เพราะความใจดีทำให้เธอตกอยู่ในอันตราย หลังจากที่ยื่นมือเข้าไปช่วยนายน้อยแห่งตระกูลยากูซ่า
ตึก! ตึก! ตึก!
โยชิโอกะ ริว พาส่วนสูง185ซม.เปิดประตูเดินออกมาจากห้องนอนส่วนตัวชั้นสองภายในเพนท์เฮ้าส์ ที่ตกแต่งสไตล์ญี่ปุ่นเหมือนกับบ้านเมืองที่เขาจากมา
ริวเป็นนายน้อยของตระกูลโยชิโอกะที่ถูกส่งมาประจำการอยู่ที่เมืองไทย เนื่องจากธุรกิจของตระกูลกำลังประสบปัญหาอย่างหนักจากการรุกรานของยากูซ่าต่างแก๊งที่เริ่มเข้ามายึดครองในเขตของประเทศแผ่นดินแม่
ที่ครอบครัวเขาขยายธุรกิจมาที่เมืองไทยหลังจากที่พ่อกับแม่ของเขาแต่งงานและมีบุตรชายคนแรกนั่นก็คือพี่ชายของเขา
และริวนายน้อยแห่งตระกูลโยชิโอกะที่มีเลือดครึ่งหนึ่งในตัวเป็นคนไทยเป็นลูกชายคนสุดท้องของตระกูล ที่ตัดสินใจอาสามาดูแลธุรกิจที่ไทยแทนพี่ชายที่ต้องการอยู่กับครอบครัวที่ญี่ปุ่นมากกว่าที่จะเดินทางมาดูธุรกิจที่ไทย
เนื่องจากลูกชายคนแรกหรือหลานชายคนแรกของตระกูลโยชิโอกะกำลังจะลืมตาดูโลกนี้ในอีก1เดือนข้างหน้า
ริวจึงอาสามาแทนพี่ชายท่ามกลางเสียงคัดคานของเหมือนฝันผู้เป็นมารดา ที่ออกจะเป็นห่วงลูกชายคนเล็กอย่างริวแบบออกหน้าออกตา
แต่ยังไงเสียก็ต้องจำใจยอมเพราะมันเป็นความประสงค์ของเจ้าตัวเธอจึงไม่กลัาจะขัดถึงแม้จะแอบไม่ชอบใจนักก็ตาม
ริวเกิดในต้นตระกูลยากูซ่าที่สืบทอดกันมารุ่นต่อรุ่น ต้นตระกูลของเขาชื่อเสียงโด่งดังในประเทศญี่ปุ่นเป็นอันดับหนึ่ง
เขาถูกฝึกมาอย่างดีจากผู้เป็นพ่ออย่างอิชิโร่ ไม่ว่าจะเป็นศิลปะการต่อสู้อย่างดาบหรือปืนซึ่งเขาไม่เป็นสองรองใคร แต่ที่ริวเก่งและดูจะชอบเป็นพิเศษคือการต่อยมวยเขาถึงขั้นมีสนามมวยเอาไว้ฝึกซ้อมกับลูกน้อง เพื่อคลายเครียดในวันที่เขาอยากออกกำลังกายหรือพักผ่อนสมอง
อย่างที่บอกต้นตระกูลของริวเป็นยากูซ่า เขาถูกวางตัวให้เป็นผู้สืบทอดของตระกูลรองจากพี่ชาย ที่ทำหน้าที่ดูแลต้นตระกูลและสืบทอดกิจการอยู่ที่ญี่ปุ่น
ริวในวัย29ปีเขาได้อิทธิพลการใช้ชีวิตมาจากพ่อและพี่ชายมาพอสมควร ใครๆก็รู้ว่ายากูซ่าน่ากลัวเพียงใดและริวก็เป็นแบบนั้นเพียงแค่เขาตวัดสายตาดุใส่ใคร คนๆนั้นก็ถึงกลับกลัวจนขนลุกซู่ไปทั้งตัว ไม่เว้นแม้แต่ลูกน้องของเขาเองที่ต่างพากันกลัวนายน้อยแห่งตระกูลโยชิโอกะด้วยเช่นกัน
และอย่างที่รู้ๆกันริวเป็นนายน้อยของตระกูลโยชิโอกะผู้คนภายนอกมองเขาว่าเป็นคนโหดเหี้ยม เย็นชา บางครั้งดูน่าเกรงขามมากกว่าผู้เป็นพ่อและพี่ชาย และริวเองก็เป็นแบบนั้นตามคำที่เขาว่ากัน นั้นจึงทำให้เขาครองตัวเป็นโสดมาถึงทุกวันนี้ ไม่มีผู้หญิงหน้าไหนกล้าเข้าใกล้เขาแม้แต่น้อย
ถึงแม้เขาจะมีรูปร่างหน้าตาที่หล่อเหลายังกะนายแบบ แต่ความหน้ากล้วของริวก็ถูกปิดทับความอ่อนโยนที่อยู่ภายใน จึงไม่มีผู้หญิงคนไหนได้สัมผัสความอ่อนโยนของเขา จะมีเพียงแค่เหมือนฝันผู้เป็นมารดาเท่านั้นที่ได้สัมผัสความอ่อนโยนที่อยู่ภายในตัวของริว
ตัวเขาเองไม่ใช่ว่าไม่อยากจะมีแฟน เขาเองก็อยากมีคนรักเหมือนกับพ่อและพี่ชาย และก็อยากมีตัวเล็กๆเอาไว้สืบทอดตระกูล แต่เขาเองก็ยังไม่เจอคนที่ถูกใจและทำให้เขาหวั่นไหวใจเต้นแรงได้เลยสักคน
แต่เขาก็ตั้งใจเอาไว้แล้วเมื่อเมื่อไหร่ที่เขาได้เจอคนๆนั้นคนที่ทำให้เขาใจเต้นแรงได้ เขาจะไม่รีรอที่จะคว้าเธอมาแนบกายถึงแม้เขาจะไม่เคยจีบผู้หญิงคนไหนเลยก็ตาม แต่มันก็คงไม่ยากเกินความสามารถของเขา
มีอย่างหนึ่งที่ริวกังวลคือการจะมาเป็นแฟนยากูซ่าอย่างเขามันไม่ใช่เรื่องง่าย เพราะผู้หญิงคนนั้นอาจจะต้องเจอบททดสอบอย่างที่แม่ของเขาและไอโกะพี่สะใภ้ต้องเจอ
ถ้าผู้หญิงคนนั้นไม่ได้รักเขามากพอหลังจากจบบทสอบแล้วเธอกับเขาก็ต้องจบความสัมพันธ์กัน
ร่างสูงใหญ่ที่อยู่ในชุดไปรเวทเสื้อเชิ้ตแขนยาวสีดำสวมเข้ากับชุดกางเกงยีนส์ขายาวสีดำเดินลงมาจากชั้น2ของเพนท์เฮ้าส์ ดวงตาคมเข้มสีน้ำตาลตวัดสายตามองลูกน้องที่พากันจัดแถวรอรับผู้เป็นนายอย่างเป็นระเบียบ
ฟุโดมือขวาของเจ้านายหนุ่มที่ยืนอยู่ด้านหน้าสุดก้มหัวเคารพผู้เป็นนายตามด้วยลูกน้องคนอื่นๆ ตามจริงแล้วยังขาดไดจิผู้ที่เป็นมือซ้ายของริวอีกคน แต่ทันทีที่ย่างกรายมาถึงเมืองไทยเขาก็ได้รับคำสั่งจากริวให้แฝงตัวเข้าไปในบริษัทผลิตชิ้นส่วนรถยนต์ของตัวเอง เพื่อสืบหาหนอนบ่อนไส้ที่มันขายข้อมูลของบริษัทให้กับแก๊งยากูซ่าคู่อริ
และนี่ก็เป็นสาเหตุให้นายน้อยแห่งตระกูลต้องมาประเทศไทยแบบลับๆก่อนถึงกำหนดการอีก2อาทิตย์
"นายจะรับอาหารเช้าเลยหรือเปล่าครับ?" ฟูโดเอ่ยทักทายผู้เป็นนายด้วยภาษาญี่ปุ่นอย่างลืมตัว ทำให้ริวตวัดสายตาดุไปที่ฟุโดมือขวาของเขาทันที
"กูเคยบอกกับมึงว่ายังไง?" น้ำเสียงเข้มถูกเปล่งออกไปด้วยประโยคตำหนิ
ก่อนมาที่ไทยเขาได้กำชับกับลูกน้องคนสนิทอย่างฟุโดและไดจิรวมถึงลูกน้องคนอื่นที่จะติดตามมาให้ใช้ภาษาไทยเป็นการสื่อสารเพราะเขาเองก็อาจจะต้องดูแลธุรกิจที่ไทยไปอีกนาน
"ผมขอโทษครับนาย" เมื่อรู้ว่าผิดฟุโดรีบก้มหัวขอโทษผู้เป็นนายทันที
"จำไว้ให้ขึ้นใจแล้วอย่าผิดอีก กูไม่ค่อยชอบ"
"ครับ" เป็นอีกครั้งที่ฟุโดก้มหัวขอโทษผู้เป็นนายก่อนจะเอ่ยถามประโยคต่อมา... "นายจะรับอาหารเช้าเลยไหมครับ?"
"ขอแค่กาแฟก็พอ" จบประโยคเขาก็เดินผ่านลูกน้องนับสิบตรงไปยังห้องทำงาน เพื่อที่จะศึกษาเอกสารคร่าวๆเกี่ยวกับบริษัทของตัวเอง
ธุรกิจของตระกูลโยชิโอกะที่ริวต้องมาดูแลเบื้องหน้าเป็นธุรกิจสีขาวอย่างเช่นบริษัทผลิตชิ้นส่วนรถยนต์ บริษัทผลิตอาหารแช่แข็งและอย่างอื่นอีกมากมาย แต่ทว่าเบื้องหลังคือธุรกิจผิดกฎหมายล้วนๆที่สร้างรายได้ให้กับตระกูลเขาอย่างมหาศาลอย่างเช่น คาสิโน คลับและอาวุธเถื่อน
ครืด~ครืด~
โทรศัพท์เครื่องหรูกำลังแผดเสียงดังลั่นภายใต้ความเงียบในห้องทำงานที่ตกแต่งไปด้วยโทนสีดำ มีดาบซามูไรวางอยู่ด้านหลังสร้างความน่าเกรงขามให้คนที่อยู่ในห้อง
ริวละสายตาจากเอกสารตรงหน้าใช้ปลายนิ้วยกขึ้นมาดันกรอบแว่นสายตา ก่อนที่จะเอนหลังพิงไปกับเก้าอี้ผ่อนลมหายใจออกช้าๆล้วงโทรศัพท์จากกระเป๋ากางเกงขึ้นมากดรับ โดยที่ฟุโดที่นั่งอ่านเอกสารอยู่อีกมุมหนึ่งของห้องทำเพียงก้มอ่านเอกสารแบบเงียบๆไม่ได้ปรายตาขึ้นมามองเจ้านายหนุ่ม
"คิดถึงแม่จังเลยครับ" น้ำเสียงนุ่มถูกพ่นออกมาก่อนที่เขาจะยกมือขึ้นไปนวดคลึงขมับของตัวเองเบาๆ
"(อย่ามาอ้อนหน่อยเลยลูกชาย ถ้าคิดถึงแม่จริงริวคงไม่ทิ้งแม่ไปอยู่ที่ไทยหรอก)" น้ำเสียงประชดประชันปนน้อยใจถูกส่งออกมาจากปลายสายแบบไม่จริงจังมากนัก
"ไม่เอาครับคนสวยของริว อย่างอนริวเลยนะ" น้ำเสียงอ้อนๆถูกเปล่งออกมาทำให้ปลายสายอย่างเหมือนฝันถึงกับใจอ่อนยวบกับน้ำเสียงอ้อนๆของลูกชายคนเล็ก
นี่ถ้าอยู่ใกล้ๆเธอคงจะพุ่งตรงมาฟัดแก้มลูกชายอย่างที่ชอบทำ
"(อย่ามาพูดเลยริว ถึงจะทำเสียงอ้อนๆใส่แม่แบบนี้ แต่แม่ก็ไม่ยอมใจอ่อนให้หรอกนะ จะงอนจนกว่าริวจะกลับมาจากไทยนั่นแหละ)"
"หึหึ..." ปากหนากระตุกยิ้มหัวเราะในลำคอกับประโยคของผู้เป็นแม่
"(แล้วนี่ทำอะไรอยู่ลูกกินอาหารเช้าหรือยัง ที่ไทยกี่โมงแล้วเนี่ยแม่ยังไม่ได้ดูเวลาเลย?)"
"ผมกินกาแฟไปแล้วครับ ตอนนี้ที่ไทยประมาณ9โมงเช้า"
"(แล้วนี่ไดจิกับคุโดไปไหนทำไมลูกถึงได้กินแค่กาแฟแก้วเดียว หรือแม่ต้องตามลูกไปอยู่ที่ไทยกับลูกดีไหม?)"
"ถามพ่อหรือยังครับว่าจะให้แม่มาหรือเปล่า?" นายน้อยของบ้านถามออกมาอย่างอารมณ์ดี เขารู้ดีว่าพ่อของเขาติดแม่ของเขาหนักมาก เรียกได้ว่าเป็นพวกคลั่งรักเมียเลยก็ว่าได้
ไม่ต่างจากพี่ชายของเขาเองก็เหมือนกันภายนอกกลัวจนไม่มีใครอยากเข้าใกล้ แต่พอใด้อยู่กับเมียก็ดูเป็นแมวน้อยออกจะคลั่งรักหนักมาก ซึ่งเขาเองก็คิดว่าตัวเองคงจะเป็นแบบนั้น
"(ถ้าแม่จะไปซะอย่างพ่อของลูกก็ขัดขวางอะไรแม่ไม่ได้หรอกนะ เอาล่ะริวหาอะไรกินด้วยนะอย่าทำให้แม่เป็นห่วง)"
"ครับ...เดี๋ยวผมจะให้ฟุโดยกอาหารมาให้ แม่ไม่ต้องห่วง"
"(จ๊ะ...ลูกชาย แค่นี้ก่อนนะลูกแม่ต้องวางแล้ว ต้องไปดูไอโกะซะหน่อยได้ยินว่าเจ้าตัวเล็กดิ้นแรงเลยเมื่อเช้านี้)"
"ครับแม่"
"(ก่อนวางสายแม่จะบอกอะไรให้นะริว สาวไทยสวยๆเยอะนะหาที่ถูกใจสักคนสิ แม่อยากได้ลูกสะใภ้เป็นคนไทยนะ)"
"คงไม่มีหรอกครับแม่ ใครๆก็ต่างกลัวผม"
"(อย่าลืมนะริวที่นั่นเมืองไทยไม่มีใครรู้ว่าลูกเป็นยากูซ่าผู้โหดเหี้ยมหรอก แม่เคยได้ยินว่าไม่ไกลจากเพนท์เฮ้าส์ของลูกมีมหาลัยด้วยนะ ช่วงเย็นออกไปดูสาวๆสิเผื่อจะถูกใจใครสักคน)"
"ไว้ผมจะคิดดูครับแม่"
"(จ๊ะ...แค่นี้ก่อนนะริว)"
"ครับ" สิ้นสุดคำพูดริวก็กดตัดสายก่อนจะวางโทรศัพท์บนโต๊ะทำงาน เลิกคิ้วเป็นเชิงสงสัยเมื่อเห็นฟุโดมองเขาเหมือนจะพูดอะไร
"มึงมีอะไร?"
"เป็นอย่างที่นายหญิงใหญ่พูดครับ สาวไทยสวยจริงๆ" พูดจบเขาก็ยกยิ้มให้กับผู้เป็นนายไม่ได้กลัวใบหน้าที่เย็นชาของริว เพราะทั้งเขาและฟุโดถูกเลี้ยงควบคู่กันมากับนายน้อยของตระกูลโยชิโอกะ ลับตาลูกน้องพวกเขาก็เหมือนเพื่อนมากกว่าเจ้านายกับลูกน้อง
"มึงแอบฟัง" มือหนาล้วงเข้าไปในกระเป๋ากางเกงหยิบบุหรี่ขึ้นมาจุดสูบ ก่อนที่จะพ่นควันขาวออกมาจากปากและจมูก
"มันได้ยินเองครับ"
"ไร้สาระ ออกไปยกอาหารเช้ามาให้กู"
"ครับ"
ติณภพตั้งใจจะรับเลี้ยงเด็กสาวคนหนึ่งเอาไว้ตามเจตนารมณ์ของตัวเองนั่นก็คือตอบแทนผู้มีพระคุณ เขาไม่เคยแม้แต่จะคิดที่จะเลี้ยงเอาไว้ที่กินเอง แต่ทว่านานวันเข้าความคิดของเขาก็เริ่มเปลี่ยนไป
ลินินจำใจต้องกลืนน้ำลายตัวเอง ยอมเป็นคู่นอนของคนที่ใจร้ายใจใจดำอย่างสิงหราช เพื่อตอบแทนผู้มีพระคุณที่ชุบเลี้ยงเธอมา
กี่ครั้งแล้วที่เฮียทำร้ายหนู กี่ครั้งแล้วที่หนูยกโทษให้กับเฮีย ฮึก...ฮือ ครั้งนี้มันไม่ได้จริงๆเฮียทำร้ายหนูหนักเกินไปแล้ว
เจ้าของร่างเดิมถูกท่านย่าตัวเอง ขายให้ชายพิการด้วยเงินเพียงห้าตำลึง จึงคิดสั้นไปกระโดดน้ำฆ่าตัวตาย ทำให้วิญญาณของเซี่ยซือซือทะลุมิติมาเข้าร่างแทน ชีวิตในโลกนี้บิดามารดาล้วนตายไปแล้ว เหลือเพียงน้องสาวกับน้องชายร่างกายผอมแห้งหิวโซสองคน เธอต้องช่วยพวกเขาให้รอด ก่อนจะถูกคนชั่วพวกนี้ขายทิ้งไปแบบเธอ 1 : ทะลุมิติ แคว้นจ้าว หมู่บ้านตระกูลแซ่อวี่ ภายในบ้านสกุลเซี่ย “ท่านพี่รีบกินเร็วเข้า” เสียงเด็กเล็กดังก้องอยู่ข้างหูอย่างน่ารำคาญ ว่าแต่ฉันมีน้องชายตั้งแต่เมื่อไหร่กัน รู้สึกได้ถึงอะไรแข็ง ๆ มาแตะที่ริมฝีปาก ทว่ายังลืมตาไม่ขึ้น “ท่านพี่กินสิ ๆ” เซี่ยซือซือรู้สึกหนักอึ้งไปทั้งศีรษะ พยายามที่จะเปิดดวงตาขึ้นมอง เจ้าของเสียงเล็ก ๆ ด้านข้าง “ท่านพี่ ๆ ท่านพี่อย่าตายนะ ลืมตาสิท่านพี่” “นังตัวดีออกมาเดี๋ยวนี้นะ !” เสียงเอะอะโวยวายดังหนวกหูเซี่ยซือซือเป็นอย่างมาก ปัง ๆ เสียงเคาะประตูดังขึ้นเรื่อย ๆ เซี่ยซือซือลืมตาขึ้นจนได้ พลันสมองกลับมีเรื่องราวพรั่งพรูเข้ามาไม่ขาดสาย จนต้องกรีดร้องออกมาอย่างเจ็บปวด อ๊าก ! “พี่รอง !” เด็กน้อยเซี่ยซือหยางในวัยสามหนาวเรียกพี่สาวพร้อมเบะปากอยากร้องไห้ “ท่านพี่ !” เซี่ยซานซานทิ้งบานประตูที่ตัวเองดันไว้ หันกลับมาดูพี่สาวด้วยความตกใจ “ท่านพี่ ๆ ท่านเป็นอะไร อย่าทำให้พวกข้าตกใจสิท่านพี่ !” ผลัวะ ! มีคนถีบประตูบานเก่าผุพังเข้ามาภายในห้อง เด็กทั้งสองรีบเข้าไปขวางผู้บุกรุกไม่ให้ทำร้ายพี่สาว แม่เฒ่าเซี่ย เซี่ยจิ่วเม่ย หน้าตาแลดูดุร้าย ไม่ใช่หญิงชราใจดีแต่อย่างใด ด้านหลังของแม่เฒ่าเซี่ยยังมีลูกสะใภ้บ้านใหญ่ กับบ้านรองเดินตามมา ท่าทางดุดันเอาเรื่อง “ไอ้พวกบ้านสามตัวดี กล้าลักขโมยอาหารเอาไว้กินเอง ยังเห็นแม่เฒ่าอย่างข้าอยู่ในสายตาหรือไม่ ไอ้พวกหมาป่าตาขาว ดูซิวันนี้ข้าจะจัดการพวกเจ้าอย่างไร” “ท่านย่าพวกข้าไม่ได้ขโมยนะ นี่เป็นหมั่นโถวของท่านพี่ ท่านพี่ไม่สบายข้าแค่เก็บไว้ให้ท่านพี่เท่านั้นเอง” เซี่ยซานซานยังเป็นเด็กหญิงวัยสิบหนาว แต่นางข่มความกลัวตอบโต้ผู้ใหญ่ในบ้านออกไป “หึ กฎบ้านก็มีบอกอยู่แล้วถ้าพลาดมื้ออาหารไปก็คืออด แต่พวกเจ้ากลับแหกกฎ แอบยักยอกอาหารเก็บไว้กินเอง ยังมีหน้ามาเถียงท่านแม่อีก ท่านแม่ท่านต้องลงโทษคนบ้านสามนะเจ้าคะ ไม่เช่นนั้นข้าไม่ยอมจริง ๆ ด้วย ตอนนั้นยวี่เฟยของข้านางได้พลาดมื้อเย็นไป ท่านก็ไม่ให้นางกินนะเจ้าคะ” สะใภ้บ้านรองนามว่าจงอี้ซิน ย้อนรำลึกถึงเรื่องลูกสาววัยแปดปีของตัวเองขึ้นมา “ดูเจ้าเด็กพวกนี้สิท่านแม่ กางแขนปกป้องพี่สาวตัวเอง ช่างน่าสมเพชไม่รู้จักสำเหนียกกำลังตัวเอง ถุย !” หลินพ่านเอ๋อสะใภ้บ้านใหญ่มองดูเด็กทั้งสองพร้อมถ่มน้ำลายใส่ตรงหน้า แม่เฒ่าเซี่ยมองลูกสะใภ้ทั้งสองสลับกันไปมา เดินตรงไปกระชากหมั่นโถวเย็นชืดแถมแข็งปานหิน ออกจากมือของเซี่ยซือหยาง “แง ๆ ๆ” เด็กน้อยถูกแย่งของกินของพี่สาวไป ถึงกับแผดเสียงร้องลั่น “เจ้าคนชั่ว ! เอามานะ ของท่านพี่ข้า” กำปั้นน้อย ๆ ทุบไปยังต้นขาของแม่เฒ่เซี่ย “เจ้าเด็กเนรคุณกล้าตีข้ารึ นี่นะ !” แม่เฒ่าเซี่ยเตะทีเดียวเซี่ยซือหยางก็กระเด็นไปติดกับผนังห้อง “น้องเล็ก !” เซี่ยซานซานรีบวิ่งไปอุ้มน้องชายขึ้นมากอดไว้ด้วยความตกใจ “ท่านย่า น้องเล็กยังเด็กไม่รู้ความ เหตุใดท่านถึงได้ใจร้ายเช่นนี้” “แง ๆ ๆ” เสียงร้องไห้ของเด็กน้อยฟังแล้วน่าสงสารจับใจ ดวงตาที่ปิดไว้ก่อนหน้าของเซี่ยซือซือ ลืมขึ้นหลังจากค้นพบว่า ตัวเองได้ทะลุมิติมายังอดีตอันไกลโพ้นแล้วจริง ๆ หลังจากหลับตาลืมตาอยู่หลายหน เรียบเรียงความคิดที่ไหลเข้ามาไม่ยอมหยุด เมื่อค่อย ๆ จัดการกับมันได้ ความเจ็บปวดที่ศีรษะก่อนหน้าจึงบางเบาลง และมองเหตุการณ์ตรงหน้าอย่างเฉยชา ครบสูตรของการทะลุมิติจริง ๆ มีท่านย่าผู้ชั่วร้าย ขนาบข้างด้วยป้าสะใภ้เลวทั้งสอง ครั้นหันไปมองน้องสาวในวัยสิบขวบของตัวเองกับน้องชายตัวน้อย ทั้งตัวดำเมี่ยมเหมือนไม่ได้อาบน้ำมาเป็นเดือน ร่างกายผอมแห้งเหลือแต่กระดูก เสื้อผ้าเก่าขาดมีรอยปะชุนเต็มไปหมด เส้นผมแห้งกรังเหมือนไม่ผ่านน้ำมานาน ยกมือของตัวเองขึ้นมาดู ไม่ได้มีสภาพต่างกันแม้แต่น้อย ครั้นเงยหน้ามองป้าสะใภ้ใหญ่ร่างกายอวบอ้วนเต็มไปด้วยก้อนไขมัน ป้าสะใภ้รองแม้ไม่ได้อ้วนแต่ก็ไม่ได้ผอม ยิ่งแม่เฒ่าเซี่ยด้วยแล้ว ร่างกายบึกบึนเหมือนคนกินดูอยู่ดีมาตลอด “ท่านแม่ดูอาซือมองท่านสิเจ้าคะ” สะใภ้ใหญ่เห็นสายตาเย็นเยียบของคนที่นอนอยู่บนเตียงก็อดแปลกใจไม่ได้ ดูเยือกเย็นจนไม่น่าไว้ใจ “เจ้าอย่าคิดว่ากระโดดน้ำตายแล้วทุกอย่างจะจบนะอาซือ ข้ารับเงินคนบ้านถานมาแล้ว ถ้าเจ้าตายข้าจะให้อาซานไปแทนเจ้า” คำพูดของแม่เฒ่าเซี่ยทำให้ดวงตาของเซี่ยซือซือเบิกกว้าง ท่านย่าของนางขายนางให้คนบ้านถานในราคาแค่ห้าตำลึง เจ้าของร่างเดิมไม่อยากไปเป็นเมียคนพิการ เลยไปกระโดดน้ำฆ่าตัวตาย ทว่าเธอที่มาจากยุคปัจจุบันกลับเข้ามาแทนที่เจ้าของร่างนี้ เจ้าของร่างเดิมว่ายน้ำไม่เป็น จึงได้ขาดอากาศตายใต้น้ำ แต่เธอที่เข้ามาสวมร่างกลับพาร่างนี้ขึ้นมาจากน้ำได้ โชคชะตาคงเล่นตลกให้เธอกับเจ้าของร่างเดิมมีชื่อเดียวกัน “ท่านย่าอาซานยังเด็กนัก ท่านอย่าได้ทำเช่นนั้นเลย” นานมากกว่าที่นางจะเอ่ยออกมา “มันอยู่ที่เจ้าอาซือ ข้าขอเตือนเอาไว้ อีกสองวันคนบ้านถานจะมารับตัวเจ้าแล้ว อย่าให้เกิดเรื่องขึ้น ไม่อย่างนั้นข้าจะส่งอาซานไปแทนเจ้า แล้วขายซือหยางทิ้งเสีย” แม่เฒ่าเซี่ยจ้องหน้าเซี่ยซือซือแบบอาฆาต เด็กนี่ก่อนหน้าดูอ่อนแอไร้ทางสู้ ทำไมวันนี้ถึงได้ดูแปลกตาไปนัก “ท่านแม่เจ้าคะ ท่านจะลงโทษคนบ้านสามเรื่องหมั่นโถวนี่อย่างไรเจ้าคะ” สะใภ้ใหญ่ยังไม่ยอมปล่อยสามพี่น้องไปง่าย ๆ “พรุ่งนี้งดอาหารบ้านสาม” แม่เฒ่าเซี่ยเอ่ยแล้วหันหลังเดินออกจากห้องของเด็กน้อยทั้งสามไป โดยมีสะใภ้ใหญ่เดินตามไปด้วย “พวกเจ้าได้ยินแล้วใช่ไหม จำใส่หัวเอาไว้ดี ๆ ด้วยล่ะ” สะใภ้รองหมุนตัวตามหลังไปติด ๆ “ท่านพี่ต่อไปท่านอย่าทำเช่นนี้อีกนะเจ้าคะ ข้ากับน้องเล็กจะทำอย่างไร ถ้าท่านไม่อยู่” เซี่ยซานซานปล่อยเสียงร้องไห้ในทันที
เสิ่นชิงชิว หลานสาวของเศรษฐีที่รวยที่สุดในเมืองไห้ คบหาอยู่กับลู่จั๋วมาเป็นเวลาสามปีแล้ว แต่ความจริงใจของเธอกลับสูญเปล่า ลู่จั๋วปฏิบัติกับเธอเพียงในฐานะหญิงบ้านนอกคนหนึ่ง และทอดทิ้งเธอในวันแต่งงาน โดยไปหารักแรกของเขา หลังจากเลิกรากันอย่างเด็ดขาด เสิ่นชิงชิวก็กลับมามีสถานะเป็นสาวรวยอีกครั้ง ได้รับมรดกมูลค่าหลายร้อยพันล้าน และเริ่มต้นชีวิตที่รุ่งโรจน์ที่สุด แต่แล้วมักจะมีคนโผล่มาทไให้กับเธอหงุดหงิดอยู่เสมอ! ขณะที่เธอกำลังจัดการกับผู้ร้าย คุณชายฟู่ผู้มีอำนาจนั้นก็ปรบมือและโห่ร้องว่า "ที่รักของฉันสุดยอดมากจริงๆ"
ในวันครบรอบแต่งงาน เหวินซือถูกเมียน้อยของสามีวางยาและไปมีอะไรกับคนแปลกหน้า เธอสูญเสียความบริสุทธิ์ไป แต่เมียน้อยคนนั้นกลับตั้งท้องลูกของสามี ภายใต้ความกดดันต่างๆ เหวินซื่อสูญรู้สึกสิ้นหวังและตัดสินใจหย่า แต่สามีของเธอกลับไม่แยแสโดยคิดว่าเธอกำลังเล่นลูกไม้อยู่ หลังจากการหย่ากัน เหวินซือกลายเป็นจิตรกรที่มีชื่อเสียงและมีผู้ชายนับไม่ถ้วนที่ตามจีบเธอ อดีตสามีไม่ยอมและขอคืนดีไปถึงที่ จากนั้นก็ว่า เธออยู่ในอ้อมแขนของคนใหญคนโตคนหนึ่ง และชายคนนั้นก็พูดอย่างสงบว่า "ดูให้ดี นี่คือพี่สะใภ้ของนาย"
หลังจากถูกแฟนหนุ่มและเพื่อนสนิทของเธอจัดฉาก เฉี่ยนซีก็จบลงด้วยการใช้เวลาทั้งคืนกับชายแปลกหน้าลึกลับคนนั้น เธอมีความสุขมาก แต่พอเธอตื่นขึ้นมาในเช้าวันรุ่งขึ้น เธอก็รู้สึกแย่กับสิ่งที่เกิดขึ้นเมื่อคืน อย่างไรก็ตาม ความรู้สึกผิดทั้งหมดของเธอถูกชะล้างออกไป เมื่อเธอเห็นใบหน้าของชายที่นอนอยู่ข้างเธอ เธอจึงเอ่ยด้วยเสียงเบา ๆ ที่ว่า "ผู้ชายอะไร ทำไมหล่อจัง" และเธอก็ต้องตกใจกับสิ่งที่เห็น ความผิดของเธอกลายเป็นความละอายใจโดยทันที และมันทำให้เธอตัดสินใจทิ้งเงินจำนวนหนึ่งไว้ให้ชายผู้นั้นก่อนที่เธอจะจากไป "เจ๋อข่าย" รู้สึกประหลาดใจเมื่อเห็นเงินดังกล่าว พร้อมกับคิดว่า 'ผู้หญิงคนนั้นพยายามจะจ่ายเงินให้ฉัน ราวกับว่า ฉันเป็นผู้ชายขายบริการอย่างนั้นหรอ? ' เขารู้สึกโกรธ จึงต้องการดูภาพจากกล้องวงจรปิดของโรงแรม เขาสั่งผู้ช่วยของเขาด้วยใบหน้าที่จริงจังพร้อมขมวดคิ้ว "ผมอยากรู้ว่า ใครอยู่ในห้องของผมเมื่อคืนนี้" 'อย่าให้เจอนะ ถ้าเจอเมื่อไหร่จะสั่งสอนให้เข็ดเลย! ' เรื่องราวของพวกเขาจะเป็นอย่างไรต่อไปนะ
หลังจากแต่งงานกันมาสองปี สามีของเธอไม่เคยเหยียบเข้าไปในบ้านและมองดู 'ภรรยาขี้เหร่' ของเขาเลย แถมเขาก็มีเรื่องอื้อฉาวกับดาราหน้าใหม่หลายคนทุกวัน ซูเหว่ยทนไม่ไหวอีกต่อไป เธอตัดสินใจปล่อยเขาไป ต่อไปก็ต่างคนต่างไปเลย แต่เมื่อเธอเสนอเรื่องหย่า... ฟู่เหยียนอันพบว่านักออกแบบในบริษัทนั้นสะดุดตาเป็นพิเศษ เขาค่อยๆ ทำความรู้จักกับเธอเรื่อยๆ จนกระทั่งวันหนึ่งเขาค้นพบตัวตนที่แท้จริงของเธอเข้า เขาเสียใจแล้ว
ทะลุมิติมาในนิยายยุค 80 ว่ายากลำบากแล้วเธอยังต้องมาเลี้ยงลูกแฝดและวางแผนหนีชะตาชีวิตที่นักเขียนระบุให้ตายอย่างทรมานภายใต้เงื้อมมือของพ่อตัวร้ายอีก สวรรค์!ยังจะมีตัวละครทะลุมิติใดบัดซบเท่าเธออีกหรือไม่