีจากไป จนทำให้เขาต้องใช้ทุกวิธีเพื่อตามเธอกลับมา เขายอมกลายเป็นคนเจ้าเล่ห์ มากด้วยแผนการ ยินยอมเป็นมาเฟียที่ชั่วร้ายในสายตาของเธอคนนั้น เพียงเพื่อกักขังเธอไว้ให้อยู่เคียงข้างเขาตลอดไป สถานที่ที่เธอคนนั้นละอยู่ได้บนโลกใบนี้มีเพียงข้างกายเขาเท่านั้น!
วัชรมัยเคยทิ้งไผท ทิ้งลูก แล้ววันนี้กลับมาร้องขอความเป็นแม่อีกครั้ง ไผทจะไม่มีวันให้อภัย! ++++++++++++++++++++++++++ “ฉันไม่รังเกียจหรอกนะ ถ้าเธอจะเคยนอนกับผู้ชายคนอื่น แต่ต้องไม่ใช่ตอนอยู่กับฉัน” ขายาว ๆ ย่างสุขุมเข้ามา หญิงสาวทำตัวลีบเล็ก กระทั่งหลังติดแนบหัวเตียง “ฉันไม่ใช้ผู้หญิงร่วมกับใคร!” “พี่ป้อ...” เอ่ยยังไม่ทันจบ ริมฝีปากซีดก็ถูกประกบด้วยอวัยวะชนิดเดี๋ยวกัน “อื้อ...” ไร้ซึ่งความอ่อนหวาน มีแต่การบังคับดุดัน ไผทดูดดึงริมฝีปากบางจนฮ้อเลือด “เห็นเธอป่วย ว่าจะใจดีให้พักเสียหน่อย แต่ตอนนี้ฉันเปลี่ยนใจแล้ว ถอดเสื้อผ้าออก ฉันจะเช็คของ!” เมื่อจุมพิตอย่างไม่เต็มใจจบลง เสียงทุ้มต่ำดังแหวกเสียงหรีดเรไรข้างนอก ลมเย็นจากเครื่องปรับอากาศหนาวเหน็บชวนขนลุก ไผทแสยะยิ้มร้ายกาจให้คนบนเตียง “ทำสิ ไม่งั้นก็ไสหัวไปออกจากบ้านฉัน ออกไปจากชีวิตลูก” วัชรมัยกลืนทุกความรู้สึกกลับไปในอก มือสั่นถอดเสื้อผ้าออก “จะได้อยู่กับลูก...จะได้อยู่กับปราบ” เสียงในสมองดังก้องสะกดจิตตนเอง เพื่อได้อยู่กับลูก ต่อให้ต้องลงนรกขุมไหนเธอก็จะทน! +++++++++++++++++++++++++++++
ภริยา(ไม่รัก)ของมาเฟีย +++++++++++++++++ “ถ้าฉันไม่มีลูก คุณก็จะไม่มาที่นี่ใช่ไหม” ในใจส่วนลึกคาดหวังคำตอบว่า...ไม่ใช่ เลโอนาร์ดเบนสายตามองเธอนิ่ง “คงจะอย่างนั้นแหละ” ประไพสุดาเม้มริมฝีปากแน่น กายสั่นเทิ้ม “เลโอนาร์ด เบลุซซี่ คุณออกไปจากที่นี่ อย่ามาให้ฉันเห็นหน้าอีก เด็กในท้องนี่เป็นของฉันคนเดียวเท่านั้น ถ้าอยากได้แกก็ฆ่าฉันเสียเถอะ” ดวงตาดำสนิทลุกวาว มองอดีตสามีดังจะสาปส่งให้สลายเป็นจุณ “ฉันเกลียดคุณ!” +++++++++++++
อย่าเข้ามาค่ะ! ความรัก ++++++++++++++++++ เมื่อคนอกหักมาวันไนต์แสตนด์กัน จากที่คิดว่าแค่วันไนต์ กลายเป็นมีภาคสอง หัวใจที่บอบซ้ำสองดวง จะเปลี่ยนไปอย่าไร ในเมื่อต่างฝ่ายต่างเข็ดกับความรัก ++++++++++++++++++++ "ลูกพี่ลูกน้องของคุณทำว่าที่สาวเจ้าของคุณท้องอย่างนั้นหรือคะ" สีหน้าของฤดีรัตน์ตกใจมาก ๆ เจ็บหัวใจแทนเขาเลย "ครับผม แต่ยังดีที่ยังไม่ได้ร่อนการ์ดเชิญ มันโคตรรู้สึกแย่เลยนะ สามเดือนมาแล้วนะ ทุกอย่างก็ยังไม่ดีขึ้นเลย รู้สึกเจ็บอยู่ข้างในเนี่ย" "ฉันเข้าใจคุณเลยค่ะ เพราะของฉันมากกว่าสามเดือน" "แล้วผมจะเป็นอย่างคุณไหม" "ไม่มั้งคะ เพราะคุณดูมีสติมากกว่าฉันเสียอีกค่ะ แค่หาคนใหม่" ชนิษฐากรอกหูเธอทุกวันเรื่องนี้ ทั้ง ๆ ที่ตัวเองก็ทำไม่ได้ แต่เอาคำปรึกษาของเพื่อนมาบอกเขา "หาคนใหม่ยังไง" คิ้วเรียวเลิกขึ้น "หนามยอกให้เอาหนามบ่งยังไงล่ะคะ" ฤดีรัตน์ทำเป็นยกมือป้องปากกระซิบ "ไม่เข้าใจครับ" "คุณก็แค่หาผู้หญิงคนใหม่ ไม่จำเป็นต้องคบก็ได้ค่ะ แค่มาคั่นกลางให้เรารู้สึกดีขึ้น" เธอยักไหล่ แสร้งทำเป็นช่ำชองเรื่องการหาคนใหม่มาดามใจ "แล้วทำไมคุณไม่ทำ" "ก็ฉันยังไม่ได้เจอคนที่ชอบนี่คะ อย่างน้อยก็ต้องชอบก่อน" "ถ้างั้นทฤษฎีนี้ก็ไม่ได้ผลนะ ที่จริงไม่ต้องชอบกันก็ได้มั้ง แค่รู้สึกไม่รังเกียจก็พอ" เขายกเบียร์ขึ้นจิบ ฉุนนิด ๆ ที่ต้องมาฟังทฤษฎีเพ้อเจ้อ "คุณรังเกียจฉันไหม" ฤดีรัตน์หรี่ตาปรือ "ถ้ารังเกียจผมจะให้คุณนั่งโต๊ะเดียวกันเหรอ" "ถ้าอย่างนั้นคืนนี้" หมอคชาจ้องหน้าเธอ "คืนนี้นอนกับฉันได้ไหมคะ วันไนท์สแตนด์ ไม่ผูกมัด ไม่ผูกพัน" +++++++++++++++++++++ มีตัวละครต่อเนื่องจากเรื่อง รักอย่า...หย่ารัก นะคะ อ่านแยกกันได้ค่ะ ไม่งง ขอให้อ่านสนุก เฌอเลียร์
ชนิษฐารักคณิศร แต่เขารักอีกคน อ้อมกอดเขามีให้เธอ แต่ในใจเขาคิดถึงใคร ทำดีสักเท่าไร สุดท้ายคณิสรมองชนิษฐาเป็นเพียงเครื่องมือผลิตลูก การแต่งงานอันหลอกลวงต้องจบลง ถึงเวลาแล้ว ที่เธอจะหย่า! +++++++++++++++++++++++++++++ ชนิษฐาช็อกกับภาพตรงหน้า "ผู้หญิงคนนั้นก็เป็นได้คนผลิตลูก แม่วัวยังไงล่ะคะดิน แต่สำหรับหวาย หวายคือนางในดวงใจของดิน อ้า อะ อะ อะ..." คงจะเป็นสามีของชนิษฐาด้วยที่เด้งเอวตอบกลับการกระทำของสุธาวี เคล้ง... ข้าวของในมือของชนิษฐาร่วงหล่น คณิศรยกหัวขึ้นมาด้วยความตกใจ สายตาของเขาสบต้องสายตากับชนิษฐา ที่ในเวลานี้น้ำตาที่ไหลลงมากลบม่านตา ยืนปากคอสั่น สิ่งที่เกิดขึ้นในหัวของชนิษฐาในตอนนี้ คือหนีไปให้ไกลแสนไกล เธอวิ่งออกจากตรงนั้นอย่างรวดเร็ว ตรงไปที่รถของเธอ แล้วขับออกไป คณิศรผลักตัวของสุธาวี "ออกไป พอได้แล้วหวาย หยุดเถอะ คุณกำลังทำให้ชีวิตผมพัง" "หวายทำพังเหรอคะ พังเหรอคะ ดิน... เราสองคนกำลังมีความสุขด้วยกันต่างหาก ดินยอมรับความจริงเถอะค่ะว่าคุณน่ะขาดหวายไม่ได้" ++++++++++++++++++++++++++++++ ติ๊ง... ติ๊ง... มีข้อความเข้า และทุกวันนี้จะเป็นข้อความจากสินเป็นส่วนใหญ่ คณิศรหยิบมือถือขึ้นมา เมื่อเปิดเข้าไปดู รูปที่บาดตาบาดใจ บาดหัวใจ ผู้ชายคนนั้นเปิดประตูให้กับชนิษฐา เธอหันมายิ้มให้เขา และขึ้นไปนั่ง คณิศรถึงกับทิ้งมือถือ และหลับตาลงทันที เขาเศร้าหม่นในหัวใจมาก ทำไมเป็นแบบนี้ มันจะลงเอยแบบนี้ไม่ได้ ++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++
เสิ่นชิงชิว หลานสาวของเศรษฐีที่รวยที่สุดในเมืองไห้ คบหาอยู่กับลู่จั๋วมาเป็นเวลาสามปีแล้ว แต่ความจริงใจของเธอกลับสูญเปล่า ลู่จั๋วปฏิบัติกับเธอเพียงในฐานะหญิงบ้านนอกคนหนึ่ง และทอดทิ้งเธอในวันแต่งงาน โดยไปหารักแรกของเขา หลังจากเลิกรากันอย่างเด็ดขาด เสิ่นชิงชิวก็กลับมามีสถานะเป็นสาวรวยอีกครั้ง ได้รับมรดกมูลค่าหลายร้อยพันล้าน และเริ่มต้นชีวิตที่รุ่งโรจน์ที่สุด แต่แล้วมักจะมีคนโผล่มาทไให้กับเธอหงุดหงิดอยู่เสมอ! ขณะที่เธอกำลังจัดการกับผู้ร้าย คุณชายฟู่ผู้มีอำนาจนั้นก็ปรบมือและโห่ร้องว่า "ที่รักของฉันสุดยอดมากจริงๆ"
ตายด้วยเงื้อมมือของเพื่อนร่วมสาขา เนเน่ เนตรนภา จึงทะลุมิติมาอยู่ในร่างเด็กน้อยวัยสิบหนาวที่ป่วยตาย นามเซี่ยซูเหยา มีบิดา พี่สาว พี่ชายที่เป็นห่วงนางมากกว่าสิ่งใด
เจียงซุ่ยแต่งงานกับยู่จินเฉินมาเป็นเวลาสามปี เธอยอมทำงานบ้านทุกอย่างเพื่อเขา ทั้งซักผ้า ทำอาหาร และถูพื้น แต่ไม่ว่าเธอจะพยายามแค่ไหน ก็ไม่สามารถทำให้หัวใจของเขาสลายลงได้ เธอเริ่มตระหนักและตัดสินใจหย่ากับผู้ชายที่เธอรักสุดหัวใจมาเป็นเวลาสามปี เพื่อให้เขาได้ไปอยู่กับผู้หญิงที่เขารักจริง หลังจากที่เธอหย่าแล้ว คนในแวดวงไฮโซล้วนรอดูเรื่องตลกของเธอและล้อเล่นกับเธอว่า"เจียงซุ่ย ทำไมถึงหย่ากับคุณยู่น่ะ" เจียงซุ่ยยิ้ม"เพราะฉันจะกลับบ้านไปสืบทอดมรดกพันล้านของตระกูลไง ผู้ชายอย่างเขาไม่คู่ควรกับฉันหรอก" อย่างไรก็ตาม ไม่มีใครเชื่อคำพูดของเธอ วันรุ่งขึ้น ผู้หญิงที่ร่ำรวยที่สุดในโลกปรากฏตัวในข่าวและกลายเป็นว่าเป็นภรรยาเก่าขอยู่จินเฉินด้วย ทุกคนล้วนตกตะลึงไปหมด เมื่อพวกเขาพบกันอีกครั้งหลังจากการหย่าร้าง ยู่จินเฉินมองไปที่ผู้หญิงที่ร่ำรวยที่สุดคนนั้นซึ่งกำลังถูกรายล้อมไปด้วยหนุ่มหล่อไฮโซมากมาย ใบหน้าของเขาก็มืดมนลงทันที "คุณเจียง คุณรวยขนาดนี้ ควรหาแฟนที่มีฐานะเสมอกันสิ อย่างผมนี่ ผมยอมให้ทุกอย่างที่ผมมีให้คุณนะ"
ในสายตาของเขา เธอเป็นคนขี้โกหก ในสายตาของเธอ เขาเป็นคนไร้หัวใจ เดิมทีถังหว่านคิดว่าเธอคือคนพิเศษหลังจากอยู่กับเสิ่นติงหลานมาสองปี แต่สุดท้ายก็พบว่าตัวเองเป็นแค่ของเล่นที่สามารถทิ้งได้อย่างตามใจเมื่อไม่มีค่าอีกต่อไป จนกระทั่งถังหว่านเห็นว่าเสิ่นติงหลานพาคนรักของเขาไปตรวจครรภ์ เธอจึงยอมแพ้แล้ว เธอหยุดติดตามเขาอีก แต่จู่ๆ เขากลับไม่ยอมปล่อยเธอไป "ถ้าคุณไม่เชื่อฉัน ทำไมคุณไม่ปล่อยฉันไปล่ะ?" ชายผู้เคยหยิ่งยะโสขนาดนั้น ตอนนี้ก้มหัวลงและขอร้องว่า "หวานหว่าน ฉันผิดไปแล้ว โปรดอย่าทิ้งฉันไป"
ในชีวิตชาติที่แล้ว เพื่อช่วยรักแรกของตัวเอง คนชั่วสามคนได้ทำลายพลังการต่อสู้ของนาง ตัดแขนขาของนางออก ตัดเส้นเลือดของนางและปล่อยเลือดของนางไหลออกมาทั้งอย่างนั้น และทรมานนางจนตาย เมื่อเกิดใหม่ครั้งนี้ นางวางแผนอย่างรอบคอบ โดยสาบานว่าจะให้พวกเขาได้สัมผัสกับความทุกข์ทรมานที่นางเคยประสบมา! รักแรกที่ไร้เดียงสาอะไรกัน ที่จริงก็เป็นเพียงผู้หญิงที่ตีสองหน้าเก่ง อยากจะไต่ขึ้นไปสูงเหรอ งั้นก็จะให้เจ้าปีนขึ้นไป ยิ่งปีนขึ้นสูงมากเท่าไร ตอนตกลงมาก็จะยิ่งเจ็บมากเท่านั้น! พวกสวะสมควรได้รับบาปกรรมของพวกสวะ พวกมันทำชั่วกับนางไปชั่วชีวิตหนึ่ง นางจะทำให้พวกมันไม่ตายดี พวกคนที่เจ้าเล่ห์ ตีสองหน้าเก่ง นางจะจัดการกับทุกคน! แต่นางไม่เคยคิดเลยว่าในการแก้แค้นของนาง นางจะไปมีเรื่องกับเสด็จอาที่เป็นเจ้าแผนการเข้า ที่วัน ๆ ต้องการให้นางจูบและกอดเขาตลอดทั้งวัน ในขณะที่นางแก้แค้นคนชั่วนั้นยังสามารถสนิทสนมกับเสด็จอาด้วย ในความจริงแล้ว การที่เป็นผู้หญิงชั่วๆ ก็มีความสุขมาทีเดียวกว่าที่คิดเลย!
คุณท่านเสียว คุณชายยอดเยี่ยมที่โด่งดังในเมือง B ได้แต่งงาน แต่มีข่าวลือว่าเจ้าสาวมีรูปร่างหน้าตาที่น่าเกลียดและมีฐานะต่ำต้อย สามปีมานี้ เขาปฏิบัติกับเธออย่างเย็นชาและทำเหมือนเป็นคนแปลกหน้า เจียงซิงซิงอดทนกับความเย็นชาอย่างเงียบ ๆ เธอยังคงรักเขาอย่างสุดหัวใจ เสียสละความนับถือตนเองและยอมละทิ้งตัวตนของเธอเอง จนกระทั่งวันหนึ่ง สุดที่รักของเขากลับประเทศ เขได้สารภาพว่าเขาแต่งงานกับเธอเพียงเพื่อช่วยชีวิตคนรักในใจของเขาเท่านั้น เจียงซิงซิงเสียใจและผิดหวังมาก เธอจึงเซ็นเอกสารหย่าและจากไปด้วยความเศร้าใจ สามปีต่อมา เจียงซิงซิงผู้สวยงามจนน่าทึ่งกลับมาอีกครั้ง ได้กลายมาเป็นศัลยแพทย์ที่ดีที่สุดและเป็นยอดฝีมือด้านเปียโน อดีตสามีรู้สึกเสียใจ และกอดเธอแน่นท่ามกลางสายฝน เสียงของเขาสั่นเครือ "ที่รัก คุณเป็นของผม..."