นักศึกษาสาวหัวกะทิแห่งศตวรรษที่21เกิดใหม่เป็นลูกเลี้ยงบ้านนางเอกนิยาย ทันทีที่ทะลุมิติเข้ามาดันอยู่ในฉากคันขับที่เธอกับวายร้ายหลักของเรื่องต่างเสียรู้ ถูกจับขึ้นเตียงด้วยกันเพื่อรอเวลาถูกเปิดโปง!
นักศึกษาสาวหัวกะทิแห่งศตวรรษที่21เกิดใหม่เป็นลูกเลี้ยงบ้านนางเอกนิยาย ทันทีที่ทะลุมิติเข้ามาดันอยู่ในฉากคันขับที่เธอกับวายร้ายหลักของเรื่องต่างเสียรู้ ถูกจับขึ้นเตียงด้วยกันเพื่อรอเวลาถูกเปิดโปง!
ตอนที่1 เกิดใหม่สู่โลกนิยาย
“ซี๊ดด…ปวดหัวชะมัด”
ซูหนี่สติตื่นขึ้นท่ามกลางภวังค์ความเจ็บปวด
ทั้งเนื้อทั้งตัวร้อนรุ่มเสมือนร่างกายกำลังแตกสลายออกเป็นเสี่ยง กระแสความปวดระบมเจือผสมอาการชาที่แตกกิ่งก้านกระจายไปทั่วทั้งแขนและขา
ซูหนี่ปวดหนึบจนต้องนวดคลึงขมับอย่างช้าๆ ค่อยๆลืมตาตื่นขึ้นมองโลกตรงหน้า สภาพการณ์โดยรอบภายในห้องนั้นมืดมิดไปหมด ต้องใช้เวลาครู่หนึ่งกว่าจะปรับสายตาเพิ่มความชัดเจนได้ ในที่สุดก็มองเห็นสิ่งผิดวิสัยบางอย่างที่อยู่ร่วมเตียงเดียวกัน…
เธอถึงกับตกใจตาค้าง และพลันหายใจไม่ทั่วท้องชั่วขณะ
เวลานี้ซูหนี่กำลังนอนร่วมเตียงอยู่กับชายหนุ่มผู้หนึ่ง ร่างกายเปลือยเปล่าของเขาเผยให้เห็นมัดกล้ามล่ำสันแข็งแกร่งอยู่ต่อหน้าชัดเจน
วินาทีนั้น ซูหนี่แทบกรีดร้องออกมาด้วยความตกใจ นับว่ายังโชคดีที่เธอมีสติยั้งหยุดไว้ได้ทัน อึดใจต่อมาจึงเร่งพลิกตัวกระโจนหนีห่างเตียงโดยเร็ว
เนื่องเพราะเป็นเตียงเดี่ยวขนาดหนี่งคนนอน พื้นที่จึงค่อนข้างเล็กมาก แต่นี่ยังมีชายหนุ่มร่างกำยำมานอนจับจองพื้นที่อีก จึงยิ่งส่งผลให้ร่างเปลือยเปล่าของคนทั้งสองต้องแนบชิดติดกันยิ่งขึ้น โชคดีที่ซูหนี่เป็นหญิงสาวร่างเพรียวบาง ช่องว่างระหว่างเธอและเขาจึงยังพอมีหลงเหลืออยู่บ้าง…
ร้อยพันความคิดแล่นผ่านอยู่ในหัวของซูหนี่จนโกลาหลไปหมด เธอพยายามปะติดปะต่อเรื่องราวทั้งหมดว่าแท้จริงแล้วเกิดอะไรขึ้นกันแน่? จังหวะเดียวกันนั้น ชุดความทรงจำแปลกประหลาดพลันทะลักทลายไหลสู่สมองของเธอดุจกระแสน้ำที่ทั้งรุนแรงและไร้ปราณี ประหนึ่งคมเข็มที่กระหน่ำทิ่มแทงเข้าใส่
หลังจากนั้นไม่นาน ซูหนี่ก็ถึงกับถอนหายใจเหยียดยาว เสมือนเรื่องราวชวนฝันกลางวัน แต่ดันเกิดขึ้นจริง นี่เธอทะลุมิติมาเกิดใหม่ในนวนิยายที่เคยอ่าน ซึ่งมีชื่อเรื่องว่า ‘ลุ้นรักผู้บัญชาการสุดแกร่ง’
แต่พูดก็พูดเถอะ เจ้าของร่างเดิมที่เธอทะลุมิติเข้ามาสวมบทบาทนั้น เส้นทางชีวิตของเธอสุดแสนจะรันทดเสียยิ่งกว่าอะไรดี
ซูหนี่เป็นบุตรสาวบุญธรรมของบ้านตระกูลกู่ พ่อบุญธรรมของเธอมีชื่อว่า กู่กั๋วเฉิง เขาคนนี้เคยบอกกับเธอตั้งแต่ยังเด็กว่า พ่อแม่บังเกิดเกล้าของเธอเสียชีวิตระหว่างทำภารกิจ ปฏิบัติการในครั้งนั้นเหลืออีกเพียงก้าวเดียวก็จะประสบความสำเร็จแล้ว แต่ท้ายสุดกลับต้องล้มเหลวอย่างน่าใจหาย เมื่อได้ฟังเช่นนั้น เธอจึงคาดเดาเอาว่า พ่อแม่ที่แท้จริงของเธอคงจะเป็นสายลับ หรือไม่ก็ทำงานให้กับทางรัฐบาล
ทว่าในความเป็นจริง ภายนอกกลับมีข่าวลือหนาหูว่า พ่อแม่บังเกิดเกล้าของซูหนี่หายตัวไปอย่างลึกลับ ทอดทิ้งลูกของตัวเองโยนภาระให้ครอบครัวอื่นรับเลี้ยง และเวลานี้ก็หนีไปไหนต่อไหนไม่มีผู้ใดทราบ
เพราะความเห็นแก่ตัวของทั้งคู่ เธอจึงกลายมาเป็นเด็กกำพร้าที่พ่อแม่ไม่ต้องการ
ภายใต้เสียงซุบซิบนินทาเหล่านั้นที่ต้องทนฟังมานานหลายปี ทำให้ซูหนี่รังเกียจพ่อเป็นแม่แท้ๆของตนเองเข้ากระดูกดำ ตรงกันข้าม เธอกลับรู้สึกซาบซึ้งในบุญคุณของครอบครัวตระกูลกู่เสียยิ่งกว่าอะไรดี ที่ยอมรับเลี้ยงเด็กกำพร้าอย่างเธอ มิหนำซ้ำยังไม่เคยหวังสิ่งตอบแทนใดๆอีกด้วย
เพราะท้ายที่สุดแล้ว ขึ้นชื่อว่าเป็นลูกสายลับ จะมีใครกล้าเสี่ยงรับเลี้ยงเธอเป็นลูกบุญธรรมล่ะ?
ด้วยความซาบซึ้งและรู้สึกนับถือน้ำใจอีกฝ่ายเรื่อยมา ซูหนี่จึงยินดีทำงานหนักเยี่ยงวัวควายอยู่ในบ้านตระกูลกู่ และยินยอมทำทุกอย่างเพื่อให้น้องสาวบุญธรรมของเธอ กู่หวานหวาน ได้มีอนาคตอันสดใสที่สุด
กู่หวานหวานคือนางเอกของนิยายเรื่องนี้ เส้นทางชีวิตของเธอล้วนโรยด้วยกลีบกุหลาบ มีแต่ความสมหวังดังใจนึก ประหนึ่งว่าชะตาชีวิตของหญิงสาวคนนี้เกิดมาพร้อมกับดาวนำโชค หากเปรียบกับตัวละครสมทบอย่างซูหนี่แล้ว ตัวเธอก็เป็นเพียงแค่ผงธุลีเล็กๆที่อยู่ตามพื้นดินเท่านั้น
ไม่ว่ากู่หวานหวานจะชี้นิ้วให้เดินไปทางใด เจ้าของร่างเดิมก็เต็มใจเดินไปด้วยความยินดี แม้เบื้องหน้าจะเป็นนรกก็ตาม…
นึกถึงเรื่องราวทั้งหมดทั้งมวลเหล่านี้ ซูหนี่ก็ถึงกับถอนหายใจออกมาอย่างช่วยไม่ได้ ขณะเดียวกันยังเหลือบมองชายร่างเปลือยที่อยู่ข้างๆเธอ
เซิ่งเต๋าอัน
วายร้ายหลักประจำนิยายเรื่องนี้
ภายในห้องที่มืดสลัว มีม่านหน้าต่างบานหนึ่งเปิดแง้มเป็นช่องอยู่เล็กน้อย จึงมีแสงสว่างทอดส่องเข้ามาได้ ทำให้ซูหนี่พอมองเห็นใบหน้าของชายหนุ่มผู้นี้ได้ชัดเจนยิ่งขึ้น
ทั้งที่กำลังนอนหลับตาอยู่แท้ๆ แต่ก็ยังไม่อาจปกปิดความหล่อเหลาเย็นชาของเขาได้เลย ขนตาโค้งงอนเรียงตัวสวยงามเสียยิ่งกว่าผู้หญิง สันจมูกสูงโด่งกำลังพอดี ทรงกรามลึกตัดกับใบหน้าสวยงามนั้น เมื่อแรกเห็นเผยแสดงถึงความเย็นชาสูงส่งประหนึ่งคุณชายจากตระกูลใหญ่
ด้วยทรงไหล่ที่กว้างแกร่งกับเอวที่คอดราวกับนายแบบ มิหนำซ้ำยังมีกล้ามท้องมัดแน่นเปรี๊ยะ ทำให้ชายผู้นี้ดูสมบูรณ์แบบไร้ที่ติประหนึ่งงานศิลป์ชั้นเอก!
ไหนจะรอยแผลเป็นฉกรรจ์สองเส้นบนแผ่นอก ลักษณะบาดแผลเป็นเส้นบางคล้ายถูกกรีดแทงเป็นทางยาว สังเกตจากสีที่ยังแดงไม่ตกสะเก็ด น่าจะแผลที่เพิ่งเกิดสดๆใหม่ๆ อย่างไรก็ตาม รอยแผลเหล่านั้นกลับไม่สามารถลดทอนคุณค่าของชายผู้นี้ให้ดูด้อยลงได้แต่อย่างใด ตรงกันข้าม กลับเพิ่มรัศมีความดุดันน่าหวาดกลัวให้กับเขา จนกลายมาเป็นเสน่ห์ดึงดูดอย่างหนึ่งไปโดยปริยาย
ว่าแต่นี่เกิดอะไรขึ้นกับเธอและเขากันแน่…
ทันทีที่นึกออก ประกายตาของซูหนี่ก็ฉายสว่างวูบวาบ ทั้งหมดต้องขอบคุณสองแม่ลูกคู่งามไส้อย่างหลัวจุนฮวาซึ่งเป็นแม่บุญธรรมของเธอ และกู่หวานหวาน น้องสาวผู้แสนดี๊แสนดีของเธอ!
เมื่อวานนี้เป็นวันเกิดครบรอบอายุ 18 ปีของซูหนี่ และหลังจากวันนี้เป็นต้นไป เธอก็จะได้รับที่ดินและทรัพย์สินทั้งหมดที่พ่อแม่แท้ๆของตนเองทิ้งไว้ให้
และนี่ก็คือสิ่งที่ครอบครัวตระกูลกู่หมายปองมาโดยตลอด แต่อีกด้าน คิดจะทำการใหญ่ย่อมต้องระแวดระวัง หากใช้ไม้แข็งบังคับข่มขู่กันตรงๆ อาจต้องตกเป็นขี้ปากชาวบ้าน ถูกคนพวกนั้นกล่าวหาว่ารังแกเด็กกำพร้า ด้วยเหตุนี้ พวกเขาจึงคิดหาวิธีบ่อนทำลายชื่อเสียงของเธอแทน และอาศัยช่องโหว่ดังกล่าวเป็นข้ออ้างขับไล่เธอให้พ้นบ้านตระกูลกู่ เพียงเท่านี้ ทรัพย์สมบัติทั้งหมดที่ซูหนี่ควรจะได้ ก็จะตกเป็นของบ้านตระกูลกู่โดยชอบธรรม
ซึ่งวิธีบดขยี้ชื่อเสียงเธอให้ปนปี่ยับเยินก็ช่างง่ายดายนัก แค่จัดฉากร่วมรักสุดฉาวโฉ่ขึ้นมาก็สิ้นเรื่อง และชายผู้โชคดีที่จะต้องมาเป็นคู่นอนของเธอนั้นก็ไม่ใช่ใครอื่น เขาคือเซิ่งเต๋าอัน
ตราบใดที่ซูหนี่ต้องโทษมีคดี แอบลักลอบมีสัมพันธ์สวาทกับชายที่ไม่รู้จักแล้วล่ะก็ ภายใต้แรงกดดันของผู้คนในสังคมรอบข้าง ยังไงซะเธอก็ไม่มีหน้าทนอยู่ในหมู่บ้านหยุนเฉิงแห่งนี้ได้อีกต่อไปอย่างแน่นอน
“ฉันรู้นะว่าคุณไม่ได้หลับ”
ซูหนี่พ่นลมผ่านลำคอแผ่วเบา กลายเป็นเสียงแหบพร่าเมื่อเปล่งออกมา
เมื่อได้ยินเช่นนั้น เซิ่งเต๋าอันก็ลืมตาตื่นขึ้นทันที โผล่พรวดพุ่งขึ้นคว้าลำคอของซูหนี่ไว้อย่างว่องไว ประกายตาดุจสัตว์ป่าน่าสะพรึงกลัวของเขาฉายแสงเย็นยะเยือก พร้อมเปล่งคำสั้นๆแต่ดุดันยิ่งว่า
“ถ้ารู้ดีนักก็พูดมา วางยาจัดฉากกันแบบนี้ เธอต้องการอะไร!?”
ซูหนี่ตะเกียกตะกายคว้าจับท่อนแขนของเขาไว้ ปากก็ร้องสำลักรุนแรงเจียนขาดอากาศหายใจ น้ำเสียงที่เปล่งออกมาติดขัดพูดได้กระท่อนกระแท่น
“ปล่อย…ปล่อยก่อน…”
ใจเย็นก่อนพ่อหนุ่ม!
เป็นอย่างที่คาดไว้ไม่มีผิด พบเจอกันครั้งแรกก็ลงมือลงไม้คุกคามกันขนาดนี้
สมแล้วที่เป็นตัวร้ายหลักของเรื่อง!
แววตาความเหี้ยมโหดที่ชายผู้นี้ครอบครองนั้น ดุดันเยี่ยงสัตว์ป่าอย่างแท้จริง ถูกรัศมีตัวร้ายสุดแสนเย็นชาแผ่ครอบคลุมกดดันหนักหน่วงเช่นนี้ ทำเอาซูหนี่ถึงกับสั่นกลัวเกินหักห้าม กังวลว่าตนเองจะต้องมาจบชีวิตคามืออีกฝ่ายเสียก่อนหรือไม่?
“ไม่ใช่…ฉันไม่…ฉันไม่ได้ทำ ฉันเองก็…ตกเป็นเหยื่อเหมือนกัน!”
ซูหนี่รวบรวมเรี่ยวแรงเฮือกสุดท้าย ฝืนพูดตะกุกตะกักจนจบ ใบหน้าของเธอผลัดเปลี่ยนเป็นสีแดงก่ำเพราะขาดอากาศหายใจ แต่ถึงอย่างนั้น สายตาทั้งคู่ของเธอยังคงใสสว่างเฉียบคมเต็มไปด้วยความหนักแน่น
ไร้ซึ่งร่องรอยความผิดปกติฉายผ่านสายตาคู่นั้น ท้ายที่สุด เซิ่งเต๋าอันจึงยอมผ่อนแรงปล่อยมือลง แต่ก็จับร่างของหญิงสาวเหวี่ยงทุ่มลงบนเตียงแทน
ถัดมา เขาจึงค่อยก้มเดินเก็บเสื้อผ้าของตนที่กระจัดกระจายอยู่เกลื่อนพื้นขึ้นมาทีละชิ้นสองชิ้น ทุกอากัปกิริยาการเคลื่อนไหวของเขาล้วนมีราศีสง่างาม เสมือนบุรุษผู้สูงศักดิ์ก็ไม่ปาน
น้ำเสียงของเขายังคงรักษาความเย็นชาไว้เต็มเปี่ยม เร้นซ่อนแววคุกคามเป็นภัยแฝง
“ก่อนที่ผมจะแต่งตัวเสร็จ หวังว่าจะได้ยินคำตอบที่รื่นหู”
“โอ้ อืม…”
ซูหนี่สะดุ้งตื่นจากภวังค์ เห็นอีกฝ่ายกำลังสวมใส่เสื้อผ้าอยู่ต่อหน้า วินาทีนั้นเธอก็เกือบจะเคลิบเคลิ้มตาม
เธอยังพอจดจำเนื้อหาในนวนิยายเรื่องนี้ได้ลางๆ กู่หวานหวานเป็นเจ้าหน้าที่รัฐประจำสหพันธ์สตรีในเขตอำเภอชิงไห่ ต่อมา เธอมีภารกิจต้องเดินทางไปที่โรงงานเหล็ก เพื่อเข้าแสดงความเสียใจต่อการตายของสหายหญิงเมื่อไม่กี่วันก่อน แต่บังเอิญเกิดเหตุเพลิงไหม้จากหม้อต้มแรงดันระเบิด ในเวลาต่อมา ทหารหนุ่มสองนายอย่างเซิ่งเต๋าอันและเฉินหยุนถิงก็ได้ฝ่าทะเลเพลิงบุกเข้าไปช่วยเธอออกมาได้
วีรบุรุษผู้กอบกู้ชีวิตมีถึงสอง แต่คนหนึ่งพยายามแทบตายกลับได้เพียงคำขอบคุณ ส่วนอีกคนอย่างเฉินหยุนถิงที่กู่หวานหวานแอบชื่นชอบมานาน เธอถึงขั้นเดินทางไปพบอีกฝ่ายที่กองพันซึ่งเขาสังกัดอยู่ เพื่อส่งมอบสินน้ำใจตอบแทนให้เป็นการส่วนตัว
ทางฝั่งเซิ่งเต๋าอันนั้น หลัวจุนฮวาได้เอ่ยปากเสนอขอเป็นเจ้าภาพเลี้ยงอาหารให้แก่เขาเพื่อตอบแทนน้ำใจ และหวังว่าหลังจากนี้จะไม่มีสิ่งใดติดค้างกันอีก ระหว่างที่มื้ออาหารดำเนินไปตามปกตินั้น หลัวจุนฮวาที่ในหัวได้วางแผนการตระเตรียมไว้แล้ว ในจังหวะที่อีกฝ่ายกำลังเผลอ เธอก็ได้แอบใส่ยาบางชนิดลงไปในอาหาร จากนั้น ก็จับซูหนี่และเซิ่งเต๋าอันขังไว้ในห้องเดียวกัน
จากเนื้อเรื่องในตอนนี้ แสดงว่าคนกลุ่มนั้นใกล้จะมาถึงที่นี่เพื่อจับผิดเธอกับเขาแล้วสินะ?
ทันทีที่คิดได้เช่นนั้น ซูหนี่ก็ขมวดคิ้วและเร่งอธิบายโดยเร็ว
“ทั้งหมดเป็นฝีมือของแม่บุญธรรมฉันเอง ทั้งหมดที่เธอทำลงไปก็เพื่อต้องการทำลายชื่อเสียงของฉัน ส่วนคุณก็แค่หมากตัวหนึ่งที่ติดรากแหไปด้วยเท่านั้น!”
เซิ่งเต้าอันไล่ติดกระดุมชุดเครื่องแบบทหารทีละเม็ดอย่างใจเย็น ปากก็เอ่ยตอบกลับสั้นๆอย่างไม่แยแส
“แล้ว?”
แล้ว..งั้นเหรอ?
ซูหนี่ถึงกับแอบกลอกตามองค้อนใส่อีกฝ่าย และเร่งขยายความต่อ
“แม่บุญธรรมของฉันกำลังพากู่หวานหวานกับเฉินหยุนถิงมาที่นี่น่ะสิ นี่ก็คงใกล้จะมาถึงกันแล้ว! สองคนนั้นพยายามจัดฉากใส่ความพวกเราเพื่อสร้างความเข้าใจผิด! ถ้าถูกจับได้ขึ้นมา พวกเราสองคนมีแต่เสียกับเสีย!”
เมื่อได้ฟังเช่นนั้น เซิ่งเต๋ากลับไร้ปฏิกิริยาใดๆ เพียงแค่โยนกองเสื้อผ้าของเธอให้อย่างลวกๆเท่านั้น
“ปากบอกไม่อยากให้คนอื่นเข้าใจผิด แต่ตัวเองยังไม่รีบใส่เสื้อผ้า?”
เขาพูดขึ้นอย่างใจเย็น
“นี่คุณ…”
ซูหนี่เขินอายสุดขีดจนใบหน้าแดงก่ำลามไปถึงใบหู กวาดตามองเรือนร่างขาวนวลดุจหิมะที่เปลือยเปล่าของตนเอง จะมีก็เพียงแค่ผ้าห่มผืนบางที่ปกคลุมอยู่เท่านั้น ซ้ำร้ายยังมีรอยจ้ำสีแดงปรากฏอยู่ตามเนื้อตามตัวหลายแห่งด้วย
เธอพ่นเสียงกระแทกใส่ทั้งเศร้าสลดระคนหงุดหงิด แต่ไม่คิดจะร้องขอให้เซิ่งเต๋าอันออกหน้ารับผิดชอบอันใดเช่นกัน
อย่าได้ลืมเชียวว่า ชายหนุ่มตรงหน้าเธอนั้นคือใคร?
นี่มันตัวร้ายหลักประจำนิยายเรื่องนี้!
ในเวลาเดียวกัน… จู่ๆพลันมีเสียงฝีเท้าของคนกลุ่มใหญ่ดังอยู่นอกประตู และกำลังเคลื่อนใกล้เข้ามา
แววตื่นตระหนกพลันโฉบแล่นผ่านดวงตาทั้งคู่ของซูหนี่ทันที!
อดีตนักฆ่าสาวอันดับหนึ่ง ผู้มีใจคอโหดเหี้ยมได้ทะลุมิติอยู่ในร่างสาวน้อยรูปโฉมอัปลักษณ์ ที่ทุกคนต่างสาปส่งและรังแกสารพัด!
มหาพิภพไร้สิ้นคุณธรรม วิถีมารจึงก่อเกิด อดีตนางมารร้ายจุติใหม่ในร่างคุณหนูปัญญาอ่อน ท่ามกลางสังคมอันเน่าเฟะ ผู้แข็งแกร่งเท่านั้นที่จะตัดสินทุกอย่าง! และจากนี้นางก็พร้อมบดขยี้ทุกสรรพสิ่ง!
จากอดีตนักล่าซอมบี้ในวันสิ้นโลกต้องผันตัวเป็นสาวน้อยชาวไร่สุดแกร่งที่ต้องช่วยแม่และน้องสาวให้รอดพ้นจากญาติพี่น้องมหาภัยและความยากจน เปิดธุรกิจร่ำรวยใหญ่โตเอาให้เหลือกินเหลือใช้ไปทั้งชาติ!
เธอถูกย่าแท้ๆฆ่าตายตอนอายุ6ขวบ กลายเป็นผีเร่ร่อนเฝ้าดูอนาคตและจุดจบของทุกคนที่รักอย่างเจ็บแค้น ย้อนเวลากลับมาครั้งนี้ก็เพื่อแก้ไขทุกสิ่ง! แต่เอ๊ะ?คุณแม่ผู้ขี้ขลาดคนนั้นแข็งแกร่งขึ้นตั้งแต่เมื่อไหร่?!
หลินจิงซู หญิงสาวผู้ล้มเหลวทุกอย่างในชีวิตเพราะครอบครัวเฮงซวย เธอย้อนเวลาไปยังปี1990 อาศัยความรู้ในโลกอนาคตเพื่อเก็บเกี่ยวโอกาสทางธุรกิจ ก่อร่างสร้างตัวจนมั่งคั่งร่ำรวย เพื่อบดขยี้ทุกคนที่เคยรังแก!
เรื่องราวการผจญภัยของอดีตสายลับนักฆ่า ที่ทะลุมิติมาเป็นแม่ผู้ชั่วร้าย ทั้งยังต้องร่วมเดินทางกับเด็กน้อยผู้แสนใสซื่อในโลกที่ผู้คนใช้พลังลมปราณ อันตรายมีทั่วทุกหนแห่ง แล้วพวกเขาจะเอาชีวิตรอดได้หรือไม่?!
ซ่งจิ่งถังรักฮั่วอวิ๋นเซินอย่างลึกซึ้งนานถึงสิบห้าปี แต่ในวันที่เธอคลอดลูกกลับตกอยู่ในอาการโคม่า ขณะที่ฮั่วอวิ๋นเซินกระซิบข้างหูเธออย่างอ่อนโยนว่า "ถังถัง อย่าฟื้นขึ้นมาอีกเลย สำหรับฉัน เธอไม่มีค่าอะไรอีกแล้ว" ซ่งจิ่งถังเคยคิดว่าสามีของเธอเป็นคนอ่อนโยนและรักใคร่ตัวเอง แต่จริงๆ แล้วเขามีแต่ความเกลียดชังและใช้ประโยชน์จากเธอเท่านั้น และลูกๆ ที่เธอเสี่ยงชีวิตให้กำเนิด กลับเรียกหญิงสาวคนอื่นว่า 'แม่' ด้วยน้ำเสียงอ่อนโยนต่อหน้าที่เตียงคนไข้ของเธอ เมื่อซ่งจิ่งถังฟื้นขึ้นมา สิ่งแรกที่เธอทำคือการตัดสินใจหย่าขาดอย่างเด็ดขาด! แต่หลังจากหย่าแล้ว ฮั่วอวิ๋นเซินจึงเริ่มตระหนักว่า ชีวิตที่ผ่านมาของเขาเต็มไปด้วยเงาของซ่งจิ่งถัง หญิงคนนี้กลายเป็นความเคยชินของเขา เมื่อพบกันอีกครั้ง ซ่งจิ่งถังปรากฏตัวในที่ประชุมในฐานะผู้เชี่ยวชาญด้านการแพทย์ เธอเปล่งประกายจนทุกคนต้องหันมามอง หญิงคนนี้ที่เคยมีแต่เขาในใจ บัดนี้กลับไม่แม้แต่จะมองเขาอีก ฮั่วอวิ๋นเซินคิดว่าเธอแค่ยังโกรธอยู่ ถ้าเขาเอ่ยปากพูดนิดหน่อย ซ่งจิ่งถังจะต้องกลับไปหาเขาแน่นอน เพราะเธอรักเขาหมดหัวใจ แต่ต่อมา ในงานหมั้นของผู้นำคนใหม่ของตระกูลเพ่ย เขาเห็นซ่งจิ่งถังสวมชุดแต่งงานหรูหรา ยิ้มอย่างเปี่ยมสุขและกอดแน่นเพ่ยตู้พร้อมสายตาที่เต็มไปด้วยความรักใคร่ ฮั่วอวิ๋นเซินอิจฉาจนแทบคลั่ง เขาตาแดงก่ำและบีบแก้วจนแตก เลือดไหลไม่หยุด...
หลิวฉูฉู่นางเอกดังย้อนเวลากลับเข้าไปอยู่ในซีรีส์ที่ตัวเองแสดง ทว่าเรื่องไม่ง่ายเลยสักนิด เมื่อเธอ ต้องเข้าไปอยู่ในร่างนางร้ายที่สุดท้ายต้องตายตอนจบเพราะถูกพระเอกฆ่าตาย! หลิวฉูฉู่จึงต้องทำทุกวิธีที่จะให้รอดพ้นจากความตายนี้ "ฝ่าบาท รักนะเพคะ" นิยายเรื่องนี้ เป็นแนวสุขนิยม สายคลั่งรักไม่ควรพลาด ไม่มีดราม่าค่ะ อ่านคลายเครียด นุบนิบหัวใจ ยิ้มน้อยยิ้มใหญ่ตลอดวัน หมายเหตุ ซื้อในเวบถูกกว่าแอปเปิ้ลนะคะ ขอบคุณมากค่ะ
วิญญาณฮองเฮาชั่วร้ายต้องเข้ามาอยู่ในร่างคุณหนูหลินจื่อเว่ยที่ตายโดยไม่ได้รับความเป็นธรรม เพราะต้องต่อกรกับแม่เลี้ยงใจยักษ์และโหดเหี้ยม งานนี้นางจึงต้องงัดฝีไม้ลายมือเก่า ๆ เอามาใช้ เพียงแต่ว่าเรื่องนี้ช่างยากเย็นนัก เมื่อนางมิได้ต่อสู้กับแม่เลี้ยงใจโฉดเพียงคนเดียว เมื่อบัดนี้กลับต้องเผชิญหน้ากับท่านอ๋องคู่หมั้น ที่วิปริตเย็นชาและยังเป็นโรคประสาทบ้าตัณหาผู้หนึ่ง!
วิญญาณแพทย์นิติเวชที่มีชื่อเสียงในศตวรรษที่ 21 ได้เข้ามาอยู่ในร่างคุณหนูของจวนเสนาบดีอย่างบังเอิญ ผู้คนกล่าวหาว่านางไม่เชี่ยวชาญด้านการแพทย์และทำให้บุตรชายของแม่ทัพตาย ด้วยเหตุนี้ฮ่องเต้ต้องการฆ่านางเพื่อให้คำอธิบายกับแม่ทัพ! ผู้คนกล่าวหาว่านางเป็นคนหยิ่งยโสและเจ้ากี้เจ้าการ ทุกคนเกลียดนาง และครอบครัวของนางต้องการไล่นางออก! ผู้คนกล่าวหาว่านางเป็นคนเลวทรามและไร้ความปรานี วางยาน้องสาว และพ่อของนางต้องการโบยนางจนตาย! ในความเป็นจริงหากอยากจะกล่าวหาผู้ใดสักคน มันก็หาข้ออ้างได้ทั่ว แต่นางเป็นคนไม่ยอมใคร นางผอมบางนางหนึ่งปลุกปั่นโลกด้วยความสามารถอันทรงพลังตนเอง ท่านอ๋องกล่าวว่า หากได้เจ้ามาครอบครอง ข้ายอมทรยศทุกคนในโลก นางกล่าวว่า เพื่อท่าน ต่อให้ทุกคนในโลกเกลียดข้า ข้าก็ยอม
เซียวหลิ่นตาบอดจากอุบัติเหตุทางรถยนต์ ลูกสาวคนรวยทุกคนต่างหลีกเลี่ยงเขา มีแต่สวี่โยวหรานยอมแต่งงานกับเขาโดยไม่ลังเล สามปีต่อมา เซียวหลิ่นกลับมามองเห็นได้อีกครั้ง จากนั้รเขา็ยื่นข้อตกลงการหย่าเพื่อยุติการแต่งงานนี้ เขากล่าวอย่างเย็นชาว่า "ฉันพลาดกับชิงชิงมานนานมากพอแล้ว ฉันไม่อยากให้เธอต้องรอนานกว่านี้!" สวี่โยวหรานลงนามในข้อตกลงการหย่าโดยไม่ลังเล ทุกคนต่างก็หัวเราะเยาะเธอตลอด - หัวเราะเยาะว่าที่เธอแต่งเข้าตระกูลเซียวถือว่าเกาะผู้มีอิทธิพลเข้า จากนั้นก็มาหัวเราะเยาะเธอที่ถูกทอดทิ้ง เป็นหญิงที่ไร้ค่า แต่ทุกคนกลับไม่รู้ว่า เธอคือหมออัศจรรย์ที่รักษาดวงตาของเซียวหลิ่นให้หายดี เป็นผู้ออกแบบเครื่องประดับมูลค่าหลักร้อยล้าน ผู้เป็นมือหนึ่งแห่งหุ้นที่ครองตลาดหุ้น และแม้แต่แฮกเกอร์ระดับแนวหน้าและลูกสาวแท้ๆ ของผู้มีอิทธิพล อดีตสามีมาขอร้องขอคืนดี ซีอีโอผู้เผด็จการก็โยนเซียวหลิ่นออกไปนอกประตูอย่างเย็นชา "ดูดีๆ นี่ภรรยาของผม"
เมื่อเธอโดนนอกใจจากคนที่รัก จึงหนีไปเริ่มต้อนชีวิตใหม่ที่ดูไบ และเธอก็ได้เจอกับหนุ่มอาหรับสุดแซ่บ ที่มายั่วยวนหลอกล่อให้เธอมีเซ็กส์ที่เร่าร้อนกับเขา และเขายังต้องการให้เธอท้องลูกของเขาอีก.... เรื่องย่อ.... “คุณอัสลาน… คุณออกไปห่างๆฉันหน่อยได้ไหม…ห้องครัวนี่มันก็กว้างมากเลยนะคุณ ทำไมคุณต้องมาใกล้ฉันขนาดนี้ด้วย…” “ก็ผมอยากจะดูว่าคุณใส่ยาเสน่ห์อะไรลงไปในอาหารหรือเปล่า เพราะช่วงนี้ผมรู้สึกโหยหาคุณตลอดเลย…” “ใครจะบ้ามาใส่ยาเสน่ห์ให้คุณกินล่ะ แค่นี้ฉันก็แทบไม่ได้นอนแล้ว… ขืนใส่ยาเสน่ห์ให้คุณกิน ฉันไม่นอนแกผ้าให้คุณเอาทั้งวันเลยเหรอ…” “หึๆ…ก็คุณมันน่ามั่นเขี้ยวนิ จะจับจะตบตรงไหนก็แน่นไปหมดเลย…แถมกลิ่นตัวก็หอมไปยันหอยเลย…อืม…พูดไปแล้วขอผมดมให้ชื่นใจหน่อยสิ วันนี้ทำงานมาโคตรเหนื่อยเลย…” “อื้อ…คุณจะทำอะไรน่ะคุณฮัสลาน นี่มันในห้องครัวนะคุณ…เดี๋ยวพวกแม่บ้านเดินเข้ามาจะทำยังไงคะ…ลุกขึ้นมาเดี๋ยวนี้เลยค่ะ จะมาดมอะไรตรงนี้” “ก็ผมอยากดมตอนนี้ไงคุณ…เห็นหน้าคุณแล้วผมก็รู้สึกเสี้ยนจนทนไม่ไหวแล้วเนี่ย…ขอผมดมให้ชื่นใจหน่อยเถอะ” “อ้ะ….คุณอัสลาน….อื้อ….ทำไมคุณมันหื่นแบบนี้เนี่ย….เอามือของคุณออกไปนะ เดี๋ยวคนมาเห็น….อ้ะ…ซี๊ด…อ่าส์….” อัสลาน ราเชด บรูฮัมนี อายุ 37 ปี “อัสลาน...” หนุ่มนักธุรกิจชาวอาหรับที่หน้าตาหล่อเหลาราวกับเทพบุตรในนิยาย แต่ต้องมาคัดสรรหาเมียเพื่อจะมีลูกสืบทอดวงตระกูลตามคำสั่งของพ่อแม่ ทำให้เขานั้นเลี่ยงไม่ได้กับการที่จะหาเมียสักคนมารับหน้าที่นี้ แต่เขาดันไปถูกใจแม่สาวไทยใจแข็งเข้านี่สิ ไม่ว่าเขาจะเสนออะไรไปเธอก็ไม่ยอมที่จะมาเป็นเมียของเขาเลย เพียงเพราะว่าเขานั้นแก่กว่าเธอไม่กี่ปีเท่านั้น ทำให้เขาต้องใช้เล่ห์กลหลอกล่อเธอให้มาทำงานกับเขา ก่อนจะค่อยๆอ่อยแล้วก็รุกจัดการตะครุบเหยื่ออย่างเธอให้กลายมาเป็นนกน้อยในกรงทองของเขา…. มารียา เวทติวัตร อายุ 27 ปี “มีน มารียา…” สาวไทยหน้าคมที่มีหุ่นอวบอัดเป็นที่ยั่วน้ำลายของพวกหนุ่มนั้น กลับไม่ประสบความสำเร็จเรื่องความรักเอาซะเลย เธอจึงหนีจากความเสียใจแล้วมาหางานทำอยู่ที่ดูไบ...เพื่อจะลืมทุกอย่างที่เกิดขึ้นกับเธอ และเธอก็ได้เจอกับเจ้านายขี้อ่อย ขี้ยั่ว ที่ไม่ว่าเธอจะทำอะไรหรือไปไหน เขาก็มักจะมายั่วน้ำลายทำให้หัวใจที่บอบช้ำของเธอนั้นปั่นป่วนอยู่เสมอ จนเธอถลำตัวมีอะไรกับเขาอย่างห้ามใจไม่อยู่ และเธอก็ได้รู้ว่าเขานั้นเป็นผู้ชายแก่ที่หื่นสุดๆเลย…แต่จะหื่นแค่ไหนต้องไปตามอ่านในนิยายนะคะ
© 2018-now MeghaBook
บนสุด
GOOGLE PLAY