หลังจากแต่งงานกันมาสองปี สามีของเธอไม่เคยเหยียบเข้าไปในบ้านและมองดู 'ภรรยาขี้เหร่' ของเขาเลย แถมเขาก็มีเรื่องอื้อฉาวกับดาราหน้าใหม่หลายคนทุกวัน ซูเหว่ยทนไม่ไหวอีกต่อไป เธอตัดสินใจปล่อยเขาไป ต่อไปก็ต่างคนต่างไปเลย แต่เมื่อเธอเสนอเรื่องหย่า... ฟู่เหยียนอันพบว่านักออกแบบในบริษัทนั้นสะดุดตาเป็นพิเศษ เขาค่อยๆ ทำความรู้จักกับเธอเรื่อยๆ จนกระทั่งวันหนึ่งเขาค้นพบตัวตนที่แท้จริงของเธอเข้า เขาเสียใจแล้ว
ณ เจียงเฉิง ในคืนฤดูร้อนอันเงียบสงบ
ซูเวยนั่งอยู่บนโซฟาพลางเลื่อนดูข่าวในโทรศัพท์ของเธอ
“ฟู่เหยียนอัน ประธานฟู่ชื่อ กรุ๊ปเข้าร่วมงานอย่างเป็นทางการกับหลิวยิน ศิลปินหญิงยอดนิยม ทั้งคู่ค้างคืนที่โรงแรมด้วยกัน มีนักข่าวถ่ายภาพใกล้ชิดของพวกเขาเอาไว้ได้...”
ข่าวนี้ติดเทรนการค้นหายอดนิยมและดังไปทั่วอินเทอร์เน็ต
ซูเวยดันกรอบแว่นตาสีดำบนใบหน้าของเธอขึ้นแล้วมองภาพในข่าวด้วยสีหน้านิ่งเรียบ
ภาพที่ถ่ายมานั้นเบลอมาก แต่สามารถมองเห็นได้ชัดเจนว่ามันคือภาพผู้ชายกับผู้หญิงจูบกันที่ริมหน้าต่าง
พระเอกนั้นไม่ใช่ใครอื่น ซึ่งก็คือฟู่เหยียนอัน สามีของเธอซึ่งเป็นทายาทของตระกูลที่ใหญ่ที่สุดในเจียงเฉิง
เป็นคนสูงส่งที่กุมเส้นทางเศรษฐกิจที่สำคัญของเจียงเฉิง
พูดแล้วก็ตลกจริง ๆ
พวกเขาแต่งงานกันมาสองปีแล้ว แต่ฟู่เหยียนอันนั้นไม่เคยกลับมาเลย
แม้แต่ตอนจดทะเบียนสมรสนั้นเขาก็ไม่มาปรากฏตัวด้วยซ้ำ
แต่เขาส่งทนายมาจัดการเอกสารของกันและกันและจดทะเบียนสมรสแทน
เธอรู้ว่าฟู่เหยียนอันนั้นต่อต้านการแต่งงานครั้งนี้มาโดยตลอด
การที่แต่งงานกับเธอนั้นเป็นเพราะคุณนายใหญ่ฟู่
เนื่องจากปู่ของเธอเคยช่วยชีวิตคุณนายใหญ่ฟู่ไว้ เขาเลยขอให้ตระกูลฟู่สู่ขอเธอและอยากให้เธอมีชีวิตที่สุขสบาย
เดิมทีเธอนั้นมีความคาดหวังเกี่ยวกับการแต่งงานของทั้งคู่อยู่เล็กน้อย
น่าเสียดายที่สองปีมานี้ ฟู่เหยียนอันนั้นมีข่าวอื้อฉาวกับดาราหน้าใหม่หลายคนมาโดยตลอด...
ซูเวยเม้มริมฝีปาก หยิบโทรศัพท์มือถือออกมาและหาเบอร์ของฟู่เหยียนอัน
นี่เป็นครั้งแรกที่เธอโทรหาฟู่เหยียนอันในรอบสองปี
ไม่นานก็มีคนรับสาย
“ฮัลโหล ฉันซูเวย”
“ซูเวยงั้นเหรอ ซูเวยไหนกัน?”
เสียงผู้ชายคนนั้นทุ้มต่ำแต่มีเสน่ห์ แม้ว่าน้ำเสียงจะเย็นชาแต่กลับน่าฟัง
ซูเวยยิ้มและจับโทรศัพท์ไว้แน่น
เป็นไปตามที่คิดจริง ๆ เขาจำชื่อภรรยาตัวเองไม่ได้ด้วยซ้ำ
“ฉันเป็นคนในทะเบียนสมรสของคุณ”
“เธอเองเหรอ มีอะไรรึป่าว?”
น้ำเสียงของผู้ชายคนนั้นยิ่งเย็นชาขึ้นกว่าเก่า
ซูเวยดันกรอบแว่นขึ้นแล้วพูดว่า “เราหย่ากันเถอะ”
ปลายสายเงียบไปครู่หนึ่ง
จากนั้นฟู่เหยียนอันก็ถามขึ้นมาว่า “เธอคิดดีแล้วเหรอ?”
“แน่นอน”
“มีเงื่อนไขอะไรก็ว่ามาได้เลย”
“ไม่จำเป็นค่ะ! คุณฟู่ ฉันไม่สนใจเงินของคุณหรอกค่ะ และฉันก็ไม่ต้องการใช้ผู้ชายร่วมกับคนอื่นด้วย ฉันเซ็นใบหย่าแล้ว ฉันจะไปตัวเปล่าค่ะ”
ซูเวยพูดรวดเดียวจบและวายสายไปทันที
นอกจากทะเบียนสมรสแล้ว เธอกับเขานั้นเหมือนเป็นคนแปลกหน้าสองคนมากกว่า
จากนี้ไปพวกเขานั้นก็ทางใครทางมันและจะไม่มีอะไรเกี่ยวข้องกันอีกต่อไปแล้ว!
ซูเวยขึ้นไปชั้นบนแล้วถอดแว่นตาขอบดำออก เผยให้เห็นใบหน้าที่สวยงาม
เธอเอาใบหย่าที่เตรียมไว้นานแล้วมาวางไว้บนโต๊ะกาแฟ และลากกระเป๋าเดินทางที่เก็บไว้เรียบร้อยแล้วก่อนจะจากไปอย่างสง่างาม
ณ ฟู่ชื่อ กรุ๊ป
แสงสีเหลืองอันอบอุ่นส่องสว่างไปทั่วห้องทำงานประธาน
ผู้ชายที่นั่งอยู่บนเก้าอี้ผู้บริหารนั้นสวมเสื้อสีขาวและกางเกงขายาวสีดำที่เรียบง่าย แต่มันไม่สามารถซ่อนความสูงส่งโดยกำเนิดของเขาเอาไว้ได้
ฟู่เหยียนอันมองหน้าจอโทรศัพท์มือถือของเขา ริมฝีปากบางที่สวยงามนั้นหลุดหัวเราะเยาะออกมา
ในที่สุดภรรยาในนามของเขาก็ทนเหงาไม่ไหวและขอหย่าแล้ว!
มีเสียงเคาะประตู ผู้ช่วยเกาฝานก็เดินเข้ามา
“คุณฟู่ครับ ใกล้จะถึงเวลาที่นัดกับคุณหวังแล้วครับ”
ฟู่เหยียนอันตอบว่าอืมขึ้นมาเรียบ ๆ ก่อนจะลุกขึ้นและหยิบเสื้อคลุมที่พาดไว้บนหลังเก้าอี้ขึ้นมา
“เกาฝาน ลบเทรนการค้นหายอดนิยมของวันนี้ออกซะ แล้วก็ให้ทนายไปจัดการเรื่องหย่าให้ฉันด้วย”
เกาฝาน “...”
ท่านประธานของเขานั้นบริสุทธิ์ แต่กลับสร้างเรื่องอื้อฉาวพวกนั้นเป็นบ่อยครั้งขึ้นมาก็เพื่อที่จะรอวันนี้แหละ!
ซูเวยเรียกแท็กซี่และตรงไปยังอพาร์ตเมนต์ที่เธอซื้อไว้ทันที
อพาร์ตเมนต์นี้ตั้งอยู่ในย่านใจกลางเมือง มีห้องนอนสามห้อง ห้องนั่งเล่นและห้องครัว
ในที่ดินราคาแพง สิ่งอำนวยความสะดวกในชุมชนนั้นค่อนข้างครบครัน
หลังจากเก็บสัมภาระแล้ว ซูเวยก็ยืนอยู่หน้าหน้าต่างสูง มองวิวยามค่ำคืนอันสดใสนอกหน้าต่าง ก่อนจะหยิบโทรศัพท์มือถือออกมาโทรหาเพื่อนสนิทของเธอ
“หนวนหน่วน ฉันหย่าแล้ว”
“ว่าไงนะ? เวยเวยในที่สุดเธอก็หย่าแล้วสักที! ดีมากเลย! ออกมาฉลองที่กลับมาเป็นโสดกันเถอะ!”
“โอเค”
เขาแอบชอบเธอตั้งแต่เจอกันครั้งแรกแต่เธอกลับกลัวและพยายามอยู่ให้ห่างจากเขาแล้วเขาจะทำอย่างไรที่จะตามจีบเธอดีในเมื่อเธอเป็นน้องรหัสของเขา
เรื่องราวการผจญภัยของอดีตสายลับนักฆ่า ที่ทะลุมิติมาเป็นแม่ผู้ชั่วร้าย ทั้งยังต้องร่วมเดินทางกับเด็กน้อยผู้แสนใสซื่อในโลกที่ผู้คนใช้พลังลมปราณ อันตรายมีทั่วทุกหนแห่ง แล้วพวกเขาจะเอาชีวิตรอดได้หรือไม่?!
“ผู้หญิงคนนี้เป็นของมาร์โก ใครก็ห้ามมายุ่งอีกเด็ดขาด” เขาประกาศให้รับรู้ทั่วกัน แต่ถามว่าผู้หญิงของเขาตอนนี้มีสีหน้ายังไง ถามได้! เธอยังช็อกไม่หายปล่อยให้เขาจับจูงเข้าไปในห้องจนเหตุการณ์สงบแล้วเธอก็ยังไม่รู้ตัวเหมือนเดิม! พระเจ้านี่มันเรื่องบ้าอะไร! เธอกลายเป็นผู้หญิงของมาเฟียได้ยังไง เรื่องชักจะวุ่นวายเกินไปแล้ว เธอตามไม่ทันจริง... ตั้งสติไว้ยัยแอน เธอต้องตั้งสติ ตั้งสติบ้าอะไร เขาก็ประกาศอยู่ว่าเธอเป็นของเขา ไม่ ๆ ไม่ใช่ พวกเราแค่นอนด้วยกันคืนเดียว ยังไงก็แค่เรื่องเข้าใจผิด ยังไงเขาก็คงคิดจะขู่เล่น ๆ โธ่เอ้ยยัยโง่ เขาประกาศขนาดนั้น ลองไปสิเธอได้ถูกผูกติดกับเตียงแน่ ชาตินี้อย่าหวังจะไปไหนได้เลย เธอลืมไปแล้วหรือไงว่าคนนั้นคือมาเฟียมาร์โก มาเฟียที่มีอิทธิพลสุดในเมืองนี้! เธอจะบ้าตายเพราะเถียงกับตัวเองนี่แหละ แถมยังต้องมานั่งเสียใจที่มาเจอคนที่น่ากลัวที่สุดในเมือง พระเจ้าแกล้งเธอเกินไปแล้ว แบบนี้เธอจะทำยังไงดี!!
ในการแต่งงานที่ทำข้อตกลงไว้ เจียงหว่านเป็นฝ่ายที่มีใจให้อีกฝ่ายก่อน แต่ตอนที่เธอต้องการเผยเสี้ยนมากที่สุด เขากลับอยู่เคียงข้างคนรักในใจของเขา ในท้ายที่สุด เจียงหว่านก็ตัดสินใจหย่า และเริ่มต้นชีวิตใหม่ เมื่อเผยเสี้ยนรู้สึกตัวขึ้นมา เธอก็จากไปแล้ว เมื่อเผชิญหน้ากับคู่แข่งที่เข้าคิวเพื่อรับป้ายหมายเลข เผยเสี้ยนหยิบเงินร้อยล้านออกมาและพูดว่า "หว่านหว่าน คู่รักก็ต้องเป็นคู่เดิมเราแต่งงานใหม่อีกครั้งได้ไหม"
หลังจากถูกแฟนหนุ่มและเพื่อนสนิทของเธอจัดฉาก เฉี่ยนซีก็จบลงด้วยการใช้เวลาทั้งคืนกับชายแปลกหน้าลึกลับคนนั้น เธอมีความสุขมาก แต่พอเธอตื่นขึ้นมาในเช้าวันรุ่งขึ้น เธอก็รู้สึกแย่กับสิ่งที่เกิดขึ้นเมื่อคืน อย่างไรก็ตาม ความรู้สึกผิดทั้งหมดของเธอถูกชะล้างออกไป เมื่อเธอเห็นใบหน้าของชายที่นอนอยู่ข้างเธอ เธอจึงเอ่ยด้วยเสียงเบา ๆ ที่ว่า "ผู้ชายอะไร ทำไมหล่อจัง" และเธอก็ต้องตกใจกับสิ่งที่เห็น ความผิดของเธอกลายเป็นความละอายใจโดยทันที และมันทำให้เธอตัดสินใจทิ้งเงินจำนวนหนึ่งไว้ให้ชายผู้นั้นก่อนที่เธอจะจากไป "เจ๋อข่าย" รู้สึกประหลาดใจเมื่อเห็นเงินดังกล่าว พร้อมกับคิดว่า 'ผู้หญิงคนนั้นพยายามจะจ่ายเงินให้ฉัน ราวกับว่า ฉันเป็นผู้ชายขายบริการอย่างนั้นหรอ? ' เขารู้สึกโกรธ จึงต้องการดูภาพจากกล้องวงจรปิดของโรงแรม เขาสั่งผู้ช่วยของเขาด้วยใบหน้าที่จริงจังพร้อมขมวดคิ้ว "ผมอยากรู้ว่า ใครอยู่ในห้องของผมเมื่อคืนนี้" 'อย่าให้เจอนะ ถ้าเจอเมื่อไหร่จะสั่งสอนให้เข็ดเลย! ' เรื่องราวของพวกเขาจะเป็นอย่างไรต่อไปนะ
นุชพินตา ควรเป็นเจ้าสาวที่น่าอิจฉาที่สุดที่ได้แต่งงานกับ ปุลวัชร เจ้าบ่าวที่ทั้งหล่อ รวย เนื้อหอม เป็นเจ้าชายในฝันของสาวๆ ทั้งเมือง แต่ใครจะรู้ว่าเจ้าบ่าวในฝันนั้น...ทั้งไร้หัวใจ และไม่ได้รักเธอสักนิด! การแต่งงานที่ไร้รัก อยู่กันไปก็มีแต่เจ็บปวดเท่านั้น แต่จะทำยังไงได้ ในเมื่อเธอไม่อาจปฏิเสธ แม้จะต้องถูกเขาทำร้ายหัวใจซ้ำแล้วซ้ำเล่า จะทำอย่างไรหากใจที่ไม่คิดปรารถนารักกลับอยากได้ความรักจากเขา ------------------------------ “เธอเคยนอนกับผู้ชายหรือเปล่า” เขาถามออกมาจากปากร้าย ตอนที่เธอได้ยินถึงกับสะอึก ไม่คิดว่าเขาจะถามตรง ๆ และในนาทีต่อมา นุชพินตาก็รู้สึกโกรธมาก หญิงสาวโต้เขากลับ “ทำไมผู้ชายดี ๆ การศึกษาดี ๆ ถึงได้พูดจาแบบนี้คะ มาพูดดูถูกกัน เมื่อกี้ก็หาว่าพวกเราขายตัว และตอนนี้ยังมากล่าวหาฉันอีกว่าฉันสำส่อน คุณถามคำถามแบบนี้กับผู้หญิงทุกคน ที่คุณเคยนอนด้วยหรือยังไงคะ” ความเจ็บปวดระบายออกมาทางสายตา เขาเป็นบ้าอะไรกันนี่ คำพูดแบบนี้มาจากสันดานข้างในหรือเพราะว่าเขาเมา “แล้วเธอเคยมีอะไรกับผู้ชายหรือเปล่าล่ะ” เขาย้ำอีกครั้ง จ้องสบตาด้วยนัยน์ตาแดงก่ำ “ปากร้าย ประโยคนี้คุณไม่ควรถามออกมาด้วยซ้ำไป” จากที่เรียกเขาว่าพี่ปุ่น ชักขุ่นและมีอารมณ์โมโหขึ้นมาเปลี่ยนสรรพนามที่คนฟังก็รู้ว่าห่างเหิน “ผู้หญิงที่ดี ๆ ที่ไหน จะตอบตกลงแต่งงานกันชายแปลกหน้าอย่างรวดเร็วโดยไม่คิด เวลาเพียงแค่หนึ่งเดือนเท่านั้น” “แล้วมันยังไงคะ” นุชพินตาก็ไม่ยอมเหมือนกัน “เธออาจจะเป็นมือสองก็ได้” ‘เมื่อคืนเขาไปนอนที่ไหน แล้วไปนอนกับใคร’ ‘อ้อ… ก็คงจะเป็นผู้หญิงคนนั้นสินะ’ ดวงตาเศร้าลง เธอลุกขึ้นไปเปิดม่านหน้าต่าง และมองออกไปยังท้องทะเล แสงอาทิตย์กระทบกับระลอกคลื่นที่ไล่เรียงกันกระทบเข้าฝั่ง นุชพินตาถึงกับถอนหายใจดังเฮือก ‘ฉันมาทำอะไรอยู่ตรงนี้ มาให้เขาย่ำยีเล่นใช่หรือไม่’ เฝ้าถามตัวเองซ้ำไปซ้ำมา ‘ยะหยาอย่าเสียใจไปเลยนะ เธอต้องทำตัวเองให้เข้มแข็ง แข็งแรงเถอะ ในเมื่อเธอก็ไม่ได้รักเขาเหมือนกัน’ คำพูดปลอบโยนตัวเอง ‘ใช่… ฉันไม่ได้รักเขา และจะเกลียดเขาให้มากกว่านี้’ เธอตอกย้ำคำนี้เข้าไปในหัวใจของตัวเองด้วยความมุ่งมั่นและสายตาที่แน่วแน่ แม้จะรู้สึกเจ็บแน่นในหัวอก ------------------------------ “ฉันจะหย่ากับเธอ” เขาเอ่ยอย่างใจดำ หญิงสาวถึงกับใจหล่นวูบ เธอเม้มขบริมฝีปาก กลั้นน้ำตาเอาไว้ไม่อยู่แล้ว นุชพินตาพูดอะไรไม่ออกแม้แต่คำเดียว “นางผู้หญิงไร้ยางอาย แพศยาฉันเกลียดผู้หญิงหลายใจ ฉันเกลียดผู้หญิงที่นอกใจ ไปให้พ้นจากบ้านของฉัน ไปให้พ้นจากหน้าฉัน พรุ่งนี้จะให้ทนายทำใบหย่า” “พี่ปุ่นคะ” เธอยกมือขึ้นมาไหว้เขาปลก ๆ “เราสองคนเพิ่งแต่งงานกันเองนะคะ ยะหยาไม่อยากให้คุณลุงและคุณย่าเสียใจ” “แต่สิ่งที่เธอทำล่ะ มันน่าอาย แล้วเธอไม่ละอายบ้างเหรอ หน้าด้าน” เขามีอาการเสียใจ และหัวเสีย นุชพินตาเอง เธอไม่คิดว่าปุลวัชรจะปากร้ายด่าทอเธอได้ถึงเพียงนี้ “ฉันจะหย่ากับเธอแน่นอน เตรียมปากกาไว้เซ็นใบหย่าในวันพรุ่งนี้ก็แล้วกัน” พูดจบ เขาเดินเข้าไปใช้มือปัดแจกันที่อยู่ใกล้ และชกบานกระจกที่ใช้ตกแต่งอยู่ในห้องโถงด้วย จนกระจกแตกละเอียดทั้งบาน มือของปุลวัชรมีเลือดไหลซึม เขาจะเดินเข้าห้องทำงานและปิดประตูตามหลังดังโครม นุชพินตาตกใจ และหวาดกลัวกับสิ่งที่เธอได้เห็น ความดีใจที่สามีจะกลับมา เธอจะบอกข่าวดีเขา และกินข้าวด้วยกัน ได้มลายหายไปสิ้น มีเพียงความเศร้าเข้ามาทับถมอยู่ในจิตใจของนุชพินตา แล้วหญิงสาวยกมือขึ้นมาปิดหน้าปิดตาปล่อยโฮ