คำโปรย ราเชนทร์ เกียรติก้องพิภพ รู้สึกขัดใจเมื่ออยู่ ๆ เขาก็ถูกบังคับให้แต่งงานกับเด็กในบ้าน เด็กที่พ่อแม่ของเขารับมาอุปการะเลี้ยงดู เขาไม่รู้ว่าเธอมีที่ไปที่มายังไง รู้แต่ว่าพ่อแม่รักเธอมาก มากขนาดบังคับให้เขาแต่งงานกับเธอ ทั้ง ๆ ที่เขามีแฟนอยู่แล้ว ใครรักก็รักไป แต่เขา...เกลียดเธอ เขมจิรา กุสุมา เธอเป็นเด็กสาวที่พ่อแม่ของราเชนทร์รับมาอุปการะ ชีวิตเธอเติบใหญ่มาได้เพราะความเมตตาของพวกท่าน แล้วเธอจะขัดขืนได้อย่างไรเมื่อท่านต้องการให้เธอแต่งงานกับลูกชายคนเดียวของท่าน แม้เธอจะรู้ว่าเป็นได้แค่ เงารักเจ้าสาวซ่อนใจ...เท่านั้น ราเชนทร์ปลดปล่อยธาราใส่ในช่อไม้ของหญิงสาว และก่อนที่เขาจะหมดสติหลับบนตัวของหญิงสาวเขาก็ละเมอออกมาว่า “ผมรักคุณ เกศริน รอผมนะ ผมจะหย่าให้เร็วที่สุด” “...” เสียงเข้มละเมอบอกรักแฟนสาวของเขา ช่างเหมือนสายฟ้าผ่าลงมากลางใจอันบอบช้ำของเธอ มันทำให้เขมจิราเจ็บปวดเสียใจ นี่เขาเห็นเธอเป็นตัวสำรองหรอกหรือ ขนาดร่วมรักกับเธอ เขายังพร่ำเพ้อบอกรัก คนรักของเขาไม่ขาดปาก “ทุกลมหายใจของพี่เชนทร์คงมีแต่คุณเกศรินสินะ” บทนำ “นี่เงินห้าล้าน ฉันให้เธอ แล้วไปจากที่นี่ซะ ไปก่อนที่จะมีงานแต่งระหว่างเธอกับฉันจะเกิดขึ้น” ราเชนทร์โยนซองสีน้ำตาลที่ในนั้นมีเงินสดตามจำนวนที่ชายหนุ่มมบอกลงบนโต๊ะรับแขก “พี่เชนทร์..” “เธอก็รู้ฉันไม่ได้รักเธอ และไม่ต้องการแต่งงานกับเธอ รับเงินแล้วออกไปจากชีวิตฉันซะ เขมมจิรา” ราเชนทร์คำรามเสียงเหี้ยม แล้วเดินออกจากห้อง พร้อมทั้งปิดประตูเสียงดัง ปัง! “พี่...” เขมจิรานั่งก้มหน้าร้องไห้ น้ำตาไหลเป็นสายอาบแก้มสองข้าง เธอไม่ได้เสียใจที่ราเชนทร์ปฏิเสธที่จะแต่งงานกับเธอ แต่เธอเสียใจที่เขาดูถูกเธอและไม่ยอมรับฟังเหตุผลของเธอแม้แต่น้อย ซึ่งเธอเองก็ไม่ได้อยากแต่งงานกับเขา เพราะรู้ดีว่าชายหนุ่มไม่ได้รักเธอ แต่เป็นเพราะคุณกันยา แม่ของเขามาขอร้องไห้เธอแต่งงานกับชายหนุ่ม ซึ่งคุณกันยาเป็นผู้มีพระคุณของเธอ รับเธอมาจากสถานที่เลี้ยงเด็กกำพร้า คุณกันยาเลี้ยงดูยกย่องเธอให้เป็นเหมือนหลานแท้ๆคนหนึ่งของท่าน เธอได้ที่อยู่ดีๆ ได้เรียนในโรงเรียนที่ดี ซึ่งหากไม่มีคุณกันยาเธอก็ไม่รู้ว่าชีวิตเธอจะเป็นอย่างไร และตลอดเวลาที่ผ่านมาทุกคนในครอบครัวนี้ก็รักและเมตตาเธอทุกคน โดยไม่เคยขอร้องให้เธอทำอะไรตอบแทนเลยแม้แต่ครั้งเดียว ยกเว้นครั้งนี้.... ‘เข็ม ช่วยแม่สักครั้งเถอะนะ ถือว่าเห็นแก่แม่ได้ไหมลูก เข็มแต่งงานกับพี่เชนทร์ได้ไหมลูก’ คำขอร้องของคุณกันยา ทำให้เขมจิราช็อกไปชั่วขณะ ‘คุณแม่!คะ...คือพี่...’ ครั้งนั้นเธอจะปฏิเสธบอกผู้มีพระคุณท่วมหัวว่า ราเชนทร์มีคนรักอยู่แล้ว และชายหนุ่มก็คงไม่ยอมแต่งงานกับเธอแน่ ‘แม่ไม่เห็นใครเหมาะสมเท่าหนูแล้วนะ ที่จะดูแลตาเชนทร์ได้ดีเท่าเข็ม..’ ‘พี่เชนทร์มีแฟนแล้วนะคะคุณแม่ เธอชื่อเกศริน’ ‘แม่รู้ แม่ถึงอยากให้เข็มแต่งงานกับพี่เขาไง เพราะหล่อนคนนั้นเป็นผู้หญิงไม่ดี แม่ไม่ชอบ จะมีก็แต่ตาเชนทร์เท่านั้นที่ยังคงหูหนวกตาบอดไม่รู้ว่าอะไรเพชร อะไรกรวด ถ้าเข็มรักแม่ เห็นว่าแม่เป็นแม่แท้ๆของหนู เข็มทำตามคำขอของแม่ได้ไหมลูก’ คุณกันยากอดเขมจิราพร้อมกับลูบหัวเธอไปมา ‘นะเข็มนะ ถือว่าช่วยแม่สักครั้งนะลูก’ แล้วแบบนี้มีหรือที่เด็กกำพร้าที่ถูกผู้หญิงใจดีคนนี้นำมาชุบเลี้ยงจะกล้าปฏิเสธ เพราะบุญคุณท่วมหัวที่ท่านเลี้ยงมา ไม่อาจทำให้เธอกล่าวปฏิเสธได้ลง… เขมจิราทรุดนั่งลงบนเตียง เธอมองซองสีน้ำตาลด้วยหัวใจที่สั่นไหว เพราะรู้ว่าพรุ่งนี้ยังไงก็ต้องมีงานแต่งงานเกิดขึ้น เธอไม่สามารถทรยศผู้มีพระคุณได้ แม้จะรู้ว่าจะต้องเจอพายุร้ายโหมกระหน่ำซัดสาดใส่ไม่หยุด “เข็มทำอย่างที่พี่เชนทร์ต้องการไม่ได้จริงๆค่ะ ขอโทษนะคะ” เขมจิราพึมพำกับตัวเอง ก่อนจะเดินลุกขึ้นเพื่อเข้าห้องน้ำอาบน้ำนอน เพราะอีกไม่กี่ชั่วโมงก็ต้องตื่นมาแต่งหน้าทำผมเพื่อเข้าพิธีแต่งงาน แม้จะไม่รู้ว่าพรุ่งนี้เจ้าบ่าวจะมาร่วมพิธีหรือไม่… ด้านราเชนทร์เมื่ออาละวาดข่มขู่หญิงสาวแล้ว เขาก็ขับรถออกจากบ้านไปด้วยความเร็ว จุดมุ่งหมายคือผับหรูแห่งหนึ่งใจกลางเมือง เมื่อเดินทางมาถึง เขาก็เข้าไปด้านในนั่งโต๊ะประจำของเขาทันทีพร้อมกับสั่งเครื่องดื่มที่แรงที่สุดของผับมาดื่มอย่างไม่ยั้ง เพื่อที่จะได้ไม่ต้องเครียด ไม่ต้องนึกถึงเรื่องงานแต่งงานในวันพรุ่งนี้ เสียงเพลงในผับดังกระหึ่มอย่างต่อเนื่อง ผู้คนชายหญิงต่างพากันเต้นอย่างเมาส์มันโดยไม่สนใจโลกภายนอก และแล้วเกศรินแฟนสาวของเขาก็มาถึงเวลาตามนัด เกศรินมาในชุดแหวกอกสีแดงเพลิงเว้าหลังลึกลงไปถึงสะโพก รูปร่างเธอเย้ายวน อกเป็นอก เอวเป็นเอว ใครเห็นก็ต้องเหลียวหลังมองด้วยความตะลึง “เชนทร์ค่ะ..” เสียงดัดจริตแบบนี้ ทำให้ราเชนทร์ที่นั่งดื่มอยู่นั้นเหลือบตามอง เมื่อเห็นว่าเป็นแฟนสาว เขาก็คว้าหล่อนเข้าไปกอด และพูดว่า “ทำไมคุณมาช้าจัง คุณรู้ไหมผมมานั่งรอคุณนานแล้วนะ..” “นี่คุณเมาเหรอคะ” เกศรินไม่ขัดขืน หล่อนยืนกระแซะนั่งหมิ่นบนขาของชายหนุ่ม “ผมไม่เมา!” ราเชนทร์พูดลิ้นพันกันชิดซอกคอระหง “ไปค่ะ เรากลับบ้านกันเถอะ นี่คุณเมามากแล้วนะคะ ลุกขึ้นสิคะ” เกศรินประคองชายหนุ่มพาเดินออกไปจากผับทันที “ไปพักที่คอนโดของคุณนะ ผมไม่อยากกลับบ้าน” เมื่อเข้าไปนั่งในรถ ราเชนทร์ก็บอกแฟนสาว “ได้สิคะ เดี๋ยวเกศจะจัดหนักจัดเต็มให้เชนทร์หายเมาเลยดีไหมคะ” หล่อนพูดพลางส่งสายตายั่วยวนให้กับชายหนุ่ม “อย่ายั่วกันสิ ไม่งั้นมันจะไม่ถึงห้องพักนะ” ราเชนทร์พูดพลางรั้งร่างบางยั่วเย้ามาบดขยี้ริมฝีปาก ซึ่งเกศรินก็ตอบสนองกลับอย่างเร่าร้อนไม่แพ้กัน “พอก่อนค่ะเชนทร์ เกศว่าเราไปถึงห้องก่อนดีกว่าไหมคะ ตรงนี้มันไม่เหมาะนะคะ เดี๋ยวใครมาเห็นเข้าอายเขาตายเลย” เกศรินแกล้งขัดขืน ทำเป็นหญิงไร้เดียงสา “โอเค” ราเชนทร์พยักหน้าชิดทรวงอกอิ่ม เขาผละจากร่างนุ่มนิ่ม ปล่อยให้เกศรินขับรถ.. เมื่อมาถึงห้องทั้งคู่ก็ตรงเข้าไปยังห้องนอน เขาทั้งสองช่วยกันถอดเสื้อผ้าออกอย่างรวดเร็วและกอดจูบกันอย่างเร่าร้อน ซึ่งราเชนทร์ถึงจะเมามากแค่ไหน เขาก็ไม่ลืมที่จะใส่เครื่องป้องกัน “กึกกักๆ” เสียงเตียงกระทบผนังห้องสั
บทที่ 1
งานแต่งงานใหญ่โตหรูหรา เหมาะสมกับที่เป็นงานแต่งงานของ ลูกชายคนโตของตระกูลถูกจัดขึ้นที่บ้านเกียรติก้องพิภพ ท่ามกลางญาติ พี่น้อง เพื่อนสนิทมิตรสหายและผู้คนที่รู้จักอีกมากมาย
เขมจิราอยู่ในชุดเจ้าสาวสีขาวฟูฟ่อง เธอยืนต้อนรับแขกที่มาร่วมงานโดยไม่มีเงาของเจ้าบ่าว
ส่วนคุณกันยานั้น กำลังวิ่งวุ่นจ้าละหวั่นตามหาตัวราเชนทร์เจ้าบ่าวของงานที่ทิ้งงานทำบุญตักบาตรร่วมกับเจ้าสาวในตอนเช้า จนทุกคนในบ้านต้องไปทำบุญตักบาตรร่วมกับเจ้าสาวแทนเป็นการแก้ปัญหาเฉพาะหน้าไปก่อนซึ่งไม่มีอะไรเสียหายเพราะเป็นงานภายในครอบครัว
แต่ตอนนี้เป็นพิธีรดน้ำสังข์ ที่จะขาดเจ้าบ่าวไม่ได้ จึงทำให้คุณกันยาร้อนใจเป็นอย่างมาก
“เจ้าเชนทร์นะเจ้าเชนทร์ นี่หายมันหัวไปนะ ทำไมปล่อยให้ทุกคนวุ่นวายตามหาตัวอย่างนี้นะ” คุณกันยามีสีหน้าตึงๆบ่นให้ลูกชาย เพราะนี่ฤกษ์เวลารดน้ำสังข์ก็ใกล้เข้ามาทุกทีแล้ว แต่กลับหาเจ้าบ่าวยังไม่พบ
“นายแม่ครับ พบคุณราเชนทร์แล้วครับ” ลูกน้องชายหนุ่มวัยประมาณสามสิบที่คุณกันยาบอกให้ตามหาราเชนทร์เข้ามาบอกข่าวดี
“เจอตัวตาเชนทร์แล้วเหรอ เจอที่ไหน”
คุณกันยายิ้มให้แขกเหรื่อ แล้วกระซิบเสียงเล็ดลอดไรฟันถามลูกน้อง โดยที่ไม่ได้มองหน้าลูกน้อง
“ที่คอนโดของคุณเกศรินครับ” ลูกน้องบอกเสียงเบาเพราะกลัวแขกหลายคนที่ยืนสนทนาอยู่ข้างคุณหญิงกันยาจะได้ยิน
“ไปตามมันกลับมา! เดี๋ยวนี้” คุณกันยากัดฟันพูดกับลูกน้อง พลางยิ้มพยักหน้าให้เพื่อนคุณหญิงด้วยกัน
“ครับ” ลูกน้องขานรับ
“ถ้าได้ตัวมันมาแล้ว ก็จับมันแต่งตัวใส่ชุดเจ้าบ่าวให้เร็วที่สุด ถ้ามันไม่มาหรือไม่ยอมทำตามคำสั่งของฉัน บอกมันว่าฉันจะตัดมันออกจากกองมรดกและริบทรัพย์สินทั้งหมดที่มันจะได้คืนมา”
คุณกันยาพูดด้วยน้ำเสียงเฉียบขาด จนลูกน้องอดที่จะรู้สึกเสียวสันหลังแทนราเชนทร์ไม่ได้
“ครับนายแม่” รับคำเสร็จลูกน้องก็รีบออกจากงานไปตามตัวเจ้าบ่าวทันที
“เฮ้อ! นี่แม่อุตส่าห์เลือกผู้หญิงที่ดีอย่างหนูเข็มให้ ทำไมลูกแม่ถึงกลับปฏิเสธไม่เอานะ แต่กลับไปเอาผู้หญิงพรรค์นั้นมาเป็นแฟนนะ แต่ยังไงแม่ก็ไม่ยอมเด็ดขาด ลูกกสะใภ้ของแม่ต้องเป็นหนูเข็มเท่านั้น”
คุณกันยาไม่ได้อคติกับเกศรินแฟนสาวของลูกชาย แต่คุณกันยาได้สืบประวัติของผู้หญิงคนนั้นมาแล้ว ว่าหล่อนไปนอนกับไฮโซรวยๆหลายคนเพื่อแลกกับเงิน และยังเป็นเมียน้อยเสี่ยชื่อดังคนหนึ่ง ซึ่งเสี่ยคนนั้นก็เลี้ยงดูหล่อนอย่างลับๆ…
และ เธอก็ตั้งใจอยู่แล้วว่าลูกสะใภ้ของเธอจะต้องเป็นเข็มจิราเท่านั้น
…..
“ไม่! ฉันไม่กลับไปแต่งงานกับยัยเด็กนั่นเด็ดขาด” ราเชนทร์โวยวายเสียงดัง เมื่อถูกลูกน้องของคุณกันยามาจับตัวมา
“ถ้าคุณเชนทร์ไม่ไป นายแม่บอกว่าจะตัดคุณชนทร์ออกจากกองมรดกนะครับ รถ บ้าน และเงินในธนาคาร หรือเงินสดที่อยู่ในกระเป๋าของคุณเชนทร์มีใช้อยู่ทุกวันนี้ก็จะถูกคุณหญิงเอาคืนทั้งหมดครับ”
ลูกน้องคุณกันยาบอกตามที่นายแม่สั่งมา เมื่อได้ฟังจากที่ขัดขืน ราเชนทร์ก็หยุด พลางคำรามเสียงขึงขังถามว่า
“แกอย่ามาขู่ฉัน!”
“ผมไม่ได้ขู่ แต่คุณนายแม่ทำจริง ผมว่าคุณเชนทร์กลับบ้านไปแต่งงานกับคุณเขมจิราก่อนเถอะครับ อย่าเพิ่งขัดใจคุณนายแม่เลยดีกว่า นะครับ ” ลูกน้องของคุณกันยาบอกความเดิม
ราเชนทร์กำมือแน่น เขารู้ว่าแม่ไม่ได้ขู่ เพราะแม่เขารักยัยเด็กคนนั้นมาก บางทีเขาก็คิดว่าแม่เขารักเขมจิรามากกว่าเขาที่เป็นลูกจริงๆซะอีก
“ยัยแม่มด นี่เธอคงจะประจบประแจงคุณแม่สินะ แผนการตัดฉันออกจากกองมรดกก็คงเป็นความคิดของเธอเหมือนกัน ยัยเห็บ ”
ราเชนทร์พูดถึงเขมจิราอย่างอาฆาต เขาไม่ได้โกรธคุณกันยา แต่เขากลับเอาความเคียดแค้นทั้งหมดไปลงที่เขมจิรา…
ด้านคุณกันยายืนกระสับกระส่าย จะเป็นลมแล้วเป็นลมอีกเมื่อใกล้ถึงฤกษ์รดน้ำสังข์แล้ว แต่ยังไม่เห็นแม้แต่เงาของเจ้าบ่าว คุณกัลยานั่งกุมมือเขมจิราไว้แน่น ใบหน้าเจ้าสาวยังมีรอยยิ้มปลอบใจมาให้คุณกันยา แม้ภายใจใจของเธอจะสั่นไหว เจ็บปวด
คุณกัลยาลุกขึ้นทันทีเมื่อเห็นลูกชายเดินเข้ามาในงานในชุดเจ้าบ่าวที่ไร้รอยยิ้ม แต่นางก็ยิ้มดีใจ ก่อนจะปรับใบหน้าให้ราบเรียบตามเดิม
“แม่นึกว่าแกจะไม่มาเสียแล้ว จะได้ยกทรัพย์สินในส่วนของแกให้หนูเข็มเสียให้หมด” คุณกันยาพูดประชดลูกชาย ซึ่งคำพูดของนางได้ทำให้ราเชนทร์เข้าใจผิดเขมจิราเข้าไปใหญ่
‘มิน่าล่ะ 5 ล้านคงไม่พอสำหรับเธอสินะ เขมจิรา ยัยเห็บ’
ราเชนทร์จ้องมองเจ้าสาวด้วยสายตาเหยียดหยามดูถูกอย่างชัดเจน
“คุณแม่คิดดีแล้วเหรอครับ ที่จะให้ผมแต่งงานกับยัยเด็กนี่”
ราเชนทร์พูดเสียงขึงขังกับคุณกัลยา แต่สายตาสีนิลกลับจ้องมอง เขมจิราในชุดเจ้าสาวอย่างสมเพช
“ฉันคิดดีแล้ว หนูเข็มเป็นผู้หญิงที่ดีและเหมาะสมกับแกมากที่สุดแล้ว” คุณหญิงกันยาบอกลูกชายด้วยน้ำเสียงเด็ดขาด
“ผู้หญิง..” ราเชนทร์ไม่ทันได้พูดดูถูกเขมจิราว่า ‘ผู้หญิงหน้าด้าน ไม่มียางอายหน้าเงิน’ เขาก็หยุดพูด เมื่อเสียงใสสั่นเล็กน้อยพูดขึ้นว่า
“คุณแม่คะ เข็มว่าเรายกเลิกงานแต่งเถอะนะคะ”
เขมจิราพูดทั้งที่ก้มหน้า ไม่กล้ามองสบตาของใครต่อใครโดยเฉพาะแววตาแดงโรจน์เหมือนปีศาจของราเชนทร์
“เข็มลูกแม่ แม่เสียใจนะที่ทำให้หนูขายหน้าแขกเหรื่อ ถ้าหนูอยากยกเลิก แม่ก็จะให้คนไปประกาศยุติเรื่องงานแต่ง และแม่จะยกสมบัติส่วนที่เป็นของพี่เชนทร์ให้หนูเพื่อเป็นการปลอบขวัญนะ”
คุณกันยาเข้าไปยืนตรงหน้าเขมจิรา มือของท่านยกขึ้นจับคางน้อยดันให้เงยหน้ามองตากัน และอีกข้างก็ยกขึ้นลูบหัวของเธอเพื่อปลอบขวัญให้กำลังใจ
“คุณแม่ เข็มมะ..” เขมจิรายังไม่ได้บอกคุณกันยาว่า ‘เข็มไม่อยากได้สมบัติของพี่ราเชนทร์’ เสียงของเขาก็ดังแทรกขึ้น
“ผมไม่ยอมยกสมบัติส่วนที่เป็นของผมให้ยัยเด็กกำพร้าไม่มีหัวนอนปลายเท้าคนนี้หรอกนะแม่ ส่วนเธอ..ยัยเห็บ อย่าคิดว่าฉันไม่รู้ว่าเธอวางแผนอะไรไว้ เธอไม่มีทางได้สมบัติของฉันแม้แต่สลึงเดียว”
ราเชนทร์ตาแดงก่ำเหมือนเสือร้ายจ้องหน้าของว่าที่เจ้าสาวพร้อมกับสาดคำพูดใส่หน้าเธออย่างไม่คิดที่จะถนอมน้ำใจ
“ราเชนทร์! ขอโทษน้องเดี๋ยวนี้!”
คุณกันยาสั่งเสียงเขียว รู้สึกโกรธจนตัวเริ่มสั่น เมื่อได้ยินลูกชายดูถูกบุตรสาวบุญธรรมที่เธอรักและเลี้ยงมาเองกับมือ
“ทำไมผมต้องขอโทษด้วย ก็ในเมื่อมันเป็นความจริง”
ราเชนทร์ยอกย้อนด้วยสีหน้านิ่ง ไม่สนใจเลยสักนิดว่าตอนนี้คุณกันยากำลังตัวสั่นเทิ้มด้วยความโกรธ
“ไอ้ลูกไม่รักดี ตาบอดมองไม่เห็นเพชรหรือว่าแกล้งไม่ยอมมอง ดันไปมองก้อนหินก้อนทราย ระวังเถอะจะหมดตัวเหลือแต่ไอ้นั่น” คุณกันยาด่าลูกชายอย่างเสียๆหายๆ
“คุณแม่คะ อย่าว่าพี่เชนทร์เลยค่ะ ถ้าพี่เชนทร์ไม่อยากแต่ง ก็ไม่ต้องแต่งก็ได้ อีกอย่างเข็มก็ไม่อยากแต่งกับพี่เชนทร์เหมือนกันค่ะ”
เขมจิราสะกดกลั้นความเสียใจเอาไว้ หลังจากที่อดทนฟังคำดูถูกจากชายหนุ่มมานาน
“ตอแหลจริงๆนะเธอนี่ ต่อหน้าทำมาเป็นพูดดี แต่ลับหลังคงจะมารยาสาไถย ออดอ้อนคุณแม่ไว้เยอะสินะ ถึงทำให้คุณแม่มาบังคับฉันให้แต่งงานกับเธอได้”
เพี๊ยะ!
ราเชนทร์พูดจบประโยค ใบหน้าหล่อเหลาก็หันไปตามแรงตบของคุณกันยาทันที
“แกดูถูกน้องก็เท่ากับแกดูถูกแม่ของแกด้วยนะตาเชนทร์ เพราะแม่เป็นคนเลี้ยงดูน้องมาแต่อ้อนแต่ออก เท่ากับแกด่าแม่ว่าสั่งสอนน้องมาไม่ดี ที่สำคัญแม่สอนแกมาตลอดว่าไม่ให้ไปดูถูกหรือกล่าวหาใคร ไม่ว่าจะเป็นชายหรือหญิง” คุณกันยาตำหนิลูกชายด้วยฝ่ามือและคำพูด
“คุณแม่ตบผม” ราเชนทร์เจ็บใจมากกว่าเจ็บที่ถูกตบ เขาเคียดแค้นเขมจิรา ราเชนทร์กำมือเป็นกำปั้นแล้วกางออกเมื่อสบตากับคนเป็นแม่ เขายกมือขึ้นลูบรอยตบบนใบหน้าของตัวเอง
“ถ้าแกไม่ขอโทษน้อง ฉันจะตบแกอีก” คุณกันยาไม่พูดเฉยๆ นางยกมือจะตบราเชนทร์อีกครั้ง
“คุณแม่ อย่าทำอะไรพี่เชนทร์เลยค่ะ เข็มขอร้อง” เขมจิรารีบห้าม พร้อมกับเข้าไปจับมือคุณกัลยาไว้ เมื่อเห็นคุณกันยาจะตีราเชนทร์ซ้ำ
“เห็นไหม? น้องเขาห่วงแกมากแค่ไหน” คุณกันยายอมลดมือลง แต่ไม่วายดุด่าราเชนทร์ไม่หยุด
“ผมขอโทษคุณแม่ครับ ถ้าผมพูดดูถูกคุณแม่ แต่ผมจะไม่ขอโทษ ยัยเด็กกำพร้ากาฝากนี่เด็ดขาด!” ราเชนทร์กล่าวโทษว่าเขมจิราไม่หยุดเช่นกัน
“ไอ้ลูก..” คุณกันยากำลังจะเอ่ยปากต่อว่าลูกชายว่า ‘ไอ้ลูกสารเลว’ แต่เขมจิราก็ชิงพูดเสียก่อน
“คุณแม่อย่าทะเลาะกันเพราะเข็มเลยนะคะ ตอนนี้แขกเหรื่อต่างพากันมองมาที่เรานะคะ คุณแม่อย่าต่อว่าพี่เชนทร์ให้คนอื่นสงสัยเลยนะคะ”
เขมจิราพูดเสียงสั่นเล็กน้อย เพราะในใจของเธอบอบช้ำมากที่ถูก ว่าที่เจ้าบ่าวปฏิเสธจะแต่งงานกับเธอและมองว่าเธอเป็นกาฝาก
คุณกันยามองรอบห้องโถงก็เห็นว่าสิ่งที่เขมจิราพูดเป็นความจริง นางจึงยิ้มแย้มต้อนรับแขกเหรื่อ แล้วสะกิดแขนลูกชายและกระซิบกระซาบลอดไรฟันบอกลูกชายว่า
“พาน้องไปต้อนรับแขกเดี๋ยวนี้ อย่าขัดใจแม่นะตาเชนทร์”
คุณกัลยาออกคำสั่งพร้อมกับใช้สายตาจ้องมองลูกชาย เมื่อราเชนทร์เห็นก็ได้รู้ว่าแม่เอาจริง
ด้านราเชนทร์เมื่อถูกบังคับ เขาก็หันไปจับแขนเล็กกระชากให้เข้ามายืนอยู่ในอ้อมกอดของเขา บอกเธอว่า
“ตามฉันมา!”
“พี่เชนทร์ เข็มเจ็บนะ” เขมจิราน้ำตาคลอเบ้า เพราะเธอเจ็บจริงๆ เมื่อถูกมือเพชฌฆาตกำกระชับอย่างแรงจนข้อมือของเธอจะหักเป็นสองท่อน
“เธอจะเจ็บตัวมากกว่านี้ ก็ใครบอกให้เธอคิดจะแต่งงานกับฉันล่ะ จากนี้ไปก็เตรียมตัวเตรียมใจรับความเจ็บปวดได้เลยนะ....เขมจิรา”
ราเชนทร์แสยะยิ้มร้ายเมื่อได้สบตาคู่โตที่สั่นระริก
เขาพยักหน้างึกๆให้เธอรับรู้ว่าหลังจากวันนี้เป็นต้นไป เขาจะไม่ปล่อยให้เธอได้อยู่สุขสบายเป็นคุณหนูแน่นอน…
คำโปรย ริชาร์ด เคาน์ซิคาโด้ ชายหนุ่มรูปหล่อตัวใหญ่สูงร้อยแปดสิบห้า พ่อรวยและเป็นลูกผู้ดีเก่า เพราะเขาคือ ลูกชายคนโตของเดวิดกับกล้วยไม้ เขาเติบโตมาด้วยความรักล้นเหลือจากครอบครัวและเขาเจริญรอยตามเดวิดที่เคยเป็นอดีตนายกรัฐมนตรีของฝรั่งเศสมาแล้ว เขาจะพิสูจน์ให้เห็นว่าสายเลือดไม่สำคัญเท่ากับการเลี้ยงดู หนุ่มหล่อพ่อรวยคนนี้ยังเป็นถึงนายกรัฐมนตรีอายุน้อย จึงมีทั้งคนที่ชื่นชอบ และคนที่เกลียดชัง งานก็ต้องทำให้ทุกคนเห็นความสามารถ เรื่องความรักก็ต้องจัดการ แต่แม้จะมีสาว ๆ มากมายเพียงใด ในหัวใจของเขาก็มีเพียง ยูริ อัชลันบิน คนเดียวเท่านั้น ยูริ พลเมืองไร้สถานะเชื้อชาติ แม่ของเธอเป็นชาวมาเลเซียและเป็นหญิงขายบริการส่วนพ่อไม่รู้ว่าเป็นใคร แต่จู่ ๆ เธอก็ได้เป็นเพื่อนกับแคทริน นั่นทำให้ได้เจอกับพี่ชายของเพื่อน แม้จะดีใจที่ได้อยู่ใกล้ชิดชายคนที่เธอแอบรัก แต่เพราะรู้ฐานะตัวเองดี ทำให้เธอปิดกั้นหัวใจมาตลอดจนกระทั่ง… ตอนนี้ เธอคือ ยูริ เคาน์ซิคาโด้ (มาร์โก) น้องสาวต่างพ่อของแม่ แมทธิว มาร์โก มาเฟียผู้ยิ่งใหญ่ของอิตาลีที่เป็นน้องเขยของริชาร์ด แถมเธอยังเป็นหลานของเดวิดอีกด้วย นั่น ทำให้กวางตัวน้อยของริชาร์ด กลายเป็นลูกเสือที่พ่อเสืออย่าง แมทธิวหวงมาก แต่ริชาร์ถือคติว่า ไม่เข้าถ้ำลูกเสือแล้วจะได้ลูกเสือมาได้อย่างไร แต่ตอนนี้เขาจะต้องจัดการทั้งงานและสาว ๆ คนเก่าออกไปให้หมดก่อน.. แล้วเขาจะใช้ทุกเล่ห์ที่มีพากวางน้อยกลับมาให้ได้…..
“นี่เป็นยาคุมฉุกเฉิน กินซะ ถ้าไม่อยากอุ้มท้องโดยที่ไม่มีพ่อและเรียนไม่จบ.เพราะเมื่อคืนฉันไม่ได้ป้องกัน เพราะทนความร่านของเธอไม่ไหวเลยปล่อยในไปหลายครั้ง” เธออ่านข้อความนั้น ก่อนที่จะ... “ถ้าฉันท้อง ฉันก็จะเอาไอ้มารหัวขนนี่ออก คุณไม่ต้องห่วงว่าฉันจะขอร้องให้คุณมารับผิดชอบ สบายใจได้” แคทรินหยิบยามาถือไว้ในมือ มืออีกข้างก็เขียนข้อความตอบโต้ด้วยสรรพนามที่เปลี่ยนไปเช่นกัน ไม่มีคำว่า พี่ หรือแคท อีกแล้ว ต่อไปนี้พวกเราจะเป็นคนที่เคยเจอกันเท่านั้น
เพี้ยะ เพี้ยะ...!! กังสดาลยังยืนจ้องหน้าเมษา แล้วยกเรียวมือกางออกข่วน และตบลงไปบนผิวแก้มสีแทนนั่น สองสามที สลับซ้ายขวา “กังสดาล!!” ใบหน้าเข้มสะบัดหันไปตามแรงตบ เขาค่อยๆ ยกมือขึ้นลูบรอยนิ้วมือบนผิวไปมา ลิ้นเรียวใหญ่เลียเลือดตรงมุมปาก แววตาสีนิลเปล่งประกายแดงโรจน์ ค่อยๆ หันมองร่างบางที่ยืนตัวสั่นเทา “กะ…เกลียดนัก คนใจเลว!” ทำใจกล้าเปล่งเสียงเขียวสะบัดใส่ พร้อมทั้งไม่ยอมขยับร่างถอยหนี ถึงจะมีความหวาดกลัวต่อสายตาเพชฌฆาตคู่นั้น “คำก็เลว สองคำก็เกลียด ดี… ฉันจะทำให้เธอเกลียดฉันไปจนตลอดชีวิต ยัยเด็กร่าน!!!” คนร่างโตก้าวเดินย่างสามขุมเข้าไปหาหญิงสาวที่ยังยืนอวดดีปากเก่ง “ยะ…อย่าเข้ามานะ” ใบหน้าซีดกลัวคนตรงหน้า กังสดาลขยับปลายเท้าก้าวเดินถอยหนี เบี่ยงตัวหวังจะวิ่งหนีเขาไปยังห้องของมารดา “มานี่! วันนี้ฉันจะเลวให้เธอเห็น” เมษาเดือดดาล ใบหน้าถมึงทึง ยามนี้หลานสาวไม่คิดที่จะเอ่ยชื่อของเขาเอาเสียเลย คนตัวโตเดินตามรอยเท้าของเจ้าหล่อน แววตาสีนิลเปล่งประกายแดงโรจน์จับจ้องอยู่ที่ร่างบางด้วยความโกรธ ขืนเขามองนานๆ ร่างบางตรงหน้าอาจจะเป็นเถ้าถ่านแน่ เขารีบคว้าข้อมือเรียวบางกำกระชับแน่น ออกแรงกระชากให้หญิงสาวเข้ามาปะทะหน้าอก พร้อมทั้งโน้มใบหน้าลงบนช่วงลำคอระหง เรียวปากหยักซุกไซ้จูบสัมผัสไปตามผิวขาวนวลบนหัวไหล่ ปลายจมูกโด่งคมสันดมดอมกลิ่นจากผิวหอมตรงร่องทรวงอกอย่างบ้าคลั่ง “กรี๊ดดดด... ปล่อยเดี๋ยวนี้! คนเลว…เลวที่สุด ได้ยินไหม… ฮือออๆ” กังสดาลส่งเสียงกรีดร้องอย่างบ้าคลั่ง เธอหวาดกลัวเขา “เธอตายแน่ กังสดาล!” เสียงอันทรงพลังเปล่งออกมาอย่างน่ากลัว ตุ้บตับๆ… ผลั๊วะๆ… มือเรียวสวยข้างขวายกขึ้นผลักดันใบหน้าเขาให้ออกจากทรวงอก และอีกข้างก็ตบตีขีดข่วนไปตามหัวไหล่ ลำตัวและแผ่นหลังของเขา “หึๆ ฉันเลวได้แน่ คืนนี้แหละ... ฉันจะยัดเยียดความเลวร้ายให้กับเธอ ยัยผู้หญิงร่าน!!” เมษาเค้นเสียงเยือกเย็นจนสาวเจ้าหนาวเยือกเข้าไปในกระดูกสันหลัง เรียวปากหนายังซุกไซ้สัมผัสทั้งดูด ทั้งเล็มผิวขาวตามต้นคอระหง และยังไล่เลียผิวผ่องไปตามเรียวคางงาม
“ฮืออ ฉันเจ็บ ไอ้คนสารเลว!! ปล่อยฉันเดี๋ยวนี้!!” ความสาวบริสุทธิ์ถูกทำร้ายทำให้เธอเจ็บร้าวหัวใจไม่อาจกลั้นเสียงสะอื้นและออกคำสั่งแกมขอร้องเขา “เก่งนักไม่ใช่เหรอ ร้องไห้ทำไม” แม้จะรู้สึกสะใจ แต่ลึกๆ แล้วก็อดสงสารและรู้สึกผิดไม่ได้ ทีแรก ไอศูรย์คิดว่าเธอจะช่ำชองเสียอีก ไม่คิดว่าจะยังบริสุทธิ์ผุดผ่องแบบนี้ “ฉันเกลียดคุณ ไอ้สารเลว ชาติชั่ว!!” ทันทีที่พูดจบ ขวัญฤดีก็ต้องกรีดร้องออกมาอย่างโหยหวน เมื่อไอศูรย์กระแทกความใหญ่โตใส่โดยที่ไม่มีคำว่าปรานีจนเธอสลบไปในที่สุด “อย่าเพิ่งตายนะ ตื่นขึ้นมารับรู้สิว่าฉันกำลังย่ำยีเธอ” ไอศูรย์หยุดชะงักเมื่อเห็นร่างน้อยไม่ตอบสนอง ไม่เข้าใจว่าทำไมอยากอ่อนโยนกับเธอ เขาจึงนอนทับโน้มหน้าเข้าหา จับหน้าเธอแล้วจูบริมฝีปากอิ่ม ปลายลิ้นลากไล้ลงมาที่ซอกคอระหงก่อนจะขบเม้มฝากรอยรักไว้ จากนั้นจึงลากลิ้นเลียลงมารอบดอกบัวคู่งาม ‘อื้อ ทุกส่วนสัดของเธอหอมหวานเหลือเกินขวัญฤดี’ เขาคิดพลางดูดดอกบัวคู่งามอย่างกระหายหิว แล้วลากลิ้นลงมาชิมกุหลาบงาม ‘ทำไมถึงได้หวานจับใจขนาดนี้นะ’ ชายหนุ่มสูดดมกลิ่นสาบสาวแล้วกลืนกินน้ำหวานผสม ผสานเลือดสาวบริสุทธิ์รสชาติละมุนทุกหยาดหยด “อยะ อย่า” และถึงแม้ว่าเธอจะยังไม่รู้สึกตัว แต่ร่างกายกลับตอบรับสัมผัสเขาได้ดีทุกสัดส่วน ไอศูรย์กินน้ำหวานสีใสจากกุหลาบงามอยู่เช่นนั้นนานนับชั่วโมงอย่างเอร็ดอร่อย แล้วจึงค่อยขยับกายลุกขึ้นนั่ง จับความแข็งแรงถูไถตามร่องเนื้อบวมเป่ง ดันเบาๆ เข้าไปในตัวเธออย่างอ่อนนุ่มละมุน ก่อนขยับเข้าออกอย่างเป็นจังหวะ จากนั้นก็ถี่ขึ้นเร็วขึ้นตามแรงอารมณ์ สุดท้ายก็ปล่อยธารรักสีขาวขุ่นเข้าไปในร่างบางทุกหยาดหยดอย่างลืมตัว...
“ไอ้คนเลว! ปล่อยฉันออกไปเดี๋ยวนี้นะ!!” ด้านนุดีเมื่อเห็นหน้าวัลลภ เธอก็พ่นวาจาด่าหยาบคายใส่ทันที “จะลงนรกอยู่แล้วยังจะมาทำปากดีอีกนะ” วัลลภดันร่างบางให้หันหลังแล้วแก้เชือกที่มัดมือของเธอออก บังคับด้วยดวงตาถมึงทึงให้นุดีลุกขึ้น แต่กลับเป็นเขาเองที่อุ้มเธอออกจากรถ “โอ๊ยย!! ไอ้บ้า!! ฉันเจ็บนะ!!” เมื่อถูกปล่อยให้ยืน นุดีที่ไม่ทันได้ทรงตัวดีก็เซถลาชนข้างรถล้มลงไปกองบนพื้นดินแข็งๆ “อย่ามาทำสำออย ลุกขึ้น!!” วัลลภไม่ได้สนใจว่าหญิงสาวจะเจ็บไหม เขาจับแขนเล็กกระชากอย่างแรงให้เธอยืนขึ้น “นายพาฉันมาทำอะไรในกลางป่าน่ากลัวแบบนี้” ดงป่าเขียวจนครึ้ม ต้นไม้สูงใหญ่ดำทมิฬหนาทึบ กิ่งก้านใบไหวไปตามลมผสมเสียงแปลกประหลาดร้องและวิ่งไล่กัดกันอยู่ในป่าหญ้าคาข้างทางทำให้นุดีกลัวจนหน้าซีด “นรกอเวจีไง อยากลงไปเล่นน้ำในกระทะทองแดงไหม” วัลลภก้มๆ เงยๆ อยู่หลังรถจึงไม่ได้ทันระวังภัยที่กำลังจะเกิดขึ้นกับตัวเอง นุดีเป็นอิสระจากสายตาของชายหนุ่ม เธอยิ้มหยันเมื่อเห็นไม้กำลังเหมาะมือ แล้วจับท่อนไม้ขึ้นมาฟาดใส่กลางหลังและหัวของชายหนุ่มอย่างเอาเป็นเอาตาย “แกไปคนเดียวเถอะ ไอ้คนถ่อย!! นี่แน่ะ!!” “โอ๊ยย!! ยัยบ้าเอ๊ย!! นี่เธอกล้าตีหัวฉันเหรอฮะ!!” วัลลภยกมือกุมหัว เขาเดือดเป็นน้ำร้อนเมื่อเห็นเลือดเปรอะมือทั้งสองข้าง “ฉันฆ่าแกแน่ ถ้าเข้ามาหาฉันแม้แต่ก้าวเดียว” นุดีกลัวเมื่อเห็นเลือดแดงฉานซึมออกมาจากศีรษะเขา ไหลเป็นทางผ่านหัวคิ้วเป็นปื้นหยดลงใส่เสื้อยืด เธอเสียงดัง ใช้ไม้ชี้หน้าขู่ชายหนุ่ม “เธอหรือฉันจะถูกฆ่ากันแน่!!” เลือดจากหัวไหลเป็นทางผ่านหน้าผากเข้าตา วัลลภจึงใช้หลังมือเช็ดออก เขาแสยะยิ้มร้ายกาจเมื่อเห็นชัดเจนว่า ตอนนี้หญิงสาววิ่งหัวซุกหัวซุนหนีเข้าป่า “กรี๊ดดด!!” นุดีวิ่งผ่านต้นไม้ใบหญ้าโดยที่ไม่ได้ดูหน้าดูหลังทำให้สะดุดขาตัวเองล้มกลิ้งไปกองบนพื้นดิน “ฉันว่าจะไม่รุนแรงกับเธอแล้วนะ!! นุดี แต่เธอรนหาเรื่องเอง” วัลลภกระโจนเข้าไปยืนดักหน้าหญิงสาวที่กำลังคลานหนี เขาคว้าแขนเล็กแล้วกระชากให้เธอลุกยืนเผชิญหน้ากัน “ถุย!! ไอ้ขยะ กะ...แกจะทำอะไรฉัน!!” นุดีก็ใช่จะยอม เมื่อได้ยืนอยู่ในอ้อมแขนกำยำ ใบหน้าของเธออยู่แค่ระดับราวนมของชายหนุ่ม หญิงสาวขัดขืน หยิกข่วนตามตัววัลลภ เขย่งปลายเท้าให้สูงจนดวงหน้าของเขาและเธออยู่ในระดับเดียวกันแล้วก็พ่นน้ำลายใส่หน้าหล่อ วัลลภกลายเป็นคนดุร้าย มือหนาหยาบกร้านเช็ดของเหลวออกจากแก้ม แล้วกางมือออกเหวี่ยงใส่ใบหน้างามซ้อนกันขวาซ้ายสุดแรงเกิด เผียะ!! เผียะ!! “กรี๊ดดด!!” ด้านนุดีไม่ทันตั้งตัว ถูกตบจนล้มกลิ้งไปนอนกองบนพื้นดินอีกครั้ง เธอเจ็บจนน้ำตาไหลจึงยกมือกุมแก้มที่แดงเป็นรอยนิ้วมือทั้งห้าแล้วค่อยๆ หันมองหน้าผู้ชายใจชั่ว ทำร้ายผู้หญิงไม่มีทางสู้ “ไอ้หน้าตัวเมีย!! แกตบฉันทำไม!!” “วันนี้แหละ ฉันจะทำให้เธอไม่มีศักดิ์ศรีของความเป็นคน” เสียงของปีศาจคำรามดังก้องป่า มือเพชฌฆาตคว้าข้อมือน้อยกระชากลากถูไปตามทางเล็กๆ ที่ข้างทางมีแต่ต้นหนามกับใบหญ้า “กรี๊ดดด!! ไอ้ผู้ชายป่าเถื่อน!! ทำไมแกต้องทำกับฉันแบบนี้!! ปล่อยฉันนะ!! ไอ้ชั่ว!! ฮืออ” นุดีถูกฉุดลากทั้งที่กึ่งนั่งกึ่งนอนไปตามทางเดินที่เต็มไปด้วยดินแข็งและหินก้อนเล็กๆ เสียงร้องโหยหวนของหญิงสาวดังก้องทั่วป่าทำให้คนงานชายสี่คนที่ได้รับคำสั่งจากเจ้านายให้มารอที่กลางป่าแห่งนี้มองหน้ากัน แล้วหันไปมองเงาดำทมิฬสูงใหญ่เดินลากอะไรบางอย่างตรงมาหาพวกมัน “นะ นาย!!” พวกมันทั้งสี่ยืนตาค้างเมื่อสิ่งที่ฟุบอยู่ตรงหน้ามันนั้นเป็นหญิงสาว ขนาดถูกวัลลภทำร้ายเช่นนี้ก็ยังดูออกว่าเธอสวยและเซ็กซี่มาก “พวกมึงมีโทรศัพท์ไหม?” วัลลภยืนมือเท้าสะเอวมองนุดีกำลังช่วยตัวเองดึงชายกระโปรงผ้าลูกไม้ที่ถลกขึ้นจนเห็นต้นขาขาวผ่องสองข้างลงปิดเนื้อเปลือยของตัวเอง “มะ มีครับ” ไอ้ลูกน้องสี่คนไม่ได้มองหน้าวัลลภเวลาพูด เพราะจุดสนใจของพวกมันคือผู้หญิงของเจ้านาย ซึ่งเวลานี้ เธอคลานหนีไปนั่งชันเข่าอยู่ข้างต้นไม้ใหญ่ “พวกมึงถ่ายคลิปผู้หญิงคนนี้ไว้ ทำแบบนี้สิวะ ไอ้ห่า” วัลลภแยกเขี้ยวใส่นุดี เขาแย่งโทรศัพท์ของลูกน้องมาถือไว้ด้วยมือเดียวแล้วย่อตัวนั่งคุกเข่าตรงหน้าเธอ มือข้างที่ว่างยื่นเข้าไปจับคางน้อยบีบจนปากของหญิงสาวห่อแล้วดันให้หันมาสู้กล้อง “คะ ครับ” พวกลูกน้องพากันทำหน้าหื่นเหมือนเจ้านายแล้วจ่อกล้องโทรศัพท์ทำตามคำสั่งของนาย “ไอ้ลภ!! แกบอกให้พวกสวะนี้หยุดถ่ายฉันเดี๋ยวนี้นะ!!” นุดีแย่งโทรศัพท์จากมือของวัลลภได้ก็เหวี่ยงเครื่องสื่อสารเฉียดหน้าของชายหนุ่มไปกระทบต้นไม้เสียงดัง เพล้งง!! “พวกมึงเตรียมเก็บภาพทุกช็อตไว้เลยนะ กูจะเล่นเป็นพระเอกคาวบอยควบม้าให้พวกมึงดู” แววตาดุจเสือร้ายหันขวับมองไอโฟนรุ่นใหม่กองเป็นเศษขยะอยู่ข้างต้นไม้ วัลลภกระตุกยิ้ม หันกลับมามองมือสองข้างที่กำกระชับคอเสื้อเปิดไหล่ของนุดี แล้วกระชากจนขาดเป็นสองส่วนเผยให้เห็นอกอิ่มขาวผ่องล้นออกมาจากบราไร้สาย “ว้ายย!! อย่าทำฉัน ฮืออ” นุดีรีบยกแขนข้างเดียวกอดตัวเองไว้ ส่วนอีกข้างทุบตี หยิกข่วนไปตามตัวของเขาอย่างบ้าคลั่ง “พวกมึงอย่าลืมถ่ายวิดีโอนะโว้ย!! กูจะแสดงหนังสดกับยัยนี่ในกระท่อม” สายตาของลูกน้องมองนุดีอย่างหื่นกระหายทำให้วัลลภรีบฉุดให้เธอเข้ามาซบหน้าอก แล้วอุ้มคนตัวน้อยขึ้นพาดบ่า “ไอ้คนเลว!! ฉันเกลียดแก!! ปล่อยฉันลงเดี๋ยวนี้นะ!!” นุดีอับอายจนอยากจะทำให้ชายหนุ่มเจ็บปวดมากที่สุด จึงทำร้ายเขาโดยการทุบๆ ที่หัวไหล่และจะกัดหลังเขาอีกครั้ง “ถ้าเธอกัดฉันอีก เธอได้มีผัวเป็นกรรมกรแบกหามหลายคนแน่!!” โครมม!! ก่อนที่วัลลภจะถีบประตูกระท่อมให้เปิดกว้างนั่นเขาได้คำรามเสียงเหี้ยมขู่เธอ
“ฮืออ คุณมันผู้ชายสารเลว หนูเกลียดและขยะแขยงคุณที่สุด!” ดาวเรืองร้องไห้โฮเมื่อรู้สึกถึงรอยสัมผัสน่าขยะแขยงของเสี่ยไพรัตน์ มือที่จับปลายผ้าห่มก็ถูเช็ดไปตามผิวขาวผ่องจนแดงเถือก ซึ่งเสียงสะอื้นไห้ของเด็กน้อยทำให้คนที่ยืนเท้าสะเอวเป็นเด็กแรกเกิดอยู่ตรงปลายเตียงนั้นตื่นจากความฝันที่เป็นจริง สิงขรหน้าแดงก่ำโกรธเด็กน้อยที่บังอาจเช็ดรอยสำผัสที่เขาทำไว้บนตัวเธอ ร่างโตจึงรีบก้าวขึ้นเตียงคลานตามไป มือใหญ่คว้าหมับกำกระชับแน่นที่ข้อเท้าน้อย พร้อมออกแรงกระชากดึงให้คนตัวเบาเข้ามาปะทะแผ่นอก “กรี๊ดดด! ไอ้คนชั่ว! คนเลว ! ปล่อยหนูเดี๋ยวนี้นะ!” ถึงจะเจ็บระบมไปทุกตารางนิ้วบนร่างกาย ดาวเรืองก็ไม่ต้องการให้เขาแตะต้อง แม้จะมีแรงเพียงน้อยนิด แต่ก็ปกป้องตัวเองโดยการใช้กำปั้นน้อยๆ ทุบตีคนใจโฉดอย่างบ้าคลั่ง “ปากดี ด่าเก่งนักนะ อย่างนี้มันต้องโดนอีกสักสามสี่รอบ หรือว่าจะทั้งคืนเลยดีไหม?” สิงขรอุ้มเด็กน้อยให้เข้ามานั่งอยู่บนตัก ซึ่งทำให้ดวงหน้าของคนทั้งสองอยู่ในระดับเดียวกัน มือหนาสอดเข้าท้ายทอยฉุดเบาๆ ให้ดวงหน้างามแหงนขึ้นเพื่อรองรับคำขู่จากปากหยักที่บดขยี้กลีบปากบวมเจ่อ และเมื่อได้ชิมความหอมหวานในโพรงปากนุ่มพอใจแล้ว เขาก็ตวัดอุ้มร่างน้อยขึ้นพาดบ่า ฝ่ามือใหญ่กางออกแล้วฟาดลงบนสะโพกกลมงอนเสียงดังเผียะๆ พร้อมทั้งก้าวลงเตียงเดินดุ่มๆ พาหญิงสาวเข้าห้องน้ำ “ปล่อยหนูนะ โอ๊ยย! ไอ้ลุงแก่ชอบรังแกเด็ก! ฮืออ” เสียงใสครางปนเสียงสะอื้นเมื่อถูกปล่อยให้เท้าแตะพื้น ขาเรียวสวยสั่นระริกไม่มีแรงยืนด้วยตัวเองจึงทรุดลงไปนั่งบนพื้นห้องน้ำ “ก็ไอ้ลุงแก่คนนี้ไม่ไช่เหรอที่ทำให้เธอพ้นจากไอ้แก่พุงโย้ตัณหากลับนั้น” สิงขรไม่ชอบใจเป็นอย่างมากที่หญิงสาวมักเรียกเขาว่าลุง ดวงตาสีนิลเริ่มแดงก่ำจ้องมองหญิงสาวที่กำลังคลานหนีไปนั่งขดตัวเป็นกิ้งกืออยู่ข้างชักโครก “คุณก็ไม่ต่างอะไรกับเสี่ยไพรัตน์เลยสักนิดที่ชอบล่อลวงเด็กสาวพาไปทำมิดีมิร้ายเหมือนกัน” ดาวเรืองร้องไห้โฮเมื่อนึกถึงภาพของไอ้เสี่ยแก่รุ่นตาพุงก็โย้ น่าเกลียดที่สุด ไอ้ตาแก่นั่นกำลังย่ำยีเธอ แต่แปรเปลี่ยนเป็นภาพของสิงขรที่เป็นคนทำร้ายพรากความบริสุทธิ์ไปโดยที่ไม่ได้ยินยอมสักนิด หญิงสาวนั่งกอดเข่าใบหน้าเขลอะน้ำตาก็แนบชิดมือของตัวเองที่วางอยู่บนหัวเข่า เรียวปากบวมเจ่อก็กระซิบเสียงแผ่วเบาหวังให้ได้ยินเพียงคนเดียว “ยัยเด็กบ้าเอ๊ย! เธอกล้าเปรียบฉันเป็นไอ้เฒ่าไพรัตน์หัวงูนั่นได้ไงฮะ? แล้วถ้าฉันไม่รักษาด้วยร่างกายของฉัน ป่านนี้ เธอก็คงจะขาดใจตายไปนานแล้ว และตอนนี้ มันก็อยากจะเข้าไปในตัวเธอเพื่อทดสอบดูว่าหายจากอาการสยิวซ่านหรือยัง” คำพูดดูหมิ่นของเด็กน้อยทำให้สิงขรโกรธจนหน้าแดงก่ำ เขาเอาแต่พูดเรื่องใต้สะดือให้เธอฟัง ‘เฮอะ! ทำเป็นหน้าแดง อายละสิที่เห็นตัวตนของฉัน’ สิงขรคำรามพูดอยู่ในใจ “อ๊ายย! ไอ้คนทุเรศ! อย่าคิดเอาไอ้หนอนเน่าน่าเกลียดนั่นเข้ามาใกล้หนูเด็ดขาด” ดวงตากลมโตคลอน้ำตาเบิกโพลงเมื่อเห็นความใหญ่โตตรงหว่างขาของเขา ซึ่งมันผงกหัวเบ่งกล้ามจนเห็นเส้นเลือดสีเขียวปูดใส่เธออย่างที่ว่าจริงๆ “หึ! ก็ไอ้หนอนตัวนี้ไม่ใช่เหรอที่ทำให้เธอหายจากอาการซ่านสยิว แตะตรงไหน ผิวนี่สั่นระริกไปตามการลูบไล้ของฉันไม่ใช่เหรอ ฮะ” ดวงหน้าหวานแดงระเรื่อผสมแววตากลมโตสั่นไหวหวาดกลัวนั้นทำให้สิงขรนึกสนุก เขายิ้มแยกเขี้ยวน่ากลัว ชี้มือให้เธอดูความแข็งแกร่งที่มันชูชันตั้งโด่
เสิ่นชิงกลายเป็นลูกสาวของชาวนาจากคุณหนูที่ร่ำรวยของตระกูลเสิ่นในชั่วข้ามคืน ลูกสาวตัวจริงใส่ร้ายเธอ คู่หมั้นของเธอทำให้เธออับอาย และพ่อแม่บุญธรรมของเธอก็ไล่เธอออกจากบ้าน... ทุกคนต่างรอที่จะหัวเราะเยาะเธอ ทว่าเธอกลับกลายเป็นทายาทของตระกูลเศรษฐีในเมืองอย่างกะทันหัน นอกจาดนี้ เธอยังมีตัวตนหลากหลาย เช่น หัวหน้าแฮ็กเกอร์ระดับนานาชาติ นักออกแบบเครื่องประดับชั้นนำ นักเขียนผู้ยิ่งใหญ่ที่ลึกลับ และอัจฉริยะด้านการแพทย์! พ่อแม่บุญธรรมเสียใจกับการตัดสินใจของตนและบังคับให้เธอแบ่งทรัพย์สินครึ่งหนึ่งให้เพราะพวกเขาเลี้ยงดูเธอมา เมื่อเสิ่นชิงหยิบกล้องออกมาแล้วบันทึกท่าทางอันน่าเกลียดของพวกเขา อดีตคู่หมั้นรู้สึกเสียใจและพยายามจะคืนดีกับเธอ เสิ่นชิงหัวเราะเยาะ "เขาคู่ควรงั้นเหรอ" จากนั้นก็ไล่เขาออกจากเมือง ในที่สุด ผู้มีอำนาจแห่งเมืองก็พูดอ้อนวอนเบาๆ "ไม่จำเป็นต้องแต่งเข้าตระกูลผม เดี๋ยวผมไปหาเอง"
ว่าที่ลูกสะใภ้ไฟแรงสูงเธอต้องเข้ามาอยู่ร่วมบ้านกับว่าที่พ่อผัวหม้ายร้างเมียมานายอรมปี
เจ้าของร่างเดิมถูกท่านย่าตัวเอง ขายให้ชายพิการด้วยเงินเพียงห้าตำลึง จึงคิดสั้นไปกระโดดน้ำฆ่าตัวตาย ทำให้วิญญาณของเซี่ยซือซือทะลุมิติมาเข้าร่างแทน ชีวิตในโลกนี้บิดามารดาล้วนตายไปแล้ว เหลือเพียงน้องสาวกับน้องชายร่างกายผอมแห้งหิวโซสองคน เธอต้องช่วยพวกเขาให้รอด ก่อนจะถูกคนชั่วพวกนี้ขายทิ้งไปแบบเธอ 1 : ทะลุมิติ แคว้นจ้าว หมู่บ้านตระกูลแซ่อวี่ ภายในบ้านสกุลเซี่ย “ท่านพี่รีบกินเร็วเข้า” เสียงเด็กเล็กดังก้องอยู่ข้างหูอย่างน่ารำคาญ ว่าแต่ฉันมีน้องชายตั้งแต่เมื่อไหร่กัน รู้สึกได้ถึงอะไรแข็ง ๆ มาแตะที่ริมฝีปาก ทว่ายังลืมตาไม่ขึ้น “ท่านพี่กินสิ ๆ” เซี่ยซือซือรู้สึกหนักอึ้งไปทั้งศีรษะ พยายามที่จะเปิดดวงตาขึ้นมอง เจ้าของเสียงเล็ก ๆ ด้านข้าง “ท่านพี่ ๆ ท่านพี่อย่าตายนะ ลืมตาสิท่านพี่” “นังตัวดีออกมาเดี๋ยวนี้นะ !” เสียงเอะอะโวยวายดังหนวกหูเซี่ยซือซือเป็นอย่างมาก ปัง ๆ เสียงเคาะประตูดังขึ้นเรื่อย ๆ เซี่ยซือซือลืมตาขึ้นจนได้ พลันสมองกลับมีเรื่องราวพรั่งพรูเข้ามาไม่ขาดสาย จนต้องกรีดร้องออกมาอย่างเจ็บปวด อ๊าก ! “พี่รอง !” เด็กน้อยเซี่ยซือหยางในวัยสามหนาวเรียกพี่สาวพร้อมเบะปากอยากร้องไห้ “ท่านพี่ !” เซี่ยซานซานทิ้งบานประตูที่ตัวเองดันไว้ หันกลับมาดูพี่สาวด้วยความตกใจ “ท่านพี่ ๆ ท่านเป็นอะไร อย่าทำให้พวกข้าตกใจสิท่านพี่ !” ผลัวะ ! มีคนถีบประตูบานเก่าผุพังเข้ามาภายในห้อง เด็กทั้งสองรีบเข้าไปขวางผู้บุกรุกไม่ให้ทำร้ายพี่สาว แม่เฒ่าเซี่ย เซี่ยจิ่วเม่ย หน้าตาแลดูดุร้าย ไม่ใช่หญิงชราใจดีแต่อย่างใด ด้านหลังของแม่เฒ่าเซี่ยยังมีลูกสะใภ้บ้านใหญ่ กับบ้านรองเดินตามมา ท่าทางดุดันเอาเรื่อง “ไอ้พวกบ้านสามตัวดี กล้าลักขโมยอาหารเอาไว้กินเอง ยังเห็นแม่เฒ่าอย่างข้าอยู่ในสายตาหรือไม่ ไอ้พวกหมาป่าตาขาว ดูซิวันนี้ข้าจะจัดการพวกเจ้าอย่างไร” “ท่านย่าพวกข้าไม่ได้ขโมยนะ นี่เป็นหมั่นโถวของท่านพี่ ท่านพี่ไม่สบายข้าแค่เก็บไว้ให้ท่านพี่เท่านั้นเอง” เซี่ยซานซานยังเป็นเด็กหญิงวัยสิบหนาว แต่นางข่มความกลัวตอบโต้ผู้ใหญ่ในบ้านออกไป “หึ กฎบ้านก็มีบอกอยู่แล้วถ้าพลาดมื้ออาหารไปก็คืออด แต่พวกเจ้ากลับแหกกฎ แอบยักยอกอาหารเก็บไว้กินเอง ยังมีหน้ามาเถียงท่านแม่อีก ท่านแม่ท่านต้องลงโทษคนบ้านสามนะเจ้าคะ ไม่เช่นนั้นข้าไม่ยอมจริง ๆ ด้วย ตอนนั้นยวี่เฟยของข้านางได้พลาดมื้อเย็นไป ท่านก็ไม่ให้นางกินนะเจ้าคะ” สะใภ้บ้านรองนามว่าจงอี้ซิน ย้อนรำลึกถึงเรื่องลูกสาววัยแปดปีของตัวเองขึ้นมา “ดูเจ้าเด็กพวกนี้สิท่านแม่ กางแขนปกป้องพี่สาวตัวเอง ช่างน่าสมเพชไม่รู้จักสำเหนียกกำลังตัวเอง ถุย !” หลินพ่านเอ๋อสะใภ้บ้านใหญ่มองดูเด็กทั้งสองพร้อมถ่มน้ำลายใส่ตรงหน้า แม่เฒ่าเซี่ยมองลูกสะใภ้ทั้งสองสลับกันไปมา เดินตรงไปกระชากหมั่นโถวเย็นชืดแถมแข็งปานหิน ออกจากมือของเซี่ยซือหยาง “แง ๆ ๆ” เด็กน้อยถูกแย่งของกินของพี่สาวไป ถึงกับแผดเสียงร้องลั่น “เจ้าคนชั่ว ! เอามานะ ของท่านพี่ข้า” กำปั้นน้อย ๆ ทุบไปยังต้นขาของแม่เฒ่เซี่ย “เจ้าเด็กเนรคุณกล้าตีข้ารึ นี่นะ !” แม่เฒ่าเซี่ยเตะทีเดียวเซี่ยซือหยางก็กระเด็นไปติดกับผนังห้อง “น้องเล็ก !” เซี่ยซานซานรีบวิ่งไปอุ้มน้องชายขึ้นมากอดไว้ด้วยความตกใจ “ท่านย่า น้องเล็กยังเด็กไม่รู้ความ เหตุใดท่านถึงได้ใจร้ายเช่นนี้” “แง ๆ ๆ” เสียงร้องไห้ของเด็กน้อยฟังแล้วน่าสงสารจับใจ ดวงตาที่ปิดไว้ก่อนหน้าของเซี่ยซือซือ ลืมขึ้นหลังจากค้นพบว่า ตัวเองได้ทะลุมิติมายังอดีตอันไกลโพ้นแล้วจริง ๆ หลังจากหลับตาลืมตาอยู่หลายหน เรียบเรียงความคิดที่ไหลเข้ามาไม่ยอมหยุด เมื่อค่อย ๆ จัดการกับมันได้ ความเจ็บปวดที่ศีรษะก่อนหน้าจึงบางเบาลง และมองเหตุการณ์ตรงหน้าอย่างเฉยชา ครบสูตรของการทะลุมิติจริง ๆ มีท่านย่าผู้ชั่วร้าย ขนาบข้างด้วยป้าสะใภ้เลวทั้งสอง ครั้นหันไปมองน้องสาวในวัยสิบขวบของตัวเองกับน้องชายตัวน้อย ทั้งตัวดำเมี่ยมเหมือนไม่ได้อาบน้ำมาเป็นเดือน ร่างกายผอมแห้งเหลือแต่กระดูก เสื้อผ้าเก่าขาดมีรอยปะชุนเต็มไปหมด เส้นผมแห้งกรังเหมือนไม่ผ่านน้ำมานาน ยกมือของตัวเองขึ้นมาดู ไม่ได้มีสภาพต่างกันแม้แต่น้อย ครั้นเงยหน้ามองป้าสะใภ้ใหญ่ร่างกายอวบอ้วนเต็มไปด้วยก้อนไขมัน ป้าสะใภ้รองแม้ไม่ได้อ้วนแต่ก็ไม่ได้ผอม ยิ่งแม่เฒ่าเซี่ยด้วยแล้ว ร่างกายบึกบึนเหมือนคนกินดูอยู่ดีมาตลอด “ท่านแม่ดูอาซือมองท่านสิเจ้าคะ” สะใภ้ใหญ่เห็นสายตาเย็นเยียบของคนที่นอนอยู่บนเตียงก็อดแปลกใจไม่ได้ ดูเยือกเย็นจนไม่น่าไว้ใจ “เจ้าอย่าคิดว่ากระโดดน้ำตายแล้วทุกอย่างจะจบนะอาซือ ข้ารับเงินคนบ้านถานมาแล้ว ถ้าเจ้าตายข้าจะให้อาซานไปแทนเจ้า” คำพูดของแม่เฒ่าเซี่ยทำให้ดวงตาของเซี่ยซือซือเบิกกว้าง ท่านย่าของนางขายนางให้คนบ้านถานในราคาแค่ห้าตำลึง เจ้าของร่างเดิมไม่อยากไปเป็นเมียคนพิการ เลยไปกระโดดน้ำฆ่าตัวตาย ทว่าเธอที่มาจากยุคปัจจุบันกลับเข้ามาแทนที่เจ้าของร่างนี้ เจ้าของร่างเดิมว่ายน้ำไม่เป็น จึงได้ขาดอากาศตายใต้น้ำ แต่เธอที่เข้ามาสวมร่างกลับพาร่างนี้ขึ้นมาจากน้ำได้ โชคชะตาคงเล่นตลกให้เธอกับเจ้าของร่างเดิมมีชื่อเดียวกัน “ท่านย่าอาซานยังเด็กนัก ท่านอย่าได้ทำเช่นนั้นเลย” นานมากกว่าที่นางจะเอ่ยออกมา “มันอยู่ที่เจ้าอาซือ ข้าขอเตือนเอาไว้ อีกสองวันคนบ้านถานจะมารับตัวเจ้าแล้ว อย่าให้เกิดเรื่องขึ้น ไม่อย่างนั้นข้าจะส่งอาซานไปแทนเจ้า แล้วขายซือหยางทิ้งเสีย” แม่เฒ่าเซี่ยจ้องหน้าเซี่ยซือซือแบบอาฆาต เด็กนี่ก่อนหน้าดูอ่อนแอไร้ทางสู้ ทำไมวันนี้ถึงได้ดูแปลกตาไปนัก “ท่านแม่เจ้าคะ ท่านจะลงโทษคนบ้านสามเรื่องหมั่นโถวนี่อย่างไรเจ้าคะ” สะใภ้ใหญ่ยังไม่ยอมปล่อยสามพี่น้องไปง่าย ๆ “พรุ่งนี้งดอาหารบ้านสาม” แม่เฒ่าเซี่ยเอ่ยแล้วหันหลังเดินออกจากห้องของเด็กน้อยทั้งสามไป โดยมีสะใภ้ใหญ่เดินตามไปด้วย “พวกเจ้าได้ยินแล้วใช่ไหม จำใส่หัวเอาไว้ดี ๆ ด้วยล่ะ” สะใภ้รองหมุนตัวตามหลังไปติด ๆ “ท่านพี่ต่อไปท่านอย่าทำเช่นนี้อีกนะเจ้าคะ ข้ากับน้องเล็กจะทำอย่างไร ถ้าท่านไม่อยู่” เซี่ยซานซานปล่อยเสียงร้องไห้ในทันที
มังกร หนุ่มหล่อหน้าใสลูกชาวไร่ชาวนา อายุ 22 ปี ที่ได้รับทุนเรียนดีจนจบมหาวิทยาลัย ได้แบกร่างกายพาหัวใจอันแตกสลายกลับบ้านเกิดทันทีในวันที่จบการศึกษา เพราะบิดามารดาได้เสียชีวิตกระทันหันทั้งคู่หลังจากกลับจากการนำข้าวไปขายและโดนสิบล้อที่เบรคแตกเสียหลักพุ่งชนรถของพ่อแม่ของมังกร เมื่อสูญเสียพ่อและแม่ไปอย่างกระทันหันเขาจึงกลับบ้านเกิดเพื่อไปทำไร่ทำนาสานฝันของพ่อแม่และนำความรู้ที่ได้เรียนมากลับมาพัฒนาที่ดินมรดกในบ้านเกิด หากแต่ว่ามังกรยังไม่ทันได้ทำอะไรเขากลับตายลงอย่างไม่ทันตั้งตัว ตายแบบไม่ตั้งใจและไม่เต็มใจที่สุด เขาจำได้เพียงแค่ว่าหลังจากเดินทางกลับมาถึงบ้านเกิดเขาได้ไปไหว้พ่อกับแม่ที่วัดในหมู่บ้าน แล้วก็กลับมานอนแต่พอเขากลับตื่นขึ้นมาในร่างของเด็กชาย อายุ 8ขวบ กับบ้านพุๆพังๆ เขาตื่นมาในร่างของคนอื่นไม่พอ แล้วเขาไม่รู้ด้วยซ้ำว่าที่นี่มันที่ไหน และใครพาเขามา แล้วมังกรจะทำยังไงต่อไปกับชีวิตที่อยู่ในร่างเด็กชายยากจนคนนี้ มาติดตามชีวิตใหม่ของมังกรกันต่อไปค่ะ
' "เจ้าชายฮิมราน บิน ฮาเซม อัล-ราชิด" องค์มกุฎราชกุมารแห่งประเทศความาร์ เดินทางมาประเทศไทยเพื่อดูตัวว่าที่เจ้าสาวที่ถูกพระมารดาบังคับให้แต่งงานด้วย เขาเต็มไปด้วยความชิงชังเมื่อเห็นหล่อนเดินเฉิดฉายอยู่ในผับยามค่ำคืน ท่าทางใสซื่อไร้เดียงสาของหล่อนที่พยายามแสดงออกมานั้นไม่ได้ทำให้เขาซาบซึ้งใจแม้แต่น้อย ตรงกันข้ามเขาแทบยากจะอาเจียนออกมา เพราะเขารู้อยู่เต็มอกว่าผู้หญิงอย่างหล่อนไม่มีทางเป็นชายาที่ดีของเขาได้อย่างแน่นอน นอกเสียจาก... นางบำเรอ!
หยางจื้อซี เด็กกำพร้าจากศตวรรษที่21 ถูกองค์กรมืดเลี้ยงดูจนเติบโตและทำให้เธอกลายเป็นมนุษย์กลายพันธ์ ในระหว่างที่ถูกส่งตัวไปทำภารกิจลับ เธอกลับถูกคนในองค์กรมืดหักหลังและถูกฆ่าโดยเพื่อนสนิทที่เธอไว้ใจมากที่สุด ก่อนสิ้นใจเธอถามเพื่อนสนิทว่าทำไม แต่ไม่ได้รับคำตอบจากปากของอีกฝ่าย สิ่งที่เธอได้รับคือรอยยิ้มที่ดูถูกเหยียดหยามและ คำว่า “โง่” จากปากของอีกฝ่ายเท่านั้น หลังจากที่ตายไปแล้วสิ่งที่เธอคิดไว้ คงจะเป็นนรกหรือที่ไหนสักแห่งที่เป็นโลกหลังความตาย แต่ทว่ามันกลับไม่เป็นเช่นนัน เธอตื่นขึ้นมาในร่างของ หยางจื้อซี เด็กหญิงอายุ เพียง 13 ขวบปีในหมู่บ้านป่าหมอก ในดินแดนโบราณล้าหลังที่ไม่มีในประวัติศาสตร์ คล้ายกับว่าเป็นโลกคู่ขนานที่อยู่อีกมิติหนึ่ง เธอตื่นขึ้นมาในบ้านที่ผุพัง ครอบครัวยากจน มีแม่ที่อ่อนแอและเจ็บป่วย มีพี่น้องที่อายุน้อย มีปู่ย่าตายายที่เห็นแก่ตัวและใจร้าย มีลุงที่เห็นแก่ได้ป้าสะใภ้ที่เต็มไปด้วยความละโมบโมบโลภมาก หยางจื้อซี คิดว่านับจากนี้ไปชีวิตจะต้องอยู่ได้ด้วยตัวเอง หากใครมารังแกก็แค่ทุบตี เธอไม่เชื่อว่าด้วยพลังที่ติดตัวเธอมาจากชาติที่แล้วจะไม่สามารถอยู่รอดได้ในโลกล้าหลังแห่งนี้