หลินจิงซู หญิงสาวผู้ล้มเหลวทุกอย่างในชีวิตเพราะครอบครัวเฮงซวย เธอย้อนเวลาไปยังปี1990 อาศัยความรู้ในโลกอนาคตเพื่อเก็บเกี่ยวโอกาสทางธุรกิจ ก่อร่างสร้างตัวจนมั่งคั่งร่ำรวย เพื่อบดขยี้ทุกคนที่เคยรังแก!
ตอนที่ 1 เกิดใหม่ไปช่วยแม่ (1)
เสียงระฆังชั้นเรียนตีดังกังวาน เป็นจังหวะเดียวกับเสียงโห่ร้องดีใจของเพื่อนร่วมชั้นทั้งหลาย หลินจิงซูที่กำลังนอนฟุบกับโต๊ะตลอดคาบเรียน เผชิญกับเสียงโห่ร้องของทุกคนรอบตัวเข้า ก็ถึงกับสะดุ้งโหยงตื่นขึ้นด้วยความตกใจทันที
เปลือกตาหนักอึ้งของเธอค่อยๆคลี่เปิดออก ตกอยู่ในภวังค์ความงุนงงครู่หนึ่งจึงค่อยกระจ่าง นี่มันคือห้องเรียนสมัยมัธยมปลายของเธอไม่ใช่เหรอ?
นี่ฉัน…ยังไม่ตายงั้นเหรอ?
หรือนี่จะเป็นฝันสุดท้ายก่อนตาย?
นับเป็นความฝันที่เก็บรายละเอียดยิบย่อยได้ดีมากจริงๆ นอกจากสิ่งของต่างๆที่วางระเกะระกะรอบห้องเรียนแล้ว บรรยากาศยังชวนให้นึกถึงสมัยก่อนสุดๆ นอกจากนี้แล้ว บนกระดานดำยังเขียนวันที่และตารางเรียนแจกแจงไว้อย่างชัดเจน ตัวอักษรสีขาวจางๆที่ปรากฏอยู่บนนั้นก็คือ ‘วันศุกร์ที่ 19 มิถุนายน ปี 1990’
เอ๊ะ?
เธออดเสียวสันหลังวูบขึ้นมาไม่ได้ ทันทีที่เห็นตัวเลขชุดนี้!
มันเป็นวันที่แม่ของเธอประสบอุบัติเหตุ!
ทั้งๆที่แม่ของเธอถูกดักซุ่มทำร้ายร่างกายอยู่ในตรอกแท้ๆ และเห็นได้ชัดว่าแม่ของเธอคือเหยื่อ แต่ทุกคนกลับรุมประณามกล่าวหาแม่ของเธอ ว่าแอบลักลอบเล่นชู้กับชายอื่นในเวลากลางวันแสกๆ!
ชื่อเสียงและความดีทุกอย่างที่แม่ของเธอทำมา ได้ถูกทำลายลงอย่างย่อยยับไม่เหลือชิ้นดี!
เพื่อพิสูจน์ความบริสุทธิ์ของเธอ สิ่งเดียวและสิ่งสุดท้ายที่แม่ของเธอทำได้ ก็คือการแขวนคอตัวเองไว้กับคานบ้าน ปฏิเสธข่าวลือเสียหายอย่างเด็ดขาดจวบจนวาระสุดท้ายของชีวิต
ไหล่ซ้ายของหลินจิงซูถูกกระแทกจากเพื่อนร่วมโต๊ะ กระแสความเจ็บปวดแผ่วอ่อนแล่นผ่านให้สัมผัสรับรู้ได้
“โอ้! โทษทีๆ จิงซูเป็นอะไรรึเปล่า?”
เจ็บ…เธอรู้สึกเจ็บจริงๆ?!
แทบจะในทันใด หลินจิงซูตื่นขึ้นจากภวังค์ความฝันทั้งปวง อึดใจต่อมา เธอรู้สึกกระวนกระวายจนแทบคลั่ง รีบคว้ากระจกบานจิ๋วที่อยู่ใต้โต๊ะของเพื่อนร่วมชั้นออกมาส่องดู เนื่องด้วยความยากจนข้นแค้น ทำให้รูปลักษณ์หน้าตาของเธอดูทรุดโทรมอย่างมากในอดีต แต่ทว่าตอนนี้ ภาพที่มองเห็นผ่านกระจกมีเพียงความอ่อนเยาว์และผิวที่สวยเด้ง ริมฝีผากบางเป็นสีแดงระเรื่องดงาม ผิวพรรณมีสีขาวอมเหลืองเล็กน้อยและเรียบเนียนดั่งเปลือกไข่ ร่างกายไม่สั่นกระตุกเหมือนกับเมื่อครั้งก่อนหน้าที่มีแต่โรคร้ายรุมเร้า สีผิวทั้งซีดขาวและเหี่ยวย่น ดวงตาแดงก่ำขุ่นมัวอยู่ตลอดเวลา
เพื่อย้ำให้มั่นใจ หลินจิงซูจึงตบหน้าตัวเองแรงๆอีกที!
โอ้ย! เหมือนจริงเกินไปแล้ว!
หรือฉัน…ฉันกลับมาแล้ว! ย้อนเวลากลับมาแล้วจริงๆ!? ย้อนกลับมาในวันที่แม่ประสบอุบัติเหตุ!
เธอไม่มีเวลามานั่งตอบคำถามเพื่อนร่วมชั้นคนนี้อีกแล้ว หลินจิงซูวิ่งหน้าตาตื่นพุ่งตัวออกจากประตูห้องเรียนไปด้วยความเร็วสุดแรงเกิด!
เลือกเส้นทางที่กำลังอยู่ระหว่างการก่อสร้างที่ยังไม่เสร็จสมบูรณ์ดี กระโดดข้ามกำแพงเตี้ยพุ่งทะยานออกไปในอึดใจเดียว
ได้โปรดเถอะนะ! ขอให้ทุกอย่างยังไม่สายเกินไป! บางทีเธออาจจะช่วยแม่ไว้ได้ทัน!
ไม่ว่าผลลัพธ์จะเป็นอย่างไร สิ่งที่เกิดขึ้นอยู่ในตอนนี้จะเป็นความจริงหรือฝันไป เธอไม่สนใจอะไรอีกแล้ว!
ขอให้ได้พยายามอย่างเต็มที่ก็เพียงพอ!!
เนื่องจากตอนนี้ยังไม่ถึงเวลาเลิกเรียน พวกภารโรงจะไม่มีทางยินยอมให้นักเรียนออกก่อนกำหนดง่ายๆอย่างแน่นอน
แต่เพื่อภารกิจครั้งนี้ หลินจิงซูจึงจำต้องหนีเรียนกระโดดข้ามกำแพงไปโดยพละการเท่านั้น!
หากปล่อยให้ล่าช้าเกินไปกว่านี้ เธออาจจะไปไม่ทันการเอา!
หลินจิงซูวิ่งสับเท้าฝุ่นตลบมุ่งสู่ตรอกเปลี่ยวแห่งนั้น ซึ่งเป็นสถานที่ที่แม่ของเธอถูกข่มขื่น!
ระหว่างทางไปนั้น เธอได้ใช้เงินจำนวน 1.5 หยวนเพื่อขอซื้อกรรไกรจากคนแถวนั้นและกำไว้ในมือแน่น
ลึกเข้าไปด้านในของตรอกแห่งนั้น แม่ของเธอติงเสวี่ยเหม่ย กำลังถูกชายร่างสูงกำยำขึ้นคร่อมอยู่ มือคู่นั้นที่ทั้งหนาทั้งใหญ่กำลังฉีกกระชากเสื้อผ้าของแม่เธอจนขาดวิ่น
ทันทีที่หลินจิงซูห็นภาพฉากนี้กับตา เธอก็โกรธจัดจนเลือดขึ้นหน้า!
ผู้ชายชั่วช้าบัดซบคนนี้ล่ะ คือคนร้ายตัวจริงที่ฆ่าติงเสวี่ยเหม่ย!
เห็นเต็มสองตาว่าแม่ของเธอเป็นผู้บริสุทธิ์และถูกข่มขื่น แต่ทั้งย่าและป้ารองต่างลงความเห็นเป็นเสียงเดียวกันว่า แม่ของเธอนั่นล่ะที่แอบมาเล่นชู้กับชายอื่นในเวลากลางวันแสกๆ! อีกทั้งยังบีบบังคับให้แม่ของเธอหย่ากับพ่อด้วย
ทางด้านแม่ของเธอนั้นยืนกรานว่าตนเองคือเหยื่อ ย่อมไม่เต็มใจจะเซ็นใบหย่าเป็นธรรมดา แต่เป็นเพราะไม่มีใครเชื่อเธอเลยแม้แต่คนเดียว ติงเสวี่ยเหม่ยจึงไม่มีทางเลือกอื่น นอกจากตัดสินใจผูกคอตายประชด ทั้งหมดก็เพื่อพิสูจน์ความบริสุทธิ์ของตัวเอง
ทุกคนที่มีส่วนร่วมในเหตุการณ์ครั้งนั้น จนทำให้เรื่องราวเลยเถิดมาจนถึงจุดนี้ ล้วนนับว่าเป็นคนร้ายทั้งสิ้น ไม่เว้นแม้กระทั่งพ่อของหลินจิงซู ที่ไม่เคยออกหน้าหรือพูดอะไรเพื่อทวงความเป็นธรรมให้กับแม่ของเธอเลยตั้งแต่ต้นจนจบ!
หลินจิงซูดวงตาเปลี่ยนเป็นสีเลือดแดงก่ำ บีบกระชับกรรไกรในกำมือแน่น ก่อนจะพุ่งเสียบใส่ต้นคอของชายผู้นั้นสุดแรงเกิดอย่างไร้ปราณี เธอเล็งเส้นเลือดแดงใหญ่บริเวณคออีกฝ่ายเอาไว้ หวังจะฆ่ามันให้ตายคาที่ในทันที
เสี้ยวจังหวะเดียวกันกับที่ปลายกรรไกรแหลมกำลังจะลุถึงบริเวณลำคอ ชายคนนั้นคล้ายสัมผัสถึงภัยอันตรายได้ก่อน จึงรีบเบี่ยงศีรษะหันมองมา ทำให้เป้าโจมตีของหลินจิงซูคลาดเคลื่อน เปลี่ยนไปเสียบทะลุเข้าที่หัวไหล่ของอีกฝ่ายแทน
“อ๊ากกก!!”
ชายคนนั้นร้องโอดครวญด้วยความเจ็บปวดคล้ายจะขาดใจ
เลือดสีแดงพุ่งกระฉูดรุนแรง
ชายคนนั้นวกสายตาเหลียวมองไปที่หลินจิงซูทันที พร้อมแหกปากร้องตะโกนลั่นด้วยความเกรี้ยวกราดว่า
“อีเด็กเวร! แกกล้าแทงฉัน ฉันก็กล้าฆ่าแก!”
อีกฝ่ายโผพุ่งเข้าใส่หลินจิงซูอย่างบ้าคลั่ง เวลานี้ หลินจิงซูเป็นเพียงเด็กสาวมัธยมปลายอ่อนแอคนหนึ่งเท่านั้น อย่างเก่งก็ทำได้เพียงแค่ลอบทำร้ายด้วยกรรไกรเหมือนเมื่อครู่ หากให้สู้กันแบบตัวต่อตัว เธอย่อมไม่มีทางเทียบชั้นกับชายฉกรรจ์ตรงหน้าได้อย่างแน่นอน
แต่ในเวลาเดียวกันนั้น ติงเสวี่ยเหม่ยที่อยู่ด้านหลังพลันได้สติ รีบคว้าอิฐแข็งก้อนหนึ่งที่อยู่แถวนั้นขึ้นมา แล้วหวดทุบเข้าที่หลังศีรษะของชายคนนั้นอย่างแรง
ชายคนนั้นถึงกับสูญเสียการทรงตัวยืนแทบไม่ตรง เลือดอุ่นไหลนองออกจากหลังศีรษะอย่างรวดเร็ว
หลินจิงซูชูกรรไกรขึ้นเตรียมเสียบแทงร่างของชายตรงหน้าอีกครั้ง แต่กลับพบว่าอีกฝ่ายรีบหมุนตัววิ่งหนีหางจุกตูดออกไปในสภาพเลือดไหลอาบ เธอจึงหยุดมือไว้เพียงแค่นั้นไม่เคลื่อนไหวใดๆต่อ
ในชีวิตก่อนหน้า เมื่อครั้งที่ติงเสวี่ยเหม่ยถูกข่มขื่น คดีนี้กลับไม่สามารถเสาะหาตัวคนร้ายได้พบ กล่าวคือผู้ลงมือกลับเป็นปริศนาโดยตลอด
แต่ในที่สุด ครั้งนี้หลินจิงซูก็รู้ตัวคนร้ายแล้ว แต่ถึงอย่างนั้น ด้วยสถานการณ์หลายๆอย่างในเวลานี้ ทำให้เธอไม่สามารถทำอะไรได้มากไปกว่านี้แล้วเช่นกัน ติงเสวี่ยเหม่ยขวัญเสียหวาดผวาอย่างหนัก จนร่างกายสั่นเทาเกินจะควบคุม และได้ทรุดตัวล้มลงกับพื้นอย่างอ่อนแรง
หลินจิงซูไม่มีทางเลือกอื่นเช่นกัน จำต้องยอมรามือไม่ไล่ตามตัวคนร้ายต่อ แล้วหันกลับมาช่วยประคองร่างของติงเสวี่ยเหม่ยขึ้นมาแทน
“แม่ ทำไมวันนี้ถึงมาเดินในตรอกนี้ได้ล่ะ?”
หลินจิงซูเคยนึกเคยฝันที่ไหนกันว่า จู่ๆแม่ตัวเองก็นึกอยากจะเดินผ่านตรอกซอยเปลี่ยวๆสายนี้ ที่ร้อยวันพันปีไม่เคยเฉียดผ่าน?
บริเวณนี้ไม่ค่อยมีผู้คนสัญจรไปมาสักเท่าไหร่ เพราะทางทั้งแคบและมืด อีกทั้งหน้าถนนยังขรุขระเดินเหินลำบากอีกด้วย
ติงเสวี่ยเหม่ยตอบทั้งน้ำตา
“พ่อของลูกวานให้แม่นำเงินเก็บของเราไปซื้อสร้อยทองให้ลูกพี่ลูกน้อง เพื่อมอบเป็นของขวัญวันเกิดครบรอบอายุสิบแปดปี ป้ารองเป็นคนแนะนำเส้นทางลัดนี้ให้แม่ บอกว่าใกล้ร้านทองมากกว่า แม่ก็เลยลองมาดู”
ที่แท้ก็เป็นแบบนี้นี่เอง ไม่แปลกใจเลยว่าทำไมในชีวิตก่อนหน้าป้ารองถึงได้พาย่ามา ‘จับชู้’ ถึงที่นี่ได้อย่างแม่นยำนัก!
เรื่องนี้ต้องมีอะไรเกี่ยวข้องกับผู้หญิงคนนั้นแน่ๆ!
แต่ทำไมต้องทำกันถึงขนาดนี้ด้วยนะ? ฉีกหน้าทำลายชื่อเสียงของติงเหสี่ยวเหม่ยไปแล้วจะได้อะไร?
ทันใดนั้นหลินจิงซูพลันนึกอะไรบางอย่างขึ้นมาได้ จึงรีบร้องถามออกไปว่า
“แม่ แล้วเงินที่จะเอาไปซื้อสร้อยทองล่ะอยู่ที่ไหน?”
“อยู่ในกระเป๋านี่” ติงเสวี่ยเหม่ยตบกระเป๋าสะพายข้างตัวเบาๆ
“เอามาให้หนูก่อน เร็วเข้า!” หลินจิงซูร้องสั่งโดยเร็ว
ท่ามกลางสถานการณ์ที่เหนือความคาดหมายเช่นนี้ สติสตางค์ของติงเสวี่ยเหม่ยได้กระเจิงไม่เหลือแล้ว ได้ยินลูกสาวขึ้นเสียงออกคำสั่งเช่นนี้ เธอจึงไม่ทันได้คิดอะไรมาก และรีบหยิบเงินก้อนหนึ่งส่งให้หลินจิงซูอย่างว่าง่าย
หลินจิงซูรับมาแล้วก็รีบนำไปฝังไว้ใต้กองอิฐแดงที่ถูกนำมาโยนทิ้งไว้ข้างทาง พร้อมโยนแผ่นไม้จำนวนหนึ่งกลบไว้อย่างรวดเร็วเพื่อซ่อนให้มิดชิดยิ่งขึ้น
“ซูซู ลูกคิดจะทำอะไรน่ะ?”
ติงเสวี่ยเหม่ยเฝ้าดูการกระทำของลูกสาวด้วยความสับสนไม่เข้าใจ
หลินจิงซูร้องบอกต่อโดยไม่สนใจจะตอบคำถามก่อนหน้า
“ทันทีที่คุณย่ากับป้ารองมาถึง แม่ต้องบอกไปว่าถูกโจรปล้น ส่วนหนูก็แค่บังเอิญผ่านมาก็เลยรีบวิ่งมาช่วย!”
ติงเสวี่ยเหม่ยยิ่งงุนงงหนักเข้าไปอีกจนไม่สามารถปะติปะต่อเรื่องราวได้ถูก ระหว่างกำลังจะปริปากถามว่าทำไมคุณย่ากับป้ารองต้องมาที่นี่ด้วย ไม่ใช่ว่าทั้งคู่ควรอยู่ที่บ้านเหรอ? แต่ทันใดนั้นเอง ก็มีเสียงโวยวายดังลั่นขึ้น
“ซิ่วเหลียน ที่แกพูดมาเป็นความจริงเหรอ?! นังแพศยาเสวี่ยเหม่ย! แกกล้าดียังไงถึงได้สวมเขาให้ลูกชายชั้น!!”
“คุณแม่ ฉันเองก็ไม่แน่ใจเหมือนกัน แค่เคยได้ยินคนเขานินทากันว่าพี่สะใภ้เสวี่ยเหม่ยแอบเล่นชู้อยู่กับผู้ชายอื่น…”
*****
อ่านจบแล้วอย่าลืมกดติดตามกันด้วยนะครับบ><
จากอดีตนักล่าซอมบี้ในวันสิ้นโลกต้องผันตัวเป็นสาวน้อยชาวไร่สุดแกร่งที่ต้องช่วยแม่และน้องสาวให้รอดพ้นจากญาติพี่น้องมหาภัยและความยากจน เปิดธุรกิจร่ำรวยใหญ่โตเอาให้เหลือกินเหลือใช้ไปทั้งชาติ!
เธอถูกย่าแท้ๆฆ่าตายตอนอายุ6ขวบ กลายเป็นผีเร่ร่อนเฝ้าดูอนาคตและจุดจบของทุกคนที่รักอย่างเจ็บแค้น ย้อนเวลากลับมาครั้งนี้ก็เพื่อแก้ไขทุกสิ่ง! แต่เอ๊ะ?คุณแม่ผู้ขี้ขลาดคนนั้นแข็งแกร่งขึ้นตั้งแต่เมื่อไหร่?!
นักศึกษาสาวหัวกะทิแห่งศตวรรษที่21เกิดใหม่เป็นลูกเลี้ยงบ้านนางเอกนิยาย ทันทีที่ทะลุมิติเข้ามาดันอยู่ในฉากคันขับที่เธอกับวายร้ายหลักของเรื่องต่างเสียรู้ ถูกจับขึ้นเตียงด้วยกันเพื่อรอเวลาถูกเปิดโปง!
เรื่องราวการผจญภัยของอดีตสายลับนักฆ่า ที่ทะลุมิติมาเป็นแม่ผู้ชั่วร้าย ทั้งยังต้องร่วมเดินทางกับเด็กน้อยผู้แสนใสซื่อในโลกที่ผู้คนใช้พลังลมปราณ อันตรายมีทั่วทุกหนแห่ง แล้วพวกเขาจะเอาชีวิตรอดได้หรือไม่?!
จากชายหนุ่มที่บังเอิญได้รับมรดกตกทอดของบรรพชนสกุลเฉินเพราะอุบัติเหตุ และในที่สุด จากลูกเขยที่ไร้ค่าไม่ต่างจากขยะชิ้นหนึ่ง กลับกลายมาเป็นหมอเทวดาที่มีทักษะทางการแพทย์ที่ล้ำเลิศยิ่ง
จ้าวเฉียน อายุ23ปี พนักงานกินเงินเดือนธรรมดา รายได้เดือนละแค่5,000หยวน ทุกคนในบริษัทต่างดูถูกดูแคลนเขา เพราะเจ้านี่ขี้เหนียวเหลือเกิน แม้แต่แฟนเก่ายังทนเขาไม่ไหว และหันมาแอบคบชู้กับผู้จัดการของเขาแทน
อดีตนักฆ่าสาวอันดับหนึ่ง ผู้มีใจคอโหดเหี้ยมได้ทะลุมิติอยู่ในร่างสาวน้อยรูปโฉมอัปลักษณ์ ที่ทุกคนต่างสาปส่งและรังแกสารพัด!
หลังจากแต่งงานมาสามปี เสิ่นเนียนอันคิดว่าตนเองสามารถเอาชนะใจโฮ่วอวินโจวได้ แต่กลับพบว่าเขามีเพียงคนรักแรกอยู่ในใจ "ฉันจะปล่อยเธอไปหลังจากที่เธอคลอดลูก" ในวันที่เสิ่นเนียนอันมีปัญหาในการคลอดบุตร โฮ่วอวินโจวได้พาผู้หญิงอีกคนออกจากประเทศด้วยเครื่องบินส่วนตัว "ไม่ว่าคุณจะชอบใครก็แล้วไป สิ่งที่ฉันเป็นหนี้คุณ ฉันคืนให้หมดแล้ว" หลังจากที่เสิ่นเนียนอันจากไป โฮ่วอวินโจวก็เสียใจ "กลับมาหาฉันอีกครั้งได้ไหม"
เมื่อสองปีที่แล้ว เพื่อช่วยคนรักในใจ พระเอกถูกบังคับให้แต่งงานกับนางเอก ในใจของเขา เธอเป็นคนน่ารังเกียจและแย่งคนรักของคนอื่น เขาเลยเย็นชาต่อเธอมาตลอด แต่กลับอ่อนโยนและเอาใจใส่กับคนรักในใจถึงเป็นเช่นนี้ เธอยังคงรักเขาอย่างเงียบ ๆ เป็นเวลาสิบปี ต่อมาตอนที่เธอรู้สึกเหนื่อยและอยากจะท้อแท้นั้น เขากลับตื่นตระหนก... เมื่อเธอกำลังจะตายขณะตั้งท้องลูกของเขา ในที่สุดเขาก็ตระหนักว่าผู้หญิงที่เขายอมเอาชีวิตตัวเองไปแลกนั้นก็คือเธอโดยตลอด
เพิ่งหย่ากับอดีตสามีไปไม่นานแต่ปรากฏว่าตัวเองท้อง จะทำอย่างไรดี? หรือจะให้อดีตสามีรับผิดชอบ แต่ก็ไม่คิดว่าอดีตสามีมีคนรักใหม่ไปแล้ว ชีวิตของถังชีชีนั้นช่างสับสน ช่างน่าวิตกกังวลและไม่รู้จะอธิบายยังไงดี เธอต้องคอยระวังไม่ให้คุณเฟิงรู้เรื่องการตั้งครรภ์จนกระทั่งคลอดลูกออกมาอย่างปลอดภัย แต่ไม่คิดว่าจะถูกเขาบังคับถึงเพียงนี้ "เราหย่ากันแค่สี่เดือน แต่เธอกลับตั้งครรภ์ได้เจ็ดเดือนแล้ว บอกมาดี ๆ ว่า ลูกเป็นของใคร!"
จางหยู่เสวียน เดิมทีเป็นสตรีปากร้ายและถูกผีพนันเข้าสิงจนไม่ใส่ใจลูกและสามีที่เกิดอุบัติเหตุจนพิการไป สตรีนางนั้นก็เริ่มทอดทิ้งสามีแล้วเลือกที่จะทอดสะพานให้บัณฑิตหนุ่มหน้าตาดีคนหนึ่ง จนทำให้ภรรยาของเขาเกิดความหึงหวงผลักนางตกน้ำจนพบจุดจบที่น่าอดสู ทว่าเมื่อจางหยู่เสวียน นักฆ่าสาว เจ้าของรหัสหมายเลข 13 ในองค์กรนักฆ่าระดับโลกมีเหตุให้ถูกฆ่าตาย เนื่องจากไม่ยอมสังหารคนดี เธอจึงได้รับโอกาสใหม่จากสวรรค์เพื่อตอบแทนความดีครั้งนี้ในการมาเกิดใหม่ในร่างคนอื่นในยุคจีนโบราณ ทว่าเจ้าของร่างเดิมนั้นทำตัวเหลวแหลก ไม่เคยใส่ใจความรู้สึกของครอบครัว จนถึงขนาดคิดขายลูกกิน นักฆ่าสาวที่ข้ามเวลามาจากอนาคตจึงต้องทำทุกทางเพื่อแก้ไขเรื่องราวที่ยุ่งเหยิงนี้ ก่อนที่จะมีจุดจบเลวร้ายไม่ต่างไปจากเจ้าของร่างเดิม ชีวิตใหม่ครั้งนี้ นางจะใช้มันอย่างดีเพื่อดูแลครอบครัวนี้ให้มีความสุข และลบแผลใจแย่ๆ ให้หมดไปจากทุกคนในครอบครัว "ท่านแม่จะทิ้งเราเหรอ!" ไม่รู้เด็ก ๆ ที่วิ่งเล่นกันอยู่ด้านนอกเข้ามาได้ยินที่ประโยคไหน เข้าใจว่าผู้เป็นแม่จะออกไปและไม่กลับมาอีก สองพี่น้องกอดหมับที่ขามารดาคนละข้าง ทิ้งน้ำหนักลงพื้นเต็มที่ หากจะไปพวกเขาจะเกาะหนึบนางไปเช่นนี้ "ท่านแม่อย่าทิ้งข้าเลยนะเจ้า" ซ่งอวี้หลานร้องไห้โฮ น้ำตาทะลักออกจนชายชุดนางชุ่มในเวลาไม่กี่พริบตา ทางด้านซ่งหยวนหมิงก็รู้สึกว่าจะแพ้ไม่ได้ เลยกลั้นใจบีบน้ำตาจนหน้าแดง เห็นลูกทุ่มเทช่วยเขาขนาดนี้ ซ่งอี้หนานก็คุกเข่าลง ประคองมือนางไว้ไม่ปล่อย ใบหน้าคมคายจากมุมมองที่สูงกว่า ทำให้เขาดูคล้ายสุนัขตัวโต "ข้า เอ่อ" จางหยู่เสวียนพูดไม่ออก
นางเจ็บปวดปางตายเมื่อเขาโยนร่างบอบช้ำทิ้งไว้หลังจวนโดยไม่แยแส เมิ่งลี่เฟยน้ำตาไหลพรากทว่ากลับไม่ทำให้คนที่เพิ่งเหยียบย่ำร่างกายเล็กเห็นใจแต่ประการใด"เฝ้านางเอาไว้ให้ดีอย่าให้ออกมาทำเรื่องชั่วอีก"